ลำดับตอนที่ #75
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : เยือนถึงเรือน
กรวลัยเอาดอกปีบที่พี่เย็นตากจนแห้วใส่ลงในกาน้ำร้อน ชงเป็นชาดื่มคู่กับขนมผิงที่พี่เย็นไปขอแบ่งจากเรือนใหญ่มาให้ พลางคืนถึงเรื่องคืนก่อน
ท่านขุนหน้ายักษ์นับว่าเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเลยล่ะที่ไม่แตะต้องเธอ และทำตามคำพูด เพราะเอาเข้าจริงหากเขาเกิดคึกคักจับเธอทำเมียขึ้นมา ในยุคนี้ยุคที่ชายเป็นใหญ่แบบนี้เธอเองก็จนปัญญาเอาตัวรอด…บวกคะแนนความดีไปอีกห้ากะโหลก
คนคิดถึงเรื่องคืนนั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หันมาใส่ใจขนมในจานแทน หยิบขนมผิงขึ้นมาดู แล้วเอาเข้าปากความหอมแผ่ซ่านละลายในปาก กลิ่นเทียนอบฟุ้งกระจายไปทั่วโพรงปากจนต้องหลับตาซึมซับ
“ดีจังมีขนมอร่อยๆ ให้กิน คุณหนูสร้อยนี่เก่งจังนะพี่ และขยันเอาขนมมาส่งให้บ้านนี้จริงๆ คงแต่งกันไวๆ นี่แหล่ะมั้ง”
ปลายสายมีความเศร้าเจือหน่อยๆ พี่เย็นจับความรู้สึกนี่ไม่ได้ แต่ตัวกำไลกลับรับรู้เองแล้วนึกแปลกใจ เธอจะเสียใจทำไม ถ้าเขาสองคนแต่งงานกันเธอควรยินดีสิ คิดดังนั้นก็เปลี่ยนท่านั่ง หันมาใส่ใจกับงานที่ทำแทน สงสัยเธอจะบวกคะแนนให้ขุนหน้ายักษ์บ่อยไป ก็เลยรู้สึกผูกพัน…คงจะใช่แหล่ะ
“ยังดอกเจ้าค่ะ เขาเล่าว่าหน้าหนาวหน้าโน่นแน่เจ้าค่ะ แต่เห็นพวกบ่าวเรือนใหญ่คุยกัน ว่าคงจักมาบ่อยเทียวเจ้าค่ะ เหตุว่ามาเรียนงานบ้านงานเรือนเจ้าค่ะ”
“อืม…เหรอ?… แล้วนี่แม่สร้อยยังอยู่บนเรือนหรือ”
“เจ้าค่ะ คุณเป็นกะไรหรือไม่เจ้าคะ”
“เปล่านี่”
กรวลัยรู้สึกความอยากลดลง มองขนมผิงในจานที่พี่เย็นไปขอแบ่งมา พอบอกแม่สร้อยได้สูตรมาจากในวังเธอก็กระดี้กระด้าชอบอกชอบใจ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเลี่ยน เอียน จนผะอืดผะอมไม่อยากแตะต้องขนมจานนี้เสียแล้ว
“พี่เย็น พี่หมายเอาไปกินต่อเถอะ ฉันอิ่มแล้ว มันเลี่ยน”
คนไร้ความอยากหยุดกิน เลื่อนจานหนี แล้วหันไปให้ความสนใจกับกิ่งดอกฝ้ายที่เอามา หยิบปักแจกันเงียบๆ ส่วนพี่เย็นเมื่อแม่นายเงียบไม่พูดอะไรต่อนั่งแยกเม็ดฝ้ายให้แม่นาย ซึ่งตอนแรกพี่เย็นจะไปยืมเครื่องอิ้วฝ้ายที่สามารถแยกเมล็ดกับปุยฝ้ายได้ แต่แม่กำไลไม่อยากให้มากความอีกทั้งมีดอกฝ้ายไม่เยอะ จึงใช้วิธีคัดแยกด้วยมือ แล้วให้พี่หมายช่วยดีดฝ้ายด้วยไม้ที่คล้ายธนู ดีดในตะกร้าที่พี่เย็นเรียกกะเพียดเหมือนสุ่มอันใหญ่ๆ
“อีนาง มึงมีกะไรวะ กล้ามากหนาที่มาหาคุณกำไลถึงเรือนอีก”
พี่เย็นเห็นหน้าลับๆ ล่อๆ ของนาง จึงร้องถามเสียงเขียวยังเคืองแทนนายไม่หาย
“ฉันพาคุณสร้อยมาเยือนเรือนริมน้ำของท่านขุน”
“อ่อ…เชิญเธอขึ้นมาสิ”
เมื่อได้ยินชื่อ กำไลก็เอ่ยให้นางชวนคนมาเยือนถึงเรือนขึ้นมา
“เชิญเจ้าค่ะน้องสร้อย”
น้องสร้อยไม่ตอบรับ ตวัดหางตามองครู่เดียวก็เดินชมเรือนริมน้ำเงียบๆ ฝ่ายคนทักหน้าแห้ง…งุนงงที่เหมือนถูกเมิน
“พี่เย็นเอาน้ำชาดอกปีบให้คุณสร้อยเธอทีจ่ะ”
“คุณสร้อยมิกินของเรือนใคร กลัวจักถูกทำของใส่”
“หือ?”
ท่านขุนหน้ายักษ์นับว่าเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเลยล่ะที่ไม่แตะต้องเธอ และทำตามคำพูด เพราะเอาเข้าจริงหากเขาเกิดคึกคักจับเธอทำเมียขึ้นมา ในยุคนี้ยุคที่ชายเป็นใหญ่แบบนี้เธอเองก็จนปัญญาเอาตัวรอด…บวกคะแนนความดีไปอีกห้ากะโหลก
คนคิดถึงเรื่องคืนนั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หันมาใส่ใจขนมในจานแทน หยิบขนมผิงขึ้นมาดู แล้วเอาเข้าปากความหอมแผ่ซ่านละลายในปาก กลิ่นเทียนอบฟุ้งกระจายไปทั่วโพรงปากจนต้องหลับตาซึมซับ
“ดีจังมีขนมอร่อยๆ ให้กิน คุณหนูสร้อยนี่เก่งจังนะพี่ และขยันเอาขนมมาส่งให้บ้านนี้จริงๆ คงแต่งกันไวๆ นี่แหล่ะมั้ง”
ปลายสายมีความเศร้าเจือหน่อยๆ พี่เย็นจับความรู้สึกนี่ไม่ได้ แต่ตัวกำไลกลับรับรู้เองแล้วนึกแปลกใจ เธอจะเสียใจทำไม ถ้าเขาสองคนแต่งงานกันเธอควรยินดีสิ คิดดังนั้นก็เปลี่ยนท่านั่ง หันมาใส่ใจกับงานที่ทำแทน สงสัยเธอจะบวกคะแนนให้ขุนหน้ายักษ์บ่อยไป ก็เลยรู้สึกผูกพัน…คงจะใช่แหล่ะ
“ยังดอกเจ้าค่ะ เขาเล่าว่าหน้าหนาวหน้าโน่นแน่เจ้าค่ะ แต่เห็นพวกบ่าวเรือนใหญ่คุยกัน ว่าคงจักมาบ่อยเทียวเจ้าค่ะ เหตุว่ามาเรียนงานบ้านงานเรือนเจ้าค่ะ”
“อืม…เหรอ?… แล้วนี่แม่สร้อยยังอยู่บนเรือนหรือ”
“เจ้าค่ะ คุณเป็นกะไรหรือไม่เจ้าคะ”
“เปล่านี่”
กรวลัยรู้สึกความอยากลดลง มองขนมผิงในจานที่พี่เย็นไปขอแบ่งมา พอบอกแม่สร้อยได้สูตรมาจากในวังเธอก็กระดี้กระด้าชอบอกชอบใจ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเลี่ยน เอียน จนผะอืดผะอมไม่อยากแตะต้องขนมจานนี้เสียแล้ว
“พี่เย็น พี่หมายเอาไปกินต่อเถอะ ฉันอิ่มแล้ว มันเลี่ยน”
คนไร้ความอยากหยุดกิน เลื่อนจานหนี แล้วหันไปให้ความสนใจกับกิ่งดอกฝ้ายที่เอามา หยิบปักแจกันเงียบๆ ส่วนพี่เย็นเมื่อแม่นายเงียบไม่พูดอะไรต่อนั่งแยกเม็ดฝ้ายให้แม่นาย ซึ่งตอนแรกพี่เย็นจะไปยืมเครื่องอิ้วฝ้ายที่สามารถแยกเมล็ดกับปุยฝ้ายได้ แต่แม่กำไลไม่อยากให้มากความอีกทั้งมีดอกฝ้ายไม่เยอะ จึงใช้วิธีคัดแยกด้วยมือ แล้วให้พี่หมายช่วยดีดฝ้ายด้วยไม้ที่คล้ายธนู ดีดในตะกร้าที่พี่เย็นเรียกกะเพียดเหมือนสุ่มอันใหญ่ๆ
“อีนาง มึงมีกะไรวะ กล้ามากหนาที่มาหาคุณกำไลถึงเรือนอีก”
พี่เย็นเห็นหน้าลับๆ ล่อๆ ของนาง จึงร้องถามเสียงเขียวยังเคืองแทนนายไม่หาย
“ฉันพาคุณสร้อยมาเยือนเรือนริมน้ำของท่านขุน”
“อ่อ…เชิญเธอขึ้นมาสิ”
เมื่อได้ยินชื่อ กำไลก็เอ่ยให้นางชวนคนมาเยือนถึงเรือนขึ้นมา
“เชิญเจ้าค่ะน้องสร้อย”
น้องสร้อยไม่ตอบรับ ตวัดหางตามองครู่เดียวก็เดินชมเรือนริมน้ำเงียบๆ ฝ่ายคนทักหน้าแห้ง…งุนงงที่เหมือนถูกเมิน
“พี่เย็นเอาน้ำชาดอกปีบให้คุณสร้อยเธอทีจ่ะ”
“คุณสร้อยมิกินของเรือนใคร กลัวจักถูกทำของใส่”
“หือ?”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น