ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #39 : >>:: Chapter 34

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 784
      2
      30 ต.ค. 56



    CHAPTER 34

     

     

     

     

    “สุขสันต์วันเกิดนะลัล” น้ำเสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่เอ่ยออกมา  พร้อมกับมือขาวบางที่ยื่นของขวัญไปให้กับลูกสาวของตน

     

    “ว้าว  สวยจังเลยค่ะคุณแม่” เด็กหญิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วดีใจของเด็กที่ได้ของขวัญชิ้นถูกใจ

     

    “ยื่นมือมาสิ  เดี๋ยวแม่ใส่ให้” ผู้เป็นลูกทำตามอย่างว่าง่าย  มือเล็กยื่นออกมมาหาแม่  ก่อนที่รัศมีจะสวมเอาสร้อยข้อมือที่มีจี้เป็นแผ่นโลหะเงินแท้สลักชื่อของเด็กหญิงตัวน้อยว่า ลัลทริมาให้ “เรียบร้อย”

     

    “ขอบคุณคุณแม่มากๆ นะคะ” ลัลทริมายิ้มหวาน  ก่อนจะกระโดดเข้าไปกอดพร้อมกับหอมแก้มแม่ของตนเองด้วย“ว่าแต่..ทำไมถึงเป็นชื่อของลัลล่ะคะ?”

     

    “ก็สร้อยข้อมือนี้แม่ซื้อให้ลัล  จะให้แม่สลักชื่อของใครล่ะจ๊ะ  ถ้าไม่ใช่ลัล”

     

    “จริงด้วยนะคะ” เด็กหญิงมองสร้อยข้อมือที่ระยับวาวอยู่บนข้อมือขาวบางของตน  รอยยิ้มไร้เดียงสาแย้มกว้างอย่างเก็บอาการดีใจไม่อยู่ “สวยจัง..ลัลชอบ”

     

    “นี่  สนใจพี่บ้างสิ ยัยเด็กดื้อ” เสียงเล็กๆ ของเด็กชายที่อายุไม่ห่างจากลัลทริมามากนักดังขัดขึ้นมา  เด็กหญิงผละจากอ้อมกอดของแม่  หันหน้ามามองผู้เป็นพี่ชายของตน

     

    “ก็ถ้าพี่ลัทธมีของขวัญให้เค้า  เค้าก็จะสนใจพี่ให้ก็ได้” เด็กหญิงว่าด้วยท่าทางน่ารัก

     

    “มีอยู่แล้ว” พี่ชายตอบกลับ  ก่อนจะยิ้มให้น้องสาว “นี่ไง”

     

    ตุ๊กตาโดราเอมอนถูกยื่นมาให้ตรงหน้า  ลัลทริมายิ้มกว้างอย่างดีใจ  โผเข้ากอดพี่ชายแน่น “เย้  พี่ลัทธซื้อโดราเอมอนให้เค้าแล้ว  พี่ลัทธน่ารักที่สุด”

     

    “ฮะๆ  สำหรับเด็กดื้ออย่างลัลน่ะ  พี่น่ารักเสมออยู่แล้วล่ะ” ลัทธพลพูดเอาฮา  แต่พาให้ลัลทริมาเบะปากใส่ด้วยอาการหมั่นไส้

     

    “เค้าไม่คุยกับพี่ลัทธแล้ว” เด็กหญิงว่า  ก่อนจะดึงเอาตุ๊กตามาไว้ในอ้อมแขนของตนเอง “เค้าไปหาพ่อดีกว่า  พ่อต้องมีของขวัญดีๆ ให้เค้าแน่”

     

    “บ่นถึงพ่ออยู่เหรอ?” คนที่ถูกพูดถึงเอ่ยแทรกขึ้นมา  พาให้เด็กหญิงตัวน้อยหันไปมอง  ก่อนจะยิ้มให้กับพ่อของตน

     

    “คุณพ่อ” ลัลทริมาวิ่งเข้าไปหาพ่อ “วันเกิดลัลปีนี้  พ่อจะให้อะไรกับลัลเหรอคะ?”

     

    “อืม..วันเกิดครบรอบสี่ขวบของลัลทั้งทีงั้นวันนี้พ่อพาลัลไปดำน้ำดูปะการังกันดีมั้ย?” พ่อเอ่ยถาม  พร้อมกับชี้มือไปยังอีกฟากฝั่งของบ้านพัก  ที่ซึ่งเป็นท้องทะเลสีฟ้าคราม

     

    ..ใช่  เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลัลทริมา  เจ้าบ้านวิกรานต์วรสริตจึงพาครอบครัวมาเที่ยวที่ชายหาดทะเลชื่อดังในภาคใต้  หวังจะพาลูกสาวที่ชอบเล่นน้ำมาดำน้ำสัมผัสโลกใต้ทะเลที่แสนงดงาม

     

    “ดีค่ะ  ลัลชอบ ลัลอยากไปว่ายน้ำกับพวกคุณปลา!!” เด็กสาวเอ่ยตอบอย่างไร้เดียงสา

     

    “ได้  งั้นก็ไปเตรียมตัวกันเลยดีกว่า”

     

    ได้ฟังบทสนทนาของสองพ่อลูก  รัศมีก็รีบเดินเข้ามาหาสามีของตน  ก่อนจะเอ่ยกระซิบเสียงเบา “คุณคะ  ลัลเพิ่งจะสี่ขวบเอง  จะให้ไปดำเหรอคะ?  มันไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ?”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกคุณ  ลูกของเราเก่งกว่าที่คุณคิดนะ  อีกอย่าง..มันเป็นปะการังน้ำตื้น  ลัลไม่เป็นอะไรหรอก” ตอบภรรยาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  เพื่อให้เธอคลายกังวล “อืม  งั้นผมสัญญากับคุณเลยก็ได้  ว่าผมจะปกป้องลูก  จะไม่มีทางปล่อยให้ลูกเป็นอะไรเด็ดขาด!

     

    รัศมีถอนหายใจน้อยๆ ในเมื่อสามีของเธอสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะเช่นนี้  เธอก็จะยอมปล่อยให้เขาพาลูกออกไปดำน้ำดูปะการัง “ก็ได้ค่ะ”

     

    +++++++++++++++++++

     

    “เอาล่ะ  เดี๋ยวเราต้องนั่งเรือข้ามไปที่เกาะใกล้ๆ ตรงนั้นก่อนนะ  เพราะที่นั่นน่ะ  ปะการังสวยมาก” เจ้าบ้านวิกรานต์วรสริตหันมาบอกกับภรรยาและลูกๆ ที่นั่งยิ้มอยู่เบื้องหลัง

     

    “ไปไหนไปกันค่ะพ่อ” เด็กหญิงลัลทริมาตอบรับพ่อของตน

     

    “ผมก็ด้วย” ลัทธพลตอบ

     

    “ฉันด้วยก็ได้ค่ะ” รัศมีตอบบ้าง

     

    “อื้ม  ผมเหมาเรือมาแล้ว  งั้นเราไปกันเถอะ  ชักช้าเดี๋ยวจะเสียเวลาซะเปล่า” ว่า  พร้อมกับพาลูกและภรรยาลงเรือรับจ้างลำเล็กที่ไปเหมามา 

     

     

    การดำน้ำเที่ยวชมปะการังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  โดยเฉพาะเด็กอย่างลัทธพลและลัลทริมาที่ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ  แม้ตอนแรกเด็กๆ อาจจะดูหวั่นกลัวอยู่บ้าง  แต่เพราะมีครูฝึกสอนมาด้วย  ทำให้เด็กๆ กล้าที่จะลง  และยิ่งเมื่อได้พบกับความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล  ที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของธรรมชาติอันงดงามนั้น  เด็กๆ ก็ยิ่งสนุกสนานชอบใจกันไปใหญ่

     

    “ลัล  เหนื่อยก็บอกนะลูก  พ่อจะพาขึ้นไปพักบนฝั่งก่อน” เอ่ยบอกกับลูกสาวตนเองด้วยความห่วงใย  แต่เด็กหญิงก็ทำเพียงส่ายหน้าปฏิเสธกลับมา

     

    เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ  ท้องฟ้าเริ่มทีเมฆปกคลุมมากเป็นพิเศษ  รัศมีเริ่มเกิดอาการกังวล  เธอหันไปหาสามี  ก่อนจะรีบเร่งให้เขาพาลูกๆ ขึ้นจากน้ำ  แล้วรีบนั่งเรือกลับไปยังบ้านพัก

     

    “คุณคะ  ท่าทางจะไม่ดีเลย”รัศมีเอ่ย “เหมือนกำลังจะเกิดพายุเลยนะคะ”

     

    “คิดมากไปรึเปล่าคุณ” ผู้เป็นสามีหันกลับมาบอกเธอ “ถ้าพายุจะเข้าจริง  เขาคงไม่ปล่อยให้เราเหมาเรือเค้ามาหรอกน่า”  

     

    “คุณคะ  อย่าชะล่าใจสิคะ  ฉันว่ารีบกลับกันเถอะค่ะ” เธอเร่ง  สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความกังวลอย่างมากล้นเสียจนผู้เป็นสามีต้องยอมจำนน  พาเธอและลูกขึ้นจากน้ำ  และรีบขึ้นเรือที่พาพวกเขามาอย่างเร็วที่สุด

     

    เมฆครึ้มก่อตัวหนา  ทำท่าราวกับจะเกิดเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง  ฝูงนกบินว่อนเต็มท้องฟ้า  คลื่นลมในท้องทะเลเริ่มปั่นป่วน  พาให้ใจของรัศมีต้องหวาดหวั่นมากขึ้น  ยิ่งคลื่นสูง  เรือก็ยิ่งแล่นไปยาก 

     

    “พ่อคะ  ฝนจะตกเหรอคะ?” เด็กหญิงตัวน้อยถามออกมาด้วยสีหน้ากังวล “ลัลไม่ชอบฝนเลย”

     

    “ไม่ต้องกลัวนะลูก” ผู้เป็นพ่อโอบกอดลูกสาวไว้เบาๆ  เพื่อเป็นการปลอบประโลม  ก่อนจะดึงลูกชายอีกคนเข้ามาไว้ในอ้อมแขนตนด้วย “ลัทธกับลัลไม่ต้องกลัวนะลูก”

     

    และสิ่งที่รัศมีกลัวก็ได้เกิดขึ้น....สายฝนซัดสาดกระหน่ำลงมา  เสียงฟ้าร้องดังครืนไปทั่ว  ลมพัดแรง  คลื่นในทะเลก่อตัวสูงเสียจนเรือโดยสารลำเล็กโคลงไปมา

     

    และเพียงเสี้ยวเวลาที่ผู้เป็นพ่อปล่อยมือออกจากลูก  เพื่อจะเอื้อมไปจับภรรยาที่ทำท่าจะล้มลงเอาไว้  คลื่นลูกใหญ่ก็ซัดเข้าหาลำเรือด้วยความแรง  ลัลทริมาซึ่งน้ำหนักตัวเบาที่สุดเสียการทรงตัวจนเธอกระเด็นตกลงไปในน้ำ  ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็น  เด็กหญิงพยายามตะเกียกตะกายสุดชีวิต  รัศมีเห็นลูกตกน้ำก็หวังที่จะกระโดดลงไปช่วย  แต่สามีของเธอรีบดึงตัวเอาไว้ก่อน

     

    “คุณดูแลลัทธเอาไว้  ผมจะช่วยลัลเอง” พูดจบ  เขาก็กระโดดลงน้ำทันที   

     

    ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ  ร่างสองร่างหายไปจากสายตาของรัศมี    เธอกอดลัทธพลที่กำลังร้องไห้เอาไว้แน่น

     

    “แม่ฮะ  พ่อกับลัลล่ะฮะ ฮือๆ”

     

    “เดี๋ยวพ่อกับน้องก็มา  ลัทธอย่าร้องไห้นะลูก” ถึงจะพูดแบบนั้น..หากแต่รัศมีเองกลับมิอาจห้ามน้ำตาที่รินไหลลงมาได้

     

    ..ได้โปรดขอให้ครอบครัวของลูกปลอดภัยและรอดกลับไปทุกคนด้วยเถอะนะคะ..

     

    อ้อมแขนของแม่โอบกระชับลูกชายแน่น  ในใจได้แต่ภาวนาขอให้ทุกคนปลอดภัยจากพายุครั้งนี้

     

    .

    .

     

    5 ชั่วโมงผ่านไป..

     

    รัศมีลืมตาขึ้นมา..พบว่าตนเองนอนอยู่ในห้องสีขาวสะอาดตา  ที่เตียงข้างๆ มีร่างเล็กของลูกชายของตนนอนไม่ได้สติอยู่  หญิงสาวพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์  ก่อนจะรีบลุกพรวดขึ้น  คนรอบข้างจึงพากันสะดุ้งตกใจกันเสียยกใหญ่

     

    “ฟื้นแล้วเหรอ?  เป็นอะไรมากมั้ยหนู” ชายสูงวัยคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย  รัศมีหันไปมองหน้าเขา  ก่อนจะเอ่ยถามทันที

     

    “ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”

     

    “พวกฉันช่วยมาเองล่ะ” ชายผู้นั้นตอบ “พอดีมีลูกเรือวิ่งมาบอกว่ามันให้ผู้ชายคนนึงเหมาเรือไป  แล้วลืมบอกเรื่องที่พายุจะเข้า  พวกฉันก็เลยเอาเรือประมงลำใหญ่ที่พอจะสู้คลื่นได้ออกตามหาน่ะ”

     

    “แล้ว..พบแค่ฉันกับลูกชายสองคนเหรอคะ?”

     

    “ก็เห็นมีแค่สองคนเท่านั้นเอง” คำตอบของชายสูงวัย  ทำให้น้ำตาของรัศมีร่วงหล่น..เธอเอ่ยขอให้เหล่าผู้ช่วยเหลือเธอออกค้นหาสามีกับลูกสาวของเธอด้วย  และพวกเขาก็ยอมทำตามคำขอร้องของเธอ  แต่ผลที่ได้คือ..ไม่มีใครพบเจอสามีกับลูกสาวของเธอเลย

     

    จนกระทั่งสามวันต่อมานั่นแหละ  ที่รัศมีได้รับรู้ข่าวที่ทำให้เธอเสียใจที่สุด  นั่นก็คือ..พวกเขาหาสามีของเธอพบแล้ว...แต่ในสภาพที่ไร้ลมหายใจ  ส่วนลูกสาวนั้น..คาดว่าน่าจะหายสาบสูญไป..

     

    .

    .

     

    ลัลทริมานั่งตาค้างด้วยความตะลึง  อาหารที่รัศมีชวนรับประทานนั้นไม่ได้ตกถึงท้องเธอเลยสักนิด  ..ใครมันจะไปกินลงล่ะ  จริงไหม?..  อย่าว่าแต่กินเลย  แค่พูด..เธอยังพูดไม่ออกเลยสักคำ

     

    “ลัลจ๊ะ” เสียงรัศมีที่เอ่ยเรียกเธอ  ทำเอาลัลทริมาสะดุ้งโหยง  มองตรงไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ใบหน้าของเธอมีคราบน้ำตาเปื้อนเปรอะอยู่ด้วย

     

    “เอ่อ..เสียใจด้วยนะคะ” เด็กสาวเอ่ยเสียงเบา

     

    “ลัล...ไม่รู้สึกแปลกใจบ้างเหรอ?” ลัทธพลที่นั่งอยู่ข้างๆ รัศมีเอ่ยถามขึ้นมา  ลัลทริมาหันไปมองเด็กหนุ่มทันที

     

    “เรื่องอะไรคะ?”

     

    “ก็เรื่องที่น้องสาวของพี่ก็ชื่อลัลทริมาไง  แถมยังหน้าตาเหมือนลัลด้วยนะ”

     

    “เอ่อ...เรื่องบังเอิญละมั้งคะ?” เธอตอบ

     

    “บังเอิญมากไปรึเปล่า?  ชื่อลัลทริมาน่ะ  ตั้งแต่เกิดมา..นอกจากน้องสาวพี่แล้ว  พี่ก็ไม่เคยเห็นใครชื่อนี้เลยนะ”

     

    “ก็ลัลนี่ไงคะพี่ลัทธ” ลัลทริมาตอบ  และลัทธพลเองก็ทำท่าจะแย้งขึ้นมาอีก  เด็กสาวจึงรีบลุกขึ้น  และเอ่ยปากบอกว่าเธอขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่ซึ่งรัศมีอาสาจะพาลัลทริมาไป  แต่เด็กสาวกลับเอ่ยปากปฏิเสธและขอไปเอง  โดยออกตัวว่าคราวก่อนที่มาที่นี่  เธอเคยเดินไปเข้าห้องน้ำแล้ว  และเธอยังจำทางได้

     

    ลัลทริมาเดินออกมาคนเดียวด้วยสีหน้าที่ครุ่นคิด..  ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิด...ว่ามันแปลก  จริงอย่างที่ลัทธพลว่า  ทุกอย่างมันบังเอิญเกินไปหน่อยหรือเปล่า  ทั้งชื่อลัลทริมา  ทั้งเรื่องที่เธอจำเรื่องราวสมัยก่อนห้าขวบไม่ได้เลย  ไหนจะเรื่องเกาะทางภาคใต้นั่นอีก และเรื่องที่แม่บอกเธอว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ .. ทุกอย่างมันบังเอิญเกินไปจริงๆ

     

    “ว่าแต่..ห้องพักคนใช้ไปทางไหนกันเนี่ย” เด็กสาวหันซ้ายแลขวา  มองหาทางที่คิดว่าน่าจะเป็นเป้าหมาย  และเมื่อเจอทางที่คิดว่าใช่  ลัลทริมาก็ไม่รอช้า  รีบตรงดิ่งไปยังห้องพักพวกคนใช้ทันที

     

    แต่อนิจจา..ห้องนั้นมีมากมายเรียงรายกันเต็มไปหมด  เด็กสาวไม่อาจรู้ได้เลยว่าห้องไหนคือห้องที่เธออยากไปมากที่สุด  แล้วเรื่องบังเอิญก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง..  เมื่อจู่ๆ  แม่เลี้ยงใจร้ายของเธอก็เปิดประตูห้องออกมา

     

    “อ้าว  อีลัล!” คำทักทายเอ่ยออกมาจากปากของผู้ที่เธอเรียกว่าแม่ “แกมาทำอะไรที่นี่”

     

    “ลัลมีเรื่องจะคุยกับแม่”

     

    “เรื่องอะไร!?  ฉันไม่มีธุระจะคุยกับแก!

     

    “แม่บอกลัลไม่ใช่ลูกของแม่...งั้นแม่เก็บลัลมาจากไหน?” เธอเอ่ยถามด้วยความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ

     

    ..ไม่ได้กลัวว่าจะโดนคนตรงหน้าโวยใส่  หากแต่กลัวว่าคำตอบที่ได้รับฟังนั้นมันจะ..

     

    “ถามไปทำไม?”

     

    “บอกลัลเถอะนะแม่  ลัลขอร้อง  แล้วถ้าแม่อยากได้อะไรล่ะก็..ลัลจะหาให้แม่นะ  ขอแค่แม่เล่าเรื่องของลัลให้ลัลฟัง” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเว้าวอน

     

    “เออ ก็ได้! ฉันเก็บแกได้ที่บนเกาะนั่นแหละ  จะออกไปหาปลาซะหน่อย  ดันไปเจอเด็กผู้หญิงแทน  แล้วบังเอิญที่ข้อมือแกมีป้ายแขวนอยู่  เห็นเขียนว่าลัลทริมา  จากนั้นฉันก็ถอดเอาสร้อยห้อยแขนของแกออก  แต่ไหนๆ ก็..เอาแกมาเลี้ยงด้วยซะเลยจะเป็นอะไรไป”

     

    ..เป็นจริงอย่างที่เธอคิด

     

    คำบอกเล่าของแม่เลี้ยงของเธอ..ตอกย้ำชัดเจนว่าเรื่องบังเอิญทั้งหลายแหล่ที่ลัทธพลพูดถึงนั้น  ทุกสิ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..  เพราะเธอคือเด็กผู้หญิงที่ชื่อลัลทริมา  น้องสาวของลัทธพล  ลูกสาวของรัศมี

     

    บางทีเธอน่าจะเข้าใจได้ตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ..กับความสนิทสนมและความอบอุ่นอ่อนโยนที่ลัทธพลมอบให้เธอ  เธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างประหลาด  ทั้งๆ ที่เพิ่งได้พบกับเขา  หรือแม้กระทั่งกับรัศมีเอง..ที่เพียงมองตาหญิงสาว  ลัลทริมาก็รู้สึกอุ่นใจ  และที่รัศมีร้องไห้ตอนที่มองหน้าเธอ..  ทุกอย่างมันชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้ว

     

    ดวงตากลมโตกรอกขึ้นด้านบน  พยายามกลั้นน้ำตาที่รื้นคลอดวงตากลมโตเอาไว้ 

     

    ..เธอได้พบกับครอบครัวของเธอแล้ว.. 

     

    เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก   พยายามไม่คิดถึงเรื่องครอบครัว  เธอหันกลับมาสนใจกับเรื่องที่แม่เลี้ยงของเธอเล่า  “แล้ว...สร้อยข้อมือเส้นนั้นอยู่ที่ไหนล่ะคะ?”

     

    “โอ๊ย ถามอะไรโง่ๆ  ฉันก็เอามันไปขายให้ไอ้พวกพ่อค้าที่มาที่เกาะไปแล้วน่ะสิ  ของแพงเลยนะนั่น  เห็นพ่อค้าพวกนั้นบอกว่าเป็นของแท้ซะด้วย”

     

    “แม่!  ทำไมแม่ทำแบบนั้นล่ะคะ?” ลัลทริมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ  จริงอยู่ว่าเด็กสาวเองก็รักหญิงสาวตรงหน้า  เพราะอย่างน้อยๆ คนตรงหน้าก็เลี้ยงดูเธอมา  แต่กับเรื่องนิสัยนี่..เธอรับไม่ได้จริงๆ

     

    “ก็ถ้าฉันไม่ขาย  ฉันจะเอาอะไรกินล่ะห๊ะ?” หญิงสาวขึ้นเสียงใส่ลัลทริมาเสียงดัง  ลัลทริมาส่ายหน้าอย่างระอา  ก่อนจะหันหลังรีบเดินหนีออกมาอย่างไม่สนใจเสียงโวยวายที่ไล่หลังมาด้วย

     

    “หนู...เป็นลูกสาวของแม่จริงๆ สินะ” น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถามขึ้นมา  พาให้คนที่กำลังเครียดตกใจหันขวับไปมอง..จึงพบว่ารัศมียืนมองหน้าเธอด้วยสายตาที่คาดคั้นเอาคำตอบ..  แม้แววตานั้นจะแฝงไปด้วยแววกังวลก็ตาม





     

    -TBC- 










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×