ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic reborn)The dangerous!! รักอันตราย!คุมกฎหัวใจนายกรรมการ

    ลำดับตอนที่ #5 : 4 cloud is lonely

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 55


                                                      4
                                                                
                                                     cloud is lonely
                                                     เมฆที่โดดเดียว
     
     

                                                   
                                                           



      

     
    ฉันกำลังเดินไปโรงเรียนนามิโมริในช่วงบ่ายของวันเสาร์ ความจริงวันนี้เป็นวันหยุดของโรงเรียนนามิโมริ แต่ฉันตั้งใจว่าจะเอาเสื้อไปคืนคุณเมฆา เฮ้อ...แต่วันนี้เป็นวันหยุดคุณเมฆาจะยังอยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่านะ แต่ถึงจะไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรเอาไปวางไว้ที่ห้องกรรมการคุมกฎของโรงเรียนแล้วกัน
     ฉันคิดกับตัวเองในใจเมื่อเดินมาถึงโรงเรียนนามิโมริแล้ว ห้องของกรรมการคุมกฎน่าจะเป็นห้องที่เมื่อคืนนี้เปิดไฟสว่างๆนั้นล่ะมั้ง ฉันคิดก่อนจะเดินตรงไปที่ตึกนั้นทันที จะว่าไปแล้วช่วงวันหยุดเนี่ยโรงเรียนก็ดูเงียบสงบดีเหมือนกันนะ ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงเอะอะ ฉันมองเข้าไปที่ประตูห้องกรรมการคุมกฎที่ถูกปิดประตูเอาไว้
     
    “หรือว่าจะไม่อยู่กันนะ” ฉันพึมพำขณะที่มองไปยังประตูที่ถูกปิดสนิท ประตูปิดอย่างนี้แล้วจะเอาเสื้อเข้าไปวางคืนไว้ได้ยังไงนะ
     
    “นี่คุณ!มาทำอะไรที่นี่ ห้องกรรมการคุมกฎห้ามเข้าก่อนจะได้รับอณุญาตินะ” เสียงเข้มๆดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย ฉันหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆหันไปมอง
     
    “อ้าว! คุณโคลมเองเหรอครับ” คุณคุซาคาเบะ (เรียกถูกไหมเนี่ย -_-^^) พูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าของฉัน คุณมุซาคาเบะกับฉันน่าจะเคยเจอกันเมื่อสิบปีข้างหน้า แต่ว่าที่เขาจำฉันได้ก็คงจะเพราะของขวัญจากอัลโกบาเลโน่ล่ะมั้ง **  “มีธุระอะไรเหรอครับ”
     
    “ฉันเอ่อฉัน...” ฉันพูดก่อนจะยื่นเสื้อคลุมของคุณเมฆาออกไปให้คุณคุซาคาเบะดู
     
    “นี่มันเสื้อของคุณเคียวนี่ครับ” คุณคุซาคาเบะมองที่เสื้อเหมือนกับไม่เชื่อสายตา “ทำไมถึงได้ไปอยู่กับคุณโคลมได้...”
     
    “ฉันเอามันมาคืนแต่ว่าคุณเมฆาไม่อยู่เพราะฉะนั้นฝากเอาให้เขาด้วยนะคะ” ฉันพูดก่อนจะยื่นเสื้อคลุมให้กับคุณคุซาคาเบะ แต่เขากลับดันมันกลับเขามาคืนให้ฉัน
     
    “ผมคงทำอย่างงั้นไม่ได้หรอกนะครับ...” คุณคุซาคาเบะพูด “คุณเคียวน่ะคงจะไม่พอใจแน่ๆ” เขาพูดด้วยเสียงและสีหน้าที่เหมือนกับจะบอกฉันว่าเขาช่วยฉันไม่ได้จริงๆ “แต่ว่าคุณโคลมก็เอาไปให้คุณเคียวเลยก็ได้นี่ครับ” คุณคุซาคาเบะพูดขึ้นเหมือนนึกอะไรออก
     
    “แต่คุณเมฆาไม่ได้อยู่ที่นี่...ฉันไม่รู้ว่า...”
     
    “บนดาดฟ้าข้างบนตึกนี่ครับ คุณเคียวนะถ้ามีเวลาว่างจะขึ้นไปบนนั้นเสมอ” คุณคุซาคาเบะพูดเหมือนจะรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร
     
    “คุณโคลมลองขึ้นไปดูนะครับ ยังไงผมก็ขอตัวไปตรวจความเรียบร้อยในโรงเรียนต่อ” คุณคุซาคาเบะพูดก่อนจะค่อยๆเดินไป
    บนดาดฟ้าอย่างงั้นเหรอ... ฉันทวนคำพูดของคุณมุซาคาเบะในใจก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไป ถึงยังไงก็มาถึงที่นี่แล้ว ขึ้นไปอีกนิดเดียวคงจะ..ไม่เป็นไรหรอก
    แกร๊ก! ฉันค่อยเปิดประตูดาดฟ้าออกอย่างเบามือที่สุด ก่อนจะค่อยๆโผล่หน้าส่องเข้าไปที่ดาดฟ้าว่าคุณเมฆาอยู่บนนี่หรือเปล่า
     
    “ฮิบาริ! ฮิบาริ!” เสียงเล็กๆดังมาจากนกสีเหลืองขนปุย ฉันมองเจ้านกนั้นก่อนที่สายตาจะพบกับร่างสูงที่กำลังนอนหลับตานิ่งๆอยู่ไม่ห่างจากเจ้านกตัวนั้น ฉันมองไปทั่วไปหน้าเรียบของเขาซึ่งตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มมุมปากเหมือนทุกครั้ง ไม่มีดวงตาสีเทาที่สามารถทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกด มีแต่เพียงใบหน้าใสของเขาที่หลับตาพริ้มอยู่ที่กลางดาดฟ้า
     
    “มิโดริ ทานาบิคุ นามิโมริโน ” เสียงเพลงโรงเรียนนามิโมริดังขึ้นจากเสียงเล็กๆของเจ้านกนั้นขณะที่มันกำลังบินออกไป
     
    “ที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ ถ้าไม่ออกมาผมจะขย้ำล่ะนะ!” ฉันสะดุ้งเมื่อจู่ๆเสียงเรียบของคุณเมฆาก็ดังขึ้น นี่เขารู้ได้ยังไงนะว่าฉันอยู่ตรงนี้ เขาหลับอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ
     
    “ผมจะขย้ำล่ะนะ” คุณเมฆาพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฉันจึงค่อยๆก้าวออกจากประตูและเดินเข้าไปที่ดาดฟ้า
     
    “ฉันแค่เอาเสื้อมาคืนคุณ...” ฉันพูดขณะที่เดินตรงไปหาเขาแล้วยื่นเสื้อคลุมคืนให้เขา คุณเมฆาก้มลงมองเสื้อที่สลับกับหน้าของฉัน
     
    “ที่แท้ก็สัตว์กินพืชตัวน้อยแสนอ่อนแอ” คุณเมฆาพูดก่อนจะหยิบเสื้อของเขาคืนจากมือของฉัน “ไปยืนอยู่ตรงนั้นคิดว่าผมไม่รู้หรือไง” เขาพูดขณะที่เอาเสื้อนั้นคลุมที่ตัวของเขาเอง
     
    “ฉันแค่คิดว่าคุณ..หลับอยู่” ฉันพูดเสียงเบาๆ ขณะที่คุณเมฆายังคงมองฉันด้วยสายตานิ่งๆ
     
    “ผมนอนก็จริง แต่แค่เสียงใบไม้หล่นผมก็ตื่นแล้ว” คุณเมฆาเอ่ยเสียงเรียบๆ นี่ฉันคงจะมารบกวนการนอนเขาสินะ แย่จริงๆเลย ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็เป็นปัญหาของคนอื่นไปซะทุกเรื่อง ฉันนี่มันน่าสงเพชจริงๆ ฉันพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะมองคุณเมฆาที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงระเบียงของดาดฟ้า ดวงตาสีเทาของเขาสะท้อนกับสีฟ้าของท้องฟ้าปลอดโปร่ง ฉันค่อยๆมองตามเขาขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะเห็นเมฆสีขาวที่ลอยล่องอยู่โดดเดี่ยว...ฉันค่อยๆลดระดับสายตากลับมามองคุณเมฆาอย่างเดิม เหมือนกันจัง...ก้อนเมฆที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าอย่างโดดเดี่ยวกับคุณเมฆาที่ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ยุ่งกับใคร
     
    “ปกติผมไม่ชอบสุมหัวกับใคร เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครมาที่นี่นอกจากผม” คุณเมฆาพูดเสียงเรียบขณะที่สายตายังคงมองออกไปที่ท้องฟ้าและก้อนเมฆนั้นอยู่เรื่องนี้ฉันเองก็พอจะรู้อยู่บ้างนิดหน่อย คุณเมฆาเป็นกรรมการคุมกฎของนามิโมริที่นักเรียนที่นี่ต่างก็เกรงกลัว ในตัวของเขา
     
    “คุณน่ะ ถ้าหมดธุระแล้วก็กลับไปเถอะ “ คุณเมฆาพูดโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉันสักนิด เขายังคงมองขึ้นไปที่ท้องฟ้านั้นเหมือนเดิม “นอกจากเรื่องของโรคุโด มุคุโร่ สำหรับคุณผมก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องยุ่งอีก”
     
    “เหมือนจังเลยนะ...” ฉันพูดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ทำให้คุณเมฆาหันมามองฉันด้วยสายตาสงสัยทันที ฉันมองหน้าเขาก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้านิ่งๆ
     
    “คุณเมฆาน่ะเหมือนกับเมฆที่กำลังลอยอยู่บนนั้น...” ฉันพูดก่อนจะลดระดับสายตามามองเขาอีกครั้ง คุณเมฆายังคงมองฉันด้วยสีหน้านิ่งๆเหมือนที่เขาชอบทำอยู่ประจำ
     
    “เมฆที่ลอยล่องไม่ยึดติดกับอะไร “ ฉันพูดออกไปขณะที่สายตายังคงมองที่คุณเมฆาอยู่ ฉันรู้สึกเหมือนกับตอนนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่ฉันก็รู้ว่า...ฉันสมควรจะกลับโกคุโยแลนด์ได้แล้ว แต่ว่าสมองกับร่างกายของฉันมันกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง ฉันค่อยๆก้าวไปยืนอยู่ที่ระเบียงของดาดฟ้าที่อยู่ห่างจากคุณเมฆาพอสมควร ส่วนคุณเมฆาก็ยืนนิ่งไม่พูดอะไรเขาเอาแต่มองดูการกระทำของฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ เหมือนกับจะรอดูว่าฉันกำลังจะทำอะไรอยู่ ตอนนี้สมองของฉันกำลังบอกว่า...ให้ฉันรีบกลับไปโกคุแลนด์และเลิกยุ่งกับทุกคนในวองโกเล่ แต่สิ่งที่ฉันกำลังทำคือ...ยืนอยู่นิ่งๆและพูดสิ่งที่อยากจะพูดเหมือนอยากจะระบายความอึดอัดของตัวเอง
     
    “แต่ถึงแม้ว่าเมฆที่ลอยอยู่บนนั้นจะไม่ยึดติดกับอะไร...” ฉันพูดขณะที่ดวงตายังมองท้องฟ้า “แต่เมฆนั้นก็ไม่ได้มีแค่เฉพาะตอนที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม..ไม่ได้มีเฉพาะเวลาที่เมฆเป็นสีเทา...” ฉันยังคงพูดเหมือนกับคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “แต่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ก็ยังมีเมฆสีขาวๆลอยอยู่เสมอ..” ฉันพูดก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว... เมฆนั้นไม่ต่างจากคุณเมฆาจริงๆ ถึงแม้บางครั้งเขาอาจจะดูน่ากลัวเหมือนกับเมฆสีเทาที่ล่องลอยในเวลาที่ท้องฟ้าแปรปรวน มีพายุฝนกระหน่ำแต่เมื่อวานนี้...เขากลับดูแตกต่างออกไป ถึงแม้ว่าที่เขาช่วยฉันเป็นเพราะท่านมุคุโร่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่า...ถึงแม้ในบางครั้งเขาจะน่ากลัว แต่เขาก็ยังคงมีส่วนที่อ่อนโยนอยู่บ้าง...
     
    “และคุณเมฆาเองก็ไม่ได้มีแค่เพียงส่วนสีเทานั้นเหมือนกัน...ฉันเชื่อว่า...” คำพูดอีกมากมายที่กำลังจะออกมาจากของฉันชะงักไปเมื่อหันหน้าไปเห็นคุณเมฆากำลังมองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากตอนแรก...ดวงตาคมสีเทาเขาไม่ได้มองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบไม่พอใจเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้สายตาของเขาเหมือนกับคนที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่ฉันพูด ราวกับว่า...เขากำลังฟังฉันเล่านิทานอย่างเพลิดเพลินอยู่...แต่เมื่อเห็นว่าฉันกำลังมองอยู่สายตานั้นก็กลับมาเป็นสายตานิ่งๆอย่างที่เขาชอบทำเหมือนเดิม
     
    “ฉันเชื่อว่าในตัวของคุณเมฆา...มีเมฆสีขาวนั้นอยู่” ฉันพูดต่อจากคำที่พูดค้างไว้อย่างสั้นๆก่อนจะหันหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าอีกครั้งเพื่อหลบสายตาของเขา ความจริงสิ่งที่ฉันตั้งใจจะพูดในตอนแรกมันมากมายกว่านี้แต่ว่า...เมื่อเห็นสายตาของเขาคำพูดทั้งหลายของฉันก็หายไปจนแทบจะไม่เหลืออยู่เลย ทำไมดวงตาสีเทานั้นถึงได้มีอิทธิพลกับฉันมากถึงขนาดนี้กันนะ ฉันถามกับตัวเองกับคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ฉันรู้แต่ว่ายิ่งอยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้มากเท่านั้น
     
    “ไม่พูดต่อแล้วเหรอ...” เสียงเรียบๆเอ่ยถ้อยคำที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของเขา ฉันหันไปมองคุณเมฆาที่ตอนนี้กำลังมองมาที่ฉันเหมือนกัน
     
    “ไม่มี” ฉันพูดก่อนจะมองหน้าคุณเมฆา จริงสิ! ฉันมาที่นี่เพื่อเอาเสื้อมาคืนเขาเท่านั้น แต่นี้ฉันกลับพูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่ที่นี่กับเขาตั้งนาน นี่ฉันกำลังคุยกับคุณเมฆา คนที่คิดจะต่อสู้กับท่านมุคุโร่เนี่ยน่ะเหรอ
     
    “ฉันต้องกลับแล้ว ขะ..ขอโทษที่มารบกวน” ฉันพูดก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งไปที่ประตูดาดฟ้าทันทีโดยไม่หันกลับไปมองคุณเมฆาอีก ต่อไปฉันคงจะอยู่ใกล้คุณเมฆาไม่ได้แล้ว เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขาฉันก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทุกที
     เพียงแค่นี้...ฉันก็รู้สึกผิดต่อท่านมุคุโร่ เคนและจิคุสะมากอยู่แล้ว
    ‘แล้วก็อย่าไปสนิทสนมกับพวกมาเฟียล่ะ’ เสียงของเคนดังก้องอยู่ในหัวยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดเกาะกุมหัวใจของฉันมากขึ้นไปอีก กี่ครั้งแล้วนะ...ที่ฉันทำตามที่เคนบอกไม่ได้ ขอโทษนะเคน จิคุสะ ท่านมุคุโร่...
     
     
     
    ***Hibari kyoya***
     
         ผมมองประตูของดาดฟ้าที่ถูกปิดลงช้าๆจากด้านนอก
    ‘ฉันเชื่อว่าในตัวของคุณเมฆา...มีเมฆสีขาวนั้นอยู่’ คำพูดของโคลม โดคุโร่ดังขึ้นมาในความคิดของผม ผมมองขึ้นไปยังท้องฟ้าอีกครั้งและมองเมฆสีขาวที่ลอยอยู่บนนั้น
     
    “เมฆสีขาวอย่างงั้นเหรอ...” ผมพึมพำออกมาเบาๆ และไม่รู้ตอนไหนที่ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว “หึ...”
    ผมหัวเราะในลำคอเมื่อหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมถึงได้ยอมฟังสิ่งที่โคลม โรคุโดพูดมากมายขนาดนั้นเพราะปกติผมไม่เคยคิดที่จะสุมหัวกับใคร และเรื่องก้อนเมฆนั้นก็ไม่ใช้เรื่องที่ผมสนใจสักหน่อย แต่พอเธอพูดวันนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกอยากจะฟังขึ้นมาได้... 









                  

                                     











      

       
    ตอนนี้มาแบบสบายๆ ชิลๆ ไม่ซีเรียสค้า... ให้โคลมจังได้พักหัวใจบ้าง

    แต่คนแต่งยังไม่พักค่ะ ยังคงเร่งพิมพ์ต่อ เพราะแฟลชไดร์ฟหัก!!

    ต้องรีบดำเนินการต่อให้เสร็จคร้า...>< (ตอนนี้สั้นไปนิด เดี๋ยวจะไปชดเชยให้นะคร้า)





     
    PS. *** อ้างอิงมาจาก รีบอร์น เป้าหมายที่ 203

            ช่วยเมนต์+ติชมด้วยน๊าคร้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×