รีวิวนิยายกับอุ้มสม

ลำดับตอนที่ #6 : ๖ - บุพเพกำนัลรัก ; อุธิยา - รักต่างวัยเวอร์ชั่นใหม่ ถึงต่างกันมากแค่ไหนขอเพียงใจเรามีกัน -

~ บุ พ เ พ กำ นั ล รั ก ~

รักต่างวัยเวอร์ชั่นใหม่ ถึงต่างกันมากแค่ไหนขอเพียงใจเรามีกัน

นวนิยายโดย :   อุธิยา

สำนักพิมพ์ :  พิมพ์คำ

พิมพ์ครั้งที่  ๑ :  สิงหาคม ๒๕๕๖

ราคา :  ๓๒๐ บาท

รายละเอียด

นาทีนี้คงไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์เท่าการวิวาห์สายฟ้าแลบ

ระหว่างนักธุรกิจหนุ่มใหญ่มาดนิ่งกับหญิงสาวเปรี้ยวซ่า

ที่ต่างโคจรเข้ามาเพื่อเขย่าหัวใจของกันและกันตามความประสงค์ของบุพเพ

ถ้ามีคนบอกให้คุณแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก คุณคงค้านหัวชนฝา

สาวสวยอย่าง รุจี ก็เช่นกัน สตรียุคออนไลน์

ความมั่นใจเต็มอินสตราแกรมต้องเป็นฝ่ายเลือกเอง

สเปกผู้ชายในฝัน ต้องอายุห่างกันไม่เกินห้าปี เป็นคนโรแมนติกและน่ารัก

ไม่หล่อ ไม่ขาว ไม่รับแอดเป็นเฟรนด์เด็ดขาด

แต่เมื่อมีคำขอแต่งงานสายตรงมาจากนักธุรกิจนาม ภาคี ภารกิจดูตัวก็เริ่มขึ้น 
เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัท รูปร่างหน้าตาผ่าน แต่อายุ...เกือบสี่สิบ!

คิดยังไงถึงมาขอบัณฑิตหมาดๆ อย่างเธอไปเป็นคู่

เธออยากได้ผะ...เอ๊ย สามีนะ ไม่อยากได้พ่อ

และเธอไม่อยากเป็นหญ้าอ่อน ไม่ชอบคนแก่

แต่ทำไมถึงใจอ่อนยอมตกลงแต่งงานไปแล้ว...

เรื่องย่อเพิ่มเติม

            เมื่อวิวาห์สายฟ้าแลบระหว่าง นักธุรกิจหนุ่มวัยสามสิบแปด อย่าง ภาคี และสาวขาวสวยหมวย วัยยี่สิบสามผู้ติดโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง รุจี กลายเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่ว ทั้งในหมู่ที่ทำงาน พนักงาน แวดวงสังคม ของ ภาคี และในบรรดาเพื่อนสนิทสาวทั้งสาม ของ รุจี

          แม้ว่าจะเป็นการแต่งงานแบบคลุมชน แต่สุดท้ายก็เกิดจากความเต็มใจของสองบ่าวสาว ซึ่งเป็นเพราะรุจีนั้นตกหลุมรักชายหนุ่มที่แก่กว่าหล่อนถึง สิบห้าปี คนนี้นี่เอง แล้วความรักของสามีภรรยา ข้าวใหม่ปลามัน จะเดินไปเช่นไร เพราะทั้งสอง ล้วนแต่ใช้ชีวิตต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งมาดขรึม เงียบ พูดน้อย แต่คมคาย ใช้ชีวิตอยู่กับงาน ส่วนสาวเจ้า กลับสวย เด็ด เปรี้ยว ซ่า ติดเที่ยว และยังเด็กกว่าภาคีมากอีก

          อีกทั้งยังมีปัญหาของมือที่สาม มายุ่งกับทั้งสอง คนอีก ไม่ว่าจะเป็น ปณิศรา ภรรยาเก่าของภาคี ที่คิดจะกลับมาช่วงชิงภาคีคืนไป และ การุณ นักร้องหนุ่มเจ้าคารมที่มาติดพันกับรุจี เพียงเพราะอยากเอาชนะ

          ไม่ว่ายังไงแม่นางแซ่จิว ก็จะไม่มีวันยอมสูญเสีย คุณหลวงพรหมวัฒนา ชายที่เธอให้ความรักสุดหัวใจไปได้หรอก !

ความรู้สึกส่วนตัว...บันทึกหลังอ่าน

            หลังจากที่ติดใจผลงานของคุณอุธิยามาจากนวนิยายแนวดราม่า เชือดเฉือนอารมณ์เรื่อง วงกตกุหลาบ มาแล้ว อุ้มสมก็ไม่รีรอที่จะสอยเล่มใหม่จากผู้เขียน เรื่องนี้มาเลย ซึ่งเป็นแนวโรแมนติก น่ารัก ฮาๆ (แต่รู้สึกว่าแกยังดองงานของอุธิยาไว้อยู่เรื่องนึงนะตาอุ้มสม...เล่ห์รักริมเล ไงล่ะ ! ...อร๊าก !ดองค้างไว้นานแล้วครับเรื่องนั้น แต่เร็วๆนี้ อ่านแน่นอน อิอิ)

          เรื่องราวของ “บุพเพกำนัลรัก” เล่มนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากนะครับ คือพลอตธรรมดาที่ว่า พระเอกวัยสามสิบแปด แต่งงานกับนางเอกเด็กกว่ามากมายวัย ยี่สิบสาม ซึ่งทั้งสองก็จะต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพราะด้วยวัยที่ต่างกันมาก ทำให้การใช้ชีวิตของทั้งสองต่างกันพอสมควร และยังมีปัญหาต่างๆ ที่ถาถมเข้ามาให้ชีวิตคู่ของทั้งสองต้องพังทลาย อีกทั้งนางเอกยังแสบสันไม่เบาอีกด้วย ซึ่งดูเหมือนว่าเรื่องจะเบาๆ ไม่มี ‘อะไร’ แต่อุ้มสมจะบอกว่า บุพเพกำนัลรักเป็นนิยายรักเบาสมอง ที่ให้ ‘อะไร’ ได้มากพอสมควร เลยละครับ ...ชอบครับ

          อุธิยา นำเรื่องด้วยเรื่องของการคลุมถุงชน...อันเป็นประเด็นที่ครองคู่นิยายรักมาทุกยุคทุกสมัย แต่เรื่องนี้ก็เป็นการคลุมถุงชน ที่เกิดจากความเต็มใจของพระนางเอง ทำให้เกิดวิวาห์สายฟ้าแลบของทั้งคู่ขึ้นมา โดยทั้งสองจะต้องปรับตัวให้เข้าใจ ศึกษานิสัยกันเมื่อแต่งงานกันไปแล้ว ซึ่งต่างจากหนุ่มสาวทั่วไป ที่มักจะดูใจกันก่อน แล้วค่อยแต่งงาน...เรื่องราววุ่นๆ ของสาวเปรี้ยว กับ หนุ่มใหญ่มาดนิ่งจึงบังเกิด

          นอกจากจะเน้นเรื่องความรัก โรแมนติก ตลกเฮฮา แล้ว บุพเพกำนัลรัก ยังบอกเล่าถึงความรักของสามีภรรยา การแต่งงานกันที่ต้องปรับตัวซึ่งกันและกันเพื่อให้ชีวิตคู่มั่นคงสืบไป นอกจากนั้นยังมีเรื่องความรักของเพื่อน ความรักของสถาบันครอบครัว ซึ่งเมื่อเรามีเรื่องทุกข์ใจ...สถาบันครอบครัวก็เป็นสิ่งแรกๆ ที่เราจะเข้าหา

          ในส่วนของพระเอกอย่าง ภาคี หากสาวคนไหนที่ชอบแนวพระเอกเป็นหนุ่มใหญ่เลี้ยงต้อยสาวน้อย ก็คงจะถูกใจเล่มนี้นะครับ เขาเป็นหนุ่มใหญ่สามสิบแปดปี ที่เป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มกรรมการผู้จัดการธุรกิจใหญ่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาดขรึม เนี้ยบ เงียบ มีความเป็นผู้ใหญ่มาก และเงียบจนบางครั้งก็น่ากลัวเลยละ ภาคีเป็นคนที่บุคลิกดูเป็นนายคน มีอำนาจ ซึ่งความน่ากลัว ความดุ นั้น นางเอก...รุจีของเรา เคยถามหยก ว่าภาคีน่ากลัวขนาดไหน หยกบอกไปว่าขนาดแม่ของหยกซึ่งเป็นพี่สาวของภาคีนั้นแสนจะดุ เฮี้ยบมากมาย ยังกลัวภาคีเลย... แต่อุ้มสมรู้สึกขัดใจ กับจุดเริ่มต้นของเรื่องนิดหน่อย ซึ่งคิดว่าน่าจะใส่รายละเอียด หรือเรื่องราว ระยะเวลาให้มากกว่านี้ ในเหตุการณ์ดูตัว และช่วงเวลาก่อนจะรับปากแต่งงานกันระหว่างภาคี กับ รุจี เพราะภาคีเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว วางคาแรคเตอร์ให้เป็นคนดุ จริงจัง อีกทั้งภาคีก็ยังมีประสบการณ์ความรักที่ต้องหย่าร้างมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้อุ้มสมรู้สึกว่าง่ายดายเกินไป ที่ภาคีจะเชื่อพ่อและยอมแต่งงานกับรุจีง่าย ๆ

          ภาคีเป็นคนฉลาดไม่เบา ไม่กินหญ้า เลยละครับ จับพิรุธเมียสาวได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ฉากที่นางเอกซื้อเค้กแยมโรลมากแล้วบอกว่าตัวเองทำเอง พระเอกก็แกล้งให้นางเอกลองทำให้ชิม สามสีวันติดกัน ซึ่งก็ไม่สำเร็จสักที ฮ่าๆ ...แต่บางที่ก็หมั่นไส้กับความนิ่ง ความเงียบของเขา ในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง คืออะไรมันจะขรึมขนาดนั้น เพลียแทนนางเอกอ่ะ ฮ่าๆ หรือจะเป็นตอนที่บังคับให้นางเอกนอนตั้งแต่สี่ทุ่ม เพราะนางมัวแต่ติดโซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่ ...แต่สำหรับเรา และคนติดโซเชียลฯ ทุกคน เวลานี้ยังไม่ดึกมากเลยนะ อิอิ และก็มีตอนที่เห็นด้วยกับคุณภาคีเช่นกัน เช่นตอนที่ห้ามไม่ให้รุจีเข้าผับ เพราะถึงอย่างไรรุจีก็แต่งงานแล้ว และตอนที่ได้ใจมากที่สุดสำหรับอุ้มสม ก็คงเป็นตอนที่ภาคีเลือกที่จะแก้ปัญหาขึ้นเด็ดขาด ในเรื่องของปัญหาที่เกิดจาก ปณิศรา อดีตภรรยา ที่สร้างปัญหาให้กับเขาและรุจี คือทำให้เรารู้สึกได้ชัดเจนขึ้นเลยว่า...ต่อให้ผู้ชายคนนี้จะรักงาน รักความถูกต้องของตนและบริษัทมากเพียงไหน แต่อย่างไร ครอบครัว ก็เป็นหนึ่งสำหรับภาคี...

          เมื่อพูดถึงพระเอกสุดเงียบไปแล้ว ต่อไป ก็คือนางเอกแสนแสบอย่าง รุจี เป็นนางเอกอีกคนที่มีเสน่ห์นะ รุจีเป็นตัวแทนของผู้หญิง และคนรุ่นใหม่ หลายๆ คน ที่ติดโซเชียลมีเดีย เป็นสรณะ รักอิสระเสรี บางครั้งก็ทำอะไรตามใจตนเอง เธอทำให้ผู้อ่านฮา ขำ อมยิ้ม ได้ในหลายฉากหลายตอน เช่น ตอนปะทะคารมกับหลานสาวสามีจอมแสบ อย่าง หยก ที่ฉลาด แสบ ไม่แพ้เธอเอง เรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อของรุจีเลยทีเดียว และบางฉากบางตอนทำเอาอุ้มสมสงสารรุจีเหมือนกันนะ ที่เล่นมุขอะไร แต่คนแก่ เอ๊ย หนุ่มใหญ่อย่างภาคีก็ไม่ยอมรับมุข เช่น ตอนที่เธอจินตนาการว่าภาคีเป็นคุณหลวงจาก ทวิภพ เพราะเข้ามาในห้องนอนภาคี แล้วพบกับความเรียบร้อยมากถึงมากที่สุด ผิดจากห้องนอนของสาวสวยอย่างเธอนัก ! พอถามหากระจก แล้วเฉลยออกมา คุณภาคีก็เพียงแค่พยักหน้า ก่อนตอบว่า “ไม่เคยดูละคร” โอ๊ย ! เงิบแทนนางเอกเลยนะ ฮ่าๆ …

และแม้ว่ารุจีจะเป็นสาวสมัยใหม่ ยุคสามจีพลัส สักเพียงใด แต่ก็มีอยู่ ๒ สิ่ง ที่อุ้มสมรู้สึกว่าผิดแผกไปจากนางเอกในนวนิยายไทยทั้งสมัยใหม่ และสมัยเก่าพอสมควร ซึ่งก็เป็นความแปลกใหม่ที่น่าสนใจ ไม่ได้ดูประหลาดจนไม่น่าอ่าน หมดความสนุก ทว่ากลับทำให้ชวนอ่านขึ้น สิ่งแรกก็คือนามสกุลของสาวหมวยอย่างรุจี...จีนแท้ๆ เลยครับ ฮ่าๆ ชื่อ-นามสกุลของเธอคือ “นางสาวรุจี แซ่จิว” ไม่ค่อยมีนางเอกนิยายไทยคนไหนใช้นามสกุลเป็นแซ่นะ ฮ่าๆ อีกสิ่งหนึ่งคือ รุจี นั้นผิดแผกไปจากนางเอกที่เพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาดๆ ตรงทีว่า เธอไม่เชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษมาก และยังไม่คล่องเสียด้วย เกือบเอาตัวไม่รอดเมื่อพบกับลูกค้าต่างชาติของสามี

อีกสิ่งหนึ่งในตัวรุจี ในคาแรคเตอร์ของเธอ ที่ทำให้อุ้มสมอมยิ้ม ก็คือความคิดที่จะเอาชนะภรรยาเก่าของ สามีอย่าง ปณิศรา หรือที่เธอเรียกว่า “ป้าสีฟ้า” ...ชื่อนี้มีที่มา (นอกจากตั้งฉายาให้ผัวแล้ว หล่อนยังตั้งฉายาให้เมียเก่าผัวอีก ร้ายนัก รุจี !)  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสรรพนาม ที่ใช้เรียกภาคี เธอเรียกเขาว่า “คุณภาคี” ไม่ได้เรียกว่า “ภาค” เพราะไม่ชอบเรียกเหมือนกับภรรยาเก่า หรือจะเป็นตอนที่เลือกซื้อของให้กับภาคี เมื่อปณิศราบอกว่า ภาคีชอบสีฟ้า (ทำทีรู้ใจภาคี) ด้วยความอยากเอาชนะ รุจีกลับเลือกซื้อสีเขียวไปให้ภาคีแทน และป้าสีฟ้า ก็กลายเป็นฉายาของปณิศราทันที นางเยอะมากรุจี ฮ่าๆ ซึ่งเห็นได้ว่ารุจีเป็นนางเอกที่มีเสน่ห์ในความแสบ ความเปรี้ยว และความฉลาดแกมโกงของเธอ หรือบางครั้งจะต้องเสียทีให้กับพระเอกที่ฉลาด (กว่า) ...เอิ่ม ! ไม่บางครั้งแล้วอ่ะนะ ฮ่าๆ เก่งมาจากไหน แต่สุดท้ายรุจีก็พ่ายแพ้ให้กับหนุ่มสุขุมแสนฉลาดอย่างภาคี

ทว่าแม้อุ้มสมจะชอบในตัวรุจีมาก แต่ก็ยังมีบางจุดที่ไม่ชอบเช่นกัน ในส่วนของความที่รุจีนั้นเด็กกว่าภาคีถึง ๑๕ ปี อันนี้อุ้มสมเข้าใจที่ว่าทั้งสองย่อมไม่เข้าใจกัน และมีเรื่องบาดหมางกัน เช่น เรื่องมือที่สาม อีกทั้งยังความเงียบของภาคี อย่างที่บอกน่ะแหละ อุ้มสมติดจะหมั่นไส้พาลไม่ชอบในบางตอนเสียด้วยซ้ำ ในความเงียบเกินไปของพระเอก แต่พอมาถึงช่วงครึ่งหลัง ที่รุจีงอนพระเอก น้อยใจพระเอก จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ อันนี้ติดจะรำคาญนางรุจี เพราะตอนนั้นพระเอกเครียดกับเรื่องอาการโคม่าของพ่อมามากพอแล้ว ทำให้ไม่มีอารมณ์จะง้องอนรุจีและอีกตอนที่ไม่ชอบคือตอนที่เธอทะเลาะกับภาคีแล้วประชดด้วยการมายุ่งกับนายการุณ !

ในส่วนของมือที่สามที่จะมาสร้างความร้าวฉานให้กับภาคี และ รุจี... ปณิศรา เธอคือสาวใหญ่วัยสามสิบแปด อดีตภรรยาของภาคีที่หย่าร้างกันไป ซึ่งอุธิยาก็จะทำให้ผู้อ่านลุ้นและเดาไปเรื่อยๆ ว่าเพราะเหตุใดคนดีๆ อย่างภาคีถึงต้องหย่าร้างกับภรรยาคนแรก และทำไมคนในครอบครัวพระเอกถึงไม่ชอบปณิศรา ซึ่งอุ้มสมก็เดาออกนิดหน่อยว่าเพราะอะไร...แต่ที่เดาไปนี่มันออกจะแตกหักมากกว่านั้น ปณิศราตั้งใจจะมาแย่งภาคีกลับคืนไป ไม่ชอบเธอเพราะเธอเป็นต้นเหตุให้ไพบูลย์ พ่อของภาคีต้องอาการหนักกว่าเดิม เพราะไพบูลย์เป็นตัวละครอีกตัวที่อุ้มสมชอบ อีกทั้งยังมาแอบอ้างว่าเป็นสะใภ้อีก (อดีตสะใภ้ตะหาก !!!) แต่พอมาถึงช่วงท้ายเรื่อง พอรู้ความจริงขึ้นมาก็อดที่จะสงสารปณิศราไม่ได้

มือที่สามอีกคนที่เข้าหาทางรุจีคือ การุณ หรือ กล้วย นักร้องหนุ่มที่มาตามตื๊อรุจี เพียงเพราะอยากจะเอาชนะรุจี ด้วยเหตุที่ว่ารุจีไม่กรี๊ดกร๊าดเขาเหมือนที่ผู้หญิงคนอื่นกรี๊ด ก็เลยต้องการเอาชนะรุจี ตามตื๊อรุจี จนได้เบอร์มา โทรหารุจีตลอดจน เธอต้องอ้างกับสามีว่าการุณเป็น “เซลล์ขายรถ” ส่วนตัวไม่ชอบและรำคาญการุณเอามากๆ

          อีกประเด็นหนึ่งของบุพเพกำนัลรัก นอกเหนือจากการใช้ชีวิตคู่แล้ว ยังมีเรื่องราวของความรักในสถาบันครอบครัวที่ทำให้อุ้มสมชอบมากๆ ... ประทับใจในความรักที่มีต่อลูกของพ่ออย่าง ไพบูลย์ ดังในตอนที่ภาคีไม่เหลือผู้เป็นภรรยาอยู่เคียงข้าง ไพบูลย์ก็พร้อมที่จะปกป้องดูแลลูกชายคนนี้ แม้ว่าจะหมดเงินไปสักกี่บาทก็ตาม และไพบูลย์ก็ยังเป็นพ่อสามีที่น่ารักอีกด้วย ฮ่าๆ ดูซีรีส์เกาหลีกับลูกสะใภ้ โอย ! น่ารักมาก ไหนจะพี่เขยของภาคีอย่าง อรรถ พี่สาวเจ้าระเบียบอย่าง ภัทรา รวมทั้งหลานสาวจอมแก่นอย่าง หยก โดยเฉพาะยายหยก นี่จัดว่าเป็นตัวละครสร้างสีสันอีกตัวเลยนะครับ เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อของนางเอกเลย ฉลาดแกมโกงพอกันกับน้าสะใภ้อย่างรุจีเลย เข้ากันได้ ฮ่าๆ พยายามจะแบล็กเมล์รุจีตล๊อด...ตล๊อด อีกทั้งยังป๊าของนางเอกอย่าง แสงชัย คนนี้ก็รักลูกสาวเช่นกัน เวลารุจีทะเลาะกับสามี ก็จะกลับไปหาป๊านี่ละ...เรียกได้ว่าทั้งสองครอบครัวน่ารักจริงๆ เลยครับ

          และอีกสามตัวละครที่จะไม่พูดไม่ได้ สามสาวเพื่อนของนางเอกนั่นเอง คือ อรดา  วลีรักษ์  และ ไพรวรินทร์ (ไพรวรินทร์ หรือ ใบชา คือลูกสาวคนโตของพระนางจากวงกตกุหลาบ) ทั้งสามสาวก็จัดว่าเป็นตัวละครที่สร้างสีสันครับ เพราะพวกเธอคือเพื่อนสนิทแก๊งเดียวกันกับรุจี ที่รวมตัวกันเมื่อไหร่ เป็นต้องวุ่น และเรียกรอยยิ้มได้...ผุ้เขียน จุดประเด็นเรื่องราวของทั้งสามสาวไว้มากพอสมควรเลยละครับ ซึ่งคล้ายกับว่าคุณอุธิยาจะแต่งต่ออีกสามเรื่อง เป็นซีรีส์ต่อจากเรื่องนี้ โดยเป็นเรื่องของสี่สาวนี้นี่เอง...

          วลีรักษ์ กับ ธนุส...ก็จะเป็นเรื่องราวความรักที่มิอาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้ ทุกคนจะคิดว่าทั้งเขาและเธอเป็นเพียงนายจ้างและคนขับรถ (เรื่องนี้ผู้เขียนกำลังเขียนและเอาลงเด็กดีอยู่ครับ ในชื่อเรื่อง ดาวลิขิตรัก) ส่วนไพรวรินทร์ สาวเหนือคนนี้ก็จะไม่ค่อยได้รวมแก๊งสักเท่าไร เพราะต้องกลับเชียงรายเพื่อจัดการคนที่มาจีบน้องชายของเธอ...เพราะคนๆ นั้นดันเป็นผู้ชาย ! ... และอรดา แม่สาวจอมแก่นพอๆ กับรุจี ที่มีคู่หมั้นหนุ่มอย่าง ปุณณัติ มาคอยรับส่งอยู่ตลอด คงต้องตามกันต่อไปครับ

          เป็นอีกเรื่องที่ชอบมากๆ เลยละครับ การดำเนินเรื่องในช่วงแรกนั้นแม้อุ้มสมรู้สึกว่ายังแค่พออ่านได้ ไม่ถึงกับวางไม่ลง แต่พอเริ่มที่หน้า๑๐๐- ไปเรื่อยๆ ที่ก็ทำเอาติดลมเลยละครับ ...อ่านงานของอุธิยาจบมาสองเรื่อง ชอบมากทั้งสองเรื่อง ทั้งทีเป็นคนละแนวกัน คงต้องตามหาเรื่องอื่นๆ ของผุ้เขียนมาอ่านต่อไป

ในเรื่องของความโรแมนติก ฉากหวานๆ ด้วยความที่เป็นนิยายรักโรแมนติก ดังนั้น ฉากหวานเลี่ยน ต้องมีแน่นอนครับ..มีมาให้คนอ่านได้ฟินเป็นระยะๆ บทหนุ่มสุขุมอย่างคุณภาคีจะหวานขึ้นมา คนอ่านก็ไม่ทันคาดคิดเลยทีเดียว (โดยเฉพาะตอนพิเศษสั้นๆ ขอบอกว่าน่ารักมากมาย) และอีกสิ่งที่จะขอชื่นชมก็คือแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นนิยายรักขนาดหนา แต่ก็ไร้ซึ่งฉากเรต หวือหวาบนเตียง ทั้งที่พระนางแต่งงานกันแล้ว จะเขียนฉากอย่างว่าก็ไม่น่าเกลียด...แต่ผู้เขียนก็ไม่ได้เขียนลงไป ไม่มีพิษมีภัยครับ...

ชอบมากครับ...เป็นอีกเรื่องที่อย่างแนะนำ โดยเฉพาะใครที่ชอบแนวเลี้ยงต้อย พระเอกกินเด็ก...อ่านได้เลยครับ !

อุ้มสม

๓ สิงหาคม ๒๕๕๘