คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : >>:: Chapter 10
CHAPTER 10
ออดคาบบ่ายดังขึ้นมา แล้วนักเรียนที่ยังคงนั่งเล่นกันบ้าง คุยกันบ้าง หรือที่ยังคงรับประทานอาหารไม่เสร็จก็รีบวิ่งเข้าห้องเรียนกันอย่างรีบร้อน ไม่เว้นแม้แต่ลัลทริมาที่แม้จะพยายามมาให้เร็ว แต่เพราะเจ็บขาอยู่ จึงทำได้แค่เดินกะเผลกๆ เท่านั้น
“ทำไมซวยอย่างนี้” เธอร้องบ่นกับตัวเอง พลางนึกย้อนไปราว 10 นาทีที่ผ่านมาก่อนหน้า
บังเอิญมีครูเดินเข้ามาหาโชติกาล และเรียกให้เด็กหนุ่มไปช่วยทำงานให้ต่อ ทำให้ลัลทริมาต้องนั่งอยู่คนเดียว ตอนแรกเธอก็กะจะขึ้นห้องตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ยังไม่อยากจะเดินมาก.. แต่ถ้ามาเทียบกับตอนนี้แล้ว..รู้งี้ เธอขึ้นห้องมันซะตั้งแต่ 10 นาทีที่แล้วซะก็ดีหรอก
..ไม่น่าเลยเรา..
และก็เป็นจริงตามที่คาดไว้ เธอขึ้นห้องช้าที่สุด แถมเมื่อเปิดประตูเข้ามา อาจารย์ก็ยืนอยู่ที่หน้าห้องซะแล้ว
“มาช้านะ ลัลทริมา” อาจารย์กล่าวทักทาย
“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เธอตอบ “ขออนุญาตเข้าห้องได้มั้ยคะ?”
“แล้วถ้าฉันไม่อนุญาตล่ะ?” อาจารย์ถามเสียงเข้มอย่างลองเชิง
“หนูก็จะไม่เข้า..” เธอตอบเสียงแผ่ว
“งั้นฉันก็ไม่อนุญาต” อาจารย์ว่า “เธอมัวทำอะไรอยู่ นี่มันผ่านมา 4 ซะ 5 นาที ได้แล้วนะ กล้าดียังไงถึงเข้าเรียนช้าอย่างนี้”
..เอ่อ อาจารย์คะ กรุณาดูสภาพหนูก่อนไม่ได้รึไง.. เด็กสาวคิด พลางมองอาจารย์ด้วยแววตาสำนึกผิด
“อ้าว แล้วทำไมถึงเยินขนาดนี้ล่ะเนี่ย?” ราวกับสายตาภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมของอาจารย์จะเพิ่งสังเกตเห็นสภาพของเธอได้
“พอดีโดนสุนัขจรจัดในโรงเรียนทำร้ายน่ะค่ะ” เธอตอบ พลางมองจิกสายตาไปทางพวกคุณชายที่นั่งหน้าสลอนอยู่ในห้อง
“ตายแล้ว! สุนัขพวกนั้นแย่มาก” อาจารย์ว่า “เอ้าๆ ไปนั่งที่ซะไป”
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อได้รับคำอนุญาต ลัลทริมาก็ค่อยๆ เดินกะเผลกเข้ามาในห้องด้วยความลำบากเล็กน้อย เมื่อมาถึงที่นั่ง เธอก็เลื่อนเก้าอี้และนั่งลงช้าๆ มองไปทางโต๊ะด้านขวานั้น..มันยังคงว่างเปล่า
..โชยังไม่กลับมาสินะ..
เธอถอนหายใจ ก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ศีรษะ พอมองไปก็เห็นอคินกระชากปลายผมเธออยู่
“ปล่อยซะ” เธอกดเสียงต่ำ เพื่อไม่ให้คนอื่นๆ ในห้องได้ยิน
“เธอว่าใครเป็นหมาไม่ทราบ?” อคินถามกลับ
“หูดีจังนะ”
“ที่เธอพูดน่ะ ฉันอาจไม่ได้ยิน แต่ที่อาจารย์พูดว่าสุนัขพวกนั้นแย่น่ะ แค่นี้ฉันก็รู้ชัดแล้วว่าเธอต้องด่าพวกฉันว่าเป็นสุนัข” เด็กหนุ่มพูดอธิบาย
“ถ้ารู้แล้วว่าฉันด่าพวกคุณชาย พวกคุณจะมาถามทำไม ว่าฉันด่าใคร” เธอตอบไป
“ย้อนมาก เดี๋ยวตบหนังหัวหลุดซะนี่” อคินว่า มือที่จับปลายผมเธออยู่ออกแรงกระชากมากขึ้น จนศีรษะของลัลทริมาเอนไปด้านหลัง ทำเอาแคปเปอร์รีบส่งเสียงห้ามอคิน
“ไม่ต้องยุ่งแคปเปอร์ ฉันคุยกับยัยนี่อยู่” อคินหันไปต่อว่าเพื่อนเขา
“งั้นแกก็ใช้ปากคุยไปสิ จะใช้มือดึงผมคุณลัลเขาไว้ทำไม” แคปเปอร์เถียงกลับมา พลางยื้อแขนมาฉุดมืออคินออก
“ปล่อยซีโว้ย ไอ้แคปเปอร์”
“แกนั่นแหละ ปล่อยคุณลัลซะ”
“โอ๊ย” ลัลทริมาอุทานออกมา ก่อนจะตวาดใส่ทั้งคู่ “ปล่อยทั้งคู่นั้นแหละ!!!”
“ไม่ปล่อยโว้ย” อคินตะโกนลั่นห้อง ก่อนจะต้องยอมปล่อยมือจากเส้นผมสีน้ำตาลของลัลทริมา เมื่อรู้สึกถึงแรงตีที่หลังมือของตนเอง
“เล่นอะไรห๊ะ อคิน” อาจารย์ถามเสียงขุ่น ทำเอาอคินถึงกับตีสีหน้าไม่ถูก
“เปล่าครับ”
“เห็นอยู่เต็มตา” เสียงตวาดลั่น “ไปเลย ยืนกระต่ายขาเดียวนอกประตูห้องซะ จะได้ไม่รบกวนเวลาคนอื่นเขาเรียน” สั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าห้องเรียน
“ชิ” อคินสบถ ก่อนจะลุกเดินออกไปด้วยท่าทางฮึดฮัด ทำเอาลัลทริมาถึงกับยิ้มเยาะใส่
“เธอก็ไปด้วย ลัลทริมา”
“หา..?” เธอหันมามองอาจารย์ทันที “ทำไมหนูถึงโดนด้วยล่ะคะ?”
“ก็เธอตะโกนขึ้นมาซะเสียงดัง เพื่อนเขากำลังเรียนกันอยู่นี่นา” อาจารย์ว่า พลางบอกให้เธอลุกขึ้นเดินไป ซึ่งลัลทริมาก็ได้แต่จำใจลากสังขารตัวเองตามอคินไป
+++++++++++++++++++++
“เพราะเธอแท้ๆ ทำให้ฉันต้องซวยแบบนี้” อคินว่า พลางกอดอกฮึดฮัดทำท่าไม่พอใจ
“ยังจะมีหน้ามาโทษคนอื่นเขาอีกนะคะ คุณชาย” ลัลทริมาตอกกลับ
“ก็ถ้าเธอไม่บอกให้ฉันปล่อย อาจารย์ก็คงไม่เดินมาทางพวกเราหรอก” อคินว่า
“ก็แล้วถ้าคุณชายไม่ดึงผมฉันไว้ตั้งแต่แรก มันก็คงไม่มีปัญหาแบบนี้หรอก” เด็กสาวเถียงกลับ พลางยืนจ้องหน้ากับอคินแบบไม่กลัวเกรง
“ยัยบ้า” เด็กหนุ่มตาสองสีกล่าว ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
..จริงสิ ยัยนี่ยังบาดเจ็บอยู่นี่นา ถ้าทำให้เจ็บกว่านี้ล่ะก็..จะน่าสนุกขนาดไหนกันนะ..
“หน้าตาบ่งบอกว่าต้องการทำชั่วอย่างชัดเจนเลยนะคะ คุณชาย” ร่างบางโพล่งออกมา หลังจากที่เห็นสีหน้านึกสนุกของอคิน ทำให้เด็กหนุ่มต้องรีบหุบรอยยิ้มทันที
“อย่ามาทำเป็นรู้มากนะ ยัยโง่” เด็กหนุ่มตอบ “เฮ้อ เซ็งโว้ย ทำไมต้องเป็นยัยแก่หนังเหี่ยวคนนี้ด้วยนะ ถ้าเป็นอาจารย์คนอื่น ฉันคงไม่โดนทำโทษแบบนี้แน่ๆ”
คนฟังเหลือบตามองคุณชายข้างๆ ตนอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้ ..หนอย เจ้าพวกมีเส้นเอ๊ย..
คาบเรียนแห่งการทำโทษนี้ผ่านไปแล้ว อคินกับลัลทริมาจึงเดินกลับเข้ามาในห้องเรียนด้วยอาการที่ยังคงมึนตึงใส่กันไม่หาย หากแต่อาจารย์กลับประกาศเสียงดังฟังชัด ว่าวันนี้โรงเรียนจะเลิกเร็วกว่าปกติ เพราะคณะครูอาจารย์มีประชุมต่อจากคาบนี้ ทำเอานักเรียนทั้งห้องต้องส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจ
“เก็บอาการหน่อยสิ นักเรียน” อาจารย์ว่าเสียงเขียว ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจบางๆ เมื่อนักเรียนทุกคนตอนนี้ไม่ฟังที่เธอพูดเลย “เอาล่ะๆ เลิกเรียนได้ อ้อ เลิกเร็วก็อย่าเถลไถลล่ะ รีบๆ กลับบ้านไปอ่านหนังสือกันนะ” พูดจบอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไป
หลังจากที่อาจารย์เดินพ้นเขตประตูห้องไปแล้ว นักเรียนทั้งหลายแหล่ต่างก็รีบเก็บสัมภาระทั้งหลายเข้ากระเป๋ากันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพุ่งออกจากห้องกันไป เหลือไว้เพียงนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมาย
“นี่ยัยเอม ไหนๆ วันนี้ก็เลิกเร็วแล้ว ฉันว่าชวนลัลไปเที่ยวดีมั้ย?” มัณฑินีซุบซิบกับเพื่อนสาวคนสนิทของตน ก่อนจะมองมาทางลัลทริมา
“เอาดิ่” เอมิกาเห็นด้วย แล้วเธอก็ลากมัณฑินีเดินเข้ามาหาลัลทริมาที่กำลังนั่งเก็บของอยู่ที่โต๊ะตัวเอง โดยที่สาวห้าวนั้นไม่หวั่นเกรงต่อสายตาของพวกคุณชายที่กำลังจดจ้องเธอเลยแม้แต่น้อย
“นี่ลัล วันนี้เลิกเร็ว ไปเที่ยวกันมั้ย?” เอมิกาชวน พร้อมกับยิ้มอย่างแจ่มใสให้ลัลทริมา
ร่างบางเจ้าของดวงตาแสนเศร้ายิ้มให้ ดีใจที่มีคนมาชวนไปเที่ยว ปากบางกำลังจะอ้าตอบคำถาม..แต่กลับถูกใครบางคนแทรกขึ้นมาก่อน
“ไปไม่ได้หรอก” เชียรพูด
“ขอโทษนะ ฉันถามลัลน่ะ นายชื่อลัลรึไง?” เอมิกาหันมาจ้องหน้าเชียร
“ไม่ได้ชื่อลัล แต่จะตอบแทน มีอะไรมั้ย?”
“ไม่ได้ชื่อลัลก็อย่ามายุ่ง” สาวห้าวพูด พลางทำไม่สนใจเชียร หันกลับมายิ้มให้ลัลทริมา “ว่าไงลัล?”
“เอ่อ คือฉัน”
“ไม่ให้ไป!!” เสียงการินแทรกขึ้นมาอีก ทำเอาเอมิกาชักจะอดทนไม่ไหว ที่พวกนี้ ส.ใส่เกือกกันมากเกินไปแล้ว “เอ๊ะ ก็บอกว่าถามลัล ถ้าไม่ได้ชื่อลัลก็ไม่ต้องมายุ่งได้มั้ย!?”
“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ในเมื่อพวกฉันเป็นเจ้าของของยัยนี่ เพราะฉะนั้น ยัยนี่จะทำอะไรไม่ได้ หากไม่ได้รับคำสั่งจากพวกฉัน”
“นี่ ฉันรู้แล้วล่ะน่า ว่าลัลเป็นคนรับใช้พวกนาย แต่อย่ามาทำเหมือนเธอเป็นแรงงานทาสที่ไม่มีอิสระอย่างนั้นเซ่” เอมิกาขึ้นเสียงเถียงใส่อย่างเหลืออด
“หยุดแหกปากไป ยัยทอม” อคินว่า “ที่ยัยนี่ได้มาอยู่ที่นี่ ได้มาเรียนโรงเรียนนี้น่ะ ไม่ถือว่าได้รับอิสระรึไง?”
บรรยากาศในห้องเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ผู้ที่เป็นตัวปัญหาจึงต้องเอ่ยกับเพื่อนสาวสองคนอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษนะ เอม นี ฉันคงไปไม่ได้หรอก”
“ลัล เธอยอมพวกเขามากเกินไปแล้วนะ” เอมว่า
“ไม่ได้ยอมหรอก แต่พอดีว่าต้องรีบกลับไปทำงานบ้านที่เหลืออยู่ให้เสร็จน่ะ” เด็กสาวยิ้มหมอง “เพราะฉะนั้น ต้องขอโทษจริงๆ นะ”
“พอเถอะน่ายัยเอม ยิ่งแกไปโวยวายแบบนี้ ลัลเขายิ่งลำบากใจนะ” มัณฑินีพูดขึ้นมาบ้าง พลางดึงแขนของเอมิกาให้ออกไปจากตรงนี้กัน
“เข้าใจแล้ว” เอมิกาตอบ ก่อนจะยอมเป็นฝ่ายเดินจากไปเอง..
“เหอะ” อคินพ่นลมหายใจออกมาอย่างพอใจในความรู้สึกชนะ(?) ก่อนจะหันมาจ้องหน้าลัลทริมา “เธอก็กลับได้แล้ว”
“รู้แล้ว” ลัลทริมากระแทกเสียงใส่อคิน ก่อนจะค่อยๆ เดินฝืนความเจ็บออกไปจากที่นั่งช้าๆ
“ฉันว่าเราก็ควรกลับกันได้แล้วมั้ง” ชินะเอ่ยขึ้นมา พลางลุกออกจากที่นั่งช้าๆ
“ผมเห็นด้วยกับคุณชายชิน” เรวินว่า “ตอนนี้อยากกลับไปพักผ่อนมาก”
“ใช่ๆ ฉันก็เห็นด้วย” ภามว่าพร้อมกับอ้าปากหาว
เป็นอันว่าทุกคนลงความเห็นว่าจะกลับบ้านกัน โดยไม่คิดจะแวะเที่ยวที่ไหนเลย ทั้งๆ ที่ตามปกติ การเลิกเร็วของคุณชายนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะพวกเขาจะต้องไปเที่ยวต่อกันแท้ๆ
อคินเดินนำเพื่อนออกมาจากห้องด้วยท่าทางออกจะร่าเริงเกินเหตุ และยิ่งร่าเริงเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นว่าร่างบางที่เดินออกมาจากห้องก่อนพวกเขาเพิ่งเดินลากขาไปถึงมุมบันไดเท่านั้นเอง
..เหอะๆ แกล้งดีกว่า..
คิด พลางเดินจ้ำเข้าไปใกล้ลัลทริมา เล่นเอาพวกคุณชายที่เดินตามหลังถึงกับงง ไม่เว้นแม้แต่เด็กสาวเอง ที่ทำสีหน้างงและตกใจเล็กน้อย..
“เอ้า เป็นอะไรไปยัยคนเก่ง ทำไมเดินเป็นเต่าคลานแบบนี้ล่ะ” อคินถาม ขณะที่เดินเข้ามาขนาบข้างลัลทริมา
“ไม่ต้องมายุ่งหรอกค่ะ” ลัลทริมาตอบ
“โอ๊ย ฉันอุตส่าห์ถามอย่างเป็นห่วง” อคินแสร้งทำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเดินแซงลัลทริมาลงบันไดไป แต่เด็กหนุ่มกลับหยุดกึกซะก่อน และหันมามองเด็กสาวที่กำลังค่อยๆ ก้าวลงบันไดอย่างช้าๆ
“อะไรของเธอ กลัวบันไดกัด?”
“ไม่เท่ากลัวคุณชายกัดหรอกค่ะ” เด็กสาวตอบเหมือนไม่ใส่ใจ พลางค่อยๆ เขยกลงบันไดอย่างช้าๆ มือก็จับเอาราวบันไดไว้เป็นที่ยึด
“เห้ย!! ยัยบ้า” อคินขึ้นเสียง “มานี่ ฉันทำช่วย” ว่า พลางกระชากเอาแขนลัลทริมาข้างที่ยึดราวบันไดไว้อย่างแรง ทำให้เด็กสาวที่ตอนนี้กำลังเจ็บแผลที่เข่าถึงกับเซ ขาที่กำลังก้าวลงบันไดก็ก้าวพลาดขั้นทันที
ร่างบางปลิวถลาพร้อมที่จะกลิ้งตกบันได
“เฮ้ย!” อคินโพล่งขึ้นมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเธอจะเสียหลักได้ขนาดนี้.. ร่างที่กำลังจะร่วงลงไปต่อหน้าของเขามองมาที่เขาด้วยแววตาหวาดกลัว.. กลัวขนาดที่ทำให้อคินต้องยื่นแขนแกร่งออกไปรับตัวเธอไว้ และดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แต่เพราะแรงจากการที่ตัวเธอชนเข้ากับเขามันมากเกินไป จึงทำให้ทั้งเขาและเธอตกบันไดไปพร้อมๆ กัน
พลั่ก กก
“เห้ย!!!!!” เหล่าคุณชายที่เดินตามหลังมาต่างอุทานออกมาด้วยความตกอกตกใจกัน เมื่อเห็นคุณชายอคินเล่นบทบู๊โดยไม่อาศัยสตั๊นแมนเลยแม้แต่น้อย.. (มันใช่เวลาคิดอย่างนี้มั้ยเนี่ย?) จึงรีบวิ่งลงบันไดมากันยกใหญ่
“อูยย” อคินส่งเสียงร้องโอดโอย พร้อมๆ กับคลายอ้อมแขนของตนออก ก่อนจะยันกายลุกขึ้นมานั่ง พลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อยๆ
“เป็นไงบ้าง ไอ้อคิน” การินรีบถามเพื่อนชายของเขาทันที
“ไม่เป็นไรมากหรอก” อคินตอบ ก่อนจะหันมามองลัลทริมา.. หากแต่ร่างบางกลับหมดสติไปแล้ว แถมที่โคนผมก็ยังมีเลือดไหลออกมาอีกด้วย
“เห้ยอะไรวะ? หัวฉันก็กระแทกนะ ไม่เห็นแตกเลย” อคินว่าออกมาด้วยความตกใจ
“แกหัวแข็งไง” แคปเปอร์ตอบ ก่อนจะรีบหันไปสนใจลัลทริมา “คุณลัลครับ!”
“แบบนี้ไม่ดีแน่” เรวินว่า พร้อมๆ กับถลาเข้ามาเพื่อจะอุ้มร่างบางขึ้น แต่กลับต้องหยุดกึกเสียก่อน เมื่อคนที่ถึงตัวลัลทริมาก่อนใครเพื่อน..คือคุณชายชินะ
ท่ามกลางความตกตะลึงของคุณชายคนอื่นๆ ชินะอุ้มเด็กสาวขึ้นมาไว้ ก่อนจะมองไปที่เรวินด้วยสีหน้าร้อนรนเล็กน้อย “รีบเอารถมารับหน้าตึกที เราต้องรีบพายัยนี่ไปโรงพยาบาล”
-TBC-
ความคิดเห็น