ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OS/SF ๐Take Care๐ All x Tao

    ลำดับตอนที่ #1 : SF // Meet // HunTao

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 57


     











    ด้ายแดง

     

     

      ความเชื่ออันนึงที่เชื่อว่า.. คู่ชีวิตที่แท้จริงจะมีด้ายสีแดงผูกที่นิ้วก้อยข้างซ้าย เชื่อมกันไว้ รอจนวันนึง..ด้ายสีแดงนี้จะนำให้เขาทั้งสองมาพบกันและรักกันในที่สุด...

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ม๊าฮะ   คู่ชีวิตคืออะไรหรอฮะ” เด็กน้อยที่นอนหนุนตักผู้เป็นแม่ถามออกมาอย่างใสซื่อ  แววใสส่องวาวเป็นประกาย

     

    “อืม  คือคนสองคนที่อยากใช้ชีวิตร่วมกันไงครับ” คนเป็นแม่ตอบอย่างเอ็นดู  “ไม่ว่าจะยามทุกข์ยามสุข ยิ้มหรือร้องไห้ก็จะอยู่ข้างกันตลอด” พูดจบคนเป็นแม่ก็ส่งยิ้มหวานให้เด็กน้อย

     

    “เทา ไม่เห็นเข้าใจเลยทำไมต้องยิ้มด้วยกันร้องไห้ด้วยกันด้วย  เทาอยากยิ้มอยากเดียวไม่ได้เหรอ” เด็กน้อยขมวดคิ้วจนเป็นปม

     

    “ไม่ได้หรอกครับ เราต้องอยู่เคียงข้างกันเสมอ  เหมือนป๊ากับม๊าไงครับ” คุณแม่ตอบคำถามเจ้าหนูจำไมก่อนจะหอมแก้มป่องๆนั้น

     

    “งือ  งั้นทำยังไงเทาเทาจะเจอคนนั้นละครับ” เจ้าหนูจำไมถามแม่ต่อ

     

    “อืม  เขาว่ากันว่าคู่ชีวิตของเราจะอยู่อีกฝั่งของด้ายแดงที่ผูกกับนิ้วของเรา” เด็กน้อยรีบยกมือน้อยๆขึ้นมาดูด้วยแววตาสงสัย ”ถ้าจื่อเทาอยากเจอคนนั้นของหนู หนูก็ลองหาคนที่อยู่ปลายเส้นด้ายให้เจอสิ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงง

    เสียงนาฬิกาปลุกที่วางอยู่บนหัวนอนร่างโปร่ง ส่งเสียงร้องอย่างขยันขันแข็ง คุ้มค่ากับพลังงานถ่านที่มันกินเข้าไป จนทำให้คนเป็นเจ้าของทนไม่ไหวเอื้อมมือมาปิดเสียงที่รบกวนการนอนของเขา

     

     

    “อืม..” เจ้าของผมสีเข้มครางเสียงในลำคอ พรางบิดขี้เกรียจ  ก่อนจะลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีสลืมสลือ

     

    “เหมียว....เหมียว” ด้วยความที่เห็นเจ้านายขี้เซา  ทำให้เจ้าแมวขนฟูทนไม่ได้จนต้องกระโดดขึ้นเตียงส่งเสียงร้องปลุกเจ้าของแทนนาฬิกาอีกครั้ง

     

     

    “หืมว่าไง จิงจิง  หิวข้าวแล้วหรอ” จื่อเทาอุ้มเจ้าเหมียวขนฟูมากอด “รอป๊าแปลงฟันก่อนนะจะหาอะไรให้กิน” เจ้าของตาคมบอกกับลูกรักก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำโดนทิ้งให้แมวน้อยเดินตาม

     

     

     

    ติ๊งต๊องๆ

     

    เสียงออดหน้าห้องทำให้คนที่กำลังแปลงฟันอยู่เป็นอันต้องหยุดกิจกรรมนั้นของเขาลงเพื่อจะมาดูต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

    กริ๊ก!

     

    “เว้ย กว่าจะเปิดได้นะมึงให้กูยืนรอจนรากงอก   นัดกูมาเองแท้ๆ” คนต้องหน้านี้ทำให้จื่อเทาต้องหยุดชะงัก ไม่ใช้เพราะออร่าความขาวระดับโอโม่หรือสัดส่วนที่เข้ารูปแต่ว่าเป็นเพราะ “อ้าว  ไม่ใช่ไอ้ปาร์คนี่หว่า” คนที่ยืนกดมือถือตั้งแต่เขาเปิดประตูเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมารับรู้ความจริง

     

    “เอ่อ  ถ้าจะหมายถึงคุณปาร์ค ชานยอล ห้องนั้นรึเปล่าครับ” ผมชี้ห้องข้างๆที่ผนังห้องติดกัน ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เจ้าของชื่อก็ปรากฏตัวข้างหลังชายตรงหน้า

     

    “อ้าว เทาวันนี้ตื่นไวนะเนี่ยเรามีเรียนเหรอ” เจ้าของเสียงทักขึ้นอย่างสดใสพร้อมยิ้มอวดฟันขาวครบ32ซี่  “เฮ้ย มาได้ไวนี่หว่ามึง” เศรษฐีฟันหันไปเห็นเพื่อนตัวเองก็อุทานอย่างตกใจ

     

    “อ้าว ก็มึงบอกกูให้มาใน20นาทีกูก็ทำให้แล้วไง  ไง๊มึงพูดงี้วะ” เจ้าของผิวขาวผ่องพูดขึ้นอย่างเคียงๆ

     

    “เออวะ  แล้วมึงมาทำไรหน้าห้องเทาวะ อย่าบอกนะมึง....กิ้วๆจะเต๊าะก็บอก”  ชานยอลชี้นิ้วล้อเพื่อน ด้วยท่าทีสนุกแต่เมื่ออีกคนจะดูไม่เล่นด้วย

     

    “เต๊าะพ่อง  กูนึกว่าห้องมึงเว้ย” คนตัวขาวตะโกนใส่หน้าเพื่อน จนใบหูเริ่มขึ้นสีไม่รู้เพราะความโกรธหรืออะไร

     

    “อ้าวหรอ  ฮ่าๆ  แหมแค่นี้ทำเป็นเคียง ไปเข้าห้องเว้ย ห้องกูห้องนู้น” ชานยอลยิ้มประจบและเอาแขนพาดบ่าคนตัวขาวกว่า “พี่ไปแล้วนะจื่อเทา  อะพี่แบ่งโจ๊กให้ว่างๆก็อย่าลืมพาจิงจิงไปเล่นที่ห้องพี่นะ” คนตัวสูงยิ้มสวยก่อนจะขยิบตาส่งเป็นนัยๆ “ไปเว้ยเซฮุน”

     

    ทำให้คนที่ชานยอลกล่าวถึงรับถุงโจ๊กและมองตามร่างสูงอย่างงงๆ  แต่ก่อนที่จะหมุนตัวกลับเข้าห้องก็สบกับใสตาคู้หนึ่งที่มองกลับมา ทำให้จื่อเทาต้องนิ่งไปเพราะนัยตาคู่นั้นดูเหมือนต้องการจะสื่ออะไร  แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะมีเสียงเรียกจนเจ้าของสายตานั้นต้องเดินเข้าไปในห้อง                                    

    เมื่อกี๊ขานยอลเรียกว่าอะไรนะ        เซฮุน   เหรอ

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี่จื่อเทา  วันนี้ไปกินไอติมกันนะ คุณบีอยากกินไอติม” เพื่อนสนิทจื่อเทาที่ได้ฉายาว่าลูกหมา  ส่งสายตาออดอ้อนพร้อมเอาหัวถุยๆมาชนหัวไหล่จื่อเทา ที่กำลังจะหยิบน้ำขึ้นดื่ม

     

    “ยังจะกินอีกเหรอ  ไหนบอกน้ำหนักขึ้นจะลดไม่ใช่เหรอ หรือกูจำผิด” แทนที่จะได้คำตอบกลับได้หมัดหนักๆกลับมาแทน

     

    “มึงไม่ต้องมาพูดเลยมึงไม่เข้าใจกูหรอก  ว่ามันแสลงใจแค่ไหน” จื่อเทามองเพื่อนตัวดีเอือมๆก่อนจะลุกหนี “เฮ้ยๆ  มึงจะไปไหนรอกูก่อน       นะคุณจื่อพาคุณบยอนไปกินติมเถอะ สัญญาว่าจะไม่หลับในคลาสอีก” จนแล้วจนรอดก็ไม่พ้นเรื่องเดิม

     

    “มันเป็นเรื่องที่คุณบยอนต้องทำอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ  แล้ววันนี้คุณจื่อก็ได้เอารถมาจบนะ” จื่อเทาเหล่มองเพื่อนตัวดีก่อนจะพูดอย่างตัดเยื่อใย

     

    “เออจำไว้เลยนะมึง  มีเพื่อนดีๆแบบกูไม่หัดตามใจ กูมีแฟนเมื่อไหร่ หางตากูก็จะไม่แล” แบคฮยอนพูดอย่างเอาแต่ใจ กอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้น  จนทำให้จื่อเทาต้องส่ายหัวอย่างละอา

     

    “งั้นแยกกันตรงนี้นะกูจะไปเดินตลาดก่อน  โชคมึง” จื่อเทาโบกมือลา แต่แบคฮยอนก็ทำเป็นไม่สนใจแต่ก่อนที่หันหลังเดินจากไปก็ยกมือลาอย่างวางฟอร์ม จนทำให้จื่อเทาหลุดยิ้มออกมา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ป้าฮะ  เอาชานมใส่ไข่มุกด้วยนะครับ  ฝากไว้ก่อนเดี๋ยวผมมาเอา” จื่อเทาเดินไปสั่งแม่ค้าร้านประจำเหมือนเดิมเกือบทุกวัน “เอ่อ ป้าผมขอเปลี่ยนเป็นโกโก้แทนนะ” แม่ค้าเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ก่อนจะกลับไปทำน้ำให้ลูกค้าคนอื่นต่อ

     

    จื่อเทาเป็นคนที่ใช้ชีวิตง่ายๆ  จนทำให้เพื่อนคิดว่าบางทีจื่อเทาก็ใช้ชีวิตง่ายเกินไป  อาจจะเป็นเพราะเขาถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าให้เป็นคนว่านอนสอนง่าย  ใครๆก็ว่าจื่อเทานั้นน่าอิจฉา เพราะเป็นถึงลูกเจ้าของบริษัทรถนำเข้า  แต่เขากลับไม่คิดอย่างนั้นเพราะคนที่รวยไม่ใช่เขาหนิแต่เป็นพ่อแม่เขาต่างหาก  จื่อเทาเลยเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบๆ  ไม่ฟู่ฟ่าเหมือนเพื่อนบางคนในคณะทำอยู่ในตอนนี้

     

    ตอนสอบติดมหาลัยรัฐฯ  จื่อเทาขอพ่อแม่ที่จะอยู่หอ แต่โดนคัดคานอยู่พอสมควรไม่ว่าจะจากแม่หรือพี่ชายที่รู้สึกจะห่วงน้องมากไป

     

    แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมลูกมึนของจื่อเทาแต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่คอนโดที่แม่กับพี่ชายเลือก จื่อเทาก็ไม่คิดจะขัดอะไรและเลือกที่จะปฏิบัติตาม จนจำให้แม่ยอมวางใจ แต่ไม่ใช่กับพี่ชายหน้าละอ่อนนามมินซอก พี่ชายของเขาเลือกที่จะเพิ่มข้อแม้อีกข้อคือยกรถบีเอมให้เขามาขับ จื่อเทาก็รับมาโดยไม่โต้เถียงอะไร

     

    แต่ให้รถก็ไม่ได้บังคับหนิว่าต้องใช้ เขาเลยเลือกที่จะทิ้งบีเอมไว้ที่คอนโดและขึ้นรถเมล์มาเรียนแทน  การเดินทางจากคอนโดมามหาลัยของเขาก็ไม่ได้ลำบากอะไร ระยะทางห่างกันเพียงแค่3ป้ายรถเมล์เท่านั้น  เดินมายังได้

     

    จื่อเทาเริ่มเดินตลาดตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย ตลาดนัดนี้ค่อนข้างใหญ่เพราะว่าอยู่ใกล้มหาลัย และมีออฟฟิคอยู่ชุกชุม ทำให้มีคนจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนไม่น้อย มีทั้งเด็กหมาลัยอย่างเขา หนุ่มสาวชวนออฟฟิคและชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนี้

     

    “เป็นไงพ่อหนุ่มไม่เจอกันหลายวันเลย  นึกว่าจะไม่มาอุดหนุนป้าสะแล้ว” แม่ค้าขายปลาทูทอดต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม “เอาเหมือนเดิมใช่ไหม รอเดี่ยวนะ” ป้าแกยิ้มให้แล้วหันไปกลับปลาที่กำลังทอด

    “ป้าแถมให้อีกตัว   ไม่ต้องเกรงใจๆ  แค่มาเป็นอาหารตาให้ป้าก็พอแล้ว” ป้าเขาไม่ต้องรอให้ผมพูดอะไรก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ

     

    “ขอบคุณมากครับป้า  จิงจิงคงชอบในน่าดู” ผมยิ้มให้แกก่อนจะผละหนีออกมา  ยิ่งเย็นคนก็ยิ่งเยอะ  ผมสำรวจของที่ซื้อก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากตลาด  โดยตรงหน้าไปหาร้านน้ำเจ้าประจำก่อน

     

    “อ้าวหนุ่มมาพอดีๆ  ได้แล้วนะจ้ะ” ขณะที่ผมกำลังจะเอือมมือไปรับกลับมีมือปริศนาที่ไหวกว่าคว้าเข้าที่แก้ว  จนทำให้ผมหันมองอย่างสงสัย ทำให้ประสานสายตากับเจ้าของมือผิวน้ำนม “ของหนุ่มอันนี้จ้ะ เหมือนกันป้าเลยเรียกพร้อมกัน” แม่ค้าเรียกเขาอีกครั้งและยืนแก้มน้ำให้มา

     

    “มาคนเดียวหรอ” จู่คนคนข้างๆที่ดูดโกโก้อยู่ก่อนถามขึ้น  ทำให้จื่อเทาหันไปมองอย่างสงสัย เพราะดูคำถามจะไม่เจาะจงใครเป็นพิเศษ “ชั้นถามนายอะแหละมาคนเดียวหรอ”

     

    “อ่า ครับ มาคนเดียว นายมาคนเดียวหรอ” จื่อเทาเลือกที่จะถามคำถามของกลับไป

     

    “อืม ...” ถึงจะเดินห่างจากร้านน้ำแล้วสองคนก็ยังคงเดินคู่กันมา แต่เหมือนจะต่างคนต่างเดินมากกว่า เพราะไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นเลย “ให้ไปส่งไหม” ท่ามกลางความเงียบเจ้าของผิวน้ำนมพูดขึ้น และหยุดเดินเพื่อมองคู่สนทนา

     

    “ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมกลับเองได้” จื่อเทาเลือกที่จะปฏิเสธเพราะคำนวณดูแล้วมันไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ต้องให้คนๆนี้ไปส่งเขาที่คอนโด

     

    “เถอะน่า ชั้นจะไปหาขานยอลพอดี ไม่ต้องกลัวชั้นหรอกชั้นชื่อเซฮุน” เจ้าของประโยคไม่พูดเปล่าดึงถุงหิ้วที่มือจื่อเทาออกมาข้างหนึ่งก่อนจะเดินนำออกไป โดยไม่คิดจะหันมองจื่อเทาที่มองตามแผ่นหลังนั้นไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี่นายอยู่ห้องคนเดียวหรอ” เซฮุนถามขึ้น ในขณะที่เขาเข้ามาตากแอร์ดูทีวีในห้องนี้ร่วมครึ่งชั่วโมง

     

    “เปล่านะ จิงจิงก็อยู่ด้วย” จื่อเทาอุ้มแมวอ้วนที่เพิ่งกินข้าวคลุกปลาทูขึ้นมาว่างบนตักที่นั่งโซฟาดูทีวีอยู่ข้างๆเซฮุน

     

    หลังจากคนผิวดีนามว่าเซฮุนอาสาที่จะพาเข้ามาส่งที่หอ เหตุปัจจัยเพราะว่าเขาจะมาหาเพื่อนพอดี  แต่พอมาถึงหน้าห้องคนเป็นเพื่อนเข้าจริงๆกลับไม่มีสัญญาณตอบรับและไร้งี่แววของสิ่งมีชีวิตภายในห้อง  เขาเลยชวนให้มานั่งรอในห้องเขาก่อน

     

    ไหนก็มาส่งแล้ว ให้นั่งรอในห้องหน่อยคงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าความเงียบที่ดำเนินไปเรื่อยๆ    ทำให้เกิดไอบางๆ ที่รู้สึกอบอุ่นก่อตัวขึ้นและแพร่ขยายซึมเข้าไปใจจิตใจของทั้งสองคน

     

     

     

     

     

    เม้ามอยๆ

    ขอบคุณคะที่เข้ามาอ่าน   อยากบอกว่าไม่ใช่นักแต่งหน้าใหม่ อยากบอกว่าเก่ามาก  แต่ไม่เคยแต่งจบสักเรื่อง ฮ่าๆ  เรื่องนี้แต่งเพื่อสนองนีด    ก็ไม่มีไรมากแค่อยากให้เทาเคะบ้าง  ผิดเหรอที่เค้าอยากให้เมนมีคนดูแล  ฝากติดตามด้วยนะ   บาย see you next time  xoxo.

     

     




     

     

     

     

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×