ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #10 : >>:: Chapter 8

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 56





    CHAPTER 8

     

     

     

     

    “งั้นก็ต้องขอโทษด้วย  ถ้าฉันจะบอกว่า..ถ้าอยู่ในบริเวณโรงเรียนแห่งนี้  พวกนายไม่มีสิทธิ์รังแกเธอไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ทั้งสิ้น  ไม่อย่างนั้น  ฉันจะลงโทษพวกนายแน่  ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้” ลัทธพลตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

     

    .

    .

    .

     

    การินมองหน้าลัทธพล  ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “หึ  คิดว่าจะทำอะไรพวกฉันได้  พ่อฉันเป็นใคร  คุณก็น่าจะรู้นะ  คุณลัทธพล”

     

    “ถึงจะเป็น ผอ. ฉันก็ไม่ยอมให้เข้ามายุ่งกับงานดูแลและควบคุมความประพฤตินักเรียนของพวกเรากรรมการนักเรียนได้หรอกนะ”

     

    “ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ  คุณลัทธพล” การินพูดพลางทำหน้าท้าทาย

     

    “แน่นอนว่าฉันทำได้” ลัทธพลตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “อีกอย่าง นายเลิกเรียกฉันว่าคุณลัทธพลสักทีเถอะ  ฟังแล้วมันดูแปลกๆ นะ  ถ้าจะเรียกแบบปกติเหมือนที่นายเคยเรียกบ่อยๆ ว่าพี่ลัทธ มันจะฟังคุ้นหูมากกว่า”

     

    “ฉันอยากเรียกนายว่าคุณ มีไรมั้ย?”

     

    ลัลทริมาที่ได้แต่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของลัทธพลจึงเอ่ยขัดขึ้นมา

     

    “คือว่า  คุณลัทธพล..” เธอเรียกชื่อเขา  ตามที่ได้ยินพวกการินเรียกเมื่อครู่

     

    “หืม?” คนถูกเรียกก้มหน้ามองเด็กสาว  ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย “จริงสิ  ต้องพาเธอไปห้องพยาบาลก่อน” ว่าแล้วก็หันหลังกลับทันที  ทำเอาการินมองตามอย่างไม่พอใจ  และอคินจึงเอ่ยเรียกเอาไว้ก่อน

     

    “เดี๋ยวสิ  จะไปไหนน่ะไอ้รุ่นพี่  ยังพูดกันไม่จบเลยนะ!

     

    “พวกนายรออยู่นี่แหละ  ถ้าเสร็จธุระ  ฉันจะกลับมาเถียงต่อให้ก็ได้” ลัทธพลหันหน้ามาบอก  ก่อนจะหันกลับและเดินต่อไปอย่างไม่สนใจฟังเสียงเรียกของพวกคุณชายเลยแม้แต่น้อย

     

     

    “อ๊ะ คือว่า..จริงๆ แล้ว  ให้ฉันเดินเองก็ได้นะคะ” ลัลทริมาพูดเสียงอ้อมแอ้ม  ขณะที่เธอกำลังถูกอุ้มมาในอ้อมแขนของลัทธพล

    “ไม่ได้หรอก  ตอนที่เธอล้มเมื่อกี้นั้นมันทำให้เข่าเธอเป็นแผลนะ ถ้าให้เดินเอง  จะรู้สึกเจ็บซะเปล่าๆ” เขาตอบกลับ

     

    “แต่ว่า..” พูดได้แค่นั้น  ลัลทริมาก็พูดอะไรไม่ออกอีก  เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ข้อมือ และเข่าของเธอขึ้นมา

     

    “เห็นมั้ยล่ะ ^^

     

    ++++++++++++++++++++

     

    ณ ห้องพยาบาล

     

    เด็กสาวผมสีน้ำตาลนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง  โดยมีชายอีกคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ตรงพื้นเบื้องหน้าของเธอ  ในขณะที่มือของเขาก็กำลังเทน้ำยาฆ่าเชื้อโรคใส่สำลี  และเช็ดที่เข่าของเธออย่างเบามือ

     

    “เอ่อ  คุณลัทธพลคะ  ฉันทำแผลเองก็ได้ค่ะ” เด็กสาวบอกเขาอย่างเกรงใจ  แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ได้สนใจจะฟังที่เธอพูดเลย  เขาค่อยๆ ล้างแผลให้เธอ  จากนั้นก็หยิบเอาสำลีที่ชุบทิงเจอร์ไอโอดีนมา

     

    “แสบนิดนึงนะ” เขาบอกเสียงนุ่ม

     

    “อ๊ะ..” ลัลทริมาอุทานออกมาเพราะความเจ็บ เธอพยายามกัดริมฝีปากเอาไว้

     

    ..ทำไมมันแสบอย่างนี้เนี่ย..

     

    “คุณลัทธพลคะ”

     

    “หืม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าลัลทริมา  เด็กสาวขยับปากเหมือนจะพูดอะไร  แต่จู่ๆ กลับไม่ยอมพูดออกมาซะงั้น  ทำให้ลัทธพลยิ้มออกมาน้อยๆ “เอ้อ จริงสิ  ไม่ต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้นก็ได้  เรียกลัทธเฉยๆ เถอะนะ”

     

    “อ่ะค่ะ  คุณลัทธ” ลัลทริมายิ้มเล็กน้อย

     

    “อืม  ไม่เอาคำว่าคุณด้วย  เรียก พี่ลัทธ ดีกว่า” เขาว่า  พลางคว้าหาผ้าพันแผลมาพันให้เธอ

     

    “จะดีเหรอคะ?”

     

    “อื้ม  เรียกพี่ลัทธเถอะ  ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก”

     

    “ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ “ว่าแต่..ทำไมพี่ลัทธถึงได้ช่วยเหลือฉันขนาดนี้ล่ะคะ”

     

    “ก็...ในฐานะประธานนักเรียนน่ะนะ” ลัทธพลยิ้ม “อีกอย่าง  อาจเป็นเพราะว่าพี่รู้สึกถูกชะตากับลัลด้วยล่ะมั้ง”

     

    “เอ๊ะ?” ร่างบางตาโตทันที “ถูกชะตากับฉันเนี่ยนะคะ!?

     

    “อืม..ก็ลัลน่ะ  เหมือนกับน้องสาวพี่มากๆ เลยล่ะ  พี่เลยรู้สึกว่า พี่ถูกชะตากับเธอไง ฮะๆๆ” ลัทธพลพูดและหัวเราะน้อยๆ  หากแต่ลัลทริมากลับเห็นว่ารอยยิ้มนั้นมันช่างเหมือนรอยยิ้มที่เสแสร้งขึ้นมา  เพราะแววตาของลัทธพล...มันไม่ได้ยิ้มและหัวเราะตามเลย  แต่มันกลับดูหม่นอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ขอโทษนะคะ  แล้วน้องสาวพี่..”

     

    “เธอตายไปแล้วล่ะ” ลัทธพลตอบ

     

    “ตายแล้ว!!?”

     

    “อืม” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเศร้าๆ 

     

    “เอ่อ  ขอโทษที่ถามนะคะ” ลัลทริมาหน้าเศร้าลงทันที  ที่เธอดันถามอะไรที่ไม่เข้าเรื่องซะได้ 

     

    ..ตายแล้ว  นี่แกทำอะไรลงไปลัล  พี่ลัทธหน้าเศร้าเลยนะ  แกถามอะไรออกไปเนี่ย..

     

    คิ้วบางของเธอขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความเศร้าและโกรธ  โกรธที่ตัวเองไปถามอะไรแบบนั้นเข้า  ทำเอาคนที่มองหน้าเธออยู่ถึงกับยิ้มออกมา

     

    “ไม่เป็นไรหรอก” เด็กหนุ่มพูด  พลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน  นิ้วชี้จิ้มไปที่หว่างคิ้วของลัลทริมาอย่างหยอกล้อ “อย่าคิดมากเลยน่า  อีกอย่างเรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานแล้วด้วย  พี่ไม่คิดมากหรอก”

     

    “ค่ะ  ขอบคุณที่ไม่โกรธนะคะ” เธอว่า  แต่ใบหน้าหวานก็ยังคงมีแววรู้สึกผิดอยู่เช่นเดิม

     

    “ไม่เอาน่าลัล  พี่บอกว่าอย่าคิดมากไงล่ะ” ลัทธพลพูด  พร้อมกับลูบหัวลัลทริมาเบาๆ  เธอช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของเขา  แววตาและรอยยิ้มอบอุ่นของลัทธพล..  ความอบอุ่นที่เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก 

     

    “ค่ะ  พี่ลัทธ”

     

    “อืม  งั้นก็..รออยู่นี่นะ  เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้กิน”

     

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ  พอดีฉันนัดเพื่อนไว้แล้ว”

     

    “หืม?  ก็ได้  งั้นพี่ไปนะ  ต้องไปเคลียร์กับพวกคุณชายต่อ..  แล้วก็  ลัล เวลาพูดกับพี่น่ะ อย่าเรียกแทนตัวเองว่าฉันสิ มันฟังดูห่างไกลแปลกๆ นะ” ว่าแล้วก็เดินหันหลังออกจากห้องไป  ปล่อยให้ลัลทริมาพึมพำตอบคนเดียว

     

    “เอ่อ  ค่ะ”

     

    +++++++++++++++++++++++++

     

    “ไง  คุณชาย  ยังรออยู่ที่นี่กันอีกเหรอเนี่ย” ลัทธพลพูด  ขณะที่กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกคุณชาย..ที่ตอนนี้กำลังยืนทำหน้าบูดบึ้งกันอยู่

     

    “นายเอายัยนั่นไปไว้ไหน” ชินะถาม

     

    “ลัลอยู่ห้องพยาบาล” เด็กหนุ่มรุ่นพี่ตอบ 

     

    “ไปเอายัยนั่นมาคืนพวกฉันเลยนะ” คุณชายผมขาวพูด  พลางมองไปที่ลัทธพลอย่างออกคำสั่ง

     

    คนถูกจ้องยิ้มน้อยๆ “ไม่ได้หรอก”

     

    “แต่นายเป็นคนเอาของของพวกเราไป  เพราะฉะนั้นนายนั่นแหละ  ต้องไปเอามาคืน” เชียรช่วยพูด

     

    หากแต่ลัทธพลกลับไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก  เขาส่ายหน้าน้อยๆ “ฉันไม่มีสิทธิ์คืนลัลให้พวกนาย..เพราะลัลไม่ใช่ของของฉันซะหน่อย  แต่จะว่าไป  เค้าก็ไม่น่าใช่ของของพวกนายนี่นา”

     

    “ใช่สิ” การินว่า “ยัยนั่นเป็นของของพวกฉัน  ของราคาต่ำที่พวกฉันเก็บเอาไว้เล่นเท่านั้นเอง  แต่เดี๋ยวก็จะเฉดหัวทิ้งแล้วล่ะ”

     

    “นายไม่ควรพูดแบบนั้นนะการิน” ลัทธพลต่อว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “แม้ว่าลัลจะเป็นคนรับใช้บ้านนายก็เถอะ  แต่นายไม่ควรที่จะดูถูกเธอ  เห็นแบบนั้น  เธออาจจะมีค่ามากกว่าที่นายคิดก็ได้นะ”

     

    “แล้วมันจะสักเท่าไหร่กันเชียว” อคินสบถออกมา

     

    “ตอนนี้นายอาจจะยังมองไม่เห็น  แต่ถ้าเสียมันไป  นายอาจจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บใจเองก็ได้”

     

    “พูดบ้าๆ ถึงเสียไป  พวกฉันก็ไม่คิดเสียใจหรอกนะ  กลับกันอาจจะดีใจมากกว่าที่คิดก็ได้” เจ้าของเรือนผมสีดำแซมๆ ด้วยสีเงินพูด มุมปากมีรอยยิ้มร้ายๆ แฝงอยู่ด้วย

     

    “ก็แล้วแต่จะคิดนะ” ลัทธพลถอนหายใจ  ถึงคุยกับคุณชายพวกนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก  พวกใจจืดใจดำแบบนี้น่ะ  สู้เอาเวลานี้ไปทำงานยังจะดีกว่าอีก “เฮ้อ  ขอตัวล่ะ  งานของฉันเยอะน่ะ  ไม่อยากเสียเวลากับพวกนาย” พูดจบก็หันหลังเดินไปทันที  ทำเอาพวกคุณชายถึงกับไม่พอใจตะโกนไล่หลังให้เขา

     

    “โถ่  แน่จริงก็อย่าหนีสิ”

     

    ++++++++++++++++

     

    ร่างบางเดินออกมาจากห้องพยาบาลด้วยความรู้สึกสับสนปนเขินอายเล็กน้อย  สัมผัสอันอบอุ่นจากมือของลัทธพลยังคงหลงเหลืออยู่

     

    “ทำไม..ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยจังเลยนะ” เธอพึมพำกับตนเองเบาๆ ด้วยความไม่เข้าใจ “แถมมันยังอบอุ่น..ยิ่งกว่าที่แม่เคยทำให้ซะอีก”

     

    “บ่นอะไรคนเดียวน่ะ”

     

    “อ๊ะ” ลัลทริมาสะดุ้งตกใจกับเสียงของใครบางคนที่เอ่ยแทรกขึ้นมา  ร่างบางเหลียวหันไปมองก็พบกับใบหน้าน่ารักภายใต้กรอบแว่นหนาของโชติกาล

               

    “ตกใจหมดเลย  ที่แท้ก็นายนี่เอง”

               

    “ว่าแต่..ข้อมือเป็นอะไรเหรอ  ทำไมถึงพันผ้าพันแผลล่ะ” โชติกาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

               

    “เอ่อ  นายไม่เห็นเหตุการณ์เหรอ?”

               

    “ทำไมล่ะ?  เหตุการณ์อะไร” หนุ่มแว่นถามด้วยสายตางุนงง

               

    “คือ  ถ้าไม่เห็นก็ดีแล้วล่ะ” ลัลว่า  พร้อมยิ้มแห้งๆ ให้โชติกาล  แต่หนุ่มแว่นกลับยิ่งสงสัยในคำพูดของเธอมากขึ้น

               

    “โดนพวกคุณชายแกล้งเหรอ?”

     

                คำถามที่ถามได้ตรงจุดเป๊ะของโชติกาล  ทำเอาลัลทริมาเหงื่อตกเล็กน้อย  เธอมองหน้าเขาก่อนยิ้มบางๆ

               

    “นิดหน่อยน่ะ..”

               

    “ไม่นิดแล้วล่ะมั้ง  แบบนี้น่ะ” โชติกาลพูด  พลางจับข้อมือของลัลทริมาเบาๆ “เจ็บมั้ย”

               

    “ไม่หรอก” เด็กสาวพูด  ก่อนจะชักมือกลับ 

               

    “ฉันว่าเธอยอมพวกคุณชายเกินไปรึเปล่าน่ะ”

               

    “ไม่ได้ยอมหรอก  พอดีมันเป็นเหตุสุดวิสัยน่ะ” ร่างบางบอก “อีกอย่าง  ได้พี่..เอ่อ  ประธานนักเรียนมาช่วยไว้พอดี  เลยไม่เป็นอะไรมากน่ะจ้ะ”

     

    “งั้นเหรอ” เด็กหนุ่มพูด “อืม  คราวหน้าก็ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ” โชติกาลพูด  และพาลัลทริมาเดินออกไปจากหน้าห้องพยาบาล  ทิ้งไว้เพียงชายลึกลับหนึ่งคน..ที่ยืนแอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ที่มุมมืด..

     

    “สนิทกับผู้ชายดีจังนะ  ร้ายไม่เบานี่นา”








     

    -TBC-






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×