ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic-SooxNewThe Split- ฉันคิดมากไปใช่ไหม?

    ลำดับตอนที่ #13 : Fic-SooxNewThe Split: ฉันคิดมากไปใช่ไหม ตอนที่11

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 55




     

    Titel:ฉันคิดมากไปใช่ไหม? ตอนที่11

    Author:Pingpong

    Couple:SooxNew

    Update:14/05/2555

    -----------------------------------------------------------------------------------------

    อะไรน่ะนิว  เมื่อกี้พูดว่าไรน่ะ”
     

    “เออ เปล่าๆ ไม่มีไร กูไปแล้วน่ะพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน”  ผมพูดรัวเร็วก่อนจะเปิดประตูรถลงไปทันที ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะให้โซ่มันรีบกลับบ้านไปเร็วๆน่ะแหละ...ไม่อยากจะคิดถ้ามันสองคนมาเจอหน้ากันอีกจะเป็นยังไง...ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนั่นกับไอ้โซ่จนตอนนี้ที่พวกผมย้ายกลับมาที่เดิมแล้วก็นานแล้วเหมือนกัน ผมก็แทบไม่ได้เห็นหน้าไอ้เจย์อีกเลย... เดี๋ยวก่อนดิ รีบไล่เลยน่ะ ยังไม่ได้ไปหวัดดี ป๊ากับม๊าเลย ตอนที่ผมกำลังจะเข้าบ้าน ไอ้โซ่ก็ดันมาขวางไว้ก่อน

    “วันนี้ป๊ากับม๊ากูไม่อยู่”  

    “ใครน่ะมายืนอะไรที่หน้าบ้าน...อ้าวโซ่กับนิวเองหรอลูก มาทันเวลาอาหารเย็นพอดีเลย โซ่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิลูกแล้วค่อยกลับ” ป๊าน่ะป๊ารู้ไหมว่าตัวเองออกมาผิดคิวแล้ว

    “ ป๊าพอดีวันนี้ไอ้โซ่มันไม่ว่างน่ะ อีกอย่างมึงรีบๆกลับเหอะซุงอยู่บ้านคนเดี่ยวไม่ใช่หรอไง” ผมยังพยายามหานั่นนี่มาเบี่ยงเบนความสนใจมัน

    “อยู่คนเดี่ยวที่ไหน แม่ให้น้ารุ้งมาอยู่ด้วยแล้วต่างหาก...ยังไงวันนี้ฝากท้องที่นี้ด้วยน่ะครับป๊า ไอ้โซ่พูดเสร็จก็ชิ่งวิ่งเข้าบ้านไปทันที 

    “ เออนิวเพื่อนลูกมาหาด้วยน่ะรีบเข้าไปสิเขามารอตั้งแต่เย็นแล้ว” ป๊าพูดขิ้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน..เอาหว่ะทำใจร่มๆไว้มันต้องไม่มีอะไร ผมปลอบใจตัวเองเสร็จก็เดินตรงไปเพื่อที่จะเข้าบ้านแต่ตอนนั่นเองก็สวนทางกับคนที่เดินออกมาจากบ้านซะก่อน

    “นิว หวัดดี” ผมหันหลังกลับไปตามเสียงที่เรียก ไอ้เจย์เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะอาหารก่อนที่จะนั่งลงข้างผม  ตอนนั่นเองมือที่ตกอยู่ข้างลำตัวของผมก็ถูกไอ้โซ่คว้าไปก่อนจะบีบไว้เบาๆ

    “เออหวัดดี ”

    “เออกูมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”

    “คนอะไร จะกินข้าวยังชวนคนอื่นคุย ไม่มีมารยาท... ”

    “โซ่... ” ผมกระซิบด้วยเสียงน้ำเสียงเข้มให้มัน หยุดพูดมาก

    “ม๊าว่าเอาไว้ทานข้าวกันเสร็จดีไหมลูกเดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดไม่น่าทาน ในขณะที่จะเกิดศึกสงครามขึ้นแม่ผมก็แทรกขึ้นมาซะก่อน...หลังจากนั่นเราก็กินข้าวกันต่ออย่างเงียบๆ อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่โคตรอึดอัดมากที่สุดเลย ทั้งโต๊ะเงียบเต็มไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ

    “โซ่นิวกลับแล้วน่ะ “มันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “กูรู้ว่าวันนี้มึงไม่รู้สึกไม่ค่อยดี...มีไรอยากจะพูดไหม”

    “ช่างมันเหอะก็แค่มันกินข้าวร่วมโต๊ะกับมัน แค่นี้ไม่ตายหรอก... ”

    “นิว...กูว่าจะขอคุยด้วยหน่อย... ” ในขณะที่ผมกำลังคุยกับไอ้โซ่อยู่นั่น เสียงของผู้มาใหม่ก็ดังขึ้นซะก่อน ไอ้เจย์นี่หว่า  ไอ้โซ่ผละออกจากผมก่อนจะเดินไปหาไอ้เจย์

    มึงมีเรื่องอะไรจะคุยกับแฟนกู...
    ” ไอ้โซ่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ 

    ขอโทษที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่กูคงต้องขอคุยกับนิวสองคน โดยไม่มีคนนอกอยู่ฟังด้วย...
    ไอ้เจย์ มึง..” ไอ้โซ่พูดเสียงกระซิบรอดไรฟันและก่อนที่มันจะเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้เจย์แล้วได้ฟัดกันอีก ผมที่ได้สติก็เลยรีบเดินมาหาพวกมัน อยากมาตีกันหน้าบ้านกูน่ะ

    ไอ้โซ่...มึงกลับไปก่อนไป...

    นิว..ถ้างั้นโซ่จะรอตรงนี้จนกว่ามันจะคุยกับนิวเสร็จ

    มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แค่คุยเท่านั่น...
    ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่จะจ้องมองลึกไปที่ดวงตาเรียวเล็กนั่น

    “ไปขับรถ.. อื้ออ” ผมพูดยังไม่ทันจบเสียงก็ต้องจมหายไปซะก่อนเพราะริมฝีปากร้ายกาจของคนตรงหน้าประทับลงมาอย่างรวดเร็ว ผมพยายามจะผลักมันออกแต่ก็ไม่ได้ผล ผมตกใจมากไอ้เจย์มันก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะพยายามผลักที่อกไอ้โซ่แรงๆ มันค่อยๆถอนริมฝีปากออก

    “พรุ่งนี้เจอกันน่ะ” มันบอกผม ก่อนที่จะหันหน้าไปนักคิ้วให้ไอ้เจย์ที่ยืนอยู่ และแสระยิ้มที่มุมปากน้อยๆ..ผมหันหน้าไปทางไอ้เจย์ก่อนจะเห็นว่ามันกำมืออยู่แน่น... ไอ้โซ่ก้มลงจุมพิตที่แก้มผมอย่างเร็วก่อนจะเดินไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไป...

    “กูกลับก่อนน่ะ” น้ำเสียงที่เรียบเฉยออกมาจากปากของมันแตกต่างกับครั้งแรกที่คุยเมื่อกี้ มันเป็นอะไรหว่ะ

    “เดี๋ยวซิหว่ะ ไหนบอกมีเรื่องจะคุยด้วยไม่ใช่หรอไง”

    “กูไม่อยากคุยด้วยแล้ว...ไม่มีอารมณ์จะคุย”

    “ เมื่อกี้ยังบอกมีเรื่องจะคุยอยู่เลย มึงเป็นอะไร มึงมีอะไรก็บอกกูมาสิ มึงเราสองคนเป็นเพื่อนกันน่ะ” 

    “ใช่เป็นเพื่อน เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั่น... ” มันพูดเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกบ้างอย่างที่ต้องการให้ผมรับรู้มัน

     “ตอนอยู่ที่โรงเรียนมึงก็ไม่คุย มึงหลบหน้ากู พูดด้วยก็ไม่พูด จนกูย้ายกลับไปที่รร.เดิม กูโทรไปมึงก็ไม่รับ ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอมึง แล้วๆอยู่วันนี้มึงก็โผล่หัวมึงมาที่บ้านกูบอกว่ามีเรื่องจะคุย และพอกูจะฟังมึง พอกูจะอยากช่วยมึง มึงก็ทำแบบนี้ มึงจะวิ่งหนีปัญหาไปเพื่ออะไร..”

    “มึงอยากรู้หรอนิวว่ากูเป็นอะไร มึงอยากรู้มากใช่ไหม” มันพูดในขณะที่เดินเข้ามาใกล้ผม แววตาที่เคยอ่อนโยนแปลเปลี่ยนไปอย่างกับเจย์คนใหม่คนที่ผมไม่เคยรู้จัก

    “เจย์มึงจะ อื้ออ…” และสิ่งที่ผมไม่คลาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อริมฝีปากของคนตรงหน้ากระแทกลงมาอย่างเร็วก่อนจะบดขยี้ไปทั่วทั้งริมฝีปากผม เรียวลิ้นนั่นพยายามจะแทรกเข้ามาและก่อนที่เกิดการรุกรานมากไปกว่านั่นผมก็กัดเข้าที่ลิ้นมันอย่างแรงโดยไม่ต้องคิดอะไรก่อนเลย

    “โอ๊ย! ” มันผละออกจากผมก่อนจะเอามือกุมที่ปากไว้
    เพียะ

    มึงเป็นบ้าอะไร
    …ทำแบบนี้เพื่อ..เพื่ออะไร” ผมถามออกไปพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นและสะกัดกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาไว้

    “กูขอโทษ... “ มันพูดออกมาสั้นๆก่อนจะขึ้นคร่อมมอไซค์คันโตของมันและขับออกไปจากหน้าบ้านผมอย่างเร็ว...ไม่รู้ว่าผมยืนนิ่งอยู่ที่ตรงนี้นานเท่าไหร่เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ป๊ามาเรียกกลับเข้าบ้าน ผมไม่ได้คุยกับใครก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปทันที ผมเปิดไฟก่อนจะไปที่หัวเตียงของตัวเอง ผมหยิบกรอบรุปสีขาวขึ้นมามองภาพผู้ชายสองคนที่กอดคอกันถ่ายรูปอยู่

    “เจย์มึงคงไม่ได้ชอบกูหรอกใช่ไหม... ”  ผมวางกรอบรูปนั่นลงก่อนจะนั่งลงข้างเตียงอย่างคนหมดเรี่ยวแรง ทำไมชีวิตผมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย นี้ผมต้องมาเสียเพื่อนที่สนิทและดีกับผมไปเพราะในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ ทำไมพระเจ้าต้องเล่นตลกกับโชคชะตาของพวกผมด้วย...

         คนอื่นๆก็นั่งลอกการบ้านกันไป นั่งพูดคุยกันไป ส่วนผมกลับได้แต่นั่งกลุ้มๆมาแต่เช้าแล้วหล่ะ เมื่อคืนเองก็นอนไม่หลับผมโทรไปหาเจย์แต่มันกลับไม่รับสายผม ถึงมันจะทำแบบนั่นกับผมแต่ยังไงมันก็คือเพื่อน เห็นมันเป็นแบบนี้ ผมอดห่วงไม่ได้จริงๆ

       ผมยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองพร้อมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นเวลาอาทิตย์แล้ว แต่มันกลับทำผมนั่งจิตตกอยู่นานแล้วเหมือนกัน จากวันนั่นมันก้หายเงียบไปเลยไปเลยไปจริงๆ.. ที่มันทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่ามันต้องการจะบอกอะไรกับผม...และถ้าเกิดว่ามันชอบผมจริงๆผมจะไปทำอะไรได้ ผมก็สงสารมันแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อผมเองก็มีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว...

    “นิวๆ มีคนฝากของมาให้น่ะ”    

    “ใครอ่ะ ไอซ์ ”    

    “ไม่รู้แต่เราว่าน่าจะคนเดิมที่เคยให้แหละ อ่ะ ครั้งนี้เป็น 2 กล่องเพราะตอนที่นิวไปแลกเปลี่ยนเขาก็ยังฝากคนเอามาให้เหมือนเดิม”    

    “อืม..ขอบใจน่ะที่เก็บไว้ให้”  ผมบอกขอบคุณก่อนจะเอื้อมมือไปรับเอากล่องของขวัญขนาดกลางสองกล่องมาของใครหว่ะเออจะว่าไปแล้วกล่องแรกที่เคยได้ผมก็ยังไม่ได้เปิดดูเลยน่ะ

       ตลอดทางบนรถที่กำลังจะกลับบ้านผมก็ได้แต่เพ่งมองดูกล่องของขวัญ2กล่องสลับไปมาอย่างพินิจของใครกันหว่ะ คิดเท่านั่นคิ้วก็เริ่มผูกกันเข้าเป็นปมอีกแล้ว ปัญหาเรื่องไอ้เจย์ยังมีให้กูเครียดไม่พออีกใช่ไหม อย่าว่าผมบ้าเลยเป็นคุณอยากรู้ไหมหล่ะ เออแล้วสรุปมันของใครกันหล่ะ

    “กูจะไปรู้หรอไงหล่ะห่ะ”    

    “นิวเป็นไรอยู่ๆก็พูดขึ้นมาคนเดี่ยว”    

    “กูเบลอๆไปหน่อยหว่ะ กลับบ้านเลยน่ะไม่อยากไปกินไอศกรีมแล้วหว่ะ”     ผมบอกในขณะที่มอง
    ไปที่กล่อง วันนี้ผมจะต้องเปิดกล่องนี้ซะแล้วสรุปมันมีอะไรอยู่ข้างในและใครเป็นคนเอามาให้ผมกันแน่

    “ก็ได้ๆ...แล้วนี่จะมองไรมันนักหนาตั้งแต่อยู่สนามบอลหล่ะ กล่องของขวัญนี่มันน่ามองกว่าโซ่ตรงไหนหว่ะ”      ไอ้โซ่พูดขึ้นก่อนจะคว้ากล่องของขวัญในมือผมไป

    “โซ่กูไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยตอนนี้ เอาคืนมา -+-”     ในขณะที่ยื้อแย่งกล่องของขวัญอยู่นั่นเองจู่ๆกล่องของขวัญก็ตกลงไปที่เท้าของไอ้โซ่ตรงที่เหยียบเบรกกับคันเร่งแทน

    “เห็นไหมตกเลยไอ้บ้า”     ผมตะโกนด่ามันก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนจะก้มลงไปเพื่อจะไปเอากล่องของขวัญที่ตก เพื่อมันเป็นแก้วไรงี้หล่ะ แตกกันพอดี
    เอี๊ยดด

    “ไอ้เชี่ยย”     เบรกห่าไรของมึง หัวผมเกือบทิ่มลงไปครับทุกคน

    “แล้วเมื่อกี้นิวทำอะไรหล่ะ ”    

    “ก็เก็บกล่องของขวัญนี่ไง ”    

    “แล้วทำไมไม่บอกดีๆ มาก้มลง ท่าโซ่ก็ล่อแหลมขนาดนี้ นึกว่ามีอารมณ์ขึ้นเลย... ”    
    โป๊ก

    “โอ๊ยย!แล้วมันจริงไหมหล่ะถ้าคนอื่นมาเห็นก็คิดกัน”    

    “หุบปากของมึงแล้วขับไปเลย เรื่องแบบนี้มีแต่คนหื่นๆอย่างมึงคิดได้คนเดี่ยวเท่านั่นแหละ”    

    “นิว! ”    มันตะโกนขึ้นมาเสียงดัง คิดว่ากูกลัวหรอครับเสียใจด้วย นิวคนเดิมเปลี่ยนไปแล้วน่ะครับคุณโซ่กูไม่กลัวมึงหรอกจะบอกให้รู้ไว้เลย (เวลาเขาเอาจริงก็เงียบ:ไร) (ไรอย่าพูดมากเดี๋ยวจะโดนอีกคน:นิว)

    “โซ่ขับรถต่อเหอะ..กูปวดหัวอยากกลับบ้านไม่มีอารมณ์จะเถียงด้วย”

    แล้วนิวป็นอะไรก็บอกโซ่ดิ นี่เห็นกลุ้มเป็นอาทิตย์แล้ว เป็นอะไรหรือเปล่า

    “ไม่ได้มีอะไรทั้งนั่นแหละ ”

    “โกหก”

    “กูบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี มึงจะรู้แทนกูได้ยังไง”

    “โกหก คบกันมาทำไมแค่นี้โซ่จะมองไม่ออกว่านิวมีเรื่องอะไร..เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร พร้อมจะเล่าตอนไหนก็บอกแล้วกัน...”กูก็อยากเล่าให้มึงฟังน่ะ แต่ก็ยังไม่คิดไม่ออกเลยถ้าสิ่งที่จะเล่ามันป็นเรื่องไอ้เจย์ มึงยังจะยังอยากฟังอยู่ไหม ฟังแค่ชื่อมันก็ยังโมโหแล้วเลย

    “กูขอโทษที่เสียงดังใส่มึงน่ะ.. ”

    “ช่างมันเถอะ ตอนก่อนโซ่ก็หนักกว่านี้ นิวยังรับไว้เลย แต่อย่าติสบ่อยไปหล่ะเข้าใจ ”

    “เออๆ กูไปหล่ะ ขับรถดีๆน่ะ”

    “เดี๋ยวก่อนนิว...พอดีอาทิตย์หน้าที่จะปิดเทอมอ่ะพวกไอ้เฟรมมันจะไปที่กระบี่ ไปด้วยกันไหม”

    “กูคิดดูก่อนได้ไหม ไม่รู้ป๊าจะให้ไปด้วยหรือป่าวอ่ะ.. ”

    “อืม อย่างนี้แหละโซ่เข้าใจบ้านนี้มีลูกน่ารักจะมาปล่อยให้ลูกไปเที่ยวกับพวกผู้ชายเยอะๆได้ไง ”

    “พอเลยๆ มึงรีบกลับไป อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยน่ะมึงสัญญากับกูไว้แล้วน่ะ แล้วเกมส์อ่ะหยุดซะกูให้ซุงดูมึงตลอดน่ะ แต่ถ้ามึงยังคิดจะแอบเอามาเล่น...กูจะเอามันไปขายทิ้งให้หมดเลย” 

    “ครับๆรู้แล้วไม่เล่นก็ไม่เล่น ไปๆรีบเข้าบ้านก่อนจะถูกโซ่ฉุดกลับบ้านไปด้วย”  มันพูดก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถและขับออกไปทันที ผมรอจนรถขับออกไปไกลจากซอยก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง

        ผมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จไป ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะหยิบกล่องของขวัญที่เคยได้มาตั้งแต่ครั้งแรกแตกยังไม่มีโอกาสได้เปิดดูมันสักที ผมค่อยๆแกะกล่องของขวัญนั่นออกช้าๆก่อนจะหยิบของสิ่งนั่นออกมาดู

    “นี่มันนาฬิกาที่...” เมื่อประมาณตอน ม.1 ผมจำได้ว่านี่เป็นของที่ผมอยากได้มันมีแค่ชิ้นเดียวในร้าน ตอนนั่นเป็นวันเกิดผมเองผมกะจะไปซื้อมันแต่ที่ร้านก็บอกว่ามีคนซื้อไปแล้วผมหาซื้อมันอยู่นานแต่ร้านอื่นๆก็บอกไม่มีขายเลย ผมค่อยๆเปิดฝาพับออกก่อนจะพบกระดาษใบเล็กๆ
    คงไม่โกรธน่ะ ที่ไปซื้อตัดหน้ามาก่อน...หวังว่าจะชอบมันน่ะ c:
     
        ผมมองกล่องของขวัญที่เหลืออีก 2 กล่อง ผมค่อยๆแกะกล่องใบนั่นออกก่อนจะพบว่าข้างในนั่นเป็นเหมือนหีบๆเล็กค่อยๆกับพวกกล่องดนตรีอะไรประมาณนั่นมันดูคุ้นๆน่ะเหมือนเคยเห็นที่ไหน ผมค่อยๆเปิดฝาหีบนั่นออก
     ~ laaa ~ laa ~ laaa ~

    “นี่มันไอ้หีบที่ร้านนั่นนี่หว่า... ”  ไอ้หีบนี้สมัยตอนผมอยู่ ม.2 จำได้เลยอยากจะรู้แล้วหล่ะสิว่าใครมันให้ผมมันไปชิ่งซื้อมาก่อนผมหลายอย่างแล้วน่ะ มันตรัสรู้ได้ไงว่าผมชอบอะไร ผมมองเพ่งไปภายในกล่องนั่นยังมีกระดาษใบเล็กๆหนีบอยู่พร้อมแม่กุญแจ
    คงชอบมากสิน่ะ เห็นไปมองดูมันที่ร้านบ่อยๆ...คิดว่าจะชอบน่ะดูแลมันดีๆหล่ะ:D

    “มันรู้ได้ไงใครกันแน่น่ะที่เป็นคนให้ของพวกนี้... ” ผมมองกุญแจในมือก่อนจะคว้าของขวัญกล่องที่สามแล้วแกะกระดาษออกอย่างรวดเร็ว มันเป็นหีบเล็กๆเหมือนเมื่อกี้ผมค่อยๆไขมันออกก่อนจะพบเพียงกระดาษใบเล็กผมคลี่ออกก่อนจะพบว่ามันข้อความสั้นๆ ก่อนจะพลิกไปทางด้านหลังปรากฏว่ามันคือแผนที่ รายแทงหาสมบัติหรือไงหว่ะ =0=^ ดูเหมือนจะเป็นทางไปสวนหลังโรงเรียน



    แล้วเจอกันน่ะ :D
    ปล.ยังมีของชิ้นสุดท้ายที่จะให้ด้วย หามันให้เจอหล่ะ:D
     -----------------------------------------------------------------------------
     หวัดดีจร้า วันนี้อัพ 2 ตอนรวดเนื่องมาจากไม่ได้อัพนาน เพราะเน็ตเน่าได้อีก เซงมากจริงๆ วันนี้เลยเข้ามาเช้ดดูตอนที่พึ่งลงไป คนช่างเข้ามาน้อยนิด พร้อมคอมเมนที่น้อยเหลือใจ อารมณ์นอยด์เข้าครอบง่ำเลยทีเดียว คนหายไปไหนหมดด สงสัยเพราะใกล้เปิดเทอมและไรหายหัวไปนานใช่ไหม เขาขอโทษ ง้อแล้วน่ะๆ ได้โปรดกลับมาอ่านฟิคเขาเหมือนเดิมเถอะ อยากได้กำลังใจจากรีดเดอร์ทุกๆคนTT มาม่ากันไปซะงั้น อ่านแล้วเมนเป้นกำลังใจให้ด้วยน่ะจร้า 


    เห็นแล้วมันน่า(ลัก)

     



      

    ขอบคุณคนที่ยังคงติดตาม ให้กำลังใจและกำลังคอมเมนจากรีดเอดร์ทุกคน ค๊า^^  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×