ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Fairy Tail] Attraction เสน่ห์ร้าย ยัยจอมเวท

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter >> 6 A :: จูบ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 59


    CHAPTER 6

     

    “โฮ่~  ฉันกำลังคิดเธออยู่พอดีเลย...เล่นโผล่หน้ามาให้เจอเองแบบนี้เลยเหรอ  ไม่เรียกพรหมลิขิตแล้วจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ??”

    .

    .

    จบประโยคของลัคซัส  รอบข้างก็เงียบสนิท  ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่น้อย  โดยเฉพาะตัวลูซี่...ที่ยืนนิ่งราวกับกำลังทบทวนประโยคคำพูดของลัคซัส  และมันก็ทำให้เธอขนลุกขึ้นอย่างที่ไม่รู้ตัวเลย “ละ...ลัคซัส ?” อุทานชื่ออีกฝ่ายออกมาด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย  ทั้งประหลาดใจ  กังวล  และอีกมากมาย  แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีความดีใจอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน

     

    ร่างสูงไม่เอ่ยตอบอะไร  เขาเพียงแค่สาวเท้าเข้ามาใกล้ร่างบาง  ส่วนคนที่เป็นเป้าหมายก็ค่อยๆ ร่นถอยหลังหนีจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับประตูเบาๆ  แต่ก็พอดีว่าจูเบียเข้ามาขัดขวางเอาไว้ซะก่อน

     

    “คิดจะทำอะไรคะ?” หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีฟ้าที่ยืนกั้นกลางระหว่างลูซี่และลัคซัสเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนจ้องหน้าเธอนิ่ง 

     

    “หลบ” เขาเอ่ยอย่างเชื่องช้าทว่าจงใจเน้นน้ำเสียงให้หนักแน่น  ทำเอาร่างบางที่ยืนขวางอยู่ถึงกับเผลอตัวสั่นไปเล็กน้อย  แต่ทว่าจูเบียก็ไม่คิดจะหลบให้ง่ายๆ  เธอเป็นคนรักเพื่อนจะตายไป  ใช่...แต่เธอรักท่านเกรย์มากกว่า  และตอนนี้เธอจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพาลูซี่ไปหาสมุนไพรสารพัดประโยชน์มาแก้ยาเสน่ห์ที่ท่านเกรย์โดนเข้าไป  ฉะนั้นแล้วไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่กล้าเข้ามาขวาง  เธอจะไม่มีทางปล่อยให้...

     

    “ฉันบอกให้หลบไป” ลัคซัสกล่าวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น  นัยน์ตาคมที่จ้องเขม็งมาทางจูเบียฉายแววโกรธเกรี้ยวออกมา  และคาดว่าหากจูเบียไม่ยอมหลบจริงๆ ล่ะก็...งานนี้ตาย!

     

    “ขะ...เข้าใจแล้วค่ะ” แล้วแม่สาวแห่งสายฝนก็ยอมหลบทางให้ในที่สุด

     

    ไหนบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางได้เล่า ?

     

    เมื่อตัวขัดขวางยอมหลบทางให้  ลัคซัสก้าวรวดเดียวก็เข้ามายืนประชิดอยู่ตรงหน้าลูซี่แล้ว  เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ตัวสั่นน้อยๆ  ในใจนึกภาวนาให้ใครก็ตามช่วยเข้ามาขัดขวางที  แต่ก็คงจะหวังได้ยาก...เพราะต่อให้มีใครเห็นเหตุการณ์นี้เข้าจริงๆ ก็คงจะไม่กล้าเข้ามายุ่งย่ามอยู่ดี  เพราะลัคซัสในเวลานี้ช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน

     

    “กะ...”

     

    “ไปทำภารกิจกับฉันซะ” เขากล่าวขึ้นมา

     

    “ห๊ะ?” คนที่กำลังจะกรีดร้องถึงกับต้องหุบปากลง  ก่อนจะส่งเสียงร้องในเชิงไม่เข้าใจแทน  จะให้ไปทำภารกิจกับเขาเนี่ยนะ? บ้ารึเปล่า  ถึงเธอจะซื่อขนาดไหน  แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่จะไม่รู้ว่าหากไปทำภารกิจกับลัคซัสเพียงสองต่อสองแล้วล่ะก็...เธอก็คงจะ...  “ไม่ล่ะ  ฉันคิดว่า....”

     

    “ไปนะ...”

     

    นั่นคือคำขอร้องไม่ผิดแน่นอน  ทว่าน้ำเสียงที่เข้มขึ้นของเขากลับทำให้ลูซี่รู้สึกราวกับว่า...มันคือคำขู่บังคับ  และเป็นคำขู่ที่ปฏิเสธไม่ลงเสียด้วย..

     

    ..บางทีคงต้องบอกว่าไม่กล้าเอ่ยคำปฏิเสธกลับไปต่างหาก  เพราะสายตาที่จ้องมองมานั้น...มันกดดันเธอเหลือเกิน  ราวกับว่าหากเธอปฏิเสธออกไป  สายฟ้าอันทรงพลังที่กำลังกราดเกรี้ยวอยู่บนฟ้าตอนนี้จะฟาดผ่าลงมายังตัวเธอ  และเธอก็คงจบชีวิตอย่างไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก  คงจะน่าอนาถใจเป็นบ้า

     

    นัยน์ตาสีเปลือกไม้หันไปสบกับจูเบียและเวนดี้เพื่อขอร้องให้ทั้งสองช่วยทำอะไรสักอย่าง  แต่ดูเหมือนจะสิ้นหวัง  เพราะสายตาของทั้งสองแสดงท่าทีหวาดกลัวลัคซัสออกมาอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด  ก็แน่ล่ะ...ใครจะไม่กลัวกัน

     

    ...ไม่ไป!!!!... เธอได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ  เพราะกลัวเหลือเกินที่จะเอ่ยมันออกมา...และกลัวผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นด้วย  “เอ่อ...”

     

    นัยน์ตาคู่คมยังคงจดจ้องมองมาอย่างกดดัน  ...นี่ถ้าเป็นปลาทองก็คงท้องลูกได้เป็นโหล

     

    “อะ...อืม” ในเมื่อไม่มีทางเลือกใดๆ เหลือให้อีกแล้ว  ก็ได้แต่จำใจพยักหน้ารับอย่างจำยอม  แม้ในใจจะยังคงตะโกนร่ำร้องว่าไม่อยากไปก็ตาม

     

    “ถ้าอย่างนั้นจูเบียเองก็จะ...”

     

    “อย่ามายุ่ง!

     

    เพียงแค่สามพยางค์ของลัคซัสที่โต้กลับมาอย่างทันควัน  ก็ทำเอาจูเบียไม่สามารถพูดอะไรต่ออีกได้เลย  ความพยายามที่จะช่วยเพื่อนก็เป็นอันมลายหายไปพร้อมกับคำพูดของอีกฝ่าย  จูเบียจำได้ว่าตั้งแต่เกิดมา  เธอพบคนท่าทางน่าหวาดกลัวมามากมาย  แต่ทว่าบุคคลเบื้องหน้า...อาจเรียกได้ว่าน่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ

     

    ...ลาก่อนค่ะลูซี่  จูเบีย...พยายามเต็มที่แล้วค่ะ...  เจ้าของเรือนผมสีน้ำทะเลส่งยิ้มอ่อนให้ลูซี่อย่างพยายามให้กำลังใจ  และหวังว่าอย่างน้อยๆ เพื่อนสาวเจ้าของเวทอัญเชิญจะปลอดภัยกลับมา

     

    เมื่อหมดตัวขัดขวางแล้ว  ลัคซัสหันกลับมาจ้องร่างบางตรงหน้า  มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือบางของอีกฝ่าย  แล้วมืออีกข้างที่ว่างก็ผลักประตูเบื้องหลังร่างบางให้เปิดออก  ส่งผลให้ลูซี่ที่ยืนพิงประตูอยู่เมื่อครู่ทำท่าจะหงายหลังล้มลงไป  ทว่ามือหนาที่ยึดข้อมือเธออยู่ก็รั้งตัวเธอให้เข้ามาแนบชิดกับอ้อมอกของเขา  “ระวังหน่อยสิ” พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย

     

    ..กรี๊ดดดดดดดดด ขนลุกค่ะ!!  แต่กล้ามอกแน่นมาก..

     

    เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์พยายามดันร่างของตัวเองออกจากอีกฝ่าย  เพราะหากยังอยู่แบบนี้ต่อไป...เธออาจจะเผลอไผลให้กับกล้ามหน้าอกนั่นเป็นได้  เดี๋ยวสิ...เธอไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อย -*-

     

    ลัคซัสมองเธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก  ก่อนจะเดินจูงแขนหญิงสาวที่กำลังหน้าแดงน้อยๆ ให้เดินตามตนเองไปยังบอร์ดภารกิจ  ในเมื่อพรหมลิขิตเลือกให้เขาและเธอได้ไปทำภารกิจร่วมกันแล้ว...ก็คงต้องหาภารกิจที่มันตื่นเต้น  ระทึกใจ  และจะช่วยสานความสัมพันธ์ให้มันดีกว่านี้เสียหน่อย

     

    ร่างสูงไล่สายตามองภารกิจบนบอร์ดอยู่เล็กน้อยก็ยื่นมือไปดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมา  โดยที่ลูซี่ยังไม่ทันจะเห็นด้วยซ้ำไปว่าเป็นภารกิจอะไร  และไม่ทันที่จะเอ่ยถาม  เธอก็ถูกกึ่งลากกึ่งจูงไปทางเคาท์เตอร์บาร์ที่ซึ่งมีสาวสวยอย่างมิร่าเจนกำลังยืนเช็ดแก้วอยู่

     

    ใบภารกิจถูกวางลงบนเคาท์เตอร์  เรียกให้ใบหน้าหวานที่กำลังก้มหน้าทำงานของตนอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง  ก่อนจะส่งสายตาประหลาดใจมาให้เมื่อเห็นว่าคนที่จะทำภารกิจนี้เป็นลัคซัส...กับลูซี่ ?

     

    “จะไปทำภารกิจกับลูซี่เหรอจ๊ะ?” เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม 

     

    “อือ”

     

    “ไปกันแค่สองคนเหรอ?”

     

    “อือ”    

     

    “ได้จ้ะ  แล้วจะลงให้นะว่า ภารกิจปราบสัตว์ประหลาดยักษ์มีคนเลือกไปทำแล้ว” มิร่าเจนยิ้มพร้อมเอ่ยชื่อภารกิจที่อยู่บนกระดาษแผ่นนั้นให้ได้ยิน  ซึ่งก็ทำเอาคนฟังอย่างลูซี่ถึงกับเบิกตากว้างทันที

     

    ..ภารกิจปราบสัตว์ประหลาดยักษ์เนี่ยนะ?  ตายล่ะ  ไปทำภารกิจแบบนี้กับลัคซัส  มีหวังกลายเป็นตัวถ่วงแน่ๆ  ดีไม่ดีเธอจะกลายเป็นอาหารให้กับเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์เอาได้สิ...ถ้ามันกินคนเป็นอาหารน่ะนะ..

     

    “เอาล่ะไปกันเถอะ” ลัคซัสหันมาบอกกับลูซี่  พร้อมออกแรงดึงข้อมือของเธอน้อยๆ เพื่อให้เธอเดินตามเขาไปอีกครั้ง 

     

    แหม...อะไรกันเนี่ย?  เดินตามผู้ชายต้อยๆ เลยฉัน -*-

     

    “โชคดีนะจ๊ะลูซี่”

     

    ลูซี่หันกลับไปมองก็พบรอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้  ทว่าเธอกลับรู้สึกกดดันแปลกๆ  ราวกับว่ารอยยิ้มนั้น...เป็นเสมือนใบมีดที่พร้อมจะกรีดแทงเธอได้

     

    ...คงไม่ใช่ว่าคุณมิร่ากำลังหึงเราหรอกนะ..? 

     

    @@@@@@@@@@@@

     

     

    ดูเหมือนในความโชคร้ายจะมีความโชคดีปนอยู่ด้วย  หลังจากที่ออกมาจากกิลด์  ลูซี่ก็พบว่าทั้งจูเบีย  เวนดี้  และชาร์ลหายไปแล้ว  ซึ่งก็เดาว่าทั้งสองสาวหนึ่งแมวจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแน่ๆ  เธอจึงพยายามถ่วงเวลาด้วยการขอร้อง(จนแทบจะก้มกราบ)ว่าขอเวลาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องก่อน  เพราะเธอสวมชุดของจูเบียอยู่  และมันค่อนข้างอึดอัด  ลัคซัสจึงมาที่บ้านของเธอด้วย  แต่ก็ต้องยืนรออยู่หน้าบ้านแทน  เพราะลูซี่ยืนกรานอย่างเด็ดขาดว่าไม่ให้เข้า  เธอออกจะโล่งใจนิดๆ ที่อย่างน้อยๆ ลัคซัสก็ยังดูมีสติฟังคำพูดของเธออยู่บ้าง  ไม่เหมือนอย่างเอลซ่าที่อยู่ๆ ก็พุ่งเข้าใส่กัน(และหอมแก้มเธอเข้าจนได้)  บางทีระดับของสติอาจขึ้นอยู่กับระดับความบ้าด้วยก็เป็นได้ 

     

    หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมของเสร็จเรียบร้อย  เธอก็ออกมาจากบ้าน  และพบว่า...ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ลัคซัสเท่านั้นที่ยืนรออยู่  แต่มีพวกหน่วยเทพอัสนีบาตยืนอยู่ครบถ้วนทุกคนด้วย  ร่างบางลอบยิ้มในใจ  บางทีนี่คงจะเป็นฝีมือของจูเบียและเวนดี้ที่ไปแจ้งข่าวของลัคซัสให้พวกนั้นได้รับรู้  ทำให้พวกสมาชิกแก๊งเทพอัสนีบาตตามมา  เพราะแน่นอนว่าพวกนั้นไม่มีทางปล่อยให้ลัคซัสซึ่งกำลังถูกฤทธิ์ของยาเสน่ห์ไปทำภารกิจกับเธอเพียงสองคนแน่ๆ  โดยเฉพาะฟรีด...รายนั้นไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน

     

    ...และมันค่อนข้างจะเป็นผลดีกับตัวเธอ

     

    ไม่ต้องอยู่กันสองต่อสองก็ปลอดภัยกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว

     

     

    ทีมทำภารกิจปราบสัตว์ประหลาดยักษ์ใช้เวลาเดินทางเพียงอยู่ครึ่งค่อนวันก็มาถึงยังสถานที่เป้าหมาย  ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบเย็นพอสมควร  อันที่จริงลูซี่อยากจะพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง  แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าควรจะรีบทำภารกิจให้จบและรีบเดินทางกลับกิลด์  น่าจะเป็นทางที่ปลอดภัยและดีที่สุดสำหรับเธอ 

     

    ทุกคนเดินทางมายังจุดที่ได้รับแจ้งว่ามีสัตว์ประหลาดยักษ์ออกอาละวาด  ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถหลอกล่อให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นออกมาได้  และเมื่อเวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว  ภารกิจปราบสัตว์ประหลาดยักษ์ก็เป็นอันจบสิ้นลงอย่างดาย 

     

    ลูซี่แทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เธอรู้เพียงแค่ว่าทันทีที่ไปถึงสถานที่แห่งนั้น  ทุกคนก็เริ่มลงมือค้นหาเจ้าสัตว์ประหลาด  ส่วนเธอก็พยายามตามหาเช่นกัน  แต่เพราะโดยปกติแล้วเธอเป็นคนที่โชคดีสุดๆ (?) ทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นโผล่ออกมาใกล้กับจุดที่ลูซี่ยืนอยู่  ยังไม่ทันกระพริบตา  เจ้าสัตว์ประหลาดบ้านั่นก็ไหม้เกรียมด้วยฝีมือของชายผู้ใช้เวทสายฟ้า  เมื่อมันล้มลง  สัตว์ประหลาดอีกสิบกว่าตัวก็โผล่ออกมา  แล้วพวกมันก็ถูกจัดการโดยลัคซัสและแก๊งเทพอัสนีบาต  เรียกได้ว่าพวกนี้ฝีมือแข็งแกร่งจริงๆ  เอาจริงๆ ก็คงแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพวกเธอที่ได้สมญานามว่าทีมที่เก่งที่สุดแห่งแฟรี่เทลเลยก็ว่าได้

     

     

    หลังภารกิจเสร็จสิ้นลงแล้ว  พวกเธอทั้งห้าคนก็เดินทางมารับเงินค่าตอบแทนจากผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งนี้  ซึ่งก็ได้รับเงินค่าจ้างมาจำนวนไม่น้อย  แต่นั่นไม่ได้ทำให้ลูซี่รู้สึกดีใจสักนิด  เพราะฟรีดและเอเวอร์กรีนตัวแสบไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้เธอ  ก็สมควรแล้วล่ะ...ในเมื่อเธอไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยแม้แต่น้อย..

     

    “ถ้าอย่างนั้น  ฉันว่าพวกเรารีบเดินทางกลับแมกโนเลียกันเถอะนะ” เธอกล่าวขึ้นมาขณะที่ทุกคนกำลังเดินออกจากบ้านของผู้ว่าจ้าง

     

    แต่ทว่าแทนที่จะได้รับคำตอบตกลงหรือเห็นด้วยกลับมา...กลับกลายเป็นว่าทุกคนมีปฏิกิริยาประหลาดใจแทน  ก่อนที่เอเวอร์กรีนจะกล่าวบอก “ปกติเวลาที่พวกเราทำภารกิจเสร็จ  เรามักจะพักผ่อนก่อนกลับกันน่ะ”

     

    “ใช่ๆ  เวลาอย่างนี้ก็ต้องไปร้านอาหารเพื่อทานข้าวเย็น  จากนั้นก็หาห้องพักแล้วค้างสักคืน” บิ๊กสโลว์เอ่ยสนับสนุน

     

    “เอ๋!?” ลูซี่ตาโต  ...ค้างหนึ่งคืนงั้นเหรอ??...

     

    “นี่มันก็ใกล้ค่ำแล้ว  อีกอย่างพวกเราทำภารกิจกันมาเหนื่อยๆ ก็ต้องอยากพักผ่อนเป็นธรรมดา”  ฟรีดกล่าวเสริมเมื่อเห็นท่าทีของลูซี่

     

    แต่หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ประกายกลับมองสบตากับแก๊งเทพอัสนีบาตทั้งสามคนอย่างมีความหมาย  พลางกระซิบกระซาบเสียงเบา

     

    พวกนายก็รู้ว่าลัคซัสโดนยาเสน่ห์เข้าไป แล้วยังจะให้พักค้างคืนโดยที่มีฉันอยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?

     

    ช่วยไม่ได้พวกนั้นบอกกลับมา ใช่...ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็ใครมันจะกล้าไปขัดใจลัคซัสกัน

     

    ลูซี่มองหน้าทั้งสามคนเงียบๆ  ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อตัดสินใจบางอย่างได้ “ถ้าอย่างนั้น...ฉันขอเดินทางกลับคนเดียวก่อนละกัน  เจอกันที่กิลด์พรุ่งนี้นะ” ร่างบางโบกมือให้พวกนั้น  พลางหันตัวจะก้าวเดินออกมา...

     

    ทว่าอ้อมแขนแกร่งกลับรวบเอวของเธอเอาไว้แน่น “คิดจะไปไหน?”

     

    ลูซี่หันกลับไปมองหน้าของลัคซัสที่อยู่ใกล้กันเพียงคืบเดียว  ดวงตากลมโตฉายแววตระหนกเล็กน้อย  เพราะเขาเล่นจู่โจมเธออย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเลย  แถมตอนนี้...ร่างของเธอยังเบียดอยู่กับกล้ามเนื้อแน่นๆ นั่นอีก  โอย...ยอมแล้วค่ะ

     

    “เปล่าค่ะ” ตอบงึมงำเสียงเบา  อันที่จริงก็อยากจะขอตัวกลับไปก่อนนั่นแหละ  แต่ตอนที่สบตากันเมื่อกี้มันชวนให้รู้สึกกลัวอย่างไรก็ไม่รู้ 

     

    “งั้นก็ไปกินข้าวกัน” ลัคซัสปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน  แล้วจับข้อมือของเธอแทน  และดึงให้ร่างบางเดินไปพร้อมๆ กัน  ซึ่งก็ทำให้หน่วยเทพอัสนีบาตที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่มองด้วยความตะลึง  ก่อนที่ทั้งหมดจะรีบวิ่งตามไปเดินข้างๆ ลัคซัสและชวนพูดคุย 

     

     

    บรรยากาศในร้านอาหารค่อนข้างดีทีเดียว  ทั้งภายนอกและภายในร้านประดับไปด้วยไฟหลากหลายสีสัน  อีกทั้งยังมีดอกไม้ประดับไว้อีกหลายพันธุ์ด้วย  ลูซี่คงจะนั่งฉีกยิ้มไปกับบรรยากาศดีๆ แบบนี้แล้ว  หากไม่ใช่เพราะว่า...เธอถูกลัคซัสดึงให้มานั่งตัวแนบชิดติดกันจนจะกลายเป็นปาท่องโก๋คู่แล้ว  ทำให้การรับประทานอาหารมื้อนี้เธอนั่งเกร็งจนตะคริวแทบจะกินไปทั้งร่าง  นี่ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวอีกฝ่ายจะอาละวาดด้วยสายฟ้าแล้วล่ะก็...รับรองเลยว่าเธอจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแน่ๆ  แถมอุตส่าห์ส่งสายตาวิงวอนขอร้องให้พวกหน่วยเทพอัสนีบาตทำอะไรสักอย่างให้  พวกนั้นก็เล่นทานอาหารหน้าตาเฉย  คงจะมีแต่ฟรีดเท่านั้นที่ดูจะพึ่งพาได้บ้าง  เพราะรายนี้พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของลัคซัสออกจากเธอ  แม้จะได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างก็ตาม

     

    หลังจากนั่งอยู่ในร้านอาหารร่วมสองชั่วโมง  ทั้งห้าก็เดินหาโรงแรมที่จะใช้พักค้างคืน  แต่เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ใช่หมู่บ้านที่ส่งเสริมเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสักเท่าไร  โรงแรมที่ว่าจึงหายากเอาการเพราะมีเพียงแค่ 2-3 แห่งเท่านั้น  และแต่ละแห่งก็มีห้องพักอยู่แค่ไม่กี่ห้อง  ทำให้ถูกจับจองเอาไว้จนเต็มหมดแล้ว  เหลือก็แค่โรงแรมแห่งหนึ่ง...

     

    ลูซี่ยืนเหงื่อตก  วันซวยอะไรของเธอก็ไม่รู้เนี่ย  ทั้งที่คิดจะไปทำภารกิจสำคัญอย่างหนึ่ง  แต่กลับโดนลากมาทำภารกิจอีกอย่างหนึ่งแทน  มิหนำซ้ำเมื่อทำภารกิจเสร็จยังไม่สามารถ(หนี)กลับได้อีกต่างหาก  และที่เธอรู้สึกแย่ที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่อง...

     

    “เหลือห้องเดียวเท่านั้นนะคะ  แต่เป็นห้องพักสำหรับสี่ท่าน  ไม่ทราบลูกค้าจะเข้าพักไหมคะ?  ถ้าเข้าพัก  ทางเราจะจัดเตียงเสริมให้  และจะไม่คิดค่าบริการเตียงเสริมเพิ่มค่ะ”  พนักงานสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบาง  หากแต่แววตาของเจ้าหล่อนมีความขอโทษปะปนมาด้วย 

     

    ทุกคนหันมองหน้ากันไปมาว่าควรจะตกลงเช่นไร  หากจะเดินกลับไปขอนอนพักค้างคืนที่บ้านของผู้ว่าจ้างก็คงจะไม่เหมาะกระมัง  เพราะก่อนหน้าที่พวกเธอไปรับค่าตอบแทน  ก็ไม่เห็นว่าเขาจะชักชวนให้ทานอาหารหรือพักผ่อนบ้านเขาเลยสักคำ  หากบากหน้าไปตอนนี้ก็คงจะไม่งามหน้านัก   แต่หากจะเลือกพักที่นี่ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายที่พวกเธอหาได้แล้วล่ะก็...นั่นก็หมายความว่าทุกคนจะต้องนอนรวมในห้องเดียวกัน

     

    “เอาไงดี  แบบนี้ก็นอนแยกชายหญิงไม่ได้น่ะสิ”  ลูซี่ว่า

     

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย”  เอเวอร์กรีนหันมาตอบคำถามของเธอ “ทำยังกับว่าไม่เคยนอนกับนัตสึหรือเกรย์อย่างนั้นแหละ”

     

    “นี่มันต่างกันนะยะ” ลูซี่แหวใส่ทันที  “อีกอย่างเธอจะให้ฉันสักกี่ครั้งกันว่าลัคซัส-โดน-ยา-เสน่ห์”  ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อนิดๆ  ยัยเอเวอร์กรีนช่างพูดมาได้  ถึงจะเคยนอนกับพวกนั้น  แต่สถานการณ์มันต่างกันลิบลับ

     

    “อย่าเรื่องมากไปหน่อยเลยน่า  มีให้นอนแค่นี้ก็นอนไปเถอะ  หรือจะไปนอนข้างถนนเอา ?” สาวแว่นพูดอย่างตัดรำคาญ  เธอเหนียวตัวอยากอาบน้ำจะแย่อยู่แล้ว

     

    “ใช่ๆ  อย่าคิดมากเลย  พวกเราก็อยู่ด้วยทั้งคน”  บิกสโลว์สนับสนุน  ทำให้ลูซี่ได้แต่เบ้หน้า  พวกนี้ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย  แต่อย่างน้อยๆ ก็อย่างที่บิกสโลว์พูด  อยู่กันตั้งห้าคน  คงไม่มีให้ต้องกลัวหรอก  แถมทั้งวันมานี้ถึงจะมีรังสีอำมหิตแผ่ใส่บ้าง  แล้วก็ติดหนึบเป็นปาท่องโก๋บ้าง  แต่ก็ยังไม่มีอะไรแปลกเกิดขึ้นเสียหน่อย

     

    ถอนหายใจน้อยๆ ก่อนพยักหน้ายอมรับในที่สุด  จึงเป็นอันตกลงว่าจะพักที่ห้องนี้กัน  เมื่อขึ้นมาบนห้องพัก  ทั้งห้าคนก็จัดการแบ่งเตียงให้ลูซี่และเอเวอร์กรีนนอนฝั่งหนึ่ง  ลัคซัสและฟรีดนอนบนเตียงอีกฝั่ง  ส่วนบิกสโลว์ก็นอนเตียงเสริมไป  แล้วจากนั้นจึงแบ่งลำดับใช้ห้องน้ำกัน  ซึ่งลูซี่ผู้โชคดีได้อาบน้ำเป็นคนแรก  เธอจัดการตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยโดยพยายามใช้เวลาให้รวดเร็วที่สุดเพราะรู้ว่ายังมีอีกสี่คนที่รอใช้ห้องน้ำต่อ  ร่างบางแต่งกายเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมศีรษาที่เปียกชื้นเอาไว้  กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูเรียกให้ลัคซัสที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างหันกลับมามอง  แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยมากไปกว่าการเลิกคิ้วมองเธอเท่านั้น  แล้วลัคซัสก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    ลูซี่นั่งคุยเล่นกับเอเวอร์กรีนและบิกสโลว์ไปเรื่อยเปื่อยอย่างสนุกสนาน  ทุกอย่างเป็นปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

     

    จนกระทั่ง...

     

    ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์อ่อนเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาว  และกางเกงขายาวเรียบร้อย  ลัคซัสเดินตรงไปที่เตียงหวังจะล้มตัวลงนอนด้วยอาการเพลียจากการทำภารกิจ  แต่เสียงหัวเราะคิกคักของสาวๆ ทำให้อดไม่ได้ที่จะหันไปมองพวกเธอ  แล้วรอยยิ้มกว้างอันแสนสดใสของร่างบางเจ้าของเวทอัญเชิญก็ปรากฏให้เขาเห็น  อันที่จริง...ต้องบอกว่าที่เขาหันไปมองเธอนั้นไม่ใช่เพราะเสียงหัวเราะที่ดังมารบกวน  แต่เป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างในใจร้องบอกเขาว่า...อยากจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะพาตัวเองสู่นิทรา  ลัคซัสยิ้มบางออกมา

     

    สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่ากำลังมีคนจ้องมองอยู่  ลูซี่จึงหันไปยังทิศทางที่ว่า  และสบเข้ากับนัยน์ตาคมของร่างสูงอย่างจัง

     

    ตึกตัก

    .

    ตึกตัก

     

    ลัคซัสยกมือขึ้นมาทาบทับตรงอกข้างซ้าย  รู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เปลี่ยนไป  แต่ถึงกระนั้นเขากลับไม่สามารถละสายตาออกจากดวงตากลมโตสีน้ำตาลของลูซี่ได้เลย

     

    เนิ่นนานกับการจ้องตา...ที่ราวกับมีมนต์สะกดบางอย่างถูกส่งผ่านทางสายตาคู่นั้น

     

    แล้วทุกอย่างในหัวก็เริ่มว่างเปล่า  สิ่งเดียวที่ปรากฏอยู่ในความคิดของเขามีเพียงใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น  และข้อความบางอย่างที่กำลังร้องบอกเขาดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    โดยไม่รู้ตัว...ลัคซัสพุ่งพรวดเข้าหาลูซี่อย่างรวดเร็ว  มือหนาตะปบเข้าที่ข้อมือทั้งสองข้างของเธอ  แรงโถมจากการพุ่งเข้าใส่ของเขาพาร่างของทั้งสองล้มกลิ้งลงไปบนเตียง...ท่ามกลางความตื่นตะลึงของอีกสามคนที่พบว่าอยู่ๆ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนตามไม่ทัน

     

    ...เกิดอะไรขึ้น  เมื่อกี้ก็ยังดีๆ กันอยู่เลย...?

     

    “อะ...อะไรน่ะ?” ลูซี่ถามปากคอสั่น  เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ยิ่งสบเข้ากับสายตาที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น  เมื่อครู่ก่อนสายตาของเขายังแฝงไปด้วยความเอ็นดูอยู่เลย  แต่ตอนนี้มันกลับแปรเปลี่ยน...ดุจดั่งสายตาของนักล่า

     

    ...ดูเหมือนว่าวันนี้...เธอจะต้องสูญเสียสิ่งที่พยายาม(?)เก็บรักษามาโดยตลอดเสียแล้ว

     

    “เสร็จฉันล่ะ”

     

    จบคำพูดของอีกฝ่าย  ใบหน้าคมก็โน้มต่ำลงมาใกล้จนปลายจมูกชนกัน 

     

    ลูซี่ที่รู้สถานการณ์ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”

     

    ...อะไรกันน่ะ อาการของลัคซัสชักจะเหมือนเอลซ่า(เมื่อตอนนั้น)เข้าไปทุกทีแล้วนะ...

     

    ร่างบางดิ้นรน  พยายามดิ้นสุดแรงเท่าที่เธอจะสามารถทำได้  แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่  เพราะแรงของเธอ...มันช่างน้อยนิดนักเมื่อเทียบกับของอีกฝ่าย

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

     

    ถ้าสู้ด้วยแรงไม่ได้...ก็ต้องสู้มันด้วยพลังเสียงเนี่ยแหละ

     

    “กรี๊ดดดดดดดดด” ลูซี่ยังคงกรีดร้องใส่หูอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละความพยายาม  คิดไปว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้สึกรำคาญจนอยากยกมือไปอดหูบ้างล่ะน่า  และถ้าเป็นไปตามที่เธอคิด  เธอก็จะอาศัยจังหวะนั้นผละหนีจากเขาให้ได้

     

    คราวนี้ดูเหมือนจะได้ผล  เพราะลัคซัสเริ่มชักสีหน้ารำคาญใจกับเสียงร้องแสบแก้วหูของเธอแล้ว

     

    “หุบปากลูซี่!!

     

    “ไม่  กรี๊ดดดดดดดดดดดด  พวกนายก็ช่วยฉันด้วยสิ  มัวแต่ตะลึงกันอยู่ได้”  ลูซี่ยังคงดิ้นรนต่อต้าน  พร้อมตวัดสายตาไปต่อว่าอีกสามคนที่มัวแต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จนไม่เป็นอันทำอะไร

     

    “ไม่หุบปากใช่ไหม?  ถ้าอย่างนั้นฉันจะปิดปากเธอเอง” ลัคซัสว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง  ช่วยดึงสติของฟรีดให้กลับมา  ชายหนุ่มผมสีมรกตตระหนักได้ว่าคนที่ตนเทิดทูนจะต้องทำตามที่พูดไปเมื่อครู่อย่างแน่นอน  จึงไม่รอช้า...รีบยกมือขึ้นมาเตรียมร่ายเวทกางข่ายป้องกันเพื่อแยกสองคนนั้นออกจากกัน

     

    ทว่า...ดูเหมือนจะสายเกินไป

               

                ริมฝีปากของร่างสูงประทับอยู่กับริมฝีปากบางของร่างเบื้องใต้เข้าเสียแล้ว



     

    -TBC-



    หายไปนานมาก...ต้องขอโทษมากๆ นะคะรีดเดอร์ทุกท่าน
    สำหรับตอนนี้ก็ขออนุญาตแบ่งออกเป็นพาร์ท A กับ B นะคะ  เพราะมันค่อนข้างยาว
    แล้วก็เพิ่งเห็นว่าบีจีมันเสีย  เดี๋ยวหลังปีใหม่จะมาแก้นะคะ

    สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้าเลยนะคะรีดเดอร์ที่น่ารักทุกท่าน  ขอให้พบเจอแต่เรื่องดีๆ สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าเลยนะคะ :D
    พบกันปีหน้านะ
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×