ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #5 : >>:: Chapter 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 966
      14
      13 ต.ค. 56






    CHAPTER 3

     

     

     

     

    ลัลทริมาเดินออกมาเปิดตู้เก็บรองเท้าที่ติดป้ายเอาไว้ว่า..รองเท้านักเรียน!!  แล้วดวงตาของเธอก็ต้องเบิกขึ้นอย่างตกใจ  เพราะรองเท้าที่อยู่ในตู้..มันมีด้วยกันทั้งหมด 21 คู่

     

    “เฮ้ย  ไหงมันเยอะเงี้ยล่ะเนี่ย” ร่างบางอุทานออกมา  นึกก่นด่าพวกคุณชายในใจ  ว่าทำไมถึงได้ใส่รองเท้าเยอะแยะแบบนี้ “โอ๊ย  แล้วใครใส่คู่ไหนเบอร์อะไรล่ะเนี่ย??”

     

    เธอลองหยิบรองเท้าออกมา 2 คู่ มันไม่มีชื่อติดเอาไว้  ลัลทริมาจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าคู่ไหนเป็นของใคร และที่สำคัญที่สุดคือ เธอไม่รู้ว่าใครใส่รองเท้าเบอร์อะไรน่ะสิ

     

    ..หนอยไอ้คุณชาย  แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ นี่หว่า  ตั้ง 21 คู่  ใครมันจะไปหาได้ถูกวะ!..

     

    แล้วเธอก็หยิบเอารองเท้าคู่นั้นลงมาบ้าง  คู่นี้ลงมาบ้าง  จนมันชักจะระเกะระกะลูกตาไปหมด  จึงเก็บกลับเข้าตู้อีกครั้ง  และพยายามนั่งพิจารณาพร้อมกับคำนวณขนาดเท้าของแต่ละคนเอา  แต่ผลก็คือ..มันก็เดาไม่ได้อยู่ดี

     

    ..โอ๊ย  ทำไงดี  ถ้าจัดรองเท้าไม่ถูกล่ะก็  มีหวังฉันโดนพวกนั้นรุมฆ่าแน่ๆ ทำไงดี  ทำไงดี๊~..

     

    ในขณะที่เธอกำลังหัวหมุนอยู่กับการเลือกรองเท้าอยู่นั้น  ราวกับได้มีพระเจ้ามาโปรด..เพราะอธิศเดินผ่านมาเห็นเธอเข้าพอดี

     

    “มีอะไรเหรอ  ลัลทริมา” พ่อบ้านหนุ่มเอ่ยถาม

     

    “คือ..รองเท้าค่ะ  รองเท้า” ร่างบางตอบเสียงสั่น  ใบหน้าของเธอราวกับกำลังจะร้องไห้อย่างเต็มกลืน

     

    “อือ  เดี๋ยวฉันช่วยเอง” แล้วอธิศก็ช่วยลัลทริมาหยิบรองเท้าออกมาจัดเรียงไว้รอพวกคุณชาย 

     

    “ขอบคุณมากค่ะ” เธอว่า  พร้อมแสดงสีหน้าซาบซึ้งใจอย่างที่สุดให้กับอธิศ “ดีจริงๆ เลยที่คุณอธิศมาช่วย  ไม่งั้นมีหวังฉันคงแย่แน่ๆ”

     

    “ถ้าโดนพวกคุณชายแกล้งล่ะก็  บอกฉันได้” อธิศบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มแหย  พลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืด  ที่เธอไปปลุกพวกคุณชาย แล้วโดนด่า โดนปาหมอนใส่ และอีกสารพัดล่ะนะ

     

    ..จะบอกได้ไงละคะ  ฉันไม่กล้าหรอก.. เธอคิดในใจ 

     

    “เอ่อ  ถ้ายังไงฉันขอไปเรียกพวกคุณชายนะคะ” จากนั้นเธอก็ขอตัวเดินไปยังห้องอาหารอีกครั้ง

     

    ..หึหึหึ  งั้นฉันขอเอาคืนหน่อยน้าคุณชาย  โดนอยู่ฝ่ายเดียวน่ะ  มันไม่ยุติธรรม  แล้วไอ้ฉันมันก็เป็นคนไม่ค่อยยอมใครซะด้วย.. ลัลทริมาคิดพลางยิ้มกริ่ม  ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ แคปเปอร์

     

    “เอ่อ  มีอะไรเหรอ?” แคปเปอร์เอ่ยถามเธอ

     

    “ขอโทษนะคะ” เธอว่า  พร้อมกับยื่นมืออกไปวางบนใบหน้าของแคปเปอร์  และกางนิ้วคล้ายๆ กับจะทำอะไรสักอย่างท่ามกลางความงุนงงของเหล่าคุณชายคนอื่นๆ

     

    “เอ่อ  เดี๋ยวๆๆ จะทำอะไรน่ะครับ คุณลัล” แคปเปอร์เอ่ยถามอีกครั้ง

     

    “ขอวัดหน่อยค่ะ” เธอว่า  เมื่อเสร็จจากแคปเปอร์ก็เดินมาที่ภาม  หนุ่มหน้าตาน่ารักนั่งนิ่งให้ลัลทริมาใช้มือวัดใบหน้า  ซึ่งเธอเองก็งงเหมือนกัน  ว่าทำไมภามถึงยอมง่ายๆ  เสร็จจากนั้นเธอก็หันมาหาอคิน “ขออนุญาตค่ะ  คุณชายอคิน”

     

    “ไม่อนุญาต!” อคินตอบ แต่ดูเหมือนลัลทริมาจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย มือบางแตะๆ ใบหน้าของเขาและจดจ้องๆ เขา ทำเอาเขารู้สึกเขินขึ้นมาเล็กน้อย.. “เฮ้ย!! พอได้แล้ว  จะวัดไปทำไมเนี่ย”

     

    “ใช่  วัดไปทำไมน่ะ  แล้วรองเท้าที่ให้เตรียมน่ะ  เสร็จแล้วเหรอ?” การินเอ่ยถามเธอ

     

    “ยังไม่เสร็จค่ะ” เด็กสาวโกหกออกไป 

     

    “เฮ้ย  แล้วทำไมไม่ไปทำให้เสร็จเล่า  มาวัดอะไรกับใบหน้าฉันเนี่ย” อคินตวาดใส่เธอ  เด็กสาวจึงปล่อยมือและถอยออกห่างจากเขาเล็กน้อย  ก่อนจะพูดขึ้นมา

     

    “ก็เพราะยังจัดไม่เสร็จยังไงล่ะคะ  ถึงได้ต้องมาทำแบบนี้”

     

    “หมายความว่าไงครับ?” เรวินถามด้วยสีหน้างุนงง

     

    “อ้าว  นี่พวกคุณชายไม่เคยได้ยินหรอคะ ว่าขนาดใบหน้าของคน ยาวเท่ากับส้นทีนน่ะ” ร่างบางตอบพร้อมยิ้มร่า ซึ่งคนฟังเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับโกรธควันออกหูกันเลยทีเดียว

     

    “มันจะมากไปแล้วนะ  เธอกล้าเอาใบหน้าของพวกฉันไปเทียบกับเท้างั้นเหรอ” เชียรถามขึ้นอย่างโมโห 

     

    “มิบังอาจค่ะ  เพียงแค่ฉันจนปัญญาที่จะหารองเท้าให้ถูกคู่  ฉันก็เลยต้องทำแบบนี้” ลัลว่า

     

    “แล้วทำไมถึงไม่ถามขนาดเบอร์กับพวกฉันล่ะ” ชินะเอ่ยขึ้นมา  สีหน้าของเขาเรียบเฉย  หากแต่คำพูดที่พูดออกมา  มันกลับแฝงไปด้วยความไม่พอใจ

     

    “นั่นสินะคะ  ทำไมฉันไม่ทำแบบนั้นล่ะ  ทำไมฉันถึงไม่ถามคุณชายกันเนี่ย  แย่จัง” เธอพูดพลางตีหน้าเศร้าเล็กน้อย  หากแต่มันดูกวนเสียมากกว่า

     

    “ได้ ลัลทริมา” อคินว่า  พร้อมกับชี้หน้าเธอด้วยอารมณ์โกรธเคือง “พวกฉันขอประกาศสงครามกับเธอ  ถ้าภายใน  1 เดือนนี้พวกฉันทำให้เธอลาออกไม่ได้ พวกฉันจะยอมเป็นเบ๊ให้เธอ 3 วันเลย!!!!

     

    “เฮ้ยไอ้อคิน  ทำไมพูดงั้นวะ” การินหันไปถามเพื่อนของเขา “อย่างน้อยๆ แกก็ไม่ควรใช้คำ พวกนะ”

     

    “แกจะกังวลอะไรวะ  ยังไงซะยัยนี่..ก็ต้องลาออกก่อนอยู่ดี” อคินว่า  พร้อมส่งสายตาอาฆาตไปยังลัลทริมา  ซึ่งเด็กสาวเองก็ยืนมองหน้าเขาอยู่เช่นกัน  ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ฉีกยิ้มขึ้นมา

     

    “ได้  ฉันขอน้อมรับคำท้า!!” เธอว่า “แล้วอย่าลืมรักษาสัญญานะคะ เพราะพวกคุณชายทำให้ฉันลาออกไม่ได้หรอก”

     

    “ดูเธอมั่นใจจังนะ” ภามถามยิ้มๆ

     

    “หึ  ก็ขอให้กล้าแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ นะครับ  คุณลัล” เรวินเอ่ยขึ้นมา  พลางยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ

     

    “ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู” อคินตอบกลับ  พร้อมจ้องหน้ากันราวจะกินเลือดกินเนื้อ  ก่อนที่จะมีอีกคนเดินเข้ามาในห้องครัว

     

    “เห็นว่าเธอมานานแล้ว  ฉันก็เลยมาดูน่ะ” อธิศกล่าวขึ้นมา  เขาเดินมาตามลัลทริมาเพราะเห็นว่าเธอมานานมากแล้ว  จึงกลัวว่าเธออาจโดนรุมแกล้งได้  แต่เมื่อพ่อบ้านหนุ่มเห็นสีหน้าจริงจังของคุณชายและลัลทริมา  พร้อมกับบรรยาอึมครึมที่ปกคลุมห้องนี้อยู่  เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก

     

    “อ้าว  อาอธิศ  พวกเรากำลังจะไปกันพอดีเลยครับ” ชินะเอ่ยตอบ  ก่อนจะหันไปมองเพื่อนๆ “ไปกันเถอะ”

     

    “อืม” ภามลุกขึ้นยืน  และเดินออกจากห้องไปเป็นคนแรก  ส่วนเชียรเองก็ค่อยๆ ลุกขึ้น  แล้วหันไปยิ้มการิน “จัดการทีนะ” เขาว่า

     

    “อืม” การินตอบ  ก่อนจะค่อยๆ ลุกยืน..แล้วคว้าเอาชามใส่น้ำแกงขึ้นมา  ก่อนจะเทราดมันลงไปบนพื้น “โอ๊ะ! ทำไมจู่ๆ น้ำแกงมันถึงได้อยากจะลงไปนอนเล่นกับพื้นได้วะเนี่ย”

     

    ดวงตากลมโตของเด็กสาวมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจเล็กน้อย  ..ปัญญาอ่อนรึเปล่าน่ะ  ไอ้คุณชายการิน.. แกงที่ไหนมันจะอยากลงไปนอนเล่นกับพื้น..

     

    “หึ..หึ ทำความสะอาดด้วยล่ะ  ยัยคนใช้” หนุ่มผมดำกล่าวทิ้งท้าย  ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

     

    “ชิ  พวกบ้า  เรื่องแค่นี้ก็ต้องมาประกาศสงคงสงคราม  ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้  ปัญญาอ่อนซะไม่มี” เธอบ่นอุบอิบกับตัวเอง “ท่าทางเราจะต้องระวังตัวมากกว่านี้แล้วล่ะสิเนี่ย” เธอถอนหายใจ  ก่อนจะไปหาผ้ามาเช็ดแกงที่การินเทราดเอาไว้

     

    .........................................................

     

     “คิดยังไงถึงพูดงั้นห๊ะ อคิน  ทำไมถึงไปประกาศสงครามท้ารบกับคุณลัลแบบนั้นล่ะ” แคปเปอร์เอ่ยถามอคิน  ที่ตอนนี้กำลังนั่งหน้ามุ่ยอยู่

     

    “ก็คนมันโมโหนี่หว่า  อีกอย่าง..แกเลิกเรียกยัยนั่นว่าคุณลัลซักทีเหอะ  ฟังแล้วคันหูว่ะ” อคินตอบกลับมา

     

    “ก็..สุภาพบุรุษอย่างฉันก็ต้องเรียกงี้สิ  ขนาดไอ้เรวินยังเรียกเลย” แคปเปอร์พูด  พลางหันไปหาเรวิน “เนอะ?”

     

    “อืม  เรียกแบบนี้แล้วมันชินปากดีน่ะ” เรวินตอบ “ถ้าพวกคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องฟังสิ”

     

    “เออ” อคินตอบ

     

    “นี่  ถ้าคิดจะจัดการยัยนั่นให้ได้ภายในหนึ่งเดือนน่ะ เวลามันจะน้อยไปรึเปล่า อีกอย่าง ยัยนั่นก็เด็กบ้านนอกเข้ากรุงด้วย  ท่าทางจะอึดถึกทนซะด้วย” เชียรพูดขึ้นมา

     

    “นั่นสิ  เดือนนี้ก็เรียนเยอะด้วย  ไหนเรียนเสร็จแล้วอาจจะต้องไปเที่ยวต่อบ้างอะไรบ้าง  เราก็ยิ่งไม่มีเวลาไปจัดการยัยนั่นเลยน่ะสิ” ชินะว่า  พลางนั่งคิดหาว่าพวกเขาจะมีเวลามากพอรึป่าว

     

    “เอาไงดีวะ  ถ้าทำไม่สำเร็จเนี่ย  ได้กลายเป็นเบ๊ให้ยัยนั่นเลยนะ” เชียรพูดขึ้นมาอีก  เขาหันไปหาการิน  เผื่อว่าหนุ่มผมดำคนนี้จะมีความคิดอะไรดีๆ บ้าง

     

    “หึ  นั่นสินะ  คงต้องทำอย่างนี้แล้วล่ะ” การินเอ่ยออกมา  พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก

     

    “อย่างนี้???” พวกคุณชายที่เหลือเอ่ยทวนคำของการินด้วยความงงงวย

     

    ตึก ตึก 

     

    เสียงฝีเท้ากำลังก้าวเข้ามาใกล้ๆ  ห้องของนรินทร์  ชายวัยกลางคนเหลือบตาขึ้นมามองที่ประตู  แล้วผู้มาเยือนก็เปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

     

    “มีอะไรเหรอการิน?”

     

    “มีเรื่องจะขอร้องน่ะพ่อ” การินเอ่ย

     

    “เรื่องอะไร?” เขาวางปากกาที่กำลังใช้เขียนงานลง  ก่อนจะเอนตัวไปพิงพนักเก้าอี้

     

    “ช่วยเอายัยคนใช้..เอ่อ  ลัลทริมาเข้าเรียนที่นี่ได้มั้ย?” การินเอ่ยถามพ่อเขา  พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงขอร้องให้กับพ่อ

     

    “ทำไมล่ะ?” นรินทร์เอ่ยถามลูกชาย

     

    “ก็..ไม่มีอะไรมากหรอก  แค่อยากให้ยัยนั่นมาเรียนที่นี่  จะได้มีความรู้เพิ่มขึ้นซะหน่อย  อีกอย่าง  จะได้มีคนคอยรับใช้ที่โรงเรียนด้วยไงล่ะ”

     

    “แต่มันนั้นมัน..แกคิดจะแกล้งเขารึไงกัน?” นรินทร์ถามเสียงเครียด

     

    “เปล่านี่  แกล้งเกิ้งอะไรกัน  ยัยนี่น่ะ  ทนกว่าที่คิดนะ” การินว่า  พร้อมยิ้มน้อยๆ “นะพ่อ  ให้ยัยนั่นเข้าเรียนที่นี่ซะนะ”

     

    ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายของตนอย่างชั่งใจ  ก่อนจะถอนหายใจออกมา  แล้วพยักหน้า “ก็ได้ๆ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะทำเรื่องให้”

     

    “ทำวันนี้เลยไม่ได้รึไง  พรุ่งนี้ผมจะได้พายัยนั่นมาเรียนเลย” การินถาม

     

    “มันจะหะทันหันไปหน่อยรึเปล่าการิน  อีกอย่าง ลัลทริมาจะเตรียมตัวไม่ทันนะ” นรินทร์ตอบ 

     

    “ไม่หรอก  พ่อก็สั่งคนไปเตรียมชุดนักเรียนเอาไว้  ส่วนพวกหนังสือหรืออะไรมันก็ไม่ได้ใช้มากอยู่แล้วนี่”

     

    เมื่อไม่มีคำใดๆ จะทัดทานลูกชายได้  นรินทร์จึงต้องจำใจทำตามคำขอของการิน  เขาโทรศัพท์ไปสั่งการให้รองผู้อำนวยการเตรียมโน่นนี่ไว้ให้พร้อม ก่อนจะหันมาบอกให้ลูกชายของตนกลับไปเข้าห้องเรียนได้แล้ว ซึ่งการินเองก็ยอมเดินออกมาแต่โดยดี  พร้อมรอยยิ้มแห่งความสะใจ

     

    “หึหึ  จากนี้ล่ะ  นรกของแท้เลยยัยคนใช้  เพราะเธอจะเจอหน้าพวกฉันทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนเลยล่ะ” เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ของเขาเพื่อแจ้งข่าวดีให้ฟัง

     

    .........................................

               

    ตรู๊ด  ตรู๊ด  เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา  ทำให้ลัลทริมาต้องรีบวิ่งไปรับด้วยความร้อนรน

               

    “สวัสดีค่ะ  บ้านจินตเมธรค่ะ” เธอพูดพลางหอบหายใจ 

               

    “เดี๋ยวฉันจะเข้าไปรับนะ ลัลทริมา” เสียงเข้มเอ่ยออกมา

     

    “เอ๋  คุณอธิศเหรอคะ  ทำไมเหรอคะ?”

     

    “มีคำสั่งจากคุณชายชินะ  ว่าให้ฉันพาเธอไปหาซื้อชุดนักเรียนน่ะ”

     

    “ห๊ะ” เธออุทานออกมาอย่างตกใจและประหลาดใจ  ..นี่ไอ้คุณชายพวกนั้นคิดจะทำอะไรกันเนี่ย??..





     


    -TBC-







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×