ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 5 how are you have been in my dream ?
5
how are you have been in my dream ?
คุณมาอยู่ในความฝันของฉันได้ยังไง ?
ตอนนี้ฉันกำลังนั้งอยู่ในห้องประชุมโรงเรียนนามิโมริ เนื่องจากมีการประกาศให้นักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่ทุกคนมาพร้อมกันที่นี่ ในเวลาหลังเลิกเรียน
ฉันมองไปรอบๆห้องที่มีนักเรียนที่น่าจะเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่พร้อมๆฉันประมาณสิบกว่าคนแต่ละคนยังคงมีท่าทางตื่นเต้น บางคนก็จับกลุ่มพูดคุยกันเรื่องการประชุมนักเรียนใหม่ครั้งนี้ บางคนก็ถามกันไปมาว่ามาที่นี่เพื่ออะไร ซึ่งนั้นก็เป็นคำถามที่ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน
“เอาล่ะๆนักเรียนช่วยนั้งประจำที่อย่างสงบกันด้วยนะครับ -_-^^” ผู้ชายท่าทางเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง (เขาก็เป็นผู้ใหญ่น่ะจ๊ะ) เดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั้งอยู่ที่เก้าอี้ประทาน ผู้ชายคนนี้ถ้าฉันจำไม่ผิดเขาคงจะเป็นผอ.โรงเรียนนามิโมริล่ะมั้ง
“ท่าน ผอ.คะทุกคนน่าจะมากันครบแล้วล่ะค่ะ ขาดแต่ประธานคุมกฎเท่านั้น” คุณครูผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่าทางจะทำหน้าที่เป็นเลขาของ ผอ. เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารหลายแผ่น
“ยังไม่ถึงเวลาที่นัดไว้หรอกน่า ฮิบาริคุงน่ะไม่มีทางมาสายอยู่แล้ว” ผอ. พูดขึ้นขณะที่เงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาติดผนังเรือนใหญ่ คุณเมฆา...ก็มาที่นี่ด้วยเหรอ
“ใช่แล้วล่ะผอ. ผมไม่มีทางทำผิดกฎของนามิโมริหรอก” ฉันถามตัวเองในใจเพียงไม่นาน ‘คำตอบ’ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น คุณเมฆาเดินเข้ามาในห้องประชุมก่อนจะนั้งลงที่เก้าอี้ถัดจาก ผอ. ซึ่งนั้นก็คงน่าจะถูกเตรียมไว้สำหรับเขา ฉันเงยหน้ามองตามคุณเมฆาขณะที่คุณเมฆาก็หันมามองฉันแวบหนึ่งเหมือนกัน
“ถ้าอย่างงั้นก็คงจะครบแล้วล่ะค่ะ ผอ.” คุณครูผู้หญิง(คนเดิม) พูดก่อนจะเดินมานั้งที่เก้าอี้ถัดจาก ผอ.อีกข้าง “ถ้าอย่างงั้นเริ่มกันเถอะค่ะ ท่านประธาน” คุณครูเปลี่ยนคำนามที่ใช้เรียก ผอ.เป็น ‘ท่านประธาน’ เหมือนกับจะเริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการ ฉันเองก็อยากรู้เหมืนกันว่าจะประชุมเรื่องอะไร
“นักเรียนทุกๆคนที่นั้งอยู่ในห้องนี้ล้วนแต่เป็นนักเรียนของนามิโมริที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่กันทั้งนั้น” ผอ. พูดก่อนจะมองไปรอบๆห้องประชุม เพื่อมองเหล่านักเรียนใหม่ทั้งหลายของนามิโมริ
“และเนื่องจากย้ายมาใหม่จึงยังไม่ได้ทำกิจกรรมการเข้าค่ายของนามิโมริ” ผอ.ยังคงพูดต่อไป ขณะที่ตอนนี้เริ่มมีเสียงของนักเรียนที่พูดคุยกันด้วยความสงสัย
“นี่พวกคุณถ้ายังส่งเสียงอยู่ล่ะก็...” คุณเมฆาพูดแทรกขึ้นท่ามกลางเสียงพูดคุยที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ “ผมจะขย้ำ!” แต่หลังจากที่คุณเมฆาพูดประโยคนั้นออกไปเพียงสั้นๆ ทุกคนในห้องต่างหยุดนิ่ง หยุดพูด ราวกับถูกสะกด อย่างนี้สินะ คุณเมฆาน่ะในมุมนี้ก็ดูน่ากลัวจริงๆ ฉันคิดกับตัวเองในใจขณะที่มองไปทางคุณเมฆา ซึ่งเขาก็มองกลับมาด้วยสายตานิ่งๆทำให้ฉันต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีไปทางอื่นเอง ในเวลาที่เขาน่ากลัวถึงขนาดนี้ไม่อยากเชื่อเลยว่าวันนั้นฉันไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้ไปยืนคุยกับเขาน่ะ แต่ว่านะ...วันนั้นคุณเมฆาเองก็อาจจะลืมไปแล้วก็ได้มั้งว่าฉันพูดอะไรไปบ้าง แต่ถ้าลืมจริงๆก็คงจะดีเหมือนกันนะ เพราะเขาจะได้ลืมไปว่า วันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงโง่ๆคนหนึ่งเดินไปพูดเรื่องไร้สาระน่ารำคาญกับเขา
“เพราะฉะนั้นทางโรงเรียนนามิโมริของเราก็เลยมีการจัดการเข้าค่าย รับนักเรียนนามิโมริที่ย้ายเข้ามาใหม่ทุกคน” เมื่อเห็นว่าภายในห้องประชุมเงียบแล้ว ผอ. จึงเริ่มพูดอีกครั้ง
“ซึ่งรายละเอียดจะอยู่ในเอกสารนี้” ผอ.พูดขึ้นในขณะที่คุณครูเลขาเดินเอาในเอกสารมาแจกให้กับนักเรียนคนละแผ่น ฉันค่อยๆหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่าน...
‘การเข้าค่ายสำหรับนักเรียนใหม่ของโรงเรียนนามิโมริ
โรงเรียนนามิโมริมีประเพณีและกฎปฏิบัติหนึ่งข้อที่แสดงถึงการเป็นนักเรียนนามิโมริ โดยปกติแล้วนักเรียนนามิโมริทุกคนจะต้องมีการเข้าค่ายในช่วงปีแรกของการเรียน แต่เนื่องจากว่า...มีนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่โดยไม่ได้ผ่านการเข้าค่ายซึ่งเป็นประเพณีและกฎของโรงเรียนนามิโมริ ทางโรงเรียนจึงมีการจัดเข้าค่ายชดเชยสำหรับนักเรียนใหม่ขึ้น
รายละเอียด
นักเรียนใหม่ของนามิโมริทุกคนจะต้องไปเข้าค่ายที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันตกของเมืองนามิโมริ ตั้งแต่วันที่
3/5/2xxx ถึง 6/5/2xxx โดยทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมให้ทำโดยไม่เปิดเผยว่าเป็นกิจกรรมอะไร
ปล.นักเรียนคนใดที่ไม่เข้าร่วมอาจจะไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นนักเรียนนามิโมริ
ผอ.โรงเรียนนามิโมริ ’
ฉันอ่านข้อความในกระดาษขณะที่ในใจก็คิดตามไปด้วย เข้าค่ายที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันตกขงเมืองงั้นเหรอ แต่ภูเขาที่อยู่ทางนั้นมันก็ห่างกับโรงเรียนและโกคุโยแลนด์มากพอสมควรเลยนะ แล้วแบบนั้น...เคน จิคุสะ และท่านมุคุโร่ จะยอมให้ไปหรือเปล่านะ
“ผมหวังว่าทุกคนคงจะไม่มีปัญหาอะไรนะครับ” ผอ.พูดขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆห้อง เพื่อถามกับนักเรียนทุกคน ฉันเองก็มองไปรอบๆ ก็เห็นนักเรียนบางคนทำหน้าเหมือนตื่นเต้น แต่บางกลุ่มก็ทำหน้าเบื่อหน่าย แต่สำหรับฉันมันกลายเป็นความกังวลไปแล้วล่ะ
“ถ้าใครไม่ทำตามกฎของโรงเรียน ผมจะขย้ำ!” คุณเมฆาพูดปนข่มขู่ ถ้าทำอย่างนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการบังคับไม่ใช่เหรอ... ต้องไปอยู่ห่างจากเคนและก็จิคุสะ หลายวันขนาดนั้น ท่านมุคุโร่ จะยอมให้ฉันไปไหมนะและวันที่ต้องไปนั้นวันก็คือวันพรุ่งนี้แล้วนะ
“ขออณุญาติค่ะ...” ฉันพูดแทรกขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้ทุกคนในห้องหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่...คุณเมฆา ถึงตอนนี้ฉันเองจะรู้สึกกลัวต่อรังสีอำมหิตของคุณเมฆา แต่มันก็ยังดีกว่าต้องมานั้งกังวลต่างๆนานาอย่างนี้
“แล้วท่าหากฉัน..ฉันไม่ได้ไปเอ่อ..เข้าค่าย...” ฉันพูดติดๆขัดๆ เพราะตอนนี้กำลังรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นตัวประหลาดของทุกๆคน และตอนนี้คุณเมฆาเองก็กำลังมองฉันด้วยสายตานิ่งๆ ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ว่ามันก็ทำให้ฉันสามารถทำตัวไม่ถูกได้เลย...
“คุณมีปัญหาอะไรเหรอคะ คุณโดคุโร” คุณครูเลขาพูดขึ้น
“คือ...ฉันไม่รู้ว่า..พวกเขา เอ่อ..”
“ผู้ปกครองน่ะเหรอคะ” คุณครูเลขาคนเดิมพูดเมื่อเห็นฉันยังคงพูดตะกุกตะกัก ฉันพยักหน้าเบาๆ เพื่อบอกว่าเธอพูดถูก ท่านมุคุโร่ เคน จิคุสะยังไงก็เป็นเหมือนครอบครัวของฉัน
“เรื่องผู้ปกครองไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะโรคุโด ทางโรงเรียนน่ะจะดูแลพวกเราทุกคนเป็นอย่างดีบอกผู้ปกครองของเธอด้วยแล้วกันนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง...” ผอ.พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด แน่สิ! สำหรับเขามันคงจะไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่สำหรับฉันมันเป็นปัญหาใหญ่มากนะ
“และถ้าเกิดว่าผู้ปกครองของเธอยังเป็นห่วงอยู่อีก ให้เข้ามาคุยกับทางโรงเรียนก็ได้นะ” ผอ.ยังคงพูดต่อไปขณะที่ฉันก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกผอ.” เสียงเรียบๆที่ฉันจำได้ดีทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองทันที “เดี๋ยวผมจะคุยกับ ‘ผู้ปกครอง’ ของ โคลม โดคุโรเอง” ฉันนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดของคุณเมฆาและรอยยิ้มมุมปากของเขา คุณเมฆามองฉันด้วยสายตาที่เหมือนจะมีอะไรอยู่ในใจ ฉันมีความรู้สึกไม่ดีบางอย่างในใจขึ้นมา คุณเมฆาต้องการอะไรกันแน่เขาทำแบบนี้เรื่องมันจะยิ่งวุ่นไปกันใหญ่ไม่ใช่เหรอ
“ขอบใจมากนะฮิบาริคุง” ผอ.พูดขณะที่หันไปมองคุณเมฆา ส่วนคุณเมฆาก็ไม่พูดอะไรตอบนอกจากยิ้มมุมปากเท่านั้น สารภาพเลยนะว่าความกังวลเรื่องท่านมุคุโรในตอนแรกถ้าเกิดเทียบกับตอนนี้แล้วนั้นมันเล็กน้อยกว่ามาก!
ฉันเดินตามคุณเมฆาที่เดินนำหน้าอยู่แต่ก็ไม่ลืมที่จะเว้นระยะห่างจากเขาไม่ต่ำกว่าสามเมตร หลังจากเลิกประชุม ผอ. ก็บอกให้คุณเมฆาช่วยไปคุยกับ ‘ผู้ปกครอง’ ของฉันให้ เพื่อที่เรื่องจะได้ไม่มีปัญหา แต่ฉันคิดว่าปัญหามันจะยิ่งหนักไปอีกนะสิ คุณเมฆาก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าความจริง ‘ผู้ปกครอง’ ที่ฉันหมายถึงก็คือท่านมุคุโร และในเมื่อเขากับท่านมุคุโรก็ไม่ได้ลงรอยกันสักเท่าไหร่แล้วเขาจะมาทำแบบนี้เพื่ออะไร หรือว่าเขาอยากหาข้ออ้างให้ฉันเรียกท่านมุคุโร่ออกมาต่อสู้กับเขาอีกงั้นเหรอ
“กลัวอะไรผมอีกหรือไงถึงได้เดินห่างขนาดนั้นนะ” ขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงเรียบๆของคุณเมฆาก็ดังขึ้น แต่เขาก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่ได้หันมามองฉัน
“แต่ระยะแค่นั้นนะ ถ้าผมคิดจะทำอะไรจริงๆคุณก็หนีไม่ทันหรอกนะ” คุณเมฆายังคงพูดต่อไป ยิ่งเขาพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งอยากจะเว้นระยะห่างจากเขาเข้าไปอีก
“คุณเมฆา คุณจะไปที่โกคุโยแลนด์จริงๆเหรอ” ฉันถามขณะที่เดินตามเขาไป คำถามของฉันทำให้คุณเมฆาชะงักและหันกลับมาทางฉันทันที
“นั้นสินะ ผมไม่จำเป็นต้องไปที่นั้นก็ได้นี่” คุณเมฆาพูดก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน “เพราะยังไง ‘ผู้ปกครอง’ของคุณก็อยู่ตรงนี้แล้ว” คุณเมฆาพูดขณะที่มองหน้าฉันแล้วยิ้มมุมปาก สารภาพเลยนะว่าฉันไม่ชอบยิ้มแบบนี้ของเขาเลยสักนิด เพราะถ้าเขายิ้มแบบนี้เมื่อไหร่ก็จะต้องมีเรื่องที่ทำให้ฉันกังวลได้ตลอดเลย
“เรียกเขาออกมาสิ ผมจะได้คุยกับเขาให้มันจบๆไป เพราะไม่ว่ายังไงการเข้าค่ายครั้งนี้คุณก็ต้องไป เพราะมันเป็นกฎ” คุณเมฆาพูดก่อนจะก้าวเข้ามาเรื่อยๆส่วนฉันก็ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆเหมือนกัน
“ที่คุณอยากเจอท่านมุคุโร่ ก็เพราะอยากต่อสู้กับท่านมุคุโร่ คุณไม่ต้องเอากฎมาอ้างหรอก”
“เรื่องของผมและโรคุโด มุคุโร กับ เรื่องกฎของนามิโมริมันคนละส่วนกัน” คุณเมฆาพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ
“ผมไม่ได้ต้องการจะต่อสู้กับเขาในตอนนี้ แต่ผมต้องการให้คุณทำตามกฎของโรงเรียนนามิโมริ” คุณเมฆายังคงพูดนิ่งๆเช่นเดิม “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมคุยกับโรคุโด มุคุโร่คุณก็คงต้องคุยกับเขาเองและคุณต้องไปเข้าค่ายตามกฏนั้นด้วย ถ้าไม่อยากงั้นคุณเจอผมขย้ำแน่!” คุณเมฆาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งบีบบังคับและข่มขู่ในเวลาเดียวกัน
“ว่าไงล่ะ จะไปคุยกับเขาเองหรือจะเรียกเขาออกมา” คุณเมฆาพูดก่อนจะดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ
“ฉัน..ฉัน” ฉันพูดอย่างตะกุกตะกัก คำพูดติดๆขัดของฉันนั้นไม่ได้เกิดจากความไม่แน่ใจว่าจะตอบอะไร ยังไงการที่ฉันจะบอกท่านมุคุโร่ เคนและจิคุสะก็ต้องดีกว่าให้คุณเมฆาบอกแน่ๆ แต่ว่า...ที่ฉันพูดอะไรไม่ออกก็เพราะคุณเมฆากับฉันเราอยู่ใกล้กันมาก จนฉันรู้สึก...ประหม่า และทำตัวไม่ถูก
“ว่ายังไง...” คุณเมฆาถามย้ำก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ จนทำให้ฉันสะดุ้งขึ้นทันทีเขาคิดจะใช้วิธีนี้เพื่อรีดคำตอบจากปากของฉันหรือยังไง ฉันมองใบหน้าของคุณเมฆาที่ตอนนี้อยู่ใกล้กับฉันมากไม่ต่างจากเมื่อไม่กี่วันที่ฝนตกเลย... ในวันนั้นเขาก็เคยอยู่ใกล้ฉันแบบนี้ ใกล้จนลมหายใจอุ่นๆของเขารินรดที่ใบหน้าของฉัน แต่ถ้าเขาคิดจะใช้วิธีนี้จริงๆเขาคงจะคิดผิดแล้วล่ะ เพราะยิ่งเวลาที่ฉันต้องอยู่ใกล้กับเขา สติของฉันก็เลือนลางไปจนแทบจะไม่สามารถคิดอะไรออกแล้ว
“ตะ..ตกลง” ฉันพูดเสียงเบาอย่างตะกุกตะกัก ฉันจะก้มหน้ามองเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการมองหน้าคุณเมฆาใกล้ๆ เพราะฉันรู้ว่าถ้าหากทำแบบนั้นมันคงจะไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายเลยสักนิด คุณเมฆายิ้มมุมปากก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆแล้วพูดขึ้นมา
“ตกลงอะไร...เรียกเขามาคุยกับผมเหรอ” คุณเมฆาพูดก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจับหน้าฉันขึ้นให้มองหน้าของเขา ดวงตาสีเทาของเขามองฉันอย่างต้องการคำตอบแต่...ไม่น่าถามเลย คุณเมฆาก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนี่
“ฉันจะบอกทุกคนเอง...” ฉันตอบเสียงเบาๆ ก่อนจะก้มหน้ามองเท้าอีกครั้ง
“งั้นก็ได้”คุณเมฆาพูดก่อนจะผละออกห่างจากฉัน “แล้วผมจะรอดูแล้วกันว่าพรุ่งนี้คุณจะทำตามกฎไหม”คุณเมฆาพูดก่อนจะเดินผ่านตัวของฉันไปนิ่งๆ ฉันหันหน้าไปมองคุณเมฆา แต่เมื่อเดินออกไปไม่กี่ก้าวคุณเมฆาก็หยุดเดินและหันกลับมาพูด
“แล้วถ้าผมไม่เจอคุณล่ะก็...ผมจะขย้ำ!” คุณเมฆาพูดนิ่งๆก่อนจะเดินต่อไป...
ฉันมองตามแผ่นหลังของคุณเมฆาที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ฉันหันหลังกลับมาและเดินก้มหน้าไปตามทาง ทีนี่ก็คงจะเหลือแต่ฉันสินะที่จะต้องไปคุยกับทุกคน... ท่านมุคุโร่ เคน จิคุสะ ฉันจะบอกกับทุกคนยังไงดีนะ
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอย่างงั้นเหรอครับ โคลมของผม” เสียงนุ้มๆคุ้นหูดังขึ้นแผ่วๆ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่กลางทุ้งหญ้าสีเขียวขจี ฉันมองไปรอบๆตัว ก่อนจะพบว่าตัวเองได้อยู่ในทุ้งหญ้าที่มีแสงสีขาวปกคลุมอยู่อีกครั้ง
“ที่นี่อีกแล้วเหรอ...” ฉันพึมพำเสียงเบาขณะที่สายตายังคงมองไปรอบๆตัว จริงสิ! เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงของท่านมุคุโรนี่นา
“ท่านมุคุโร่!” ฉันตะโกนเรียกออกไปอย่างสุดเสียง และก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาแตะที่ไหล่บางของฉันจากด้านหลัง...
“ท่านมุคุโร่...” ฉันพึมพำเสียงเบาเมื่อหันไปพบกับท่านมุคุโร่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“ว่ายังไงล่ะครับโคลมที่รักของผม...มีอะไรไม่สบายใจอย่างงั้นเหรอครับ” ท่านมุคุโร่ยังคงถามซ้ำคำถามเดิมที่ฉันได้ยินในตอนแรก และคำถามนั้นก็ทำให้ฉันชะงักและต้องก้มหน้าลงมองพื้นราวกับยังไม่กล้าที่จะพูดและสบตากับท่านมุคุโร่ ถ้าเกิดฉันพูดเรื่องการเข้าค่ายนั้นไป...ท่านมุคุโร่จะว่ายังไงบ้างนะ
“โคลม...ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ว่ายังไงผมก็จะอยู่กับคุณตลอดไป”ท่านมุคุโร่พูดขณะที่ใช้มือจับที่ไหล่ของฉันเบาๆถึงแม้ฉันจะรู้อยู่แก่ใจว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่กลับรู้สึกทุกอย่างราวกับมันเกิดขึ้นจริงๆ
“ท่านมุคุโร่...ฉัน..คือว่า...” ฉันพูดอย่างตะกุกตะกัก ขณะที่ท่านมุคุโร่ยังคงมองหน้าฉันอย่างต้องการคำตอบอยู่
“ฉันจะต้องไปเข้าค่ายของโรงเรียน ที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันตกของเมือง” ฉันพูดออกไปก่อนจะมองท่านมุคุโร่ ท่านมุคุโร่ก็มองฉันด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“กำลังกังวลเรื่องผมอยู่งั้นเหรอครับ...” ท่านมุคุโร่พูดก่อนจะมองหน้าฉัน ฉันพยักหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ ท่านมุคุโร่คงจะไม่พอใจฉันแน่ๆ ฉันไม่มีหน้าที่จะคุยกับท่านมุคุโร่เลย...
“หึๆ โคลมทำไมคุณถึงคิดอะไรแบบนั้นล่ะครับ” จู่ๆท่าทางของท่านมุคุโร่ก็เปลี่ยนไป จากใบหน้านิ่งๆของเขา ตอนนี้กลับมีรอยยิ้มที่ฉันมองว่ามันอ่อนโยนเกิดขึ้นที่หน้าของเขา
“ท่านมุคุโร่ ฉันไม่เข้าใจ” ฉันพูดออกไปตามตรง ท่านมุคุโร่ทำให้ฉันสับสนไปหมดดแล้ว นี่เขาโกรธหรือตลกและสมเพชฉันกันแน่
“หึๆโคลมที่รักของผม...” ท่านมุคุโร่พูดก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆฉัน อย่างที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ทั้งๆที่ฉันกำลังมองที่หน้าของท่ามุคุโร่ที่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว ใบหน้าของคุณเมฆาก็แทรกเข้ามาในหัวของฉัน ฉันสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมองที่หน้าของท่านมุคุโร่ดีๆอีกครั้งและพยายามปัดภาพของคุณเมฆาออกไป นี่ฉันคงจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ไปนึกถึงคุณเมฆาแบบนั้นแม้แต่ตอนที่ฉันอยู่ที่นี้ กับท่านมุคุโร่ แต่ภาพของคุณเมฆาก็ยังคงตามมาหลอกหลอนฉันได้ถึงในความฝัน
“ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนผมก็จะอยู่ข้างคุณตลอดไป...” เสียงของท่านมุคุโร่ แผ่วลงเรื่อยๆ และดังขึ้นรอบๆตัวราวกับว่ามันไปลอยล่องไปกับสายลมที่พัดผ่าน
กลับมาแล้วจ้า >o< //// สะบัดน้ำออกจากตัวนิดนึง
กลับมาครั้งนี้จอยก็ไม่ลืมพกนิยายกลับมาด้วย
มีใครคิดถึงท่านมุคุโร่เหมือนจอยไหมคะ
เอาล่ะๆ ตอนนี้จอยมาเกริ่นเรื่องการเข้าค่ายให้นะคะ ตอนต่อๆไปจะเป็นยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยล่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันเล๊ย Y.Y จอยยังอยากเอามาอัพให้จบอยู่นะคะ ยังไงก็ฝากติดตาม ติ+ชม เมนต์+โหวตสักนิดเพื่อเป็นแรงใจให้หน่อยเถอะค่ะ
PS. แต่งเอง อ่านเอง เมนต์เอง มันเหงาน๊า...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น