ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Fic-SooxNewThe Split: ฉันคิดมากไปใช่ไหม ตอนที่8
5
Titel:ฉันคิดมากไปใช่ไหม? ตอนที่8
หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำนั่นแล้วผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างสูงเลยไม่รู้ว่ามันไปไหน...ผมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่างแต่ก็ไม่เห็นใครเลย ลืมไปนี่มันก็ปาเข้า 9.30 โมง แล้ว ป่านนี้พวกนั่นมันคงอยู่ที่โรงเรียน...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพแล้ว ตอนปะมาณเวลา ตี2.28 นาที โคตรจะง่วงเกิรคำบรรยาย แต่งสดมากเลย พอดีดูเดอะสตาทอยู่ ชอบฮั่นกับแกงส้มมาก(เรื่องของมึงสิ ไรบ้าบอไปหน่อย) >< แต่ก็มาอัพให้แล้วน๊าทุกคน ฝากคอมเมนให้ด้วยน่ะจร้า ว่าเป็นไงไม่ดียังไงจะกลับไปแก้ให้น่ะ ฝันดีบายจร้า รักคนอ่านทุกคน ม๊วฟฟฟ >3
แถมๆจร้า ><
บ้าบออีแล้วค่ะ +5555 อย่าถือสาไรน่ะ><'
Author:Pingpong
Couple:SooxNew
Update:18/03/255
-------------------------------------------------------------------------หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำนั่นแล้วผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างสูงเลยไม่รู้ว่ามันไปไหน...ผมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่างแต่ก็ไม่เห็นใครเลย ลืมไปนี่มันก็ปาเข้า 9.30 โมง แล้ว ป่านนี้พวกนั่นมันคงอยู่ที่โรงเรียน...
“กินข้าวต้มก่อนดิ” เสียงของคนที่ผมกำลังตามตัวอยู่พูดขึ้น ซึ่งมันดังมาจากทางคนครัว ผมเดินเข้าไปในห้องนั่นก่อนจะเห็นมันอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินในมือทั้งสองข้างถือถ้วยกระเบื้องสีขาวสองชามอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่ผมไม่ได้เห็นบ่อยหนัก
“กูจะมาให้คำตอบมึงโซ่...”
“อย่าพึ่งให้คำตอบโซ่วันนี้ก็ได้...จริงอย่างที่นิวพูดแหละโซ่แมร่งเลว โซ่ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล โซ่ไม่เคยทำอะไรให้ตามที่ตัวเองพูดได้เลยสักอย่าง…”
“หยุดพูดเถอะ...” ผมพูดแทรกขึ้น
“พอทำอะไรผิดขึ้นมาโซ่อ้างคำเดียว คำว่าขอโทษ... นิวจะให้โซ่ทำอะไรโซ่ยอมทุกอย่าง..แต่โซ่ขอนิวแค่อย่างเดียวอย่าผลักไสโซ่ให้ไปรักคนอื่น...”
“มึงพูดจบแล้วใช่ไหม...กูจะได้กลับบ้าน” คิดว่าผมจะยอมโอนอ่อนไปตามมันเหมือนครั้งที่ผ่านมาหรือไงหล่ะ คงไม่มีทางจะเป็นแบบนี้อีกแล้วหล่ะ...
“กินข้าวก่อนสิ...เดี๋ยวโซ่ไปส่งบ้านน่ะนิว” แต่มันก็ไม่ได้สนใจคำพูดผมแม้แต่นิดกลับวางข้าวต้มลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะยิ้มกว้างแทน...
ตลอดทางจากคอนโดมาถึงบ้านของผม ทั้งรถก็มีแต่ความเงียบเหมือนอย่างเคย มันขับรถไปด้วยอารมณ์นิ่งๆเงียบๆของมัน ผมเองก็ได้นั่งมองออกไปที่นอกหน้าต่างของรถ...
“นิวตื่น ถึงแล้วน่ะ” เหมือนเสียงของใครสักคนปลุกผมให้หลุดออกจากห่วงนิทรา ผมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“ขอบใจที่มาส่ง...”ผมพูดขึ้นเบาๆก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อจะเปิดประตู
“นิวเดี๋ยวก่อน...อันนี้ยาแก้ปวด กินซะมันจะได้ดีขึ้น...” แต่ตอนที่ผมจะลงนั่นเองมือมันก็รั้งข้อมือผมไว้ซะก่อน ผมรับยานั่นมาด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ไอ้โซ่พกยาติดตัวด้วย
“อืม...ขอบคุณ” ผมหันหลังไปแตะที่ล็อคเตรียมจะเปิดประตูลงไปแต่เสียงของร่างสูงก็พูดขึ้นซะก่อน
“หลังจากที่นิวลงจากรถคันนี้ไป โซ่ไม่รู้จะมีโอกาสที่จะได้มาพูดกับนิวไหมเพราะนิวอาจหลบหน้าโซ่ไม่มาคุยกับโซ่ก็ได้...โซ่รู้น่ะว่าครั้งนี้โซ่ทำรุนแรงมากเกินไปจริงๆ นิวเองก็คงจะโกรธโซ่มากด้วยและอาจจะไม่แม้แต่จะให้อภัยความผิดครั้งนี้ที่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่คบกัน..”
“...” ผมหยุดนิ่งรอฟังมันพูดต่อ
“แต่ถึงจะยังไงโซ่ก็จะไม่ยอมแพ้หรอกน่ะ โซ่จะพยายามเปลี่ยนนิสัยเลวๆของตัวเอง นิวยังไม่ต้องเชื่อก็ได้น่ะ...แต่โซ่ขอให้นิวไม่ทิ้งกันไปไหนก็พอแล้ว... “
“....มึงมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม งั้นกูไปน่ะ...” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะลงจากรถและเดินกลับเข้าบ้านขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเองทันที...ผมเปิดผ้าม่านออกเล็กน้อยก่อนจะเห็นรถของมันค่อยๆเคลื่อนจากไป ผมนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ ความรู้สึกมากมายมันถาถมมาใส่ตัวผมหมด
ผมไม่ได้อยากจะใจร้ายหรอกน่ะแต่ไอ้โซ่มันบังคับให้ผมต้องเป็นแบบนี้เอง ในเมื่อยืนยันที่จะทำผมก็จะไม่ห้าม...และถ้าผมยอมมันง่ายเกินไปมันก็จะยิ่งได้ใจมากขึ้นน่ะสิดัดนิสัยให้มันรู้สึกซะบ้าง...และที่สำคัญมากที่สุดต้องให้มันรู้ว่าถ้ามันรักผมมันก็ต้องรู้จักอดทนละรอให้ได้...
@ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน
ยามเช้าที่สดใสของวันจันทร์วันเริ่มต้นเรียนวันแรกของสัปดาห์ได้เริ่มขึ้นอีกหลังจากหยุดเรียนไปแล้ว 2 วัน นักเรียนต่างเร่งรีบกันทยอยวิ่งเข้าไปโรงเรียนเพื่อให้ทันเวลาเข้าแถวในเช้าวันนี้ที่หน้าเสาธง ร่วมไปถึงร่างสูงโปร่งของโซ่ด้วย
ประเทศไทยร่วมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย~
เพลงชาติบรรเลงขึ้นทันทีหลังจากที่ผมวิ่งมาถึงแถวของห้องตัวเอง ผมยืนหอบเล็กน้อยเนื่องมาจากการวิ่งเมื่อสักครู่นี้ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นเช็ดเหงื่อที่หน้าผากสายตามองเลยผ่านไปเห็นคนตัวเล็กที่ทำเอาผมนอนไม่หลับไปหลายวัน คนที่ทำให้ผมโคตรจะกลุ้มใจเลยทุกคนเองก็คงจะรู้ว่าเรื่องของนิวนั่นเอง....
“เอาหล่ะนักเรียนหลังจากในคาบแรกที่เราเรียนทษฏีในเบื้องต้นกันไปแล้ว คาบนี้ก็จะให้จับคู่กันทำการทดลองน่ะค่ะ” ตอนนี้เรากำลังอยู่ในคาบวิชาชีวะวิชาที่ผมเกลียดมากที่สุด เพราะมันต้องมาผ่าดูอวัยวะภายในไอ้จึกกะดึ่ยมากมายในไอ้ตัวเมือกๆลื่น หนังหนาๆ สัตว์สุดอี้และผมขยะแขยงที่สุดก็คือกบนั่นเอง
“เชิญนักเรียนจับคู่กันเองได้เลยน่ะค่ะแล้วก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้เรียบร้อยภาย 10 นาที ครูจะกลับมาดูน่ะจร้า” เมื่อได้ยินดังนั่นผมก็เดินตรงไปที่ร่างบางทันที
“นิวคู่กับโซ่น่ะ”
“...” ร่างเล็กไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอะไรก่อนจะเดินเลยผ่านหน้าผมไปจัดเตรียมอุปกรณ์ที่โต๊ะข้างๆแทน ซึ่งโต๊ะนั่นเป็นที่ของไอ้โอ๊ต ผมหน้านิ่วลงไปทันที ใจร้ายมากเลยไม่ยอมพูดกับผมอ่ะ
“โซ่กูไม่ได้...” ไอ้โอ๊ตที่เดินมายืนอยู่ข้างผมเมื่อไรไม่รู้พูดขึ้นแต่ผมก็ชิงตัดประโยคสักก่อน
“ไม่เป็นไรหรอก...ก็ดีกว่าเป็นไอ้เจย์หล่ะกูยอมมึงคนเดียวแหละ ไปเถอะ...”
“อืม เอางั้นก็ได้” มันบอกในขณะที่เดินไปหานิว ไม่เป็นไรน่ะไอ้โซ่มึงต้องทำได้อยู่แล้ว ไว้ตอนเที่ยงเอาใหม่
พักกลางวัน
“นิวจะกินไรอ่ะ กินก๋วยเตี๋ยวกันป่ะของโปรดนิวไง” ผมพูดขึ้นหลังจากที่พวกเรามาถึงโรงอาหารกันแล้ว
“....” นิวกำลังจะเดินหนีไปแต่ผมกลับเอาตัวมาบังไว้ซะก่อน
“ไม่อยากกินก๋วยเตี๋ยวหรอ งั้นกินอะไรดีอ่ะ นิวอยากกินอะไรเดี๋ยวโซ่จะไปซื้อมาให้ก็ได้...” ร่างเล็กเงยหน้ามองผมเล็กน้อย นิวไม่พูดอะไรก่อนจะเดินผ่านผมไปเลย เหมือนกับว่าตอนนี้ผมเป็นเพียงแค่อากาศธาตุเท่านั่น...คนอุตส่าห์หวังดีอยากจะไปซื้อให้
“สู้ต่อไปน่ะมึง กูเชื่อไม่นานนิวต้องยอมใจอ่อน...” ไอ้โอ๊ตพูดขึ้นก่อนจะตบที่ไหล่ผมเบาๆ
“ขอบใจมึงมากน่ะโอ๊ต”
“กูเป็นเพื่อนมึงน่ะสัส ไปหาของกินกัน” มันบอกก่อนจะกอดที่คอผมและลากให้เดินไปข้างหน้าด้วยกัน... ยังไงนี้มันก็พึ่งเริ่มกูจะไม่ยอมแพ้หรอกน่ะนิว ใจแข็งได้แข็งไปเถอะ แต่รู้ไว้กูไม่ถอยหรอก!
ติ๊ง หน่อง ติ๊ง หน่อง
อ๊อดของคาบสุดท้ายดังขึ้นบอกว่าได้หมดเวลาของคาบนี้ลงและถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านแล้ว ผมเก็บหนังสือ สมุดและกล่องดินสอเข้าในกระเป๋าสะพายของตัวเองก่อนจะเดินไปหานิว เนื่องจากคาบนี้พึ่งเรียนวิชาประวัติศาสตร์ซึ่งมาเรียนอยู่ห้องสมุดและนี่เป็นสาเหตุทำให้นิวไม่ได้นั่งข้างผมแต่กลับไปนั่งข้างเพื่อคนอื่นแทน
“กลับบ้านแล้วใช่ไหม เดี๋ยวโซ่ไปส่งน่ะ...” ผมรีบวิ่งไปเดินข้างกับคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เป็นผลครับคนตัวเล็กไม่สนใจผมเลยแถมยังเดินหนีอีก
“นี่พวกเธอน่ะ ช่วยเก็บหนังสือพวกนี้ขึ้นบนชั้นวางให้ทีสิจร้า” แต่ก่อนที่นิวจะเดินออกไปพ้นรัศมีห้องสมุดนั่นอาจารย์ซึ่งน่าจะเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดนี้ก็ทักเราขึ้นซะก่อน
“หมดนี้เลยหรอครับ อาจารย์”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมหรือเธอมีปัญหาจะไม่ทำงั้นหรอ”
“ป่าวครับ ผมจะจัดให้เสร็จเรียบร้อยครับ”
“ดีมากจร้า”
นี่ก็เป็นเวลาเกือบจะ6โมงเย็นแล้วที่เราไล่เก็บเรียงหนังสือให้ขึ้นบนชั้นให้เรียบร้อย ผมเดินไปที่หมดวิชาสังคมศึกษาเพื่อจะเอาหนังสือประวัติศาสตร์มาเก็บ แต่บังเอิญว่าร่างเล็กก็อยู่ที่นี้ด้วย ผมเดินเข้าอย่างช้าๆก่อนจะหยุดอยู่ข้างหลังคนตัวเล็ก
“เชี่ยแมร่ง!..ไอ้โซ่กูตกใจหมดเลย” ร่างเล็กตะโกนออกมาเสียงเบาๆ คงจะตกใจที่อยู่ๆผมก็มาโผล่ที่เดินหลังแต่มันเป็นเรื่องน่าดีใจสำหรับตัวผมที่ทำให้คนตัวเล็กเอ่ยปากพูดกับผมได้สักที...
“ในที่สุดก็ยอมพูดแล้ว…ขอโซ่คุยกับนิวได้ไหม”
“ถอยไปกูจะกลับบ้านแล้ว...” เสียงของร่างเล็กกลับมาเย็นชาเหมือนเดิม ก่อนจะเดินหันหลังไปแต่ผมกลับดึงตัวนิวกลับมาก่อนจะคร่อมร่างเล็กไว้แทน
“มึงต้องการอะไรจากกู ทำแบบนี้ทำไม?”
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้นิวก็ไม่ยอมอยู่คุยกับโซ่น่ะสิ...” นิวจ้องมองผมด้วยแววตานิ่งๆก่อนจะหลบตาผมด้วยการหันหน้าไปทางอื่นแทน
“....”
“โซ่รู้ว่านิวไม่อยากมองหน้าโซ่ แต่จะช่วยหันหน้ามาคุยกับคนเลวๆคนนี้ก่อนได้ไหม...ตั้งแต่วันนั่นนิวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์โซ่ หลบหน้าโซ่ ไปที่บ้านก็ไม่เจออ่ะและยิ่งจะวันนี้ที่นิวทำเป็นเมินใส่โซ่ ไม่คุยกับโซ่ นิวรู้ตัวไหมว่านิวมีอธิพลกับโซ่มากแค่ไหน นิวทำโซ่ทรมานแค่ไหนรู้ตัวไหม...”
“ทรมาน...มีความรู้สึกเหมือนกันนี้ แล้วคิดว่าทำแค่นี้จะลบล้างเรื่องที่มึงทำกับกูไว้ได้หรือไง มันไม่ง่ายอย่างที่มึงคิดหรอกน่ะโซ่....” นิวพูดก่อนจะผลักตัวผมออกอย่างแรงและเดินออกไปจากล็อคหนังสือนี้อย่างเร็ว ทิ้งให้ผมยืนนิ่งอยู่แบบนั่น...เมื่อได้สติกลับมาผมจึงเดินกลับออกไปข้างหน้า เห็นร่างเล็กกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมจะออกไป
“นิวจะกลับบ้านหรอ โซ่ไปส่งน่ะ...” ผมเอ่ยแม้ในใจตัวเองจะรู้คำตอบอยู่ดี
“ไม่ต้องพ่อกูมารับแล้ว...อีกอย่างไม่จำเป็นต้องรบกวนมึง... อาจารย์ผมกลับน่ะครับ สวัสดีครับ” นิวพูดขึ้นอย่างเร็วก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องสมุดในทันที ผมได้ยืนนิ่งมองแผ่นหลังของร่างเล็กที่เดินจากไป ใจตอนนี้มันอยากวิ่งไปกระชากตัวนิวกลับมาคุยกันก่อนให้รู้เรื่อง แต่ก็รู้ถ้าผมทำมันความพยายามทั้งหมดที่สร้างขึ้นคงจะพังหมด...
ตอนนี้ทุกคนอาจจะมองว่าผมเป็นคนเลวไปแล้วเพราะวันนั่นผมทำให้นิวเสียความรู้สึก ผมทำให้นิวผิดหวังในตัวผมมากจริงๆและครั้งนี้นิวคงจะโกรธมากด้วย...แต่ถ้าชาตินี้ผมทำให้นิวหายโกรธผมไม่ได้ มันคงเป็นเรื่องฝังใจผมไปนานเลยที่ต้องเสียคนรักไปเพราะนิสัยไม่รู้จักโตของตัวเอง ผมเป็นคนที่สร้างปัญหานี้ขึ้นมา ผมก็ต้องแก้มันด้วยตัวของผมเอง...
(End Soo Talk)
2 อาทิตย์ ถัดมา ไวเหมือนโกหก (ก็โกหกแหละ:P :ไร)
“ไอ้โซ่ป้ายนั่นมันเอียงอ่ะ ขยับทางซ้ายหน่อยดิ” เสียงของไอ้โอ๊ตพูดสั่งผมในขณะที่เรากำลังติดป้ายให้ซุ้มของห้องในงานโรงเรียนอยู่ ถ้ายังอยู่ที่เดิมตอนนี้พวกผมก็คงได้ขึ้นเล่นวงดนตรีแล้วหล่ะ คิดแล้วก็เสียดายเหมือนกันน่ะ อุตส่าห์ซ้อมกันมาเป็นตั้งนาน
“โอเคยังมึง...” ผมพูดในขนาดที่ค่อยๆลงจากบันได และมองผมงานทั้งซุ้มของพวกเราที่นั่งทำกันมาเป็นเวลา3วันเต็ม
“โอเคแล้วสัส ซุ้มเราแมร่งเจ๊งอ่ะ”
“โซ่มาเราซับเหงื่อให้โซ่น่ะดูดิเหงื่อไหลเต็มเลย” เปียโนเพื่อนร่วมห้องผมพูดขึ้นทันทีหลังจากผมปีนลงมาจากบันได ในขณะที่มือก็ยกเอาผ้าเช็ดหน้าสีชมพู่หวานแหววของเธอขึ้นมาเช็ดที่แก้มผม
“เฮ๊ย ไม่เป็นไร เราเช็ดเองได้เปียโน” ผมพูดในขนาดที่จับมือเธอออกจากหน้าผม ที่ผมทำแบบนี้ก็เป็นเพราะคนตัวเล็กของผมน่ะสิครับ นั่งอยู่แถวนี้ซะด้วยผมไม่อยากจะให้มาเข้าใจผิด อีกอย่างเธอก็เป็นผู้หญิงด้วย
“โซ่เป็นอะไรอ่ะ โซ่รังเกียจเปียโนหรอ “
“ไม่ใช่แบบนั่นน่ะเปียโน แต่เปียโนเป็นผู้หญิงน่ะ คนอื่นเขาจะมองไม่ดีเอา”
“โซ่ไม่ต้องอ้างหรอกน่ะ ไล่ให้เปียโนไปเลยดีกว่าอีก L” เธอสะบัดหน้าหนีก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเออกูผิดใช่ไหมอ่ะสรุป...
“โซ่ อยู่นี้เองหาตัวตั้งนานเลย “
“อ้าวแน็ค ว่าไงมีไรหรอ ตามหาเราทำไม?” ผมถามแน็คหัวหน้าห้องของผมในตอนนี้
“เออ โซ่เคยบอกใช่ไหมว่าร้องเพลงแล้วก็เล่นกีต้าร์ได้อ่ะ...พอดีปีนี้เขาให้ส่งนักเรียนไปห้องละ1 คน ให้ไปเล่นดนตรีร้องเพลงอะไรก็ได้ แล้วเราก็เลือกกันแล้วใช่ไหมว่าจะเอาฟลุ๊ค อ่ะ…”
“อืม แล้วไงอ่ะ”
“ก็เมื่อวานน่ะสิไอ้ฟลุ๊คอ่ะปีนต้นไม้ไปช่วยแมวสุดเลิฟแล้วยังไงไม่รู้ตกลงมาแขนหักนี้ก็เล่นกีต้าร์ไม่ได้ด้วย มาโรงเรียนก็ไม่ได้ เราก็เลยจะมาขอร้องให้โซ่ช่วยไปแทนหน่อย น่ะโซ่น่ะๆ” เธอบอกในขณะที่เข้ามาคว้ามือผมไปจับไว้ ผมมองที่หน้าแน็คที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ พลันสายตาก็มองเลยไปยังล่างเล็กที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆซุ้ม ...
“ก็เอาดิ...แล้วต้องคิดแสดงตอนไหนอ่ะ”
“อีกประมาณ 1 ชั่วโมงจร้า ที่หอประชุมน่ะ”
“อืมตกลง...เอ๊ยไอ้โอ๊ตมึงมานี้ดิ มีเรื่องให้ช่วยหน่อยหว่ะ”
(New Talk)
“เออนิว วันนี้ที่หอประชุมอ่ะเขามีจัดประกวดร้องเพลงด้วยน่ะ ไปดูกันไหม” ไอ้โอ๊ตที่เดินดูงานอยู่พูดขึ้น
“ไม่อ่ะ คนเยอะขี้เกียจไปดู”
“ไปเถอะไปเชียร์เพื่อนห้องเราด้วยน่ะๆน่ะๆ มึงไปเหอะน่ะๆ” ไอ้โอ๊ตพูดก่อนทำหน้าอ้อนผมอย่างสุดขีด...อะไรมันจะอยากไปมากขนาดนั่นหว่ะ
“เออไปก็ไปดิ...”
ตอนนี้ผมกำลังเดินอยู่ในงานประจำโรงเรียนอยู่ผมค่อยๆเดินผ่านซุมขายของและซุ้มที่จัดแสดงนิทัศการต่างๆของทางโรงเรียนก่อนที่จะเข้าใกล้หอประชุมของโรงเรียนซึ่งมีคนยืนดูเรียนส่งเสียงกรีดร้องกันสนั่นหวั่นไหวเลย ผมเดินเข้าไปภายในนั่นอย่างยากลำบาก
“ไอ้โอ๊ตทำไมคนมันเยอะแบบนี้หว่ะ ไม่เข้าแมร่งแล้ว...!” ผมบ่นพึมพร่ำขึ้นมาเบาๆด้วยอารมณ์โมโหนิดที่ต้องมาเบียดเสียดกับคนเยอะ ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินกลับทางเดิมแต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาซะก่อน...
“ครับสำหรับเพลงที่ผมกำลังจะร้องต่อไปนี้ ผมก็อยากจะมอบให้กับคนคนหนึ่งครับ ตอนนี้เขากำลังโกรธผมมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ผมทำเขาเสียใจและเสียความรู้สึกกับการกระทำแย่ๆของตัวเอง ทำให้ตอนนี้เขาไม่ยอมคุยกับผม ไม่ยอมเจอหน้าผมเลย แต่ถ้าตอนนี้เขายังอยู่ที่ตรงนี้ผมก็อยากจะให้เขาฟังมันน่ะครับ...”
“กรี๊ดๆๆ ใครคือคนนั่นหว่ะแก แมร่งโคตรโชคดีเลยอ่ะ><” เสียงผู้หญิงสวมแว่นตาหนาเตอะพูดขึ้นข้างๆหูผม ผมหันกลับมามองที่ข้างหน้าตัวเอง...เสียง รูปร่างหน้าตา ท่าทางแบบนี้มีแต่ไอ้โซ่คนเดี่ยวเท่านั่น มันกำลังจะทำอะไร...
ฉันไม่รู้เธอได้ยินฉันไหม
ที่ฉันขอร้องให้เธอไม่ไป
ฉันไม่รู้เธอเข้าใจฉันไหม
ว่ารักเธอจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
เหมือนดาวบนฟ้ามืดดับไป หัวใจมันไร้เรี่ยวแรง
เหมือนแสงตะวันไม่ส่องที่ฉันเวลาที่มันเช้า
ถ้าเราต้องจากไกล ฉันรู้ฉันผิดฉันเสียใจ
ฉันใช้อารมณ์จนเรื่องบานปลาย
แต่อยากให้รู้ไว้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ
เธอคือไฟส่องทาง เธอคือทุกอย่างของคนอย่างฉัน
มันไม่มีแสงใด ในคืนที่ใจทุกข์ทรมาน
และฉันไม่รู้จะทนได้ไหม
กับชีวิตที่มันโหดร้าย ถ้าไม่มีเธอ
ให้ฉันยอมเธอแค่ไหน
ยินดีถ้าทำให้หัวใจของเธอเปลี่ยน
ให้เราไม่ต้องแยกไป ฉันนั้นรักเธอมากแค่ไหน
เธอคงไม่เคยได้เข้าใจ โปรดฟังไว้
ว่าฉันรักเธอ ฉันรักเธอ
จนไม่รู้ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ให้เธอลองย้อนมองกลับไป ถึงวันที่รักกันอยู่
คิดถึงเวลาดีๆ ที่มีเธอคงจะได้รู้ ฉันรักเธอเท่าไร
ฉันรู้ฉันผิดฉันเสียใจ ฉันใช้อารมณ์จนเรื่องบานปลาย
แต่อยากให้รู้ไว้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพแล้ว ตอนปะมาณเวลา ตี2.28 นาที โคตรจะง่วงเกิรคำบรรยาย แต่งสดมากเลย พอดีดูเดอะสตาทอยู่ ชอบฮั่นกับแกงส้มมาก(เรื่องของมึงสิ ไรบ้าบอไปหน่อย) >< แต่ก็มาอัพให้แล้วน๊าทุกคน ฝากคอมเมนให้ด้วยน่ะจร้า ว่าเป็นไงไม่ดียังไงจะกลับไปแก้ให้น่ะ ฝันดีบายจร้า รักคนอ่านทุกคน ม๊วฟฟฟ >3
แถมๆจร้า ><
บ้าบออีแล้วค่ะ +5555 อย่าถือสาไรน่ะ><'
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น