ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OS/SF ๐Take Care๐ All x Tao

    ลำดับตอนที่ #3 : SF // Sweet // ChanTao

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 58


















    ความรักก็เหมือนยาเสพติด  แค่คิดจะลองก็ถอนตัวไม่ขึ้น
    !!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “วันนี้มีอะไรกินเนี่ย  กลิ่นหอมเชียว” คนตัวสูงว่าพรางจุมพิตลงบนแก้มนวล  คนตัวเล็กกว่าหันไปยิ้มกว้างรับ

     

    “ก็หมูผัดกิมจิของโปรดพี่ไง”

     

    “ว้า  พี่นี่ช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ”

     

    “ทำไมละครับ?

     

    “ก็เพราะมีจื่อเทาเป็นแฟนพี่ไงครับ”  แล้วคนตัวโตก็จุมพิตที่ปากเล็กนั้น  เหมือนเป็นรางวัล

     

    “ยอลลี่ก็ปากหวานตลอดละ  ไปรอที่โต๊ะเถอะเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” คนตัวโตละออกมา แทนที่จะนั่งรอก็ช่วยจัดแจงโต๊ะอาหารและเครื่องดื่ม  ไม่นานอาหารต่างก็ถูกลำเลียงมาวางบนโต๊ะอาหาร  อาหารมื้อนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษ  มีเพียงอาหารสองสามอย่างโดยจื่อเทาเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมด

     

    “เออเทา  พี่ลืมบอกไปน่ะ” จื่อเทามองหน้าชานยอลอย่างไฉน ”พรุ่งนี้เพื่อนพี่ที่เพิ่งมาจากจีน จะมาอยู่กับเราสักอาทิตย์นะ  พอดีมันเพิ่งโดนย้ายมาทำงานที่นี้เลยยังไม่มีที่พักเลย”  จื่อเทายิ้มรับคนรัก

     

    “ก็ดีสิครับ  พี่ชานยอลจะได้มีเพื่อนคุยเยอะๆ   ไม่ใช่มัวแต่ทำงานอย่างเดียว” คำประชดของคนรักทำให้ชานยอลอดไม่ได้ทีจะเอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นนั้น

     

    “แค่เห็นหน้าเทาเทาพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว”

     

    “ขอให้จริงเหอะ  ไม่ได้แอบมีกิ๊กอยู่หรอกนะ” จื่อเทาหลีตาแล้วเอาส้อมชี้ไปทางชานยอล

     

    “ฮะๆ  แฟนน่ารักขนาดนี้นอกใจก็บ้าแล้ว”

     

    “ใครจะไปรู้ล้า  ก็ยอลลี่ของเทาเทาหล่อขนาดนี้นี่นา”  ด้วยความหมั่นเขี้ยวคนรัก เลยทำให้ชานยอลลุกจากเก้าอี้แล้วยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อแตะริมฝีปากลงบนฝีปากนุ่มนั้น

     

    “อาหารวันนี้อร่อยมากเลยละ”  คนที่กำลังนิ่งค้างอยู่เป็นอันหน้าเห่อร้อนขึ้นมา

     

    “อร่อยก็กินไปเลยนะ” คนตัวเล็กกว่าแก้เขินโดยการตักของโปรดใส่ปากคนตัวโต “กินไปเยอะๆเลยนะจะได้โตเร็วๆ”  เมื่อเห็นคนรักทำแบบนี้ คนตัวโตกว่าก็ยอมไม่ได้ตักอาหารป้อนให้เหมือนกัน

     

    “งั้นจื่อเทาก็ต้องกินเยอะๆจะได้โตทันสะที” คนตัวโตยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเห็นคนรักอมลมจนแก้มป่อง  แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นการผลัดกันป้อนเสียมากกว่า  ถึงจะมีผู้อาศัยอยู่เพียงสองคนแต่ความอบอุ่นก็อบอวลไปทั่วทุกพื้นที่    

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ยอลลี่  เทาเทาอยากไปนัมซาน” เจ้าของหัวกลมมนที่อยู่บนตักของชานยอลพูดขึ้น  แล้วเงยหน้าสบการตาคนที่อยู่สูงกว่า “เทาเทาอยากขึ้นไปบนโซลทาวเวอร์”  แล้วสายตาออดอ้อนของลูกแมวก็ถูกส่งมา

     

    “ไปตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เบื่ออีกเหรอ หืม” ชานยอลก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มเจ้าคนขี้อ้อน

     

    “ยังไม่เบื่อเลย  นานะ” เจ้าลูกแมวตัวเดิมก็ยังไม่ละความพยายาม

     

    “งั้นถ้าพี่พาไป  พี่จะได้อะไรละ”

     

    “เทาเทาก็จะรักยอลลี่เพิ่มขึ้นมากๆๆๆๆๆๆเลยไง” เจ้าคนขี้อ้อนซุกหน้ามุดเข้าไปที่หน้าท้องของชานยอล  ท่าทางน่าเอ็นดูนั้นทำให้ชานยอลหลุดรอยยิ้มออกมา และก็อดไม่ได้ที่จะซางผมนิ่มๆนั้น

     

    “ถ้าอย่างนั้นจะยอมพาไปก็ได้นะ”

     

    “จริงอะ  สัญญานะ” จื่อเทาชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าขานยอล  ชานยอลก็อดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วก้อยของตนออกมาเกี่ยว แล้วเอานิ้วโป้งชนกันต่อ  “ยอลลี่น่ารักที่สุดเลย”  จื่อเทายื่นหน้าขึ้นไปหอมแก้มชานยอลเร็วๆแล้วล้มตัวนอนบนตักของคนที่ตัวเองเพิ่งลักหอมแก้มไป

     

    “เทาเทาก็น่ารักที่สุดเหมือนกัน” ชานยอลค่อยๆก้มลงมาประทับริมฝีปากคนขี้อ้อน  ริมฝีปากของทั้งคู่บดเบียดกันอย่างช้าๆและนุ่มนวล  ลิ้นร้อนของคนด้านบนค่อยแทรกสอดเข้าไปในเรียวปากนิ่ม ต้อนกวาดหาความหวานที่อยู่ภายใน ลิ้นของคนด่านล่างก็ตอบรับอย่างเคยชิน เรียวลิ้นเกรียวประสานเข้าขากันเป็นอย่างดี ทุกสัมผัสสื่ออารมณ์ความรักใคร่ที่คนทั้งสองมอบให้กัน ไม่มีใครผละออกไปมีแต่ยิ่งแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ จากนิ่มนวลก็ร้อนแรงจนถึงห้วงลมหายใจสุดท้าย  คนทั้งสองจึงละริมฝีปากออกจากกัน แต่อย่างนั้นก็ยังคลอเคลียกันไม่ห่าง

     

    “ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้กันนะจื่อเทา” ชานยอลมองคนเบื้องล่างด้วยสายตาหวานเยิ้ม

     

    “เฉพาะชานยอลเท่านั้นแหละ” คนด้านล่างก็มองคนด้านบนด้วยสายตาไม่ต่างกัน

     

    “งั้นขอดูความน่ารักของจื่อเทามากกว่านี้หน่อยได้ไหมละ”

     

    “เอาสิ ยังไงผมก็เป็นของชานยอลคนเดียวอยู่แล้ว”  นอกจากจะขี้อ้อนแล้วแมวตัวนี้ยังขี้อ่อยอีกสะด้วย

     

    “งั้นเราเข้าไปในห้องกันดีไหม” ชานยอลใช้ปลายจมูกเกลี่ยที่ข้างแก้มคนขี้อ่อย

     

    “ไม่ต้องหรอกตรงนี้ก็ได้”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติ๊งต๊อง   ติ๊งต๊อง !!

     

     

    “อือ...ยอลลี่มีคนมา” คนตัวเล็กสะกิดคนรักให้ตื่น

     

    “อืมมมมมม   ขอห้านาทีนะ” ขานยอลพูดออกมาด้วยความเคยชินแล้วกระชับกอดคนในวงแขนให้แน่นขึ้น

     

    “ยอลลี่ปล่อยก่อน”

     

    “....”  ไม่มีเสียงตอบรับจากคนรัก แต่กลับได้ความรู้สึกเจ็บแปลบจากซอกคอ

     

    “ยอลลี่พอเลย  แค่นี้ก็เป็ฯฃนลายทั่วตัวแล้ว” จื่อเทาติคนรักเสียงงอล  แล้วพยายามที่จะผลักอกให้คนตัวสูงคลายอ้อมแขน

     

    “ก็จื่อเทาน่ากินเองนะ” คนขี้แกล้ง  ก็ยังตีมึนไม่คลายวงแขนออกง่ายๆแต่กลับซุกหน้าเข้าหาซอกคอคนในอ้อมแขนหอมซอกคอดังฟืด

     

    “ฮ่าๆ  มันจั๊กจี่นะ”

     

    “เหรอๆ ไหนๆขออีกทีสิ” จื่อเทาบิดเร้าๆเพราะชานยอลไม่ยอมคลายอ้อมกอดแล้วยังแกล้งหอมซอกคอผลัดซ้ายขวา จนทำให้เกิดเสียงหัวเราะใสๆดังไม่ขาดสาย 

     

    “ฮ่าๆๆ  ชานยอลพอแล้วหายใจไม่ทันแล้ว”

     

    “อยากให้หยุดก็หอมแก้มก่อน” ไม่ต้องให้พูดซ้ำสองจื่อเทาหอมแก้มชานยอลดังฟอด

     

    “อ้าชื่นใจ ”

     

    “หอมแล้วก็ปล่อยเลย  จะไปอาบน้ำแล้ว” จื่อเทาพูดเสียงงอลๆ

     

    “อะๆ  ยอมแล้วครับนายน้อย” ขานยอลหอมที่หน้าผากมนทีหนึ่งและผละออก  “เทาเทาจะดื่มอะไรไหมเดี๋ยวพี่ชงให้” ชานยอลลุกไปหยิบกางเกงขายาวที่มักใส่ในบ้านเป็นประจำขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ

     

    “เอาโกโก้ร้อน” จื่อเทาบอกคนที่อยู่ปลายเตรียมแต่สายตากับจับจ้องไปตามแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นและนอกจากนั้นก็มีรอยที่จื่อเทาฝากไว้เมื่อคืนเป็นทางยาวทั่วแผ่นหลัง

     

    “หืม...ไม่อาบน้ำแล้วเหรอ”

     

    “ยอลลี่ก็ออกไปก่อนสิ” จื่อเทาเซสายตาไปทางอื่นแล้วออกปากไล่คนรัก

     

    “แหมจะเขินอะไร  ยังไงก็เห็นมาหมดแล้วทั้งตัว” ชานยอลใช้สายตาโลมเลียคนที่ยังนอนเอาผ้าห่มคลุมอยู่บนเตียง

     

    “พูดอะไรไม่อายเลยนะ” คนที่อยู่บนเตียงหน้าร้อนเห่อ คว้าหมอนที่อยู่ข้างๆก่อนจะเขวี้ยงไล่หลังร่างสูงที่เดินออกจากห้องไป  ให้มันได้อย่างนี้ซี่ ที่เค้าเขินไม่ได้เป็นเพราะว่าไม่เคยเห็นของกันและกัน เห็นจนชินแล้วมากกว่าแต่บางครั้งมันก็ต้องมีอารมณ์เขินอยู่บ้างละ  แต่ตอนนี้จื่อเทาก็เจอปัญหาใหม่แล้วละ เพราะแค่ขยับตัวก็ได้ยินเสียงกระดูกร้าวไปทั้งร่าง  ยอมรับว่ากิจกรรมเมื่อคืนดำเนิดไปอย่างร้อนแรง  ไม่รู้ว่าพวกเขากอดกันไปกี่ครั้งแต่ก็ทุกอย่างก็เริ่มจากห้องนั่งเล่น ไล่ต่อไปที่ห้องครัว ที่ระเบียงก็ไม่เว้น ทุกพื้นที่กลายเป็นสนามรักของเขาสองคน  พอนึกถึงก็อดไม่ได้ที่จะหน้าร้อนขึ้นมาอีกหน  นี่พวกเขาทำบ้าอะไรกันลงไปเนี่ย  จื่อเทายกมือขึ้นมาปิดใบหน้าอย่างเขินอาย  ถ้าเขาเป็นผู้หญิงเมื่อคืนนี้ก็คงท้องไปแล้ว

     

    จื่อเทาสะบัดหน้าไล่ความคิดเพ้อเจ้อแล้วค่อยๆขยับลงจากเตียง  แต่แค่ยันตัวลุกจากเตียงก็ล้มลงไปกองกับพื้น  ราวกับร่างจะสลาย เจ็บจังจื่อเทาครางออกมาเบาๆ

     

    “ชานยอลลลลลลลลลลล” จื่อเทาร้องเสียงอ้อนคนตัวสูง

     

    “มีไรครับเทาเทา” ชานยอลตะโกนตอบกลับมา พร้อมกับกลิ่นหอมของโกโก้ผสมกาแฟ

     

    “ยอลลี่” เจ้าแมวขี้อ้อนก็ส่งเสียงเรียกอีกครั้ง

     

    “มาแล้วครับ เป็นอะไรหืมมม”

     

    “อุ้มหน่อย” จื่อเทาแปลงร่างเป็นเจ้าแมวจอมอ้อนไปอีกแล้ว  แล้วชานยอลก็ยินดีที่จะทำตามความปราถนาของเจ้าแมว ช้อนใต้วงแขนให้คล้องที่ลำคอของตนแล้วจื่อเทาก็ร่วมมืออย่างด้วยเอาขาเกี่ยวไว้กับเอวของชานยอลโดยมีชานยอลจับต้นขาเอาไว้

     

    “ทำไมตอนนี้อ้อนจังละ  เมื่อกี๊ยังไล่อยู่เลย”

     

    “ก็เทาเทาเจ็บอะ  แล้วยอลลี่เป็นคนทำให้เทาเทาเจ็บรู้เปล่า” คนขี้อ้อนซุกหน้าลงซอกคอของชานยอล

     

    “รู้ครับนายน้อย  แล้วอยากให้กระทำอะไรต่อละครับ”

     

    “พาไปอาบน้ำหน่อย” จื่อเทาชี้สั่งไปทางห้องน้ำ

     

    “น้อมรับคำสั่งครับ”  ร่างสูงพาคนขี้อ้อนไปในห้องน้ำตามคำสั่ง  แล้วค่อยๆวางจื่อเทาลงบนอ่างล้างหน้า  ห้องน้ำคอนโดเขาไม่ได้ใหญ่มากจึงมีแค่โซนของห้องน้ำและชาวเวอร์  “อะอ้าปากหน่อย” ชานยอลค่อยๆแปรงฟันให้จื่อเทาอย่างเบามือ การทำอะไรพวกนี้ให้จื่อเทามันเล็กน้อยมากสำหรับเค้า เพราะบางทีจื่อเทาก็ไม่ได้อ้อนแบบนี้บ่อยๆ  “บ้วนปากหน่อยคนเก่ง”

     

    “ยอลลี่ โกนหนวดให้ด้วย” คนขี้อ้อนออกคำสั่งต่อ  ชานยอลยิ้มรับแล้วละมือล้างหน้าให้จื่อเทาและจัดการโกนหนวดให้เรียบร้อย  พอจัดการจื่อเทาเสร็จเขาก็เลือกที่จะจัดการตัวเองต่อบ้าง  เจ้าแมวขี้อ้อนก็เลือกที่จะนั่งนิ่งๆเอาหัวซบกับไหล่เขา

     

    “มา  ล้างตัวกันดีกว่า” ชานยอลหันมาอุ้มคนรักลงจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าไปพิงกับผนังที่เป็นโซนของชาวเวอร์  “ยืนไหวไหม  เดี๋ยวพี่จะล้างตรงนี้ให้ก่อนนะ”  ชานยอลใช้ปลายนิ้ววนรอบปากทางเป็นการขออนุญาติกลายๆ

     

    “อะ อืม อือ  เสี่ยว” จื่อเทาใช้ไหล่ของชานยอลเป็นที่ยึด “อะ ลึก ลึกไปแล้ว อะ อ้า”

     

    “ร้องแบบนี้อยากโดนอีกเหรอ” ชานยอลพูดเป็นเชิงล้อคนตรงหน้า  ก็เล่นร้องแบบนี้ถ้าเค้าเกิดมีอารมณ์ร่วมขึ้นมามันจะไม่จบง่ายๆน่ะสิ

     

    “อะ อืม  ก็มันเสี่ยว  ลึกอีก อึก”

     

    “เฮ  นี่ไม่ได้ยั่วใช่ไหม”

     

    “ถ้าบอกว่ายั่วจะทำยังไงละ ยอลลี่” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาสบกับจื่อเทาก็รู้คำตอบของเรื่องนี้  แมวขี้อ้อนแผลงฤทธิ์อีกแล้วละ

     

    “งั้นจะทานแล้วนะครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “บอกแล้วว่าไม่ต้องทำ  ทำไมไม่ฟังกันเลย” แรงกอดจากด้านหลังทำให้จื่อเทาต้องเอียงหน้ามอง

     

    “ถ้าไม่ทำแล้วจะกินอะไรละ”

     

    “สั่งเอาก็ได้” ชานยอลหอมขมับคนในอ้อมกอด

     

    “ม่ายอาวววววว”

     

    “ก็รั้นตลอด...นี่จื่อเทาเห็นมือถือพี่บ้างไหม”

     

    “ผมเห็นตกอยู่ในร่องโซฟาตอนนี้ชาร์ตอยู่  นี่..ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ชาร์ตแบตตลอด” พอนึกได้จื่อเทาก็คิดอยากจะเอ็ดคนรัก

     

    “ไอ้เครื่องเหลี่ยมนั้นมันไม่สำคัญเท่าจื่อเทานี่” คนฟังย่นจมูกใส่แต่ก็โดนจุ๊บปากเร็วๆแทน

     

    “ก็เพื่อมีธุระเร่งด่วน”

     

    “จ้าๆ  เลิกคุยเรื่องนี้แล้วกินข้าวกันดีกว่า”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อีกด้าน

     

    ตอนนี้ผมกำลังโมโหมากขอย้อนความไปเมื่อหกชั่วโมงที่แล้ว  ก็ไอ้เพื่อนเวรของผมอะสิไหนมันบอกจะมารับผมที่สนามบินไง  พอออกจากเกจได้ก็ไม่เจอใครสักคน ดีที่ผมพอมีสกิลภาษาเกาหลีอยู่บ้าง  เลยหาทางมาคอนโดของมันตามแผ่นที่มันให้มาถูก  แต่ก็ปวดหัวไม่น้อย

     

    ติ๊งต๊อง  ติ๊งต๊อง!!

     

    ผมกดกริ๊งที่คิดว่าเป็นของเพื่อนผมแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไร ผมว่านี่ก็ไม่ได้เช้าเกินไปสำหรับคนทั่วไปนะ ผมก้มมองนาฬิกาที่บอกเวลาสิบโมงเช้า  หรือผมจะมาห้องผิด  ผมยืนตัดสินใจอยู่พักนึ่งก็เลือกที่จะเดินลงมาข้างล่างแทน  ผมพยายามที่จะโทรติดต่อมันแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ  ผมเลยออกที่จะหาอะไรกินรองท้องก่อนเพราะตั้งแต่เครื่องลงตอนเก้าโมงยังไม่ตกถึงท้องผมเลย

     

    ผมลากกระเป๋ามาหยุดที่มินิมาร์คใกล้ๆคอนที่ผมคิดว่าเป็นของเพื่อนผม  ขอผมคิดไปแบบนั้นก่อนแล้วกันจะมาบอกว่าผมมาผิดที่ก็เฟลไปนะ ผมเดินเลือกเสบียงจนพอใจและทิ้งตัวนั่งโต๊ะที่กางร่มไว้หน้าร้าน  ไม่เข้าใจว่ารูปหล่อพ่อรวย อู๋อี้ฝานอย่างผมทำไมต้องมาโดนเพื่อนทิ้งตั้งแต่วันแรกที่แตะพื้นเกาหลีด้วยวะ  คนหล่อเซง 

     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆชั่วโมงก็แล้ว สองชั่วโมงก็แล้ว  เพื่อนผมก็ไม่มีวี่แววจะรับโทรศัพท์ คืนนี้ผมจะไม่มีที่นอนจริงๆใช่ไหมวะ  ทำไมสวรรค์ไม่ยุติธรรมกับผมเลย  ผมบอกป๊าแล้วว่ามันไม่ใช่สไตล์ๆ  แทนที่จะให้ผมทำตามฝัน เป็นนักบินอวกาศชื่อก้องโลกผมเป็ทางของผม  ขณะที่ผมปลงตกและคิดจะเข้าไปซื้อของกินเพิ่ม  มันก็ทำให้รู้ว่าพระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งผม  ผมเจอเพื่อนที่ผมตามหาแล้วละ

     

    “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยชานยอลลลลลลลลลลลลล”

     

     

    The end

     

     

     

    บอกแล้วว่าช้อทฟิคนี่เขียนเพื่อสนองตัณหานักแต่งเองล้วนๆ  คำบรรยายอาจจะงงๆมึนๆก็ขออภัยด้วย  เพราะมันเกิดจาดอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ  แล้วเรื่องซีนวาบหวิวยอมรับว่าไม่เคยเขียนอาจจะดูติดๆขัดๆแต่ก็จะพยายามพัฒนาต่อไปนะจ้ะ  ส่วนเรื่องncแจ้ยังไม่มีนโยบายจะแต่งนะจ้ะ  บอกแล้วว่าไม่โปร ขอไปฝึกวิทยายุทธก่อนแล้วกันนะ  ถ้าใครอ่านแล้วถูกก็อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ  แล้วเจ้จะกลับมาใหม่ตอนฟิลลิ่งมันมา

     

     

     

     

     

     

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×