คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การผจญภัยครั้งแรก
1
การผจญภัยครั้งแรก
แสงอาทิตย์ยามเช้า สาดส่องกระทบใบหน้าขาว หวานปานหญิงสาว ของเด็กหนุ่มที่กำลังจะตื่นจากนิทราอันแสนสั้นที่เมื่อคืนเขาเพิ่งวิ่งหนีจากการถูกจับแต่งงานโดยไม่ยินยอม เพราะเมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหญิงสาว!
เขาลุกขึ้นขยี้ตาด้วยความงัวเงีย แล้วจึงเงยหน้าขึ้นไปท่ามกลางป่าทึบ สถานที่หลับใหลของเธอเมื่อคืน แสงสว่างที่ม่านตายังปรับไม่ทันกับแสงสว่างจนต้องเอามือป้องตา เธอลุกขึ้นแล้วจึงมองไปรอบๆตนเอง เพื่อจะเดินทางต่อ ไปยังโรงเรียนที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากการคลุมถุงชน โรงเรียนพระราชาเซ็น
ฟรานเดียล
แกร็ก
เสียงกิ่งไม้หักดังขึ้นจากข้างหลังเธอ เธอไหวตัวหันกลับไปดูอย่างรวดเร็วทันที เธอวาดมือภายในอากาศธาตุ เกิดเป็นดาบเรียวยาว เธอกระชับมันแน่น พลางนึกถึงสิ่งที่เธอเคยสนใจแอบเรียนครั้งเมื่ออยู่ในราชวัง แต่ก็ถูกจับได้ทุกครั้งไป แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถร่ายรำเพลงดาบได้สักสองสามกระบวนท่า คงจะพอที่จะปลิดชีวาของคนที่ทำให้เธอสงสัยได้
“ใครน่ะ?”เสียงนุ่มๆดังออกไปด้วยความสงสัย พลางเดินไปยังต้นไม้ที่มาของเสียงนั้น ก่อนเสียงฝีเท้าจะดังอีกครั้งข้างหลังเธอ ได้ยินดังนั้นเธอก็หวดดาบกลับไปข้างหลังทันที
เคร้ง
เสียงปะทะของดาบดังขึ้น เพราะดาบคริสตัลใสของเธอดันไปปะทะกับดาบเงินยาวของใครบางคน ชายหนุ่มผมแดงสั้นชี้ขึ้นไปทางทิศต่างๆเหมือนหนามทุเรียนก็ไม่ปาน กับนัยน์สีน้ำตาล นั่นคือลักษณะของเจ้าของดาบที่เอาดาบมารับดาบของเธอ เขามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนสีหน้าอารมณ์เสียจะมีมากกว่า
“เจ้าจะฆ่าข้ารึไง”เสียงโวยของเด็กหนุ่มผู้นั้นดังขึ้น
“ข้าฆ่าเจ้าแน่ หากมาทำตัวพิรุธให้ข้าเห็น”
“เอาเป็นว่า ข้าขอโทษก็แล้วกัน ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เด็กหนุ่มผู้นั้นเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด ก่อนดาบของเขาจะหายไปในอากาศธาตุ
“แล้วเจ้ามาทำอะไรในที่แบบนี้”เธอเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเยี่ยงบุรุษ เพราะตอนนี้เธออยู่ในร่างของเด็กหนุ่ม
“ข้าเห็นเจ้านอนอยู่ ข้าก็นึกว่าเจ้าตายแล้ว ข้าก็เลยจะมาดู เมื่อเห็นเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็กำลังจะไปแต่เจ้าก็ฟาดดาบมาใส่ข้าเสียก่อน”เด็กชายผู้นั้นเอ่ยตามความเป็นจริง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแช่งเธออยู่เป็นนัย
“เจ้าแช่งข้างั้นรึไง คนอย่างเจ้าสมควรตายยิ่งนัก”เฟรเอ่ย พลางง้างดาบเรียวนั้นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพยายามหวดมันลงไป เด็กหนุ่มกลิ้งตัวหลบไปด้านข้างอย่างว่องไว ก่อนจะรีบยกมือขึ้นห้ามปราม
“เจ้าฟังข้าก่อนสิ สภาพเจ้าตอนนั้นใครเห็นก็คิดว่าตายแล้วทั้งนั้นแหละน่า จะมาว่าข้าไม่ได้น่ะ”เด็กหนุ่มกล่าวอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตนเองเลย หากเปรียบเด็กหนุ่มเป็นเส้นด้าย ในเวลานี้คงเป็นเส้นด้ายที่ใกล้ขาดเต็มที่
เฟรหวดดาบเป็นวงกว้างไปอีกครั้ง เด็กหนุ่มเอนตัวหลับเป็นรูปสะพานโค้ง ก่อนจะดีดขาขึ้นเตะดาบนั้นให้ปลิวว่อนออกไป ดาบนั้นสลายกลายเป็นอากาศธาตุทันที ก่อนจะตีลังกาทรงตัว ไม่ทันที่จะได้ทรงตัวนานนัก หมัดของเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาก็พุ่งมาอีกครั้ง เขาก้มตัวหลบ ขาข้างซ้ายของเฟรจึงได้เวลาทำงาน เธอหวดเข้าไปเต็มแรง ร่างของเด็กหนุ่มผู้นั้นกระเด็นไปชนต้นไม้ใหญ่ทันที หากไม่มีต้นไม้นี้เขาคงกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร แล้วเฟรจึงวาดมือเกิดเป็นดาบคริสตัลของเธออีกครั้ง เธอเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้าหมายจัดการคนที่มาแช่งเธอซึ่งนอนไร้ทางสู้อยู่หน้าต้นไม้ใหญ่นั้น
“ขะ....ข้ายอมแล้ว เจ้านี่เก่งชะมัดเลย”เด็กหนุ่มลุกขึ้นกุมท้องตนเองที่จุกไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินเข้ามายังเฟรแล้วยื่นมือออกมาแสดงความเป็นมิตร “ข้าชื่อว่า ลูฟัส ยินดีที่ได้รู้จัก”
เฟรมองภาพตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะยื่นมือมาจับแสดงความเป็นมิตร
“ข้าชื่อ เฟร เฟเดอเรียส รอสวอตั้น”เธอแนะนำตัว ด้วยชื่อในร่างเด็กหนุ่ม พลางส่งรอยยิ้มอันเป็นมิตรไปให้ เธอทำให้ดาบคริสตัลนั้นกลายเป็นอากาศธาตุไป เธอเริ่มไว้ใจเขาผู้นี้ขึ้นมาแล้ว
“แล้วเจ้ากำลังจะไปที่ใด ข้าเห็นเจ้ามานอนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อคืน”ลูฟัสเอ่ยถามเธออย่างยิ้มแย้ม
“ข้าหรอ ข้ากำลังจะไปเข้าเรียนที่เซ็นฟรานเดียล แล้วเจ้าล่ะ”เฟรตอบแล้วเอ่ยถามกลับ
“เหมือนกับข้าเลย ในที่สุดข้าก็ได้เพื่อนร่วมเดินทางแล้วน่ะเนี่ย”ลูฟัสกล่าวด้วยความยินดี
“แล้วอีกไกลรึปล่าวล่ะ กว่าจะถึง”เฟรเอ่ยถามความเห็นของเพื่อนร่วมทาง เพราะตั้งแต่เดินทางมาเธอยังไม่รู้เลยว่าต้องเดินทางไกลเท่าไร
“อีกวันเดียวก็ถึง เอาเป็นว่าเจ้าไปล้างหน้าก่อนดีกว่า แล้วเราจะได้เดินทางกัน”ลูฟัสบอก เฟรเชื่อฟังแต่โดยดีแล้วจึงเดินไปยังลำธารตามทางที่เขาบอก เพื่อล้างหน้า
เธอกวักน้ำเข้าใส่ใบหน้าของตนเอง แล้วจึงมองลงไปยังลำธารนั้น ภาพสะท้อนจากภายในน้ำก็คือภาพใบหน้าเด็กชายที่มีใบหน้าหวานราวกับสตรี แต่แววตานั้นก็ยังคงความเข้มแข็งอยู่ ก่อนภาพสะท้อนนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นภาพใบหน้าขาวซีด แววตาที่อาฆาตแค้น กับนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“หึหึหึหึหึ”เสียงหัวเราะนั้นดังขึ้นจากผืนน้ำนั้น
“เฮ้ย!”เฟรผงะถอยออกไปด้วยความตกใจ จนเผลอถีบก้อนหินให้ตกลงไปในลำธารนั้น สายน้ำกระเพรื่อมขึ้น ภาพปริศนานั้นจางหายไป เฟรลุกขึ้นพลางเดินขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับภาพที่ปรากฏเมื่อครู่
“เป็นอะไรไป เฟร สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยดีเลย”ลูฟัสทัก
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ข้าว่าเรารีบเดินทางต่อดีกว่าน่ะ”เฟรเอ่ยพลางส่งยิ้มหวานให้ แล้วจึงเดินนำหน้าไป ทำให้ลูฟัสต้องส่ายหัวเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มแล้วจึงเดินตามไป
การเดินทางเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการหยุดพักกลางทางบ้างเป็นบางครั้ง ก่อนจะเดินทางต่อ เวลาผ่านไปจนถึงเวลาค่ำ ทั้งสองจึงหยุดพักแรมกลางป่า เต้นท์ของลูฟัสถูกกางออก กองไฟเล็กๆถูกจุดขึ้น เฟรไปนั่งอยู่หน้ากองไฟนั้น เธอนั่งชันเข่าขึ้นแล้วเอาใบหน้าวางบนเข่าก่อนจะกอดเข่าตัวเองแล้วจ้องไปภายในกองเพลิงนั้น
“เอ้า...กินซะสิ”ลูฟัสกล่าวพลางยื่นปลาย่างเสียบไม้ที่เพิ่งสุกหมาดๆมาให้เฟร เธอรับมันก่อนจะกัดกินไปนิดหนึง แล้วจึงมีสีหน้าอิ่มเอมใจอย่างเห็นได้ชัด
“อะไรจังเลย ข้าไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยน่ะเนี่ย”เฟรกล่าว พลางก้มหน้าลงไปทานปลาย่างนั้นต่อ
“เจ้านี่แปลกคนจังเนอะ ตอนแรกที่ข้าเห็นเจ้าข้าละนึกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงซะอีก ก็หน้าเจ้าเล่นเหมือนผู้หญิงซะขนาดนั้น”ลูฟัสเอ่ย พลางมองภาพเฟรทานปลาย่างอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนทั้งสองจะต้องชะงัก เพราะพลังเวทเย็นเยียบแผ่ซ่านออกมาทั่วบริเวณ
“เฟร หลบ!”เสียงตะโกนเตือนของลูฟัสที่ส่งไปยังเฟร ที่นั่งกินปลาย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทันทีที่คำเตือนมา เธอเอี้ยวตัวหลบทันที ลำแสงเยือกแข็งพุ่งเข้าใส่กองไฟ แทนที่จะเป็นเฟร กองไฟนั้นกลับกลายเป็นกองไฟแช่แข็งทันที
“ใครกัน!?”ลูฟัสลุกขึ้น วาดมือกลางอากาศ ดาบยาวสีเงินปรากฏขึ้น เขากระชับมันพลางส่งสายตาระแวดระวังไปทั่วบริเวณ
“พลังแบบนี้มัน....”เฟรเอ่ยด้วยใบหน้าตื่นๆก่อนปลาย่างของเธอจะตกลงบนพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก “รีบหนีเร็วเข้า!”
“อะไรน่ะ!?”ลูฟัสกล่าว ไม่ทันที่จะได้รับคำตอบ ร่างของเขาก็ถูกลากออกไปด้วยฝีมือเฟรซะแล้ว ลำแสงเยือกแข็งพุ่งตรงมาเป็นระยะๆไล่หลังทั้งสองคนไป ต้นไม้ตามทางกลับกลายเป็นต้นไม้แช่แข็งทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”ลูฟัสเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ และกำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่
“ขออย่าให้เป็นอย่างที่ข้าคิดเลยน่ะ”เฟรพึมพำกับตนเอง ก่อนลำแสงเยือกแข็งจะพุ่งเฉียดทั้งสองร่างไป ป่าตรงหน้าของทั้งสองคนกลับกลายเป็นป่าน้ำแข็งทันที ทั้งสองจึงต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับไปข้างหลัง อสูรน้ำแข็งปรากฏขวางทางเอาไว้ ร่างกายของมันเป็นน้ำแข็งสีซีดและมีหนามแหลมแทงขึ้นมา ร่างของมันเป็นเหมือนหมาป่ายักษ์ มันคือ หมาป่าเยือกแข็ง อสูรที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจที่สุดในป่าเลชู
เกลแห่งนี้
“มะ....หมาป่าเยือกแข็ง!”ลูฟัสเอ่ยตะกุกตะกัก เฟรวาดมือในอากาศดาบคริสตัลปรากฏมาภายในอากาศธาตุทันที ทั้งสองกระชับดาบในมือแน่นโดยหันปลายดาบไปยังอสูรร้ายตรงหน้า
ก่อนมันจะอ้าปากที่มีเขี้ยวน้ำแข็งอยู่มากมาย ไอพลังเยือกแข็งหมุนรวมที่ปากกว้างนั้น ก่อนจะยิงออกมาเป็นลำแสงเยือกแข็งเฉกเช่นเมื่อครั้งยิงดักหน้าพวกเธอเอาไว้ เฟรและลูฟัสกระโดดหลบออกไปคนล่ะฝั่งทันที พื้นตรงที่ทั้งสองคนยืนเมื่อครู่กลับกลายเป็นน้ำแข็งในทันที มันสะบัดขนตนเองครั้งหนึ่งเกิดเป็นหนามน้ำแข็งมากมายพวยพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคน ลูฟัสใช้ดาบนั้นกวัดแกว่งปัดแท่งน้ำแข็งนั้นออกไป
เพลงดาบจันทรา....เฟรเอ่ยภายในใจ ก่อนจะตั้งท่าชูดาบขึ้นเหนือศรีษะ เธอหมุนตัวเหวี่ยงดาบเป็ยวงกว้างตัดแท่งน้ำแข็งที่เข้ามา แล้วจึงกระชับดาบในมือแน่น กวัดแกว่งประจัญอย่างไม่กลัวเกรงไปตรงหน้าอย่างไม่หยุด แท่งน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาถูกฝ่าออกไปอย่างง่ายดาย ก่อนเธอจะกระโดดขึ้นสูงทาบกับแสงจันทร์
ชั่วพริบตานั้นลูฟัสเห็นเฟรในร่างหญิงสาวผมยาวสลวย กำลังร่ายรำทาบแสงจันทร์ ก่อนเธอจะหันปลายดาบลงมา แล้วพุ่งตรงไปยังอสูรน้ำแข็งนั้น แล้วความคิดนั้นก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะภาพที่ปรากฏคือสหายของเขาเอง เฟร ในร่างเด็กหนุ่ม ดาบนั้นหมายจัดการอสูรร้ายตรงหน้า แต่ดูเหมือนอสูรร้ายจะรู้เท่าทัน มันนสร้างม่านพลังน้ำแข็งขึ้น ทันทีที่ร่างบางนั้นพุ่งลงไปกระทบกับม่านพลัง เกิดแรงกระทบสนั่นหวั่นไหว ร่างนั้นกระเด็นออกไปไกลเลยทีเดียว
“อ๊าก!!”เสียงร้องของเฟรเขากระเด็นไปชนกับต้นไม้ใหญ่ ไหลร่วงลงมาทันที ก่อนจะหมดสติในเวลาต่อมา
“เฟร!”ลูฟัสเอ่ยด้วยความตกใจ ก่อนจะหันปลายดาบไปยังอสูรร้าย แล้ววิ่งเข้าไปทันที แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก พลังเวทประหลาดอีกสายแผ่ออกมาอย่างน่ากลัว เส้นใยเวทหนาพุ่งขึ้นจากพื้นดินเข้ารัดตัวอสูรร้ายนั้น จนมันต้องหมอบลงไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง ในช่วงแรกมันก็ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่นขึ้น แล้วเวลาผ่านไปไม่นานแรงมันก็หมดลง จึงหมอบลงอย่างสงบไร้ทางสู้
ลูฟัสแหงนหน้าขึ้นไปมองบนยอดต้นไม้ใหญ่ที่กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วนั้น ปรากฏร่างชายหนุ่มผมดำยาวประบ่า นัยน์ตาเย็นเยียบสีอเมทิสต์ ทอดมองลงมายังพื้นเบื้องล่าง นัยน์ตาที่ไม่อาจจะอ่านความหมายของมันได้ และในมือของเขาก็ได้ถือคทายาวสีดำและมีลูกแก้วสีแดงที่ดูเหมือนจะมีของเหลวหมุนวนอยู่ภายใน
“เจ้าเป็นใคร?”ลูฟัสเอ่ยถาม ชายผู้นั้นกระโดดลงมาจากยอดไม้นั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไม่สนใจคำถามของลูฟัส สร้างความหงุดหงิดใจแก่ลูฟัสได้เป็นอย่างดี ชายผู้นั้นเดินตรงไปยังร่างบางที่หลับใหลไปด้วยแรงโจมตีเมื่อครู่ เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากนั้นอย่างแผ่วเบา แสงสว่างเรืองขึ้นที่ฝ่ามือนั้น ออร่าบางๆไหลออกจากฝ่ามือเข้าสู่รอบร่างของเฟร แล้วเขาจึงเอาฝ่ามือออกจากหน้าผากนั้น เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีสติแล้ว
“เจ้าเป็นใคร?”คำถามเดียวกันกับที่ลูฟัสถาม แต่คราวนี้มันกลับออกมาจากปากของเฟร เสียงที่แผ่วเบาราวกับเหนื่อยอ่อนอย่างมาก
“ข้าชื่อ เซบัสเตียน เซนไฟวอร์ เรียกข้าว่า เซียส ก็ได้”คำถามที่ลูฟัสถามแล้วเขาไม่ยอมตอบ กลับเมินเฉยราวกับว่าลูฟัสไม่มีตัวตน แต่เมื่อเฟรเอ่ยถามเพียงแผ่วเบาเขากลับตอบด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“ข้าชื่อ เฟเดอเรียส รอสวอตั้น หรือเรียกสั้นๆว่า เฟร”เฟรแนะนำตนเองเช่นกัน ก่อนเซียสจะส่งมือมาให้เธอ เธอเอื้อมไปจับ ก่อนเขาจะดึงตัวเธอขึ้น
เธอปัดฝุ่นตามตัวเล็กน้อย แล้วจึงเดินไปหาลูฟัสที่ทำหน้ามุ่ยเป็นสุนัขไม่ได้รับประทานอาหารอยู่ข้างหน้า
“นี่เพื่อนของข้าชื่อว่า ลูฟัส”เฟรแนะนำตัวลูฟัสให้แก่เซียส ก่อนจะหันมาบอกลูฟัส “ส่วนนั่นคือเซียส”
“ใครสนเล่า”ลูฟัสมีท่าทีไม่สนใจ ก่อนจะเดินออกไปทันที จนเฟรต้องรีบตามไป
“เป็นอะไรของเจ้าน่ะ ลูฟัส”เฟรเข้าไปถามพลางตีบ่าเบาๆ
“ข้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เจ้าไปดูแลเพื่อนใหม่ของเจ้าเถอะ ข้าจะเดินทางแล้ว”ลูฟัสทำงอนที่เห็นว่าเธอดูจะให้ความสนใจกับเซียสเป็นพิเศษ
“เจ้าอย่าคิดมากน่า”เฟรพยายามปลอบ
“พวกเจ้ามีอะไรกันรึปล่าว”เซียสเข้ามาถามด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนว่าจะตีความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง
“ปล่าวหรอก ....แล้วเจ้าเซียส เจ้ากำลังจะไปไหนล่ะ”เฟรออกตัวถาม
“โรงเรียนพระราชา”เซียสตอบเสียงเรียบ
“งั้นก็ทางเดียวกันเลย ไปพร้อมกับพวกเราเลยสิ”เฟรเอ่ยถามความสมัครใจต่อ
“ถ้าเพื่อนของเจ้าไม่รังเกียจข้า ข้าก็ไปได้”เซียสเอ่ยพาดพึงไปถึงลูฟัสที่ยืนกอดอกไม่พอใจอยู่
“ว่าไงล่ะ ลูฟัส”เฟรหันไปถามความเห็นของสหายร่วมทางของเข้าก่อน
“ก็แล้วแต่เจ้าสิ”น้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนคนแรกของเขา จึงได้ตอบตกลงเป็นนัยๆ
“งั้นก็ตกลงตามนี้น่ะ เอาเป็นว่าวันนี้พวกเราพักผ่อนกันก่อน รุ่งขึ้นพวกเราจะเข้าสู่โรงเรียนพระราชากัน”เฟรเอ่ย
แล้วในคือนั้นทั้งสองคนก็ได้เพื่อนร่วมทางมาใหม่อีกหนึ่งคน เต้นท์ใหญ่ถูกกางออกและภายในก็ได้มีร่างสามร่างกำลังนอนพักผ่อนอย่างสบายอยู่ภายใน โดยไม่มีใครรู้เลยว่าหนึ่งในนั้นคือองค์หญิงรัชทายาทเพียงผู้เดียวของราชวงศ์เรเวนอส ราชวงศ์ผู้ปกครองแคว้นซูวีนอน เธอก็ดูเหมือนจะมีความสุขที่ได้ผจญภัยเป็นครั้งแรก จงหลับให้สบายเถอะ องค์หญิงเฟรย่า ในร่างเด็กหนุ่มนามว่า เฟร โดยที่ไม่รู้เลยว่าสายตาอันชั่วร้ายกำลังจับจ้องมายังที่ที่ทั้งสามคนหลับอยู่ ฉับพลันนั้นกองไฟที่จุดอยู่นอกเต้นท์ก็ได้ถูกลมประหลาดพัดดับไป พร้อมกับแววตาชั่วร้ายนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน
................................................................................................................
ความคิดเห็น