คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 การจุติใหม่แห่งเงา(รีไรท์รอบสุดท้าย)
การปรากฏตัวของกลุ่มลอสกิฟเต็ดสร้างความโกลาหลเล็กๆให้กับอาคารช่วยเหลือผู้เล่นเริ่มต้น จนแค่ยังไม่ทันถึงนาทีก็มีพนักงานเข้ามาตักเตือนให้เบาเสียงลง
การตอบสนองที่เสมือนจริงของพนักงานทำให้ต่อมความอยากรู้ของเดธเบิกบานขึ้นมา และคนที่พอจะเห็นอาการก็มีแต่กาหยูที่ดูสนิทกับเขาที่สุด
“เห็นพนักงานที่นี่เป็นคนจริงๆปะ? ฉันแอบสังเกตมาตั้งนานแล้ว”กาหยูเลือกเปิดประเด็นสนทนาด้วยคำถามที่เดธกำลังสงสัยพอดี เขาจึงหันไปสบตาของอีกฝ่ายอย่างนึกขอบคุณทันที
“จะว่าไปก็น่าจะใช่มั้ง ใช่ปะเทรน”ชายชุดเกราะผมหยิกหันไปสะกิดชายสวมฮู้ดอีกคน
ซึ่งคนที่ชื่อเทรนนั้นก็ยักไหล่ขึ้นมา “คงงั้นแหละ คงกลัวว่าพนักงานจะตอบสนองความต้องการของผู้เล่นได้ไม่ดีพอถ้าเป็นระบบอัตโนมัติมั้ง”
“ก็เหมือนที่เทรนบอกแหละหยูเอ้ย ฉันก็เคยอ่านวิกิพีเดี่ยมาอยู่บ้างในเรื่องๆนี้ และผู้เล่นเก่าก็ควรจะมีข้อมูลนี้ในหัวอย่างเทรนบ้าง”หญิงสาวผมหางม้าเสริมอย่างยิ้มๆ ขณะที่ยิงคำพูดแทงใจดำใส่ชายเกราะโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“แหม...ฉันไม่มั่นใจไง และไม่มีใครรู้ทุกอย่างหรอกนะปอ”ว่าแล้วเอิร์ธก็ยกน้ำส้มขึ้นดื่มหลังจากเอ่ยสวนหญิงสาวไปด้วยปรัชญา
“นั้นเป็นเหตุผลที่แกตกคณิตเพิ่มด้วยใช่ไหมเอิร์ธ”สาวผมตรงอีกคนถาม
ปรากฏลูกศรพุ่งแทงใจดำจนเอิร์ธสำลักน้ำ
“อย่าลากเรื่องโหดร้ายมาตามหลอกหลอนเราในนี้เลย…”พูดจบเอิร์ธก็นั่งพุบลงกับโต๊ะ
สีหน้าที่เหมือนคนวิญญาณออกจากร่างสร้างความขบขันให้ทุกคนทันที
จะมีก็แค่เทรนที่ตบบ่าเขาปลอบใจ
เดธยิ้มเล็กๆกับท่าทางของทั้งกลุ่มนี้...อย่างน้อยการมาอยู่ที่นี่ก็ทำให้เขาผ่อนคลายลงจนปล่อยวางบางเรื่องได้บ้าง
ซึ่งพอนานๆไป เดธก็ฟังการพูดคุยหยอกล้อเหล่านั้นจนหลงลืมเวลา
บ่อยครั้งที่กาหยูพาเดธเข้ามาเป็นหัวข้อสนทนา นั่นทำให้เขารู้ว่าเขาดังกว่าที่ตนเองคาดเอาไว้
ไม่มีใครในกลุ่มไม่รู้เรื่องที่เขาช่วยเหลือเรน นั้นเป็นเหตุผลว่าทุกคนถึงเป็นกันเองกับเขาทั้งๆที่ไม่น่าจะรู้จักกัน
สิ่งๆนั้นทำให้เดธเผลอยิ้มออกมาในวนสนทนาที่เป็นกันเองนั้น
จนกระทั่งถึงเวลาไปปรึกษาของเดธ เขาจึงลาวงสนทนามาอย่างเสียดาย
คำถามมากมายกลับผุดขึ้นในหัวขณะที่เขากำลังก้าวขึ้นบันไดในอาคาร
การเตรียมความพร้อม เป็นสิ่งสำคัญที่เดธมักจะกระทำก่อนเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งการเข้าพบพนักงานที่ปรึกษาก็เป็นหนึ่งใน “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง” นั้น
เขาจึงจำคำถามที่ตนเองต้องการและวิธีการหาเงินของเกม ไว้ในหัวอย่างคร่าวๆ
ดวงตาของเขาสุกสกาวราวกกับเปลวไฟขณะที่มวลความคิดขนาดใหญ่หลั่งไหลไปมาในหัว
ทุกครั้งที่ตัวเดธก้าวขึ้นบันได คำถามใหม่ๆจะถูกร่างขึ่นมา
ราวกลับว่าทุกครั้งที่เขาก้าวออกไปไม่ได้มีแค่ระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นมาจากการขึ้นบันได แต่จะมีคำถามใหญ่ผุดขึ้นมาด้วย!
คำถามร้อยพันถูกจัดอันดับความสำคัญกันอย่างดุเดือดภายในสมองที่แทบลุกเป็นไฟ
กระบวนการจัดระบบอันยิ่งใหญ่ดำเนินขึ้นในขณะที่เขากำลังก้าวไปห้องหมายเลขหก
กำหนดการการปรึกษาถูกร่างอย่างสมบูรณ์ยามที่เขาเอื้อมมือมาจับบานประตู
เดธสามารถนึกภาพการสนทนาอันลื่นไหลและไร้การสะดุดของเขากับพนักงานแนะนำ
เพราะบทที่เขาเตรียมมานั้นสามารถรองรับพนักงานได้ทั้งเพศชายและหญิง!
จะไม่มีสิ่งใดทำลายบทสนทนาอันสมบูรณ์แบบนี้ได้!!
ซะเมื่อไหร่หละ…
“เป็นอะไรหรือตัวเล็กของเจ้?”
เสียงอันทุ้มต่ำอันนั้นทำให้บทสนทนาที่เดธอุสาห์ร่างมาพังทลายลงในพริบตา
ปรากฏร่างมหายักษาของ…สิ่งมีชีวิตที่ระบุเพศไม่ได้ตรงหน้าเดธ
มันมีขนาดตัวที่สูงถึงสองเมตร บึกบึนราวกลับเสพควายป่าเป็นอาหารเสริม มีกล้ามเนื้อส่วนเกินของร่ายกายแผ่ขยายอณาเขตราวกลับจะกลืนกินเสื้อกลามสีชมพูที่สวมใส่อยู่...
ไม่ต้องบอกก็รู้…เขาลืมการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ในแท็คโซโนมี่
“ไม่ต้องดูกล้ามเจ้แบบนั้นหรอกลูก! เจ้ไม่รับประทานชนี” ลูซี่ ประกาศ “จุดยืน” ของตนเองออกมาพร้อมใบหน้าที่ส่ายซ้าย-ขวา
สีหน้าหล่อนราวกลับว่าจะดีดชนีทุกสายพันธ์ให้เข้ามาในโซนแห่งมิตรภาพ…
เป็นเวลาแรกที่เดธรู้สึกอยากกราบคนคิดภารกิจที่ทำให้เขาอยู้ในร่างชนี…เอ้ย! ร่างผู้หญิงเช่นนี้
พอเดธคิดภาพของการมาปรากฏตัวในนี้ด้วยร่างที่เป็นตัวผู้...เขาก็พลันกุมเป้าด้วยสีหน้าของคนดูหนังฆาตกรรมโรคจิต...
ด้วยแผนที่ไม่ได้เป็นไปตามที่เดธคิด อาการลนจึงตามติดเดธเฉกเช่นเงาตามตัว การวางตัวของเขาจึงคล้ายสาวน้อยขึ้กลัวที่อยู่ต่อหน้าฆาตกรตัดหัว...
“เจ้ไม่ใช่คนน่ากลัวนะลูก! ไม่ต้องกลัวถูกเจ้กับกินขนาดนั้นก็ได้”ลูซี่พยายามทำตัวให้น่ารักที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้...แต่ด้วยสังขารอันเป็นชาย ทำให้ท่าเหล่านั้นกลายเป็นฝันร้ายกลางวันแสกๆ
เดธจะไม่แปลกใจเลยหากมีข่าวว่าลู่ซี่ “เผลอ” ทำผู้เล่นที่มีปัญหาด้านจิตใจตายระหว่างการออนไลน์...
สติที่เริ่มกลับมารวมกันได้อย่างหลวมๆทำให้เดธเอ่ยอะไรออกไป
“เออ..”
“อ๋อใช่”แต่ยังไม่ทันไรลูซี่ก็เอ่ยโพล่งออกมาอย่างยิ้มแย้ม “เรายังไม่ได้สิ่งของเริ่มต้นเลยนี่น่า”
เดธที่ยกนิ้วขึ้นมารีบหุบมันลงในพริบตา
“ในเกมนี้ๆสิ่งของที่ได้รับตอนต้นเกมจะเป็นสิ่งของทุกรูปแบบที่มีปรากฏในเกมเลยนะเจ้ขอบอก”ลูซี่ยิ้มกล่าว“แต่การเจอพนักงานของทางระบบก็เป็นการจำกัดประเภทของที่จะได้ด้วยนะ อย่างถ้าเราเจอพนักงานที่เป็นพ่อครัวเราจะได้พวกเครื่องครัว หรืออุปกรณ์ปรุงอาหารและถ้าเราเจอพนักงานที่เป็นทหารเราอาจจะได้โล่หรือดาบ เข้าใจนะ”
เดธพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“มาทายกันดีกว่าเจ้ทำงานอะไร”ลูซี่เอ่ยอย่างนึกสนุก“มีตัวเลือกให้นะ ระหว่างนักกล้ามกับ...”
“นักกล้าม”เดธยกมือตอบอย่างไม่ต้องคิด
“ม้าย! ม่าย ไม่ ไม่ ไม่ เจ้ออกจะเป็นผู้หญิง“บอบบาง”จะให้มาทำงานใช้แรงอย่างงั้นเจ้รับไม่ได้” ลูซี่เอ่ยเสียงสูง
บอบบาง... เดธเพ่งมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าด้วยความยำเกรง... เขาค่อนข้างมั่นว่าลูซี่น่าจะใช้มาตราฐานของมังกรมาวัดความแข็งแกร่งของตน...
“เจ้ทำงานร้านตัดผมค่ะ คนสวย”ลูซี่เฉลย”ร้านเจ้เปิดอยู่เมื่องท่าเกต(gate)น่ะตัวเล็ก ว่างๆมาตัดผมร้านเจ้ได้นะ”
มีโฆษนาแฝงด้วย...
“อ่าวหลุดทะเลอีกแล้ว กลับมานะลูก กลับมา อะทีนี้มาพูดถึงของทีเราจะได้ดีกว่า...ขออนุญาติเปิดหน้าต่างระบบของเรานะตัวเล็ก”ลูซี่เผยมือขึ้น หน้าต่างสีฟ้ามากมายก็เด้งขึ้นมาจากอากาศธาตุที่ว่างเปล่า
เดธมองภาพเหล่านั้นด้วยแววตาที่สุกสะกราว แววความเกรงกลัวถูกกลบหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็มิทราบ...
ลูซี่เห็นท่าทางอย่างงั้นก็เดาว่าเขาอนุญาติให้เปิดได้จึงทำการตรวจสอบทันที
และหลังจากที่ลูซี่กดนิ้วอย่างรวดเร็ว เหนือหัวเดธก็มีแสงฉายลงมาพร้อมกับเสียงแตรดังเป็นจังหวะการเฉลิมฉลอง ตรงหน้าเขามีหน้าต่างแสดงการเลือนระดับจากระดับหนึ่งเป็นระดับสอง
ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้ลูซี่มองดูเดธอย่างแปลกใจ “น้องระดับเพิ่มเป็นระดับสองแล้วนี่น่า ก่อนมาที่นี่น้องไปล่าตัวอะไรในป่ากลีนลีฟมางั้นหรอ?”
“กลีนลีฟ?”เดธถามกลับ นั้นทำให้ลูซี่รู้ว่าเขาไม่รู้จักป่าแห่งนั้น
“ไม่รู้จักหรอ...ไม่เป็นไร งั้นเราไปสู้กับตัวอะไรมาหรอ”ลูซี่ถามขณะยกน้ำขึ้นดื่มเพราะคอแห้งจากการพูดไม่หยุด
“หมาป่าจันทราค่ะ”
แคก!! ลูซี่สำลัก
“เราว่าอะไรนะ เจ้อาจจะหูเพี้ยนไปนิด”ลูซี่ยิ้มถามอีกที เธอมั่นใจว่าเมื่อครู่นี้เป็นการฝังผิด
“หมาป่าจันทราค่ะ”
“...” ลูซี่เอามือป้องปาก เธอมองร่างบอบบางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
คนเราดูแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ
ลูซี่กลับเข้าเรื่องอีกครั้ง เธอเอ่ยพูดถึงระบบต่างๆของเกมที่มีมากมายจนเดธต้องหยิบบันทึกออกมาจนบางอัน
ระบบส่วนใหญ่ของเกมนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ จนเดธเอ่ยปากชมผู้พัฒนาเกมในใจด้วยซ้ำ
หลังจากอธิบายข้อมูลยิบย่อยจนจบ ลูซี่ก็ขอตรวจสอบหน้าต่างระบบเดธอีกที ซึ่งคราวนี้ลูซี่ถึงกลับตกใจจนตกเก้าอี้
“พี่ลูซี่?” เดธอุทานพลางวิ่งไปดูลูซี่ที่ยันตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“กะ..กล่องสุ่มระดับทอง”ลูซี่ปากสั่นอยากควบคุมไม่อยู่ ทำให้เดธมองดูเธออย่างงงงัน “ในหน้าตางเรามีกล่องสุ่มระดับทองอยู่!”
“หือ”เดธขมวดคิ้วพลางมองดูหน้าต่างระบบของตนเองอย่างมึนงง จากนั้นจึงหยิบกล่องลูกบาศก์สีทองออกมาดู
ลูกบากศ์สีทองส่องแสงจางๆออกมา คือสิ่งที่ทั้งสองเห็นเต็มๆตา
ลูซี่อ้าปากค้างกับสิ่งๆนั้น
มันเป็นสิ่งที่เธอได้ยินเพียงแค่ข่าวลือถึงตลอดสี่ปีที่อยู่ในนี้
มันคือตำนานที่เคยถูกค้นพบเพียงหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นมันก็ไม่ปรากฏออกมาอีกเลยตลอดสี่ปี
สีหน้าที่มิอาจเก็บความตกใจของลูซี่ที่เผยให้เดธดูยิ่งทำให้เขาอยากรู้ว่ามันคืออะไร
เขาจึงจงใจเปิดมันออกเพื่อคลายความสงสัย
กี้ซซซซ!
ทันทีที่เปิดลูกบาศก์ออก เสียงกรีดร้องเล็กแหลมก็ดังกังวาล พร้อมควันเงาที่พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
ความตกใจทำให้เดธปามันไปที่มุมห้องอย่างลนลาน
ดวงไฟบนเพดานกลับติดๆดับๆอย่างหวาดผวา เช่นเดียวกลับผืนเงาที่แผ่ขยายออกมาราวกลับจะกลืนกินทุกสิ่งให้จมอยู่กับความมืด
"กลุ่มเงาโบราญแห่งนิมิตหมายแห่งความสิ้นหวัง จงเริ่งระบำและโห่ร้องอย่างสุขสันในคืนวันแห่งอิสรภาพ! ทั้วภูมิภาคจะเป็นสถานของเรา! ทั่วทวีปจะต้องร่ำให้กับการกลับมาของเรา! ทั้วโลกจะต้องเกรงกลัวการคงอยู่ของพวกเรา!"
วิญญาณตายโหงมากมายแผ่กระจากออกมาอย่างโหยหาแสงตะวันพวกมันพึมพำอย่างไร้สติด้วยคำหลากหลายถ้อยคำ
พรึบ!
ปรากฏดวงตานับพันเบิกโพลงออกมาจนเห็นเส็นเลือด ทุกดวงเหลือกมองมาที่เดธอย่างฉับพลัน
"พวกเจ้าจงเกรงกลัวไว้ พวกเราคืออสูรเงามายา จะไม่มีใครมาผนึกพวกเราได้เป็นครังที่สอง!"
เพล้ง!
เสียงมิติแตกกระจากออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนเสียงแก้วนับพันใบแตกละเอียดพร้อมกันข้างหูทั้งสอง ผืนเงา วิญญาณ ดวงตา ล้วนอันตธารหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลงเหลือต้นเหตุแห่งหายนะที่เป็นแค่ตราอันน้อยบนมือของเดธ
ตราพิเศษที่มีชื่อว่าตราแห่งเงา
จบตอน
ความคิดเห็น