ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : เริ่มค้นหาความจริง

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 54


    ริกตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า เขาออกจากห้องนอน เดินไปสั่งผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีอายุหกสิบแล้ว แต่ยังกระชับกระเฉง ว่องไว เธอยังใส่แว่นกรอบกลมๆเล็กๆ เสื้อเชิ้ต ตัวใหญ่ๆ ใส่เข้าไปในกางเกงทรงป่องๆที่ก้นแล้วมาเข้ารูปที่ขา

    “ป้าแก้วคร้าบบบบบ ผมขออาหารเช้าวันนี้ใส่ปิ่นโตสองชุดด้วย แล้วสั่งคนขับรถให้เตรียมรถให้พร้อม วันนี้ผมจะออกจากบ้านก่อนหกโมงครึ่ง”

    “คุณริก จะไปทานกับใครคะ”

    “ความลับครับผม” ริกอมยิ้ม “ป้าทำให้อร่อยสุดฝีมือนะ”

    “รับทราบค่ะ เด๋วป้าจัดให้สุดฝีมือเลย”

    ริกขึ้นไปแต่งตัวที่ห้องแต่งตัวของเขา แล้วขึ้นรถที่คนขับรถเตรียมมาให้

    “ปิ่นโตวางอยู่ข้างคนขับ กล่องสีขาวคือข้าว กล่องอื่นๆคือกับข้าวนะคะ ป้าเตรียมไว้ให้คุณริก แล้วนี่ค่ะน้ำส้มคั้นสดๆ” ป้าแก้วบอก

    “ขอบคุณครับ” ริกบอกพร้อมกับขึ้นรถ และขับออกไปยังคอนโดของเขา

     

    ติ๊งต่อง!

    เสียงกริ่งดังขึ้น วารีงงเล็กน้อยกับจอที่ขึ้นรูปชายหนุ่ม “เอ๊ะ กดตรงไหนเนี่ย” เธอไม่สนใจเดินไปเปิดประตูทันทีเลย

    “สวัดดีค่ะ คุณริก”

    “เพิ่งตื่นหรอครับ คราบน้ำลายติดอยู่ที่แก้มน่ะครับ”

    “ว้าย!! จริงหรอ” วารีรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้า ทำธุระของเธอและเดินออกมาอย่างเขินๆ

    “จริงๆ ผมล้อเล่นครับ คุณก็ตกใจซะ” ริกอมยิ้ม ทำให้เธอยิ่งรู้สึกอาย

    “ผมเตรียมอาหารเช้าให้คุณด้วย เมื่อวานผมลืมคิดไปเลยว่าคุณจะได้ทานอะไรหรือยัง พอเปิดตู้เย็นแล้ว..”ริกจงใจหยุดคำพูดไว้

    “ก็ฉันหิวมากๆนิคะ ถ้าคุณจะมาว่าฉันก็ไม่น่ามาช่วยฉัน  พอที ฉันไปล่ะ ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยเหลือ” วาเริ่มโมโหกลบเกลื่อนความอาย

    “ผมแซวเล่นครับคุณวา นี่ครับ” เค้ายื่นเอกสารปึกหนึ่งให้

    “นี่คือข้อมูลของครอบครัวของคุณทั้งหมด รวมทั้งประวัติของคุณ”

    วารีรีบคว้าเอกสารนั้นทันที แต่เหลว เพราะริกหลบ

    “ทานข้าวก่อนสิ ไม่งั้นยังไม่ให้” ริกบอกเงื่อนไข

    วารีไม่รอช้ารีบนำข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็วและยัดๆเพื่อใหห้หมดไวไว

    “อ่าวๆ เดี๋ยวก็ติดคอตายพอดี” ริกบอกเทน้ำส้มให้หญิงสาว

    หญิงสาวกินจนหมดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยื่นมือขอเอกสารนั้นทันที ริกยื่นให้

    “ผมไปล่ะ คุณก็ตั้งใจอ่านนะ” ริกเดินออกมา พร้อมกับบ่นในใจ “ไม่น่าให้เห็นก่อนเลย อดกินข้าวเลยเรา อ๊าก หิว”

    หญิงสาวกำลังอ่านเรื่องราวของเธอ “โอ้โห ครอบครัวฉันร่ำรวยขนาดนั้นเลยหรอ เป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งขนาดใหญ่ของเอเชีย ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของประเทศ ว่าแต่ทำไมแม่ของฉันชื่อ คณิฐา เตโชบูรณะ แล้วคุณออร่าผู้หญิงในห้องนั้นบอกว่าเป็นแม่ของฉันล่ะ ทำไมไม่อยู่ในนี้เลย” ขณะที่กำลังคิดนั้น เธอเหลือบไปเห็นข้าวอีกจานที่ยังไม่ได้กิน

    “นายริกเอาข้าวมาให้เยอะแยะ ตักสองจานด้วยกะให้ฉันอ้วนตายหรอเนี่ย เอ๊ะมีสองจาน นายนั่นกะมากินกับฉันหรือเนี่ย”

    “คงไม่มั้ง ไม่งั้นเขาคงกินไปแล้ว” หญิงสาวคิดทันที และเริ่มลงมือเก็บล้างจานด้วยเครื่องล้างจานในครัว

    ส่วนทาง ริกเดินตรงเข้าไปยังบริษัทของเขา ก็พบกับฟ้า คนดูแลของวารีอีกครั้ง

    “คุณหนูหายไป คุณอยู่กับเธอครั้งสุดท้าย”

    ริกไม่สนใจ เดินผ่านเธอไปเหมือนไม่ได้ยิน  ฟ้าคว้ามือริกไว้ “เดี๋ยวค่ะ คุณกำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับเรานะคะ โดยเฉพาะกับคุณหนู คุณยิ่งเอาเธอไปซ่อน เธอยิ่งมีอันตรายมากขึ้นนะ ขอร้อง พาเธอกลับมาเถอะค่ะ”

    “ผมไม่รู้ คุณพูดอะไร คนของคุณคุณควรไปดูแลเอง” ริกเดินตรงเข้าห้องทำงานของเขาไป

    ฟ้าเดินกลับทันที

    ริกเข้าไปในห้อง กดโทรศัพท์เรียกเลขาของเขา

    “นก แขกของผมเมื่อกี้กลับไปหรือยัง”

    “กลับไปแล้วค่ะ คุณริก”

    “คุณเข้ามาที่ห้องผมหน่อย”

    นกเดินเข้าไปในห้องผู้บริหารตามที่ริกบอก

    “วันนี้ถ้าคุณกลับบ้าน คุณช่วยเอาเสื้อของผม และรถของผมไปใช้หน่อย”

    “คะ ทำไมล่ะคะ คุณริก”

    “น่าๆ ช่วยผมหน่อยนะ”

    “เรื่องเสื้อไม่มีปัญหาค่ะ แต่เรื่องรถ ฉันขับรถไม่เป็นค่ะ”

    “งั้นคุณช่วยหาคนที่ขับรถได้นำเสื้อกับรถของผมไปใช้สักอาทิตย์นึงที ผมอนุญาตให้เขาหยุดงานเที่ยวได้ทั้งอาทิตย์เลย”

    “ได้ค่ะ คุณริก”

    ที่คอนโดของริก วาเก็บกวาด ถูห้อง ทำความสะอาดห้องอยู่นั้น ทำให้บังเอิญไปเห็นรูปถ่ายของเธอในห้องนอนของริก

    “นี่เขา รู้จักฉันมาก่อนหรือเนี่ย”

     

    ริกนั่งทำงาน จนถึงเวลาพักเที่ยง ก็สวมหมวก ใส่แว่น และนั่งแท๊กซี่ไปที่คอนโดของเขา

    ติ๊งต่อง!!

    ริกกดกริ่ง วาได้ยินเสียงกริ่งแล้ววิ่งมาเปิกประตูทันที

    “ผมซื้อขนมเค้ก และกับข้าวมาฝากคุณด้วย มาทานด้วยกันนะครับ”

    “คุณเป็นใครคะคุณริก ทำไมคุณไม่บอกมาก่อนว่าคุณรู้จักกับฉัน” วารีเริ่มต้นถาม

    ริกตกใจเล็กน้อย ก่อนจะบอกเธอว่า

    “ใจเย็นครับ มาทานข้าวก่อน เด๋วจะเล่าให้ฟัง”

    “จะเย็นได้ไง” วารีเริ่มโมโห “คุณหลอกลวงฉัน คุณไม่มีน้องชายด้วยซ้ำ คุณกำลังมีแผนการอะไรกันแน่คะคุณริก”

    “งั้นตามที่คุณรู้ ผมชื่อริก ฤทธิกรณ์ เวริไพบูรณ์ พ่อของผมเป็นเพื่อนรักกับพ่อของคุณ คุณสยาม เตโชบูรณะ ผมรู้จักกับคุณวาตอนผมไปบ้านของคุณตอนนั้นคุณอายุห้าขวบ ผมอายุเจ็ดขวบ คุณยังเคยขอผมแต่งงานเลย

    “น้องวาจะเป็นแม่ ส่วนพี่ริกเป็นพ่อ เราแต่งงานกัน”

    “และวันนั้นเป็นวันที่พ่อและแม่ของผมเสียชีวิต”

    “ว่าไงนะคะ ขอโทษค่ะ” วารู้สึกผิด

    “ไม่เป็นไรครับ มันคืออดีต คุณไม่ต้องขอโทษก็ได้”

    “หลังจากนั้น เราก็พบกันอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยเราเรียนที่เดียวกัน และเราก็เคยคบกัน”

    “หา ว่าไงนะ ฉันเนี่ยหรอ เคยคบกับคุณ”

    ริกหัวเราะท่าทีของเธอ “ล้อเล่น ไม่เล่าแล้วดีกว่า เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด”

    ริกอ้อน “ผมหิวแล้วนะ ทานข้าวเถอะ”

    วายังสงสัยอยู่ จึงถามอีกครั้ง “แล้วเด็กคนที่ฉันเดินชนล้มคนนั้นล่ะคะ เป็นใคร”

     “ผมไม่รู้จักครับ ผมเห็นคุณเดินผ่านเลยเรียกคุณไว้เท่านั้น แต่ผมพาน้องเขาไปหาแม่แล้วนะ อย่ากังวลเลย ทานข้าวก่อนนะ ทานไปคุยไปก็ได้”

    “ค่ะ ท่าทางคุณจะหิวมากเลยนะ คุณริก”

    “แน่ล่ะครับ ผมยังไม่ทานอะไรตั้งแต่เช้า”

    วารีถึงได้รู้ว่าเค้าจะมากินข้าวกับเธอนี่เอง โธ่คุณริก เธอจึงไปช่วยเทกับข้าวและลำเรียงจานมาวางที่โต๊ะ

    “ขอบคุณนะคะ สำหรับทุกๆอย่าง”

    “ผมกลัว คุณไปนอนข้างถนนน่ะ เดี๋ยวไปติดขี้เรื้อนอะไรมาเข้า”

    “บ้าหรอ ฉันไม่ใช่หมานะ” ริกหัวเราะ เขารู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับวา แต่แล้วพอนึกถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดแล้วทำให้เขาเริ่มกังวล

     

    ช่วงเย็นวันนั้นเอง ฟ้าได้ติดเครื่องมือติดตามไว้ที่รถของริก และเสื้อสูทของเขาในช่วงที่เธอแสร้งพยายามขอร้องเขา เมื่อดูเห็นว่ามีการเคลื่อนไหว เธอก็เริ่มสะกดรอยตามอย่างเงียบๆ รถคันนั้นได้พาเธอไปยัง ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และไปต่อที่บ้านหลังหนึ่งย่านบางนา เธอยังคงตามไปเรื่อยๆ โดยแค่เช็คว่าริกไปไหนบ้างเท่านั้น เมื่อเช้าวันต่อมา รถของริกได้เดินทางไปยังภูเก็ต เธอจึงขับตามไปยังภูเก็ตด้วย

                    ริกออกจากคอนโดก็ไปจ้างนักสืบคนหนึ่ง สืบความสัมพันธ์ของคุณออร่ากับคุณสยาม ตามข้อมูลที่วารีสงสัย เมื่อเสร็จธุระแล้วเขาก็โทรไปหาวารีที่คอนโดของเขา

                    “สวัสดีค่ะ”

                    “คุณวารีครับ นี่โทรศัพท์ของคอนโดผมนะครับ คุณมารับสายได้ไง”

                    “ก็คุณ ไม่ได้บอกนิห้ามฉันรับโทรศัพท์”

                    “งั้นผมสั่งห้ามคุณรับโทรศัพท์นะครับ เด็ดขาดเลย”

                    “ค้า....เจ้านาย มีอะไรจะสั่งอีกไหม”

                    “ไม่มีครับ” ริกวางหู

                    สักพักเขากดโทรศัพท์ใหม่

                    “สวัสดีค่ะ”

                    “ไหนว่าจะไม่รับโทรศัพท์ไง”

                    “แล้วคุณ โทรมาทำไมล่ะ” วารีโมโหและวางสาย

                    “ตาบ้า” วารีนึกขำในความขี้เล่นของชายหนุ่ม

                   

                    สยาม พ่อของวารี ได้รับข่าวจากฟ้าว่ากำลังอยู่ชุมพร

                    “ส่งคนไปค้นหาเพิ่ม แล้วสืบหรือยังว่าบ้านหลังนั้นเป็นของใคร”

                    “บ้านหลังนั้นเป็นของพนักงานบริษัทคนหนึ่งของนายริกค่ะ”

                    “เด็กคนนี้กล้ามาก ฉันจะทำให้รู้ว่ามาแย่งของคนอื่นแล้วจะได้รับผลยังไง” สยามโมโห

                    “ตามต่อไป จนกว่าจะเจอเธอ”         

                    “ค่ะท่าน” 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×