คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
หลังจากรอนแรมกินในเรือ และนอนหลับบนเรือ ใกล้รุ่งสางคนที่กึ่งนั่งกึ่งหลับก็ลืมตาตื่น มองคนที่นอนคุ้ดคู้หนุนมือตัวเองแล้วก็ให้รู้สึกเวทนา เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นชาวบ้านแถบใด เสื้อผ้าอาภรณ์ผิดแผกแตกต่างจากชาวไทเรา แลดูกระเดียดไปทางพวกฟะรังคีก็มิปาน แต่การพูดการจามาทางนี้แลก็ฟังรู้เรื่องทุกประโยค แม้จะดูผิดเพี้ยนบ้างเป็นบางคำก็ถือว่าสื่อสารกันได้ดี
นอกจากนี้เขาจำได้ว่าตอนที่ช่วยขึ้นจากน้ำ ทรวงทรงองเอวอรชรอ้อนแอ้น ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใยเทียบเท่าลูกผู้ลากมากดีในพระนครทีเดียว ผิดแต่กิริยาแม่ผู้นี้ราวม้าดีดกะโหลดคล้ายมิมีคนสั่งสอน แลชอบสอดรู้สอดเห็นราวกับคนมิเคยพบเห็นสิ่งใด อย่างเช่นเม็ดข้าวก็ยังสงกะไส หึ!
‘ฉันอายุยี่สิบสอง’ ขุนหนุ่มหัวเราะเมื่อนึกถึงคำที่แม่คนขี้เซาบอกอายุ
“สอดรู้ไปทั่วราวเด็กสิบขวบก็มิปาน หึ”
คนต่อว่านั่งมองใบหน้านวล ที่ถูกแสงใต้สาดสองวับแวม ยิ่งพิศก็ยิ่งงาม…ผิวน้องนางนวลลอ..ปานดวงจันทรา
ขุนแสนสะบัดหน้าเร่า สงสัยเขาจักโดนนางไม้แถวนี้ร่ายมนต์ใส่ ที่คิดว่าแม่หญิงหม้ายวิปลาสงาม ถอนฉิวออกมาได้ ก็ออกมาหาคนของคนที่ผลัดกันพาย ผลัดกันคัดเรือ
“โค้งหน้าก็จักถึงเรือนแล้วขอรับ”
“อืม”
“ท่านขุนจักให้แม่หญิงคนนั้นพักที่ใดฤาขอรับ”
“จักเช้าแล้ว”
คนถูกถามไม่ตอบ มองดูลำแสงสีเหลืองทองที่กำลังแตะแต้มท้องนภา สะท้อนเงาน้ำที่เพื่อมไหว ครุ่นคิดว่าจะให้เธอพักที่เรือนในสถานะใดดี …?
ความคิดเห็น