ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โกเบ
              เวลา5ปีในโกเบ จบลงแล้ว จมหมายตอบรับจากบริษัทมันนาโบะที่มาเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอบรับฉันเข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อย สภาพห้องพักของฉันในตอนนี้ไม่น่าดูนัก ข้าวของต่างๆจัดลงใส่กล่องเหลือเพียงการปิดกล่องและเขียนรายละเอียด ห้องดูโล่งจนน่าตกใจ ฉันค่อยๆเอาผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆก่อนจะหยุดพักโดยการนั่งลงที่มุมห้อง ฟ้าข้างนอกค่อนข้างครื้มแต่ทว่าอากาศรอบตัวกลับปราศจากความชื้นโดยสิ้นเชิง ปีนี้ฤดูใบไม้ร่วงปีนี้มาเร็วผิดปกติ ฉันรู้สึกถึงความหนาวเย็นรอบตัวได้ทั้งร่างกายและจิตใจ  ท่ามกลางความเงียบที่เข้าคลอบคลุมห้อง ฉันตกใจเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ดังขึ้น
“เรียวโกะจัง เก็บของเสร็จรึยังจ๊ะ”เสียงแหลมสดใสของโนริโกะนั่นเอง “ถ้าใกล้เสร็จยังไงฉันกับคุณฮิโงจะแวะไปเช่ารถมารับ”     
“ก็เกือบจะเสร็จแล้ว”
“งั้นฉันจะเข้าไปหาตอน11โมงล่ะกันนะ รีบเตรียมของให้เสร็จล่ะ”
              แล้วโนริโกะก็วางสายไป ห้องของฉันกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เหลือเวลาอีก1ชั่วโมง ฉันคงต้องรีบเก็บของให้เสร็จ ระหว่างที่ฉันกำลังกวาดสายตามองหาเทปปิดกล่อง ฉันบังเอิญไปหยุดสายตาอยู่ที่ดอกคิเคียวสีม่วงในแจกันสีเดียวกันที่วางอยู่บนโต็ะกินข้าว ตัวดอกนั้นเริ่มเหี่ยวลงแล้วแม้ว่าน้ำที่อยู่จะแห้งไปเพียงเล็กน้อย จิตใจของฉันกำลังหลุดลอยออกจากความเป็นจริง เป็นเวลากว่า 4 ปีเต็มที่ฉันรักผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่เมื่อเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจฉัน  เขาผู้ซึ่งฉันไม่กล้าที่จะบอกความในใจจนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่ฉันกำลังจะจากที่นี่ไป แม้แต่วันนี้เอง การที่จะให้ฉันยกหูโทรศัพท์เพื่อบอกสิ่งนั้นกับเขา ฉันก็ยังคงไม่กล้าอยู่ดีและยิ่งรู้ว่าเขามีคนที่รักแล้ว มันยิ่งทำให้ความกล้าของฉันหดหายลงอีก มันคงเป็นสิ่งที่น่าอายในการที่จะบอกรักกับคนที่เรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถรับรักเราได้ เมื่อถึงเวลานี้ฉันคงหวังเพียงให้เวลาที่ผ่านไปกับสถานที่ใหม่เป็นสิ่งที่ลบเขาออกไปจากใจของฉันอย่างช้าๆ
ฉันกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ก่อนจะนั่งปิดกล่องข้าวของต่อไป เป็นเวลาไม่นานนักโนริโกะก็มาถึงเธอเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่วันที่มาโกเบเป็นวันแรก เธอแต่งงานกับฮิโงเพื่อนร่วมชมรมยูโดที่มหาวิทยาลัยมาได้ 6 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เรียนจบ ก่อนที่โนริโกะจะเจอกับฮิโง เธอดูเป็นคนปล่อยตัวมาก ไม่มีวันไหนที่เธอจะตั้งใจแต่งตัวดีๆไปมหาวิทยาลัย จนบางครั้งดูเหมือนเธอจะลุกจากที่นอนไปมหาวิทยาลัยเลยก็มี แต่ถึงเวลานี้โนริโกะเปลี่ยนไปแล้ว เธอดูสดใสขึ้นยิ่งโดยเฉพาะวันแต่งงาน เธอดูสวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเห็นเธอมา โนริโกะเปลี่ยนไปแล้ว คงเหลือแต่ฉันเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม ยังคงจมอยู่กับอดีต เหมือนกับฉันกำลังยืนหยุดนิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังเดินไปข้างหน้า มันคงถึงเวลาที่ฉันควรจะออกเดินบ้างแล้ว
“เรียวโกะ เธอจะไม่เอาหนังสือนั่นไปจริงๆเหรอ” โนริโกะถามถึงหนังสือ อิน เซิร์ช ฟอร์ ลอร์ส ไทม์ที่วางอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนชั้น ฉันหันไปมองมันสักพักก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าตอบรับคำถามนั้น
“ฉันอยากเริ่มต้นใหม่”
“ฉันเข้าใจ แต่เธอไม่คิดจะกลับมาอีกเลยเหรอ ”
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้คิดจะไปแล้วไปลับสักหน่อย ว่างฉันก็แวะมาหา”
“ก็ใครจะไปรู้แน่ล่ะ เธอดูตั้งใจจะไปจริงๆเลยนี่นา จริงสิ เธอรู้เรื่องของมินามิหรือยัง”
“ทำไมฉันถึงจำเป็นต้องรู้”
“แหม เรื่องของศัตรูหัวใจก็น่าจะรู้เอาไว้บ้าง ฉันว่าเป็นข่าวดีนะ..เอ๊ะ จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
              ฉันนิ่งเงียบ ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป มินามิ ทำไมฉันจะต้องสนใจความเป็นไปของเธอด้วย ในเมื่อเธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการจากฉันไปหมดแล้ว เด็กสาวที่ดูใสซื่อแต่กลับฝากรอยแผลที่บาดลึกไว้ในใจฉัน ทว่าถึงแม้เธอจะทำในสิ่งที่ฉันไม่พอใจมากมายเพียงใดก็ตาม เธอก็คือเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่รักฉันเหมือนอย่างเพื่อน และฉันเองก็รักเธอเช่นกัน มันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด แต่ฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกของเธอและการกระทำของเธอ ฉันเข้าใจดี
“มินามิเป็นลูคิเมีย คงจะอยู่ได้ไม่เกินฤดูใบไม้ร่วงหน้า”
ฉันตกใจอย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
“อยากมาโกหกกันแบบนี้นะโนริโกะ มันไม่ดี”
“ฉันไม่ได้โกหก ฮิโงเพื่อได้ข่าวมา ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ยัยนั่นอาจจะอยากเก็บคุโรบะคุงไว้ให้ถึงที่สุด ก็เลยสร้างข่าวก็ได้”
“ใครจะสร้างข่าวแบบนี้ ให้ตายสิ” ฉันเข่าอ่อนทรุดนั่งลงเบาะข้างตัว
“เธอน่าจะโล่งใจไม่ใช่เหรอ”
“เธอว่าไงนะ?” ฉันหันไปมองโนริโกะอย่างที่ไม่อยากเชื่อในคำพูดของเธอ “เธอว่าการดูคนอื่นค่อยๆตายเป็นสิ่งที่น่าโล่งใจอย่างนั้นเหรอ  เธอคิดว่าพอมินามิตายไปแล้วอะไรจะดีขึ้นเหรอ”
“สิ่งที่ฉันหงุดหงิดใจไม่ใช่เรื่องของมินามิหรอก แต่เป็นเรื่องของเธอต่างหาก” โนริโกะมองหน้าฉันอย่างเวทนา “เรียวโกะ เธอหนีปัญหาไปได้ไม่ตลอดหรอกนะ” ความรู้สึกภายใต้จิตสำนึกของฉัน ไม่ได้ถูกระตุ้นตามที่โนริโกะต้องการ ตรงข้ามกัน มันยิ่งสั่งให้ฉันเก็บความรู้สึกนั้นให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลึกจนฉันไม่สามารถจะค้นหามันเจออีกต่อไป ในตอนนี้คนที่ต้องการคุโรบะที่สุดคือ มินามิ และฉันเองก็เชื่อว่าคุโรบะก็จะอยู่เคียงข้างมินามิจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเธอเช่นกัน รวมถึงตัวฉันเองก็ต้องการแบบนั้น เรื่องราวทั้งหมดควรจะจบเพียงเท่านี้
ของทั้งหมดถูกจัดใส่รถบรรทุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องนั้นว่างเปล่า เหลือเพียงอิน เซิร์ช ฟอร์ ลอร์ส ไทม์และดอกคิเคียวสีม่วง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นบนความต้องการของชั้น หรือบนความผิดพลาดใดๆ ฉันได้ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่แล้ว เวลานับจากนี้ จะมีเพียงอดีตและบทเรียนเท่านั้นที่ฉันจะจดจำ
ลาก่อน ความทุกข์และความสุขของฉัน
“เรียวโกะจัง เก็บของเสร็จรึยังจ๊ะ”เสียงแหลมสดใสของโนริโกะนั่นเอง “ถ้าใกล้เสร็จยังไงฉันกับคุณฮิโงจะแวะไปเช่ารถมารับ”     
“ก็เกือบจะเสร็จแล้ว”
“งั้นฉันจะเข้าไปหาตอน11โมงล่ะกันนะ รีบเตรียมของให้เสร็จล่ะ”
              แล้วโนริโกะก็วางสายไป ห้องของฉันกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เหลือเวลาอีก1ชั่วโมง ฉันคงต้องรีบเก็บของให้เสร็จ ระหว่างที่ฉันกำลังกวาดสายตามองหาเทปปิดกล่อง ฉันบังเอิญไปหยุดสายตาอยู่ที่ดอกคิเคียวสีม่วงในแจกันสีเดียวกันที่วางอยู่บนโต็ะกินข้าว ตัวดอกนั้นเริ่มเหี่ยวลงแล้วแม้ว่าน้ำที่อยู่จะแห้งไปเพียงเล็กน้อย จิตใจของฉันกำลังหลุดลอยออกจากความเป็นจริง เป็นเวลากว่า 4 ปีเต็มที่ฉันรักผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่เมื่อเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจฉัน  เขาผู้ซึ่งฉันไม่กล้าที่จะบอกความในใจจนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่ฉันกำลังจะจากที่นี่ไป แม้แต่วันนี้เอง การที่จะให้ฉันยกหูโทรศัพท์เพื่อบอกสิ่งนั้นกับเขา ฉันก็ยังคงไม่กล้าอยู่ดีและยิ่งรู้ว่าเขามีคนที่รักแล้ว มันยิ่งทำให้ความกล้าของฉันหดหายลงอีก มันคงเป็นสิ่งที่น่าอายในการที่จะบอกรักกับคนที่เรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถรับรักเราได้ เมื่อถึงเวลานี้ฉันคงหวังเพียงให้เวลาที่ผ่านไปกับสถานที่ใหม่เป็นสิ่งที่ลบเขาออกไปจากใจของฉันอย่างช้าๆ
ฉันกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ก่อนจะนั่งปิดกล่องข้าวของต่อไป เป็นเวลาไม่นานนักโนริโกะก็มาถึงเธอเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่วันที่มาโกเบเป็นวันแรก เธอแต่งงานกับฮิโงเพื่อนร่วมชมรมยูโดที่มหาวิทยาลัยมาได้ 6 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เรียนจบ ก่อนที่โนริโกะจะเจอกับฮิโง เธอดูเป็นคนปล่อยตัวมาก ไม่มีวันไหนที่เธอจะตั้งใจแต่งตัวดีๆไปมหาวิทยาลัย จนบางครั้งดูเหมือนเธอจะลุกจากที่นอนไปมหาวิทยาลัยเลยก็มี แต่ถึงเวลานี้โนริโกะเปลี่ยนไปแล้ว เธอดูสดใสขึ้นยิ่งโดยเฉพาะวันแต่งงาน เธอดูสวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเห็นเธอมา โนริโกะเปลี่ยนไปแล้ว คงเหลือแต่ฉันเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม ยังคงจมอยู่กับอดีต เหมือนกับฉันกำลังยืนหยุดนิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังเดินไปข้างหน้า มันคงถึงเวลาที่ฉันควรจะออกเดินบ้างแล้ว
“เรียวโกะ เธอจะไม่เอาหนังสือนั่นไปจริงๆเหรอ” โนริโกะถามถึงหนังสือ อิน เซิร์ช ฟอร์ ลอร์ส ไทม์ที่วางอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนชั้น ฉันหันไปมองมันสักพักก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าตอบรับคำถามนั้น
“ฉันอยากเริ่มต้นใหม่”
“ฉันเข้าใจ แต่เธอไม่คิดจะกลับมาอีกเลยเหรอ ”
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้คิดจะไปแล้วไปลับสักหน่อย ว่างฉันก็แวะมาหา”
“ก็ใครจะไปรู้แน่ล่ะ เธอดูตั้งใจจะไปจริงๆเลยนี่นา จริงสิ เธอรู้เรื่องของมินามิหรือยัง”
“ทำไมฉันถึงจำเป็นต้องรู้”
“แหม เรื่องของศัตรูหัวใจก็น่าจะรู้เอาไว้บ้าง ฉันว่าเป็นข่าวดีนะ..เอ๊ะ จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
              ฉันนิ่งเงียบ ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป มินามิ ทำไมฉันจะต้องสนใจความเป็นไปของเธอด้วย ในเมื่อเธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการจากฉันไปหมดแล้ว เด็กสาวที่ดูใสซื่อแต่กลับฝากรอยแผลที่บาดลึกไว้ในใจฉัน ทว่าถึงแม้เธอจะทำในสิ่งที่ฉันไม่พอใจมากมายเพียงใดก็ตาม เธอก็คือเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่รักฉันเหมือนอย่างเพื่อน และฉันเองก็รักเธอเช่นกัน มันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด แต่ฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกของเธอและการกระทำของเธอ ฉันเข้าใจดี
“มินามิเป็นลูคิเมีย คงจะอยู่ได้ไม่เกินฤดูใบไม้ร่วงหน้า”
ฉันตกใจอย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
“อยากมาโกหกกันแบบนี้นะโนริโกะ มันไม่ดี”
“ฉันไม่ได้โกหก ฮิโงเพื่อได้ข่าวมา ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ยัยนั่นอาจจะอยากเก็บคุโรบะคุงไว้ให้ถึงที่สุด ก็เลยสร้างข่าวก็ได้”
“ใครจะสร้างข่าวแบบนี้ ให้ตายสิ” ฉันเข่าอ่อนทรุดนั่งลงเบาะข้างตัว
“เธอน่าจะโล่งใจไม่ใช่เหรอ”
“เธอว่าไงนะ?” ฉันหันไปมองโนริโกะอย่างที่ไม่อยากเชื่อในคำพูดของเธอ “เธอว่าการดูคนอื่นค่อยๆตายเป็นสิ่งที่น่าโล่งใจอย่างนั้นเหรอ  เธอคิดว่าพอมินามิตายไปแล้วอะไรจะดีขึ้นเหรอ”
“สิ่งที่ฉันหงุดหงิดใจไม่ใช่เรื่องของมินามิหรอก แต่เป็นเรื่องของเธอต่างหาก” โนริโกะมองหน้าฉันอย่างเวทนา “เรียวโกะ เธอหนีปัญหาไปได้ไม่ตลอดหรอกนะ” ความรู้สึกภายใต้จิตสำนึกของฉัน ไม่ได้ถูกระตุ้นตามที่โนริโกะต้องการ ตรงข้ามกัน มันยิ่งสั่งให้ฉันเก็บความรู้สึกนั้นให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลึกจนฉันไม่สามารถจะค้นหามันเจออีกต่อไป ในตอนนี้คนที่ต้องการคุโรบะที่สุดคือ มินามิ และฉันเองก็เชื่อว่าคุโรบะก็จะอยู่เคียงข้างมินามิจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเธอเช่นกัน รวมถึงตัวฉันเองก็ต้องการแบบนั้น เรื่องราวทั้งหมดควรจะจบเพียงเท่านี้
ของทั้งหมดถูกจัดใส่รถบรรทุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องนั้นว่างเปล่า เหลือเพียงอิน เซิร์ช ฟอร์ ลอร์ส ไทม์และดอกคิเคียวสีม่วง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นบนความต้องการของชั้น หรือบนความผิดพลาดใดๆ ฉันได้ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่แล้ว เวลานับจากนี้ จะมีเพียงอดีตและบทเรียนเท่านั้นที่ฉันจะจดจำ
ลาก่อน ความทุกข์และความสุขของฉัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น