ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DDD! :: Dating the Damn Dude :: (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : ลำดับตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 55






    DDD! 5

    บร๊ะเอก!

     

     

    !+!+!+!+!






    ตกลง เมิงจะบอกกรูได้รึยัง” ไอ้นัท เพื่อนเก่าแก่จนขึ้นสนิม(และลามไปถึงหัวเพราะมันย้อมหัวแดง)ตั้งแต่ ม.ต้น ถามขณะที่พวกเรากำลังหลับ เอ๊ย! ฟังเลกเชอร์ อยู่อย่าตั้งอกตั้งใจ

     

     

    กรูบอกเมิงหลายครั้งแล้วไง” ผมย้ำอย่างหน่ายๆให้กับผู้พิการทางหู นี่มันถามผมจนจะครบ 500 รอบแล้วมั้ง -_-;

     

     

    "ว่าไอ้เด็กนั่นมันญาติกรู” หึๆ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมโม้ไปว่าไอ้เฟมน่ะเป็นญาติผม ก็แหม...คนมันขี้เกียจฟังไอ้พวกเพื่อนสุดเลิฟมันล้อนี่ครับ ยิ่งเดือนที่แล้วเพิ่งจะโดนเด็กวิทยาจีบหยกๆ (ไอ้พวกเพื่อนเวรคงจะไม่ล้อผมเอาเป็นเอาตายแน่ๆ ถ้าไอ้เด็กวิทยาคนนั้นไม่ใช่ผู้ชายน่ะนะ) เฮ้อ เป็นเวรเป็นกรรมตั้งแต่ชาติปางไหนของผมนะ...T_T สงสัยตอนแม่ผมท้องต้องกินน้ำตาลเป็นปี๊บๆแน่ๆ ไอ้พวกเพื่อนเวรถึงได้ชอบล้อผมนักล้อผมหนาว่าหน้าหวานปานคริสปี้ครีม

     

     

    เมิงดูปากกรูไอ้บัมพ์" ไอ้ปิงเพื่อนกิน(เพราะมันเอาแต่กินจนตัวบวม)พูดพลางชี้ไปที่ปาก แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตกลงมันจะให้ผมดูปากหรือพุงกันแน่ ก็มันเล่นยื่นพุงกลมๆมาจ่อที่หน้าผมนี่นา "กรู-ไม่-เชื่อ!” พระเจ้า พุงไอ้ปิงกระเพื่อมอีกแล้ว O_O

     

     

    ใช่ ไอ้บัมพ์ เมิงมีส่วนไหนเหมือนไอ้น้องคนนั้นบ้าง ตาเมิงก็โตเท่าไข่ห่าน หัวเมิงก็เถิก ขาเมิงก็สั้น”

     

     

    เฮ่ย เฮ่ย พอๆ เมิงจะหลอกด่ากรูไปถึงไหน” ผมเริ่มนอยแตกเพราะถูกขนาบข้างด้วยพวกอยู่ไม่สุข

     

     

    หลอกด่าที่ไหนล่ะ ไอ้นัทมันพูดความจริง เนอะ” พูดจบไอ้อ้วนปิงก็หันไปหัวเราะกับไอ้นัท

     

     

    จุ๊ๆ” จู่ๆแก๊งสาวแว่นข้างหน้าก็หันมาขมวดคิ้วแล้วจุ๊ปากเตือนให้พวกผมลดเสียงลง เป็นธรรมชาติที่ผมจะส่งสัญญาณโอเคกลับไป

     

     

    พวกเมิงเลิกไร้สาระได้ปะ กรูกำลังเฮิร์ทอยู่นะเว่ย” ผมพูดให้เบาลง

     

     

    เหรออออ เฮิร์ทเหรี้ยอะไรอีกล่ะ" ไอ้ปิงพูดทีเล่นเอาผมแทบอุดปากมันไม่ทัน

     

     

    เบาๆหน่อยห่าน อยากโดนด่าอีกทีรึไง”

     

     

    "เรื่องเฟิร์นน่ะนะ ตอนเค้าอยู่เมิงไม่เห็นจะแคร์อะไรเค้าเลย” มันพูดเบาลงเช่นกัน คำพูดไอ้ปิงอาจฟังดูเหมือนผู้มีประสบการณ์เรื่องความรักมากมาย แต่หารู้ไม่ว่าพยูนเกยตื้นเยี่ยงมันไม่เคยจีบสาวที่ไหนติดเลย (ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้ามัน ^^)

     

     

    แต่กรูเฮิร์ทเว่ย เล่นลงทุนส่งรูปคู่กับแฟนใหม่มาให้ดูถึงที่แบบนี้ มันหยามกันชัดๆ”

     

     

    นั่นไง พูดอย่างงี้ก็แสดงว่าเมิงยอมรับแล้วว่าเมิงไม่รักเค้า แล้วเมิงไปเป็นแฟนเค้าทำไม มันเสียของนะไอ้บัมพ์” ไอ้นัทพูด หึๆ มาอีกคนแล้วครับพวกไม่สมหวังในความรัก

     

     

    ก็กรูบอกเมิงไปแล้วไง เค้ามาจีบกรูก่อน ก็กรูมันไม่เคยโดนจีบ ไม่เคยมีแฟนนี่หว่า”

     

     

    ไอ้บัมพ์ เมิงนี่เห็นแก่ตัวมากนะ ถ้าไม่ชอบส่งมาให้กรูดิวะ” เฮ่ยๆ ใจเย็นๆร่มๆไว้ไอ้นัท เสียงเมิงเริ่มดังแล้วนะ

     

     

    เออ เมิงแมร่งเหรี้ยว่ะไอ้บัมพ์” พูดดังอย่างเดียวไม่พอ จู่ๆไอ้พยูนปิงก็ลุกขึ้นพรวด โอ้หม่ายแดดดี๊! ไอ้ปิงเมิงจะทำเหรี้ยอะไร! แน่นอนว่าสายตาทุกคู่จากทุกอณูของห้องเลกเชอร์ไม่เว้นแม้กระทั่งอาจารย์ถูกสะกดไว้ด้วยจังหวะการกระเพื่อมผึบผับของพุงไอ้ปิง

     

     

    ...แต่ที่โชคร้ายก็คือไอ้เจ้าตัวดันถูกไขมันบังหน้าซะจนมองไม่เห็นว่ากำลังถูกจ้องอยู่นะสิ...และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ทะลึ่งเกิดขึ้น

     

     

    ถามจริงไอ้บัมพ์...เมิงเป็นเกย์ใช่มั้ย!! อ๊ัย...อ๊ัย..อ๊ัย...”

     

     

    เสียงของไอ้ปิงสะท้อนไปทั่วทุกมุมห้อง...คงจะมีแค่คนหูหนวกเท่านั้นที่ไม่ได้ยิน

     

     

    จบละ...ชีวิตวัยหนุ่มของยอดชายนายบัมพ์ จบแล้ว...T__________T

     

     

    เสียงหัวเราะห่าใหญ่ดังกระหึ่มเหมือนเสียงคลื่นซัดที่รุนแรงน่ากลัว ไอ้ปิงถูกไอ้นัทดึง(ไม่สิ แบบนี้ต้องกระชาก)ให้กลับลงมานั่งที่ เพราะผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆมันกำลังรับอาฟเตอร์ช็อคอยู่อย่างหนักหน่วง T_T

     

     

    อ๋อออ ไอ้บัมพ์นั่นไง ที่เตี้ยๆ ตัวขาวๆน่ะ”

     

    กะแล้วเชียว หน้าแบบบัมพ์อะ โคตรเคะอะเลยแก หุ่นก็บ๊างงงบาง”

     

    ฮ่าๆ ดีๆ คณะเราผู้ชายลดลงไปอีกคนแล้ว ตัดคู่แข่ง ฮ่าๆ”

     

    โถ่ ผู้ชายมันจะสูญพันธุ์หมดแล้วใช่มั้ย!”

     

    เดี๋ยวนี้เค้าฮิตเป็นเกย์กันนะ เมิงไปเป็นบ้างสิ ฮ่าๆๆ”

     

     

    และไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรทำให้ผมนึกถึงฉากที่เจอไอ้เฟมอีกครั้ง อ๊ากกกกกก...ลาก่อนครับทุกคน...ตอนนี้วิญญาณผมหลุดออกจากร่างโดยสมบูรณ์แล้ว...

     



    อะแฮ่ม! ใครจะเป็นเก้งเป็นกวางเป็นเกย์ก็ช่างมันปะไร” เจ๊หวี หรือเรียกเต็มๆคือ คุณนายฉวีวรรณ อาจารย์ฟิสิกส์ขยับแว่นตาสีแดงสะท้อนแสงของแก แล้วส่งสายตาโหดๆประมาณว่า 'ถ้าเธอไม่ฟัง ฉันจะเลิกสอนแล้วหนีไปถ่ายแบบบิกินี่!' (มันคงเป็นภาพที่สยดสยองน่าดู) ซึ่งก็ได้ผลอีกตามเคย

     

     

    "แต่ เกย์ ลูซแซก เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นกฎของแก๊ส ซึ่ง บลา บลา บลา...” โหห สุดยอดครับ! เจ๊แกไหลกลับเข้าเนื้อหาได้เนียนมาก! แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตื่นเต้นกับความเนียนของเจ๊แกนะ

     

     

    ไอ้บัมพ์ เป็นไรป่าวเมิง" ทั้งไอ้นัทและไอ้ปิงรุมเขย่าไหล่ผม หัวผมสั่นไปตามแรงเขย่าในขณะที่สายตากลับเหม่อลอย ...หึๆ สายไปแล้วล่ะเพื่อน วิญญาณกรูลอยไปถึงดิสนีย์แลนด์เรียบร้อยแล้วมั้ง

     

     

    "กรูขอโทษๆ มันลืมตัวไปหน่อย” ไอ้ปิงมันพูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับเขย่าตัวผม

     

     

    อืม กรูเข้าใจ...” ในที่สุดผมก็ตอบมันไปอย่างลอยๆ

     

     

    เฮ้ออ งั้นก็โล่งอก...” ไอ้ปิงกับไอ้นัทถอนหายใจพร้อมกัน

     

     

    ฮื้อออ" จู่ๆผมก็ร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว "ถ้าพรุ่งนี้มีใครเรียกกรูว่า 'บั้มมี่' พวกเมิงต้องรับผิดชอบ!” อ๊ากๆๆๆ TOT ผมกระชากคอเสื้อไอ้สองตัวด้วยความบ้าคลั่ง ...ช่วยตอบผมทีครับ ว่าผมยังไม่เสียสติไปใช่มั้ย!? T____T


     

     

    .

    .

    .

     

     

    ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!”

     

     

    เฮ้ย ตะโกนหาไรเนี่ยบั่มบั๊ม” ไอ้เฟมผลักประตูห้องนอนเข้ามาดังปัง!

     

     

    ไม่จริงใช่มั้ย ไม่จริงๆๆๆๆๆๆๆๆ” แต่ผมยังคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงพร้อมกับเกาหัวตัวเองแรงๆเพราะดันไปนึกถึงเหตุการณ์สุดแสนจะน่าอับอายที่ห้องเลคเชอร์เมื่อเช้าเข้าน่ะสิ

     

     

    อ๋อออ ถึงกรูจะทั้งเท่ห์ ทั้งฉลาด ทั้งหุ่นดี แถมหล่อกว่าพระเอกช่องสามอีกด้วย แต่กรูอยู่ปี1จริงๆนะ”

     

     

    ...” ไอ้เฟมคงทำหน้าอวดดีอีกตามเคย แต่ในเวลานี้ผมไม่มีอารมณ์ไปต่อกรกับมันหรอก!

     

     

    นี่!” ไอ้เฟมจับไหล่ผมให้นิ่งอยู่กับที่ "นี่ๆๆๆๆ” มันเริ่มเขย่าผมแล้วครับ วันนี้ผมเป็นแลคตาซอยรึไง ถึงโดนเขย่าก่อนดื่มอยู่ได้ -_- แต่ก็ หึๆ เขย่าไปเถอะเมิง วิญญาณกรูที่อยู่ดิสนีย์แลนด์คงกำลังต่อคิวขึ้นเครื่องเล่นอยู่ ยังไม่กลับมาง่ายๆหรอกว่ะ

     

     

    เฮ้อ ดีเนอะ มีเพื่อนเป็นบ้า” มันบ่นอุบอิบแล้วสบัดตูดออกไป

     

     

    ฮื๊ออออ” ด้วยความหงุดหงิดผมเลยหยิบหมอนมากอดแล้วกลิ้งกับเตียงต่อไป คอยดูนะถ้าผ้าปูเตียงยังไม่ถลอก ผมก็จะไม่หยุดหมุน เชอะ (ดู งอนเป็นตุ๊ดเลยตรูT^T)

     

     

    แต่แล้วเสียงกีตาร์โปร่งที่บรรเลงเพลงสบายๆกับเสียงผิวปากเข้าจังหวะที่ดังมาจากประตูห้องก็ทำให้ผมชะงัก ความนุ่มของเตียงที่ค่อยๆหย่อนลงไปก็บอกผมว่ามีใครอีกคนทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ แล้วจู่ๆก็มีเสียงนุ่มๆแทรกเข้ามาตามทำนอง

     

     

    " ใครหนอใครทำให้เธอต้องเสียใจ
    ร้องไห้ฟูมฟาย ดั่งคนไร้วิญญาณ
    มองดูเธอทรมาน เธอร้องไห้จน
    ดูสิ น้ำตาจะหมดตัว ”

     

     

    ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้ำหน้าอย่างไอ้เฟมจะร้องเพลงเพราะขนาดนี้ รู้งี้ให้มันเปิดหมวกเก็บตังหน้าบ้านมาเป็นค่าแอร์ดีกว่า ฮ่าๆๆ

     


    " ผิดหวังพ่ายแพ้ มันก็แค่เพียง
    ชีวิตบางครั้ง ที่ฟ้านั้นลำเอียง "

     

     

    ผมพลิกตัวไปเพื่อมองมัน แต่บังเอิญเป็นจังหวะที่มันหยุดเล่นพอดี...และหันมามองผมพอดี มันส่งยิ้มให้แวบนึงแล้วก้มลงไปจับคอร์ดต่อ



    " แต่เธอ ในยามที่เธอต้องเหน็บหนาว
    หรือคราวที่เธอไม่เหลือใคร
    ซบซบลงตรงไหล่ฉัน ในคืนที่เธอต้องเจ็บช้ำ
    หรือวันที่เธอต้องทุกข์ทน ยังมีฉันอีกคน

    ในยามที่เธอต้องเหน็บหนาว
    หรือคราวที่ฟ้าไม่เป็นใจ
    ซบซบลงตรงไหล่ฉัน ในคืนที่เธอต้องเจ็บช้ำ
    หรือวันที่เธอต้องทุกข์ทน ยังมีฉันอีกคน
    อยู่ตรงนี้และรอ ”

     

     

    และแล้วดนตรีเพราะๆกับเสียงนุ่มๆก็ทำให้ผมยิ้มได้ ^^
     


    " ตัวฉันเองแม้ไม่ดีและเลิศเลอ
    แต่ไม่อยากเห็นเธอต้องร้องไห้เดียวดาย
    อยู่กับฉันไม่เป็นไร เธอร้องได้เลย
    เอาให้น้ำตามันหมดตัว ”

     

     

    "ฮ่าๆ" ผมเผลอหัวเราะไปกับใบหน้ากวนๆที่หันมายักคิ้วให้



    " ผิดหวังพ่ายแพ้ มันก็แค่เพียง
    ชีวิตบางครั้ง ที่ฟ้านั้นลำเอียง

    แต่เธอ ในยามที่เธอต้องเหน็บหนาว
    หรือคราวที่เธอไม่เหลือใคร
    ซบซบลงตรงไหล่ฉัน ในคืนที่เธอต้องเจ็บช้ำ
    หรือวันที่เธอต้องทุกข์ทน ยังมีฉันอีกคน

    ในยามที่เธอต้องเหน็บหนาว
    หรือคราวที่ฟ้าไม่เป็นใจ
    ซบซบลงตรงไหล่ฉัน ในคืนที่เธอต้องเจ็บช้ำ
    หรือวันที่เธอต้องทุกข์ทน ยังมีฉันอีกคน
    อยู่ตรงนี้และรอ

    จะทำอะไรก็ทำเถอะ
    แต่ขอเพียงเธอแค่ซบ ลง..."

     

    ไอ้เฟมหันมาอมยิ้ม ก่อนจะร้องท่อนสุดท้ายจนจบ

     

    " ก่อนจะดีไหม "

     

     

    เสียงดนตรีชวนให้เคลิบเคลิ้มยังคงถูกบรรเลงไปเรื่อยๆ ' ดีสิ! ' ผมคิดในใจ แต่ไม่รู้ว่ากามเทพ (ไม่สิ แบบนี้ต้องยมบาลแล้ว) ท่านไหนดลใจให้ผมเอาหัวตัวเองไปซบไว้ที่ไหล่ไอ้เฟมมันจริงๆ

     

     

    แต่น่าเสียดาย...ที่จู่ๆเพลงเพราะๆเย็นๆของกีตาร์โปร่งก็หายไป

     

     

    หยุดทำไมวะ กำลังเพลินเลย” ผมต่อยหัวเข่ามันเบาๆเป็นการทำโทษ

     

     

    ไปอาบน้ำได้แล้ว หัวเมิงเหม็นแล้วนะ”

     

     

    เย้ย!” พูดจบมันก็ผลักหัวผมกระเด็นจนเสียหลักลงไปนอน

     

     

    ฟุดฟิด ฟุดฟิด ผมหยิบเส้นผมตัวเองมาดม

     

     

    "โด่ หัวกรูไม่เห็นจะเหม็นซักหน่อย เมิงแกล้งกรูอีกแล้วนะไอ้เฟม!”

     

     

    ...”

     

     

    อ่าวเฮ้ย หายหัวไปไหนแล้วล่ะ!

     

     

    ถ้าชอบก็บอกนะ เดี๋ยวเล่นให้ฟังอีก” ตัวไม่อยู่ อยู่แต่เสียง ไอ้เฟมคงตะโกนมาจากชั้นล่าง

     

     

    "หึๆ ไวยังกับลิงเลยนะ" ผมบ่นกับตัวเองแล้วซุกหน้าลงไปในหมอน

     

     

    เพราะผมกลัวน่ะครับ

     

     

    กลัวว่าถ้าหากวิญญาณคุณทวดมาเห็นเข้าท่านจะตกใจ...

     

     

    ตกใจว่าทำไมพักนี้ไอ้บั่มบั้มคนนี้มันยิ้มบ่อยจัง ^////^

     





    !+!+!+!+!



    << 2Bcontinue >>


     

    อ่านแล้วเม้นด้วยเด้อขรับเด้อออ ^_________^

    ตอนนี้ยืมเพลงบร๊ะเอก เอ้ย! พระเอก ของ The Bottom Blues มาประกอบนะครับ
    เพื่ออรรถรสในการอ่าน ฟังคลอๆไปก็ดีนะครับ  >>>  http://www.youtube.com/watch?v=6DhAiPVIGB0



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×