คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : PART I : EPISODE 01 : 'แอบ' รัก [2/3]
“ป่านนี้มันคงกำลังกระโดดตบกับพี่สุดหล่อของแกแหง ๆ คราวหลังก็ลองแกล้ง ๆ มาสายเหมือนมันดิ จะได้ไม่ต้องมองตาละห้อยแบบตอนนี้ไง”
“อย่าแซวสิทราย โธ่”
ได้ยินเช่นนั้นทรายก็ไหวไหล่ มุมปากยกยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันไปยืนตรงเมื่อเสียงประกาศผ่านไมค์ดังเป็นสัญญาณว่ากำลังจะร้องเพลงชาติในอีกไม่กี่วินาที เห็นดังนั้นฉันจึงหยุดทุกเสียงแล้วเข้าแถวยืนตรงตามบ้าง
หลังจากนั้นกิจกรรมหน้าเสาธงยามเช้าก็จบลง ฉันและเพื่อนสนิทก็พากันเดินไปยังห้องเรียนที่ถูกระบุไว้ในตารางเรียนประจำเทอมนี้ ระหว่างนั้นก็แวะไปรับพิงกี้ที่ถูกคุมตัวให้ร้องเพลงชาติอีกรอบตามระเบียบของคนมาสาย
“โอ๊ยอีเวร วันนี้กูตั้งใจจะมาเร็วแล้วนะ แต่เสือกลืมตั้งนาฬิกาปลุกอะ เจิมตั้งแต่วันแรกของเทอมเลยกู”
“ก็พูดอย่างงี้ทุกทีแหละมึงอะ ไม่ต้องมาตอแหล คนเขาดูออก”
“ดูออกเหี้ยไร นี่มึงเห็นกูเป็นคนแบบไหนวะอีเพื่อนทราย”
ฉันยิ้มให้กับบทสนทนาที่แสนจะสนิทสนม (?) ของเพื่อนทั้งสอง ไม่ต้องแปลกใจไปหรอก...ก็พิงกี้กับทรายอยู่โรงเรียนประถมที่เดียวกันมาก่อนน่ะ ส่วนฉันพึ่งจะมารู้จักกับทั้งสองตอนขึ้นมัธยมนี่เอง
พิงกี้น่ะ...ชอบพูดหยาบคายดูไม่น่าฟัง แต่เธอไม่ใช่คนไม่ดีอะไรเลยนะ เป็นเพื่อนที่น่ารักมากคนนึงเลยล่ะ ทรายเองก็เหมือนกัน แต่ทรายจะไม่ค่อยพูดหยาบเท่าพิงกี้ คือเธอเป็นประเภทใครพูดแบบไหนก็พูดแบบนั้นกลับน่ะ
“เอออุ่นไอ! พี่สุดหล่อของมึงฝากนี่มาให้อะ”
กึก!
“พะ พี่คลอรีนน่ะเหรอ” ฉันเอ่ยถามพร้อมกับนัยน์ตาที่เบิกโพลง หัวใจพลันเต้นระส่ำเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เฝ้าคะนึงหา ก่อนจะหลุบมองสิ่งของในมือพิงกี้พายที่คงจะได้รับมาตอนถูกทำโทษเพราะมาสาย “ทำไมถึงให้เค้าอะ”
“แล้วกูจะรู้ไหมล่ะจ้ะ ก็ไปถามคนให้เองสิ” พิงกี้หยอกล้อด้วยน้ำเสียงและสายตา เล่นเอาซะฉันแทบจะทำอะไรไม่ถูกนอกจากยื่นมือไปรับ ‘ของฝาก’ จากพี่คลอรีนเงียบ ๆ
โธ่...รู้ว่าฉันชอบพี่คลอรีนก็แซวกันไม่เลิกเลยอะสองคนนี้ ฮื้อ
“แม่งปังว่ะ แล้วพี่เขาให้อะไรแกวะไอ” ทรายเอ่ยถามเป็นคนแรกหลังจากนั้น ซึ่งฉันก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรนอกจากแกะซองกระดาษที่ห่อสิ่งของด้านในอย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่ามันจะเสียหาย กระทั่ง...
‘Happy Birthday ย้อนหลังนะครับ
15 ขวบแล้ว ไม่เด็กแล้วนะ ^^’
ตึกตัก! ตึกตัก!
ระ เรื่องจริงเหรอเนี่ย!
“อีดอกกก ย้อนหลังนานมากแม่ วันเกิดมึงคือก่อนปิดเทอมเลยนะเว้ย จนตอนนี้เปิดเทอมแล้วอะ ทำไมพี่แม่งพึ่งให้วะ” พิงกี้ว่าพลางกระทุ้งศอกกับเข็มขัดนักเรียนของฉันอย่างหยอกล้อ “แต่แค่นี้ก็ใจฟูแล้วล่ะซิ ได้ของขวัญจากคนที่แอบชอบอะ”
“คือตอนนี้กูโคตรลุ้นเลยว่ะ อยากรู้แล้วเนี่ยว่าพี่เขาจะให้อะไรอุ่นไอ”
ทรายอมยิ้ม ท่าทางตื่นเต้นราวกับเป็นฝ่ายได้รับของขวัญเสียเองสร้างความขวยเขินระคนดีใจให้กับฉันจนหน้าแดงซ่าน หลุบสองตาคู่กลมมองของที่ติดมากับกระดาษอวยพรเมื่อครู่นี้ด้วยหัวใจที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เป็นโบว์ผูกผม...”
“ง่อว เซ้นส์พี่คลอรีนเริ่ดอยู่นา” พิงกี้ตบบ่าฉันอย่างต้องการแสดงความยินดี ก่อนสองมือจะเคลื่อนไปกระตุกโบว์ผูกผมสีน้ำตาลทั้งสองของฉันออก “ก็เปลี่ยนเลยสิคะรอไรอะ เอาให้แม่งรู้กันทั้งโรงเรียนเลยว่ามึงเห่อโบว์ใหม่แค่ไหน”
“มา...เดี๋ยวเค้าผูกให้เอง” ส่วนทรายก็รีบหยิบโบว์สีขาวสะอาดใหม่เอี่ยมในมือฉันไปผูกผมเปียทั้งสองแทนที่โบว์อันเดิมอย่างละเมียดละไมทันทีทันใด
“ง่า...ทั้งสองคนอ่า”
ได้แต่อมยิ้มจนแก้มแทบปริให้กับความน่ารักของเพื่อนทั้งสองที่รู้จักกันมาย่างเข้าปีที่สาม
มีเพียงสองคนนี้เท่านั้นแหละที่รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับใคร แถมยังคอยซัพพอร์ตความรู้สึกฉัน คอยเชียร์ฉันให้มีกำลังใจและความกล้าในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อสานสัมพันธ์กับพี่คลอรีนอีกต่างหาก
เวลาได้ชอบใครสักคนแล้วมีเพื่อนคอยดันหลังแบบนี้เนี่ย...มันรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยเนอะ
“แล้วอย่าลืมอัปลงสตอรี่พร้อมติดแคปชั่น ‘ของขวัญน่ารัก น่ารักที่แปลว่ารักคนให้’ ด้วยนะมึง ฮ่า ๆ”
“โห พิงกี้...ใครจะไปกล้าทำ” ฉันว่าพลางสั่นศีรษะแรง ๆ เหลือบมองเพื่อนสาวที่หัวเราะร่วนชอบใจอย่างเขินอาย ก่อนจะเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อกลบเกลื่อนอาการอันไม่ปกติทั้งหลายของตัวเอง “รีบเข้าห้องเรียนกันเถอะ เค้าได้ยินว่าอาจารย์สอนคณิตคนนี้โหดมากเลยนะ”
“เออใช่ อาจารย์สมศรีนี่หว่า ได้ยินกิตศัพท์มาเหมือนกัน รีบไปกันเหอะ”
หมับ!
“อ๊ะ แล้วมึงจะดึงทำไมเนี่ยอีทราย!”
พิงกี้ส่งเสียงประท้วงทันทีที่ทรายหันมาคว้าแขนทั้งของตัวเองและของฉันก่อนจะพาวิ่งเข้าห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็เริ่มต้นคาบแรกของเทอมใหม่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านบวกหรือด้านลบ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ผ่านมันไปได้จนกระทั่งถึงช่วงพักเที่ยงของวัน...
“อยากรู้ว่าใครมันจัดตารางให้แบบนี้วะ ครึ่งเช้าเป็นคณิตหลัก ต่อด้วยฟิสิกส์อีก 2 คาบ ฮัลโหลลล...สมองกูจะระเบิดตายแล้วอีเหี้ย”
“เออแม่ง โรงเรียนไม่เห็นใจสมองเท่ามดของกูเลยอะ”
“แต่ก็ยังดีนะที่ช่วงบ่ายมีว่าง 1 คาบกับเสรีอีก 2 คาบอะ พอให้ได้หายใจหายคอหน่อย”
ฉันหันไปร่วมบทสนทนากับเพื่อนกลุ่มเดิมที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไรกับซอมบี้เดินได้ เนื่องจากว่าช่วงที่ผ่านมาหัวสมองรับข้อมูลอย่างหนักแทบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน
ก็นะ...วิชาคณิตกับฟิสิกส์มันจัดอยู่ในกลุ่มคำนวณเหมือนกัน ฉันที่ไม่ถนัดอะไรแบบนี้ก็แทบจะอ้วกออกมาเป็นตัวเลขไม่ต่างอะไรกับทรายแล้วก็พิงกี้เลย
คือหัวฉันค่อนข้างไปทางด้านภาษากับสังคมมากกว่าน่ะนะ
“อือก็จริงอะ แถมว่างตอนคาบพักเที่ยงของพวกพี่มอปลายด้วย”
“งานนี้มีคนได้ชะเง้อคอมองหารุ่นพี่แหง”
จบคำเจ้าของประโยคเมื่อครู่ก็เหล่ตามองฉันอย่างต้องการเย้าแหย่ ได้ยินเช่นนั้นอาการจั๊กจี้ในหัวใจก็บังเกิดขึ้นอีกครั้งจนต้องก้มหน้ามองสองเท้าที่กำลังเดินไปข้างหน้า
“เลิกแซวได้แล้วน่า พวกแกก็...” มันเขินนะ ฮือ
อ๋อใช่...คือโรงเรียนของฉันเวลาพักเที่ยงของชั้นมอต้นกับมอปลายมันไม่ตรงกันน่ะ ของพวกเราจะเริ่มก่อนพวกพี่มอปลายหนึ่งคาบเพื่อลดจำนวนนักเรียนในโรงอาหาร จะได้ไม่ต้องแย่งกันซื้อข้าวหรือจองที่นั่ง เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับขนาดของโรงเรียนอะนะ
“งั้นเดี๋ยวทรายไปจองที่นั่งก่อนแล้วกัน พวกแกก็ไปเติมเงินนะ...ฝากเติมให้ด้วย” ท้ายประโยคคนพูดได้ยื่นบัตรนักเรียนของตัวเองมาไว้ตรงหน้าฉันพร้อมธนบัตรสีแดงจำนวนหนึ่งใบ
“อื้อ ได้เลย ทรายจะเติมกี่บาทอะ”
“เติมร้อยนึงเลย เดี๋ยวถ้าเหลือค่อยแลกคืน”
“โอเค งั้นฝากจองที่ด้วยนะ”
Writer's Talk
พี่อย่ามาทำแบบนี้ รู้ไหมว่าคนแอบชอบเขาคิดไปไกล! 5555555555
สำหรับตอนนี้พระเอกยังไม่มีบทค่ะ แต่ไอย์ชอบมากเป็นพิเศษ เพราะบทของเพื่อน ๆ อย่างพิงกี้และทรายเลยค่ะ สองคนนี้เนี่ยต่อไปในอนาคตคือตัวตั้งตัวตีสำคัญเลยแหละ55555555
ดีใจจังเลยค่ะที่มีคนชอบและเอ็นดูลูกสาวคนนี้ กวักมือชวนมาเป็นมัมหมีด้วยกันค่ะทุกคนน อุงแงง
1 คอมเม้นต์ 1 ล้านกำลังใจดี ๆ
ความคิดเห็น