คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ม้วนเทปที่ชื่อ 'ความทรงจำ'
ม้วนเทปที่ชื่อ ‘ความทรงจำ’
จะมีสักวันไหม? ที่ชีวิตจะได้อยู่อย่างสุขสบายไร้เรื่องชวนปวดหัวเนี่ย!!!
“มึงเอาเงินมาให้กู แล้วกูจะหยุดตบมึง!!!” เสียงที่ดังมาจากทางหน้าบ้านทำให้ร่างสูงที่นั่งทำการบ้านอยู่บนโต๊ะไม้ตอกเองตัวเก่าต้องละสายตา
ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยความรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงโครมครามที่เกิดจากการบันดาลโทสะของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น พ่อ...
“ฉันบอกว่าฉันไม่มีไง!!! ทุกวันนี้ที่แกเอาไปมันยังไม่พออีกหรอ?” เสียงแม่ของเขาที่สั่นเครือ ใบหน้ามีรอยฟกช้ำอยู่ทั่ว ทั้งที่แผลเก่ายังไม่ทันจะหายดี คนเป็นพ่อก็ประเคนฝ่ามือซ้ำแผลเก่าอีก
“หยุดได้แล้วพ่อ!!! เดี๋ยวผมเอาเงินให้ แล้วจะไปตายที่ไหนก็ไป!!!” ร่างสูงพยุงผู้เป็นแม่ให้ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ไม้ ก่อนเจ้าตัวจะเดินหายเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบเอาเงินเก็บของตนเองมายุติปัญหา
มันจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?
มันจะต้องเป็นเช่นนี้อีกกี่ครั้ง? ที่แม่ของเขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน ซ้ำยังต้องเป็นที่รองมือรองเท้าของคน ‘เคย’ เป็นผู้นำในครอบครัว
แล้วมันต้องเป็นเช่นนี้อีกกี่ครั้ง? ที่เขาต้องคอยยุติปัญหา ด้วยการเอาเงินเก็บทั้งเดือนของตัวเอง ที่สู้อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบวันละนิดออกมาให้ผู้เป็นพ่อเอาไปเล่นพนันจนหมด
ไม่!!!
มันจะเป็นครั้งสุดท้าย!!!
“เอาไปซะ!มันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะมอบให้คนอย่างพ่อ ฮึ!” ร่างสูงผู้เป็นลูกแสยะยิ้ม ไม่สนใจแม้ว่าจะถูกฝ่ามือหนาของชายสูงวัยฟาดลงไปกี่ครั้ง
เมื่อลับหลังผู้เป็นพ่อ ร่างสูงก็เข้าไปดูอาการคนเป็นมารดาทันที
“โดนที่เดิมอีกแล้ว...เข้าบ้านเถอะแม่ เดี๋ยวผมใส่ยาให้ แล้วแม่นอนพักนะ” หญิงวัยกลางคนที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ขอบตาคล้ำ ดวงตาไร้แววมีเพียงรอยยิ้มบนใบหน้าที่จะแย้มทุกครั้งเมื่อมองหน้าลูกชาย
สิ่งเดียวบนโลกใบนี้ที่ทำให้เธอ ผุ้เป็น ‘แม่’ มีเหตุผลในการมีชีวิตต่อไป
“ชานยอล เงินที่ให้พ่อไปน่ะ มีอยู่เท่าไรลูก? เดี๋ยวแม่จะเอาเข้าบัญชีคืนลูกนะ” เมื่อร่างสูงของลูกชายประคองแม่มาที่เตียงแล้วตั้งท่าจะหมุนตัวกลับออกไปเพื่อหาอุปกรณ์ทำแผลก็ชะงักกับคำพูดของแม่
“ไม่ต้องหรอกแม่ ให้เขาไปเถอะ เพราะมันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะได้รับมัน” แววตาฉายแววสัตว์ป่าของลูกชายทำให้คนเป็นแม่หวั่นใจ
“ชานยอล ชีวิตคนเราน่ะ บางคนเขาก็ว่าได้เกิดมามันคือ กรรม แต่สำหรับแม่น่ะ เกิดมามีบุญนะลูก” หญิงวัยกลางคนเอ่ยกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมทั้งเอื้อมไปจับมือของลูกชายเบาๆ
“บุญหรอ? แม่แน่ใจนะว่าทุกวันนี้เรียกว่าบุญ” ลูกชายสะบัดมือแม่แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่มือที่จับลูกบิดก็ต้องปล่อยลงข้างตัวเมื่อได้ฟังคำตอบของผู้เป็นแม่
“แน่ใจสิ ลูกนั่นแหละ บุญที่แม่พูดถึงน่ะ” ร่างสูงหันมาก็พบกับรอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ ก่อนจะกลั้นใจเปิดประตูห้องเดินจากไป
3 วันต่อมา
“ชานยอลเห็นพ่อไหม? เขาไม่กลับบ้านมาสามวันแล้วนะลูก” ปาร์คซอจินเอ่ยถามลูกชายที่นั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่กลางบ้าน
“แม่ อาทิตย์นึงเขายังเคยไม่กลับมา กับอีแค่สามวัน ไม่กลับมาน่ะดีแล้ว ตายไปได้ยิ่งดี” สิ้นคำลูกชาย คนเป็นแม่ก็ปรี่เข้ามาฟาดกลางหลังเข้าให้เต็มๆ
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้คนเป็นแม่หยุดการกระทำทั้งหมด ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่านดูบุคคลผู้มาเยือน
ตำรวจสองคน!!!
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ชานยอลพยุงมารดาออกไปหน้าบ้าน ก่อนจะเปิดประตูรั้วแล้วเชิญเชื้อตำรวจทั้งสองนายเข้ามาภายในบ้าน
“ญาติของปาร์ค ซองแจใช่หรือเปล่าครับ?” ตำรวจหนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นพร้อมชูรูปภาพของผู้ชายอีกคนในบ้านที่หายหน้าไปแล้วสามวันเต็ม
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือคะ? หรือว่าเขาไปก่อความเดือดร้อนที่ไหนอีก?” ซอจินจับมือลูกชายแน่น ผิดกับชานยอลที่รู้คำตอบอยู่เต็มอกว่าคนเป็น ‘พ่อ’ หายไปไหนถึงสามวันเต็ม!!!
“เราพบศพชายนิรนามคนหนึ่งเมื่อสามวันก่อนที่ไม่ไกลจากบ่อนการพนันครับ สภาพศพถูกเผาไหม้จนเกรียม ระบุตัวบุคคลไม่ได้ ทางเราส่งศพปริศนาไปให้ทางฝ่ายนิติเวชตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าเป็นนาย ปาร์ค ซองแจ” จบคำพูดของนายตำรวจร่างของผู้เป็นแม่ก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง
“มันเกิดอะไรขึ้นครับ?” ชานยอลสวมบทลูกชายถามไถ่ถึงเหตุการณ์และความเป็นมา
ทั้งๆที่ตนเองก็ไม่ต่างจากคนอยู่ในเหตุการณ์ที่รู้เห็นทุกสิ่งแต่แสดงละครตบตาเพื่อกันตัวเองออกจากข้อหาที่เสี่ยงคุก เสี่ยงตะราง
“จากการสอบสวนพยานละแวกนั้น คาดว่าน่าจะมาจากเหตุที่นายปาร์ค ซองแจเป็นหนี้พนันหัวโต เมื่อไม่มีเงินใช้หนี้เลยจบชีวิตแบบนี้ แต่ทางเราไม่มีหลักฐานในการจับกุมคนร้าย ขอแสดงความเสียใจที่ต้องแจ้งว่าคดีนี้จะไม่มีการดำเนินการ ทางเราเพียงแค่ตามหาตัวญาติเพื่อส่งศพไปทำให้ถูกต้องเท่านั้นครับ” นายตำรวจสองนายกล่าวจบก็แจ้งที่อยู่โรงพยาบาลแก่ญาติคนตายแล้วขอตัวกลับไป
“ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะลูก ทำไมจู่ๆเขาก็ตายล่ะ” ร่างของแม่เขายังคงสะอื้นไห้พร้อมทั้งถ้อยคำมากมายที่เอาแต่พร่ำว่าทำไมๆๆๆ
“เดี๋ยวแม่เข้าไปพักผ่อนนะ ผมจะไปจัดการเรื่องที่เหลือเอง” ปาร์ค ชานยอลพาผู้เป็นแม่ที่กำลังร้องห่มร้องไห้เข้าบ้าน แต่พลันหางตาก็เหลือบไปเห็น ‘บางสิ่ง’ ที่หน้ารั้วบ้าน
ร่างสีดำทะมึนไม่ต่างจากตอตะโก กำลังใช้สายตาอาฆาตจ้องเข้ามา ปาร์คชานยอลจ้องกลับไปด้วยสายตาแบบเดียวกัน พลางยิ้มเยาะในใจ
คนอย่างแกมันไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!!!
แล้วพลันร่างสีดำไหม้เกรียมนั้นก็หายวับไป เมื่อสายลมวูบใหญ่พัดมา...
ปาร์ค ชานยอลเลือกที่จะไม่จัดงานศพให้วุ่นวาย ลูกชายตัดสินใจจะทำเพียงแค่อุทิศบุญและส่วนกุศลให้ก่อนจะตัดสินใจนำร่างของผู้เป็นพ่อฝังทันที
ทำไมน่ะหรอ?
ผมจะเล่าให้คุณฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันก่อน
เมื่อร่างสูงส่งคนเป็นแม่ที่บอบช้ำจากแผลภายนอกเข้านอนไปแล้ว ร่างสูงคว้าเสื้อคลุมตัวโคร่งสีดำมาสวมใส่ ก่อนจะเปิดลิ้นชักแล้วควานหาไฟแช็กมาหนึ่งอัน
“อย่าโทษกันเลยนะ ที่ผ่านมามันก็เพราะคุณทำกับผมแล้วก็แม่เอาไว้ทั้งนั้น” ร่างสูงพึมพำก่อนจะกระชับเสื้อโค้ทแล้วเดินออกจากบ้านอย่างเบาที่สุด
ชานยอลรู้ว่าพ่อของตัวเองจะมาอยู่ที่ไหน? ถ้าไม่ใช่ที่บ่อนการพนันที่พ่อมาขูดเลือดขูดเนื้อเอาเงินที่แม่หามาได้มาต่อยอดที่นี่ แล้วหวังว่าจะเดินออกมาอย่างเศรษฐี
แต่ไม่มีซักครั้งที่พ่อของเขาจะกลับออกจากบ่อนอย่างคนมี นอกจากกลับออกมาอย่างยาจก...
แล้วมาตบตีเอาเงินจากแม่ ไปเล่นพนันอีกหลายต่อหลายครั้ง เป็นเช่นนี้มาหลายปี หลายปีที่เขาและแม่ต้องทนให้ผู้ชายคนนี้ทำร้ายร่างกาย วันนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว!!!
ร่างสูงยืนสังเกตการณ์อยู่ภายนอก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพ่อของเขาเป็นหนี้บ่อนนี้อยู่เท่าไร แล้วแน่นอนพ่อเขาไม่มีปัญญาใช้คืนพวกมันหรอก!
แล้วสิ่งที่พวกมันเคยเอาไปใช้ขัดดอกจะเป็นใคร นอกจากแม่ของเขาเอง!!!
สิ่งเลวๆที่พ่อของเขาทำไว้มันไม่ใช่แค่ตบตีแม่แล้วเอาเงินไปเล่นพนันหรอกนะ มันเริ่มตั้งแต่ที่พ่อของเขาไม่มีเงินใช้หนี้แล้วพวกเจ้าหนี้มันตามมาที่บ้าน ส่วนพ่อของเขาน่ะ พอไหวตัวทันก็หนีเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว
ทิ้งแม่ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไว้ที่บ้าน ปล่อยให้พวกมันใช้แม่ของเขาขัดดอกเหมือนเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง!!!
ต่อมาแม่ท้อง!!!
แม่ผมยืนยันว่าจะไปทำแท้งเพราะไม่อยากจะเก็บสิ่งเลวๆที่แม่ถูกกระทำเอาไว้กับตัว ผมในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมแม่คิดอย่างนั้น?
ผมที่เข้าใจมาตลอดว่าเด็กในท้องแม่คือน้องแท้ๆพ่อเดียวกันกับผม ผมรู้ความจริงก็วันที่แม่ผมวิ่งไปให้รถชนหวังให้ตัวเองแท้งนั่นแหละ!!!
หลังจากวันนั้นมาผมก็ตั้งใจจะพาแม่หนีไปใช้ชีวิตกันแบบสองคนแม่ลูก เพราะมันคงต้องมีความสุขกว่าทุกวันนี้ที่เป็นอยู่แน่ แต่แม่ผมกลับห่วงชีวิตผู้ชายที่เอาแต่ทำร้ายเธอ
แม่ผมห่วงพ่อผมเกินกว่าจะทิ้งพ่อผมเอาไว้คนเดียว
ผมได้ยินสิ่งที่ลูกน้องหน้าบ่อนกำลังคุยกัน มันคงไม่สามารถเรียกความสนใจจากผมได้ถ้าชื่อนั้นไม่ใช่ชื่อพ่อของผม
“นายสั่งมาว่าให้จัดการไอ้ปาร์ค ซองแจ นายบอกว่ายังไงมันก็ไม่มีเงินใช้หนี้ได้” ลูกน้องร่างกำยำคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ก่อนอีกคนที่มีขนาดตัวเล็กกว่าจะถามถึงแผนการปิดบัญชีลูกหนี้ที่ไม่มีปัญญาจะจ่ายเงินคืน
“นายสั่งว่าทำยังไงกับมันก็ได้ แต่อย่าให้ตำรวจสาวมาถึงบ่อนเรา” ลูกนองสองคนพยักหน้าให้กันอย่างรู้แผนก่อนจะนั่งสงบใจรอร่างของเหยื่อเดินออกมาจากบ่อน
เมื่อร่างสูงได้ยินดังนั้นแม้จะตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่อีกใจกลับกำลังยิ้มร่าที่จะมีคนเอามารออกไปจากชีวิตเขาและแม่เสียที เขาไม่ต้องมือเปื้อนเองเสียด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ชานยอลยังคงปักหลักรออยู่ที่เดิมก่อนจะเห็นว่าพ่อของเขาเดินออกมาจากบ่อนแล้วลูกน้องสองคนนั้นก็เดินตามไปเงียบๆเพื่อไม่ให้เหยื่ออย่างพ่อเขารู้ตัว
เมื่อมาถึงถนนที่ไม่ค่อยมีรถผ่าน สองข้างทางเป็นป่ารกชัฏ ลูกน้องสองคนก็ไม่รีรอคนหนึ่งตรงเข้าชาร์จตัวพ่อของเขาจากทางด้านหลัง ส่วนอีกคนก็ควักปืนมาจ่อที่ขมับ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นของปลายกระบอกปืน ร่างของพ่อเขาที่ดิ้นรนต่อสู้เมื่อครู่ก็นิ่งไป นิ่งเพราะกลัวว่าเมื่อคนถือลั่นไกเมื่อไร ลูกตะกั่วมันจะปลิดชีวิตคนอย่างเขาในฉับพลัน
ร่างของลูกชายซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ไม่ไกลนัก ทำตัวให้ลีบที่สุด พยายามไม่ขยับเขยื้อนแม้ตะคริวจะกำลังกินไปทั่วทั้งร่าง เพราะหากขยับตัวเพียงเล็กน้อยเสียงใบไม้รอบตัวจะทำให้เขาเองที่ตกที่นั่งลำบาก
ชานยอลเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้า พลางนึกย้อนไปถึงซีรี่ย์ฆาตกรรมที่ตนชอบดู ภาพตรงหน้าไม่ต่างอะไรเลยซักนิดกับสิ่งที่เขาเคยดูผ่านโทรทัศน์
แต่ครั้งนี้มันตื่นเต้นกว่าหลายร้อยเท่า เมื่อคนที่ถูกกระบอกปืนจ่อขมับมันคือพ่อบังเกิดเกล้าที่เขาแช่งชักหักกระดูกให้ตายวันตายพรุ่งอยู่ทุกเมื่อ
หากแต่ลูกน้องสองคนนั้นก็รอบคอบเกินกว่าจะปลิดชีวิตพ่อของเขาด้วยปืน ชายร่างกำยำคนหนึ่งหยิบก้อนหินก้อนใหญ่ผิวขรุขระขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะมองมันแล้วยิ้มเหมือนเจออาวุธชั้นเยี่ยม
เมื่อเจออาวุธเหมาะมือ ชายคนนั้นก็เหวี่ยงก้อนหินเข้ากับศีรษะของพ่อเขาอย่างไม่ยั้งแรง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากแผลฉกรรจ์ เลือดจำนวนหนึ่งติดมากับก้อนหินก้อนนั้น
แล้วก็อีกหลายสิบครั้งที่ชายร่างกำยำฟาดก้อนหินก้อนนั้นลงไปที่บริเวณใบหน้า ศีรษะหรือแม้แต่มือของพ่อเขา เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของพ่อเขา
ทำไมฟังแล้วเขารู้สึกว่ามันคล้ายซาวน์ดนตรีเพลงร็อคที่เขาชอบเปิดฟังบ่อยๆนักนะ
ชานยอลเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยจิตใจระทึก ลุ้นว่าเมื่อไรพ่อของเขาจะสิ้นใจ แต่แล้วสิ่งแวดล้อมกลับไม่เข้าข้าง เมื่อแสงไฟสีแดงวิบวับๆอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ที่พ่อของเขานอนเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ชายสองคน
รถตำรวจ!!!
ชายสองคนเมื่อเห็นว่าพ่อของเขานอนนิ่งจมกองเลือดของตัวเองก็แสยะยิ้มให้กับผลงาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเอาไปให้เจ้านายชม
เมื่อร่างของชายสองคนนั้นลับหายไป ชานยอลเองก็เมื่อยเกินกว่าจะนั่งดูต่อไปได้ เขามั่นใจว่าอีกไม่นานพ่อเขาก็จะต้องนอนตายอย่างคนหมดสภาพอยู่ตรงนี้แน่
แต่เขาคิดผิด!!!
พ่อของเขายังคงดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด เพราะเสียงไซเรนจากรถตำรวจเมื่อครู่ ทำให้พ่อของเขาตัดสินใจพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วค่อยๆพาร่างที่อาบไปด้วยเลือดไปหาตำรวจ
การกระทำที่ไวกว่าความคิด ชานยอลกระโดดออกจากพุ่มไม้ที่ใช้หลบซ่อนตัวเองเมื่อครู่ ล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ทเจอกับไฟแช็กที่หยิบออกมาจากบ้าน
ก่อนหน้านี้ไฟแช็กนี้เขาเอามาเพียงแค่จะใช้เป็นอุปกรณ์ขู่พ่อเขาเท่านั้น...แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังจะมีประโยชน์มากกว่านี้
ร่างสูงตรงเข้าไปลากพ่อของเขาให้ย้อนกลับเข้าไปในป่า ร่างชายวัยกลางคนที่เป็นพ่อหันกลับมามองเมื่อพบว่าเป็นลูกชายตัวเองกลับยิ้มออกมาอย่างดีใจ
เหมือนเห็นแสงสว่างจากที่ไหนซักที่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่ได้ สายตาของความดีใจที่แสดงออกของพ่อเขา ยิ่งทำให้เขานึกสนุก
หยิบยื่นความหวังให้ แล้วเมื่อปัดทิ้ง อยากรู้นักว่าเมื่อตกลงมามันจะเจ็บปางตายแค่ไหน?
ชานยอลลากร่างของพ่อมาทิ้งไว้บนกองใบไม้แห้ง นี่แหละ!!! ชนวนจุดไฟที่เยี่ยมยอดที่สุด
ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้กลับไปทำลายเขาและแม่อีกต่อไป ยังไงก็ไม่มีวันที่ผู้ชายคนนี้จะมีชีวิตรอดกลับไปทำร้ายใครได้อีก!!!
ร่างสูงจุดไฟแช็กขึ้น ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน เมื่อแสงสีส้มจากเปลวไฟถูกจุดขึ้น ทุกสิ่งรอบข้างก็กลับมาสว่างไสวแม้จะไม่มากแต่ก็ยังพอมองเห็นรอบข้าง
ทั้งๆที่อากาศแสนจะเย็น แต่กลับไม่มีลมพัดซักแอะเดียว เหมือนว่าอากาศช่างเป็นใจให้เขาได้จุดไฟทิ้งลงบนร่างของใครซักคน
ร่างสูงไม่รอช้า กล่าวคำอำลาสุดท้ายแล้วปล่อยไฟแช็กในมือลงไปบนกองใบไม้แห้ง ความร้อนแรงสีส้มลุกพรึ่บเมื่อได้รวมตัวกับชนวนชั้นดี แล้วมันก็ลามมาหาคนที่นอนเจ็บจนไม่สามารถลุกไปไหนได้
กองไฟกองใหญ่ลุกโชนจนทำให้สิ่งรอบข้างสว่างไสวยิ่งขึ้น เสียงกรีดร้องเพราะทนความร้อนไม่ได้ของพ่อเขาดังขึ้นอย่างน่าเวทนา
ผิวเนื้อแตกปริเมื่อถูกความร้อน ก่อนร่างกายจะค่อยๆกลายเป็นสีแดงเมื่อถูกไฟสีส้มย่างทั้งเป็น ชานยอลยืนมองกองไฟที่สุมร่างของพ่อตัวเองด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง
ก่อนจะบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ผิดซักนิด เมื่อเทียบกับสิ่งที่พ่อของเขาเคยทำเอาไว้!
เมื่อเสียงกรีดร้องนั้นเงียบลง เป็นสัญญาณว่าพ่อของเขาสิ้นใจแล้วนั้น ร่างสูงก็กลับหลังหันก่อนที่ฝนเม็ดเล็กจะร่วงโปรยปราย
เขาไม่จำเป็นต้องลบรอยเท้าทิ้ง เพราะน้ำฝนมันจะทำหน้าที่ของมันเอง J
มันก็สมควรแล้วที่พ่อของเขาจะจบชีวิตลง ไม่ใช่หรือ?
นั่นเป็นครั้งแรก...
ที่ปาร์ค ชานยอล ‘ฆ่า’ ใครซักคน
คนที่เป็นพ่อของเขาเอง
To Be Continue
สำหรับตอนนี้ เป็นชานยอลนั่นเองค่ะ
ส่วนตอนที่แล้วนั้นเป็นใครกันนะที่ถูกผีหลอก แล้วใครกันนะที่ตามมาหลอก
คงต้องติดตามกันต่อไป
แล้วนี่คือเรื่องเล่าจากปาร์คชานยอล!!!
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการพบเจอวิญญาณนะคะ
อย่าลืม เม้นท์***
เพราะมันจะช่วยให้คุณรอดพ้นจากวิญญาณที่มันจะตามคุณไป โชคดีค่ะ
ใครกรีดร้องในทวิต ติดแท็ก #ฟิควิญญาณ ด้วยจะช่วยได้มาก
:) Shalunla
ความคิดเห็น