ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #36 : >>:: Chapter 31

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 909
      5
      29 ต.ค. 56




    CHAPTER 31

     

     

     

     

    ลัทธพล......ป. 2 พวกคุณชาย....อนุบาล

     

    “พี่ลัทธ” เสียงเล็กดังกังวานก้องใสราวกับระฆังแก้วเอ่ยเรียกลัทธพล  ก่อนเด็กชายผู้ถูกเรียกจะหันมองตามมา  และก็ต้องอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเจอเด็กบ้องแบ๊วหน้าตาน่ารักถึงเจ็ดคนอยู่ด้านหลังของตน

     

    “มีอะไรเหรอ?” เด็กชายถามออกไป

     

    “วันนี้อาอธิศมารับพวกเรา  พี่กลับด้วยกันมั้ยฮะ?” เด็กน้อยเจ้าของเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์เอ่ยถามลัทธพล  ดวงตาสีม่วงอัญมณีทอประกายระริกตามประสาเด็ก

     

    “เอ๋  พี่ก็มีคนมารับพอดีน่ะ” ลัทธพลกล่าวตอบออกไป  ทำให้เหล่าเด็กชายตัวน้อยทั้งเจ็ดคนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่ “ขอโทษทีนะ”

     

    “พี่ลัทธใจร้ายอ่ะ!” การินเอ่ยบอกก่อนจะเดินเข้ามาเกาะแขนของลัทธพลไว้ “กลับกับพวกเราสิ  นะพี่น้า~

     

    เด็กชายที่อายุมากกว่าเพื่อนถอนหายใจน้อยๆ  ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้  เขาบอกให้เหล่าเด็กชายตัวน้อยทั้งเจ็ดคนเดินเข้าแถวให้เป็นระเบียบ  เพื่อจะได้ไม่เป็นการเดินขวางทางคนอื่นหากว่าพวกเขาเดินจับกลุ่มกันไป

     

    ..คุณคงเคยเห็นใช่ไหม?  เด็กอนุบาลตัวน้อยๆ ที่เดินเรียงแถวหนึ่งมือเกาะไหล่เกาะเอวลากกันไปน่ะ..???

     

    แล้วลัทธพลก็เลือกที่จะเป็นคนเดินรั้งท้ายแถวเพื่อคอยดูแลควบคุมไม่ให้พวกเด็กๆ แตกแถว  แต่พวกคุณชายตัวน้อยที่กำลังเดินร้องเพลงกันอย่างหน้าชื่นตาบานนั้น....หาได้มีใครสนใจอันตรายที่กำลังพุ่งเข้ามาสักนิด..ยกเว้นลัทธพล!

     

    “ระวัง!!” เด็กชายผู้มีอายุมากกว่าเพื่อนร้องบอก ก่อนจะออกแรงผลักเจ้าการินตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาให้พ้นจากวิถีของลูกฟุตบอลที่ถูกเตะมาอย่างแรง..

     

    “อ๊ะ  หวา!!~~” การินร้องออกมา ก่อนจะหน้าคะมำล้มคว่ำลง หากแต่...เขาล้มคนเดียวซะที่ไหนล่ะ

     

    ..คุณคงเคยเห็นใช่ไหม?  โดมิโนที่เรียงต่อกันเป็นแถวน่ะ  พอเราทำให้ตัวที่อยู่ท้ายสุดล้ม..ตัวอื่นๆ ที่อยู่ข้างหน้า มันก็จะล้มลงตามไปด้วย..  เช่นกันกับพวกคุณชายตัวน้อย.....เพราะมือที่เกาะกันเอาไว้  มันพาลให้ดึงรั้งพลั้งเกี่ยวกันล้มลงไปเป็นแถวยาว  จะน่าสงสารก็คนที่เดินนำนั่นแหละ  ท่าทางจะเจ็บหนักสุด!

     

    “อึ๊ก” อคิน..ผู้เดินนำแถวเมื่อครู่ค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นมานั่ง  เขาหันมาจ้องหน้าลัทธพลตาแป๋ว  ก่อนที่ดวงตากลมโตสีออดอายนั้นจะปริ่มไปด้วยน้ำตา  และ.. “แง้~~

     

    ร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น  พาให้คุณชายที่เหลืออีกหกคนที่ล้มลงไปด้วยต้องลุกขึ้นมาร้องไห้เสียตามๆ กันไปหมด

     

    “นะ...นี่” ลัทธพลเอ่ยเรียกพวกคุณชายที่ร้องไห้จ้ากันอย่างไม่อายใคร  และแน่นอนว่าไม่มีใครสนใจเขาเลย

     

    “พี่ลัทธใจร้าย  พี่ลัทธแกล้งพวกผมทำไม  ฮือๆ” การินที่โดนลัทธพลผลัก(ด้วยความหวังดี)เมื่อครู่หันมาต่อว่ารุ่นพี่ของตน

     

    “แง้ๆๆ พี่ลัทธใจร้ายที่สุดในโลกเลยง่า ฮือ~” แล้วพวกที่เหลือก็รวมเสียงต่อว่าลัทธพล เด็กชายผู้เป็นรุ่นพี่รู้สึกอึดอัดและลำบากใจไม่น้อยพี่ไม่ได้แกล้งนะ แต่ลูกบอลมันมาทางนี้น่ะ แรงของพี่คงจะรับหรือปัดบอลไม่ได้ พี่ก็เลยผลักพวกนายให้หลบพ้นไง” 

     

    “แง้ๆ พี่ลัทธใจร้ายที่สุดอ้ะ~~~~~” ไม่มีใครฟังที่ลัทธพลพูดสักนิด  สุดท้ายเด็กชายก็ได้แต่ถอนหายใจ  ก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถของอธิศที่ขับเข้ามาเมื่อครู่  บอกให้ชายหนุ่มพ่อบ้านมาดูแลพวกคุณชายตัวน้อยที  ส่วนตัวของลัทธพลเองก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ แล้ววิ่งตามมาช่วยอธิศ  กว่าจะช่วยทำให้เจ้าเจ็ดตัวแสบหยุดร้องไห้ได้  ก็ต้องลำบากซื้อไอศกรีมให้กิน  ไม่งั้นคงไม่เลิกร้องไห้ง่ายๆ หรอก  และแน่นอนว่า..ลัทธพลไม่ได้รับคำขอบคุณจากพวกคุณชายเลย

     

    .

     

    ลัทธพล ป.พวกคุณชาย ป.2

     

    วันวาเลนไทน์...มันคงจะไม่สลักสำคัญนักกับเด็กเตาะแตะวัยแค่ประถมศึกษาแบบนี้  แต่พวกคุณชายตัวแสบทั้งเจ็ด....ลายออกตั้งแต่เด็ก!  ต่างคนต่างนั่งเก๊กยืนเก๊กเรียกร้องสายตาและเสียงกรี๊ดของเพื่อนร่วมห้อง  ร่วมรุ่น  และยังพวกพี่ๆ ชั้น ป.6 ด้วยอีก งานนี้ก็สะใจคนหล่อ (แต่เด็ก) เต็มที่ล่ะนะ..

     

    ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปทางไหน...เสียงกรี๊ดจะต้องดังขึ้นมาจากทางนั้น  แถมมันยังมาพร้อมกับใบหน้าน่ารักของเด็กหญิงวัยประถม  ดอกไม้สวยๆ และอาจจะพวกขนมหวานด้วย 

     

    “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ  วันนี้พี่อบคุกกี้กับทำช็อคโกแลตมาด้วย  เรามากินด้วยกันนะ  เดี๋ยวพี่ป้อนให้เอง ><” เสียงของนักเรียนชั้น ป.6 ที่คิดจะกินเด็กเอ่ยขึ้นมาอย่างชื่นชม และมันทำให้พวกตัวแสบทั้งเจ็ดคนนั้นได้ใจ

     

    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  ลัทธพลที่เพิ่งเล่นกีฬาเสร็จเดินออกมาจากสนาม  ใบหน้าเรียวคมนั้นมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาตามหน้านวล  เสื้อนักเรียนสีขาวเปียกเหงื่อน้อยๆ พอให้ดูน่ารักเซ็กซี่  “กรี๊ดดดดดดดดดด” เสียงร้องแห่งความชื่นชมที่แห่ตามพวกเขามาเมื่อครู่....ปลิวหายตามพี่ลัทธไปหมดแล้วสร้างความไม่พอใจให้กับเด็กน้อยแสนหล่อทั้งเจ็ดคนเป็นอย่างมาก..

     

    .

     

    ลัทธพล ป.6 กับพวกคุณชาย ป.4

     

    เรียกได้ว่าเป็นวัยแห่งความแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าของแท้เลยจริงๆ..  ในระดับชั้นประถม 4 มีการจัดแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างห้องขึ้นมา และห้องของพวกคุณชายก็ดูจะเล่นได้ดีเป็นพิเศษ เมื่อได้พวกคุณชายน้อยแสนเลิศทั้ง 7 คนลงสนามไปด้วย แต่แทนที่งานจะจบลงด้วยการคว้าแชมป์มาอย่างงดงาม..มันกลับจบลงด้วยการทะเลาะวิวาท!

     

    ห้องที่แข่งขันรอบชิงชนะเลิศกับพวกห้องของคุณชายนั้นแพ้  และยังไร้น้ำใจนักกีฬา  แพ้แล้วพาล  หาว่าพวกคุณชายหล่อรวยพวกนี้ซื้อกรรมการมั่งล่ะ  เล่นโกงหน้าด้านๆ มั่งล่ะ  แน่นอนว่าพวกคุณชายเป็นประเภทไม่ทนต่อคำด่าของคนอื่น  ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น..

     

    และผลที่ตามมาคือ....การถูกลงโทษ!

     

    “นี่พวกนายอยู่ ป.4 กันแล้วนะ จะทำอะไรทำไมไม่รู้จักคิด กะอีแค่กีฬา..ถึงขั้นต้องชกต่อยกันเลยรึไง?” น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างพยายามที่จะใจเย็นให้ได้  ในฐานะของประธานนักเรียนแล้ว  ลัทธพลจำเป็นต้องอบรมสั่งสอนพวกที่ทำผิดให้รู้สำนึกให้ได้  แม้ว่าจะมีพวกคุณชายทั้งเจ็ดที่เขารู้จักอยู่ด้วยก็ตาม

     

    “ก็พวกมันหาเรื่องก่อนนี่นา” ภามเอ่ยตอบลัทธพล  ที่แก้มมีรอยช้ำดวงเล็กๆ อยู่ด้วย

     

    “ใช่  แพ้แล้วพาล!” เชียรเอ่ยสนับสนุนภาม และก็โดนลัทธพลจ้องเขม็งทำให้เด็กผมแดงรีบหุบปากเงียบ

     

    “แล้วไง  ถ้าพวกนายใจเย็นพอ...เรื่องก็คงไม่เป็นอย่างนี้” คนเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนประถมเอ่ยบอก  และคำพูดนั้นมันก็ราวกับว่าโยนความผิดให้คุณชายยังไงยังงั้น  ทำให้คู่กรณีของพวกคุณชายต่างก็กระหยิ่มยิ้มให้อย่างสะใจ  ทำให้คุณประธานนักเรียนต้องหันไปจ้องพวกนั้นด้วย “พวกนายน่ะ  ไม่ได้เรื่องเอาซะเลยนะ  แพ้ก็คือแพ้สิ  กรรมการเค้าก็ตัดสินดีแล้ว  ทำไมยังจะต้องไปหาเรื่องห้องอื่นด้วยล่ะ?  เอาเถอะ  ในฐานะประธานนักเรียน ฉันคงช่วยอะไรพวกนายไม่ได้..ฉันจะส่งพวกนายไปฝ่ายกิจการนักเรียน  ให้พวกคุณครูตัดสินใจเองว่าจะทำยังไงกับพวกนาย”

     

    แล้วพวกคุณชายก็ยิ้มกลับให้อย่างสะใจ  “สมน้ำหน้า!

     

    “ส่วนพวกนาย  พี่จะไม่ส่งเข้าห้องฝ่ายกิจการนักเรียน...แต่จะให้ไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นสนามที่พวกนายแข่งบอลเมื่อกี้  แล้วตะโกนออกมาดังๆ ว่า พวกผมจะใจเย็นให้มากกว่านี้เข้าใจนะ”

     

    “หา!? ใครมันจะไปยอมทำกันเล่า” อคินไม่เห็นด้วย

     

    “จะให้ไปกลิ้งเนี่ยนะ  ตลกเหอะพี่ลัทธ  ดูสนามหญ้าให้ดีๆ สิ  มันยังเฉอะแฉะจากฝนที่ตกเมื่อเช้าด้วยนะ  พื้นเปียกยังงั้น  ขืนลงไปกลิ้งก็เปื้อนโคลนหมดน่ะสิ” เชียรเอ่ย

     

    “หญ้าไม่ได้มาตรฐานแบบนั้น  คงทำให้คันน่าดู” ชินะพูดพลางเกาแขนเล็กน้อย

     

    “พวกนายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” ลัทธพลว่า  แม้สีหน้าจะดูอึดอัดไม่น้อยที่ต้องมาทำโทษน้องๆ ที่เขารู้จักมักจี่มาหลายปีแบบนี้  แต่กฎก็คือกฎ...ไม่ว่าจะเป็นใครก็ละเลยไม่ได้เด็ดขาด

     

    “โห่ พี่ลัทธอ่ะ” เรวินเบะปากใส่

     

    “ลดโทษไม่ได้เหรอครับ” แคปเปอร์เอ่ยถามพลางทำสายตาอ้อนวอนให้

     

    “ไม่!” ปฏิเสธคำเดียว..จบ!

     

    จบจริงๆ  เพราะพวกคุณชายไม่อาจอ้อนวอนหรือปฏิเสธอะไรได้  และพวกเขาก็ต้องยอมทำตาม  มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดจริงๆ  ดินที่ยังไม่แห้งจากฝนที่ตกลงเมื่อเช้านั้น  มันเปื้อนไปตามชุดกีฬาที่พวกคุณชายสวมใส่  ไม่พอ..เศษดินเศษโคลนยังเลอะใบหน้าและเรือนผมของพวกคุณชายอีกด้วย  แถมยังต้องตะโกนคำที่ลัทธพลสั่งมาอีก  เรียกได้ว่าสาหัสสากันเลยทีเดียว  และยิ่งแคปเปอร์ที่นำทีมกลิ้งเป็นคนแรกด้วยแล้ว...ยิ่งสาหัสกว่าเพื่อนเมื่อเขา....

     

    แผละ

     

    เสียงเหมือนทับโดนอะไรบางอย่างพาให้แคปเปอร์สะดุ้งน้อยๆ  ความรู้สึกเหม็นๆ ลอยมาเตะจมูกอย่างแรง  แคปเปอร์เบิกตาเล็กน้อยเหมือนจะรู้ว่ามันคืออะไร  ก่อนที่เพื่อนคนอื่นๆ จะพากันเอ่ยถามขึ้นมา “กลิ่นไรเหม็นๆ วะ?”

     

    “กลิ่นยังกับหมาเน่าแน่ะ” การินว่า ก่อนจะหันมาจ้องหน้าอคิน “แกไปเหยียบอึหมาที่ไหนมารึเปล่าวะ?”

     

    “เห้ย! แล้วทำไมต้องมาถามฉันยังงั้นด้วยเล่า  อะไรๆ แกก็จะโทษแต่ฉันคนเดียวเลย” อคินบ่น  ก่อนจะหันไปหาแคปเปอร์ “เฮ้ยเพื่อน...” แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรออกไป  อคินก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าดวงตาคู่คมของแคปเปอร์มีน้ำตาคลออยู่ “เป็นอะไรไปน่ะ แคปเปอร์!??”

     

    “แย่แล้วเพื่อน....ฉัน.....” แคปเปอร์เอ่ยอึกๆ อักๆ 

     

    “อะไรแคปเปอร์!?”

     

    “ฉันกลิ้งทับอึหมาอ่ะ TT” แคปเปอร์ว่าเสียงอ่อน แต่แทนที่เพื่อนจะช่วยกันปลอบใจ   ต่างก็รีบลุกขึ้นแล้วถอยห่างจากแคปเปอร์ทันที “เฮ้ย! พวกนายรังเกียจฉันเหรอ!?

     

    “ปละ  เปล่า” เป็นชินะที่เอ่ยตอบแทนเพื่อนคนอื่นๆ  ที่เอามือปิดปากปิดจมูกไว้  แคปเปอร์ถึงกับอึ้งกับปฏิกิริยาของเพื่อน  เขาหันไปหาลัทธพลที่ยืนอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่นัก “พี่ลัทธ...”

     

    “ขอโทษนะแคปเปอร์  พี่ไม่รู้ว่ามีกองอึหมาอยู่ตรงนั้นด้วย” ลัทธพลตอบกลับมาราวกับรู้ว่าเขาจะถามอะไร  ..ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน  อย่างกับจงใจแกล้งเขาอย่างงั้นแหละ..

     

    เมื่อเกิดความเก็บกด(?)ขึ้นมากเข้า  แคปเปอร์ก็ทนไม่ไหว  วิ่งไล่กวดเพื่อนสนิทของตนทันที  เรียกเสียงหัวเราะจากกกลุ่มสาวสวยประจำโรงเรียนที่พวกคุณชายเคยคิดจะจีบได้เป็นอย่างดี

     

    “ดูนั่นสิเธอ  น้องแคปเปอร์ไม่ใช่เหรอ?  ทำไมเสื้อเปื้อนอะไรด้วยล่ะนั่น”

     

    “ต๊าย ดูคนอื่นๆ สิ  หน้าตามอมแมมอย่างกับไม่ได้อาบน้ำมาเป็นสิบปีงั้นแหละ”

     

    “บ้าเหรอเธอ..พวกน้องๆ ตอนที่เต็มไปด้วยโคลนแบบนี้น่ะ น่ารักดีออก”

     

    “น่ารักตรงไหน  ดูสิ อย่างกับปลาไหลเพิ่งมุดขึ้นมาจากรู”

     

    คำนินทาดังแว่วมาให้พวกคุณชายทั้งเจ็ดคนได้ยิน  พวกเขาหันไปมองทางต้นเสียงก็พบกับรอยยิ้มอารมณ์ขันของสาวๆ กลุ่มนั้น  เกิดความอายขึ้นมาทันที

     

    ..โดนเปรียบเทียบกับปลาไหล  เจริญแล้วตู..

     

    สายตาทั้งเจ็ดคู่ของคุณชายนายน้อยหันไปมองเขม่นลัทธพลทันที “หนอย  จำไว้เถอะ ไอ้พี่ลัทธ เดี๋ยวจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู

     

    .

    .

     

    “เอ๋!? จริงเหรอคะ  นี่พี่ลัทธรู้จักพวกคุณชายมาตั้งแต่เด็กแล้วเหรอคะ?” เธอถามออกไปด้วยความฉงนใจ

     

    “อือ  พอดีได้เจอกับพวกนั้นบ่อย  แล้วก็ได้เล่นด้วยกันน่ะ  ทำให้พี่ค่อนข้างจะสนิทกับพวกนั้น”ลัทธพลตอบคำถามของเธอด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีที่แฝงแววเหงานิดๆ ไว้ไม่มิด “แต่พอเกิดเรื่องตอนนั้นขึ้นมาก็ไม่ค่อยได้เล่นกันแล้วล่ะ”

     

    “เหรอคะ  แต่ลัลว่าที่พี่ลัทธทำน่ะ  ไม่ได้ร้ายแรงซะหน่อยนี่คะ” เธอเลิกคิ้วถาม “แค่เรื่องไม่กี่เรื่อง  ทำไมพวกนั้นถึงได้เกลียดขี้หน้าพี่ลัทธขนาดนั้นล่ะ”

     

    “ก็...ที่เล่าให้ฟังน่ะ  มันแค่เรื่องเบาะๆ เองลัล  ยังมีอีกตั้งหลายเรื่องที่พี่ทำกับพวกนั้น  ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเกลียดขี้หน้าพี่กันหมดแล้ว  ฮ่าๆ”

     

    “โธ่พี่ลัทธ..” เด็กสาวถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้กับลัทธพล

     

    .

     

    “เฮ้อ  เรื่องแค่นี้ก็ต้องโกรธเนอะ คุณชาย” เด็กสาวคิดถึงเรื่องที่ลัทธพลเล่าให้ฟังแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาน้อยๆ  มันก็ไม่ได้น่าอายอะไรนักนี่นา  ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย

     

    แต่ไม่อยากคิดอะไรให้มาก  ลัลทริมาก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระส่วนตัวและเตรียมตัวเข้านอน

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น..

     

    เด็กสาวรีบตื่นมาตั้งแต่ตั้งแต่ตี 4 ก่อนจะรีบออกมาทำงานบ้านโน่นนี่ให้เรียบร้อยแล้วกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปโรงเรียน ก่อนที่พวกคุณชายขี้วีนจะตื่นขึ้นมาเจอเธอเสียก่อน ก็นะ..จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  ใครเป็นเธอก็คงต้องกลัวพวกคุณชายอยู่แล้วล่ะ

     

    ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากบ้าน  เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน  เด็กสาวรีบตรงไปรับสายโทรศัพท์ทันที “สวัสดีค่ะ  บ้านจินตเมธรค่ะ  ไม่ทราบว่าต้องการเรียนสายใครเหรอคะ?” เสียงหวานเอ่ยอย่างรัวเร็ว

     

    ลัล นี่พี่นะ?เด็กสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าใครโทรมา

     

    “มีอะไรคะพี่ลัทธ?”

     

    พี่คิดว่าเมื่อวานลัลคงจะโดนพวกนั้นโกรธหรือเล่นงานเอา วันนี้พี่ก็เลยจะมารับลัลไปโรงเรียนด้วยน่ะ

     

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ลัทธ  กว่าพี่ลัทธจะมาถึง พวกคุณชายคงตื่นกันแล้ว” เธอเอ่ยกล่าว “อีกอย่างตอนนี้ลัลก็กำลังจะออกจากบ้านแล้วล่ะค่ะ”

     

    แต่พี่ก็กำลังจะถึงหน้าบ้านจินตเมธรแล้วนะ

     

    “เอ่อ...” ยังไม่ทันที่จะคุยจบ  ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจสุดขีด  เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทั้งเจ็ดยืนจ้องเธออยู่ที่บันได

     

    ..เวรกรรม..

     

    “ไง  ตื่นแต่เช้าเชียวนะ” เชียรเอ่ยเสียงเรียบ  พร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนให้เด็กสาวเสียวสันหลังวาบ

     

    “รู้สึกเมื่อคืนพวกเราจะยังคุยกันไม่จบนะครับ?” และแคปเปอร์ก็เอ่ยต่อ  ลัลทริมายิ้มเจื่อนให้พวกคุณชาย  ก่อนจะรีบบอกตอบตกลงกับลัทธพลและวางสายทันที 

     

    “ฉันไปโรงเรียนนะคะ” แล้วเธอก็ออกวิ่ง..อย่างรวดเร็ว

     

    “เฮ้ย!! จะหนีไปไหน  กลับมาเดี๋ยวนี้นะยัยบ้า” เสียงตะโกนไล่หลังพาให้ลัลทริมาสับขาให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่คิดที่จะรอพวกนั้น  เธอวิ่งหนีออกมาจากประตูได้ ก็รีบตรงไปที่ประตูรั้วเพื่อหนีออกจากบ้านไปหาลัทธพลที่น่าจะมาถึงแล้ว  แต่เมื่อเปิดประตูออกไปได้  ลัลทริมาก็หยุดชะงักทันที  ดวงตาคู่งามเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อเห็นคนคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนจะหลงทางหันมามองหน้าของเธอแล้วยิ้มออกมา

     

    “ลัล!!

     

    เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคอ  ก่อนจะเอ่ยเรียกบุคคลตรงหน้าเสียงสั่น “มะ..แม่....”





     

    -TCB-







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×