ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ณ ห้วงภวันดร

    ลำดับตอนที่ #82 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      181
      13 มิ.ย. 64




    แถมค่ะ-----

     

    “บ่าวอยากให้แม่นายอย่าเอาโทษอีนางมันเลยเจ้าค่ะ”

    “เอาโทษ? เรื่องอะไร”

    กำไลถามพลางหันมองหน้าพี่เย็นเพื่อหาคำตอบ แต่คนของตนกลับส่ายหน้าไม่รู้เช่นกัน

    “ท่านขุน... ป้าสาแกเป็นอะไรไม่รู้ค่ะ จู่ๆ ก็มาขอกราบฉัน”

     กำไลเห็นขุนแสนเดินขึ้นเรือนมา เอ่ยเรียกพลางเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ... ช่วงนี้เธอยิ่งซวยๆ อยู่เกิดเข้าใจผิดหาว่าเธอทำให้คนแก่ก้มกราบ ก็จะดุตนเองอีก

    “จักเป็นกะไรล่ะ มาขอโทษแทนหลานมันเยี่ยงไร”

    “หลาน? นางหลานป้าหรือจ๊ะ”

    สาตัวสั่นเทาเอาหน้าแนบติดกระดานเรือน เสียวสันหลัง หางตาเห็นเท้าขุนแสนเดินมายืนค้ำหัว แล้วจับต้นแขนแม่กำไลฉุดให้ลุกขึ้น

    “ลุกขึ้นเถิดแม่กำไล”

    “ไม่เอาสิ จะให้แกมากราบฉันแบบนี้ไม่เอา”

    หลังจากฟังคำกำไล ขุนแสนก็หันไปสั่งคนของตนทันที

    “อีสา เงยหน้า นั่งตรง”

    “จ..เจ้าค่ะท่านขุน”

    “ไปเจ้าอย่านั่งกงนี้เลย” คนเป็นสามีพูดพลางจับจูงคนตัวเล็กให้กลับไปนั่งบนชานพักที่มีเบาะรองนั่งที่ของเธอตามเดิม

    “ทำไมต้องมากราบฉันแทนนางด้วย”

    “เรื่องเมื่อกลางวัน อีนางมันเป็นคนชวนคุณสร้อยมาเจ้าค่ะ แลมันวิ่งไปบอกอีฉันว่าคุณกับแม่สร้อยทะเลาะกัน...”

    “อ๋อ... ฉันเข้าใจแล้ว” 

    กำไลถึงบางอ้อ ที่แท้คนที่สร้างเรื่องราววันนี้ต้นเหตุมาจากนางสินะ เธอพอเดาต่อได้แล้วว่า พอนางวิ่งไปบอกสาก็คงรีบวิ่งกลับมาช่วยแม่สร้อย ตั้งใจว่าจะให้เธอทะเลาะกับแม่สร้อย คงคิดว่าแม่หนูสร้อยจะเอาเธออยู่ล่ะสินะ... แต่คิดผิดเพราะเจอละครฉากใหญ่ของเธอไปก่อน

    “เฮ้อ... ป้าไม่ต้องมาขอโทษหรอก มันไม่เกี่ยวกับป้าเลย มันเกิดเพราะ...”

    กรวลัยพูดละคำไว้แล้วหันมองคนที่เธอคิดว่าเป็นต้นเหตุทุกอย่าง ที่นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

    “หากนางมายุ่งกับฉันอีกครั้งหน้..”

    “กูจักเอาหวายลงหลังมันสิบไม้ เอ็งบอกมันด้วย แลให้จำไว้แม่กำไลเป็นเมียกู ส่วนอีนางมันเป็นบ่าว อย่าทำตัวเสมอนายหากกูรู้อีกไม่เพียงแต่หวาย พูดจามิดีกี่คำจักให้ไอ้หมายเอากะลาฟาดปากตามนั้น แลคุณแม่ก็จักช่วยมันมิได้ด้วย”

    คนเป็นเมียตาค้าง เขาจะลงโทษคนโหดไปไหม... รู้สึกหวาดๆ ขุนแสนอยู่ไม่น้อย ถ้าวันหนึ่งพูดจาไม่ดีกับเขาจะถูกเอากะลาตีปากหรือเปล่า คิดแล้วก็เผลือเอามือลูบปากตัวเอง คนข้างตัวที่ลอบชำเลืองมองกดมุมปากนึกขำท่าทางแม่คนปากกล้านัก

    “กลับเรือนใหญ่เสีย แม่กำไลพี่หิวแล้ว”

    “คะ?...พี่? หิวก็ กินสิ...คะ” กำไลอึกๆ อักๆ หน้าแดงขึ้นทันควัน ทำอะไรไม่ถูก จนเย็นที่หมอบอยู่ใกล้ขยับมาจัดแจงที่นั่ง จัดยกโตกอาหารมาวางให้ แล้วยื่นผ้าชุบน้ำส่งให้นายตน

    กำไลรับมากำลังจะเอาผ้าผืนนั้นเช็ดมือ แต่เห็นขุนแสนมองผ้านิ่งก็นึกขึ้นได้ว่า พี่เย็นเคยสอนเรื่องปรนนิบัติสามีไว้ ยื่นผ้าเช็ดมือส่งให้ขุนแสน

    มือหนาจับผ้าแต่จับมือเล็กของคนส่งผ้าติดมือมาด้วย เช็ดมือตนเสร็จก็จับผ้าอีกผืนใกล้กันถูเช็ดให้แผ่วเบา ทุกสัมผัสของเขาทำไปอย่างเงียบเชียบ ต่างกับใจของกำไลที่รัวลั่นราวดนตรีจังหวะเพลงร็อก

    “เอ่อ...ฉันเช็ดเอง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×