ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☆ PRINCE LUCIFER ☆

    ลำดับตอนที่ #15 : ☆ PRINCE LUCIFER ☆THE PRINCE OF SICOLD :PART 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 54





       PRINCE OF SICOLD




     

    PART:1.1 IT’S BEGING
    กลางดึก คอแห้งจัง ฉันคิดก่อนจะหยิบเอาแว่นที่โต๊ะข้างเตียงมาใส่ ผมยาวที่ตอนนี้ปล่อยให้เป็นอริสระหยุ่งเหยิง ร่างบางในชุดกระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมาแขนกุดสีขาวบริสุทธิ์ เดินลงบันไดอย่างเชื่องช้าเพื่อไปยังชั้นล่างของตัวบ้าน ก่อนจะเดินไปยังทางห้องครัว ฉันเปิดตู้เย็นก่อนจะหยิบเหยือกน้ำออกมาและหยิบแก้วน้ำบนเคาเตอร์ในขนาดที่กำลังรินน้ำอยู่นั่นเอง ความรู้สึกเหมือน หวิวๆข้างหลังอยู่นิ้วมือที่สะกิดที่ไหล่ฉัน ฉันกำเหยือกแน่นก่อนจะทำใจกล้าหั่นหลังไป ตัวเกรงไปหมด พระเจ้า ฉันทั้งสวดมนต์ ภวนาในใจ...ก่อนจะหั่นหน้าไป

    “กรี๊ดด~!!” ฉันร้องกรี๊ดออกมาทันทีเมื่อมีคนอยู่ข้างหลังจริงๆ ฉันปล่อยเหยือกลงกับพื้นก่อนจะยกมือขึ้นปิดตาทั้งสองข้าง ฉันคิดอยู่แล้วว่าบ้านหลังนี้มันต้องอะไรบ้างอย่าง ฉันจะย้าย ฉันจะ...
    เพร้ง!
    “โอ๊ยย!”
    เสียงคนร้องดังลั่นทำให้ฉันได้สติก่อนจะหยุดร้อง ฉันลดมือลงก่อนจะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น แล้วมองบุดคคลตรงหน้าที่ร้องสียงหลงเมื่อกี้
    “ฟราน!”
    “ก็ใช่น่ะสิ เธอคิดว่าใครหล่ะ shit!” เขาบอก ฟรานสบธออกมาก่อนจะก้มหน้าหน้าลงมองที่ปลายเท้าตัวเอง ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
    “ฉันขะ...ขอโทษน่ะ เจ็บมากไหม” ฉันบอกก่อนจะมองหน้าเขา ฟรานเงยหน้าขึ้นสบตากับฉัน เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ใกล้ขึ้นจนฉันต้องถอยหลังกรูไปตามสัญชาตญาณ ก่อนจะ…
    “กรี๊ดดด~!”  ฉันกรี๊ดอีกครั้งเมื่ออยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะลื่นลงไป น้ำที่คงหกตอนที่ฉันทำเหยือกตก บนพื้นทำให้ฉันลื่นก่อนจะล้มลงบนพื้นอย่างจังฉันคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อ ฟราน จึงทำให้ฉันกับเขา...
    ฟึ่บบบ
    กลายเป็นว่าตอนนี้ฟรานคล่อมร่างทั้งร่างของฉันอยู่ ฉันยังคงหลับตาสนิทด้วยความตกใจเมื่อกี้นี้ เราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ความเงียบและบรรยากาศที่แสนจะอึดอัดก็เริ่มตามมา...

    “Dam it” ฟรานสบธออกมาเบาๆ ก่อนจะยกตัวเองขึ้น ฉันค่อยๆลุกขึ้น ในขนาดเดี่ยวกัน ทำไมหน้าของดูเขาลางๆฉันยกมือขึ้นเพื่อหาแว่นที่อยู่บนใบหน้าตัวเอง ไม่มีนิ สงสัยจะหล่นเมื่อกี้

    “อืม ฟรานนายช่วยหาแว่นให้ฉันหน่อยสิ” ฉันบอกเสียงเบาเชิงขอร้อง ฟรานยังคงยืนอยู่ที่เดิม...ช่วยกันแค่นี้ไม่ได้หรือไงน่ะฉันคิดในใจก่อนจะก้มลงบนพื้นเพื่อคว้านของแว่นของตัวเอง อ่ะ นี่ไงฉันหยิบแว่นตัวเองขึ้นมาใส่...ฉันไม่สนใจบุคคลที่ยื่นตรงหน้าก่อนจะเก็บเศษแก้วต่อไป

    “โอ๊ยย“ ฉันลุกขึ้นยื่นเต็มตัวและนิ่วหน้าทันที ทำไมถึงซุ่มซามอย่างนี้น่ะฉัน ฉันคิดในขนาดที่กำลังเดินไปที่ อ่างล่างมือในครัวและก่อนที่ฉันจะล้างนั่นอยู่ฟรานที่ตอนไหนไม่รู้ก็เอาทิชชูกดแผลไว้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะพบว่าหน้าของฟรานดูแดงเถือกและลามไปถึงใบหู
    “ขึ้นไปได้แล้วฉันจะเก็บเอง”
    “แต่ฉัน....”
    “ขึ้นห้องไปซะ ถ้าไม่อยากให้ฉันทำอะไรเธอ”เขาพูดออกมาดูน้ำเสียงจริงจังแต่หน้ายังแดงอยู่ อะไรของเขาเนี๊ย
    “ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว มันเปียกจนฉันเห็นหมดแล้ว...” และก่อนที่ฟรานจะได้พูดอะไรมากกว่านั่นฉันก้มมองตัวเองที่ตอนนี้เปียกไปหมดแล้ว ชุดนอนสีขาวบริสุทธิ์โดนน้ำทำให้เปียกจนตอนนี้ชุดเรียบเข้าหาลำตัว ฉันยกมือขึ้นบังหน้าอกตัวเองก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดบ้านทันที ให้ตาย ทำไมถึงได้เกิดเรื่องหน้าอายได้ตลอดเลยฉัน

    ฉันวิ่งเข้ามาในห้องนอนของตัวเองก่อนจะล็อกไว้อย่างแน่นหนา ฉันรีบเปลี่ยนชุดอย่างเร็วก่อนจะมองตัวเองในกระจกที่สะท้อนทั้งตัวฉันในตอนนี้ที่หน้าแดงเถือกอีกครั้งแล้ว โถ่เอ๋ย หน้าอายชะมัดเลย
    >////< ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะขึ้นเตียงและห่มผมคลุมโป่งอย่างเร็ว “ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว มันเปียกจนฉันเห็นหมดแล้ว” นอนได้แล้วจะคิดถึงมันทำไม ไม่รู้นานเท่าไรที่ฉันนอนบิดตัวไปมาและนึกถึงแต่ตอนที่ฟรานพูดคำนั่นจนฉันคิดว่าตัวเอง...ตัวเธอที่หลับก่อนจะปล่อยตัวเองสู่ห่วงนินทาแต่กลับมีเสียงหัวใจที่เต้นรั่วดังตลอดเวลานี้มันคืออะไร?
    FARNCE TALK
    วุ่นวายชะมัด ผู้หญิงอะไรหว่ะซุ่มซ่ามขนาดนี้ ผมคิดบ่นในใจขนาดก้มลงเก็บเศษแก้วบนพื้นใส่ถังขยะ ก่อนจะเอาไม้ถูมาเช็ด ให้ตาย ทำไมผมถึงต้องมานั่งเก็บเศษแก้วและยังต้องมานั่งถูๆเช็ดๆ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดผมเลย ยัยนี้ต๊องชัดๆไม่งั้นคงไม่กรี๊ดสลบทั้งที่เห็นว่าเป็นคนหรอก แล้วดูดิแมร่งทำเหยือกทับเท้าผมอีก

    “โอ๊ย” ผมที่กำลังลูบคอตัวเองร้องออกมาทันที ต้องฝีมือยัยนั่นแน่น ล้มคนเดี่ยวไม่พอดันดึงผมลงไปด้วยอีก...ผมบิดประตูห้องตัวเองก่อนจะมองไปยังห้องที่อยู่ตรงข้าม

    “ยัยเบ๊อะเอ๊ย” ผมพูดออกมาเบาๆก่อนจะปิดประตุห้องแล้วเดินเข้าไป ผมจัดการทำผมที่เท้ากับคอตัวเอง พรุ่งนี้ถ้าพวกไอ้ซีเห็นแมร่งไม่พ้นคุยเป็นประเด็นแน่ ผมแปะพาสเตอร์ลงก่อนจะเดินออกมา ผมลงตัวลงนอนแต่แล้วภาพที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ย้อนกลับมาอีกแล้ว ภาพที่ยัยนั่นหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ภาพที่เธอลืมตาขึ้นใบหน้าที่ปราศจากการแต่งแต้มใดๆและไม่ได้ใส่แว่นอยู่....สายตาที่จับจ้องมาที่ผมถึงแม้เธอจะไม่เห็นผม แต่ผมที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมสีดำสนิทของเธอ แววตาที่ใสซื่อราวกับเด็ก ริมฝีปากบางที่สั่นระริกจากความกลัว...นี่สิน่ะที่ทำให้แฟรงเป็นแบบนี้ได้ แล้วผมจะต้องเก็บมาคิดใส่หัวทำไมหว่ะ ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง รำคาญความตัวเองชะมัด(ไอ้นี่นิ:ไร)...เขาพยายามข่มเปลือกตาลงก่อนจะพล่อยหลับไป
    End talk FARNCE  
     “ฮ้าว~@o@/” ฉันยันตัวขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นบิดตัวซ้าย ขวา
    ง่วงชะมัดเลย กว่าจะหลับได้ก็คงประมาณตี3ตี4 โอ๊ย~ ง่วงๆๆๆ  เพราะเขาคนเดี่ยวเลยทำให้ฉันตาจะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว
    “เอ๊ะ!...” วันนี้มันวันที่ฉันจะไปหาเพื่อนนี้นา~ ….เย้~ ^_^/

    ฉันรีบวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัวในทันที ลืมความง่วงไปปลิดทิ้ง วันนี้ฉันฉันใส่เดรสแขนกุดสีโอรสยาวเหนือหัวเข่าเล็กน้อย แล้วฉันก็ใส่เสื้อกั๊กยีนครึ่งตัวทับ ชุดเดรสตัวนี้นะเพื่อนฉันเสื้อมาให้เลยนะ ฉันเลยต้องใส่ไปอวดสักหน่อย ฉันมองดูตัวเองในกระจกเช็กความเรียบร้อย ฉันลองถอดแว่นดูผมว่ามันดูลางๆ เอาไว้ค่อยออกไปซื้อแล้วกัน... ฉันยิ้มกับตัวเองในกระจกก่อนจะสะพายกระเป๋าสะพายสีขาวแล้วเดินออกจากห้อง เมื่อลงมาถึงข้างล่างเห็นฟรานที่นั่งเล่นเกมอยู่ที่โซฟา ฉันมองเห็นตรงคอเขาที่ติดพลาสเตอร์อยู่ อย่างรู้สึกผิด
    นี่แผลเป็นไงมั่ง หายเจ็บยัง ฉันถามออกเป็น
    “..... ” เขาไม่ตอบอะไรก่อนจะนั่งเล่นเกมส์ต่อ
    “อะ...เอ่อฟรานพาฉันไปหาเพื่อนหน่อยได้มั้ย ฉันยังไม่ชินทาง” ฉันพูดเสียงอ่อนปนขอร้อง แต่ฟรานก็ยังไม่สนใจแต่กับจดจ่ออยู่กับไอพอด ฉันคิดอยู่แล้วไม่หน้าถามเลยเขาเป็นคนแบบนี้แหละ...ไปก็ได้มีแผ่นที่ซะอย่าง   เกมมันสำคัญกว่าที่จะพาฉันไปหาเพื่อนแค่แปปเดี่ยวหรือไงน่ะ-^-
    แล้วฉันก็เดินออกจากบ้าน ไปเองก็ได้ เชอะ!

    1ชั่วโมงผ่านไป
    หลังจากที่ฉันเดินรอบหมู่บ้าน 2 รอบ และเดินหารถประจำทางเพื่อจะไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี F ปวดขาชะมัดเลย แล้วระหว่างที่ฉันจะขึ้นบันไดเลื่อนไปรอรถไฟฟ้า...แล้วฉันก็เดินขึ้นรถไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย ช่วงนี้คนน้อย จึงมีที่นั่งให้ฉันนั่งนั้นเอง ฉันหยิบไอแพดขึ้นมาหาที่อยู่บ้านเพื่อนฉัน หวังว่าคงจะไม่หลงนะ- -^
    หลังจากที่ฉันเดินลงจากรถไฟฟ้าฉันก็เดินไปตามทางในแผนที่ คงน่าจะอีกสัก10นาทีแหะ ฉันก้มหน้าก้มตามองแผนที่เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยกับการหาทางกลับ
    ปึก!
    “เฮ้~ เดินดะ..”
    “ขอโทษค่ะ..”
    ฉันก้มหน้าก้มตาขอโทษ ก่อนจะเดินออกไป
    “มินมิน” ผู้ชายที่ฉันเดินชนเมื่อกี้เรียกฉันแต่ ฉันไม่หันกลับไปเขาเลยวิ่งตามมาเยาะๆแล้วจับมือฉันไว้ “มินมิน”เสียงแบบนี้มันคุ้นๆแหะ
    “แฟรง” ฉันมองหน้าแฟรงแล้วพยายามสะบัดมือออกแต่มือแฟรงรู้สึกจะเป็นมือตุ๊กแกแกะออกยากชะมัด
    “เธอมาทำอะไรที่นี้? ”
    “……”  ฉันไม่ตอบก่อนจะพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทาง
     “เธอจะไปไหน...ฉันจะพาไป” แฟรงถามเสียงเรียบ ก่อนจะเดินมาขว้างหน้าฉันไว้

    ปี๊นๆ
    ฉันหันไปมองที่ต้นเสียงคือรถสปอต์สีดำคันหรู เอ่อ...ไม่ใช่เวลามาชมรถสินะ--^
    กระจก รถฝั่งข้างที่นั่งคนขับเปิดออก แล้วคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับนั้นก็คือฟรานแล้วพูดขึ้น
     “ขึ้นมา” ฟรานบอกเสียงเรียบ นี่เขาแอบตามฉันมางั้นหรา
    “ฉัน..” ฉันชี้นิ้วมาที่ตัวเอง หมายถึงฉันหรอ
    “เออ...เร็ว!” ฟรานกระแทกน้ำเสียงอย่างหงุดหงิดแต่ยังคงความนิ่งของหน้า
    “ไม่ต้องยุ่ง…คนของฉัน ฉันจัดการได้หว่ะ”ฉันอึ่งกับประโยคที่เขาพูดเล็ก “คนของฉัน” แฟรงดึงฉันไปด้านหลัง ฉันสาบานว่าจะไม่ไปกับเขาแน่นอน นายมันตัวอันตราหมายเลข 1
    “ถามเธอสิ” ฟรานพูดเสียงเรียบปนหงุดหงิด หน้าก็เริ่มแสดงอารมณ์โกรธขึ้นมาเล็กน้อย คาดว่าอีกสักพักคงจะเกิดสงครามย่อมๆขึ้นแน่นนอนเลย
    “เอ่อ..ฉันจะไปบ้านเพื่อนกับฟรานแต่บังเอิญหลงกันน่ะ^^;;” มีแต่คนบอกว่าฉันโกหกไม่เนียนครั้งนี้จะรอดมั้ยเนี้ย แล้วฉันก็สลัดมือตัวเองออกอย่างแรงก่อนจะรีบวิ่งหวังจะไปขึ้นรถแต่แฟรงค์ก็ไว้กว่าเขาเก้าเท้ามาข้างหน้าก่อนจะขว้างตัวฉันไว้
    “แต่ตอนนี้เธอเจอฉันแล้ว...ไปกับฉันก็ได้” เขาไม่รอให้ฉันได้ตอบอะไรก่อนจะจูง(ลาก)ฉันเหมือนเขาจะบีบเข้าที่ข้อมือฉันจนมันแทบจะหักอยู่แล้ว เขาดึงตัวฉันเข้าไปในตรอกหนึ่ง แฟรงผลักฉันเข้ากับผนังอย่างแรง ฉันนิ่วหน้าอีกครั้ง
    ปึก!
    “ทำไมต้องทำให้ไม่พอใจด้วยหล่ะครับ ^^”
    “ฉันทำอะไร”
    “แล้วที่จะไปกับไอ้ฟรานหล่ะครับ”  เขาถามก่อนจะบีบข้อมือฉันแรงกว่าเดิม
    “แฟรง มันเจ็บน่ะ”  
    “เจ็บหรา แล้วเมื่อคืนที่บอกไม่ชัดพอหรือไงครับ ^^”  แฟรงบอกก่อนยิ้มเย็น
    “ บอกอะไรของนาย”  ฉันถามเสียงสั่น ฉันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตากับเขาแล้ว แฟรงดูหน้ากลัวมากในตอนนี้

    “จะต้องทวนความจำให้หราไงน่ะ มินมิน ”เขาพูดเสียงเย็น เขาดึงแว่นที่สวมอยู่ออกและก่อนที่ฉันจะพูดอะไรได้มากกว่านั่นแฟรงก้มหน้าลงมาอย่างเร็วก่อนจะทับริมฝีปากลงกับริมฝีปากฉัน เขาบดเบียดมันจนล้วงล่ำเข้ามามากขึ้นฉันทั้งผลักและทุบอกเขาอย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผล น้ำตาที่กลั่นไว้ ไหลรินออกมา แฟรงผละออกจากริมฝีปากฉันเขาจูบซับน้ำตาให้ฉันก่อนจะก้มหน้าลงมาที่ซอกคอฉันก่อนจะทำอะไรสักอย่างที่ทำเอาฉันเจ็บจิ๊ดมือเขาลูบที่ต้นขาฉันช้าๆฉันจับมือเขาไว้อย่างเร็วแฟรงเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหาก่อนจะก้มหน้าลงมาหมายจะปิดปากฉันอีก ฉันผลักหน้าเขาออกอย่างแรงหมายจะตบที่เข้าที่หน้าแฟรง

    เพี๊ยะ
    !
    “ พอ ฮึก.. พอได้แล้ว ฮืออ ” ฉันบอกก่อนจะฟาดกระเป๋าสะพายในมือที่อกเขาอย่างแรง ถึงไม่รู้ว่าขาอยู่ตรงไหนถึงแม้จะฟาดได้แต่อากาศแต่ฉันก็ทำไปอย่างนั่น เขาดึงฉันเข้ามาใกล้ก่อนรวบมือทั้งสองของฉันขึ้น
    “หยุดร้องไห้ซะถ้าไม่อยากโดนแบบเมื่อกี้....เพราะเธอน่ะที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้”  เขาพูดเสียงเข้มก่อนจะปาดหน้าที่แก้มให้ฉัน ฉันปัดมือเขาออกอย่างแรง
    “ไอ้บ้าฉัน..ฮึก..ฉันไปทำอะไรให้นาย..ฮึก..ฮื่ออ”
    “ฉันรู้ว่าเธอรู้น่ะ เมื่อคืนนี้ฉันก็บอกเธอไปแล้ว”
    “แต่ฉัน ฉัน ไม่เป็นอะไรทั้งนั่น ปล่อยฉันสักที”  
    “ไม่ได้ ฉันจะไม่ปล่อยเธอ จะไม่ปล่อยเธอให้ใครง่ายๆหรอกมินมิน และไม่ต้องถามด้วยว่าทำไม แต่ตอนนี้หวังว่าเธอจะ... ”  แฟรงยังพูดไม่ทันจบอยู่ๆตัวเขาก็ถูกใครบ้างคนดึงออกไปทันที ฉันหน้าลงกับพื้นก่อนจะคว้านหาแว่นตาตัวเอง แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ
    ผลั๊วว ผลั๊วว
    ผลั๊วว ผลั๊วว

    “Dam it! France”  ฉันได้ยินเสียงสบธชื่อฟรานออกมา ก่อนที่ร่างของใครสักคนจะล้มลงที่ข้างๆปลายเท้าฉัน ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอยู่ๆร่างฉันทั้งร่างก็ถูกใครบ้างคนฉุดและออกวิ่งอย่างเร็วพระเจ้า สั้นสูง4นิ้วของฉันเขายังคงพาตัวฉันวิ่งไปก่อนจะหยุดและยัดตัวฉันเข้าไปในรถก่อนจะออกขับออกไปอย่างเร็ว ฉันหั่นไปมองฝั่งด้านคนขับถึงแม้จะเลือนรางแต่ฉันก็จำได้ดีว่าคือ...ฟราน

    เขารถไปโดยไม่พูดอะไรสักคำก่อนจะหยุดรถลงที่ที่หนึ่งเขาเปิดประตูให้ฉันก่อนจะดึง(พี่น้องคู่นี้มันเก็บกดมา
    :ไร)ตัวฉันขึ้นข้อเท้าที่ยังเจ็บเพราะตอนที่วิ่งมันพลิกแต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะร้องออกมาด้วยซ่ำ เขาลากฉันเข้าไปที่หนึ่งก่อนจะหยุดลง เขาจับฉันให้นั่งลงซึ่งเป็นโซฟาตัวยาวก่อนจะไปไหนสักที

    “คอนแทก.. ”  เขาบอกก่อนจะยื่นบางอย่างให้กับฉันที่ ฉันที่พอให้ลางๆว่ามันเป็นกล่องบางอย่าง
    ฟราน เขาหั่นหน้ากลับมา
    “.... ”  เขาหั่นหน้ากลับมาก่อนจะขมวดคิ้ว
    “อืม...สะ ใส่ไอ้นี่ให้หน่อยสิ ฉันใส่ไม่เป็นอ่ะ ” ฉันบอกความจริงออกไปทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วฟรานคงไม่ยอมทำให้ แต่ทำไมปากมันดันพูดและขอร้องเขาไปทุกทีเลย...แต่ให้ตายเถอะทุกคนไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะยอมใส่มันให้กับฉันจริงๆ
    “เสร็จแล้ว” เขาบอก ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะกระพริบตาถี่หลายครั้งเพื่อปรับระดับสายตาฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่าฟรานยืนอยู่ข้างหน้าตัวเอง ฉันเงยหน้าสบตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั่นที่ทั้ง เฉยชาและว่างเปล่าเหมือนเดิม ฟรานนิ่งเงียบไม่ปริปากออกมาสักคำในขนาดเดี่ยวกันที่ตัวเขาเองก็ไม่ยอมขยับตัวออกไปด้วยเช่นกัน ฉันกระพริบตาเมื่อรู้สึกค่อนข้างจะเคือง
    “เห็นไหม”
    “เห็นแล้ว ชัดมากเลย”

    “อืม... เขาเอยสั้นๆก่อนจะเดินออกไปข้างนอกอย่างเร็ว ร่างกายของเราสองคนที่อยู่ชิดกัน ชิดมากจนทำให้ฉันย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่แฟรงทำร้ายฉัน หวังว่าตัวเขาเองจะไม่ทำแบบนั่นกับฉันน่ะ ฉันเชื่อใจเขาในตอนนี้ว่าเขาเป็นคนดีถึงแม้ฟรานจะดูน่ากลัว แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาก็ช่วยฉันไว้ตลอด...ตอนนั่นที่เขาจับมือฉันวิ่งเขาจะรู้บ้างไหมว่าใจฉันมันเต้นรัวขนาดไหน และเมื่อกี้เขาจะได้ยินมันไหมน่ะ...แต่ให้ตาย เราพึ่งเจอกับเขาได้แค่สองวันเท่านั่นน่ะมินมิน ไม่แน่นเขาอาจมีอะไรบ้างอย่างซ้อนเก็บไว้ก็ได้…เพ้อเจ้อแล้วฉันไปดีกว่า
    “ไปไหน” หลังจากฉันขึ้นรถปิดประตูรถ ฟรานก็ออกตัวรถอย่างเร็วจนฉันแถบจะรัดเข็มขัดไม่ทัน และนี้ครั้งแรกที่ฟรานพูดกับฉันก่อน
    “ตามที่อยู่นี้แหละ” ฉันยื่นที่อยู่ในมือฉันไปให้ฟราน
    “- - ++” ฟรานเหลือบมองฉันด้วยสายตาอาฆาตแวบหนึ่งแล้วก็หันไปจดจ่อกับถนนต่อ เมื่อกี้เขาด่าฉันทางสายตาหรอ- -^
    ไม่ถึง 10 นาทีฉันก็มาถึงคอนโดที่ดูหรูหราแต่
    “มันเป็นที่อยู่ของบ้านไม่ใช่หรอ ..” ฉันหยิบที่อยู่ขึ้นมาอ่าน ดูอย่างละเอียด
    “…”ฟรานไม่ตอบและขับรถขึ้นไปข้างบน และเขายังคงทำหน้านิ่งเหมือนเดิม

    หรือ...อย่าบอกน่ะว่าหมอนี้จะ..ฉันคิดอยู่แล้วไม่มีผิดพี่กับน้องเชื่อไม่ทิ้งแถว แต่ทำไมเมื่อคืนทั้งที่เขามีโอกาสมากกว่านี้กลับไม่ทำ(เบาๆมิน
    :ไร)โอ๊ย ฉันคิดบ้าอะไรเนี๊ย มันคงไม่มีอะไรหรอกแต่กันไว้ดีกว่าแก้ ฉันหยิบขวดสเปรย์พริกไทยที่อยู่ในกระเป๋าสะพายตัวเองและกำมันไว้แน่น
    “ลง... ” ฟรานหั่นมาส่งเสียงเรียบ เอาหล่ะต้องตั้งสติดีๆใจเย็นไว้ พระเจ้าคุมครองลูกด้วย ในขนาดที่ฉันคิดภาวนาอยู่นั่น จู่ๆประตูก็ถูกกระชากออกอย่างแรง

    “จะลงมาได้ยัง” เขาถามเสียงรำคาญฉันลงขึ้นก่อนจะออกไป ฟรานผลักตัวฉันออกก่อนจะเดินมาล็อครถและเดินนำฉันไป ฉันเดินตามข้างหลังเงียบๆ ฟรานคงไม่สนใจเพราะยังไงเขาก็มองคนเป็นแค่อากาศธาตุอยู่แล้ว ฟรานเดินไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดที่ห้องหนึ่งแล้วเปิดประตูเข้าไปทันที
    “เฮ้ย!” เสียงผู้ชายดังออกจากห้องด้วยความตกใจ  
    ฉันวิ่งเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพบต้นตอของเสียง ร่างสูงเกิน 185 ผิวขาวซีดผมสีน้ำตาลเข้ม ยื่นอยู่ที่หน้าประตูก่อน
    “อ้าวไอ้ฟราน มาไงหว่ะเนี๊ย นั่นแน่นมีผู้หญิงมาซะด้วย เพื่อนผมพัฒนา”   ผู้ชายผู้สีน้ำตาลแดง พูดขึ้น
    “ไอ้มินโฮ มานี่”  ฟรานพูดเสียงเรียบก่อนจะลากคอเสื้อของของที่มินโฮไป และร่างบางของผู้หญิงเดินตามออกมา เห๊ย นั่นมันสปายนิ
    “ยัย ปาย”  
    “มินมิน”  ฉันเดินไปหาปายอย่างเร็วก่อนจะโผเข้ากอดกัน เราผละออกจากกันสปายรั่วคำถามใส่ฉันทันที
    “มากับไอ้ใบ้ได้ไง แล้วนี่มาถึงตอนนั่น พักตรงไหน ทำไม่เห็นบอกฉันเลย”  
    “นี่ พอๆก่อน โอเคฉันมาถึงเมื่อวานนี้ แล้วฉันก็พักอยู่บ้านหลังเดี่ยวกับเขา”  ฉันพูดก่อนจะหั่นหน้าไปทางฟราน
    “ว่าไงน่ะ ! ”  สปายร้องออกมาเสียงดัง
    “เป็นไรกันหรือป่าว ปายเข้ามาข้างในก่อนสิ”ปายพาฉันเดินเข้าไปในห้องก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก

    “เล่ามา...” ฉันบอกปายไปถึงเรื่องที่พ่อกับแม่ของพวกเรารู้จักกัน ปายหน้าจะรู้ดีว่าป๊า กับม๊าห่วงฉันมากแค่ไหนนี้ขนาดก่อนจะมาเราก็ทะเลาะกันแทบบ้านแตกด้วยสาเหตุที่ฉันโตไม่พบที่จะไปต่างประเทศคนเดี่ยว แต่ฉัน 20 แล้วน่ะ สุดท้ายจึงสรุปกันว่าให้ฉันต้องมาพักกับบ้านของคุณสเปียร์ที่เป็นเพื่อนกับป๊าฉัน แต่ไงกับเป็นว่าฉันได้ไปอยู่บ้านดีกับไอ้ผู้ชายใบ้รับประทานคนนั่น...
    “โถ่ ยัยมินมินของฉัน นี่ถ้าไม่ไหวมาอยู่บ้านฉันก่อนได้น่ะ ป๊าก็ไม่ค่อยอยู่มีแต่พี่ปาร์คกับฉัน”
    “ปายจะไปกันยัง”
    “ต้าเห็นไหมค่ะว่าปายคุยกับเพื่อนอยู่”  ปายหั่นไปบอกนี่คงเป็นต้าหลง ที่เป็นแฟนกับยัยปาย ที่เธอมักเล่าให้ฟังบ่อยๆ...
    “อืม ตามใจหล่ะกันก็แค่ถามเฉยๆ”  เขาหั่นมาตอบเสียงเรียบแต่ขนาดแนมองดูก็รู้ว่าเขาคงเคืองอยู่ไม่น้อย ในขณะที่เราคุยกันปายเองก็เริ่มไม่มีเม่อๆไป แค่นี้ก็รู้แล้ว เฮ้อเพื่อนคนนี้
    “นี่ไปคุยกันเถอะ ห้องน้ำอยู่ตรงไหน”
    “แต่... ”
    “ปาย.... ”

    “อืม ห้องน้ำอยู่ทางนั่นน่ะเลี้ยวขวา ตามสบายน่ะ”    ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่เพื่อไปเข้าห้องน้ำ หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จฉันพึ่งสังเกตเห็นกรอบรูปที่วางเรียงรายอยู่มากมายก่อนสายตาจะไปสะดุดที่สมุดเล่มหนึ่ง ฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาฉันเปิดมันออกก่อนจะพบว่าคือภาพฉัน ปายและก็เพื่อน เห็นแล้วก็อดขำตัวเองไม่ได้ ฉันเปิดดูภาพเพื่อนๆไปเรื่อยก่อนที่จะสะดุ้งตกใจก็เสียงคนที่เดินเข้ามา
    นั่นฟรานนี้ เขาไปทำอะไรมาน่ะ ใบหน้าที่เห็นนี้มันพึ่งตีกันมาชัดๆเลย ฟรานเดินไปทางห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาพร้อมกล่องยาสามัญเขาว่างมันลงบนเคาเตอร์ก่อนจะเปิดฝาออกอย่างน่าสงสาร ฉันตัดสินใจลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหาเขา
    “มาเดี๋ยวฉันทำให้”  
    “.....”  ฟรานไม่ตอบอะไรก่อนจะหั่นหน้ามาขมวดคิ้วใส่ฉัน ฉันไม่สนใจก่อนจะหยิบเอาขวดแอลกอฮอลเพื่อจะล้างแผลให้เขา
    “นี่ฟรานนั่งลงได้ไหมอ่ะ”  

    เขานั่งลงบนเก้าอี้แต่ใบหน้าก็ยังคงตึงและคิ้วก็ยังขมวดกันแบบนั้น ฉันบรรจงติดพลาสเตอร์ลงที่แก้มซ้ายของเขาและบริเวณหางคิ้วและหน้าผาก ฉันปิดฝากล่องยาสามัญลงก่อนจะเดินเพื่อไปเก็บในห้องน้ำ..ฉันหายัยสปายเพื่อที่จะบอกลาแต่หายไปไหนน่ะ ในขณะที่ฉันมองไปที่ระเบียงเลยเห็นเต็ม
    “มินมิน”  สปายผลักต้าหลงออกเต็มแรงก่อนจะตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดัง
    “ปายขอโทษน่ะ พอดีฉันจะบอกว่าจะกลับแล้วน่ะ แล้วไงเดี๋ยวโทรหาน่ะ -///-”
    “จร้า บายน่ะ -///-”  ปายบอกด้วยใบหน้าที่แดงจัดจนล่ามไปถึงหู ต้าหลงที่ยื่นอยู่ข้างๆหัวเราะขึ้นมาเบาๆก่อนที่จะถูกปายฟาดไปเต็มฉันหั่นหลังเดินกลับมาที่หัวนั่งเล่นเพื่อจะบอกให้ฟรานพากลับแต่เอ๊ะ
    “ฟราน... ” หลับซะงั้น คนอะไรนั่งหลับไม่ปวดคอหรือไงน่ะ ฉันคิดขนาดที่นั่งลงข้างตัวเขาฉันยื่นมือเพื่อจะไปสะกิดที่ไหล่ของเขาแต่ฟรานก็ทำฉันตกใจอีกครั้งเมื่อเขาคว้าหมับเข้าที่ข้อมาฉันอย่างจับก่อนจะหั่นร่างทั้งร่างมาทับฉัน
    “เธอจะทำอะไร”
    “จะปลุกนายอ่ะ...ว่าจะบอกว่าจะกลับแล้ว -//-”
    “อืม ทีหลังเรียกก็ได้”  เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากตัวห้อง ให้ตายเขาทำฉันหัวใจจะวายอีกแล้ว ฉันเดินตามหลังฟรานออกไปเงียบๆ
    ตลอดทางไม่มีใครปริปากพูดอะไรสักคำ ฉันเงยหน้ามองไปทางเขา ฟรานคงทำหน้านิ่งสงัดเหมือนเดิม หน้าที่เรียบเฉย แววตาสีน้ำตาลเข้มที่ยังฉายแววที่ว่างเปล่าอยู่ ฉันหั่นหน้ากลับมาทันทีหลังจากที่ฟรานหั่นหน้ามา
    “มองหน้าฉันทำไม เขาถามในขนาดที่สายตายังจับจ้องไปที่ปลายทางข้างหน้า เขารู้ทันฉันอีกแล้ว 
    “ป่าวนิ ไม่ได้มอง ไม่มีอะไรด้วย”  ฉันตอบออกไปพยายามควมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ฟรานชะล่อความเร็วของรถลงก่อนจะจอดที่ข้างทาง
    “หั่นหน้ามา…”  ฉันยังคงมองออกไปทางนอกหน้าต่าง

    “มินมิน หั่นหน้ามา…”  ฟรานพูดเสียงเข้มแกมบังคับ ซึ่งทำเอาฉันเสียววูบที่หลัง จึงตัดใจหั่นหน้ากลับไป ด้วยความที่ฉันหั่นไปอย่างเร็วทำให้ปลายจมูกเราชนกัน ตัวของเราตอนนี้ที่ห่างกันไม่คืบ ฟรานจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉันก่อนที่เขาจะทำในสินที่ฉันไม่คาดคิด...ฟรานก้มหน้าประทับริมฝีปากลงกับริมฝีปาก ลิ้นร้อนชื้นที่แทรกเข้ามาปากของฉันก่อนที่จะหมดอากาศหายใจ ฉันทุบลงที่อกของฟรานอย่างแรง ฟรานใช้มือข้างเดี่ยวรวบมือฉันไว้ ฉันจิกเล็บลงบนฝามือเขาแน่น ฟรานริมฝีปากออกจากฉันก่อนจะก้มลงไปที่ซอกคอฉันซึ่งทำเอาฉันเจ็บจี๊ดอีกครั้ง
    “โอ๊ย ฟรานหยุดน่ะ..มันเจ็บ! ”   ฉันบอกเสียงดังด้วยน้ำเสียงเจือโกรธ เขาผละออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน
    เพียะ !
    “นายก็เหมือนพี่ชายนายนั่นแหละ ฉวยโอกาสรังแกคนที่ไม่ทางสู้”  ฉันบอกทั้งเสียงสั่นเครือจากการร้องไห้และกลัวเขาก่อนจะคว้ากระสะพายสีขาวขึ้นเตรียมจะออกจากรถแต่กลับถูกมืออีกคนคว้าไว้ซะก่อน
    “ถ้าไม่อยากเจอแบบเมื่อกี้ก็นั่งเฉยๆ...”  เขาบอกเสียงเรียบ ฉันสะบัดมือเขาออกอย่างแรงก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างเร็ว ในขณะนั่นเองเดินไปยังไม่ถึง 10 ก้าวความรู้สึกเหมือนตัวเองจะลอยเหนือพื้น

    “กรี๊ดด ปล่อยฉันน่ะ”      ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อเขาที่อยู่ก็อุ้มฉันขึ้นฉันดิ้นไปมาแต่ก็ไม่เป็นผล ฟรานจับฉันเข้าไปไว้ในรถเหมือนเดิมก่อนจะออกรถอย่างเร็ว ฉันที่ด่าสาปแช่งเขาอยู่ก็เผลอหลับจนรู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขาอุ้มฉันเข้าในห้อง เขาว่างฉันลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนเดินออกไป ไม่รู้นานแค่ไหนที่ฉันหลับไปแทบตาย ฉันยกลุกก่อนจะเดินไปห้องน้ำก่อนจะส่องกระจกมองหน้าตัวเองที่ปากบวมช่ำและเป็นสีแดงจากการห่อเลือด ก่อนจะมองเลยมาที่ซอกคอที่แดงเป็นจ่ำ ที่ได้จากเขาและแฟรง...ฉันหลับตาลงก่อนที่น้ำตาจะไหลซึมออกมา...มันเรื่องอะไรกัน

         ถ้าฉันไม่พักที่นี้ ถ้าฉันไม่ได้เจอกับพวกเขามันคงไม่เป็นแบบนี้ บ้างคนอาจว่ามันเป็นเรื่องเล็กแต่สำหรับฉัน มันไม่ใช่ ไหนจะแฟรงที่อยู่ๆก็มาแสดงท่าทีแบบนั่นตั้งแต่ที่พบกันหรือฟรานที่อยู่ๆเกือบจะทำร้ายฉันอีกคน...ฉันนึกคำพูดของสปายขึ้นมา
    “นี่ถ้าไม่ไหวมาอยู่บ้านฉันก่อนได้น่ะ ป๊าก็ไม่ค่อยอยู่มีแต่พี่ปาร์คกับฉัน”  
          หลังจากที่ฉันเก็บกระเป๋าเสร็จฉันก็เดินลงบันไดไปชั้นล่าง ฉันเดินตรงไปทางออกของบ้าน ในขนาดที่ฉันกำลังจะเปิดประตูนั่นเองเสียงใครบ้างคนก็แทรกขึ้น

    “จะไปไหน”  ฉันไม่ได้สนใจว่ามันคือเสียงของ ก่อนจะหมุนลูกบิดแต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรมากกว่าเขาก็เข้ามาขว้างฉัน เอาอีกแล้วมีสักครั้งไหมที่เขาจะไม่รู้ความคิดการกระทำของฉัน
    “ถอยไป”  ฉันบอกผลักเขาออกก่อนจะเดินไปที่ประตูอีกครั้ง ฟรานเดินมาขว้างทางฉันอีกครั้งก่อนจะเดิม
    “เธอกำลังทำฉันโมโห...” เขาพูดเสียงเย็นก่อนจะจ้องมองที่หน้าฉัน
    “แล้วที่นายทำกับฉันบนรถหล่ะ...นายคิดว่าฉันจะโมโหไหม!” ฉันที่อดไว้ตอนแรกระเบิดออกมาทันที ฉันบอกก่อนจะยกกระเป๋าสะพายฟาดลงที่ไหล่คนตัวสูงอย่างแรงและขนาดที่ฉันจะฟาดกระเป๋านั่นฟรานก็กระชากมันออกจากมือฉันแล้วโยนไปอีกทางของห้องฉันยังไม่ลดละก่อนจะทุบกำปั้นลงบนอกเขาอย่างแรงฟรานดึงฉันเข้าหาตัวอย่างแรงก่อนจะทำให้ฉันอยู่ในอ้อมกอดเขา ก่อนจะเดินพาฉันขึ้นไปบนในห้องของเขาฟรานลงกลอนและหั่นมาหาฉัน
    “นี่ปล่อยฉันออกไปน่ะ ปล่อยน่ะฟราน”  
    “......”  เขานิ่งเงียบก่อนจะเดินขึ้นไปนอนบนเตียง นิเขาจะกวนประสาทฉันไปถึงไหนฉันเดินพยายามบิดลลูกบิดก็ออกสักที ฟรานถ้านายไม่ตายวันนี้ฉันคงตายตาไม่หลับแน่น
    “นี่ลุกขึ้นมาคุยกันเดี๋ยวนี้น่ะ ไอ้บ้า มาเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยน่ะ! ”  ฟรานยังคงนิ่งฉันจึงหยิบเอากระหมอนอิงที่อยู่บนโซฟาโยนใส่หัวเขาเต็มแรง...ได้ผลฟรานลุกขึ้นมาและจ้องที่ฉันเขม็น เขาสาวเท้าเดินเข้ามาอย่างเร็ว ฉันเองที่ถอยหลังรู้สึกถึงหลังตัวเองที่ชั้นเข้ากับผนังอย่าง
    ปึก!
          ฟรานเท้าแขนขึ้นเหมือนเป็นเกาะกันบังไม่ให้ฉันไปไหนได้ ฉันหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ตอนนี้ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าเขาจะเป็นแบบไหน
    “ลืมตา…”  เขาสั่งเสียงเรียบแต่น้ำเสียงเริ่มดูจะของเรื่องแล้ว ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะเงยหน้าจ้องมองดวงตาสีน้ำเข้มนิ่งเช่นดีกัน
    “ทำไมจะทำอะไรฉันอีก...นายมันก็รังแกแต่คนไม่มีทางสู้แหละ”  ฉันบอกเสียงเรียบและมองเขาด้วยแววตาจริงจัง
    “......”   ฟรานไม่พูดอะไรและยังคงมองฉันด้วยใบหน้านิ่งเหมือนเดิม
    “เอากุญแจมาฟราน…”  
    “ไม่ให้... ”  ฟรานไม่รอให้ฉันได้พูดอะไรเขาอุ้มฉันไปทางเตียงฉันดิ้นไปมาก่อนที่ฟรานจะปล่อยฉันลงอย่างแรงฉันจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกร่างสูงของฟรานคล่อมไว้ซะก่อน หวังว่าเขาจะทำอะไรอย่างฉันคิดหรอกน่ะ
    “นี่นายจะทำอะไร”  ฉันถามเสียงดังด้วยความตกใจเมื่ออยู่ฟรานก็ก้มหน้าลงมาฉันเบี่ยงหน้าหลบแต่ฟรานก็จับคางฉันให้หั่นมาก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาอย่างเร็ว ฉันทุบที่หลังฟรานหลายที่แต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะสะทกสะท้านอะไรเลย ฉันร้องไห้ออกมา เจ็บริมฝีปากไปหมดละหายใจไม่ออกเหมือนจะขาดออกซิเจนตายอยู่แล้ว ฟรานผละออกจากฉัน
    “พอใจหรือยัง ฮึก...ฮื่อ...”  ฉันบอกเสียงสั่นในขณะที่ร้องไห้ไปด้วย
    “เธอทำฉันก่อน... ” หยุดร้องสักทีมันรำคาญ เขาบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินลงไปจากเตียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ฉันลงจากเตียงอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวไม่รู้นานเท่าไรที่ฟรานเข้าไปแต่มันก็นานพอให้ฉันร้องไห้จนเผลอหลับไปบนโซฟาฉันเกลียดเสียงหัวใจบ้านี้จริงๆจะหวั่นไหวกับคนที่ทำร้ายตัวเองทำไม ฉันเกลียดเขา ฉันเกลียดตัวเองและเกลียดหัวใจตัวเอง...
    MINMIN TALK
         ฉันลืมตาขึ้นปลุกตัวเองให้ตื่นจากห้วงนิทรา...แสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องรอดผ้าม่านมากระทบเข้ากับดวงตาฉันฉันลุกขึ้นนั่งก่อนจะพบตัวเองนอนอยู่บนโซฟาเหมือนเดิมก่อนจะมองไปที่เตียงซึ่งมีร่างสูงกำลังนอน ฉันเดินไปทั่วห้องเพื่อจะหากุญแจก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับบ้างอย่างที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง ฉันเดินเข้าไปช้าๆและหยิบมันมาอย่างเร็วก่อนจะเดินที่ประตูเพื่อจะปลดล็อกมัน
    แก๊ก!
        ฉันยิ้มพอใจก่อนจะหั่นหลังไปมองร่างสูงที่ยังคงหลับตาพริ้ม...ฉันเดินลงมาจากบันไดอย่างเร็วและคว้ากระเป๋าสะพายที่ตกอยู่มุมหนึ่งของห้องและกระเป๋าเดินทางตัวเองฉันหมุนลูกบิดประตูออกไปก่อนจะโบกแท็กซี่อย่างรวดเร็ว
    “ไปถนน xxx ค่ะ” ฉันบอกคนขับ ฉันหยิบโทรศํพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาปาย
    “ฮัลโหล มินว่าไง” เสียงปายฟังดูงัวเงียเล้กน้อย ฉันโทรมากวนอีกหรือป่าวนี้
    “เออ ฉันโทรมากวนหรือป่าวนิ”
    “ไม่ๆ เธอมีอะไรหรือป่าว”
    “ปายฉันเออ ฉันเขาไปพักบ้านเธอได้ไหม... ”
    “อะไรน่ะ ได้สิ ว่าแต่เสียงดูไม่ดีเลยน่ะเป็นอะไรหรือป่าว หรือไอ้ใบ้มันทำอะไรเธอ! ”
    “ป่าว....” ฉันตอบออกไป คุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
    “เอาเถอะ ค่อยเล่าให้ฉันฟังที่หลังก็ได้”  ฉันกดวางสายก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
       
         ฉันตั้งใจจะมาเที่ยวมาทำใจให้สบายน่ะ แต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าใจฉันมันยุ่งเหยิงไปหมดแบบนี้ ค่อยโทรบอกเฮียหล่ะกันว่าจะไปอยู่กับปายคงจะช่วยคุยกับปาม๊าได้ เอาหล่ะฉันจะไม่คิดถึงเรื่องสองพี่น้องนี้อีกแล้ว ฉันไม่รู้ว่าฟรานคิดอะไรอยู่กันแน่...หรือแฟรงด้วยอีกคน ตอนนี้เราก็อยู่ส่วนใครส่วนมันแล้วหวังว่าคงจะไม่มาตามฉัน ...ฉันอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปเขาอาจไม่คิดแม้แต่จะตามหาฉันก็ได้...
    END TALK MINMIN
    “ขอบคุณค่ะ” ฉันบอกคนขับแท็กซี่หลังจากที่เขาฉันยกกระเป๋าลงให้ฉัน
    กริ๊ง กริ๊ง
    ฉันกดออดสองทีก่อนจะพบว่าแม่บ้านจะเดินออกมาเปิดประตูให้
    “มาหาใครค่ะคุณ”
    “มาหาสปายค่ะ”
    “คุณหนูรออยู่ในบ้านค่ะ เดี๋ยวป้าช่วยถือของน่ะค่ะ” เธอบอกก่อนจะช่วยถือกระเป๋าใบเล็กให้ ฉันเดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะพบว่าสปายกำลังนั่งหลับอยู่ในชุดนอนบนโซฟาตัวยาวในห้องรับแขก...ฉันมองภาพที่เห็นก่อนจะอมยิ้มออกมาได้ ฉันได้ค่อยๆย่องเข้าไปหาปายก่อนจะ
     “ต้าหลงมา!”   
    “ห่ะ อะไร! อ้าวยัยมิน นี้แกล้งฉันหราห่ะ! สนุกไหมค่ะคุณหนูมิน ”   ปายสะดุ้งตกใจก่อนจะตื่นขึ้นมา
     “ป่าวซักหน่อย +55 ”    
    “มินมินกลับบ้าน ”    ฉันหั่นไปตามเสียงนั่นก่อนจะพบว่าคือ แฟรง!
    “แฟรง! นายมาได้ไง  ”   
    “เรื่องของฉัน ”    เขาบอกก่อนจะเดินมาคว้าที่ต้นแขนฉันออกไป
    “นี่นายทำอะไรเพื่อนฉันน่ะห่ะ ”    สปายที่ลุกขึ้นมาห้ามทันทีหลังจากที่แฟรงกำลังจะลากฉันออกไปที่นอกบ้าน เขารู้ได้ยังไงว่าฉันออกจากบ้านมา
    “เธออย่ามายุ่ง ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ”    
    “อ้าวนี้ขู่ฉันหรา ฉันไม่กลัวแกหรอกน่ะ! ”    
    “เฮ๊ย โวยวายอะไรกันแต่เช้าหว่ะ ปาย  ”   เสียงของผู้ชายอีกคนผมสีน้ำตาลอ่อนในชุดนอนเดินลงมาอย่างเชื่องช้า นั่นคงเป็นพี่สปาร์คสิน่ะ
    “พี่ปาร์คดูสิไอ้นิ มันจะมาเอาเพื่อนปายไป ”     
    “อย่ามายุ่ง มันเป็นเรื่องของฉันกับยัยนี้”   แฟรงบอกเสียงเย็นก่อนจะเดินชนไหล่ไปอย่างแรงหมอนนี้มัน ผู้ชายหรือป่าวน่ะ ฉันพยายามสะบัดมือออกจากเขา
    “แฟรง ปล่อยน่ะ! ”    
    “เธอออกมาทำไม…”    เขาถามขึ้นหลังจากดึงฉันออกมาข้างนอกบ้านแล้ว ฉันไม่ตอบก่อนจะหั่นหลังกลับเพื่อจะเดินเข้าไปในบ้าน แต่แฟรงก็ดึงแขนฉันกลับอย่างแรงทำให้ตัวฉันเซถลามาโดนอกเขาเต็ม
    “เธอจะบอกดีๆ แล้วอยากให้ฉันวิธีนั่น ”    เขาบอกก่อนจะทำเสียงกวนประสาทฉัน
    “วิ..วิธีอะไร ”    ฉันถามและบังคับเสียงให้สั่นน้อยที่สุด
    “เธอหน้าจะรู้น่ะเวลาที่ฉันโมโหจะเป็นยังไง ว่าไงครับมินมิน? ”   
    “...ฉันอยากมานอนบ้านปายก็เท่านั่นแหละ...นายจะอยากรู้ไปทำไมกัน”     
    “ ฉันให้โอกาสเธอพูดความจริง...คอไปโดนอะไรมา” ฉันรีบสางผมลงมาทันทีก่อนแต่แฟรงก็ปัดผมที่ฉันปกปิดเอาไว้ออก  ก่อนจะลากฉันไปที่มุมหนึ่งของบ้าน
    “ว่าไง” เขาถามเสียงเข้ม
    “ถูกยุงกัด เลยเกา... ”
    “มินมิน ใครเป็นคนทำ! ”    แฟรงเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะจ้องตาฉันด้วยแววตาที่แสดงออกว่าโกรธขนาดไหน คิ้วที่ขมวดกันจนผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ฉันหลุบตาลงก่อนจะพยายามผลักเขาออก ถ้าบอกว่าฟรานเป็นคนทำฉันคงไม่รอดแน่น แล้วฉันจะทำยังไงดี...
    “ฉันเอง” ทั้งฉันและแฟรงหั่นหน้าไปตามต้นเสียงทันที ร่างสูงโปร่งเกิน 185 ในชุดนอนสียืดคอกลมสีขาวและกางเกงลายสก็อตดำสลับเทา ผู้สีดำสนิท  ใบหน้าขาวใสที่เรียบเฉยมีรอยแผลข้างแก้มและที่หางคิ้ว เรียวตาคมที่แสดงแต่ความเฉยเมยและความว่างเปล่า เย็นชา คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...
     
      
     **************************************************************************************************
     จบแล้วววว ตอนที่1 ปั่นแทบตายยย ตาเป็นหมีแพนด้าเลยยยย  
    ฝากเมน+โหวตให้ไรเตอร์ทั้งสองคนด้วยน่ะค่ะ ฝันดีค่ะ ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×