คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 # เปิดเทอม
Amo-Te
Chapter 1 # เปิดเทอมวันแรก
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างบานน้อยเข้ามาส่องกระทบใบหน้าได้รูปสวยที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท แต่ก็เริ่มไม่สนิทเสียแล้วเมื่อแดดมันแยงตาขนาดนี้ เจ้าของร่างขยับพลิกตัวเพื่อหลบแดดที่ส่องเข้ามา แต่นกเจ้ากรรมที่มาทำรังในบ้านคนอื่นก็ดันส่งเสียงร้องจิ๊บ ๆ ขึ้นมาอีก
ไอ้นกบ้า!! ไม่รู้จักบุญคุณ
คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันใบหน้าสวยมุ่ยลงทันตาแต่ตาก็ยังไม่ยอมเปิด แถมมือยังคว้าหมอนข้างมาอุดหูเสียอีก หลับต่อ...
ได้ไม่นาน...นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้เองก็ดังตามขึ้นมา
โธ่...เว้ยย!!
มือสวยเริ่มยกขึ้นคลำไปคลำมาจนเจอนาฬิกาปลุกชะตาขาดโดยที่ตายังไม่ยอมเปิดเช่นเดิม และแล้วนาฬิกาก็ต้องมีอันเป็นไปด้วยการถูกโยนออกไปนอกหน้าต่าง
โป๊กก!!
"โอ๊ยย !!" มีเสียงร้องตามมาแต่ตัวต้นเหตุก็ยังไม่สนใจ หลับต่อ...โดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของเสียงเมื่อสักครู่กำลังวิ่งขึ้นบันไดมาด้วยอารามโกรธจัด
"มินจี...มินจี!!...ตื่นได้แล้วเดี๋ยวนี้เลย...ด่วน!!" เจ้าของเสียงไม่พูดเปล่าใช้มือเขย่าร่างบางภายใต้ผ้าห่มนวมไปมา หวังให้รู้สึกตัวเร็วขึ้น
"หืม?...อืมม..รุนหวัดโจยา...ฮ้าวว...หัวเป็นอะไรไปน่ะเลือดอาบแต่เช้าเลยนะ" มินจีลุกขึ้นมานั่งพลางขยี้ตาและบิดขี้เกียจ
"ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เลย มานี่" ว่าแล้วก็ดึงหูมินจีให้ตามตนออกไป
"โอ๊ยจะทำอะไรน่ะ เจ็บน้า..โจยา"
"นี่เลยหลักฐาน เธอจงใจโยนนาฬิกาปลุกตกใส่หัวฉันเรอะ ?" ตอนนี้โจยายืนกอดอก ส่วนมินจีนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นมองดูซากนาฬิกาปลุกของตัวเอง
"เอ่อ...นี่มัน แหะ แหะ" มินจียิ้มแห้ง ๆ พลางเงยหน้าขึ้นไปมองสีหน้าโกรธจัดของเพื่อนสนิท
"ว่ายังไง ?"
"โจยา ฉันขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจเลยจริง ๆ ฉันแค่จะทำให้มันเงียบเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเจ็บตัวเลยน้า" มินจีขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่และทำสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้
มารยาชัด ๆ สายตาไม่ได้สำนึกเล้ย!!
แต่โจยาก็อดใจอ่อนไม่ได้นี่เขาโง่หรือบ้ากันแน่นะ "เอาเถอะ ช่างมัน ฉันจะไปโรงเรียนแล้ว เธอรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ" แล้วเขาก็หันหน้าไปมองทางอื่นแต่สายตาก็เหลือบมองมินจีนิด ๆ
"เดี๋ยวสิ แล้วแผลบนหัวนายล่ะ เป็นอะไรมากมั๊ย ?" คราวนี้มินจีมองด้วยสายตาเป็นห่วงจริง ๆ
โจยาเหลือบมามองมินจีอีกครั้งแล้วพูดว่า "เป็นสิ เจ็บมาก ๆ เลยด้วย ทำแผล ๆ "
แล้วมินจีก็จัดแจงให้โจยานั่งบนโซฟา ส่วนตัวเองพันผ้าพันแผลให้ หลังจากที่พันเสร็จเธอก็เริ่มถามอีกครั้ง
"นายไม่เป็นอะไรจริง ๆ นะ สมองกระทบกระเทือนรึป่าว ดูซิ นี่กี่นิ้ว" ว่าแล้วก็ยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
โจยาเห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วยกมือขึ้นลูบหัวมินจีเบา ๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขยี้แรง ๆ แล้วพูดว่า
"ถ้าเป็นอะไรมาก ฉันคงไม่ขึ้นไปลากเธอลงมาด่าแบบนี้หรอก โน่น..นอนตายคาที่พร้อมนาฬิกาเป็ดน้อยของเธอตรงโน้นโน่นรู้มั๊ย ยัยตัวแสบ.."
"หยุดน่า โจยา ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ" มินจีพยายามจับมือโจยาไว้
"ทำไมล่ะ ก็ฉันหมั่นไส้เธอนี่ นี่ ๆ ฮ่า ฮ่า" ว่าแล้วก็ขยี้แรงขึ้นกว่าเดิมอีก
"หนอยย" ในขณะที่มินจีกำลังจะเอาคืนบ้างโดยที่ลืมไปแล้วว่าคู่กรณีบาดเจ็บอยู่
"มินจี...คือว่าฉันมีอะไรอยากจะบอก" โจยาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและดึงมือคู่สวยมากุมเอาไว้เหนืออก
"หืม?..อะไรเหรอ ?" มินจีเริ่มสนใจขึ้นมา
"คือว่าฉันน่ะ..." แต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค มันจูน้องชายของมินจีก็เดินลงมาจากห้องนอนพอดี
"เฮ้ย!! โจยา จะทำอะไรอย่าให้มันประเจิดประเจ้อนัก" มันจูพูดพลางมองโจยาด้วยสายตาเย็นยะเยือก
"นายนี่มันไม่น่ารักเหมือนเดิมเลยนะมันจู" โจยาพูดแซว "แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่โจยา" เขาพูดพลางจ้องตอบกลับไปทางมันจูด้วยแววตาแฝงนัยอะไรบางอย่าง
แต่มันจูทำเป็นไม่สนใจแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป
หนอย..ไอเด็กนี่...แกล้งออกมาขัดให้ถูกจังหวะ
"นี่มินจี...ฉันไปโรงเรียนก่อนนะ เรื่องที่ว่าไว้เราค่อย..." โจยาพยายามจะพูดต่อ
"พี่มินจี ผมลืมผ้าเช็ดตัวหยิบให้หน่อยยย" มันจูตะโกนออกมาจากห้องน้ำ
"จ้า..เดี๋ยวพี่หยิบให้ โจยาไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ" มินจียกมือขึ้นพลางทำสีหน้าบอกว่าขอโทษ ซึ่งโจยาก็เข้าใจ
"อืม..ได้เจอกันที่โรงเรียน" แล้วโจยาก็เดินออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
"มันจู เอ้านี่ผ้าเช็ดตัวเปิดประตูออกมารับหน่อยเร็ว"
........................................
สวัสดีค่ะ แนะนำตัวช้าไปไหมนะ ฉันชื่อว่า จา มินจี ค่ะ อายุ 17 ปี ทุกเช้าบ้านฉันจะครึกครื้นแบบนี้ล่ะค่ะ อ๊ะ ! แต่ว่าไม่ได้มีหัวแตกเลือดอาบแบบนี้ทุกวันนะคะ วันนี้เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ค่ะ ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายก็คือเพื่อนสมัยเด็กของฉันเองค่ะ เขาชื่อว่า ลี โจยา อยู่บ้านข้าง ๆ นี่เองค่ะ ส่วนเด็กน้อยที่ปะทะฝีปากกับโจยาเมื่อครู่นี้ก็คือ จา มันจู น้องชายของฉันเองค่ะ
ปกติแล้วพวกเราจะเดินไปโรงเรียนพร้อมกันสามคนทุกวัน แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเทอมที่สองวันแรก โจยาจึงต้องไปเช้าเป็นพิเศษ ทำไมน่ะหรือคะ ก็เขาต้องรีบไปทำความสะอาดห้องชมรมและโรงฝึกน่ะสิคะ ยิ่งเขามีตำแหน่งรองประธานชมรมเทควันโดของโรงเรียนสาธิตชิอันค้ำคออยู่ด้วย ดังนั้นจะไปสายไม่ได้เด็ดขาด
"แม่คะ หนูไปโรงเรียนแล้วนะค้า"
"ผมไปด้วย"
"จ้า...ขอให้สนุกนะ"
"ค่า/คร๊าบ"
ที่จริงแล้วฉันควรจะไปพร้อมกับโจยาน่ะแหล่ะค่ะ แต่ช่วยไม่ได้ก็ตื่นสายไปแล้วนี่สายนิดสายหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า ใครกล้าแหยมกับกัปตันชมรมเทควันโดอย่างฉันนี่คงเตรียมใจไปนอนตบยุงที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ..
"เจอกันตอนเย็นนะมันจู"
"อืม"
อ้าว...นี่ฉันยังไม่ได้บอกเหรอคะว่ากัปตันของชมรมเทควันโดก็คือฉันนี่แหล่ะ
"โย่วว....สวัสดีทุกคน"
ซ่า.!!!......เปียก
"อ่ะ...โจยา!!!!!!!!"
"ตัวเองเป็นกัปตันชมรมแท้ ๆ มาซะสาย อายรุ่นน้องซะมั่งสิ" โจยายื่นหน้ากวน ๆ ของเขาออกมาพร้อมด้วยหลักฐาน กระป๋องน้ำว่างเปล่าหนึ่งใบในมือ
"หนอยย...ก็ไม่เห็นต้องสาดน้ำซะเปียกแบบนี้เลยนี่ ดีนะที่แวะเปลี่ยนชุดมาแล้วขืนชุดนักเรียนเปียกล่ะแย่เลย" ขณะที่มินจีกำลังสำรวจสวัสดิภาพชุดฝึกของเธอ
"เอ้า!!.." โจยาโยนผ้าเช็ดพื้นให้กับมินจี ซึ่งเธอก็รับไว้ได้อย่างแม่นยำ "ไหน ๆ ก็เปียกแล้ว ซะหน่อยมั๊ย ?"
"มันแน่อยู่แล้ว" รับคำเสร็จเธอก็เดินเข้าไปในโรงฝึก "เริ่มจากตรงไหนดีนะ..อืมม..ตรงนั้นดีกว่า" ว่าแล้วเธอก็เดินตรงดิ่งไปที่บริเวณเป้าหมาย
จริง ๆ เธอก็อยากจะทำแบบนั้นแต่ว่าเหล่ารุ่นน้องทั้งหญิงชายที่ชื่นชมในตัวเธอนี่สิ ต่างพากันกรูเข้ามาหาเธอเพื่อทักทายบ้าง สอบถามสารทุกข์สุก ๆ ดิบ ๆ บ้าง กว่าเธอจะหลุดไปถึงมุมสงบได้ก็แทบกระอัก
ยังเนื้อหอมเหมือนเดิม!!
ในโรงเรียนสาธิตชิอันนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเธอ จา มินจี ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้เรียนเก่งหรือเป็นกรรมการนักเรียนที่ต้องทำตัวเป็นนักเรียนดีเด่นตลอดเวลา แต่สำหรับเธอแล้วสิ่งที่ทำให้ทุกคนในโรงเรียนรู้จักเธอนั่นก็คือ
ตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขันเทควันโดระดับม.ปลายทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว ถูกแล้วเด็กปีหนึ่งซ้ำยังเป็นผู้หญิงคนนี้แหล่ะที่พาชมรมเทควันโดของโรงเรียนสาธิตชิอันที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน มุ่งสู่ระดับประเทศและคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ทั้ง ๆ ที่เข้าแข่งขันเป็นปีแรก ม้ามืดของการแข่งขันอย่างแท้จริง!!
นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถด้านกีฬาอย่างล้นเหลือไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไรก็ตาม ลองให้เธอได้เล่นแม้จะเล่นเพียงครั้งแรกก็ดูเหมือนกับเคยฝึกเล่นมาแล้วเป็นปี ๆ อีกทั้งยังรูปร่างหน้าตาที่สวยและมีเสน่ห์ทั้งในสายตาเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน?! ประกอบกับนิสัยที่ชอบช่วยเหลือผู้คนและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย จึงทำให้เธอกลายเป็นที่รักของคนหมู่มากได้ในไม่ช้า
นอกจากมินจีแล้ว โจยาก็เนื้อหอมไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ถึงเขาจะดูเป็นคนกวน ๆ บ้า ๆ บอ ๆ ออกจะประสาทนิดหน่อยด้วยซ้ำในความคิดของมินจี แต่ทั้งความสามารถและหน้าตาถูกจัดว่าให้อยู่ในระดับที่สูงเหมือนกันถึงจะไม่เท่ามินจีก็เถอะ ช่วยไม่ได้นี่คนมันหน้าตาดี แถมสาว ๆ ที่ตอนแรกชอบโจยา อยู่ดี ๆ เจ้าหล่อนทั้งหลายก็แปรพักตร์ไปชอบมินจีแทนซะอย่างนั้น
จึงไม่น่าแปลกใจที่จะไม่มีใครอิจฉามินจีกับโจยา ทั้งเรื่องที่ทั้งสองสนิทกันมากไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนเรียกได้ว่าเป็นคู่หูกัปตันกับท่านรองได้เลย แต่ก็อย่างว่าแหล่ะนะ ถึงอิจฉาไปก็ทำอะไรไม่ได้ ใครกล้าไปหาเรื่องสองคนนั้นก็เชิญเลย เทควันโดสายดำทั้งคู่...
กิ๊ง...ก่องง..
เสียงสัญญาณระฆังเข้าเรียนดังขึ้น ทำให้ทุกคนในชมรมละจากภารกิจที่ทำอยู่อย่างเร่งด่วนเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและใส่เกียร์หมาโกยเข้าห้องเรียนในทันที ก่อนที่จะถูกอาจารย์ด่าเนื่องจากโดดพิธีปฐมนิเทศไปแล้วยังจะเข้าห้องเรียนสายอีก
มินจีกับโจยารีบวิ่งอย่างสุดชีวิตเพราะทั้งสองคนออกมาจากห้องชมรมเป็นคนสุดท้ายเนื่องจากต้องอยู่ตรวจสอบความเรียบร้อยและล็อคกุญแจให้แน่นหนาเสียก่อน
แต่ที่จริงแล้ว....
"เพราะนายแท้ ๆ เลยลืมกระเป๋าไว้ในห้องชมรม ทำให้ต้องวิ่งกลับไปเอาเสียเวลาจริง ๆ" มินจีบ่นขณะที่วิ่งออกจากห้องชมรมรอบที่สอง
"ก็ฉันบอกให้เธอไปก่อนแล้วไง ตามมาเองทำไมล่ะ" โจยาหันไปบ่นบ้างขณะที่ยังวิ่งอยู่
"ก็มันสายแล้วนี่ใครจะยอมโดนด่าคนเดียวล่ะ"
"นี่สินะเหตุผลที่แท้จริง" ว่าแล้วโจยาก็ทำหน้าหน่าย ๆ
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงห้องเรียนชั้นปีสองห้องเอ
มินจีง้างมือจะเคาะประตูแต่ก็หยุดไว้ เธอชักสีหน้ายุ่งยากใจแล้วก็ง้างมือขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคาะอยู่ดี จนโจยาเริ่มรู้สึกรำคาญ ขณะที่มินจีง้างมือขึ้นรอบที่สามและคราวนี้ตั้งใจเคาะลงไปเต็มแรง
แต่ประตูได้ถูกเปิดออกเสียก่อน ทำให้เธอเคาะลงไปบนหัวเหม่งของอาจารย์ใหญ่เต็มแรง ย้ำ!!...เต็มแรงของนักกีฬาเทควันโดฝีมือระดับทีมชาติ...
อาจารย์ใหญ่สลบเหมือดลงไปในทันที
"เฮ้ยยยย!!" โจยากับอาจารย์ประจำชั้นร้องขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
สด ๆ ร้อน ๆ ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน โป๊กเดียวแทบเท้า!!
"ว๊ากกกกก!!" มินจีร้องไม่ได้สรรพ เมื่อเห็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่นอนกองอยู่ที่บริเวณปลายเท้าของเธอ
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
บริเวณบันไดทางขึ้นตึกที่ผู้คนพลุกพล่านเป็นประจำ เพราะเป็นทางที่ทุกคนในโรงเรียนต้องใช้เพื่อเป็นทางผ่านไปชั้นเรียนของตน โรงอาหาร ห้องน้ำ หรือแม้แต่ห้องพักครู
แต่สำหรับวันนี้ผู้คนกลับดูพลุกพล่านเป็นพิเศษ สาเหตุไม่ใช่เพราะเป็นวันเปิดเทอมวันแรกที่อะไร ๆ ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางดีสักเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะว่าสองคนดังแห่งโรงเรียนสาธิตชิอันกำลังถูกอาจารย์ใหญ่ลงโทษให้ยืนกระต่ายขาเดียว พร้อมทั้งสวมที่คาดผมรูปหูกระต่ายแบกถังน้ำอยู่ต่างหากและที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างก็คือแผ่นป้ายที่ห้อยคอของทั้งคู่อยู่มันเขียนว่า
"ฉันเป็นกระต่าย กระต่ายตัวน้อยแบกน้ำขึ้นลงจากเขา สุขเสียจริง ฉันชอบแบกน้ำ แบกได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ"
แต่สีหน้าของทั้งคู่มันช่างตรงข้ามกับข้อความที่เขียนอยู่นักสร้างความฮือฮาระคนขบขันจากทั้งเหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะสีหน้าของทั้งคู่มันช่างส่ออาการเหม็นเบื่ออย่างรุนแรงแถมยังเริ่มเมื่อยแล้วด้วย กระต่ายสองตัวเลยต้องหาอะไรกระแทกปากเพื่อยับยั้งความเหม็นเบื่อที่เริ่มโจมตีเข้ามาด้วยการ...
"เป็นเพราะนายแท้ ๆ เลยถ้านายหยิบกระเป๋าออกมาตั้งแต่แรกพวกเราก็ไม่ต้องสาย แล้วก็ไม่ต้องมาโดนทำโทษอยู่แบบนี้" มินจีเริ่มเปิดศึกก่อนทำให้อีกฝ่ายที่รอโต้ตอบอยู่แล้วต้องตอบกลับมา
"อย่ามาทำเป็นโทษฉันนะ เธอนั่นแหล่ะประตูมีให้เคาะไม่เคาะไปเคาะหัวเหม่งจารย์ใหญ่ทำไม นี่น่ะมันเป็นเพราะเธอต่างหาก แล้วทำไมฉันต้องมาโดนทำโทษกับเธอด้วยเนี่ย!.." โจยาตอกกลับทำให้คนเปิดศึกเริ่มหมั่นไส้
"แล้วทำไมนายไม่เคาะซะเองล่ะ รอให้ฉันเคาะมันก็เลยเป็นแบบนี้น่ะแหล่ะ" จนคำพูดด้วยความผิดที่แท้จริง ทำให้ต้องเถียงข้าง ๆ คู ๆ
"เธอ..นี่" คนถูกเถียงกำลังจะแย้งกลับแต่กลับรู้สึกถึงน้ำหนักที่มันเพิ่มขึ้นของถังน้ำที่เขาถืออยู่ เมื่อเขาหันกลับไปมอง
"มันจู!!!" ถูกแล้วมันจูกำลังเอาหินถุงใหญ่ใส่เข้าไปในถังน้ำของโจยาเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้มันมากขึ้นทั้งที่มีน้ำอย่างเดียวก็หนักจะตายอยู่แล้ว "ทำอะไรของนายน่ะ!!"
มันจูทำไม่สนใจแล้วเดินเอาหินอีกถุงไปใส่ในถังน้ำอีกข้างที่โจยาถืออยู่ เมื่อหินถูกใส่เพิ่มเข้าไปด้วยน้ำหนักที่มากขึ้นเหลือคณาทำให้โจยาหมดแรงที่จะต่อปากต่อคำกับมินจีต่อไปได้
จากนั้นมันจูก็เทน้ำจากถังพี่สาวออกถังละครึ่งหนึ่งใส่ถังที่ตนเองเตรียมมาซึ่งมินจีก็ยิ้มให้น้องชายเป็นเชิงขอบคุณ มันจูยกถังของตัวเองขึ้นและกำลังจะเดินจากไป
แต่ก่อนที่เขาจะเดินจากไปนั้นเขาได้หันกลับมาบอกโจยาว่า
"อาจารย์บอกให้ผมเอาหินพวกนี้ไปทิ้ง และตักน้ำกลับไปจะได้ถูห้อง" แล้วมันจูก็เดินจากไปทิ้งให้ใครบางคนต้องมองตามด้วยความแค้น
ไอเด็กติดพี่...ตัวเองอยู่ ม.ต้น ดันเอามาทิ้งที่ตึก ม.ปลาย มันน่าเชื่อนัก!!
เวลาผ่านไปคาบหนึ่งก็แล้วคาบสองก็แล้ว กระต่ายสองตัวเริ่มหมดแรงอย่างเห็นได้ชัดแม้จะมีแอบอู้บ้างแต่อาจารย์ใหญ่ก็ไม่ประมาทส่งสายสืบมาแอบดูอยู่เรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาอู้ได้ไม่สะดวกเท่าไหร่
แต่เมื่อเวลาเลยผ่านมาถึงพักกลางวัน อาจารย์ใหญ่คงเห็นว่าทำโทษพอแล้วเดี๋ยวจะเสียการเรียนตั้งแต่วันแรก จึงปล่อยให้ทั้งคู่กลับห้องเรียนไปได้ ซึ่งทั้งคู่ก็มิได้ขัดข้องแต่ประการใดรีบชิ่งไปโดยทันที และเป้าหมายแรกที่พวกเขาจะไปก็คือโรงอาหาร...
"เป็นยังไงบ้างล่ะ โดนทำโทษตั้งแต่วันแรกแบบนี้สมเป็นพวกนายเลยนะ" รุ่นพี่อินยองเดินเข้ามาทักเมื่อเห็นทั้งสองยกอาหารมาที่โต๊ะกินข้าว และเดินตามไปนั่งด้วยโยไม่สนใจสายตาแปลก ๆ ของโจยาเลยแม้แต่น้อย
"ก็อย่างนี้แหล่ะ วันแรกไม่เอิกเริกก็ไม่สนุก" มินจีตอบขณะตักอาหารใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ไม่สนใจสายตารอบข้างที่มองมาอย่างสนใจ
ก็จะไม่ให้สนใจได้ยังไง เมื่อคนดังคนที่สามได้เข้ามาสมทบกับอีกสองคนที่ดังอยู่แล้ว รุ่นพี่อินยองนั่นเอง ประธานนักเรียนที่เพียบพร้อมที่สุดในประวัติศาสตร์โรงเรียนสาธิตชิอันที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 100 ปี
ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาจนสาว ๆ ต้องมองเหลียวหลัง มันสมองอันเป็นเลิศในด้านวิชาการ และความสามารถทางกีฬาอันยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรงการต่างประเทศอีกด้วย อนาคตเริ่ดหรูขนาดนี้มารู้จักกับสองตัวแสบของโรงเรียนได้ยังไง
"ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ อยากรู้จังว่าเมื่อไหร่จะยอมคบกับผมเสียที" ประโยคนี้ทำให้มินจีสำลักจนต้องทุบอกตัวเอง และบะหมี่ที่อยู่ในปากของโจยาก็ถูกพ่นพรูดออกมาเต้นระบำอยู่บนโต๊ะ...
"รุ่นพี่...ยังไม่ตัดใจอีกเหรอ ?" มินจีตอบทั้ง ๆ ที่มือควานหาแก้วน้ำ ซึ่งรุ่นพี่อินยองก็เป็นคนส่งให้
ถูกแล้วสิ่งที่ทำให้พวกเขาสนิทกันก็คือรุ่นพี่อินยอง ประธานนักเรียนคนสำคัญของโรงเรียนสาธิตชิอัน เป้าหมายหลักของสาว ๆ ในโรงเรียนได้ตกหลุมรักมินจีไปแล้วตั้งแต่แรกเห็น แถมยังสารภาพรักกลางงานปฐมนิเทศเมื่อปีที่แล้วเสียอีก....และก็ถูกปฏิเสธกลางงานเช่นกัน
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์แรก ๆ ที่ทำให้มินจีเริ่มดังและเป็นที่รู้จักในโรงเรียน ไม่ใช่เพียงหน้าตาที่สะสวยเท่านั้น แต่เพราะสาว ๆ ที่เป็นแฟนคลับของรุ่นพี่อินยองต่างก็ปล่อยข่าวลือเลวร้ายต่าง ๆ นา ๆ เพื่อให้มินจีเสียชื่อ แน่นอนว่าคติของมินจีคือ
"บุญคุณต้องทดแทน ถูกแกล้งต้องเอาคืนเป็นล้านเท่า" (ไอข้างหลังมันแปลก ๆ นะ)
และเป็นที่แน่นอนอีกเช่นกันว่าทุกรายถูกเอาคืนจนไม่กล้ามาตอแยกับมินจีอีก แถมบางรายยังผันแปรไปเป็นแฟนคลับของมินจีซะเองตั้งแต่เธอพาชมรมไปชนะเลิศกลับมา
"ยังหรอก ตราบใดที่เธอยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ต่อให้มีพี่ก็จะแย่งเธอมาให้ได้" ประโยคนี้ทำให้มินจีสำลักรอบสองจนไอค่อกแค่ก และโจยาที่เงียบมานานต้องเป็นฝ่ายพูดบ้าง
"ใครคบกับยัยนี่ได้เกินสามวัน เรียกว่า"หลง" เกินห้าวัน เรียก"เสียสติ" ถ้าเกินกว่านั้น ก็เรียกว่า"บ้า" แล้ว" พอพูดจบเขาก็ต้องหลบน้ำแข็งที่มินจีปามาเป็นการใหญ่
"คิก...ฮ่า ฮ่า...คุยกับพวกนายเนี่ยสนุกดี คลายเครียดเรื่องงานกรรมการนักเรียนไปได้มากเลย โอ๊ะ!! นั่นรองประธานนี่นา โย่วว" ว่าแล้วก็โบกไม้โบกมือเรียกให้คนดังคนที่สี่ที่กำลังวิ่งวุ่นตามหาตัวคนดังคนที่สามอยู่ต้องรีบวิ่งเข้ามาหา
กลายเป็นจุดเด่นหนักกว่าเก่าอีก เมื่อรองประธานหน้าหวานได้วิ่งเข้ามาสมทบ ทำให้จำนวนนักเรียนที่มุงดูอยู่ห่าง ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นไปอีก
นี่มันงานชุมนุมอะไรกันเนี่ยย!!
"ประธานนนนนนน!!~มัวทำอะไรอยู่ครับ ถึงจะเพิ่งเปิดเทอมแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีงานนะครับ แล้วนี่ยังมีเรื่อง แว๊ด ๆ ว๊าก ๆ บลา บลา บลา "
รองประธานว๊ากใส่คนตำแหน่งสูงกว่าไม่หยุดก่อนที่จะลากตัวประธานคนสำคัญกลับไปห้องกรรมการนักเรียนได้เป็นผมสำเร็จ สร้างความโล่งใจให้กับคนสองคนยิ่งนัก
จะได้กินข้าวอย่างสบายใจเสียที...
กว่าที่พวกเขาจะกินเสร็จก็ใกล้เวลาเข้าเรียนคาบบ่ายมากแล้ว พวกเขาจึงตรงดิ่งกลับห้องเรียนทันที
การเรียนในช่วงบ่ายเป็นอะไรที่น่าเบื่ออีกแล้วสำหรับมินจี เพราะเธอไม่ชอบวิชาประวัติศาสตร์ มันเป็นวิชาที่ชวนง่วงที่สุดเท่าที่มินจีเคยเรียนมา และยิ่งจัดตารางมาให้เรียนตอนบ่ายด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง...หลับชัวร์
ขณะที่มินจีกำลังหลับอย่างเป็นสุขอยู่นั้นอาจารย์ประจำชั้นซึ่งเป็นอาจารยืประจำวิชาประวัติศาสตร์ก็ย่างสามขุมมาหาเธอ
โป๊ก!! โอ๊ยย!!
"จา มินจี" อาจารย์พูดด้วยเสียงแข็งกร้าว
"ขา...จารย์ เคาะหัวหนูทำไมเนี่ย ยิ่งโง่ ๆ อยู่เดี๋ยวความรู้กระเจิงหมด" มินจีตอบพลางเอามือคลำหัวป้อย ๆ จากการที่โดนสันหนังสือเล่มหนาวัดความหนาของกะโหลกเข้าให้
"เย็นนี้ไปที่ห้องพักครูด้วย" อาจารย์ไม่เล่นด้วยแฮะ
"ค่ะ" เนื่องจากทำอะไรไม่ได้เธอจึงต้องตอบรับไปอย่างว่าง่าย
"เอ้า...เรียนต่อ ๆ" หลังจากนั้นมินจีก็หลับต่อเป็นที่อนาถใจแทนอาจารย์จริง ๆ
ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียน แสงอาทิตย์ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มแสดสวยสด แต่สีแสดสวยนี้ไม่ได้ฉาบที่ท้องฟ้าเพียงอย่างเดียว มันยังฉาบจนแทบอาบไปทั่วใบหน้าของโจยาที่ดูแล้วเหมือนพระอาทิตย์พิโรธมากกว่า
ก็จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรในเมื่อนี่ไม่ใช่ความของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับต้องมาหาอาจารย์รับผิดเป็นเพื่อนมินจี ทั้งที่เขามีหน้าที่รองกัปตันชมรมค้ำหัวอยู่แท้ ๆ แล้วนี่ก็ใกล้แข่งแล้วด้วย ยังไม่ได้ฝึกรุ่นน้องให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ที่ปีที่แล้วเอาชนะมาได้นี่ก็เพราะเขากับมินจีช่วยกันติวเข้มรุ่นพี่หรอกนะ แถมรุ่นพี่ก็มีพื้นฐานกันอยู่แล้วด้วย ถึงรุ่นน้องบางคนจะเคยมาบ้าง แต่กับรุ่นน้องที่เข้ามาเพราะชื่อเสียงของชมรมแต่ไม่มีพื้นฐานเลยล่ะจะทำอย่างไร
ไม่ทันที่โจยาจะเอ่ยปากบอกอะไร พวกเขาก็เดินมาจนถึงหน้าห้องพักครูแล้ว ซึ่งมินจีก็เปิดเข้าไปทันทีโดยไม่ได้เคาะก่อน ช่างเป็นผู้หญิงที่มารยาทดีเสียจริง ๆ
"อาจารย์ขา จา มินจีมารายงานตัวแล้วค่ะ พร้อมด้วยโจยาคู่หูค่ะ" นั่น...ลากเพื่อนมาซวยด้วยอีกแล้ว
"อืม...มากันสองคนก็ดีแล้ว" ถึงตรงนี้โจยาทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก อาจารย์ก็เป็นไปกับเขาด้วย
"เอาล่ะ...วันนี้ไม่มีอะไรมาก ครูเรียกพวกเธอมาเพื่อบอกว่า อาจารย์มีงานจะให้พวกเธอทำสักหน่อย" เรียกมาเรื่องงานอีกแล้วหรือเนี่ย แต่ก็ยังดีกว่าถูกทำโทษล่ะนะ มินจีคิด
"งานอะไรหรือคะ ?" เธอถามพลางยกแขนเรียวสวยขึ้นมากอดอกเอาไว้
"พรุ่งนี้จะมีนักเรียนใหม่มาอยู่ที่ห้องของพวกเรา" อาจารย์พูดพลางหันหลังกลับไปหยิบแฟ้มประวัติยื่นให้ทั้งสองคน
"นักเรียนใหม่ ?!" ทั้งสองพูดพร้อมกันด้วยสีหน้าตกใจ นักเรียนใหม่! เข้ามากลางเทอมอย่างนี้เนี่ยนะ
"ใช่ เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศ เขาไปอยู่ที่โปรตุเกสกับพ่อของเขาตั้งแต่ 8 ขวบ และเพิ่งย้ายกลับมาเกาหลีเมื่อวาน ดังนั้นพรุ่งนี้เขาถึงจะมาเรียนได้"
"เดี่ยวก่อนนะครับอาจารย์ ชื่อ ชาง ซุนวู นี่มัน..." โจยาทักขึ้นเพราะชื่อมันคุ้นหูพิกล
"อย่างที่เธอคิดนั่นแหล่ะ ชาง ซุนวู ผู้สืบทอดอันดับสามจากตระกูลชาง ผู้ครอบครองธุรกิจใหญ่ ๆ ในเกาหลีไปกว่าครึ่ง จะเรียกว่าเจ้าชายเลยก็ได้นะ"
"อะไรนะนี่พวกหนูจะต้องมานั่งดูแลตาเจ้าชายอะไรนั่นงั้นเหรอ ? ขอปฏิเสธค่ะ" มินจีพูดพร้อมยื่นแฟ้มประวัติส่งคืนให้กลับอาจารย์ประจำชั้นของเธอ ซึ่งเขาไม่รับคืนและยังพูดต่อว่า
"ไม่ได้หรอก นี่เป็นคำสั่งอาจารย์ใหญ่" คำตอบของอาจารย์ทำเอามินจีกับโจยาหันขวับ
ตกลงคดีเคาะเหม่งอาจารย์ใหญ่เมื่อเช้ายังไม่เคลียร์หรือนี่ ถูกทำโทษต่อจนได้ มินจีกับโจยาคิดเหมือนกันพลางทำสีหน้าหน่าย ๆ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งสองนั้น...คิดถูกแล้ว
"เอาล่ะพรุ่งนี้รีบมาเร็ว ๆ ล่ะ วันนี้หมดเรื่องแล้วกลับบ้านได้แล้ว" อาจารย์ตัดบทและไล่ทั้งสองกลับบ้านเพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว ดีที่ทั้งสองฝากข่าวไปกับรุ่นน้องที่เจอระหว่างทางแล้วว่าวันนี้งดชมรมให้กลับบ้านกันไปได้เลย ทั้งสองจึงเดินกลับบ้านด้วยกัน
แต่เมื่อเดินมาถึงประตูหน้า มิจีก็พบกับ มันจู..น้องชายของเธอนั่นเอง เขายืนคอยพี่สาวสุดที่รักอยู่นานสองนานทั้งที่ไม่รู้ว่าวันนี้มินจีถูกอาจารย์กักตัวไว้ เมื่อทั้งสองเดินมาถึง
"ทำอะไรกันซะเย็น" มันจูถามด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ จนพี่สาวต้องรีบตอบไป
"วันนี้พี่ถูกอาจารยืกักตัวไว้น่ะ" มันจูทำสีหน้าเข้าใจและหันไปมองทางโจยา
"แล้วนั่นล่ะ" เขาถามพลางชี้ไปทางโจยาโดยที่ไม่ได้มองแม้แต่น้อย ทำเอาโจยาเริ่มฉุนขึ้นมาตะหงิด ๆ
"หมอนั่นเหรอ ก็ด้วยกันแหล่ะ" มินจีตอบยิ้ม ๆ
"อ้อ...คงไม่ใช่เพราะมันหรอกนะ" มันจูถามอย่างเอาเรื่อง
"ไม่หรอก แต่ก็นิดหน่อยน่ะ" มินจีแอบใส่ลูกหยอกพาซวยให้โจยาอีกแล้ว
"พอเลย ๆ พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง อย่าคิดว่าฉันเงียบแล้วจะพูดอะไรก็ได้นะ" โจยาทำสีหน้าโกรธ ๆ แล้วก็เดินจากไป จนมินจีต้องวิ่งตามไป และมันจูก็วิ่งตามมินจีไปอีกที
สุดท้ายทั้งสามก็กลับบ้านด้วยกันเช่นเคย แล้วพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนะ
+++++++++++++++++++++++
จบ chapter 1 To be continue
+++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น