คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter II :: หมวกคัดสรร
Chapter 2
:: หมวกคัดสรร ::
หลังผ่านพ้นจากการเดินทางอันแสนหฤโหดมาได้นั้น เหล่านักเรียนที่โดยสารมากับรถไฟขบวนใหญ่ที่ออกมาจากชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ก็ได้เดินทางมาถึงโรงเรียนฝึกวิชาและเวทมนต์ศาสตร์ชั้นสูงฟิโอเร่กันเสียที
เหล่าเด็กเรียนต่างทยอยลงจากรถไฟกันด้วยความรู้สึกต่างๆ นานา โดยเฉพาะเหล่านักเรียนใหม่ที่มีท่าทีตื่นเต้นปนหวาดวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาเพิ่งจะได้มีโอกาสมายังโรงเรียนแห่งนี้เป็นครั้งแรก ปกติส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาเยือนที่นี่เป็นครั้งแรกมักมีอาการตื่นตาตื่นใจกับสภาพของโรงเรียนฝึกวิชาและเวทมนต์ศาสตร์ชั้นสูงฟิโอเร่ เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับปราสาท มีความกว้างใหญ่ราวกับอยู่ในเมืองๆ หนึ่ง และรอบๆ นั้นก็รายล้อมไปด้วยดอกไม้สารพันชนิด สมกับชื่อ ‘ฟิโอเร่’ ที่แปลว่าดอกไม้จริงๆ ต่างจากพวกนักเรียนเก่าที่ทำเพียงขนของลงมาแล้วเดินกระจายกลุ่มแยกย้ายกันไปด้วยความเร่งรีบ
เพียงไม่นาน...ชายร่างสูงผู้หนึ่งก็เดินมายังสถานีรถไฟและประกาศคำสั่งเสียงดังฟังชัด
“เอาล่ะเด็กใหม่ทั้งหลาย ช่วยเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย เพราะเดี๋ยวฉันจะนำพวกนายทุกคนไปยังห้องโถงใหญ่ของโรงเรียน”
“อ้าวเฮ้ย! กิลดาร์ซ” นัตสึที่เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเป็นใครก็รีบเอ่ยทัก พลางโบกไม้โบกมือเรียกกิลดาร์ซเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งวิ่งเข้าไปหาเขา
“ไงนัตสึ” กิลดาร์ซยิ้มรับก่อนจะเอ่ยทักทายกลับ “เป็นไงบ้าง เดินทางลำบากไหม?”
“ลำบากก็ตรงที่หาชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ไม่เจอนี่แหละเฟ้ย” นัตสึว่า “โชคดีนะที่ได้คนที่ชื่อเอลซ่าช่วยไว้”
กิลดาร์ซขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่นัตสึเพิ่งเอ่ยออกมา “เอลซ่า... นายหมายถึงคนที่ผมสีแดงๆ รึเปล่า?”
“ใช่ๆ นายก็รู้จักด้วยเหรอ?”
“อืม...รู้จักสิ สงสัยต้องไปเลี้ยงตอบแทนเอลซ่าซะหน่อยที่อุตส่าห์ช่วยนำทางให้นาย” กิลดาร์ซตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกไป แล้วตะโกนสั่งเหล่านักเรียนอีกครั้ง “เอ้า เร็วเข้า!!”
หลังจากนั้นกิลดาร์ซก็นำทางเหล่านักเรียนมายังหน้าประตูห้องโถงใหญ่ ที่ตรงนั้นมีหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเขียวประกายดุจดั่งอัญมณีกำลังยืนรออยู่ เธอมีรูปร่างและใบหน้างดงาม กิริยาท่วงท่าดูสง่าราวกับว่าเป็นเจ้าหญิงก็มิปาน
“ยินดีต้อนรับพวกเธอเด็กใหม่ทุกคนเข้าสู่โรงเรียนฝึกวิชาและเวทมนต์ศาสตร์ชั้นสูงฟิโอเร่” เธอกล่าวพลางยิ้มแย้มให้เหล่านักเรียน “ฉันชื่อฮิซุย เป็นรองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้”
“เดี๋ยวฉันจะนำพวกเธอเข้าไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อเจอกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ซึ่งนั่งรอพวกเธออยู่ที่โต๊ะประจำกิลด์ แต่ก่อนที่พวกเธอจะไปนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเขาเหล่านั้น พวกเธอจะต้องผ่านการคัดสรรเข้าสู่กิลด์เสียก่อน”
“กิลด์คืออะไรเหรอคะ?” เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีชมพูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเวนดี้เอ่ยถามขึ้นมา
“กิลด์ก็คือบ้าน สมาชิกในกิลด์ก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว และพวกเธอจะต้องอาศัยออยู่ในกิลด์ไปจนกว่าจะจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้” ฮิซุยเอ่ยตอบ นัยน์ตาสีนิลกวาดมองหน้าเหล่านักเรียนทั้งหมด แล้วเอ่ยต่อ “อธิบายต่อก็แล้วกันนะ โรงเรียนนี้มีกิลด์อยู่ 7 กิลด์ด้วยกัน คือ ควอโทรเซเบอรัส เซเบอร์ทูธ บลูเพกาซัส แฟรี่เทล เมอร์เมดฮีล เรเวนเทล และลาเมียสเกล ซึ่งพวกเธอจะเข้าสู่กิลด์ได้โดยต้องผ่านการคัดสรรจากหมวก เอาล่ะ...เข้าไปในห้องโถงกันเลย”
อธิบายจบก็ไม่รอช้าให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ หญิงสาวผู้มีสถานะเป็นรองอาจารย์ใหญ่ก็รีบพาเด็กๆ เดินเข้าสู่ห้องโถงทันที
เหล่านักเรียนหน้าใหม่ต่างเดินต่อแถวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ด้วยอาการตื่นเต้น ไม่ว่าจะตื่นเต้นเพราะความแปลกประหลาดของเพดานห้องที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟแสงจ้าจนมองไม่เห็นเพดาน หรือตื่นเต้นกับสายตาของบรรดานักเรียนเก่าที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะตัวยาวอันเป็นโต๊ะประจำตัวของแต่ละกิลด์
บรรยากาศในห้องตอนนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงจอแจของผู้คนจนฟังไม่ได้ศัพท์
นัตสึที่เดินแถวคู่กับกาซิลก็แอบกระซิบกระซาบกันกับความแปลกประหลาดของที่นี่ “ดูนั่นสิกาซิล ไอ้ห้องนี้มันไม่มีเพดานฟร่ะ”
“เออว่ะ ไม่มีเพดานจริงๆ ด้วย” กาซิลตอบอย่างเห็นด้วย
“นี่เป็นเพดานเวทมนต์ค่ะ ทำเลียนแบบท้องฟ้ายามราตรี แล้วก็ประดับพวกแสงเทียนเอาไว้” เวนดี้ที่เดินอยู่ข้างหน้าหันมาอธิบายให้นัตสึกับกาซิลเข้าใจ ก่อนจะหันกลับไปอธิบายให้คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเธอได้เข้าใจบ้าง
เสียงจอแจยังคงดังอย่างไม่หยุดหย่อน พอดีกับที่ฮิซุยเดินพาแถวนักเรียนใหม่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเหล่าคณาจารย์ประจำโรงเรียน
“เอาล่ะเงียบๆ ได้แล้ว” หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีหยกกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หากแต่มันกลับก้องกังวานไปทั่วห้องอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้เสียงจอแจเมื่อครู่หายไป...แทนที่ด้วยความเงียบกริบ
เมื่อเห็นว่าทั้งห้องโถงเงียบดีแล้ว หญิงสาวจึงหันมากล่าวกับพวกนักเรียนใหม่ “ฉันจะขานชื่อของพวกเธอทีละคน เมื่อขานชื่อใครก็ให้ก้าวออกมาข้างหน้า ท่านอาจารย์ใหญ่จะเป็นผู้สวมหมวกให้กับเธอเอง และเมื่อหมวกประกาศชื่อกิลด์แล้ว...ก็เชิญพวกเธอไปยังโต๊ะประจำกิลด์ได้เลยทันที” ฮิซุยกล่าวพลางชี้นิ้วไปยังเก้าอี้สองตัวที่วางอยู่ตรงหน้าแถวของนักเรียนใหม่ ซึ่งตัวหนึ่งเป็นเก้าอี้ว่างเปล่า และอีกตัวหนึ่งเป็นเก้าอี้ที่อาจารย์ใหญ่ผู้มีขนาดตัวเล็กยืนอยู่ ในมือของอาจารย์ใหญ่ถือหมวกทรงแหลมสูงเอาไว้อย่างเตรียมพร้อม
“คนแรก...มิสเวนดี้ มาร์เวล”
“ค่ะ” เด็กสาวเจ้าของชื่อตอบรับคำ ก่อนจะเดินไปนั่งยังเก้าอี้ตัวที่ว่าง แล้วอาจารย์ใหญ่ก็วางหมวกลงบนหัวของเวนดี้ เพียงไม่นานหมวกใบนั้นก็ขยับอ้าให้เห็นปากและเอ่ยออกมา
“แฟรี่เทล”
จบจากคำประกาศ เสียงฮือฮาของสมาชิกนักเรียนในกิลด์แฟรี่เทลก็ดังกระหึ่มขึ้นทันที พลางกวักมือเรียกให้เวนดี้ยังนั่งยังโต๊ะประจำกิลด์ เพื่อรอสมาชิกคนต่อไป
“มิสเชอเรีย เบลนดี้”
“ลาเมียสเกล”
“มิสเตอร์อีฟ ทีลม์”
“บลูเพกาซัส”
“มิสมิเลียน่า”
“เมอร์เมดฮีล”
รองอาจารย์ใหญ่ยังคงประกาศรายชื่อต่อไปเรื่อยๆ นัตสึเองก็มองเจ้าหมวกคัดสรรนั้นตัดสินด้วยความประหลาดใจปนตื่นเต้น จนกระทั่งชื่อของกาซิลถูกประกาศ ทำให้เขาหันไปมองเพื่อน(?)
“มิสเตอร์กาซิล เร้ดฟอกซ์”
“อืม...” หมวกคัดสรรพึมพำไปมาราวกับกำลังขบคิดตัดสินใจ จนสุดท้ายก็ประกาศออกมา “แฟรี่เทล”
“อะไรฟะ ดราก้อนสเลเยอร์อย่างเวนดี้กับกาซิลได้อยู่แฟรี่เทลหมดเลย แล้วเราจะได้อยู่อะไรฟะเนี่ย??” เจ้าของเรือนผมสีชมพูได้แต่บ่นงึมงำกับตัวเอง ในใจก็คิดอยากจะอยู่กับกิลด์แฟรี่เทล เพราะเพื่อน(?)ก็ได้เข้าไปอยู่กิลด์นั้นแล้ว อีกทั้งเขาเองก็รู้สึกผูกพันกับชื่อกิลด์อย่างบอกไม่ถูก
“มิสเตอร์สติงก์ ยูคลิฟ”
ชื่อที่เพิ่งประกาศไปนั้นพาให้นัตสึต้องหันไปมองหน้าเจ้าของชื่อทันที เพราะเหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน “ชื่อคุ้นๆ แหะ”
หมวกคัดสรรประกาศกิลด์ทันที “เซเบอร์ทูธ”
“มิสเตอร์โร้ค เชนี่”
“เซเบอร์ทูธ”
เจ้าของสมญานามซาลามันเดอร์มองสองบุคคลที่เพิ่งผ่านการคัดสรรเข้าสู่กิลด์เซเบอร์ทูธด้วยความรู้สึกคุ้นหูกับชื่อของพวกเขา ก่อนจะนึกออกในที่สุดว่าสองคนนั้นก็คือสองคู่หูดราก้อนสเลเยอร์แสงและเงา หรือที่มีสมญานามว่า ‘มังกรคู่’ แล้วนัตสึก็ฉีกยิ้มกว้าง “ดราก้อนสเลเยอร์เยอะแยะไปหมดเลยแฮะ น่าสนใจจริงๆ”
แล้วการคัดสรรคนเข้ากิลด์ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงชื่อของนัตสึ
“มิสเตอร์นัตสึ ดรากูนีล”
เพียงแค่ประกาศชื่อออกมา...เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งจากคณาจารย์และเหล่านักเรียนทั่วๆ ไป นั่นเพราะชื่อของเขาเป็นที่รู้จักกันดี...ไม่ใช่ในฐานะซาลามันเดอร์ แต่เป็นในฐานะ ‘เด็กชายผู้รอดชีวิต’
นัตสึเดินออกไปนั่งยังเก้าอี้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ก็บอกแล้วว่าเขาไม่ชอบที่ถูกใครๆ เรียกหรือมองว่าเขาเป็นเด็กชายผู้รอดชีวิตบ้าบออะไรนั่น จะมองก็มองให้เห็นตัวตนความเป็นซาลามันเดอร์ผู้แสนเก่งกาจสิเฟ้ย!
หมวกคัดสรรถูกวางลงบนศีรษะอย่างเบามือ เพียงครู่เดียวหมวกใบนั้นก็เอ่ยถามคำถามกับนัตสึ “อยากอยู่กิลด์ไหนล่ะ?”
“ไม่เอาสลิธีรีน กิลด์ไหนก็ได้เฟ้ย อยู่ได้หมดแหละ แต่มีความรู้สึกอยากเข้าแฟรี่เทลแปลกๆ แฮะ” นัตสึเอ่ยตอบหมวกใบนั้นด้วยรอยยิ้มยียวน
“หึ...แฟรี่เทลงั้นเหรอ?” หมวกใบนั้นว่า ก่อนจะพึมพำอะไรไม่ได้ศัพท์อยู่เสียนาน จนสุดท้ายก็ประกาศออกมาเสียงดัง “แฟรี่เทล!”
สมาชิกกิลด์แฟรี่เทลต่างส่งเสียงเฮลั่น ดีใจที่คราวนี้ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ที่เป็นถึง ‘เด็กชายผู้รอดชีวิต’
นัตสึเดินตรงมายังโต๊ะประจำของกิลด์แฟรี่เทล ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เวนดี้และกาซิลที่มานั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“ไงเจ้าซาลามันเดอร์” กาซิลเอ่ยทัก “ได้อยู่กิลด์เดียวกันจนได้”
“เออสิเฟ้ย” นัตสึว่า ก่อนจะยกมือขึ้นแท็คกับกาซิล แล้วหันไปยิ้มให้เวนดี้อีกคน
แม้จะเพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นานนัก และยังไม่ได้รู้จักกันดีพอ หากแต่ด้วยความดราก้อนสเลเยอร์เหมือนกันและได้สนทนาทำความรู้จักกันมาบ้างแล้ว ทำให้ทั้งสามดีใจอยู่ไม่น้อยที่ได้อยู่ร่วมกิลด์เดียวกัน
“แต่ก็น่าเสียดายนะคะ ถ้าคุณสติงก์กับคุณโร้คได้อยู่กิลด์แฟรี่เทลด้วยนี่ คงจะดีไม่น้อยเลยนะคะ” เวนดี้ว่าอย่างอดเสียดายไม่ได้ เพราะถ้าดราก้อนสเลเยอร์เด็กใหม่ทั้ง 5 คนได้อยู่กิลด์เดียวกัน คงจะเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ใจไม่น้อยแน่ๆ แต่ที่น่าเสียดายที่สุดคงจะเป็นเด็กสาวที่ชื่อเชอเรียนั่นมากกว่า เพราะเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน อีกทั้งเวนดี้ยังได้พูดคุยจนสนิทสนมกันแล้วด้วย
“เอาน่า ถึงจะอยู่กันคนละกิลด์ แต่ก็อยู่โรงเรียนเดียวกัน ได้เจอกันบ่อยๆ อยู่แล้วล่ะ” นัตสึว่าพลางตบหัวเวนดี้เบาๆ เป็นการปลอบใจ
“ไง”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยทักจากด้านข้างให้พวกนัตสึหันไปมอง ก่อนจะเป็นนัตสึที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อพบว่าคนที่เอ่ยทักเมื่อครู่นี้เป็นใคร
“เจอกันอีกจนได้นะ” หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงว่า
“เอลซ่า!!”
“ยินดีต้อนรับสู่แฟรี่เทลนะ” เอลซ่ายิ้มให้นัตสึ
“เธอเองก็อยู่แฟรี่เทลรึเนี่ย??” นัตสึเอ่ยถาม “แถมยังเป็นรุ่นพี่ซะด้วย”
“ใช่...” เอลซ่าว่า ก่อนจะมองกาซิลและเวนดี้ที่ทำท่าทางงงงวย “ฉันเอลซ่า สกาเล็ต เป็นสมาชิกของกิลด์แฟรี่เทล”
“สวัสดี” กาซิลเอ่ยตอบด้วยสีหน้าหน่ายๆ ต่างจากเวนดี้ที่ยิ้มหวาน
“สวัสดีค่ะคุณเอลซ่า หนูชื่อเวนดี้นะคะ”
ทักทายกันได้พอเป็นพิธี ฮิซุยก็ประกาศให้เหล่านักเรียนภายในห้องโถงใหญ่เงียบเสียงกันอีกครั้ง “อาจารย์ใหญ่มีอะไรอยากจะกล่าวกับพวกเธอเด็กใหม่” ว่าแล้วก็หลบฉากให้อาจารย์ใหญ่แต่ตัวเล็กผู้ยืนอยู่บนเก้าอี้ได้กระโดดลงมา
“สวัสดีทุกๆ คน และยินดีต้อนรับทั้งนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่ ในวาระที่โรงเรียนของเราใกล้จะเปิดภาคเรียนใหม่แล้ว ฉันจึงได้มีโอกาสต้อนรับเด็กนักเรียนใหม่เข้ามาสมาชิกของโรงเรียน และหวังว่านักเรียนทั้งหมดจะมีความสุขกับเทอมใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นนี้ สุดท้ายนี้...เริ่มงานเลี้ยงได้!!”
จบคำประกาศ เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที ก่อนจะตามด้วยเสียงดนตรีบรรเลงคลอเคลียเพื่อเพิ่มบรรยากาศในงานเลี้ยงต้อนรับเหล่านักเรียนใหม่ให้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เหล่านักเรียนแต่ละกิลด์ต่างก็พูดคุยกับเด็กใหม่ในกิลด์ตนเองเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกันจนเสียงดังเซ็งแซ่เต็มห้องโถงไปหมด หากแต่คราวนี้รองอาจารย์ใหญ่กลับไม่ประกาศให้เงียบเสียง เพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ทุกๆ คนกำลังมีความสุขกับงานเลี้ยงต้อนรับในครั้งนี้
@@@@@@@@@
หลังจากจบงานเลี้ยงต้อนรับ นักเรียนในแต่ละกิลด์ต้องแยกย้ายกันกลับไปยังหอพักของแต่ละกิลด์เพื่อพักผ่อน และเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมของแต่ละกิลด์ในวันพรุ่งนี้
ณ หอพักของกิลด์แฟรี่เทล
เนื่องจากเพิ่งกินอิ่มๆ กันมา หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มจะหย่อน ต่างคนก็อยากที่จะพักผ่อนเต็มทีแล้ว หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงจึงออกคำสั่งแก่เพื่อนสมาชิกในกิลด์ “พวกเด็กเก่ากลับไปพักผ่อนที่ห้องพักของตัวเองได้ ยกเว้นเกรย์ เรวี่ และลูซี่” และทุกคนก็ทำตามคำสั่งของเอลซ่าอย่างว่าง่าย ต่างแยกย้ายกันกลับไปยังห้องพักของตน เหลือไว้เพียงบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อ
“มีอะไรเหรอเอลซ่า เรียกพวกฉันไว้ทำไม?” ชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มออกดำเอ่ยถามขึ้นมา
“ฉันอยากให้พวกเธอทั้งสามคนเป็นพี่เลี้ยงเด็กใหม่น่ะ” เอลซ่าหันมาตอบ
“เอ่อ...เรวี่กับลูซี่น่ะ น่าจะดูแลเด็กใหม่ได้ดีนะ แต่ทำไมต้องให้ฉันดูแลอีกคนด้วยล่ะ?”
“ก็เรวี่กับลูซี่เป็นผู้หญิง ฉันอยากจะให้มีผู้ชายคอยช่วยดูแลด้วย” หญิงสาวกล่าวตอบ “นายมีปัญหาอะไรกับการตัดสินใจของฉันอย่างนั้นเหรอเกรย์ ?”
“ปละ...เปล่าเฟ้ย” เกรย์เอ่ยตอบเอลซ่า ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเนื่องจากไม่อยากจะพูดคุยกับผู้หญิงท่าทางน่ากลัวอย่างเอลซ่าต่อแล้ว
หญิงสาวเรือนผมยาวสีแดงหันหน้ากลับมามองเหล่าเด็กใหม่ที่ยืนมองทุกอย่างภายในกิลด์อย่างตื่นเต้น “เอาล่ะพวกนาย ฉันจะขอแนะนำให้พวกนายรู้จักกับคนที่จะคอยดูแลและให้ความช่วยเหลือพวกนาย คนแรก...เกรย์” เอลซ่าว่าพลางผายมือไปทางเกรย์
“สวัสดี ฉันเกรย์ ฟูลบัสเตอร์” ชายหนุ่มนามเกรย์กล่าวแนะนำตัวเอง พร้อมทั้งก้มหน้าลงเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายเหล่าเด็กใหม่
“แล้วก็...” เอลซ่าผายมือไปยังหญิงสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเกรย์นัก
“ฉันเรวี่ แมคการ์เดน” เธอกล่าวแนะนำตัวพลางยิ้มหวานให้กับพวกเด็กใหม่ “ถ้าสงสัยเรื่องอะไรภายในกิลด์ก็มาถามฉันได้เลยนะ”
“แล้วก็คนสุดท้าย...” เอลซ่าว่าพลางเหลือบสายตาไปยังอีกคน....ที่น่าจะอยู่ด้วย
หากแต่ที่แห่งนี้กลับมีเพียงเธอ เกรย์ เรวี่ และเด็กใหม่อีก 5 คนเพียงเท่านั้น ไร้เงาของร่างที่เธอกำลังจะเอ่ยแนะนำให้พวกเด็กใหม่ได้รู้จัก
“ลูซี่หายไปไหน?” เอลซ่าหันมาถามเกรย์กับเรวี่ที่ทำหน้าตื่นตกใจ ก่อนจะเป็นเรวี่ที่เดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูของเอลซ่าเสียงเบา
“จริงสิ เอลซ่าเพิ่งจะกลับมานี่นา...คงจะไม่รู้สินะว่าลูจังน่ะโดน...กักบริเวณให้อยู่แต่ในห้องพัก 3 วันน่ะ” เรวี่ว่า
“โดนกักบริเวณ ?” เอลซ่าทวนคำพูดของเรวี่ด้วยความสงสัย “แม้แต่งานเลี้ยงต้อนรับเด็กใหม่ก็ไม่สามารถมาร่วมงานได้งั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ” เกรย์เดินเข้ามาใกล้และเอ่ยตอบคำถามให้
“ทำไมล่ะ? ยัยนั่นไปทำผิดร้ายแรงอะไรไว้ ถึงได้โดนกักบริเวณแบบนั้น??” คนผมแดงหันมาถามทั้งสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ตน
เกรย์กับเรวี่ทำหน้าเหรอหรา ก่อนที่เรวี่จะกระซิบเสียงเบากับเอลซ่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกลับปรับน้ำเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้...เพราะกลัวว่าคนอื่นๆ จะได้ยินไปด้วย “ลูจังโดนลงโทษ เพราะโดนจับได้ว่าแอบไปค้นหนังสือลับในห้องสมุดเข้าน่ะ”
แม้จะกระซิบเสียงเบาเพียงใด แต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่ออยู่ต่อหน้าดราก้อนสเลเยอร์
ใช่...เด็กใหม่ 3 ใน 5 คนของกิลด์แฟรี่เทลเป็นดราก้อนสเลเยอร์ และแน่นอนว่าพวกเขาได้ยินในสิ่งที่เรวี่กระซิบกระซาบบอกกับเอลซ่า
“หนังสืออะไรเหรอฟระ?” นัตสึโพล่งคำถามขึ้นมา ทำให้นักเรียนเก่าทั้งสามอย่างเอลซ่า เกรย์ และเรวี่สะดุ้ง ก่อนทั้งสามจะเหลือบมามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจในแวบแรก แต่เพียงแวบเดียวสีหน้าเหล่านั้นก็ถูกกลบไว้ด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ” เรวี่หันมากล่าวกับเหล่าเด็กใหม่ “ว่าแต่...พวกเธอช่วยแนะนำตัวให้พวกเรารู้จักหน่อยสิ ฉันยังจำชื่อพวกเธอไม่ได้เลย”
แม้จะยังสงสัยในสิ่งที่ทั้งสามคุยกัน แต่เมื่อเห็นว่าเรวี่พยายามเปลี่ยนเรื่องแบบนี้ เวนดี้จึงได้แต่ตามน้ำด้วยการเอ่ยแนะนำตัวเป็นคนแรก “หนูชื่อเวนดี้ มาร์เวลค่ะ”
“ผมโรเมโอ คอนวอลท์ครับ” เด็กชายที่ดูท่าทางรุ่นราวคราวเดียวกับเวนดี้เอ่ยแนะนำตัวบ้าง
“แม็กซ์ อาโลเซ่” ชายหนุ่มผมม้าตอบ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“กาซิล เร้ดฟอกซ์” กาซิลเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ เนื่องจากเขายังสงสัยเรื่องหนังสือลับที่พวกเรวี่พูดถึงกัน
“ส่วนฉันก็..นัตสึ ดรากูนีล”
เรวี่ยิ้มหวานให้พวกเด็กใหม่ “ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ ฉันและเกรย์ได้รับหน้าที่ให้คอยดูแลและช่วยเหลือพวกนายเด็กใหม่ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า...ถ้าหากมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรก็สามารถสอบถามพวกฉันได้เลย หรือถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้เลยนะ”
นัตสึขมวดคิ้วมองเธอ ก่อนจะเอ่ยคำถามขึ้นมา “แล้วลูซี่ที่พูดถึงนี่ ใครกัน??”
“ลูซี่เป็นอีกคนที่จะคอยดูแลพวกนายน่ะ” เอลซ่าตอบคำถามให้นัตสึ
“แล้วลูซี่อะไรนั่นไปไหนล่ะ? ทำไมไม่มาแนะนำตัวกับพวกเรา?” กาซิลยิงคำถามต่อทันที
เรวี่มองสบตากับเอลซ่า ก่อนจะหันมายิ้มอีกครั้ง “ลูซี่ไม่ค่อยสบายน่ะ นอนพักอยู่ที่ห้องพักของตัวเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกนายก็ได้เจอกับเธอเองแหละ”
“แต่เมื่อกี้พวกเราได้ยินว่าโดนกักบริเวณไม่ใช่เหรอ?” นัตสึยังคงถามคำถามมาอีกครั้ง
คราวนี้ทั้งเอลซ่า เกรย์ และเรวี่ได้แต่มองหน้ากันไปมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจที่จะตอบคำถามจากเด็กใหม่ขี้สงสัยอย่างนัตสึกับกาซิลเต็มทีแล้ว
“เอาล่ะ ได้เวลาพักผ่อนแล้ว พวกนายกลับไปพักผ่อนที่ห้องก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้ยังมีเรื่องที่เด็กใหม่อย่างพวกนายต้องทำอีกมาก” สุดท้ายแล้วเอลซ่าจึงเอ่ยตัดบท แล้วเชิญให้พวกเด็กใหม่กลับไปพักผ่อน...หรือจะมองอีกมุมมันก็คือการไล่ดีๆ นี่เอง “เรวี่พาเวนดี้ไปหอพักสตรี ส่วนเกรย์...นายพาผู้ชายที่เหลือไป”
“จ้า/อืม” เรวี่และเกรย์ตอบรับคำสั่งของเอลซ่า ก่อนจะพาตัวเด็กใหม่เหล่านั้นกลับไปส่งยังห้องนอน โดยก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนั้น เอลซ่าได้สบตากับทั้งสองเป็นเชิงบอกให้กลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากเสร็จธุระแล้ว
@@@@@@@@@@@
หลังจากที่พาพวกเด็กใหม่ไปส่งเข้าห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรวี่และเกรย์ก็กลับมาพบกับเอลซ่าที่ห้องเดิมอีกครั้ง พลางพูดคุยกันถึงเรื่องราวของ ‘ลูซี่’
“แล้วตกลงว่าลูซี่ไปค้นหนังสืออะไรเข้าล่ะ? ถึงได้โดนกักบริเวณจนถึงขั้นที่ทางโรงเรียนไม่ยอมให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับน่ะ” เอลซ่าเอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัย
“คือ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักหรอก แต่มาสเตอร์บอกว่าลูจังถูกทางอาจารย์ใหญ่ลงโทษเนื่องจากไปค้นคว้าเอาหนังสือลับที่ไม่ควรจะแตะต้องน่ะ” เรวี่กล่าวอธิบาย
“หนังสืออะไรกันล่ะ?”
เกรย์มองรอบบริเวณเพื่อจะสำรวจให้แน่ใจว่าที่ตรงนี้มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยตอบคำถาม “เห็นว่าเป็นหนังสือของทางสภาเวทมนต์น่ะ”
“แล้วทำไมลูซี่ถึงไปค้นเอาหนังสือของสภาเวทมนต์ล่ะ?”
“เรื่องนั้นพวกฉันจะไปรู้ได้ไงกันล่ะ” เกรย์ว่า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเอลซ่ามองตนกลับมาด้วยสายตาดุดัน “เอ่อ...เธอก็รอถามลูซี่เอาพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“เข้าใจแล้ว” หญิงสาวผมแดงว่า “งั้นพวกนายก็กลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”
แล้วทั้งสามก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน
-TBC-
กลับมาแล้วนะคะ
แล้วจะทยอยอัพหลังจากผ่านพ้นมิดเทอมไปนะคะ
สำหรับตอนนี้ แลดูเรียบๆ เอาเป็นว่ามันคือการอารัมภบท ฮา.
09/03/2015
ความคิดเห็น