ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☆ PRINCE LUCIFER ☆

    ลำดับตอนที่ #14 : ☆ PRINCE LUCIFER ☆THE PRINCE OF SICOLD :INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 54


     Intro

    PRRINCE OF SICOLD
    PRRINCE OF SICOLD


    ตอนนี้ใจของผมก็เหมือนหนังสือที่ถูกปิดไว้

    ตลอดเวลาผมรอแค่ใครสักคน

    คนที่จะหยิบหนังสือเล่มเปิดอ่านอีกครั้ง...


       


    FRANCE  รัก ทำไมต้องอยากมีความรัก ทำต้องกานมันนัก ทำไมต้องอยากมีแฟน  รักกันแล้วก็เลิกกัน ฟูมฟายกัน... ผู้หญิงน่าเบื่อ งี่เง่า น่ารำคาญ มีเรื่องอะไรก็ชอบเงียบ น่าเบื่อหว่ะ ผมยังเคยบอกกับตัวเองจนผมได้พบกับเธอคนนี้

    MINMIN “รัก ก็คือการกระทำ เกิดจากความชอบและผูกพันธ์ เป็นกริยาชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องการประธาน และไม่ต้องการกรรม ก็สื่อความหมายได้  เพื่อนรอบข้างฉันต่างก็มีแฟนกันไปหมด มันดีตรงไหนน่ะการมีความรัก...ฉันยังเคยถามตัวเอง....จนได้พบกับผู้ชายคนนี้ 

    FARNG “รัก หราครับอยากรู้กันทำไม แต่บอกก็ได้ สำหรับผมแล้วมันคงหมายถึงการกระทำมากกว่าการที่เราได้แสดงมันกับใครสักคน แต่สำหรับผมแล้วที่เจอแต่ความสัมพันธ์เพียงแค่ข้ามคืนมันเรียกว่ารัก งั้นหรา ผมยังเคยพูดกับตัวเอง...จนผมได้พบกับเธอคนนี้

                                                                     INTRO
    PRRINCE OF SICOLD
    ร่างบางสูง 165 ผิวขาวซีด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงสด ใบหน้าที่ไร้การแต่งแต่มใดยังถูกบดบังด้วยแว่นตาขอบหนาเต๊อะสีดำ ในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ข้างกายถือกระเป๋าลากและกระเป๋าสะพายสีดำ

     โชคดีน่ะ ไอ้ตัวเล็ก เฮียบอกก่อนจะยี้คนฉันไปมา เชอะ ไอ้สูง

    อย่าให้สูงบ้างเถอะ โกรธ เฮียแล้ว

    โอ๋ๆ เฮียล้อเล่น ไปได้ไปจะถึงเวลาหล่ะ

    ดูแลตัวเองด้วยน่ะลูก

    ค่ะ ม๊า หนูไปน่ะป๊า อากง และก็อาเฮีย ด้วย บายค่ะ

    ฉันโบกมือลาทุกคนก่อนจะเดินไปขึ้นเครื่อง ครอบครัวฉันก็เป็นอแบบนี้หล่ะค่ะในที่สุดก็ปิดสักทีเวลาที่ฉันรอค่อยก็มาถึงแล้ว จะได้เจอกับเพื่อนสักที ฉันไม่ได้เจอพวกเขานานมากแล้วจนตัดสินใจมาซัมเมอร์นี้  แต่ก็ตั้งอเมริกานอนต่อไปหล่ะกัน...และในขณะที่ฉันกำลังอยู่ในห่วงนินทาอยู่น่ะก็ดันมีเสียง ไอ้บ้าที่แทรกขึ้นมาซะก่อน

    คุณ ตื่น! ” หมอนั่นบอกเสียงดัง ฉันที่กำลังเตรียมจะด่าเงยหน้าขึ้นไปหาต้นเสียง ร่างสูงเกิน 185 ผิวขาวจัด ตัดกับผมสีดำสนิท สันจมูกตรง ริมฝีปากแดงได้รูป และเรียวหน้าคม ซึ่งจัดว่าเขาก็หน้าตาดีที่เดี่ยว แต่ ดันมารบกวนฉันต้องด่าสักหน่อยแล้ว

    นี่คุณเป็นละเมอหรือไงค่ะ มีมารยาทหน่อย รู้ไหมว่ามันเสียมารยาทน่ะค่ะ 

    ที่ฉัน เขาตอบมาสั้นๆ

    อะไรนั่นที่คุณหรา งั้นไหนเอาตั๋วมาดูสิ 

    ไม่จำเป็น  ลุก เขาพูดเสียงเฉยชา ฉันเงยหน้าสบตากับแววตาที่ดูว่างเปล่าและเฉยเม่อเหมือนกับคำพูดที่หลุดออกจากปากของเขา ฉันจึงถือวิสาสะคว้าตั๋วซึ่งอยู่ที่กระเป๋าเสื้อเขามา ไม่ได้ซนใจว่าเขาจะส่งสายตาอย่างไร ฉันก้มมองตั๋วในมือเปรียบกับของตัวเอง ขนาดนั่นเองเหมือนมีเสียงแก้วแตก เพร้งลงมาทันที นี่ฉันนั่งผิดที่หรา ฉันยื่นตั๋วคืนให้เขา หมอนั่นผลักฉันออกก่อนจะเดินเข้าไปนั่ง โถ่เอ๋ย ฉันก็ผู้หญิงน่ะไม่ใช่วัว ควายน่ะย่ะ ฉันได้คิดในใจก่อนจะนั่งลงที่นั่งข้างๆเขา ก่อนจะเผลอหลับไปทั้งที่ในใจก็สาปแช่งหมอนั่นต่อ

    เฮ้อ ตื่นได้แล้ว ฉันสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมีมือคนผลักหัว ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะพบว่าตัวเองกอดแขนนายนั่นอยู่

    นี่ปล่อยได้แล้ว คนลงเครื่องหมดแล้ว เขาบอกก่อนจะผลักหัวฉันและเดินจากไป โฮ้หมอนี้ ท่าทางจะเป็นพวกเก็บกดน่ะ ถึงได้ทำตัวแบบนี้  ชาตินี้ขออย่าให้ฉันได้เจอกับผู้ชายแบบนี้เลย ฉันบ่นในใจก่อนจะหยิบข้าวของตัวเองแล้วเดินลงจากเครื่องบิน ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปยังจุดพักผู้โดยสารเพื่อจะนั่งพักนั่น

    ผลักกก

    “Sorry” ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบผู้ชายคนหนึ่ง สูงเกิน 185 ผิวขาวซีด ผมสีน้ำตาลเข้ม สันจมูกโค้ง ริมฝีปากบางได้รูป ฉันจ้องหน้าเขาอยู่หน้าจนกระทั้ง

    “Hi hi you”

    “Huh oh I’m sorry I should careful. ” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบบอกขอโทษเขา

    “I’m noting. Um you are MinMin? (พออังกฤษเถอะเนอะเดี๋ยวมันจะไปทั้งเรื่อง:ไร) เขาบอกพร้อมกับมือซึ่งมีรูปใบหนึ่งถืออยู่ ซึ่งในภาพที่เป็นผู้หญิงใส่แว่นหนาเต๊อะนั่นฉันนี่

    ใช่ แล้วคุณรู้ชื่อฉัน

    ออ ผมเป็นลูกของ คุณสเปียร์ ยินดีที่ได้พบน่ะครับคุณ มินมิน ผมแฟรง เขาบอกก่อนจะยื่นมือมาให้

    สวัสดีค่ะ ฉันบอกก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ เขาดูงงเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา

    ไปกันเถอะครับ เขาบอกก่อนจะเข้ามาช่วยฉันยกของ แตกต่างกับไอ้คนเมื่อกี้ที่ฉันเจอโดยสิ้นเชิง เขาเดินนำฉันไปจนถึงหน้าสนามบินฉันเปิดประตูเพื่อขึ้นรถในขณะที่นั่งลงบนรถนั่นเอง

     ไปเองไม่เป็นไงหว่ะ เสียงบางคนทักขึ้นมาซึ่งฉันจำได้ดีว่าคือเสียงของไอ้ผู้ชายงี่เง่าคนนั้น 

    นี่นาย ขึ้นมาบนนี้ได้ไง 

    .... เขาไม่ตอบก่อนจะหยิบไอพอดขึ้นมาฟัง

    อ้าวรู้จักกันแล้วหราหว่ะ  แฟรงค์พูดขึ้น ฉันไม่ตอบอะไรก่อนจะยกเอาไอแพดขึ้นมาก่อนจะอ่านหนังสือไปพลางๆ หลังจากมาจากสนามบินฉัน แฟรงและฟรานก็ไปทานอาหารกับคุณสเปียร์ ก่อนที่พวกเราจะมาที่บ้านพักของฉัน รถหยุดลงที่หน้าบ้านขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กหลังหนึ่ง หน้าบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้มากมาย ฉันเปิดประตูรถลงไป

    เข้าไปกันเถอะ แฟรงค์ถือของให้ฉันก่อนจะเดินเข้าไปยังตัวบ้านที่ตกแต่งแบบสไตล์ยุโรป ฉันว่าบ้านหลังนี้ก็ค่อนข้างใหญ่น่ะ ฉันอยู่คนเดี่ยวแล้วคงรู้สึกเหวงๆน่าดู ฉันเดินเข้าขึ้นไปบนชั้นสองตามหลังแฟรงก่อนจะเข้าไปยังห้องหนึ่ง

    นี่ห้องเธอน่ะ…” เขาบอกก่อนจะเดินเอาของมาว่างในห้อง

    ขอบคุณมากน่ะค่ะ ฉันบอกก่อนจะยิ้มให้เขา  แฟรงยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป ฉันวางของทั้งหมดลงและกล่องหนังสือตัวเองลงก่อนจะแกะมันออกเพื่อเตรียมจะจัดบนชั้น

    ให้ฉันช่วยไหม ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีหลังจากได้ยินเสียงมากระซิบข้างๆหูตัวเอง เสียงแฟรงชัดๆเลยนี่เขาทำบ้าอะไรเนี๊ย

    นี่คุณทำอะไร ตกใจหมดเลย ฉันบอกก่อนจะผลักเขาออก

    “^++^”เขาไม่ตอบแค่ยิ้มและยักคิ้วกวนๆ อะไรของเขาน่ะ ฉันไม่สนใจก่อนจะเขย่งปลายเท้าต่อเพื่อจะวางบนชั้นบนสุด ในขนาดนั่นเองมือของแฟรงก็จับหนังสือเล่มนั่นเข้าที่ไปยังชั้น ฉันหันหน้ามาอีกครั้งด้วยความตกใจ ตอนนี้หน้าเขาและฉันใกล้กันขนาดที่มดจะผ่านไม่ได้อยู่แล้ว เขาค่อยๆก้มหน้าลงมาช้าๆและถอดแว่นตาของฉันออกและก่อนจะประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปาก มือเขาลูบไปที่ต้นขาและแผ่นหลังอย่างชำนาญ ในขนาดที่ฉันปริปากจะว่าเขา แฟรงได้โอกาสก็ตวัดลิ้นเข้าเข้ามาในโพร่งปากของฉันฉันทั้งทุบทั้งตีทั้งจิกหลังเขา ในขณะที่กำลังจะหมดลมหายใจนั่น

    ก๊อกๆ ก๊อกๆ

    พระเจ้า ขอบคุณสวรรค์ แฟรงและฉันหั่นไปมองยังประตูห้องที่เปิดค้างไว้นานแล้วก่อนจะพบว่าคือฟราน เขายื่นกอดออกอยู่หน้าห้อง เขามองฉันและแฟรงด้วยสายตาเรียบเฉย แฟรงหั่นไปสบสายตากับฟรานเมื่อสื่อความหมายบ้างอย่างก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินจากไป นี่เขาไม่คิดจะช่วยฉันเลยหรือไง ผู้ชายคนนี้

    นี่แฟรงค์ ปล่อยน่ะ นายไม่ควรทำแบบนี้!” ฉันบอกก่อนจะพยายามผลักออกจากตัวเขา

       งั้นควรทำแบบไหนอ่ะ อย่างเช่นพาเธอขึ้นเตียงหรา เขาไม่พูดป่าวก่อนจะอุ้มแล้ววางฉันลงบนเตียง

    กรี๊ดด นี่ปล่อยน่ะ ปล่อยฉัน

    จัดไปปล่อยแล้วเขาบอกก่อนจะปล่อยฉันลงบนเตียงอย่างแรง

    จะทำอะไรของนาย

    หาอะไรน่ะ ฉันจะทำอะไรน่ะหรา อืมทำอะไรดีน่ะ เขาแสระยิ้มก่อนจะก้มหน้าลง แฟรงไล้ริมฝีปากมาที่หน้าผาก ปลายจมูก ที่จุมพิตที่คางอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะมองลึกเขามาในดวงตาฉัน แววตาฉันที่ตอนนี้สั่นระริกเพราะกลัวเขา  หน้าของเราอยู่กันไม่ถึงเซนแล้ว นี่มันระยะอันตรายแล้วน่ะ ได้เถอะ ใครก็ช่วยฉันหน่อย และในขณะที่ริมฝีปากเรากำลังจะสัมผัสกันนั่น น้ำตาที่กลั่นเอาไว้ก็ไหลรินออกมาจากความกลัวที่เกิดขึ้น

    วิ๊ววววว วิ๊ววววว

    “Shit ฟราน! ” แฟรงสบธออกมาทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้น

    เธอรอฉันตรงนี้แหละ ห้ามลงไปน่ะ ถ้าไม่อยากถูกฉันทำแบบเมื่อกี้ แฟรงค์หั่นมาพูดกับฉันอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังและดูหน้ากลัว และก่อนที่จะเปิดประตูลงไปแฟรงค์ก้มหน้าลงมา แต่ฉันถอยกรูดไปที่หัวเตียง เขาขยับเข้ามาและจับตัวฉันไว้แน่นก่อนเอยประโยคซึ่งทำเอาฉันจะเป็นช็อคตาย

    You’re mind MINMINเขากระซิบเสียงแผ่วเบาแต่ยังได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำก่อนจะลุกออกไป นี่มันเรื่องบ้า ฉันคิดก่อนจะรีบวิ่งไปล็อกกลอนห้องทันที  อะไรก็ทำไมถึงร้อนแบบนี้ ฉันจับหน้าตัวเองก่อนจะเลื่อนลงมาที่หน้าอกซึ่งตอนนี้มันทำงานเร็วมาก จะบ้าหราฉันก็ตกใจเท่านั่น...

    ฟราน!!!” เสียงของแฟรงดังขึ้นมาถึงชั้น2 ฉันว่าต้องเกิดอะไรขึ้นอย่าแน่นอน จึงรีบวิ่งไปเปิดหน้าต่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วฉันก็เห็นผู้ชายผมสีดำ นั่นฟรานหรือป่าวน่ะ...เขายืนกอดอกพิงอยู่รั้วหน้าบ้านด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถ้าสังเกตดีๆก็จะเป็นว่าเท้าข้างหนึ่งไม่มีไอ้สิ่งที่เรียกว่ารองเท้า  ส่วนแฟรงกดปิดเสียงและไปดูรถตัวเอง รถ BMW Z5คันหรู ที่ขนาดกระจกหน้ายังมีร้องเท้าปักคาอยู่

    “3%gf^@*6+r-3o”

    ฟรานพูดอะไรสักอย่าง ที่ฉันจับใจความไม่ได้ แต่ใบหน้ายังคงนิ่ง แล้วฟรานก็เดินเข้ามาใต้ชายคาซึ่งฉันมองไม่เห็น และแฟรงที่ยืนดูรถอยู่ก็เดินตามฟรานเข้ามา

    ด้วยความอยากรู้ฉันจึงรีบวิ่งไปดูที่บันได ชะโงกหน้าลงไปดูต่อ

    ผัวะ!

    แฟรงซัดหมัดเข้าเต็มๆหน้าฟรานไปทีหนึ่ง ฟรานเซเล็กน้อยแต่ใบหน้ายังนิ่งเช่นเคย เขามีหน้าเดียวหรืออย่างไรกัน... - -^

    เออ!”

    ฟรานยังคงหน้านิ่งแต่เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ออกแนวรำคาญปนหงุดหงิด  แล้วแฟรงก็เดินออกไป ฟรานยกเท้าขึ้นพร้อมกับถีบเข้าที่หลังของแฟรงอย่างจังก่อนจะซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าหล่อเหล่าอีกครั้ง แล้วเดินเข้าบ้านพร้อมกับล็อกกลอนไว้ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม

    แฟรงค์สบธเสียงดังก่อนจะถีบประตูอย่างแรงก่อนจะสตารท์รถกลับไป

    ปึง!

    มอง? อยากไปกับมัน?

    ..... ฉันส่ายแทนคำตอบ

    ฟรานที่ตอนนี้บนใบหน้ามีเลือดซึมออกมาจากมุมปากและหางคิ้ว เหลือบมองมางทางฉันนิดหน่อย จนฉันต้องรีบหลบออกมาแล้ววิ่งขึ้นห้องทันที ฉันก็อยากทำแผลให้เขาน่ะแต่ สีหน้าและท่าทางเขาตอนนี้มันน่ากลัวเกินกว่าฉันจะอยากเข้าไกล หวังว่าพี่น้องสองคนนี้คงนิสัยไม่เหมือนกันนะ! แต่อย่างน้อยเขาก็ทำให้ไอ้หื่นนั่นกลับบ้านไปได้

        ตอนนี้เป็นเวลาค่ำและฉันก็จัดของเสร็จเรียบร้อย เลยลงไปหาอะไรกินข้างล่าง แต่ก็พบแต่ความมืด บ้านนี้มีคนอยู่คนเดียวรึเปล่าเนี้ย!

    พอฉันเปิดตู้เย็นก็พบแต่...เบียร์ เบียร์และเบียร์ - -^

    ฉันลูบท้องตัวเอง และปลอบใจตัวเอง ก่อนจะเดินขึ้นห้อง แต่พอหันหลังก็เจอกับร่างสูงที่มีใบหน้านิ่ง ถือพวกอาหารสำเร็จรูป โค้ก และหลายอย่างอยู่ในมือ

    ....

    ฟรานเงียบไม่พูดอะไร แต่ว่าของไว้ที่โต๊ะกินข้าวแล้วเดินขึ้นห้องไป

       หลังจากฉันกินอิ่ม และเลี้ยงพยาธิตัวน้อยๆในท้องแล้ว(ฮาหว่ะ:ไร) ฉันเดินขึ้นข้างบนอย่างสบายใจ  แล้วก็ต้องฉุดคิดบางอย่างขึ้นมาในหัวได้

    ฟรานกินอะไรรึยังนะ ?” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินเข้าครัวอีกรอบ

    ฉันเดินออกจากห้องครัวพร้อมกับถาด ที่มีถ้วยมาม่า  แล้วก็เครื่องปรุงว่างอยู่ข้างๆ แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้านก่อนจะเดินเพื่อสุ่มหาห้องของฟราน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่ง...

    ก๊อกๆ ก๊อกๆ

    ฉันเคาะประตูห้องที่อยู่ตรงกันข้ามฉัน

    ......

    แล้วเจ้าของห้องก็เดินมาเปิด และแสดงสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็เหมือนเปิดโอกาสให้ฉันพูด

    เอ่อ...ฉันชื่อมินมิน ฉะ..ฉันเห็นว่านายคงยังไม่ได้กินอะไร...ก็เลยต้มมาม่ามาให้น่ะ  ฉันยื่น ถาดที่ถือมาให้ฟราน ฟรานรับไว้แล้วมองหน้าฉันนิ่ง

     อะ..เออ แล้วฉันก็ขอบคุณด้วยสำหรับเมื่อตอนบ่าย ที่นายช่วยฉันไว้ฉันบอกเขาเสียงเบา

     แค่นี้ใช่มั้ยฟรานมองหน้าฉันแล้วถาม  ฉันพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วก็หั่นหลังกลับเดินออกไป แล้วฟรานก็ปิดประตู ฉันหมุนตัวเตรียมจะเคาะอีกรอบแต่ฟรานก็เปิดประตูมาอีกรอบฉันจึงเก็บมือไว้ด้านหลัง ฉันจึงตัดสินใจเดินกลับห้องแต่

    หมับ!

    ฉันหั่นหน้าไปด้วยความตกใจก่อนจะมองที่ข้อมือตัวเองที่เขาจับมันอยู่ ใจเริ่มเต้นผิดปกติและเริ่มเร็วขึ้น เร็วขึ้น เขาจะทำอะไรอีก หวังว่าจะไม่ทำเหมือนแฟรงน่ะ และก่อนที่ฉันจะคิดจินตานการไปมากกว่านั่น...

    ฉัน...ฟรานฟรานพูดด้วยใบหน้านิ่ง แววตาสีน้ำตาลเข้มยังเขาเฉยชาและว่างเปล่าเหมือนเดิมก่อนจะมือที่จับแขนฉันออแล้วปิดประตูห้องใส่หน้าฉัน - -*

    ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องก่อนจะทาบมือลงบนหน้าอกตัวเองอีกครั้ง ที่ตอนนี้เต้นแรงไม่เป็นซั่มแล้ว ฉันเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะมองหน้าตัวเองที่แดงเถือกเพราะ...เพราะอะไรกัน  ฉันจับหน้าตัวเองก่อนจะเดินไปที่เตียง ถอดแว่นไว้ที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอน ปล่อยตัวเองเข้าสู่ห่วงนินทา...

    ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินไปที่ระเบียงห้องตัวเองก่อนจะนึกถึงภาพเมื่อตอนบ่าย ที่ฉายซ้ำเข้ามาในหัวสมอง...แค่นั่นความรู้สึกเหมือนจะหงุดหงิดและความคิดขว้างโลกของผมก็ผุดขึ้นมาทันที หึ...ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ แต่ตอนนั่นความรู้สึกผมก็ขอแค่ได้ทำอะไรสักอย่างให้แฟรงมันหยุด...ผมคิดในใจ แต่ทำไมผมต้องช่วยเธอด้วย ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน...

    แฟรง ร้อยวันพันปีไม่คิดจะกลับบ้าน...หน้าไปโดนอะไรน่ะลูก

    ป่าวครับ พอดีผมลื่นล้มหน้าฟาดประตูรถ  (เหตุผลโคตรน่าเชื่อเลย:ไร)

    งั้นผมขอตัวก่อนน่ะครับ ฝันดีน่ะ ผมบอกก่อนจะหั่นหลังเดินขึ้นไปยังห้องตัวเอง

    ผมเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะหยิบกล่องยาสามัญออกมาทายาก่อนจะแปะพาสเตอร์ลงบนหางคิ้ว ในขณะที่คิดนั่นภาพของมินมินก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที ร่างบางสูง 165 ผิวขาวซีด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงสดน่าสัมผัส แววตาที่ใสซื่อบริสุทธ์ของเธอ  ไม่รู้ทำไมอยู่ๆผมได้คิดจะทำอะไรเธอแบบนั่น...ทำไมถึงอย่าจะปกป้องร่างบาง  แล้วไอ้ฟราน...เป็นไรของshitอะไร อยู่ดีๆก็มาทุบกระจกรถผม ผมนอนลงบนเตียงก่อนจะปิดเปลือกตาลง หึ คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดหรอกน่ะ...

     

     
    ***************************************************************************************************

    ไรเตอร์กลับมาแล้วค่ะ ทุกคน^^ หลังจากห่างหายไปนานำพึ่งสอบกลางภาคเสร็จเครียด ไรเตอร์ทั้งสองก็เลยคิดว่าจะมาแต่งนิยายที่ค้างไว้ต่อยังไงก็ช่วยเป็นนกำลังใจ ช่วยเมน ให้ไรเตอร์ทั้งสองคนด้วน่ะค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้าน่ะค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×