ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Fairy Tail] Fairy Hotter

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue :: หม้อไฟในตำนาน

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 56


    Title: Fairy Hotter

    Pairing: Multiple

    Fandom: Fairy Tail ©Hiro Mashima

    Auther: ยำไข่แมงดา





     

     PROLOGUE





     

    ..หม้อไฟในตำนาน..

    อันผู้ใดมีมันไว้ในครอบครอง

    ผู้นั้นจักยิ่งใหญ่คับแผ่นฟ้าและปฐพีหล้า

     

    กลับกัน

    พวกเขาก็จักดับดิ้นด้วยฤทธาของมันเช่นกัน

     

    ...เว้นแต่จอมเวทย์ดำเพียงผู้เดียว...

     

     
     

    ครั้งหนึ่ง..

              มีจอมเวทย์ผู้เก่งกาจคนหนึ่งสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างคล่องแคล่วและรุนแรง  ครั้งหนึ่งเขาเคยศึกษาเรื่องราวของการใช้เวทมนตร์จนกระทั่งถูกความมืดกลืนกิน  จอมเวทย์ผู้นั้นจึงสร้างหม้อไฟในตำนานขึ้นมา  เพื่อใช้มันสะสมพลังเอาไว้ให้มากพอที่จะทำลายล้างโลกใบนี้  เพื่อสร้างโลกใบใหม่ที่ตนปรารถนา
     

                    หลายปีถัดมา..

                    จอมเวทย์ดำนำหม้อไฟในตำนานไปยังบ้านหลังหนึ่ง  เพื่อที่จะกำจัดเด็กชายตัวน้อยที่สวมใส่ผ้าพันคอสีขาวเอาไว้  หากแต่เวทมนตร์ที่จอมเวทย์ดำโจมตีใส่เด็กชายนั้นกลับมิอาจทำอะไรเด็กชายได้  เพราะผ้าพันคอสีขาวที่เด็กชายพันเอาไว้นั้นช่วยสะท้อนพลังของจอมเวทย์ดำคืนกลับไป  ทำให้หม้อไฟในมือถูกพัดพากระเด็นหายไป พร้อมกับร่างของจอมเวทย์ดำที่ได้รับบาดเจ็บและหายวับไป
     

                    ..สิ่งที่หลงเหลือให้เด็กชายได้จดจำในเหตุการณ์ครั้งนั้นคือรอยแผลเป็น...ที่คอ

                    และเด็กชายคนนั้นก็กลายเป็นคนที่มีชื่อโด่งดังในโลกเวทมนตร์ในฐานะของ.....เด็กชายผู้รอดชีวิต!


     

    *************


     

                    I. หม้อไฟใบนี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากพลังของจอมเวทย์ดำ  ชายผู้ชั่วร้ายถึงขนาดที่มิมีผู้ใดกล้าที่จะเอ่ยเรียกนามของเขา

                    II. หม้อไฟในตำนานใบนี้คือสิ่งที่ใช้สะสมพลังเวทย์ของจอมเวทย์ดำ

                    III. หากจะกำจัดจอมเวทย์ดำ  ต้องกำจัดหม้อไฟในตำนานใบนี้ให้ได้เสียก่อน

              V.  ต้องค้นหาหม้อไฟในตำนานให้พบและทำลายมันให้เร็วที่สุด  ก่อนที่จอมเวทย์ดำจะค้นหามันพบและใช้มันเพื่อทำเรื่องยิ่งใหญ่

    IV. และหนทางเดียวที่จะกำจัดหม้อไฟในตำนานใบนี้ได้  คือ ต้องใช้ลมหายใจมังกรเพลิงจากเด็กชายผู้รอดชีวิตเท่านั้น

                   
     

    **หมายเหตุ**

    ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การโจมตีของจอมเวทย์ดำเมื่อครั้งกระโน้น  จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมิมีผู้ใดพบเห็นหม้อไฟในตำนานอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว 

    และหากผู้ใดพบเจอมัน...โปรดนำมาให้ทางสภาเวทมนตร์โดยเร็วที่สุด 

     

     

     

    - สภาเวทมนตร์บาลาม -

     

     

     

    มือขาวบางปิดหนังสือเล่มหนาลง  ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนได้อ่านไป
     

    นี่มันอะไร..?

    ทั้งที่เธออุตส่าห์เข้าไปยังส่วนลึกสุดของห้องสมุดเพื่อที่จะหาเอาหนังสือโบราณที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวมาอ่านเสียหน่อย  แต่กลับได้หนังสือเล่มนี้มาแทน..

     

    ..หนังสือเวทมนตร์หม้อไฟในตำนาน..

    ในตอนแรกที่เห็นชื่อของมัน  เธอคิดว่ามันเป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องสูตรในการทำหม้อไฟหรือสุกี้ที่ขึ้นชื่อในตำนานว่าสุดแสนจะอร่อยนั่นเสียอีก เลยหยิบมาเพื่อเอามาจดสูตรไปไว้ทำกินเอง แต่พอได้อ่านแล้ว...เนื้อเรื่องในหนังสือกลับกลายเป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดเอาไว้เสียได้

    แถมยังเป็นหนังสือที่ทางสภาเวทมนตร์บันทึกไว้เองเสียด้วย  ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ๆ

    และที่สำคัญคือ...เรื่องในหนังสือมันดันตรงกับเรื่องที่หม่าม้าของเธอเคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กอีกตะหาก

    “งั้นเรื่องที่เคยได้ยินมาจากหม่าม้าก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ” เธอพึมพำกับตนเองเบาๆ พลางนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่เธอกับแม่ของเธอนั่งดูดาวกันอยู่

     

    รู้มั้ยจ้ะ  ว่าโลกใบนี้มีจอมเวทย์ดำอยู่ด้วยเสียงของหญิงสาวเจ้าของใบหน้างดงามเอ่ยขึ้น  พร้อมยิ้มให้กับเด็กน้อยอีกคนที่อยู่ข้างๆ เธอ

    จริงเหรอคะหม่าม้า??

    จริงสิจ๊ะลูซี่  จอมเวทย์ดำผู้นั้นครอบครองหม้อไฟในตำนานเอาไว้  ว่ากันว่ามันเป็นสิ่งที่ใช้สะสมพลังของเขา  หากต้องการกำจัดเขา ก็ต้องกำจัดหม้อไฟใบนั้นด้วย  อ้อ..และการกำจัดหม้อไฟใบนั้นต้องอาศัยสิ่งสำคัญสองสิ่ง..

     

    และนั่นคือคำพูดของหม่าม้าเท่าที่ ลูซี่จำได้  เพราะหลังจากนั้นหม่าม้าก็เปลี่ยนเรื่องคุยเสียเฉยๆ  ไม่ยอมบอกเธอเลยว่าสิ่งสำคัญสองสิ่งนั้นคืออะไร..

    “อย่าบอกนะว่าหนึ่งในนั้นคือลมหายใจมังกรเพลิงของเด็กชายผู้รอดชีวิต” ลูซี่เอ่ยขึ้นมากับตนเอง  พลางวิเคราะห์ถึงสิ่งที่หม่าม้าเคยบอกและสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ

    ..มันตรงกันเป๊ะ!

    ใช่...ขาดไปเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ในหนังสือไม่ได้บันทึกเอาไว้

    “หรือบางทีหม่าม้าอาจจะเข้าใจผิดไป  เพราะในหนังสือก็บันทึกไว้แค่อย่างเดียวเองนี่ว่าสิ่งที่จะใช้กำจัดหม้อไฟนั้นได้คือลมหายใจมังกรเพลิงของเด็กชายผู้รอดชีวิต...” ลูซี่นั่งขบคิดไปเรื่อยจนชักจะรู้สึกปวดหัวขึ้นมาตงิดๆ  เธอจึงเลือกที่จะหยุดคิด  แล้วหยิบหนังสือเล่มอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของดวงดาวที่เธออยากจะอ่านนักขึ้นมาอ่านแทนเสียเลย

    ..คิดไปก็ปวดหัว  เลิกอ่านแม่มเลย !..

    .................................................................
     

    ณ บ้านที่เงียบสงบหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้พนาไพรโดดเดี่ยวจากใครอื่น..

     
     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
     

    โรงเรียนฝึกวิชาและเวทมนตร์ศาสตร์ชั้นสูง

    ฟิโอเร่

    ~

    อาจารย์ใหญ่ : มหาราชาคาโปะ

    (ราชาผู้ปกครองแผ่นดินฟิโอเร่)

     

     

    ถึง...คุณดรากูนีล

    เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าโรงเรียนฝึกวิชาและเวทมนต์ศาสตร์ฟิโอเร่ รับคุณเข้าเรียนในปีนี้  ที่แนบมาพร้อมกันนี้คือรายการหนังสือและของใช้จำเป็น

    โรงเรียนเปิดวันที่ 1 กันยายน ...



                                                    ขอแสดงความนับถือ

                                                               ฮิซุย

                                                       รองอาจารย์ใหญ่

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

     
     

    คำถามต่างๆ ระเบิดอยู่ในหัวของเด็กหนุ่มเหมือนดอกไม้ไฟชุดใหญ่ที่แข่งกันระเบิดตูมตาม

    นัตสึ  ดรากูนีลมองจดหมายสีเหลืองซึ่งถูกเขียนเอาไว้ด้วยตัวอักษรสีเขียวมรกตด้วยลายมือเรียบร้อยสวยงามที่อยู่ในมือของตนด้วยความไม่เข้าใจอย่างเป็นที่สุด

    “นี่มันอะไรกันฟระ?”

    เด็กหนุ่มลองหยิบจ่าหน้าซองของจดหมายขึ้นมาดู  ซึ่งมันเขียนถึง  ด. นัตสึ นั้น  แสดงว่ามันไม่ได้ส่งให้ผิดคนอย่างแน่นอน  และที่สำคัญ..ในจดหมายมันก็ระบุถึงเขาไว้ด้วยนั่นแหละ ว่าถึงคุณดรากูนีล

    แต่จากเนื้อหาที่อยู่ในจดหมายแล้ว  บอกตามตรงเลยว่านัตสึไม่ได้เข้าใจเนื้อความของมันเลยสักนิดเดียว  เช่นนั้นแล้วเขาจึงเลือกที่จะปาจดหมายในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี   ก่อนจะหันไปสนใจกับมื้อเย็นที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารต่อไป

    แต่ยังไม่ทันได้ลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า..จู่ๆ เสียงประตูหน้าบ้านก็ดังสนั่นขึ้นมาราวกับว่าใครบางคนกำลังรัวเคาะมันอย่างไม่แยแสเลยว่าประตูที่ทำจากไม้นั้นมันจะพังเอาได้

    แล้วเสียงเคาะประตูก็หายไป...แทนที่ด้วยประตูที่ถูกถีบเสียจนมันพังลงมาทั้งบาน...ต่อหน้าต่อตาเจ้าของบ้าน...

    “ไง” อาคันตุกะผู้มาเยือนเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม  ก่อนจะเดินเข้ามาในบ้านทั้งที่ไม่ได้ถูกรับเชิญ

    เขามีรูปร่างสูงใหญ่  เรือนผมสีน้ำตาล  และใบหน้าหล่อคมตามแบบฉบับของคุณลุง  เขาสวมชุดคลุมยาวสีดำกรอมพื้น  และมีรอยยิ้มเป็นมิตรอย่างที่สุด

    “นายเป็นใครฟระ!?” นัตสึเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ  หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน

    “ฉันชื่อกิลดาร์ซ  ไคลฟ์” ชายร่างสูงเอ่ยตอบ  ก่อนจะถามนัตสึอีกครั้ง “นายคงได้รับจดหมายแล้วสินะ”

    แม้จะยังงงๆ  แต่นัตสึก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้กับชายแปลลกหน้า

    “ดีล่ะ” กิลดาร์ซยิ้ม  “งั้นฉันจะพานายไปซื้อของตามกระดาษใบที่แนบมากับจดหมายนั่น”

    “แล้วทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะ?” นัตสึเอ่ยถาม

    “นายรู้ตัวนายเองดี...ว่านายมีความพิเศษ  แล้วนายไม่คิดจะเข้าเรียนเวทมนตร์ที่นี่บ้างรึไง  บางที...นายอาจจะสามารถใช้เวทมนตร์จนเก่งกาจขึ้นมากเลยก็ได้นะ” กิลดาร์ซว่า

    คนฟังทำตาเป็นประกายอย่างนึกสนุกทันที “จะเก่งกาจขึ้นจริงเหรอ?  จริงเหรอ..???”

    “จริงสิ” คนอายุมากกว่าตอบ “งั้นก่อนอื่นก็ต้องไปซื้อของกันก่อน”

    “ไปซี่~~” นัตสึตอบรับอารมณ์ดี..  (เสียจนคนอ่านคงจะงงว่าอะไรของมัน  เมื่อกี้ยังทำไม่สนใจอยู่แท้ๆ ทีตอนนี้ทำเริงร่าอยากไป = =) “ว่าแต่เราจะไปซื้อของที่ไหนกันน่ะ?”

     

                    “ตรอกไดแอกอน 
      




            -TBC-



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×