ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #27 : >>:: Chapter 24

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 56




    CHAPTER 24

     

     

     

    สัญญาณนกหวีดเริ่มเกมถูกเป่าแล้ว..

     

    - กลุ่ม 5 -

     

    ชินะกับเรวินเป็นคู่แรกของกลุ่มที่เดินเข้าไปในป่าก่อนคู่อื่น  ทำให้อีกทั้งสามคู่ที่เหลือหันมามองหน้ากัน  โดยเฉพาะแคปเปอร์ที่มองลัลทริมาอย่างเป็นห่วง...ที่ต้องคู่กับเชียร

     

    ..ไม่รู้จะโดนเชียรแกล้งอะไรบ้าง?  แต่อย่างคุณลัลคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง..

     

    แคปเปอร์คิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ  เขาก้าวเข้ามาใกล้เธอ  มือหนาคว้าเอามือบางของลัลทริมาขึ้นมากุมเอาไว้เบาๆ

     

    “ระวังตัว (จากเชียร) ด้วยนะครับ” พร้อมกับส่งสายตาเป็นห่วงให้เธอ

     

    ลัลทริมายิ้มแหย  ก่อนจะค่อยๆ ดึงมือออกมาอย่างนึกเกรงใจ “ค่ะ  คุณชายแคปเปอร์เองก็ระวังตัวด้วยนะคะ”

     

    “เฮ้ย  มัวแต่สวีทกันอยู่นั่นแหละ  หัดอายเจ้าป่าเจ้าเขาซะมั่งซีฟะ!!” อคินโวยขึ้นมาอย่างรู้สึกรำคาญ ก่อนจะลากเอาแคปเปอร์เดินเข้าไปในป่าอีกทาง “ไปก่อนล่ะ”

     

    “อืม  พวกเราก็ไปกันเถอะนะ” ภามเอ่ยขึ้นมา  ก่อนจะหันไปมองหน้าการิน...ที่กำลังมองสบตากับเชียรอยู่  เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลเลยจ้องทั้งคู่สลับกันไปมา

     

    ..โชคดีนะเพื่อน  เอาให้เต็มที่เลยนะ.. สายตาของการิน..คงจะสื่อความหมายได้ประมาณนี้ 

     

    ..แน่นอน!.. และสายตาของเชียรที่ตอบกลับมา  ก็คงจะประมาณนี้

     

    “ไปล่ะ  รีบๆ หาของให้เจอด้วยก็แล้วกัน” การินเอ่ยทิ้งท้าย  ก่อนจะเดินนำหน้าภามเข้าไปในป่า  คนละเส้นทางกับที่สองคู่ก่อนหน้าเดินเข้าไป  ทำให้ภามต้องรีบวิ่งตามเข้าไปด้วย  จึงเหลืออยู่เพียงแค่

     

    เชียรกับลัลทริมา..

     

    “เอ่อ  เราก็...ไปกันเถอะนะคะ” ลัลทริมาเอ่ยเสียงสั่นด้วยรู้สึกประหม่าที่ต้องมาร่วมเดินทางกับเชียร

     

    “ก็ไปสิ” เชียรว่า  ขายาวก้าวฉับๆ เข้าไปในป่าอย่างรวดเร็วไม่รอลัลทริมาเลยแม้แต่น้อยทำให้เด็กสาวถึงกับหน้าเหวอไม่รู้จะทำอะไร  ต้องรีบวิ่งตามเขาไปในที่สุด

     

    เชียรและลัลทริมาเดินลัดเลาะเข้ามาตามป่า  ไฟฉายในมือสาดส่องไปยังผืนป่าดำมืดเบื้องหน้า  ก่อนที่ลัลทริมาจะหันไฟฉายเข้ามาสาดแสงใส่กระดาษใบเล็กๆ ที่รับมาจากชินะที่แบ่งให้กับแต่ละคู่เมื่อครู่นี้

     

    ขาวสว่างท่ามกลางหมู่แมกไม้   เปล่งประกายส่งกลิ่นหอมหวล อยู่ในที่ที่จักควร เชิญชวนให้ผู้ผ่านเด็ดดม

     

    ลัลทริมาอ่านทวนเนื้อความที่อยู่บนกระดาษใบนั้นซ้ำไปมา  พลางคิดพิจารณาว่าเจ้าสิ่งที่ว่านั่นจะเป็นอะไร? 

     

    “เอ...มันคืออะไรนะ?” เธอเอ่ยพึมพำเบาๆ  “เด็ดดม..งั้นมันก็น่าจะหมายถึงดอกไม้รึเปล่าหว่า?” ดวงตาคู่งามมัวแต่จ้องมองเจ้าตัวหนังสือในกระดาษจนลืมมองทางเดินเบื้องหน้า  ลืมที่จะเห็นว่าคนที่เดินนำหน้าเธออยู่ตอนนี้หยุดเดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ทำให้เธอชนเข้ากับแผ่นหลังเขาอย่างจังเบอ

     

    “โอ๊ย” ลัลทริมาโอดครวญออกมา  ก่อนจะรีบเงยหน้ามองเชียรที่หันหน้ามาทำตาดุใส่เธอ “ขอโทษค่ะ  พอดีไม่ได้มอง..”

     

    “ไม่ได้มองแล้วจะชนถูกได้ยังไง” เชียรตอกกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

     

    ..เจอตอกกลับมาแบบนี้  ลัลทริมาถึงกับพูดอะไรไม่ออก

     

    “ขอโทษค่ะ  ว่าแต่  คุณชายเชียรหยุดเดินทำไมล่ะคะ?  มีอะไรรึเปล่า” เธอถาม

     

    “เปล่า  แค่ได้ยินเธอพึมพำบ้าบออะไรก็ไม่รู้  เลยหยุดฟัง” เชียรว่า  ก่อนจะสบตาเธออย่างต้องการคำตอบ “สรุปแล้วของที่ฉันกับเธอต้องหาคืออะไรล่ะ?”

     

    “เอ่อ  ของที่เราต้องหา...” เด็กสาวกำลังจะเอ่ยตอบ  แต่กลับถูกคู่สนทนาตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

     

    “หยุดนะ!!” เชียรว่า

     

    “หา!? หยุด..หยุดอะไรคะ?” เด็กสาวถามกลับไปด้วยความตกใจ  พลางสอดสายตามองไปรอบๆ บริเวณที่พวกเธอยืนอยู่ “มีอะไรงั้นเหรอคะ?  คุณชายเชียร”

     

    “ไม่มีอะไรหรอก  ฉันแค่จะบอกให้เธอหยุดพูดก่อน”

     

    “ทำไมล่ะคะ”

     

    “เมื่อกี้เธอพูดคำว่า เราออกมา ซึ่งฉันไม่ชอบ” เชียรตอบหน้าตาย ทำเอาลัลทริมาตีสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือตอบอะไรกลับไปดี...กะอีแค่พูดว่าเราแค่นี้ก็ไม่ได้รึไง (วะ)

     

    “เข้าใจแล้วนะ” เชียรพูดต่อ “ว่าแต่ของที่ฉันกับเธอต้องหาคืออะไรล่ะ?”

     

    “คือ  ของที่ฉันกับคุณชายเชียรต้องหามันน่าจะเป็น...ดอกไม้ล่ะมั้งคะ”

     

    “มั้ง?”

     

    “คือ  ฉันไม่ค่อยแน่ใจน่ะค่ะ” ลัลทริมาว่า 

     

    “งี่เง่า!!” แล้วก็โดนด่าตามที่คาดไว้ไม่มีผิด ก่อนจะโดนเชียรกระชากเอากระดาษแผ่นเล็กในมือไป “เอามานี่ ฉันดูเอง”

     

    นัยน์ตาสีเพลิงจ้องข้อความในกระดาษแผ่นนั้น  ก่อนจะกรอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด “สีขาวนวล  กลิ่นหอม  อยู่ในที่ที่ควร  เด็ดดม  อืม...ก็ดอกไม้ชัดๆ นี่นา”

     

    ลัลทริมาจึงยิ้มออกมาอย่างดีใจที่เธอคิดไม่ผิด  “จริงๆ ด้วยสินะคะ” แต่ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อเชียร..

     

    “แต่ยัยงี่เง่าบางคนก็ยังคงไม่มั่นใจว่ามันคือดอกไม้  งี่เง่าสิ้นดี!!” กัดเธอตามระเบียบ

     

    “ฮึ่ย..” เธอกัดฟันอย่างเจ็บใจ ก่อนจะหันมาถามเชียรอย่างท้าทาย “แล้วคุณชายเชียรรู้มั้ยล่ะ  ว่ามันคือดอกไม้ชนิดไหน?”

     

    “เธอนี่มันงี่เง่าจริงๆ!” และยังคงกัดเธออีกตามเคย “ข้อความมันก็บอกไว้แท้ๆ ว่าสีขาว ส่งกลิ่นหอมหวล แล้วเธอคิดว่าดอกอะไรล่ะห๊ะ ที่มีสีขาวแล้วส่งกลิ่นหอมมากๆ ในตอนกลางคืนน่ะ?”

     

    “ดอกราตรี...เหรอคะ?” เธอถามกลับ

     

    “ก็แหงสิ” เชียรว่า  ก่อนจะยัดกระดาษเข้ามือลัลทริมาตามเคย  และก้าวเท้าออกเดินไปข้างหน้า 

     

    “แต่อาจารย์เค้าบอกว่ามันเป็นสิ่งของนี่นา  แล้วอีกอย่าง..เค้าจะเอาดอกไม้มาซ่อนไว้ในป่าทำไมกัน” เธอถาม  ขณะที่ก้าวตามเชียรมา

     

    “ก็คงไม่ใช่ทุกอย่างหรอกที่อาจารย์ซ่อนไว้  บางอย่างอาจจะเป็นสิ่งที่มีในป่าอยู่แล้วก็ได้” เชียรตอบอย่างไม่ใส่ใจ

     

    ทั้งคู่เริ่มเดินลึกเข้ามาในป่าเรื่อยๆ  แต่ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะมีดอกราตรีอยู่ใกล้ๆ นี้เลยซักนิดเดียว มิหนำซ้ำ  ต้นไม้ก็เริ่มจะหนาทึบมากขึ้นทุกที  อากาศก็เย็นเยียบเสียยิ่งกว่าเดิม  แถมยังมืดมากขึ้นด้วย

     

    “นี่คุณชายเชียร  บางทีนะ..เจ้าดอกราตรีที่ว่านี่มันอาจจะอยู่คนละทางกับที่เรากำลังเดินหาอยู่ก็ได้นะคะ  เพราะเดินๆ มานี่  ฉันยังไม่ได้กลิ่นมันเลยอ่ะ” เธอพูดออกมา  พลางหันมองรอบตัว  แต่ก็ยังคงไร้วี่แววของเจ้าดอกไม้สีขาวที่กำลังตามหากันอยู่นี่ 

     

    “เหรอ?  งั้นเธอก็นำทางซะสิ” เชียรพูดโดยไม่หันหน้ามามองเธอ 

     

    “เอ่อ..คุณชายเชียรอย่าบอกนะคะว่า...คุณกำลังพาฉันหลงทางอยู่” เอ่ยถามออกไปอย่างลังเล..ว่าควรที่จะถามดีหรือไม่  แต่สุดท้ายก็เอ่ยถามออกไปจนได้  และเชียรก็หันกลับมามองด้วยแววตาโกรธขึ้ง!

     

    “อย่ามาโทษว่าฉันพาเธอหลงสิยัยงี่เง่า!  ฉันไม่เคยเข้าป่ามาก่อนนะจะได้รู้จักเส้นทางดี  จริงอยู่ว่าฉันอาจจะเคยมาพักผ่อนที่เกาะนี้บ่อย  แต่ก็ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้บริเวณป่าเลยสักครั้ง  แล้วเธอยังจะมาโทษฉันว่าฉันพาเธอหลงอีกเหรอ  ห๊า!!!?????”

     

    บ่นออกมาเสียยืดยาว  แต่สุดท้ายแล้ว  สรุปก็คือ..หลงใช่มั้ยล่ะ?

     

    “ค่าๆ ขอโทษค่ะ  ฉันผิดเองแหละ  ที่ไม่นำทางคุณตั้งแต่แรก” เธอเอ่ยยอมรับผิด  ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง  เธอไม่ผิดเลยสักนิดเดียว  ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ นะ

     

    “รู้ก็ดีแล้ว” เขาว่า   ก่อนจะเดินย้อนกลับมายืนข้างๆ เธอ “เชิญนำไปสิ”

     

    “ค่ะ” ลัลทริมารับคำ  ก่อนจะก้าวเดินไปในทางที่พวกเธอเดินมากันเมื่อครู่นี้  มือบางสาดไฟฉายไปรอบทิศทางอย่างพยายามมองหาของที่พวกเธอจะต้องเอากลับไปด้วย “อืม  เมื่อกี้เดินมาทางนี้  ถ้าเดินย้อนกลับไปซะหน่อย  แล้วค่อยเริ่มต้นหาใหม่ก็คงไม่สาย” เธอพึมพำออกมา  แต่อยู่ๆ ก็ต้องหยุดชะงัก  เมื่อเสียงฝีเท้าที่เดินตามเธอมานั้นเงียบลง  ลัลทริมาหันกลับไปมองด้านหลังของตนเอง  ก็พบว่าเชียรยืนหยุดนิ่งอยู่กับที่ “คุณชายเชียร?”

     

    “ลัลทริมา...มีอะไรอยู่ที่หลังฉันใช่มั้ย??” เชียรเอ่ยถามออกมาน้ำเสียงสั่นไหวอย่างที่ลัลทริมาไม่เคยได้ยินมาก่อน  แถมที่สำคัญ..ยังเรียกเธอว่า ลัลทริมา อีกด้วย

     

    เธอสาดไฟฉายไปทางเชียร  ก่อนจะตอบว่า “ไม่มีอะไรนี่คะ”

     

    “ไม่จริง” เชียรเถียงกลับมา “มันต้องมีอะไรอยู่ที่หลังฉันแน่ๆ  ฉันสัมผัสได้ว่ามันหนักๆ หน่อยๆ น่ะ”

     

    “หา?  อย่าบอกนะ  ว่าคุณชายเชียรคิดว่าผีกำลังขี่หลังคุณชายอยู่น่ะ  นี่คุณกลัวผีหรอ?” เธอถามกลับไป  พร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้  หากแต่แทนที่เชียรจะโกรธ  เขากลับไม่ได้แสดงปฏิกิริยานั้นออกมาซักนิด  เพียงแค่ตอบเธอกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นไหว

     

    “ฉันไม่ได้กลัวผี..แต่ฉันแค่กลัวสัตว์จำพวกแมลงเท่านั้นแหละ” เชียรว่า  พลางพยักเพยิดหน้าให้ลัลทริมาเดินมาดูที่หลังของเขาที่เขารู้สึกว่ามันมีอะไรสักอย่างเกาะอยู่ “เธอมาดูให้หน่อยดิ๊”

     

    เด็กสาวถอนหายใจอย่างเชื่องช้า  ก่อนจะพยักหน้ารับและเดินเข้ามาใกล้เชียรและอ้อมไปดูที่หลังของเขา  พลางเบิกตาตกใจเล็กน้อย

     

    ..แมงมุม..

     

    “เอ้อ  คุณชายเชียรกลัวแมลงเหรอคะ?” เธอเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง 

     

    “เออ” เขาตอบกลับมา“ทำไม  มีอะไร?  ตัวอะไรงั้นเหรอ?”

     

    “เอ่อ..” เธอตะกุกตะกักไม่กล้าตอบ

     

    ..ตายละวา  แมงมุมมันใช่แมลงมั้ยเนี่ย?..

     

    “ตัวอะไรห๊ะ?” เชียรถาม

     

    “เอิ่ม  น่าจะใบไม้นะคะ” ลัลทริมาโกหกออกไปเพื่อความสบายใจของเชียร

     

    “งั้นก็เอามันออกไปเส่ะ”

     

    “เอ่อ  เดี๋ยวหากิ่งไม้เขี่ยออกให้นะ” เธอตอบ  พร้อมกับถอยห่างจากเขา  แล้วสาดไฟไปทั่วๆ พื้นเพื่อมองหากิ่งไม้

     

    “กะอีแค่ใบไม้  ทำไมต้องเอากิ่งไม้เขี่ยด้วยล่ะห๊ะ” เชียรถามกลับมา  พร้อมกับพยายามหันหน้ามามอง

     

    “มันใบใหญ่น่ะ” เธอตอบ

     

    “ไม่เชื่อ!!!” ไม่ว่าเปล่า เจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงหันมาเหลือบตามองที่หลังของตนเอง พร้อมๆ กับสาดไฟฉายส่อง แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อมองเห็นเจ้าตัวแปดขาเกาะอยู่ที่มุมไหล่ตนเอง..

     

    “มะ  ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” คุณชายจอมเอาแต่ใจนิสัยไม่ค่อยจะดีกรีดเสียงร้องดังลั่นป่า  ดวงตาสีเดียวกับผมเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว  ก่อนที่ขาเรียวยาวจะก้าวออกวิ่ง...หนีแมงมุม

     

    ลัลทริมาได้แต่เบิกตามองอย่างตกใจ  นี่ถ้าหากมีใครผ่านมาเห็นเชียรตอนนี้เข้าคงได้หัวเราะท้องคัดท้องแข็งกันเป็นแถบแน่  ขนาดเธอเองยังอยากจะหัวเราะออกมาเลย  แต่ก็เพราะความรู้สึกเกรงใจเจ้านายล่ะมั้ง  เธอถึงได้แต่ยืนเบิกตาค้าง  ก่อนจะนึกได้ว่าตนเองควรจะห้ามเชียรไว้ก่อน

     

    “เดี๋ยวค่ะ  คุณชายเชียร..” แต่ห้ามไปก็เท่านั้น  เจ้าตัวเล่นร้องลั่นป่าพลางวิ่งหนีเตลิดไปไกลแล้วด้วย  เด็กสาวมองตามด้วยความรู้สึก..จะเรียกว่าสงสารรึเปล่าก็ไม่อาจบอกได้  แต่เธอคิดว่า  ทำไมเชียรจะต้องวิ่งหนีแมงมุมที่มันเกาะอยู่บนหลังด้วยล่ะ?  ในเมื่อวิ่งไป  เจ้าแปดขานั่นมันก็ยังคงอยู่บนหลังเชียรอยู่ดี 

     

    แต่จะปล่อยให้เจ้าของเรือนผมสีแดงผู้กลัวแมลงวิ่งเตลิดเข้าป่าไปก็ใช่ที่  โดยไม่รอรี  เด็กสาวรีบวิ่งตามเขาทันที  หมายจะช่วยชีวีเอาไว้  มิให้ต้องขาดใจตายเพราะตัวแปดขา

     

    “คุณชายเชียร..” ลัลทริมาร้องเรียก  พลางวิ่งจ้ำอ้าวสาวเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว  ก็พอเห็นหลังของเจ้าของชื่อไวๆ  เธอรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็วพลางตะโกนร้องบอก “คุณชายเชียร..แมงมุม  ไม่อยู่แล้ว..ค่ะ”

     

    แต่คนตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะฟัง  เชียรยังคงวิ่งต่อไปไม่ลืมหูลืมตา  ทำเอาลัลทริมาที่วิ่งตามชักจะเหนื่อยขึ้นทุกที  เด็กสาวจึงไม่รอช้า  กระโดดเข้าใส่คนตรงหน้าซะเลย

     

    “หยุดนะ  คุณชายยยย”

     

    “ม่ายยยยยยยยยยยย” เชียรร้องพลางวิ่งต่อไปอย่างไม่สนใจ  แต่แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องหยุดชะงักกึก  เมื่อมองเห็นว่าทางข้างหน้าของตนนั้นเหมือนจะเป็นเนินลาดลงไป  เจ้าของเรือนผมสีแดงพลิกตัวหันกลับมาเพื่อจะบอกให้ลัลทริมาหยุดวิ่ง  แต่ยังไม่ทันได้บอกอะไร..ก็มีอันต้องเบิกตาค้าง  เมื่อเห็นคนรับใช้สาวของตนพุ่งเข้ามา (ขอเน้นว่าพุ่ง!)

     

    “เฮ้ยยยย!!!!

     

    ปึ้กกกกก

     

    “อุ่ก!

     

    หัวของลัลทริมาพุ่งกระแทกเข้าชนกับท้องของเชียรเต็มๆ  ทำเอาคนผมแดงถึงกับจุก  และเพราะแรงกระแทกจากเธอ  ทำให้คนทั้งคู่กลิ้งหลุนๆ ลงเนินไปทันที

     

    “ว้ากกกกก”

     

    “กรี๊ดดดดด”

     

    ---------------------------------------

     

    “หือ?  ได้ยินเสียงร้องมั้ยอ่ะ” ภามหันมาถามการินที่กำลังเดินชิลอยู่

     

    “ฉันไม่ได้หูหนวกนะ”  แต่ไอ้คนชิลๆ ที่ว่าดันตอบกลับมาอย่างกวนๆ ซะได้

     

    “เออ!  แกว่าเสียงฟังดูคล้ายๆ เชียรป่ะ?” ภามพยายามไม่สนใจความกวนของคนตรงหน้า  พลางถามอย่างจริงจัง

     

    “ก็มีส่วนนะ..” การินเอ่ยตอบ  ก่อนจะสาดไฟฉายไปยังทางที่คิดว่าน่าจะเป็นต้นเสียง

     

    “ไปดูกันมั้ยอ่ะ  ท่าทางจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นะ” ภามถาม

     

    “เฮ้ย  มันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” การินว่า

     

    “แต่มันมีเสียงร้องของลัลทริมาด้วยนะ”

     

    “โฮ้ย!!  ยิ่งไม่เป็นอะไรใหญ่เลยล่ะมั้งนั่น” การินว่า  พลางตีสีหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย

     

    “ไม่รู้แหละ  ฉันจะไปดู  ถ้านายไม่ไปก็หาของรอไปก่อนก็แล้วกัน  เดี๋ยวจะกลับมา” แล้วคุณชายเจ้าของใบหน้าน่ารักก็เดินจ้ำออกไป  ทำเอาการินถึงกับต้องส่ายหัวอย่างเซ็งๆ  ก่อนจะรีบเดินตามภามไปในที่สุด 






     

    -TBC-





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×