คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หนี
เซ็นฟรานเดียล อหังการศึกมหาเวทย์ 1
ในช่วงเวลาที่ชาวซูวีนอนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนในอาคารบ้านเรือนของตนเอง เด็กสาวเจ้าของเรือนร่างบาง ผมสีเทาของเธอยาวเป็นประกายยามอยู่ใต้แสงจันทร์ กับนัยน์ตาสีฟ้าสดใสของเธอที่ตัดกับสีเส้นผมโดยสิ้นเชิง
เธอกำลังวิ่งวุ่นอยู่ภายในเมืองใหญ่ที่คลาคล่ำไปด้วยแสงสียามราตรี เธอวิ่งราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่างมา ด้วยสีหน้าตื่นที่แฝงความหวาดกลัวอยู่ภายใน เธอวิ่งเลี้ยวเข้ามาในซอกตึกของอาคารแห่งหนึ่ง
คงจะหลบได้สักพักล่ะน่ะ....เธอพึมพำในใจ พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วความสงบที่มาเยือนเธอได้เพียงไม่นานก็ต้องถูกทำลายลง เมื่อเงามืดของบุรุษสามคนต่างวิ่งตรงมา แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“กลับไปกับพวกกระหม่อมเถอะ องค์หญิงเฟรย่า” ชายร่างสูงในชุดราชองครักษ์เดินเข้ามาช้าๆด้วยสีหน้าอ้อนวอน เขากำลังกล่าวกับเด็กสาวตรงหน้าที่เรียกว่า ‘องค์หญิง’
“ข้าไม่กลับ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า” น้ำเสียงเอาแต่ใจของหญิงสาวนามว่าเฟรย่าตรงหน้าเอ่ยออกมาอย่างดื้อดึง
“ท่านทำเช่นนี้ องค์ราชาจะทรงกังวลพระทัยมากน่ะพ่ะย่ะค่ะ” ราชองครักษ์อีกคนช่วยเสริมพยายามโน้มน้าวองค์หญิงให้กลับไปให้จงได้
ข้าจะไม่มีวันกลับไปเด็ดขาด ที่ที่ไม่มีใครรักข้าเลยแม้แต่คนเดียว.....เสียงร้องในใจขององค์หญิง ช่างเป็นเสียงที่แสดงถึงความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมาก จะมีมั้ยสักคนที่จะเข้าใจความรู้สึกของเธอ
เมื่อคนที่เธอเรียกว่าท่านพ่อ กลับจะยื่นตัวเธอให้กับเจ้าชายที่เธอไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ เธอรู้แต่เพียงว่าเธอกำลังจะถูกหยิบยื่นเป็นเครื่องราชบรรณาการแก่เจ้าชายของแคว้นอันไกลโพ้น ด้วยเหตุที่ว่าพ่อของเธอทำศึกสงครามแล้วสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความพ่ายแพ้ และเพื่อไม่ให้เมืองของตนเองต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้กุมชัยชนะในศึกสงคราม พระองค์ต้องส่งบุตรีเพียงคนเดียวที่มีอยู่ ให้ไปรับตำแหน่งราชินีโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมเลยแม้แต่น้อย และสิ่งเดียวในเวลานั้นที่เธอคิดได้ก็คือ ต้องหนีเท่านั้น!!
“ข้าไม่สน! เจ้าหลีกไป! ไม่งั้นจะหาว่าข้าไม่เตือนไม่ได้”คำขู่ของหญิงสาวร่างบางตรงหน้า ไม่ได้สร้างความกลัวแก่ราชองครักษ์ทั้งสามเลยแม้แต่น้อย หากแต่ภาพเบื้องหน้าในเวลานี้คือความลำบากใจเท่านั้นที่เหลืออยู่ พวกเขารู้ดีว่าองค์หญิงรู้สึกอย่างไร แต่ในเมื่อมันคือบัญชาจากผู้ที่ได้ชื่อว่า กษัตริย์ ย่อมปฏิเสธมิได้
“ข้าพระองค์ทำตามที่องค์หญิงรับสั่งไม่ได้เป็นอันขาด จงกลับไปแต่โดยดีเถอะพะย่ะค่ะ”ราชองครักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงลำบากใจ นัยน์ตาฉายแววลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าเป็นองครักษ์ของข้า เจ้าต้องช่วยเหลือข้าสิ เจ้ามาทำเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง”หญิงสาวร่างบางเอ่ย
“พวกข้าจะช่วยท่านก็ได้ หากแต่ว่าเมื่อเวทที่พวกข้าร่ายเสร็จแล้ว พระองค์จะต้องรีบหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ คงเข้าใจน่ะพ่ะย่ะค่ะ” ในที่สุด ความใจอ่อนก็ปรากฏต่อราชองครักษ์ทั้งสาม รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าขาวเนียนของหญิงสาวทันที ก่อนทั้งสามจะไปยืนรอบตัวองค์หญิง
“ข้า เซอเบรัส”
“ข้า ไอออนเฟล”
“ข้า เมอร์ล็อต”
ราชองค์รักษ์ทั้งสามเอ่ยเรียงกันตามยศที่ปรากฏ เซอ คือยศสูงสุดขององครักษ์ ไอ คือยศรองลงมา ส่วนเมอร์ คือยศที่อยู่ต่ำสุดขององค์รักษ์ แต่ชื่อนำหน้าก็ไม่ใช่เป็นเครื่องวัดฝีมือของแต่ล่ะคน ความสามารถต่างหากที่ใช้บ่งชี้ฝีมือของคนแต่ล่ะผู้
“ด้วยพลังอำนาจแห่งซูวีนอน จงประทานพลังให้แก่พวกข้า เพื่อช่วยเหลือราชบุตรีแห่งดินแดนด้วยเถิด” ทั้งสามเอ่ยพร้อมกัน วงเวทอักขระโบราณปรากฏขึ้นใต้เท้าของบุคคลทั้งสี่ โดยมีองค์หญิง
เฟรย่าเป็นศูนย์กลาง แสงสีทองเรืองรองขึ้น ท่ามกลางความมืดยามราตรีแห่งซูวีนอน ก่อนหมอกสีทองอร่ามจะเคลื่อนหมุนวนรอบกายบางขององค์หญิงอย่างช้าๆ ก่อนกลุ่มหมอกทั้งหมดจะรวมตัวที่องค์หญิง
บังเกิดแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นในซอกตึกที่มืดมิด ร่างบางของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนไป แขนเรียวยาวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นต้นแขนแข็งแกร่งเหมือนเด็กหนุ่ม ผมยาวสีเทาที่เคยยาวถึงกลางหลัง บัดนี้กลับกลายเป็นผมสั้นระต้นคอเฉกเช่นเด็กหนุ่มทั่วไป และใบหน้าขาวหวานก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าคมคาย นัยน์ตาที่ดูพราวระยับแปรเปลี่ยนเป็นนัยน์เยี่ยงบุรุษ กับชุดนุ่งห่มที่เปลี่ยนไปเป็นชุดเหมือนกับเด็กหนุ่มสามัญชนทั่วไป
“พะ....พวกเจ้า ทำอะไรกับร่างของข้า”น้ำเสียงที่เคยหนุ่ม หวาน แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงทุ้ม แต่ยังคงความนุ่มอยู่
“นี่เป็นวิธีเดียวที่องค์หญิงจะรอดพ้นจากการหาตัวขององค์ราชาได้ ขอให้พระองค์หนีไปทางทิศตะวันออก ณ ที่นั่นจะมีโรงเรียนราชาเซ็นฟรานเดียลก่อตั้งอยู่ พระองค์จะต้องทรงเข้าไปเรียนในฐานะสามัญชนทั่วไป ส่วนเรื่องเข้าเรียนพวกข้าทั้งหมดจะติดต่อให้ในภายหลัง นี่เป็นวิธีเดียวที่ท่านจะสามารถหนีไปได้ ขอให้พระองค์ทรงโชคดี”ราชองค์รักษ์เซอเบรัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนองค์หญิงจะหันหลังแล้วพยายามจะวิ่งไป
“ขอให้พระองค์ทรงจำไว้ว่า เวทนี้จะเสื่อมอำนาจลงในคือจันทร์ดับ พระองค์จะกลับคืนเป็นหญิงอีกครั้ง”ราชองค์รักษ์ไอออนเฟลเอ่ยเตือน
“ข้ารู้แล้วน่า”น้ำเสียงที่ดูจะตื่นเต้นกับร่างใหม่นี้ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ขอให้ท่านโชคดี องค์หญิงเฟรย่า”ราชองค์รักษ์เมอร์ล็อตเอ่ยอวยพรอีกคน
“ตอนนี้ข้ามีชื่อว่า เฟเดอเรียส รอสวอตั้น ไม่ใช่ องค์หญิงเฟรย่าของเจ้าอีกแล้ว จงจำเอาไว้ด้วย”เด็กหนุ่มเอ่ยเตือนแก้ชื่อใหม่ ที่ตอนเองเพิ่งตั้งขึ้นมาสดๆ
ราชองครักษ์ทั้งสามโค้งคำนับให้ความเคารพครั้งสุดท้าย องค์หญิง...ไม่สิ....ต้ององค์ชาย หันมาส่งรอยยิ้มขอบคุณให้แก่ทั้งสาม หากไม่ได้คนทั้งสามนี้ เธอคงต้องกลับไปรับตำแหน่งราชินีโดยไม่เต็มใจ ก่อนเธอจะหันหลังแล้ววิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมาอีก
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันล่ะเนี่ย”เมอร์ล็อตเอ่ยพลางเกาหัวแกรกๆ
“พวกเจ้าก็ต้องรับทัณฐ์จากข้ายังไงล่ะ”เสียงแหบพร่าที่แฝงไปด้วยพลังเอ่ย มาพร้อมกับลำแสงสามสายที่แล่นทะลุผ่านร่างของราชองค์รักษ์ทั้งสาม ตัดขั้วหัวใจทันที ทั้งสามจบชีวิตลงภายในพริบตา
“หึ....องค์หญิงเฟรย่า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหนีไปได้ตลอดแน่นอน หึหึหึหึ”เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังออกมาจากริมฝีปากของชายปริศนา ราตรีนี้จบสิ้นลงด้วยการสูญเสียราชองค์รักษ์สามคนไป และผู้ที่กำลังหลบนี้ซึ่งกำลังถูกคาดโทษจากชายปริศนา นี่เพิ่งเริ่มต้น การต่อสู้ห่ำหั่นของสุดยอดมหาเวทคือเรื่องราวต่อจากนี้ต่างหาก
ความคิดเห็น