ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Ebook] Only One รักคุณเพียงหนึ่ง #เพียงอุ่นไอ

    ลำดับตอนที่ #8 : PART I : EPISODE 03 : 'แอบ' คิดมาก [1/4]

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 64


    ​​

    sds

    Facebook Messenger

    กลุ่มนี้มีแต่วัยรุ่นนมผงเขาอยู่กัน

    09.33 PM

    Pinky Pimmada : โอ้ยยยย ทำไมมึงไม่ติดแคปชันสักหน่อยว้าา ไม่หนุกเลย

    Saikeaw Piriyaniwat : แต่กูก็คิดไว้แล้วนะว่ายังไงไอมันก็ไม่เขียนอะไรแน่ ๆ 5555

    Pinky Pimmada : แล้วอย่างนี้มันจะสื่อไปถึงพี่เขาไหมล่ะค้าา ทำแค่นี้ผู้ไม่รู้หรอกว่าชอบเขาอะค่ะ

    ง่า แต่เค้าไม่กล้านี่นา TT : ME

    แล้วก็จริง ๆ ยังไม่อยากให้พี่เขารู้ด้วยอะ มันกลัว : ME

     

     

    ฉันรัวนิ้วพิมพ์ตอบเพื่อนด้วยความรู้สึกที่แสนหลากหลายปะปนกันไป หัวใจก็เต้นระส่ำด้วยกังวลว่าการตัดสินใจของตัวเองมันดีแล้วหรือยัง แม้จะรู้ว่าถึงคิดมากไปก็คงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วก็ตาม

    คือฉันเป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยอะ แง

    แบบนี้มันดีแล้วจริง ๆ เหรอ...หรือว่าฉันควรจะทำตามที่พิงกี้บอกแต่แรกนะ

    ถ้าทำแบบที่พิงกี้บอกบางทีโอกาสที่ฉันจะได้กระชับความสัมพันธ์กับพี่คลอรีนอาจจะมีมากขึ้นจริง ๆ ก็ได้

    แต่ว่า...

    ก็ตัดสินใจไปแล้วนี่นา เพราะงั้นฉันก็ต้องเคารพการตัดสินใจของตัวเองให้ได้สิ

    ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ต้องไม่เสียใจกับเรื่องนี้เด็ดขาด...

    ก็ได้แต่บอกตัวเองและภาวนาอยู่เช่นนั้นแหละ ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่าอยู่ดี ฮื้อ

    ติ๊ง!

     

     

    Saikeaw Piriyaniwat : เออ ไม่ต้องรีบหรอกของแบบนี้อะ แค่ลงสตอรี่ละพี่เขามาเห็นก็โอแล้วล่ะ

    Saikeaw Piriyaniwat : แต่ยังไงก็หาเวลาไปขอบคุณพี่เขาเป็นการส่วนตัวด้วยนะ สู้ ๆ เว้ยเพื่อน

     

     

    “ทราย...”

    ฉันหลุดเสียงเรียกชื่อเพื่อนออกมาเมื่อได้อ่านข้อความนั้น อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ฉันมีกำลังใจและลดความกังวลงได้บ้าง ซ้ำยังได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมอีกต่างหากด้วย

    สมแล้วที่เป็นทราย...เพื่อนคนนี้ค่อนข้างมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่าฉันกับพิงกี้มาก เห็นว่าช่วงที่ผ่านมาเจออะไรมาเยอะก็เลยเหมือนจะมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเด็กวัยเดียวกันด้วยน่ะ

    ติ๊ง! ติ๊ง!

     

    Pinky Pimmada : เออ ๆ ก็ไม่ได้ว่าไรหรอก กูแค่เสียดายแทนเฉย ๆ

    Pinky Pimmada : ถ้าไงพี่เขามาดูสตอรี่แล้วอย่าลืมมาเม้ามอยนะมึง กูอยากใส่ใจ อิ_อิ

    555555 ได้ ๆ เดี๋ยวมาบอกก : ME

     

     

    “พิงกี้นี่น้า คิก ๆ”

    ฉันเผลอหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เพราะความอยากใส่ใจของพิงกี้ ก่อนจะพิมพ์ตอบเพื่อนสนิทไปแล้วอยู่คุยกันต่ออีกสักพัก จากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองในเวลาต่อมา

    เมื่อบอกฝันดีกันเรียบร้อยแล้วฉันก็ล้มตัวนอนบนเตียงอีกครั้ง คราวนี้หยิบเอาโบว์ที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นของรักของหวงของตัวเองมาวางไว้ข้าง ๆ หัวเตียงราวกับกลัวว่ามันจะหายไปอีกด้วย

    “พี่รีนจะคิดยังไงบ้างน้า...” ฉันพึมพำคล้ายละเมอกับตัวเอง ก่อนนัยน์ตาจะค่อย ๆ ปิดลง ภาพทุกอย่างเริ่มพร่าเบลอ แสงสว่างเลือนหายอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งความมืดเข้ามาแทนที่เป็นสัญญาณของการเข้าสู่ห้วงนิทรา

    แล้วคืนนั้นฉันก็ได้ฝันประหลาด...ทว่ากลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

    แต่น่าเสียดายที่พอตื่นขึ้นมาฉันก็จำอะไรไม่ได้เลยนอกจากความรู้สึกอิ่มเอิบที่โอบชโลมหัวใจดวงนี้เอาไว้...

     

    เช้าวันต่อมา

    ฉันมาถึงโรงเรียนประมาณเจ็ดโมงกว่า ๆ เป็นเวลาที่ไม่ได้ถือว่าเช้าหรือสายเกินไป แน่นอนว่าสถานที่แรกที่ฉันต้องไปก็คือม้านั่งใกล้ ๆ บริเวณลานกว้างซึ่งใช้สำหรับเข้าแถวเคารพธงชาติ

    วันนี้ไม่ได้เจอพี่คลอรีนเลย เพราะว่าไม่ใช่เวรของเขา...แอบเสียดายอยู่หน่อย ๆ เหมือนกันแฮะ (._.)

    แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก! ยังไงโรงเรียนก็ไม่ได้กว้างอะไร อย่างน้อยก็ต้องมีโอกาสได้เดินสวนกันบ้างแหละน่า

    ข้อดีของการแอบชอบใครสักคนในโรงเรียนอีกข้อก็เห็นจะเป็นเรื่องนี้นี่แหละน้า~ ไม่ว่าส่วนไหนของโรงเรียนก็อยากจะเดินไปให้หมดเลย เผื่อว่าจะได้เจอกัน แค่เห็นแผ่นหลังก็ยังดี ฮะ ๆ

    “ทราย!”

    “ไง เป็นไงมั่งเมื่อวาน”

    เจ้าของชื่อที่ฉันเรียกเมื่อครู่หันมาส่งยิ้มทักทายพร้อมกับเอ่ยถามเรื่องของฉัน แน่นอนว่าคงไม่พ้นเรื่องสตอรี่ที่อัปไปเมื่อคืน ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกอุ่น ๆ ที่พวงแก้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อนสาวในเวลาต่อมา

    “อื้อ...พี่เขาดูสตอรี่แล้ว” ฉันเอ่ยด้วยเส้นเสียงที่ติดขัดเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาเหลือบไปทางอื่นอย่างไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นอาการเขินอายของตัวเอง “ดูตอนไหนไม่รู้...แบบว่าเค้าหลับก่อนอ่า”

    “แล้วจะรอให้เขามาดูจนไม่นอนเลยหรือไง บ้าปะ?” ทรายหัวเราะอีกครั้ง มือเคลื่อนไปหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋า ซึ่งก็ได้รับคำตอบในเวลาต่อมาว่าเป็นถุงขนมขบเคี้ยว ก่อนเธอจะแกะซองออกแล้วเอามาวางไว้ตรงกลางโต๊ะ “กินไปเล่าไปกัน เพิ่มฟีลลิ่ง”

    “ก็...” ฉันสั่นศีรษะ อมยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยจนถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็คงจะไม่เห็น

    ถามว่ามันเป็นเรื่องที่น่าดีใจขนาดนั้นไหม...ก็ไม่หรอกเอาตามตรง

    แต่ว่าพี่คลอรีนก็ได้รับรู้แล้วไง...ที่เหลือก็แค่ไปบอกขอบคุณเขาอีกที

    ตอนแรกฉันก็ตั้งใจว่าจะทักไปบอกตั้งแต่เมื่อคืนเลยแหละ แต่คิดว่าควรจะไปขอบคุณด้วยตัวเองดีกว่า เพราะว่ามันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันมาก ๆ

    แล้วอีกอย่างก็คือฉันอยากหาเรื่องเจอหน้าพี่เขาด้วยแหละ...ประเด็นหลักอยู่ตรงนี้ แฮ่

    “จริง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรให้เล่าเป็นพิเศษหรอกน่า พี่คลอรีนก็แค่ดูแล้วก็กดไลค์สตอรี่เฉย ๆ”

    “กดไลค์เฉย ๆ เองเหรอวะ โห่!”

     

     

    sds

    Writer's Talk

    มาอัปต่อแง้วววว และบทพระเอกของเราก็หายไปอีกแล้วเช่นกัน กร๊ากกก

    อย่างที่บอกไปว่าช่วงแรก ๆ นี่ไอย์จะเมนไปที่ตัวอุ่นไอเป็นส่วนใหญ่ก็เลยจะเห็นในมุมมองน้องมากกว่า แต่หลังจากนี้บทคลอรีนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ ><! อดใจรอกันอีกนิดนะคะะะ

    ในส่วนของตอนนี้จะเห็นได้ว่าตะน้องเป็นคนที่คิดมากและคิดเล็กคิดน้อยสุด ฟีลเหมือนตอนเราแอบใครสักคนแล้วกลัวนั่นกลัวนี่ไปหมดนั่นแหละค่ะ ฮี่ๆๆ 

    ใครอยากอ่านต่อขอเสียงหน่อยยย ติ๊กเกอร์มาคนละดวงได้เล้ยยยย 

    1 คอมเม้นต์ 1 ล้านกำลังใจดี ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×