คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ☆ PRINCE LUCIFER ☆THE PRINCE OF SICOLD :PART 3/1.2(END)
All I wanna do is find a way back into love
สิ่งที่ฉันอยากจะทำ คือ ค้นหาหนทางหวนคืนสู่ความรักอีกสักครั้ง
I can't make it through without a way back into love
ฉันจะไม่สามารถผ่านพ้นไปได้ หากไร้ซึ่งหนทางหวนคืนสู่ความรัก
I've been watching but the stars refuse to shine
ฉันเหม่อมองดูดวงดาว แต่ดาวนั้นกลับไม่เปล่งแสงระยับ
I've been searching but I just don't see the signs
ฉันเฝ้ามองหา แต่ฉันก็มองไม่เห็นสัญญานอะไรบ่งบอก
I know that it's out there
ฉันก็รู้นะ ว่ามันยังมีอยู่จริง
“โธ่ เว๊ย!!” ผมจอดรถลงข้างทางก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง และทุบพวงมะลัยรถอย่างแรง “ ฟิน ฉันขอโทษ!...ขอโทษที่ไปช่วยเธอไม่ทัน ถ้าเลือกได้ฉันอยากเป็นคนนั่น คนที่ตายแทนเธอ...”
ก๊อกๆ
ผมหั่นหน้ากลับไปมองถึงบุคคลที่กำลังเคาะกระจกรถของผมอยู่ก่อนจะค่อยๆลดกระจกลง
“คุณเป็นอะไรหรือป่าวครับ”
“ป่าวครับ ผมง่วงน่ะครับเลยจอดพักเฉยๆ”
“ครับ งั้นผมไม่กวนแล้วครับ”
เขาบอกก่อนจะเดินหั่นหลังกลับไป ผมนั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้เหมือนเดิมไม่งั้นผมคงขับรถไปไหนไม่ได้แน่ๆ ผมสตาร์ทรถก่อนจะออกตัวไปเพื่อตรงกลับบ้านตัวเอง ผมเลี้ยวเข้าไปก่อนจะจอดลงในโรงจอดรถ ผมเดินกลับขึ้นไปบนห้องแต่สายตาก็มองเลยไปยังห้องตรงข้ามของตัวเอง
ผมค่อยๆนั่งลงก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงมองไปรอบห้องที่ตอนนี้ว่างเปล่า เวลาเพียงไม่กี่วันทำให้ใจของผมที่ปิดตายมันจะยอมเปิดให้ใครง่ายๆขนาดนี้เลยหรือไงน่ะ ทั้งที่ก็พึ่งเคยเจอกันแต่ทำไม ผมถึงคิดว่าเหมือนตัวเองเคยเจอเธอที่ไหนสักแห่ง เหมือนเราจะเคยรู้จักกันมาก่อน พวกคุณเคยเป็นแบบนี้บ้างไหม ทั้งที่ไม่เคยจะรู้จักแต่พออยู่ด้วยเพียงแค่ไม่กี่วันทำไมมันถึงเหมือนดูจะผูกพันขึ้นมาขนาดนี้...ผมว่ามันคงไม่ใช่ความหลงหรืออะไร แล้วเพราะอะไรกันหล่ะที่ทำให้ผมรักเธอ...
เดลฟิน...ถ้าฉันจะบอกว่าฉันรักใครอีกคน ที่ไม่เธอแล้ว เธอจะโกรธฉันหรือป่าว? ผมพูดขึ้นพร้อมขึ้นกับภาพเธอในกระเป๋าเงินตัวเอง
(END TALK FRANCE)
ติ๊ง น๊อง
“ใครมาหว่ะดึกขนาดนี้แล้ว!!” ผมคิดก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างเพื่อดูว่าใครมาเอาป่านนี้
พรึบ !!
“อ้าว ไอ้ซี ไปทำไรมาหว่ะ” ผมพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนตัวร้ายของผมแดงจัดพร้อมกลิ่นเหล้าที่เหม็นหึ่งไปหมด
“ถอยยย กูจะไปกินนเหล้า มึงมากินเป็นเพื่อนน กูเดี๋ยวนี้เลยย” มันพูดขึ้นพร้อมกับเดินถือถุงใบหนึ่งมาซึ่งภายในมีขวดแก้วใสบรรจุน้ำสีอำพัน
“เป็นไรหว่ะ ทะเลาะกับฟินมาหรือไง”
“.....” มันเงียบไม่ตอบอะไรพร้อมกับหยุดโวยวายไป
“เรื่องอะไรอีก”
“....”
“มึงเป็นใบ้หราไง ถามไม่ตอบ ผมเริ่มจะหมดความอดทนกับมันหล่ะ” เห็นหน้าไอ้ซีตอนนี้แมร่งอยากจะอัดมันสักหมัดจริงๆ
“.....” ไม่ตอบอีก เรื่องของตัวเองแมร่งก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว จะอะไรนักหนาหว่ะ น่ารำคาญหว่ะ
“เรื่องผู้หญิง หรือไง”
“มึงก็รู้ว่ากูรักมินคนเดี่ยว...เมื่อวานกูไปผับแล้วเจอ...ยูมิมา”
“แล้ว...”
“กูก็แค่ทักเหมือนคนที่เคยรู้จักกัน แต่ยูมิแมร่งดันมาจูบกู”
“ฟินก็เลยเห็น
”
“เออ...ตบกูหน้าเป็นรอยข่วนอยู่นี่ ตามไปที่บ้านแมร่งก็ไม่ยอมออกมาให้กูอธิบายสักคำ ความไว้วางใจกันมีไหมหว่ะ กูแมร่งปวดหัวจะตายแล้ว dam it!” มันพูดพร้อมเตะโต๊ะที่อยู่ข้างหน้ามัน ไอ้นี่โวยที่ไรแมร่งทำของผมพังตลอด คิดจะมาเตะฟรีหรือไงหว่ะ
ผลัก !!
ผมอัดมันไปที่หนึ่ง
“แล้วมึงก็เลยกินเหล้าเมามาหากูเพื่อจะมาระบายเรื่องความโง่ของตัวมึงให้กูได้ฟังหรือไง...ไปเคลียกันก่อนที่ยัยนั่นจะหนีมึงไปอีก...กูพูดตามตรงผู้หญิงดีๆอย่างมินเขามีโอกาสเลือกได้มากกว่าคนแบบมึง แต่ตอนนี้เขาเลือกมึงแล้ว... มึงรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนกู...ทำอะไรๆช้าไปจนต้องมาเสียเขาไป”
“พูดไรหว่ะ-*- โคตรยาว มึงพูดยาวที่สุดในประวัติศาสตร์เลยน่ะนิ...แล้วไอ้ประโยคสุดท้ายมึงหมายถึงใครหว่ะ มึงมีความลับกับกูหราไง?”
“เรื่องของตัวเองมึงเอาให้รอดก่อนแล้วค่อยมายุ่งกับกู...มึงไปได้แล้ว”
“กูเป็นเพื่อนนนมึงงงน่ะ”
“มึงจะออกไปดีๆหรืออยากให้กูถีบส่ง...”
“คนนนไหนหว่ะกูเคยเห็นไหมมมอ่ะ?”
... เบื่อจะพูดกับมันแล้ว -*- ผมหันหลังหนีมันก่อนจะโทรเรียกมัฟฟินเพื่อให้มาลากไอ้นี้กลับไป ผมพูดอยู่นานกว่าเธอจะยอมมา โดยมีสาเหตุที่ว่าไม่อยากให้ไอ้ซีขับรถชนเสาคอนโดเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว
ติ๊ง น๊อง
“มัฟฟิน..!!!” ไอ้ซีตะโกนขึ้นเสียงหลง พร้อมทั้งวิ่งไปหามัฟฟินที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทันที...สร่างเลยน่ะมึง
"จะกลับหรือยัง"
“เรื่องนั่น จริงๆแล้ว...”
“ไม่อยากรู้ แค่มารับ เพราะไม่อยากให้ใครมาตายที่หน้าคอนโด - -” เธอพูดพร้อมจะเดินหนีไป แต่ก็ถูกไอ้ซีดึงไว้ซะก่อน
“เดี๋ยว ฟินต้องฟัง มานี้เลย...เดี๋ยวกูมาน่ะ” มันบอกพร้อมกับดึงแขนฟินไปทางด้านหลังบ้าน
“ เฮ้อไอ้ฟรานกลับก่อนน่ะโว๊ย ขอบคุณมึงน่ะ” มันเดินออกมาพร้อมกับฟินที่เหมือนหน้าตาจะเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว คงจะคืนดีกันแล้ว
“อืม...”
“กลับก่อนน่ะจร้า ฟราน^^”
“อืม...”
“เป็นไรหรือป่าวดูหน้าไม่ดีเลยน่ะวันนี้” ฟินพูดพร้อมเดินมาหาผมใกล้ๆ แต่ไอ้ซีก็ยังคงเดินประกบหลังมาตลอด
“ป่าว..ปวดหัวเฉยๆ”
“โกหกชัดๆมีอะไร เล่าให้ฟังได้ไหม^--^”
“ฟิน กลับเหอะ ช่างมัน มันมีอะไรก็เก็บไว้คนเดี่ยว รู้คนเดี่ยวแหละมันน่ะ...แม้แต่เพื่อนมันที่สนิทกันมาเป็น 10 ปี ยังไม่เคยเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังหรอก”
“งั้นก็นี่...กินซะจะได้หาย...ไปกลับกันเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว ฝันดีน่ะจร้า^^" เธอพูดพร้อมกับยื่นขวดยามาให้ผมตรงหน้า ฟินยังนิสัยเหมือนเดิม แต่ก่อนเป็นแบบไหน เดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนั่น เธอเป็นคนที่อ่านความรู้สึกผมออกได้จริงๆ ไอ้ซีเป็นผู้ชายที่โชคดีแล้วที่ได้เธอมา
ไอ้ซีมันเป็นคนที่คิดอะไรก็ทำออกมาแบบนั่น แต่ผมเพราะลังเล เพราะความไม่แน่ใจในความรู้ของตัวเองที่มีอยู่ว่ามันคืออะไร ทำอะไรช้าไป คิดได้ก็ในวันที่ไม่มีเธออยู่แล้ว แต่ถึงจะรักเธอขนาดไหนในเมื่อเธอคิดว่าผมไม่ใช่และไม่ได้รักผม การบังคับความรู้สึกที่จะให้รักใคร ชอบใคร มันก็คงทรมานไม่น้อยเหมือนกัน จริงๆแล้วเธอคงจะรักแฟรงค์ไปแล้วก็ได้ อาจเป็นเพราะความรู้สึกของผมที่มาบีบให้เธอต้องไป ผมถึงเลือกจะปล่อยเธอไปตามทางที่เธอตัดสินใจและเธอต้องการมันจะทำให้เธอได้มีความสุข และไม่ต้องมาทุกข์ทรมานอย่างที่เป็น ไม่ต้องเห็นเธอร้องไห้และทำให้เธอยิ้มได้ มันก็คงจะดีกว่าไม่ใช่หรือไง?
(FRANK TALK)
ภาพในอดีตยังคงย้อนมาเตือนความทรงจำที่ถึงแม้จะมีด้วยกันไม่นานแต่มันยังคงอยู่ในจิตสำนึกของหัวผม ทำไมอยู่ๆถึงมาไปจากฉันน่ะ ทั้งที่ฉันรักเธอมากขนาด สิ่งที่ฉันทำที่แสดงออกมาความรู้สึกที่มีมันคงมีไม่มากพอที่จะรั้งตัวและหัวใจของเธอไว้กับฉันได้เลยหรือไงน่ะ หรือจริงๆแล้วเธอคงจะรักฟรานไปแล้วก็ได้ อาจเป็นเพราะความรู้สึกของผมที่มาบีบให้เธอต้องไป ถึงฉันจะรักเธอแค่ไหนหรือรู้ว่าไหนวันนั่นเธอกำลังจะไปจากฉัน ฉันก็คงรั้งแค่ตัวเธอ แต่หัวใจของเธอก็คงจะอยู่กับมัน เธอคงจะรักมันจริงๆซิน่ะ หึ
“ขออีก 5 แก้ว" ผมบอกบาร์เทนเดอร์ที่กำลังผสมเหล้าที่เคาเตอร์อยู่
“แฟรงค์ค่ะ ทำไมวันนี้ถึงนั่งดื่มคนเดี่ยวหล่ะ ให้แมนดี้นั่งเป็นเพื่อนไหมค่ะ"
“อืม..."
“แฟรงค์เป็นไรหรือป่าวค่ะดูหน้าเครียดๆน่ะ"
“ไม่มีอะไร..."
“เห็นๆอยู่อ่ะ ป่ะไปเต้นกันดีกว่า น่ะน่ะๆ"
“ก็ได้...ไปสิ " ผมตอบรับแมนดี้ไปก่อนจะเดินที่ฟลอเต้นกับเธอเสียงเพลงและจังหว่ะของดนตรีที่ดังไปทั่วทั้งผับผู้คนมากมายที่ล้อมวงเต้นกันอย่างเมามันส์ แมนดี้เต้นและโยกตัวไปตามจังหว่ะก่อนจะใช้มือโน้มคอผมให้ลงมาผมรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่พุ่งอยู่ในตัวทำให้ผมเริ่มจะปลดปล่อยตัวเองเข้าสู่อีกโหมดหนึ่งของชีวิต ผมก้มหน้ากดริมฝีปากลงบนปากแมนดี้และกัดที่ฝีปากล่างเบาๆ ผมพาเธอเดินออกมาจากผู้คนก่อนจะเดินที่บริเวณทางห้องน้ำซึ่งเป็นที่ลับตาคน...
ผมวางตัวเธอลงบนอ่างล่างมือก่อนจะเริ่มจูบเธออีกครั้งหนึ่งในระหว่างที่ผมกำลังจะเธอเสื้อตัวนอกเธอออกนั่นก็เสียงของใครบ้างคนตะโกนขึ้นมาก่อน...
“ปล่อยน่ะโว๊ยยยย...ฉันเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย ไอ้ shit ปล่อยกู!"
เสียงของใครบ้างคนดังขึ้นออกมาจากบริเวณห้องน้ำหญิง ผมไม่ได้สนใจอะไรก่อนรุดซิปชุดแมนดี้ออกก่อนจะค่อยๆปลดตะขอเสื้อในเธอออก
“ตรงนี้เลยหราค่ะ แฟรงค์" ผมไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงจูบเธอแทนคำตอบ...
“ขอบคุณที่มาส่งน่ะค่ะ บาย ม๊วฟ^^" เธอบอกพร้อมกับเดินลงจากรถไป ทุกคนคงจะสงสัยว่าแมนดี้เป็นใคร เธอเป็นแฟนเก่าของผมเองเธอรักผมมากและพร้อมจะทำทุกๆอย่างได้เพื่อตามที่ผมต้องการ แต่ผมก็เป็นคนที่ทิ้งเธอไป ผมไม่ถือว่าตัวเองผิด ในเมื่อผมไม่ได้รักผมก็ต้องไปนิ ฟังแล้วอาจเหมือนผมเห็นแก่ตัวที่เป็นฝ่ายได้อยู่คนเดี่ยวและเหมือนจะเอาเปรียบเธอแต่เธอเต็มใจที่จะให้ผมเอง...เพราะความคิดแบบนี้หรือป่าว ที่ทำให้ผมไม่ได้คิดว่ามินมินเป็นคนประเภทไหน มินมินดีเกินไปที่จะต้องเลือกอยู่กับคนอย่างผม ใสซื่อเกินไปที่จะรับอะไรๆในตัวของผมได้ ผมมันเลว นิสัยแย่ ผมเจ้าชู้ เสเพลไปวันๆ ตรงข้ามกับเธอเธอดีและใสซื่อบริสุทธิ์จริง บางครั้งการที่เธอต้องการจะไปก็คงไม่ผิดหรอก...ผมเคยทำอะไรให้เธอได้รู้สึกว่าผมรักเธอจริงๆบ้างน่ะ
แค่ก แค่ก
ในระหว่างที่ผมพ่นควันบุหรี่ออกมาในรถก็ได้ยินเสียงใครบ้างคนไอคอกแคกขึ้น
“ใครมาสูบบุหรี่อ่ะ แค่กแค่ก" เสียงนี่มันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินจากไหนหว่ะ ผมหันไปตามต้นเสียงซึ่งมาจากทางด้านหลังรถของตัวเอง ร่างบางเหมือนผู้หญิงของใครคนหนึ่ง...ผู้ชายอะไรหว่ะ หน้าอย่างกับผู้หญิงเสียงก็โคตรหวานเลย
ผมแบกเธอขึ้นหลังก่อนจะมีความรู้สึกถึงอะไรบ้างอย่างที่สัมผัสที่ด้านหลังของตัวเอง...ออ ที่แท้ก็ผู้ชายในร่างผู้หญิง หึหึ
“คุณหนูค่ะ จะให้ป้าเช็ดตัวให้คุณเขาไหมค่ะ"
“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง" ผมเดินไปที่เตียงซึ่งมีร่างบางของใครคนหนึ่งนอนอยู่ ใบหน้ายาวเรียวจมูกโด่งนิดๆ ดวงตาที่หลับสนิททำให้เห็นแพงขนตาที่ยาวงอน ริมฝีปากแดงอวบอิ่ม ผมซอยสั้นสไลด์ปะบ่า...ก็น่ารักดี ผมคิดยิ้มๆกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อจะมาเช็ดตัวให้กับเธอ ผมวางกะละมังลงก่อนจะนั่งลงข้างๆตัวเธอก่อนจะยื่นเมื่อเพื่อจะปลดกระดุมออก แต่เมื่อทำมันเกรงๆสั่นๆหว่ะ ผมปลดกระดุมออกเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวผ่องของเธอ หัวใจกระตุกหวาบ หน้าก็ร้อนขึ้นมาทันที ผมชักมือกลับก่อนจะเดินออกที่นอกห้อง
“ป้า เช็ดตัวให้เธอที่ -///-"
“คุณหนูเป็นไรหรือป่าวค่ะ หน้าแดงๆ"
“ไม่...ไม่มีอะไรนิ -///-" ผมรีบปฏิเสธ และดัดเสียงให้ธรรมชาติที่สุดและให้ดูปกติ ก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องของตนเองทันที บ้าหรือป่าว ผมเนี๊ยน่ะเขินยัยทอมหน้าหวานนี่ ผมจับที่หน้าอกตัวเองเบาๆซึ่งตอนนี้สัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจมันเต้นขึ้นมาแปลกๆ...แต่จริงๆเธอก็ไม่เลว หึ
(END FRANK TALK)
“ห่าวว โอ๊ย ปวดหัวชะมัดเลย -00-"
“ตื่นแล้วหรา...ยัยทอม"
"อืม...ว่าไงน่ะ!!!" เสียงตะโกนดังลั่นทันทีในประโยคหลัง
“เธอจะตะโกนทำไม อยากให้ข้างบ้านตื่นมาด่าหรือไง" ฉันขยี้ตาสองสามทีก่อนจะเดินไปหันหน้าไปมองตามเสียงของผู้ชายคนหนึ่งใส่แค่กางเกงนอนเดี่ยว ส่วนท่อนบนวางเปล่า...เผยให้เห็นผิวขาวใสตัดกับสีผมน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงจัดได้รูปและรอยสักภาษาละตินที่หลังของเขา
“นาย มึง แก เป็น ใคร? แล้วฉันมาอยู่นี่ได้ไง...กรี๊ดดด!!! เสื้อผ้าฉันไปไหน...หรือว่าแก แกข่มขื่นฉันใช่ไหม !"
"นี่ยัยทอมบ้า ฟังฉันพูดก่อนดิ" ผมพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหาเธอที่เตียงแต่เธอขยับถ่อยหลังนี้ทันที
“ไอ้บ้ากาม ไอ้ทุเรศ ไอ้วิปริต ไอ้คนฉวยโอกาส ไปตายซะ!" เธอบอกก่อนจะโยนทั้งหมอนและหมอนข้างระดมใส่ผม
“หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้น่ะ!"
“ฉัน..ฉันจะฆ่าแก!
“ถ้ายังไม่หยุด ฉันจะทำมันจริงๆน่ะ ยัยทอม!
“ฉันเป็นผู้หญิงโว๊ยแล้วแกจะทำอะไร ออกไปเลยน่ะ
“ออ กรี๊ดแตกขนาดนี่ก็พอรู้อยู่หรอก...จริงๆฉันก็รู้แต่แรกแล้วหล่ะว่าเธอเป็นผู้หญิงเพราะถึงหน้าเธอจะเหมือนผู้ชายยังไงแต่ ไอ้นั่นของเธอมัน...^--^"
“กรี๊ดด หยุดเดี๋ยวนี้น่ะไอ้บ้า แกมัน..มันน่าเกียจที่สุดเลยฉวยโอกาสกับผู้หญิงที่ไม่รู้อะไร" ฉันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นบังหน้าอกตัวเองอย่างเร็ว
“แสดงว่า เธออยากให้ฉันทำอะไรๆตอนเธอมีสติอ่ะหรา ^--^"
“ฮึก ฮึก ฮื่อ ฮื่ออ T^T"
"เธอร้องไห้หรอ?..." ผมถามและเดินทางเตียงหมายจะไปนั่งข้างๆตัวเธอ ผมที่กำลังจะนั่งลงต้องรีบจับขาเธอไว้แทบไม่ทัน เกือบถูกยัยนี้ถีบซะแล้ว น้องชายของพ่อ
"อย่าแม้แต่คิดจะทำอะไรฉันน่ะ"
"แก...แกจะทำอะไรฉันอีกหล่ะ ฮึก...ฮึก"
“นี่ฉันจะบอกอะไรแล้วฟังให้ดีๆ ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ...อยู่ๆเมื่อคืนก็มีคนบ้าที่ไหนไม่รู้ขึ้นมานอนบนรถฉัน เมาอีกต่างหากเธอเกือบจะอ้วกในรถของฉัน ฉันไม่รู้ว่าบ้านเธออยู่ไหนก็เลยพามาบ้านฉัน แล้วก็ให้แม่บ้านมาเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อให้ก็แค่นี้เอง...เธอคิดไปถึงไหน" แล้วทำไมผมต้องมานั่งอธิบายให้ยัยนี้ฟังด้วยน่ะ แล้วทำไมผมถึงไม่ปล่อยยัยนั่นทิ้งข้างทางไปเลยหว่ะ แล้วทำไม ตอนเห็นน้ำตายัยนี้แล้วมันถึง...รู้สึก อยากเข้าไปปลอบอยากกอดเธอ...
"ฮึก...ฮึกก็ใครจะไรู้หล่ะ ตื่นขึ้นมาก็เห็นนายโป๊ท่อนบนขนาดนี้อ่ะ -///-" เธอบอกพร้อมมองมาทางผมที่ตอนนี้ใส่แค่กางเกงนอนลายสก็อตตัวเดี่ยว
“ฉันขี้ร้อนนอนแบบนี้อยู่แล้ว บางวันใส่ กางเกงในตัวเดี่ยวนอนก็มีน่ะ"
“อี้- -ไอ้โรคจิต ใครอยากรู้กัน...แต่ยังไงก็ขอบคุณนายมากน่ะที่ไม่ไปทิ้งไว้แถวข้างทาง ไม่งั้นปาดนี้ฉันคงตายไปแล้ว...จะให้ฉันตอบแทนอะไรนาย..."
“...ได้ทั้งนั่นเลยหรา"
“...อืม (มั่ง)"
“...เป็นแฟนกับฉันสิ"
“ห่ะ...อะไรน่ะ..ฟะ.ฟะ.แฟนเนี๊ยน่ะ -///-" พูดบ้าอะไรของเขาน่ะ ตาบ้านี้นิพูดยังกับตลกงั้นแหละ เป็นแฟน...แฟน...แฟน
“อืม.."
“กับนาย..."
“อืม กับพ่อฉันมั่ง"
“นี่นายอย่ามากวนน่ะ!...ฉันคงทำไม่ได้"
“ทำไม?...หรือว่าเธอมีแฟนแล้ว" เขาพูดเสียงเข้มแตกต่างกับประโยคแรกๆที่เราคุยกันและหัวขิ้วเริ่มจะผูกเข้าหากันแล้ว...
“ป่าวๆ ฉันยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ่ำ แต่..."
“หึหึ แล้วแต่อะไร?..."
“ฉันกับนายเรา...เราไม่ได้รักกันแล้วเราจะเป็นแฟนกันได้ไง-///-"
“สำหรับฉันคำๆนั่นมันไม่จำเป็น...เธอคงไม่คิดจริงจังอะไรขนาดนั่น^--^"
“ขอโทษที่ฉันเป็นผู้หญิง จริงจัง ถ้านายจะคิดว่าให้ฉันเป็นแค่ของเล่นคั่นเวลาเหมือนผู้หญิงคนในผับเหมือนเมื่อคืนหล่ะก็...ฉันคงทำตามคำขอข้อนี้ของนายไม่ได้" เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ชัดทุกประโยคทุกถ้อยคำ...คิดไว้ไม่มีผิด
"อย่าพึ่งโกรธฉันสิ..."
"ฉันไม่ได้โกรธ ทำไมต้องมาโกรธนาย"
“ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยฉัน..เสื้อผ้าของฉันหล่ะ"
“ไม่ให้...จนกว่าเราจะตกลงเงื่อนไขกันเสร็จ"
“เงื่อนไข อะไรอีก ฉันบอกแล้วไงว่าทำไม่ได้หรอก..."
“เวลา 1 เดือนถ้าฉันตกหลุมรักเธอก่อน ฉันจะเป็นฝ่ายปล่อยเธอไป แต่ถ้าฉันทำให้เธอรักฉันได้เธอจะต้องเป็นแฟนฉัน ตกลงไหม.."
“ไม่..." ดูคำตอบมั่นใจจริงๆน่ะ...แต่คิดว่าคนอย่างผมจะยอมหรอไง หึหึ^^++(ชั่่วร้าย)
“ฉันมีตัวเลือกให้2ข้อเท่านั่น คือ ตกลงและ...ตกลง"
“ฉันเหนื่อยจะเถี่ยงกับคุณแล้วน่ะ ตกลงก็ตกลง เอาเสื้อผ้าฉันมาได้ยัง"
ผมยื่นเสื้อผ้าให้เธอ เธอรับมันเป็นอย่างเร็วก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ...
“บ้าที่สุด คิดว่าฉันจะยอมตกลงเงื่อนไข ติ๊ง ต๊องของแกหราไอ้บ้ากามเอ๊ย ฝันไปเถอะ คนอย่างฉันนี่น่ะจะหลงรักแกน่ะฮะ ไม่มีทาง รู้จัก ก้านพูล คนนี้น้อยไปซะแล้ว หึหึ--+++"
“มา ฉันจะไปส่ง"
“ไม่เป็นไร มีขา มีเงินอยู่ กลับเองได้"
“อย่ากวนได้ไหม-*-"
“ไม่กวน ไหนอ่ะไม้พาย"
“...เธอชื่ออะไร"
“ก็รู้แล้วนี่ ว่าฉันชื่ออะไร จะถามทำไมหล่ะ"
“ฉันให้เวลาเธอ 3 วินาที บอกชื่อฉันซะก่อนที่ลิมิตความอดทนฉันจะหมด-*-" เขาตอบออกมาเสียงเย็น
“...ก้านพูล" หน้าก็ไม่ไทยแต่ชื่อโคตรไทยเลย
“ฉัน ชื่อ แฟรง จำไว้ให้ดีๆหล่ะ^^"
“อืม..."ชื่ออะไรน่ะ แฟบหรอ หรือ เฝือก หว่ะ ฉันก็ตอบขึ้นมาลอยๆในระหว่างเดินตามเขาไปที่ BMW Z5 สีดำคันหรูของเขา ฉันค่อยสังเกตบริเวณรอบตัวเองและมองไปที่บ้านของเขา หมอนี้รวย(มาก)ไม่เบาเลยน่ะนิ
“บ้านเธออยู่ทางไหนอ่ะ"
“ไปส่งฉันที่สถานีรถไฟxxx แล้วเดี๋ยวฉันกลับเอง"
“จะไปที่บ้านเธอหรืออยากให้ฉันพาเข้าโรงแรมแทนหล่ะ^--^"
“ตรงไปที่ถนน xxx เลี้ยวซ้ายตรง ซอย yyy ตรงไปอีก 100 ม. บ้านหลังที่ 3 ประตูรั้วสีดำ มีลุงยามแก่ๆนั่งเฝ้าข้างหน้า บ้านสองชั้น หลังคาสีอิฐ พอใจหรือยัง!" เธอบอกก่อนจะหันหน้าออกไปทางหน้าต่างรถแทน...ผมแอบขำกับทางท่าของเธอที่แสดงออกมา
“พอใจมากครับที่รัก^^"
“อยากเรียกฉันแบบนี้น่ะ ขนลุกชะมัดเลย -*-"
“ทำไมอ่ะ...แล้วอยากให้เรียกว่าไรครับ" ผมถามและแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าของยัยแสบ
“เอาหน้าแก ออกไปเลยไอ้บ้ากาม--*"
“ลองเรียกอีกที่ดิ"
“ไอ้บ้ากาม"
หมับ
ฉันพูดไม่ทันขาดคำก็ถูกแฟรงประกบริมฝีปากลงมาอย่างเร็ว เรียวลิ้นนั่นล่วงละเมิดเข้ามาอย่างล่วงล่ำฉันได้แต่พยยามเม้มปากไว้อย่างที่สุดพร้อมกับทุบอกเขาเป็นมาอย่างแรงเพราะเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว เขาถอนริมฝีปากของอย่างเชื่องช้าและอ้อยอิ่ง ฉันเองก็รีบหอบหายใจถี่
“อย่าเรียกฉันแบบนี้อีก เพราะมันเหมือนว่าเธออยากให้ฉันทำอะไรๆแบบนี้ให้" ฉัน...ฉันหมดคำจะพูดกับผู้ชายคนนี้ ไอ้เผด็จการ ให้ตาย ให้ตาย ขอให้ลูกพ้นจากไอ้บ้ากามนี้ด้วยเถอะ อาเมน
“หลังนี้แหละ ถึงแล้ว ไปน่ะ" ฉันบอกก่อนจะเปิดประตูเพื่อจะลงไป
“เดี๋ยวก่อน เบอร์เธอ?"
“085-xxx-xxx-xx "
"ฉันจะลองโทรดู...ถ้าฉันรู้ว่านี้ไม่ใช่ของเบอร์เธอฉันจะจูบเธอให้หายใจไม่ออกตรงนี้เลย" มันจะรู้ทันฉันไหนหว่ะ แต่ขอโทษที่ฉันฉลาดกว่านายอยู่หลายชั้้นอ่ะน่ะ
“ตามใจนายไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ...นายกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวป๊ากับม๊าฉันจะสงสัย
“ก็ดีสิ จะได้เห็นว่าที่ลูกเขยในอนาคตไง"
“อย่ามาทะลึ่ง มากไปแล้ว ไอ้บ้า..."
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าไงน่ะ" เขาถามพร้อมยื่นหน้าเขามาใกล้ฉันจนปลายจมูกเราเฉียดกัน
“อย่าน่ะ..."
“ขอร้องฉันสิ..."
“ไม่-มี-ทาง!"
“เฮ้อ...งั้นก็คงได้จูบโชว์ลุงยามคนนี้จริงๆซะแล้วซิ" เขาพูดพร้อมกับพยยามยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีก
“โอ๊ย ให้ตาย...ปล่อยฉันเหอะ"
“นี่เขาเรียกว่าขอร้องแล้วหรา?"
“ปล่อยฉันไปเถอะน่ะ...แฟรง" ฉันตัดสินใจพูดออกไป ก่อนจะลงท้ายด้วยชื่อเขาด้วยเสียงอันแผ่วเบา...ไม่อยากเรียกเท่าไรหรอกน่ะไอ้บ้ากาม อย่าได้ใจไปหล่ะ เหอะ!
“..."เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่แจ้องหน้าฉันนิ่ง ก่อนที่เหมือนหน้าของเขาจะเริ่มเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมซะอีกและก่อนที่ริมฝีปากเราจะประกบกันเป็นครั้งที่สองฉันก็เบี่ยงหน้าหลบทันที แต่แฟรงกลับจับค้างฉันไว้ให้หันกลับมาก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ ฉันถือโอกาสนั่นก้มลงกัดไปที่ลำคอเขาอย่างแรง
"โอ๊ย! ทำไรของเธอห่ะ!! -*- เริ่มขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย..แต่เขาก็ยอมปล่อยฉันโดยดี
ก็กัดน่ะสิ ช่วยไม่ได้นายอยากมาลุ่มล่ามกับฉันก่อน อย่าหวังว่าจะได้จูบจากฉันเป็นครั้ง2ไม่มีทางหรอกเฟ้ย..."
"รู้ไหมที่เธอทำอยู่เนี๊ย...มันทำอารมณ์ฉันขึ้นเลยน่ะ^^"
"พูดบ้าอะไรของแก หมาย...ความว่าไง" ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเขาก็โน้มหน้าลงไปที่คอก่อนจะทำอะไรสักอย่าง ที่มันรู้สึกว่าเจ็บ!
"ทำอะไรหว่ะ เจ็บน่ะโว๊ย!"
"ไปเถอะ ก่อนฉันจะอดใจไว้ไม่อยู่แล้วทำอะไรที่มันมากกว่านี้..." ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหูยัยแสบ ก่อนจะขบเมนที่ใบหูเล็กเบาๆ
เธอรีบลงจากรถก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปภายในบ้านทันที...ผมมองตามหลังของเธอที่กำลังวิ่งเขาบ้านไป พร้อมกับยิ้มขึ้นมาแปลกใจเหมือนกันทำไมผมถึงต้องยอมใจอ่อนกับเธอน่ะ...
“หนีได้ให้ตลอดเถอะยัยแสบ..."
ผมขับรถมุงตรงไปเพื่อจะไปหาใครบ้างคนที่ตอนนี้ได้ข่าวว่ามันไม่ออกจากบ้านไปไหนเลยจากแม่มาหลายอาทิตย์แล้ว...ผมไม่เคยเห็นไอ้ฟรานเป็นแบบนี้มาก่อน เพราะมันคงไม่เคยจะรักใคร ผู้หญิงที่ใกล้ชิดและที่มันรักมากที่สุดก็คงเป็นแม่และเดลฟิน มันเลยดุไอยากเลยในบ้างครั้งที่จะรู้ว่ามันรู้สึกว่าพิเศษกับใคร รู้ไหมทำไมไอ้ฟรานมันถึงไม่ค่อยพูดไม่จากับใคร บุคลิกก็ดูนิ่งผิดกับคนทั่วไป...แต่ก่อนมันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกเมื่อไม่นานมีนานมันได้เสียผู้หญิงคนที่มากรักมากที่สุด อุบัติเหตุครั้งนั่นที่ทำให้เดลฟินจากโลกนี้ไปและไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก...
ฟรานเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั่น จากคนที่เงียบอยู่แล้วยิ่งเป็นมากกว่าเดิมขึ้นมาอีกจนผมคิดว่ามันยังมีหัวใจมีเลือดเนื้ออยู่ไหมน่ะ จนกระทั่งวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา มินมิน ไงหล่ะ ผมก็แค่รู้สึกว่าน้องตัวเองนั่นเปลี่ยนไปมากพอสมควร ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาเดือนเศษแต่ผมกลับคิดว่า มินมินเข้ามาอิธิพลควบคุมและบังการหัวใจของพวกเราที่ละนิด จากครั้งแรกที่ได้เจอเธอผมยอมรับว่าผู้หญิงคนมีอะไรที่สนใจจริงๆแต่ก็คงพร้อมกับที่ฟรานก็เริ่มจะรู้สึกด้วย...
บางครั้งผมก็คิดอยู่เหมือนกัน รู้สึกถึงสายตาทุกครั้งที่ผมจ้องมองเธอในแววตานั่นมีความรู้สึกหรือว่าคิดอะไรยังไงกับผม...เธอไม่ได้อะไรกับผมเกินคำว่าพี่น้องเลย ถึงบ้างครั้ง ผมอาจจะทำให้เธอสับสนในความรู้สึกอยู่บ้าง...แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ย่ำให้เห็นว่า...เธอคงจะรักฟราน
ติ๊ง น๊อง
ติ๊ง น๊อง
“มีไร..."
“นี่คำทักคำแรก ที่แกเจอหน้าพี่ที่ไม่ได้เจอเป็น เดือนหรือไง"
“ถ้าไม่มี ฉันจะปิด - -"
“เดี๋ยว ขอคุยไรด้วยหน่อย" ผมไม่รอให้มันได้พูดอะไรแต่กลับเดินตรงเข้าไปในตัวบ้านทันที บ้านยังสะอาด“เหมือนเดิม ไร้ร่องรอยคนอื่น...เหมาะกับความรักสะอาดและสันโดษ อย่างเขา
“แกมีอะไร..." ฟรานนั่งลงพร้อมยกกาแฟขึ้นจิบ
“ได้ข่าวว่าแก แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายว่า เพราะ...มินมิน"
“ถ้าแกจะมาพูดเรื่องนี้อีก...ฉันขอตัว" มันพูดก่อนจะหันหลังเดินหนีผมไป
“แกมันไอ้ขี้แพ้ เกมส์ยังไม่ทันจบก็จะถอยตัวเองออกแล้วหรือไง...คิดว่าแกพยายามมากที่สุดแล้วหรา สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่แกรัก...มั่วทำอะไรอยู่กันแน่เป็นโง่อยู่ที่นี่ไม่ยอมออกจากบ้าน แกคิดว่าคนอื่นเขาสบายใจไหมที่เห็นแกเป็นแบบนี้..."
“มันเรื่องของกู..."
“เออ กูอยากเข้ารวมเพราะกูเป็นพี่มึง กูไม่อยากเห็นน้องหน้าโง่ของกูมาตายคาบ้านเพราะคิดถึงผู้หญิงคนนั่นมากแต่ไม่มีปัญญาไปหาเขา ผู้หญิงดีๆอย่างมินไม่ตัดสินใจเลือกไอ้งั่งอย่างแกเลย..."
“มันเป็นการตัดสินใจของเธอ ฉันไม่อยากจะต้องไปบังคับจิตใจใครอีก"
“มึงแน่นใจหรา หรือเป็นเพราะมึงกำลังสับสนกับเรื่องเดลฟินมากกว่าหว่ะ...ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เธอคงไม่สบายใจเหมือนกันถ้ายังต้องเห็นมึงมาทรมานตัวเองแบบนี้ กูรู้ว่ามึงยังรักเดลฟินอยู่แต่เธอก็จากไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมถึงจะจากกันหรือเลิกกันไปแล้วความรักความผูกพันธ์ที่มันมีให้กันยังก็ยังคงเป็นอย่างนั่น มึงแยกแยะให้ออกด้วยระหว่างอดีต กับ ปัจจุบัน กูมาพูดแค่นี้แหละมึงจะเอาไงก็ตามใจมึงหล่ะกัน แล้วตั๋วเครื่องบินแม่ซื้อไว้ให้ กูรู้ว่าน้องกูไม่โง่น่ะ..."
สนามบิน สุวรรณภูมิ
“พ่อค่ะ เฟร็ดเขาจะหลงทางหรือป่าวอ่ะ เราชูป้ายตั้งนานแล้วน่ะไม่เห็นจะมีเค้าโครงว่าจะเป็นเฟร็ดเลยอ่ะ’’ ฉันพูดขึ้นกับพ่อเบาๆในขณะที่เรากำลังรอรับ นร.แลกเปลี่ยนคนใหม่อยู่...
“อ่านั่นไงใช่หรือป่าว เฮๆๆ’’ ฉันหันไปตามเสียงของพ่อ
“สวัสดีครับ ผมเฟร็ดเดอริคครับ’’ เขาแนะนำชื่อตัวเองด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ
“สวัสดีค่ะ ฉัน มินมิน’’
“ไปกันเถอะลูก แม่เขาคงขับรถมาถึงที่หน้าสนามบินแล้ว’’
“พ่อค่ะ เดี๋ยวก่อนน่ะ หนูว่าหนูบ้างอย่างในห้องน้ำอ่ะค่ะ เดี๋ยวพ่อไปก่อนเลยน่ะค่ะแล้วหนูจะตามไปที่หลัง’’
“อีกแล้วน่ะเรา ระวังตัวด้วยน่ะลูก’’
“ค่ะ’’ ฉันรับคำก่อนจะรับเดินกึ่งวิ่งไปทางห้องน้ำทันทีและด้วยความรีบร้อนของฉันนั่นเอง...
ผลัก
“โอ๊ย! ’’
“เป็นไรไหมคุณ’’
“ไม่เป็นไรค่ะ...โอ๊ย! ขาฉัน’’ ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อตั้งหลักยื่นอยู่บนพื้นได้ เพราะไอ้สั้นสูงบ้านี้แหละ ม๊าน่ะม๊าเจอเรื่องจนได้ ให้ใส่ไอ้ไรก็ไม่รู้
“ให้ผมช่วยน่ะ’’
“ไม่เป็นไรค่ะ...ฟราน! ’’
“....’’ เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ท่าทางก็ดูจะตกใจไม่น้อยที่ได้เห็นหน้าฉัน จู่ๆใจที่มันแห้งกรานมาหลายเดือนกลับเริ่มรู้สึกว่ามันจะกลับมาเต้นได้อีกครั้ง...
หมับ !
“จะทำอะไรน่ะ! ’’
“ก็อุ้มไงเธอเจ็บขาไม่ใช่หราไง ’’เขาบอกก่อนจะเดินตรงไปทางห้องน้ำหญิง ตาบ้านี้ชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่อีกแล้ว ฟรานค่อยๆวางฉันลงเป็นขอบอ่างเบาๆ ก่อนจะบรรจงถอดรองเท้าให้ฉันแต่...
“อย่าดีกว่า ฉันทำเองได้... ’’ฉันปฏิเสธออกไปเสียงเรียบ กลับมาอีกทำไมน่ะ ฉันจะลืมได้อยู่แล้ว จะกลับมาทำไม
“อย่าดื้อได้ไหม...ยังวุ่มซ่ามเหมือนเดิมน่ะ ’’ฟรานก็ยังฟรานวันยังค่ำ สุดท้ายฉันก็ต้องยอมเขาในที่สุด เขาบรรจงถอดรองเท้าออกก่อนจะคลึงและนวดบริเวณข้อเท้าเบา
“โอ๊ย เจ็บ!’’ฉันร้องออกมาเบาๆ
“ทนแปปหนึ่ง...’’ ฉันเงยหน้ามองเขาที่ตอนนี้กำลังนวดอยู่ เขาไม่เปลี่ยนจากเดิม ยังคงหล่อดูดีและบุคลิกที่เงียบขรึมหน้านิ่งๆนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“มองหน้าฉันทำไม’’
“ป่าว’’ ฉันปฏิเสธหน้าตายก่อนจะหั่นหน้าหนีไปทางอื่น
"โกหกอีกแล้ว หันหน้ามาสิ" เขาบอกแกมส่งด้วยเสียงเข้มๆพร้อมคิ้วที่เริ่มจะพันเข้าหากันเล็กน้อย ฉันยอมหันหน้ามาโดยดีเพราะไม่อยากจะทะเลาะกับเขา
“เธอ
’’
“นาย... ’’
“เธอพูดก่อนเลย ’’
“นาย...มาที่นี้ทำไม’’
“มาหาผู้หญิงคนหนึ่ง...เธอรู้จักเขาไหมคนที่เซ่อๆ ติ๊งต๊องแถมยังซุ่มซ่าม ใส่แว่นตาหนาๆ เขาไม่รู้จักแม้กระทั้งคอนแทคเลนว่าคืออะไร คนที่ขี้แย้ร้องไห้ง่ายชะมัดเลย’’ เขาเริ่มพูดขึ้นถึงผู้หญิงคนนั่น ซึ่งฉันเองก็รู้ว่าเขาหมายถึงใคร ฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มองตากับเขาและฟังที่เขาพูดต่อ
“ฉันถูกเธอคนนั่นหัวซะให้ยุ่งเลยหล่ะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอย่างฉันไปหลงรักยัยเอ๋ยนั่นตั้งแต่ตอนไหน แต่ในตอนสุดท้ายเพราะไอ้ความไม่มั่นใจในอดีตของฉันที่มันตีกับกันอยู่ภายในหัว ร่วมไปถึงความรู้สึกของเธอคนนั่น...เขาบอกกับฉันว่าไม่ได้รักฉัน ไม่รู้สิน่ะตอนนั่นมันก็คงใช้คำว่า เสียใจได้เลย ฉันโง่อยู่นานหลายเดือน หลายวัน ฉันปล่อยให้วันเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพื่อจะหวังว่าคงจะลืมเธอได้สักวัน... ’’
“ฮึก...ฮึก... ’’
“แต่ให้ตายพระเจ้าไม่เข้าข้างฉันเลย ทั้งที่อยากลืมดันกลับจำ ...ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันจะมาช้าไปหรือป่าว แล้วถ้าฉันจะบอกกับเธอ เรามาเริ่มใหม่ด้วยกันได้ไหม’’
“ฮึก ฮื่อ ฮื่อ นายมันบ้าที่สุดเลยน่ะ’’
“ฉันก็คิดและก็เผื่อใจไว้ก่อนหน้าแล้วถ้ามันสายเกินไป ฉันก็เข้าใจเธอ ฉันไม่ได้มาพูดให้สงสารแต่แค่อยากจะบอกความรู้สึกที่มีอยู่ในใจตัวเองว่ามัน... ’’
“หยุดพูดได้แล้ว ตาบ้า...ฮึก ฮื่ออ ไม่ได้สายเกินไปเลย ฉันผิดเองแหละที่ไม่ยอมรับความรู้ของตัวเองในตอนนั่น แต่ตอนนั่นฉันรู้สึกสบสนมากจริงทั้งแฟรงและนาย แต่ฉัน ฉันก็รู้ใจตัวเองว่า...ฉันรักนาย ’’
"ในเมื่อเธอมั่นใจขนาดนี้แล้วยังเป็นคนพูดเองด้วยน่ะ ไม่มีสิทธิกลับคำแล้วเข้าใจไหม...แล้วจะร้องไห้ทำไมคนดี" ผมพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆเกลี่ยน้ำตาที่แก้มของเธอออกอย่างเบามือ ผมช้อนคางเธอขึ้นก่อนจะบรรจงริมฝีปากลงกับริมฝีปากบางราวกลีบกุหลาบของเธออย่างแผ่วและนุ่มนวลที่สุดท่ผมคิด เรียวลิ้นหนาล่วงล่ำเข้าไปตวัดไปมาเก็บเกี่ยวความหอมหวานในโพรงปากเล็ก...ริมฝีปากนี้ที่ผมโหยหามา หลายเดือน หลายวันแต่ในวันนี้ วินาทีนี้เป็นช่วงที่ผมรู้สึกมีความสุขน่ะคิดว่า
จากสัมผัสที่เริ่มนุ่มนวลก็เริ่มเพิ่มความดุดันขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมินมินเองก็จูบตอบกลับผมด้วย ผมลูบที่เอวบางเบาๆมือค่อยเลิกกระโปรงของเธอขึ้นช้าๆ มินจับมือผมไว้แต่มือข้างของผมก็ยังคงอยู่ที่ด้านหลังของเธออยู่...
แกร๊ก!
“อุ๊ย! ขอบโทษค่ะ -///-’’
ผลัก!
มือของมินผลักตัวผมออกห่างโดยอัตโนมัติ ใครมันเข้ามาตอนนี้หว่ะ -*- กำลังไปได้ดีแล้วยัยต๊องกำลังเคลิ้มเลย(ฟราน แกมันหื่นอ่ะ;ไร)
“ไม่ใช่น่ะค่ะคุณ มันเรื่องเข้าใจผิดน่ะค่ะ คุณมาเข้าเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปเอง -///- ’’
“ขอโทษ จริงๆน่ะค่ะ’’ เธอบอกก่อนจะเดินทางห้องน้ำ ผมจับหน้ามินหันมาหมายจะจูบเธออีกครั้งแต่...
ผลัก
“ฟราน -//- นายเห็นหรือป่าวว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยน่ะ’’
“แล้วไง ไม่มีผู้ชายสักหน่อย ฉันไม่ถือ’’
“แต่ฉันถือ...ฉันไม่ได้มีวัฒนธรรมแบบนายน่ะ คนไทยถ้าจะ...เขาก็ต้องแต่งงานกันก่อน -///-’’
“ก็แต่งเลยซิ ’’
“ฟรานเดี๋ยวนี้ นายพูดมากขึ้นน่ะ พอเลย’’ ฉันบอกเสียงเข้มก่อนจะรีบติดกระดุมเสื้อตัวเองอย่างเร็วทั้งมือไม้ทั้งอ่อนทั้งสั่นแต่ก็พยายามให้เป็นปกติที่สุดก่อนจะลงจากอ่างล่างมือโดยไม่จำไม่ได้ว่าขาเจ็บอยู่
“โอ๊ยย! ’’
“นั่นไง ได้เรื่องจนได้... ’’ เขาบอกก่อนจะอุ้มฉันเดินออกมาจาทางสนามบิน ฉันโทรบอกป๊าไปแล้วว่าเจอเพื่อนสนิทพอดีเลยให้กลับไปก่อนแล้ว ฟรานตรงไปที่ รถ benz slk สีดำคันหรู ถ้าบ้านนี้จะรวยขนาดนี้น่ะ
2 เดือน ผ่านไป ไวเหมือน(ก็)โกหก
“นายจอดตรงนี้แหละไปต้องไปตรงหน้าบ้านน่ะ’’
“2 เดือนแล้วที่เธอให้ฉันจอดตรงนี้ -*-’’
“ก็เดี๋ยวมีคนเห็น ป๊า ม๊า เฮีย อาม่า อาก๊ง อาอี่ ’’
“มินมิน เขาก็รู้จักฉันทั้งบ้านน่ะแหละ ป๊าม๊าเธอก็รู้จักพ่อแม่ฉัน-*-’’
“แต่ตอนนี้เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วไงหล่ะ -///- และฉันแค่ไม่รู้จะพูดยังไงกับทุกๆคนยังไงดีอ่ะก็แค่นั่น-///-’’
“เย็นนี้ ฉันมารับเธอไปกินข้าวน่ะ’’
“ไม่ได้ฉันต้องอยู่กินกับที่บ้านอ่ะวันนี้ - -’’
“-*- ... ’’
“นี่อย่าทำหน้าแบบนี้สิ งั้นนายมากินด้วยกันไหมหล่ะ เย็นนี้ ป๊าม๊า ก็รู้จักนายอยู่’’
“เธอพร้อมแล้วหราที่จะเปิดตัวฉันนั่น’’
“ฉันก็เตรียมคำตอบ ไวแล้วหล่ะ ถ้ามีใครถามมา’’
“เจอกันตอนเย็นน่ะค่ะ บาย ^^ ’’
หมับ ! จุ๊ฟ
ฟรานโน้มตัวมาใกล้ฉันมากกว่าเดิมก่อนจะจูบที่แก้มข้างซ้ายของฉันเบาๆ รู้สึกเดี๋ยวนี้ฟรานจะเยอะน่ะ ตั้งแต่คบกันมาทำให้ฉันรู้สึกว่าเขานี่มันก็ตัวอันตรายดีๆนี่เองหล่ะ มือไวใจเร็วที่สุด เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้แต่...พอๆแล้ว -///-
ที่บ้าน มินมิน
ปิ๊น ปิ๊น
“สงสัยฟรานคงจะมาแล้วหล่ะค่ะ’’
“สวัสดีครับ’’
“อ้าว ตาฟรานมาตั้งแต่เมื่อไรหล่ะลูก พ่อกับแม่สบายดีน่ะ’’
“ครับ ก็มาได้ 2-3 วันแล้วครับ ’’
“อ่ะๆกินข้าวกันเถอะน่ะทุกคน’’
“เฟร็ดหล่ะค่ะพ่อ’’
“สงสัยอยู่ข้างบนมั่ง ขึ้นไปตาม’’ ใครคือเฟร็ดหว่ะ ผมเก็บข้อสงัสยนั่นได้ไม่นานสักพักยัยต๊องก็พาผู้ชายอเมริกันคนหนึ่งลงมาพร้อมกับคุยด้วยท่าทางที่สนิทสนม...มันคือใคร-*-
“ฟราน นี้ เฟร็ดน่ะ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาได้ 2 เดือนแล้ว เขาชอบอาหารไทยมากเลยน่ะ เหมือนนายเลย ^^’’
“อืม... ’’
“เออ พ่อว่าเรากินข้าวกันดีกว่าน่ะลูก’’ ในระหว่างที่ทุกคนร่วมรับประทานอาหารกันหมดนั่นผมสังเกตุเห็นแต่ไอ้เฟร็ดตักนั่นตักนี่ให้มินอยู่ได้ มินก็ยิ้ม ยิ้ม อย่างเดี่ยว กินไม่ค่อยจะลงเลยเห็นหน้ามันแล้วอยาก ถีบให้พ้นโต๊ะนี่หว่ะ
“ออ เดี๋ยวหนูจะไปส่งฟรานเองค่ะ^^ ’’ฉันเดินตามฟรานที่ขายาวอย่างกับอะไรแทบจะตามไปไม่ทันอยู่แล้ว เดินเร็วจริงๆเลย อยู่ไหนของเขานั่น...นั่นไงม้านั่งตรงนั่น ต้นไม้เยอะจนจะบังหมดแล้วน่ะ ฉันค่อยเดินไปก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“นี้เป็นไรหรือป่าว เงียบไปน่ะวันนี้’’ (มันพูดด้วยหรา:ไร)
“...’’
“เป็นไรกับเฟร็ดหรือป่าว เฟร็ดเขาเป็นคนดีน่ะ คุยเก่ง เรียนเก่ง มนุษย์สัมพันธ์ดี ^^’’
“อืม...ก็ไปรักมันเลยซิ ดีไหม’’
“นี่ฉันฟังผิดไปป่าวนิ...นายประชดฉันหรอหรือนี่อย่าบอกน่ะว่าหึงฉันน่ะ - -’’
“...’’
“ฟราน ตลอด 2เดือนที่ผ่านมานายไม่ได้รู้เลยหรอว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันมีแค่นายคนเดี่ยว ฉันรักแค่นายคนเดี่ยว ความเชื่อใจ ความไว้วางใจกันมันอยู่ที่ไหนฟราน ’’ ฉันพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“...ฉันไว้ใจเธอ แต่ไม่ไว้ใจมัน
แล้วอีกอย่างก่อนหน้านี้เธอไม่เห้นเล่าให้ฉันฟังเลยว่ามันเข้ามาอยู่ในบ้านเธอด้วย’’
“ฉันไม่คิดว่าจะป็นสำคัญนิหน่า อีกอย่าง อีก 2 อาทิตย์ เขาจะกลับแล้ว’’
“...’’
“ฟรานนายยังไม่หายน่ะฉันดูออก’’ เขายังคงไม่สนใจและยังหันหลังให้ฉันอยู่เลย
“ต้องทำไงหล่ะถึงจะหายงอนฉันน่ะ’’
“นั่งตักฉัน...แล้วก็จูบสิ’’
“บ้าหรา ไม่เอาน่ะ ไม่มีทาง-////-’’
“งั้นฉันกลับก่อนน่ะ’’
“ฟรานอ่ะ อย่างอื่นไม่ได้หรา อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ’’
“เธอก็รู้ฉันเป็นคนยังไง’’
“ก็ได้ๆ” ฉันต้องจำใจเดินไปก่อนจะนั่งลงบนตักของเขา ให้ตายเถอะเกิดมาฉันเคยนั่งแค่ตักป๊ากับเฮียสองคนจริง
ฟึบ !!
“น่าอายชะมัดเลย -///-’’ ฉันไม่ทำแล้วดีกว่า ในขนาดที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นนั่นฟรานก็โอบรอบเอวฉันไว้ทันที
“เอามือออก...มินออกมือออก” ฉันจำใจต้องเอามือออกก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้น หน้าตอนนี้ทั้งร้อนและคงจะแดงไปหมด หัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นส่ำแล้วตอนนี้ ฉันค่อยโน้มคอเขาลงมาก่อนที่จะบรรจงริมฝีปากทาบทับลงอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน แต่ฟรานก็ ได้คืบเอาศอกทุกทีเลย เราจูบกันเนิ่นนานพร้อมกับที่ฟรานก็ตั้งใจทำรอยไว้ที่คอฉันหลายจุดเลย ให้ตายเขานี้มันขี้หึงตัวพ่อเลยจริงๆ มือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เขาเริ่มลูบที่ต้นขาช้าๆ เห็นเงียบๆแบบนี้ มือไวใจเร็วที่สุขเลย
“พอแล้วฟราน..นี่มันนอกบ้านน่ะ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าจะเข้าใจผิดมากกว่าเดิม -//-”
“แสดงว่าในบ้านได้งั้นหรา^--^ ”
"บ้าที่สุดเลย!...นี่ก็เราออกมานานแล้ว เข้าไปเหอะเดี๋ยวคนอื่นสงสัย -//-”
“มินมิน ลูก! อยู่ไหนน่ะลูกเจอแฟรงไหม”
“เข้าไปกันเถอะ -//-”
“...ฉันจะไปคุยกับทุกคนเอง ” ฉันเงยหน้ามองเขาแฟรงจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาฉันด้วยแววตาที่มุ่งมั่นและแน่วแน่ มือใหญ่นั่นบีบเบาๆแสดงให้เห็นว่าฉันจะไม่เป็นอะไรและไม่ต้องกลัวอะไร ขอแค่เราทั้งสองคนยังจับมือกันแบบนี้และขอให้ฉันเชื่อมั่นในตัวของเขาก็พอแล้ว...
"ฉันสัญญาจะดูแลเธอตลอดไป เธอต้องเชื่อใจฉันเข้าใจไหม? ฉันรักเธอมากที่สุด มากจนคิดว่าถ้าหากว่าเธอจะไปจากฉันอีกฉันคงทนไม่ไว้ ฉันจะรักเธอจะไม่มีอะไรมาทำให้เราต้องแยกจากกันอีกแล้วน่ะ "
"อืม...วันนี้นายไม่เหมือนแฟรงเลยน่ะ"
"ทำไม?"
"ป่าว ฉันก็รักนายน่ะแฟรง ^^"
"ฉันก็รักเธอน่ะ มินมิน ขอบคุณ ขอบคุณที่รักกันน่ะ^^"
5 ปี ผ่านมา
“สฟิงซ์ มากินข้าวก่อนน่ะค่ะถึงไปเล่นน่ะ อ่ำ อ่ำ ”
“อร่อยจังครับมี่^^”
“เดี๋ยววันนี้เรากลับบ้านกันน่ะครับ ค่ำแล้วเดี๋ยวพ่อเป็นห่วง”
“ครับ บายๆน่ะทุกๆคน^^”
“เฮ้อ อะไรจะเหนื่อยและยากเท่ากับการเลี้ยงลูกซะคนหนึ่งน่ะ โดยเฉพาะลูกผู้ชายอีกหลังจากนั่นที่เราคบกันไม่นานฉันก็ตัดสินบอกป๊าม๊าและฟรานก็บอกคุณสเปียร ไปพ่อแม่ของเราสองคนรู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำที่เราลงเอยกันได้และหลังจากนั่น 3 ปีเราก็แต่งงานกันตอนนี้ฟรานย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว ทุกคนดูจะรักและห่วง สฟิงซ์มากเพราะเป็นหลานคนแรกๆเลย ฉันก็หยุดจากการทำงานซักพักเพื่อมาอยู่ดูแลเขาให้ได้เต็มที่
“ป๊า ครับฟิงซ์มาแล้ว^+++^”
“ครับผม ว่านี้ มี่พาไปไหนมา สนุกไหมครับ”
“สนุกครับ ตัวเลอะทรายด้วย”
“ไปอาบน้ำกันน่ะลูก เลอะป๊าหมดแล้ว”
“ไปอาบน้ำก่อนน่ะคร๊าบบ”
“แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิง ก็รักกันไปตราบนานชั่วนาน จบแล้วครับ อ้าวหลับแล้วซะงั้น ฝันดีน่ะครับ^^” ฉันบอกก่อนจะจูบที่หน้าผากเขาเบาๆ
“เหนื่อยไหม ฟรานถามขึ้นในขณะที่กำลังเก็บเอกสารก่อนจะเดินมาหาฉันที่เตียง”
“ก็เหมือนเดิม ฟิงซ์ดื้อเหมือนเดิม”
“ งั้นถ้ามีอีกสัก 2 คนได้ไหม หาน้องให้สฟิงซ์^++^” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลก ตั้งแต่ท่เราคบกันมารู้สึกเขารู้เรื่องพวกนี้ดีจริงๆเลย
“ไม่ต้องเลย ฉันง่วงแล้ว -///-”
“ก็นอนไปดิ ฉันยังไม่ง่วง”
“นายพูดแบบนี้ตลอดแหละแล้วฉันเคยจะได้นอนไหม -///-”
“...หึหึ --+++”
หากคุณรักใครชอบใครอยากเก็บไว้คนเดี่ยวบ้างครั้งถ้าคุณยังลังเล ถ้าคุณยังไม่แน่ใจอยู่ละก็ คุณอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่ความลับนี้ไปพร้อมกับเราทั้งใครคนนั้นยังไม่มีโอกาสได้รับรู้เลย...ความรักเกินขึ้นได้และไม่จำเป็นต้องใช้กาลเวลามาพิสูจน์ แต่หากบททดสอบที่แท้จริงนั่นอยู่ความรักของทั้งองฝ่ายที่ต่างมีให้กันและกันต่างหาก
THE END
จากไรเตอร์ ปิงปอง
ความคิดเห็น