ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ณ ห้วงภวันดร

    ลำดับตอนที่ #49 : อาบน้ำอาบท่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.95K
      156
      31 พ.ค. 64

    ขุนแสนคิดเรื่อยเปื่อย จนถึงท่าอาบน้ำของเรือน ท่านี้แยกออกมาต่างหากจากท่าของบ่าวไพร่ มีอาณาบริเวณกว้างพอสมควร ก่อนจะลงท่าตรงบันไดเพิงพัก ลักษณะมีฝาปิดมิดชิด หลังคามุงกระเบื้อง เพื่อนายผู้หญิงใช้หลบขัดผิวเนื้อผิวกาย แลจักมีบ่าวไพร่ตักน้ำขึ้นมาอาบให้ 

    เจ้าของกายหนาชื้นเหงื่อ อกเปลือยเปล่า เบื้องล่างนุ่งสโร่งผูกไว้อย่างหมิ่นเหม่ ด้วยเพลานี้บ้านเรือนแต่ละหลังปิดเงียบหมดแล้ว แลเลยไปยังเรือนริมน้ำที่แม่กำไลอยู่ก็ไร้แสงไฟแสงเทียน คงจังหลับไปแล้ว 

    ขุนแสนมองดูเครื่องอาบน้ำที่บ่าวคนสนิทวางเตรียมไว้ให้ตน นึกครึ้มใจเหตุใดเครื่องอาบน้ำมีมากสิ่งนัก มันคงจักลืมกระมังว่าเขามิใคร่ชอบพวกไพร ชายชาติทหารเช่นเขาอาบน้ำเปล่า กับใช้มะกรูดเผาไฟสระผมก็ดีโขแล้ว นานทีจักออกงานถึงจักใช้ไพร ถึงจะสงสัยแต่ พอลมเย็นพัดผ่านกายหอบกลิ่นน้ำก้ละความสนใจจากสิ่งของประดามี ที่ไอ้มั่นไอ้หมายหามา 

    ‘มันคงจักอยากเอาใจ ด้วยเห็นว่าเขารอนแรมในป่ามานานกะมัง’

    แสงใต้ที่บ่าวจุดไว้ให้ สว่างวูบวาบวับแวมสะท้อนผืนน้ำไหวๆ มองดูราวกับมีแร่ทองลอยละล่องสวยงามตานัก ตาคมกวาดมองไปทั่วอาณาบริเวณอันเงียบสงบ เห็นเงาตะคุ่มของหมู่แมกไม้ ดอกไม้ริมตลิ่ง สูดดมกลิ่นหอมเย็นของดอกไม้กลางคืนเข้าเต็มปอด ผ่อนคลายความเมื่อยล้า คนเคลิ้มกับบรรยากาศสบายจิตสบายใจเหลือครา ก้มลงกวักน้ำขึ้นลูบหน้า

    “แฮ่ พี่เย็น”

    “โอ๊ะ”

    โป้ก!

    “โอ้ย! เจ็บ”


    กำไลโผล่พรวดจากล่างท่าน้ำ ตั้งใจจะแกล้งพี่เย็น แต่กลายเป็นถูกใครไม่รู้เอาขันฟาดหัวอย่างแรง ตั้งตัวได้ก้ใจหายว้าบ! เพราะคนที่ทำร้ายร่างกายคือผู้ชายตัวใหญ่โตทะมึน

    “คุณเป็นใคร พี่เย็น”

    ซ่า!

    “อุ๊บ!”

    ผู้ชายคนนั้นกระโดดลงมาในน้ำได้ก็ยื่นมือสากระคายปิดปากเล็กทันที กักกั้นเสียงที่จะแผดร้องเรียกบ่าวอีกครั้งไว้แน่น คนถูกปิดปากตาเบิกโพรง พยายามแกะมือที่ปิดปาก ลามปิดไปทั้งจมูกจนจะหายใจไม่ออก เมื่อเห็นว่ามือเขาเหนียวแน่นอย่างกับตีนตุ๊กแก ก็เปลี่ยนมารัวหมัดชกอกชกตัวเขาแทน 

    “อื้อ อื้อ”

    คนตัวหนาไม่สะทกสะท้านต่อแรงเท่ามดของแม่ตัวจ้อย ยังแกล้งดึงเนื้อตัวนุ่มนุ่มเข้ามาใกล้ คนถูกกอดสะบัดตัวเร่าๆ หาทางหลุดพ้น แต่ผู้ชายที่ยืนตรงหน้ากลับยิ่งเพิ่มแรงปิดใบหน้ามากขึ้นไปอีก กำไลกรอกตาคิดหาทางเอาตัวรอด พยายามเพ่งมองใบหน้าคนที่กระทำการอุกอาจที่เรือนขุนแสน ก็มองไม่ชัดเพราะเขายืนบังแสงใต้ไว้ ถึงแม้คืนนี้จะเป็นคืนแรม แต่แสงสว่างจากแสงจันทรา ก็ยังมองชัดเจนอยู่ดี แต่ก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาประหลาด 

    ‘โอ้ย…อุตส่าห์ดิ้นรนมีชีวิตรอด เธอจะมาตายที่เรือนขุนแสนหรือนี่ ไม่นะ’

    ด้วยอยากมีชีวิตรอด กำไลเร่งคิดอย่างหนัก จนนึกวิธีเอาตัวรอดได้ คิดดังนั้นก็ย้ายกำปั้นที่ฟาดลงบนไหล่หนา มุดมืิอหายลงไปใต้น้ำ พอคลำถูกปมผ้านุ่งเขาได้ ก็คว้ามับเข้าที่ความเป็นชายทันที แล้วบีบแรงๆ จนร่างหนารีบผลักเธอหงายหลังออกห่าง ราวกับเธอคือถ่านไฟร้อนนาบผิวเจ็บแสบมอดไหม้

    คนได้รับอิสระ หอบหายใจสูดอากาศเข้าเต็มปอด แล้วกรีดร้องลั่น ทั้งพยายามตะเกียกตะกายหนีไปขึ้นท่า กำไลปืนขึ้นฝั่งที่ไม่ใช่บันไดเพราะฝั่งนั้นมีร่างดำทะมึนร้องโอดโอยอยู่ แต่เพราะมุมฝั่งนี้ไม่ใช่ท่าขึ้นลกปกติ มันจึงสูงกว่านัก ทั้งตอนนี้เธอก็นุ่งผ้าถุงยาวรุ่มร่าม ทำให้ปืนช้าและทุลุกทุเลพอสมควร คนตัวเล็กวางเข่าบนกระดานไม้ได้ ขาอีกข้างกำลังจะก้าวขึ้นก็ต้องเสียหลัก หงายหลังลงน้ำอีกครั้ง

    “ช่วยด้วย พี่เย็น พี่ อ๊ายยย”

    ตูม!!

    ควร่วงลงน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว ลำลักน้ำ มือก็พยายามแกะแขนที่กอดรัดจากเบื้องหลัง  
    “แค็กๆ ปล่อย ช่วยด้วย แค็กๆ”


    “อีกำไลมึงมันร้ายนักนะ”

    น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมรอดไรฟันดูน่ากลัว ทำเอาขนในกายลุกซู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไอ้โจรน้ำเสียงฟังดูคุ้นๆ และยังรู้จักชื่อเธอด้วย มันแปลกๆ

    “ปล่อยเซ่! ปล่อย พี่เย็น… หือ…เดี๋ยวนะนายรู้จักชื่อ”

    “เออ! อีห่า มึงทำร้ายกู”

    “คุณกำไลเจ้าขา มีกะไร..ว้ายตาเถร! ขุนแสน!”

    “ขุนแสน?!”

    ภาพวาดจากวัดกัลญาฯ เป็นสมัยรัตนโกสินทร์นะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×