(End) คนโปรดของแสงเหนือ - ป๋อจ้าน - นิยาย (End) คนโปรดของแสงเหนือ - ป๋อจ้าน : Dek-D.com - Writer
×

    (End) คนโปรดของแสงเหนือ - ป๋อจ้าน

    ผู้เข้าชมรวม

    7,544

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    39

    ผู้เข้าชมรวม


    7.54K

    ความคิดเห็น


    47

    คนติดตาม


    206
    จำนวนตอน :  20 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.ค. 64 / 20:30 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     ปรวีร์ - โปรด




    แสงเหนือ - เหนือ





    ค่ำคืนอันสงบสุขภายใต้เมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและกลิ่นคุกกี้อบใหม่พึ่งทำเสร็จวางอยู่บนจานส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งอพาร์ทเมนต์ แสงไฟสีส้มสลัวทำให้ห้องทั้งห้องมีบรรยากาศเหมือนช่วงคริสมาสต์ตลอดทั้งปี ชายหนุ่มยืนอยู่ใต้แสงไฟ เผยให้เห็นใบหน้าเครียดเขม็ง ในมือถือโทรศัพท์แนบหูแต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ 

    (เหนือ ฟังอยู่มั้ยลูก) 

    “ครับ” เจ้าของชื่อขานรับเบา ๆ แน่นอนว่าเขาฟังอยู่ แค่ยังทำใจรับกับสิ่งที่พ่อบอกไม่ได้ 

    (แล้วลูกจะกลับได้เร็วสุดวันไหน) เสียงพ่อยังพูดต่อไป 

    “ขอไปจัดการเรื่องที่มหา’ลัยก่อนนะครับ แล้วผมจะบอกพ่ออีกที” 

    เสียงผู้เป็นพ่อถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จนปลายสายได้ยอนชัดเจน ก่อนจะเอ่ยว่า

    (พ่อขอโทษนะเหนือ พ่อไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น แต่พวกเราทุกคนพยายามแล้วจริง ๆ) 

    “ไม่ใช่ความผิดพ่อหรอกครับ” เขาปลอบ และก็หมายความตามนั้น

    มันไม่ใช่ความผิดของใครเลยที่บริษัทของครอบครัวต้องปิดตัวลงหลังจากก่อตั้งมามากกว่าสี่สิบปี และระหว่างนั้นพ่อกับแม่ก็ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด เพื่อให้มันทำกำไรอย่างต่อเนื่อง เขาและพี่สาวเติบโตมาพร้อมกับมัน เห็นความรุ่งโรจน์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะบริษัทนี้แหละ เขาถึงได้มาเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอกในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก

    แต่แล้ววันหนึ่ง สองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สร้างมาทีหลัง แต่ใช้ข้อได้เปรียบของคอนเน็กชั่น บีบให้บริษัทของพ่อต้องถอนตัวออกจากวงการ

    มันไม่ใช่ความผิดใครนอกจากคนที่เล่นไม่ซื่อ

    (ได้เรื่องยังไงแล้วบอกพ่อนะ) 

    “ครับ แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ” 

    เหนือกดวางสายก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้สตูล เก็บคุกกี้ใส่ขวดโหล มองงานอดิเรกไม่จริงจังหนึ่งในล้านอย่างที่ทำและย้อนนึกถึงชีวิตอันสะดวกสบายของตัวเองที่จะต้องปิดตัวลงในอีกไม่นาน ราวกับฉากชีวิตหนึ่งจบสิ้นไป แล้วเริ่มต้นฉากใหม่อันน่าขมขื่นกว่าเดิม 

    เจ้าคุกกี้นี่คงต้องเอาไปให้เพื่อนบ้านตรงข้ามแทนซะแล้ว 

    แสงเหนือเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่าง เห็นผู้คนที่กล้าท้าความหนาวเวลาดึกดื่นแบบนี้เดินกันเป็นคู่ ๆ รอยเท้าจมหายไปในหิมะเป็นทางยาวแล้วก็รู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมา โลกของเขาพังทลายลงเร็วมาก เมื่อพ่อบอกว่าการขาดทุนอย่างต่อเนื่องที่พ่อไม่เคยบอกเขามาก่อน ตอนนี้มันทำให้พ่อแทบจะขายบริษัทแบบเจ็บตัวน้อยที่สุดยังทำแทบไม่ได้ และแม่ก็กำลังจะให้คนเข้ามาตีราคาข้าวของภายในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งเคยเป็นความภาคภูมิใจของทุกคน

    แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป

    คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือก สิ่งที่เขาเลือกเรียนก็เพื่อจะเอาไปต่อยอดธุรกิจที่บ้าน แต่ถ้าไม่มีธุรกิจอีกแล้ว จะไปสมัครงานบริษัท วุฒิการศึกษาก็ยังไม่ได้รับ อย่างนี้จะทำอะไรได้


    เฮ้อ

    ริมฝีปากหยักสีสดเม้มสนิท เงาสะท้อนของตัวเองบนบานหน้าต่างทำให้ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเศร้าและเหงาขนาดนี้หลังจากอยู่ไกลบ้านมานานนับปี

    “มึงก็กำลังจะได้กลับบ้านแล้วไงเหนือ แต่พอไปถึง บ้านจะยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ” 

    เขาพูดแกมหยอกตัวเองให้เจ็บใจเล่น ก่อนจะปิดฝาขวดโหล เดินไปล้างมือในครัว การอบขนมและทำกับข้าว คือความสนใจพิเศษที่เขาทำได้ดีและมีความสุขทุกครั้งเวลาได้ทำ ดีไม่ดี กลับไปคงอบขนมขาย

    ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ เช็ดมือกับกางเกงแล้วเริ่มเก็บกระเป๋า ถึงแม้กว่าจะจัดการธุระเอกสารที่นี่เสร็จคงอีกหลายวัน แต่ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะประวิงเวลาอีก เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องกลับไปไม่ช้าก็เร็ว บางทีการกลับไปครั้งนี้เขาอาจจะได้โอกาสอะไรใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปตลอดกาล




    เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานดังลั่นไปทั้งบ้านของชายสูงวัยที่ได้รับอนุญาตให้หยุดงานทุกวันอาทิตย์ เขาตั้งใจจะใช้เวลาในวันหยุดนี้ปลูกต้นไม้และตัดหญ้าในสวนด้วยตัวเอง แต่กลับต้องเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่สังขารจะอำนวยไปรับโทรศัพท์สายสำคัญ 

    “ครับ คุณโปรด”

    (ผมล้ม) ปลายสายมีความตระหนกในน้ำเสียงเล็กน้อย ก่อนจะกระแอมไอหนึ่งครั้ง (ผมล้มและต้องการคนมาคอยดูแลครับ) 

    ชายชรานิ่วหน้า “นักกายภาพและผมก็กำชับแล้วนะครับว่าห้ามคุณโปรดเดินด้วยตัวเอง”

    เขาอาศัยการทำงานรับใช้มาอย่างยาวนานกล่าวตักเตือนเจ้านายน้อยซึ่งได้ดูแลมาตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ว่าคนคนนี้มีความคิดเป็นของตัวเองและดื้อดึงเสียเหลือเกิน

    (ผมรู้ ๆ) 

    “แล้วเจ็บมากหรือเปล่าครับ เรียกหมอหรือนักกายภาพไปพบมั้ย” เขาถามอย่างเป็นห่วง

    (ผมคิดว่าไม่เป็นอะไรนะ แต่ตอนจะลุกขึ้นมันยากนิดหน่อย ไม่มีใครอยู่ในบ้านใหญ่เลย ผมเลยต้องการคนดูแลพิเศษ) 

    ชายหนุ่มพูดรัวเป็นชุด ดูท่าจะตื่นตระหนกจริง ทั้งที่เป็นคนควบคุมอารมณ์ในทุกสถานการณ์ได้ดีมากแท้ ๆ ชายชราจึงคิดว่าการล้มเมื่อครู่คงเจ็บน่าดู

    “คุณโปรดให้ผมรับสมัครคนดูแลดีมั้ยครับ”

    (ครับ ผมจะเขียนคุณสมบัติให้ เอาไปจัดการให้ผมทีนะ) 

    “ได้ครับ” เขาเลื่อนสมุดมาจดธุระสำคัญลงไปทันที “แล้วผมจะตามนักกายภาพไปดูอาการด้วย”

    (ฮื่อ) ปลายสายทำเสียงไม่เห็นด้วย

    “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะให้เขาเบามือ” 

    (ผมไม่ได้กลัวซักหน่อย) 

    ชายชรานึกภาพชายหนุ่มวัยสามสิบขมวดคิ้วนิ่วหน้า ย้ำว่าตัวเองไม่กลัวหมอที่ไหนเพราะโตมากแล้ว แต่มันกลับเป็นภาพสะท้อนของเด็กชายวัยแปดขวบที่หกล้มเป็นแผลแล้วเขาบอกว่าจะตามหมอมาให้ ซึ่งเด็กน้อยก็ยืนกรานว่าไม่ต้องพร้อมน้ำตานองหน้า

    “ไม่กลัวก็ไม่กลัวครับคุณโปรด แต่ยังไงนักกายภาพก็ต้องเข้าไป รอซักครู่นะครับ”

    (ก็ได้) ทำเสียงอ่อยอย่างยอมจำนน (เอ้อ ขอบคุณที่เป็นธุระเรื่องจะหาคนดูแลให้ผมด้วยครับ) 

    “ยินดีครับ สวัสดีครับ” เขาวางสายแล้วเลื่อนตัวนั่งเก้าอี้ หาเบอร์นักกายภาพบำบัดประจำบ้าน

    ปรวีร์หรือคุณโปรด นายน้อยของเขาพึ่งประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อไม่นานมานี้ โชคดีที่ชายหนุ่มยังฟื้นขึ้นมาได้ หลังการพยายามมากมายของหมอ และการทุ่มเทเงินของคนเป็นพ่อแม่จนสุดกำลัง แต่แม้จะฟื้นขึ้นมาได้แบบครบสามสิบสอง ก็มีปัญหากับกระดูกสันหลัง ส่งผลให้เขามีปัญหากับการเดิน จึงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่ฝึกให้นั่งและลุกขึ้นยืนเองได้มาสักระยะ ตอนนี้จึงต้องฝึกเดิน ซึ่งยังต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วยเดินอยู่ 

    นับว่าเป็นงานที่หนักหนาเอาการ เพราะคุณปรวีร์ของเขาเป็นหนุ่มสังคมหน้าตาหล่อเหลา แต่ต้องมานอนติดเตียงและเดินเหินเองไม่สะดวก ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็มีจิตใจนักสู้อย่างเต็มเปี่ยม จนไปถึงขั้นดื้อดึง ถึงได้ลองเดินเองจนหกล้มหกล้มเข้าให้

    เขาส่ายหน้ากับตัวเองอีกรอบแล้วต่อสายหานักกายภาพบำบัด จากนั้นก็เปิดอีเมลอ่านสิ่งที่เจ้านายต้องการให้ใส่ไปในใบสมัครงาน





    คำเตือน

    นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาทางเพศ และความรุนแรง

    ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

    นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื้อมเสียต่อวิชาชีพใดๆ และไม่มีเจตนาพาดพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือชักจูง ชี้นำให้เกิดค่านิยมทางเพศที่ผิดศีลธรรมอันดีงามทางสังคม หรือความรุนแรง

    ผู้เขียนแต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น

    บุคคลและสถานที่ในเรื่องไม่มีอยู่จริง

    เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

    เนื้อหาในเรื่องอาจมีคำพูดไม่เหมาะสม คำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

    สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใด เพื่อการเผยแพร่ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์แล้วเท่านั้น

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น