คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : PART I : EPISODE 01 : 'แอบ' รัก [3/3]
“เติมร้อยนึงเลย เดี๋ยวถ้าเหลือค่อยแลกคืน”
“โอเค งั้นฝากจองที่ด้วยนะ” สิ้นคำนั้นฉันก็ส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังจุดเติมเงินที่มีบุคลากรของโรงเรียนประจำอยู่
อ้อ อีกเรื่องของโรงเรียนนี้ก็คือเวลาจะซื้อข้าวในโรงอาหารและร้านค้าสหกรณ์จะต้องใช้บัตรนักเรียนซื้อโดยการเติมเงินเข้าบัตร ถ้าเหลือก็สามารถไปแลกคืนได้ ระบบการจ่ายเงินแบบนี้ก็เหมือนกับตอนไปซื้อข้าวที่ Food Hall ของห้างสรรพสินค้านั่นแหละ
ที่ต้องใช้วิธีนี้เพราะมันสะดวกในหลาย ๆ อย่าง ทั้งความแม่นยำในการคิดเงินและการทำบัญชี โดยเฉพาะตอนไปซื้อของที่ร้านค้าสหกรณ์นี่มันจะบันทึกไว้เลยว่านักเรียนคนนี้มาซื้ออะไรเท่าไหร่ พอสิ้นปีการศึกษาข้อมูลตรงนี้ก็จะถูกนำไปคำนวณเป็นเงินปันผลคืนให้กับนักเรียนในทุก ๆ ปีไงล่ะ
“จะว่าไปกูมีคำถาม”
“อะไรวะ?”
“?”
เมื่อซื้อข้าวมาทานกันเรียบร้อยแล้ว ทรายที่ตอนนี้ข้าวพร่องไปเกือบหมดจานก็ได้เอ่ยเรียกความสนใจของฉันและเพื่อนอีกคนไป
“เมื่อเช้าแกก็เจอพี่สุดหล่อก่อนพิงกี้ไม่ใช่เหรอวะไอ แล้วทำไมพี่เขาต้องฝากพิงกี้มาให้ด้วยอะ ให้เองก็ได้นิ”
กึก...
“เออก็จริงว่ะ”
“เอ่อ...อันนี้ไอไม่รู้เลยอ่า”
พอลองมาคิดดูแล้ว...มันก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะว่าทำไมพี่คลอรีนถึงไม่ให้ฉันด้วยตัวเองแบบนี้
ทำไมกันนะ...ทำไม
“กูว่าคงเขินแหละ”
“เอ๋?” ฉันครางเสียงอย่างงุนงงทันทีที่ได้ยินพิงกี้เอ่ยเช่นนั้น แต่สักพักสมองก็ประมวลผลได้ ทำเอาพวงแก้มทั้งสองร้อนฉ่าขึ้นมา ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเต้นระส่ำอีกครั้ง “บ้า พี่คลอรีนจะมาเขินอะไร...เค้าสิที่ต้องเขิน”
“เอ้า ก็ไม่แน่นะมึงงง บางทีนี่อาจจะไม่ใช่แค่การแอบรักก็ได้ ก็เพื่อนกูสวย น่ารัก เพียบพร้อม ผู้ดีปานนี้ ใครมันจะไปห้ามใจไม่ให้หลงรักได้ไหววะ เชื่อกู กูเฟิร์มเลย พี่เขาชอบมึงแน่ ๆ อุ่นไอ”
“ชงเป็นบาริสต้าเลยนะมึง ได้ค่านายหน้าเท่าไหร่วะเนี่ย”
“แหะ...” ได้แต่ฉีกยิ้มแห้งเหือดเพราะพิงกี้ที่พยายามพูดเข้าข้างฉันสุดฤทธิ์สุดเดช รู้ดีว่ายังไงที่พูดมามันก็ไม่ใช่ความจริง
อย่างพี่คลอรีนน่ะเหรอคิดอะไรกับฉัน...ไม่มีทางหรอก
สำหรับฉัน...อย่างมากสุดคงให้ได้แค่น้องสาวเท่านั้นแหละ
ก็เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นกันตั้งแต่ยังถอดเสื้อผ้าอาบน้ำด้วยกัน ไม่มีทางที่เขาจะมองฉันในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งแน่ ๆ อะ
แต่ก็ขอบคุณพิงกี้แหละที่พยายามพูดให้ฉันรู้สึกดีแบบนี้
เพื่อนก็คือเพื่อนอะเนอะ เข้าข้างกันเป็นธรรมดา...ฮา
“เฮ้ยเชี่ย อุ่นไอหันไปดูข้างหลังเร็ว”
“หือ?”
ตอนนั้นเองที่ฉันได้หันไปมองข้างหลังตามคำบอกของเพื่อนสาว ในคราแรกไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ ติดจะงง ๆ อยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำว่าจะให้หันไปดูอะไร
กระทั่งเห็นร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งในชุดนักเรียนมอปลายกำลังเดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาเท่านั้นนั่นแหละ
ฟึบ!
กรี๊ด! พะ พี่คลอรีนมา...
ได้แต่หวีดเสียงร้องในใจพร้อมกับเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็วด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุดไม่หย่อน ซ้ำร้ายยังดูจะทวีความรุนแรงขึ้นไปอีกหลายต่อหลายเท่าเมื่อได้ยินเสียงทุ้มละมุนอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะห่างที่ลดลง
“วันนี้กินไรดีวะ”
“ข้าวมันไก่ไหมมึง”
“แต่กูเบื่อไก่แล้วว่ะ”
“งั้นข้าวขาหมู”
ตึกตัก! ตึกตัก!
พี่คลอรีน...ใกล้เข้ามาแล้ว
ฉะ ฉันจะทำตัวยังไงดี...
จริงสิ! ต้องขอบคุณเรื่องของขวัญ...
“รีน!”
กึก!
ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงเรียกแสนหวานของใครคนหนึ่งก็เอ่ยเรียกคนในความคิดก่อนที่ฉันจะทันได้หันไปเอ่ยอะไรกับเขา ก่อนร่างทั้งร่างจะชะงักไปโดยพลันเมื่อรับรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นผู้หญิงร่างเล็กบอบบางทว่ากลับสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคนรุ่นเดียวกันอยู่มากโข
พี่คนนั้น...
“พี่หงส์...หัวหน้าหลีดคณะสีฟ้าเมื่อปีที่แล้วนี่หว่า” ทรายเอ่ยราวกับรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ แน่นอนว่านั่นทำให้ฉันละความสนใจไปยังเพื่อนคนสนิทแทนที่พี่คนนั้นทันที
“เออใช่ คนดังเลยแหละ ชีพึ่งเข้ามาเรียนตอนมอสี่ก็จริง แต่เหมือนคนจะรู้จักทั้งโรงเรียนเพราะว่าสวยแล้วก็เก่ง แถมยังบิวตี้สแตนดาร์ดมากจ้า”
อ่า...คนนั้นเองเหรอ
“ก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้า...” ฉันเอ่ยด้วยโทนเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หางตาเหลือบมองคนทั้งสองที่ตอนนี้ยืนคุยกันอย่างสนิทสนม
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า...แต่เหมือนพี่หงส์พยายามจะเข้าไปเกี่ยวแขนพี่คลอรีนอย่างชิดใกล้เลยอะ
พวกเขาสองคน...เป็นอะไรกันนะ ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ
อ่า แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่ตอนเด็ก แต่ก็ใช่ว่าจะคุยกันทุกเรื่องสักหน่อยนี่นา
ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ในใจแบบนี้ก็ไม่รู้...เฮ้อ
“เออ ละกูก็เคยได้ยินมาว่าตอนชีพี่หงส์เข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ ๆ เหมือนจะได้พี่คลอรีนนี่แหละคอยช่วยให้คำปรึกษา อารมณ์ประมาณเป็นบัดดี้กันอะมึง แล้วก็เหมือนจะเริ่มสนิทกันมากขึ้นตอนงานกีฬาสีปีที่แล้วด้วย เพราะพี่คลอรีนเป็นหัวหน้าทีมทำพาเหรดคณะสี ส่วนนางก็เป็นหัวหน้าหลีด เวลาไปประชุมงานก็คงจะเจอหน้ากันบ่อย ๆ แหละ”
“….”
ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกคล้ายตัวแข็งเป็นหิน ฉันไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้างุด ในหัวพานนึกไปถึงช่วงกีฬาสีที่ผ่านมาอย่างต้องการรื้อฟื้นความทรงจำ
ตอนนั้นฉันเป็นแค่เด็กมอสองที่ต้องไปขึ้นแสตนด์เชียร์...พี่คลอรีนเป็นหัวหน้าทำขบวนพาเหรด ก็เลยแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลยเพราะอยู่คนละฝ่าย
แต่พี่หงส์เป็นหลีดที่ต้องไปร่วมเดินขบวนพาเหรดกับพี่คลอรีนก็เลย...
แล้วจะคิดมากไปทำไมกันนะ ก็รู้อยู่นี่นาว่าความรู้สึกของเราเป็นเพียงแค่การ ‘แอบชอบ’ น่ะ
แอบก็คือแอบ...ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
“เอาน่าอุ่นไอ แบบมันก็ต้องมีบ้างแหละ อุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าไปแคร์เลยแก”
หมับ...
แล้วทรายที่คงจะเห็นว่าฉันซึมไปก็เคลื่อนมือมาวางบนบ่าคล้ายต้องการให้กำลังใจ ซึ่งฉันก็ได้แต่หันไปส่งยิ้มให้เป็นการบอกกราย ๆ ว่า ‘ไม่เป็นไร’ แม้ความจริงจะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยก็ตาม
“เออ สะบัดบ๊อบเดินสับสวย ๆ เลยมึง มั่นเข้าไว้ว่าเราสวยกว่า เริ่ดกว่า ประเสริฐกว่า เชิดค่ะเชิด!”
“พิงกี้ก็เวอร์ไป” พลันเสียงหัวเราะก็หลุดออกมาเบา ๆ เพราะคำเยินยอของเพื่อนคนสนิทที่ดูก็รู้ว่าจงใจพูดให้ฉันอารมณ์ดีทั้งที่ถ้าเทียบกันแบบส่วนต่อส่วนยังไงพี่หงส์ก็ดูดีกว่าฉันอยู่หลายขุม “เค้าจะไปสู้อะไรได้อ่าสภาพนี้”
“สู้ได้ดิ! นางก็แค่ได้เปรียบตรงที่เรียนอยู่มอห้าเหมือนกันเท่านั้นแหละ แต่กับมึงที่รู้จักพี่เขามาตั้งแต่เด็ก ๆ แม่งเทียบกันไม่ติดฝุ่นเลยด้วยซ้ำ สายใยที่มีมาตั้งแต่อดีตมันตัดไม่ขาดง่าย ๆ หรอกเว้ย” ถึงอย่างนั้นพิงกี้ก็ไม่หยุด เธอยังคงพูดเข้าข้างฉันต่อไป แถมทรายเองก็เข้าร่วมผสมโรงด้วยอีกต่างหาก
“จริงแก เราได้เปรียบตรงความความผูกพันที่มีมานาน พี่หงส์พึ่งจะมารู้จักพี่คลอรีน ยังไงก็สู้แกไม่ได้แน่ ทรายเอาหัวเป็นประกันเลย”
“โถ่ พวกแกล่ะก็ยอเกินไปแล้วเนี่ย...ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ได้ยินแล้วเสียงหัวเราะที่ตอนแรกไม่ได้ดังอะไรก็เพิ่มระดับมากกว่าเดิมด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายลง
ข้อดีของการแอบรักก็คือการที่มีเพื่อนคอยเชียร์คอยชงให้มโนเอง ฟินเองแบบนี้นี่แหละน้า
เอาเถอะ ฉันจะคิดมากให้เสียเวลาไปก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก ยังไงความรู้สึกที่ฉันมีต่อพี่คลอรีนก็คงจะอยู่กับฉันอย่างนี้ต่อไป...
แม้ว่าภายภาคหน้าเขาอาจจะไม่ได้เป็นของฉันก็ตาม
Writer's Talk
ตอนนี้บทพระเอกก็ยังจืดจางเช่นเดิม เพิ่มเติมคือโผล่มาบอกว่าไม่อยากกินข้าวมันไก่555555 แถมยังมี 'ตัวละคร' ที่เหมือนจะมีบทสำคัญเพิ่มเข้ามาอีกด้วย เอ๊ะ ๆ ><!
ในส่วนของตอนนี้ก็ยังคงเป็นบทเพื่อนสาวเม้ามอยและอวยยศตะน้องอยู่ เชื่อว่าสมัยตอนที่ได้แอบชอบใครสักคนมันจะมีเพื่อนรักที่ไม่ว่ายังไงก็จะเข้าข้างเรา ถึงฝ่ายนั้นจะดูดีกว่าแค่ไหน เราก็จะสวยที่สุดสำหรับเพื่อนค่ะ555555555 ไอย์แบบอยากหยิบเอาฉากนี้มาแต่งมากก ในที่สุดก็ได้มีโอกาสสักที กร๊ากก
สำหรับใครที่รออีพระเอก ตอนหน้าเจอกันคับบ
1 คอมเม้นต์ 1 ล้านกำลังใจดี ๆ หรือใครไม่รู้จะพิมพ์อะไร ขอสติกเกอร์คนละดวงก็ยังดีนะคะ <3
ความคิดเห็น