คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : >>:: Chapter 14
CHAPTER 14
หลังจากนั้น ลัลทริมาก็รีบเดินหนีภามไปทันที ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สนใจจะตามเธอแม้แต่อย่างใด
ตรู๊ด ตรู๊ด
พอดีกับที่เสียงโทรศัทพ์ของภามดังขึ้น เด็กหนุ่มรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบเอามันขึ้นมารับสาย
‘เป็นไงบ้าง ยัยนั่นพอจะจำอะไรได้บ้างมั้ย’
เสียงการินเอ่ยถามขึ้นมา ภามจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ และตอบกลับไป “ไม่นะ ยัยนั่นแค่บอกเจ็บ แล้วก็วิ่งหนีไปซะเฉยๆ”
‘อะไรกัน ไม่ได้ผลเหรอ ก็เมื่อกี้ไอ้อคินมันขว้างโดนจังๆ เลยนะ’
“อ่า..ไม่รู้สิ” คุณชายภามตอบกลับ
‘ชิ งั้นต้องลองใหม่’ พูดจบ การินก็ตัดสายไปเสียดื้อๆ ทำเอาภามได้แต่ถอนหายใจทิ้ง ก่อนจะเดินไปยังทิศทางที่จะพาตนกลับเข้าสู่ห้องเรียนเพื่อเรียนในคาบบ่ายต่อไป
++++++++++++++++
ออด~ เสียงออดดังขึ้นบ่งบอกเวลาว่าการเรียนในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว เหล่านักเรียนต่างก็รีบเก็บของลงกระเป๋าและทยอยเดินออกจากห้องเรียนกันไป
“กลับบ้านกันเถอะครับ คุณลัล” แคปเปอร์ที่เก็บของเสร็จแล้วเรียกลัลทริมา เธอหันไปมองหน้าเขาก่อนจะยิ้มรับน้อยๆ
“ค่ะ” ลัลทริมาตอบรับและลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินตามแคปเปอร์ออกไปทางประตูห้องเรียน
เหล่าพวกคุณชายที่เหลืออยู่จึงรีบหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรึกษาหารือ จะยกเว้นก็เพียงแต่เรวินกับชินะเท่านั้นที่นั่งเฉย ไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย
“เฮ้ยๆ ทำอะไรซักอย่างสิ ไอ้แคปเปอร์มันพายัยนั่นไปแล้วนะ” เชียรรีบบอกไว้
“แล้วแกมีแผนอะไรต่อล่ะ ถ้าดึงตัวยัยนั่นไว้ได้ก่อนไอ้แคปเปอร์จะพากลับ” การินถามกลับ
“ก็เย็นนี้มีซ้อมฟุตบอลใช่มั้ยล่ะ แล้วฉันก็เลยจ้างให้เค้ารอเตะลูกบอลอัดใส่หัวยัยนั่นน่ะ” เชียรตอบ ก่อนจะมองไปที่ลัลทริมาอย่างร้อนรน
“แต่นี่มันเพิ่งออดเลิกเรียนเองนะ พวกชมรมฟุตบอลมันจะซ้อมกันแล้วอย่างนั้นเหรอ?” อคินถาม
“ก็ยังไม่ซ้อมน่ะสิ เพราะงั้น ฉันถึงได้บอกให้แกไปดึงตัวยัยนั่นไว้ก่อน” เชียรตอบกลับ ก่อนจะมองไปยังอีกหนึ่งหนุ่มที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ มาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว
“ไปเร็วภาม จัดการ”
“เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะเนี่ย” ภามร้องบอกออกมา แต่สุดท้ายก็โดนสายตากดดันจากเพื่อนหนุ่มทั้งสาม เขาจึงได้แต่จำใจลุกขึ้นยืน และเดินตามลัลทริมากับแคปเปอร์ไป
“เอาล่ะ พวกเราก็ต้องลงไปที่สนามฟุตบอลสินะ” อคินพูด ก่อนจะต้องหุบปากนิ่ง เมื่อเห็นเชียรเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากของตัวเอง
“เบาๆ สิ” เชียรกระซิบ “อีกอย่าง เรานั่งรออยู่นี่แหละ เพราะหากเกิดเรื่องขึ้นจริง ชินะมันจะสงสัยเอา”
“กระซิบอะไรกัน?” เสียงของชินะเอ่ยถามขึ้นมา ทำให้เชียรต้องหันไปยิ้มน้อยๆ ให้กับเขา
“เปล่านี่”
“เอ้อ แล้วจะกลับกันเมื่อไหร่ล่ะครับ? จะนั่งในห้องนี้อีกนานมั้ย” เรวินเอ่ยถามขึ้นมา พลางส่งสายตามองมาที่เชียรและอคิน
“พอดีไอ้ภามมันไปเอาของอยู่ ถ้ายังไง..เราก็นั่งรอมันอยู่ที่นี่ก่อนเถอะนะ” เชียรตอบ
“แล้วแคปเปอร์ล่ะ..?” คุณชายผมขาวถาม
“เดี๋ยวมันก็เดินกลับมาเองแหละ” การินตอบขึ้นมาอย่างนึกรำคาญ ก่อนจะนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง
“แล้วแกคิดจะนั่งรออยู่ที่นี่อีกนานมั้ยล่ะ” ชินะที่ไม่เกรงต่อสายตาที่ดูจะหงุดหงิดของการินเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง พลางจ้องมองการินเพื่อรอคำตอบ
“จะนั่งอยู่อีกซัก 3 ชั่วโมงก็ไม่มีใครกล้าด่าว่าอะไรพวกเราหรอกนะ” การินตอบกลับ
“แหม คุณรินไม่คิดเกรงใจภารโรงเลยนะครับ”
“ทำไมต้องเกรงใจด้วย” การินถามเรวินกลับอย่างกวนๆ ก่อนที่ภายในห้องนั้นจะเงียบไปอีกครั้ง
+++++++++++++++++++++++
“เอ่อ แคปเปอร์” ภามตะโกนเรียกเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เดินอยู่เบื้องหน้าของตน ก่อนจะพูดต่อเมื่อคนถูกเรียกหันมามองหน้าเขา “อคินเรียกน่ะ บอกว่ามีเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้มันรออยู่ที่ห้อง ช่วยไปดูทีสิ”
“อะไรของมัน” แคปเปอร์พูดอย่างงงๆ แต่ก็ยอมหันหลังเดินกลับไปยังห้องเรียนแต่โดยดี
จึงเหลือแค่ลัลทริมากับภามเท่านั้น.. เธอรีบสะบัดหน้าเดินหนีเขาทันที เพราะยังคงโกรธเรื่องเมื่อตอนกลางวันอยู่
“รอเดี๋ยวสิ”
“อะไร?” ลัลทริมาตอบเสียงห้วน ขณะที่กำลังเดินลงบันได ไม่รอฟังที่ภามจะพูดต่อแม้แต่น้อย
“เปล่า” ภามตอบ พลางเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆ นั่นยิ่งทำให้ลัลทริมารู้สึกอึดอัดอย่างที่สุด เธอรีบสาวเท้าก้าวหนีเขาให้เร็วขึ้น แต่ภามที่ขายาวกว่าก็ก้าวตามเธอมาอย่างกระชั้นชิด
ทั้งคู่เดินลงมาถึงชั้น 2 ลัลทริมารีบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ภามเองก็ก้าวฉับๆ ตาม ทั้งสองเดินมาตามระเบียงทางเดินที่ด้านหนึ่งเป็นห้องเรียน ส่วนอีกด้านเป็นหน้าต่างที่ทำด้วยกระจกบานใส
"ตามมาทำไม? ภาม!” เมื่อทนไม่ไหวเข้า เธอจึงต้องหันหน้ามาถามเขา
“แค่อยากจะเตือนน่ะ ว่า..พวกเชียรมันคิดแผนไม่ดีไว้ ถ้ายังไงเธอก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกันนะ”
“หืมม์” เด็กสาวหรี่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันหลังกลับทันที
และไม่รู้ว่าเพราะชาติที่แล้วเธอทำบาปอะไรกับลูกกลมๆ หรืออย่างไร คราวนี้ มันถึงได้ตามมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง.. เมื่อสายตาของลัลทริมาเหลือบไปเห็นลูกตะกร้อลอยพุ่งมาจากด้านนอก และมันก็กำลังจะพุ่งผ่านกระจกเข้ามาหาเธอในไม่ช้านี้
..ไม่นะ ทำไมต้องเป็นฉันที่ซวยด้วยล่ะ?..ร่างบางก้มหน้าหลับตารอรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่อึดใจ
เพล้งงงงง
เสียงกระจกหน้าต่างบานใสแตกกระจาย ลูกตะกร้อหล่นไปทางใดก็ไม่อาจทราบ แต่สิ่งที่ลัลทริมาพอจะรับรู้ได้ก็คือ..อ้อมกอดอบอุ่นที่โอบกอดเธอไว้อยู่ในขณะนี้ เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดทันที
เขาคือภามอย่างไม่ต้องสงสัย หากแต่แขนแกร่งที่โอบกอดเธอไว้นั้น กลับมีเลือดซึมออกมา เนื่องจากโดนเศษกระจกที่แตกกระเด็นมาบาดเข้าที่ต้นแขน ลัลทริมายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ เธอรีบจับแขนเขาดูทันที
“มะ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยคะ คุณชายภาม” เธอดูอย่างร้อนรน พลางค่อยๆ ดึงเศษกระจกนั้นออกอย่างเบามือ
“อุ๊บ” ภามร้องออกมานิดหน่อยเพราะความเจ็บ แต่ก่อนที่จะได้ตอบคำถามของเธอ คุณชายหนุ่มกลับชะงักเสียก่อน พลางมองหน้าเธอด้วยแววตาสงสัยเล็กน้อย “เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
“ก็คุณชายภามนะสิ ถามแปลกๆ” ลัลทริมาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ..ก่อนจะต้องเบิกตากว้าง เพราะรู้สึกตัวว่าเธอเผลอพูดอะไรที่มันจะกลายเป็นเชือกมัดตัวออกไป..
“นี่เธอ..ความทรงจำเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ปกติเธอเรียกฉันว่า ‘ภาม’ ไม่ใช่เหรอ?”
“เอ่อ คือ..คือว่า เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะน่า ไปห้องพยาบาลก่อน” ลัลทริมารีบตัดบท ก่อนจะลากแขนอีกข้างที่ไร้ซึ่งบาดแผลของคุณชายไปยังห้องพยาบาล
+++++++++++++++++++
อีกด้านหนึ่ง
เพล้ง
“หือ เสียงอะไรแตก?” การินพูดขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินเสียงคล้ายกับมีอะไรบางอย่างแตก
“เสียงดังมาจากชั้นล่าง” ชินะพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืน และรีบเดินออกจากห้องไป เพื่อที่จะไปสำรวจที่มาของเสียงนั่น
“ไปด้วยครับ” เรวินร้องบอก และรีบวิ่งตามชินะมาทันที ส่วนคนอื่นๆ เองก็ตามออกมาด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดเดินลงมาถึงก็พบว่าที่มาของเสียงนั้น ก็คือกระจกหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งแตกออก เศษของมันกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น พร้อมๆ กับมีรอยเลือดปรากฏอยู่ที่นั้น..และหยดเป็นทางไปตามระเบียงทางเดิน
++++++++++++++++++++
“นี่มันยังไงกัน เธอไม่ได้ความจำเสื่อมงั้นเหรอ” ภามเอ่ยถามออกมาอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เมื่อในตอนนี้ลัลทริมายอมรับแล้วว่าเธอแกล้งความจำเสื่อม
“ขอโทษจริงๆ ค่ะ คุณชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เด็กสาวว่า พลางกล่าวขอโทษขอโพยเขาเป็นการใหญ่
“จริงๆ เล้ย ไปขอโทษเจ้าชินะกับอคินดีกว่านะ สองรายนั้นน่ะ..ท่าทางจะเป็นหนัก” ภามถอนหายใจน้อยๆ
“แหม มาถึงตอนนี้ก็ไม่กล้าบอกแล้วล่ะค่ะ” เธอบอกเขา พลางก้มหน้าก้มตาขอโทษอีกหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะเงยหน้ามองด้วยสายตาอ้อนวอน “เพราะงั้น อย่าเพิ่งบอกพวกคุณชายคนอื่นๆ เลยนะคะ”
“ไม่ขอรับปากนะ” ภามตอบกลับ พร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที เมื่ออาจารย์ประจำห้องพยาบาลทำแผลให้กับเขาเสร็จ เขาก็เดินลิ่วออกมาจากห้อง ปล่อยให้ลัลทริมาต้องรีบวิ่งตามเขาออกมาด้วย
“คุณชายภาม” เธอเอ่ยเรียก ก่อนจะต้องชะงักงัน เมื่อมองเห็นพวกคุณชายคนอื่นๆ เดินมายังทางที่เธอกับภามกำลังยืนอยู่
“เฮ้ย แขนไปโดนไรมาน่ะ” เชียรเอ่ยถาม พลางเดินเข้ามาหาภาม
“พอดีโดนกระจกบาดน่ะ” ภามตอบกลับคล้ายกับไม่ค่อยใส่ใจนัก
“งั้นก็เลือดนายสินะ ที่หยดตามทางเดินนั่นน่ะ” การินเอ่ยถาม พร้อมกับมองมาที่แขนของภาม ซึ่งเจ้าของแผลก็พยักหน้าตอบ
“ไหนบอกไปเอาของ..ทำไมถึงมาอยู่กับลัลทริมาได้ล่ะ” ชินะถาม พลางเหลือบตาไปมองเด็กสาวที่ยืนเยื้องไปทางด้านหลังภามเล็กน้อย
“จริงสิ ฉันมีเรื่องจะบอก ยัยนี่น่ะแกล้งความ..อุ้บ” คำพูดที่กำลังจะเอ่ยต่อของภามถูกมือปริศนาปิดกั้นเอาไว้ เด็กหนุ่มผมสีคาราเมลเหลือบตามองข้างหลังตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอกให้เจ้าของมือปล่อยมือออก
“ทำอะไรน่ะ เรวิน” ภามเอ่ยถามทันทีที่เรวินปล่อยมือออกจากปากของเขา
“ก็เปล่าครับ พอดีคิดว่า..มันยังไม่ควรพูด รึเปล่าน้า?” เรวินตอบยิ้มๆ ก่อนจะพูดเสียงกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน "คุณลัล..แกล้งความจำเสื่อมจริงๆ สินะครับ”
ภามเบิกตาเล็กน้อยอย่างแปลกใจที่เรวินรู้เรื่องนี้ด้วย “อืม”
“งั้นเรากลับบ้านกันถอะนะครับ” เรวินหันมาบอกเพื่อนคนอื่นๆ ก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วย
++++++++++++++++++++
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว เหล่าคุณชายจึงเดินเข้าห้องอาหารกันทันที ซึ่งทางแม่บ้านเองก็ได้เตรียมข้าวปลาอาหารไว้คอยต้อนรับแล้วเช่นกัน ทุกคนนั่งลงประจำที่ตนเอง จะยกเว้นก็แต่ลัลทริมาที่มีท่าทีงกๆ เงิ่นๆ คล้ายกับกำลังหวาดๆ กับอะไรบางอย่าง
“นั่งสิ” การินบอกกับเธอ
“เอ่อ ฉันไม่หิว ไปนะ” เธอตอบกลับอย่างรีบร้อน ก่อนจะเดินหนีออกมาจากห้องนั้น แต่ขาที่กำลังจะก้าวต่อกลับต้องหยุดชะงักเสียก่อน เมื่อสัมผัสได้ถึงมือใหญ่กว่าที่ดึงรั้งแขนเธอเอาไว้
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณนะครับ คุณลัล” เรวินยิ้มหวานให้เธอ ก่อนจะลากลัลทริมาไปยังห้องหนังสือ
++++++++++++++++++++++
“ไอ้เรวินเป็นอะไรของมันน่ะ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ลุกขึ้นออกไปซะเฉยๆ” อคินถามขึ้นมาอย่างงงๆ ต่างจากภามที่พอจะเดาออก ว่าหนุ่มผิวเข้มคงจะต้องมีเรื่องคุยกับลัลทริมาแน่ๆ
“เอ่อ ฉันขอตัวด้วยดีกว่า” ภามบอกและลุกขึ้นเดินออกไป
“อะไรของพวกมันวะ” อคินบ่นออกมา
“น่าสงสัย..ตามไปดีกว่า” แคปเปอร์พูดและลุกตามไปอีกคน
“แหม ไม่อยากพลาดเหมือนกัน” เชียรบอกและลุกขึ้น ก่อนจะหันมาลากการินและอคินที่ไม่มีท่าทีว่าจะอยากลุกไปด้วย “ป่ะ ชินะ”
+++++++++++++++++++++
“ยังไงกันแน่ครับ ที่คุณไม่ได้ความจำเสื่อมน่ะ” เรวินถามขึ้นมาทันที เมื่อเขาพาลัลทริมาเข้ามาในห้องหนังสือเรียบร้อยแล้ว
“เอ๊ะ คุณชายเรวินรู้ได้ไงคะ?” เธอถามออกมาด้วยความตกใจ
“ดูจากท่าทางของคุณแล้ว ผมดูออกครับ” เรวินตอบ พลางมองเธอด้วยสายตาราวกับตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ร้าย “เอาล่ะครับ บอกมา..ว่าทำไมต้องโกหกพวกผมด้วย”
“ก็..ไม่ได้อยากจะโกหกหรอกค่ะ แต่ว่า มัน.. หัวมันคิดไปเองน่ะค่ะ” เธอตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ เล็กน้อย
“รู้มั้ยครับ ว่าการทำแบบนี้น่ะ มันไม่ดีเลยซักนิด ทั้งต่อตัวคุณ และคนที่คุณหลอกลวง”
“ก็ มันไปพลาดไปแล้วล่ะค่ะ” เธอตอบ
“แล้วจะทำยังไงต่อล่ะครับ ในเมื่อตอนนี้ภามก็รู้เรื่องแล้ว อีกไม่นาน คนอื่นๆ ก็คงต้องรู้” เรวินถาม
ปัง!!! ประตูถูกเปิดเข้ามาอย่างรุนแรง ทำเอาทั้งเรวินและลัลทริมาสะดุ้งไปตามๆ กัน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเด็กสาวที่ต้องเบิกตากว้าง..
“เธอโกหกเรื่องความจำเสื่อมงั้นเหรอ? ได้..ฉันขอไล่เธอออก ลัลทริมา!!!!” เสียงตะโดนด้วยความโกรธดังขึ้นมา และเป็นเสียงที่สามารถกระชากวิญญาณของเธอออกจากร่างได้เลยทีเดียว
..ไม่น้า~..
-TBC-
ความคิดเห็น