ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Heaven War Online

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 การจุติใหม่แห่งเงา(รีไรท์รอบสุดท้าย)

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 60


    การปรากฏตัวของกลุ่มลอสกิฟเต็ดสร้างความโกลาหลเล็กๆให้กับอาคารช่วยเหลือผู้เล่นเริ่มต้น จนแค่ยังไม่ทันถึงนาทีก็มีพนักงานเข้ามาตักเตือนให้เบาเสียงลง


    การตอบสนองที่เสมือนจริงของพนักงานทำให้ต่อมความอยากรู้ของเดธเบิกบานขึ้นมา และคนที่พอจะเห็นอาการก็มีแต่กาหยูที่ดูสนิทกับเขาที่สุด


    “เห็นพนักงานที่นี่เป็นคนจริงๆปะ? ฉันแอบสังเกตมาตั้งนานแล้ว”กาหยูเลือกเปิดประเด็นสนทนาด้วยคำถามที่เดธกำลังสงสัยพอดี เขาจึงหันไปสบตาของอีกฝ่ายอย่างนึกขอบคุณทันที


    “จะว่าไปก็น่าจะใช่มั้ง ใช่ปะเทรน”ชายชุดเกราะผมหยิกหันไปสะกิดชายสวมฮู้ดอีกคน


    ซึ่งคนที่ชื่อเทรนนั้นก็ยักไหล่ขึ้นมา “คงงั้นแหละ คงกลัวว่าพนักงานจะตอบสนองความต้องการของผู้เล่นได้ไม่ดีพอถ้าเป็นระบบอัตโนมัติมั้ง”


    “ก็เหมือนที่เทรนบอกแหละหยูเอ้ย ฉันก็เคยอ่านวิกิพีเดี่ยมาอยู่บ้างในเรื่องๆนี้ และผู้เล่นเก่าก็ควรจะมีข้อมูลนี้ในหัวอย่างเทรนบ้าง”หญิงสาวผมหางม้าเสริมอย่างยิ้มๆ ขณะที่ยิงคำพูดแทงใจดำใส่ชายเกราะโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว


    “แหม...ฉันไม่มั่นใจไง และไม่มีใครรู้ทุกอย่างหรอกนะปอ”ว่าแล้วเอิร์ธก็ยกน้ำส้มขึ้นดื่มหลังจากเอ่ยสวนหญิงสาวไปด้วยปรัชญา


    “นั้นเป็นเหตุผลที่แกตกคณิตเพิ่มด้วยใช่ไหมเอิร์ธ”สาวผมตรงอีกคนถาม


    ปรากฏลูกศรพุ่งแทงใจดำจนเอิร์ธสำลักน้ำ


    “อย่าลากเรื่องโหดร้ายมาตามหลอกหลอนเราในนี้เลย…”พูดจบเอิร์ธก็นั่งพุบลงกับโต๊ะ


    สีหน้าที่เหมือนคนวิญญาณออกจากร่างสร้างความขบขันให้ทุกคนทันที


    จะมีก็แค่เทรนที่ตบบ่าเขาปลอบใจ


    เดธยิ้มเล็กๆกับท่าทางของทั้งกลุ่มนี้...อย่างน้อยการมาอยู่ที่นี่ก็ทำให้เขาผ่อนคลายลงจนปล่อยวางบางเรื่องได้บ้าง


    ซึ่งพอนานๆไป เดธก็ฟังการพูดคุยหยอกล้อเหล่านั้นจนหลงลืมเวลา


    บ่อยครั้งที่กาหยูพาเดธเข้ามาเป็นหัวข้อสนทนา นั่นทำให้เขารู้ว่าเขาดังกว่าที่ตนเองคาดเอาไว้


    ไม่มีใครในกลุ่มไม่รู้เรื่องที่เขาช่วยเหลือเรน นั้นเป็นเหตุผลว่าทุกคนถึงเป็นกันเองกับเขาทั้งๆที่ไม่น่าจะรู้จักกัน


    สิ่งๆนั้นทำให้เดธเผลอยิ้มออกมาในวนสนทนาที่เป็นกันเองนั้น


    จนกระทั่งถึงเวลาไปปรึกษาของเดธ เขาจึงลาวงสนทนามาอย่างเสียดาย


    คำถามมากมายกลับผุดขึ้นในหัวขณะที่เขากำลังก้าวขึ้นบันไดในอาคาร


    การเตรียมความพร้อม เป็นสิ่งสำคัญที่เดธมักจะกระทำก่อนเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งการเข้าพบพนักงานที่ปรึกษาก็เป็นหนึ่งใน “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง” นั้น


    เขาจึงจำคำถามที่ตนเองต้องการและวิธีการหาเงินของเกม ไว้ในหัวอย่างคร่าวๆ


    ดวงตาของเขาสุกสกาวราวกกับเปลวไฟขณะที่มวลความคิดขนาดใหญ่หลั่งไหลไปมาในหัว


    ทุกครั้งที่ตัวเดธก้าวขึ้นบันได คำถามใหม่ๆจะถูกร่างขึ่นมา


    ราวกลับว่าทุกครั้งที่เขาก้าวออกไปไม่ได้มีแค่ระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นมาจากการขึ้นบันได แต่จะมีคำถามใหญ่ผุดขึ้นมาด้วย!


    คำถามร้อยพันถูกจัดอันดับความสำคัญกันอย่างดุเดือดภายในสมองที่แทบลุกเป็นไฟ


    กระบวนการจัดระบบอันยิ่งใหญ่ดำเนินขึ้นในขณะที่เขากำลังก้าวไปห้องหมายเลขหก


    กำหนดการการปรึกษาถูกร่างอย่างสมบูรณ์ยามที่เขาเอื้อมมือมาจับบานประตู


    เดธสามารถนึกภาพการสนทนาอันลื่นไหลและไร้การสะดุดของเขากับพนักงานแนะนำ


    เพราะบทที่เขาเตรียมมานั้นสามารถรองรับพนักงานได้ทั้งเพศชายและหญิง!


    จะไม่มีสิ่งใดทำลายบทสนทนาอันสมบูรณ์แบบนี้ได้!!




    ซะเมื่อไหร่หละ…


    “เป็นอะไรหรือตัวเล็กของเจ้?”


    เสียงอันทุ้มต่ำอันนั้นทำให้บทสนทนาที่เดธอุสาห์ร่างมาพังทลายลงในพริบตา


    ปรากฏร่างมหายักษาของ…สิ่งมีชีวิตที่ระบุเพศไม่ได้ตรงหน้าเดธ


    มันมีขนาดตัวที่สูงถึงสองเมตร บึกบึนราวกลับเสพควายป่าเป็นอาหารเสริม มีกล้ามเนื้อส่วนเกินของร่ายกายแผ่ขยายอณาเขตราวกลับจะกลืนกินเสื้อกลามสีชมพูที่สวมใส่อยู่...


    ไม่ต้องบอกก็รู้…เขาลืมการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ในแท็คโซโนมี่


    “ไม่ต้องดูกล้ามเจ้แบบนั้นหรอกลูก! เจ้ไม่รับประทานชนี” ลูซี่ ประกาศ “จุดยืน” ของตนเองออกมาพร้อมใบหน้าที่ส่ายซ้าย-ขวา


    สีหน้าหล่อนราวกลับว่าจะดีดชนีทุกสายพันธ์ให้เข้ามาในโซนแห่งมิตรภาพ…


    เป็นเวลาแรกที่เดธรู้สึกอยากกราบคนคิดภารกิจที่ทำให้เขาอยู้ในร่างชนี…เอ้ย! ร่างผู้หญิงเช่นนี้


    พอเดธคิดภาพของการมาปรากฏตัวในนี้ด้วยร่างที่เป็นตัวผู้...เขาก็พลันกุมเป้าด้วยสีหน้าของคนดูหนังฆาตกรรมโรคจิต...


    ด้วยแผนที่ไม่ได้เป็นไปตามที่เดธคิด อาการลนจึงตามติดเดธเฉกเช่นเงาตามตัว การวางตัวของเขาจึงคล้ายสาวน้อยขึ้กลัวที่อยู่ต่อหน้าฆาตกรตัดหัว...


    “เจ้ไม่ใช่คนน่ากลัวนะลูก! ไม่ต้องกลัวถูกเจ้กับกินขนาดนั้นก็ได้”ลูซี่พยายามทำตัวให้น่ารักที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้...แต่ด้วยสังขารอันเป็นชาย ทำให้ท่าเหล่านั้นกลายเป็นฝันร้ายกลางวันแสกๆ


    เดธจะไม่แปลกใจเลยหากมีข่าวว่าลู่ซี่ “เผลอ” ทำผู้เล่นที่มีปัญหาด้านจิตใจตายระหว่างการออนไลน์...


    สติที่เริ่มกลับมารวมกันได้อย่างหลวมๆทำให้เดธเอ่ยอะไรออกไป


    “เออ..”


    “อ๋อใช่”แต่ยังไม่ทันไรลูซี่ก็เอ่ยโพล่งออกมาอย่างยิ้มแย้ม “เรายังไม่ได้สิ่งของเริ่มต้นเลยนี่น่า”


    เดธที่ยกนิ้วขึ้นมารีบหุบมันลงในพริบตา


    “ในเกมนี้ๆสิ่งของที่ได้รับตอนต้นเกมจะเป็นสิ่งของทุกรูปแบบที่มีปรากฏในเกมเลยนะเจ้ขอบอก”ลูซี่ยิ้มกล่าว“แต่การเจอพนักงานของทางระบบก็เป็นการจำกัดประเภทของที่จะได้ด้วยนะ อย่างถ้าเราเจอพนักงานที่เป็นพ่อครัวเราจะได้พวกเครื่องครัว หรืออุปกรณ์ปรุงอาหารและถ้าเราเจอพนักงานที่เป็นทหารเราอาจจะได้โล่หรือดาบ เข้าใจนะ”


    เดธพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ


    “มาทายกันดีกว่าเจ้ทำงานอะไร”ลูซี่เอ่ยอย่างนึกสนุก“มีตัวเลือกให้นะ ระหว่างนักกล้ามกับ...”


    “นักกล้าม”เดธยกมือตอบอย่างไม่ต้องคิด


    “ม้าย! ม่าย ไม่ ไม่ ไม่ เจ้ออกจะเป็นผู้หญิง“บอบบาง”จะให้มาทำงานใช้แรงอย่างงั้นเจ้รับไม่ได้” ลูซี่เอ่ยเสียงสูง


    บอบบาง... เดธเพ่งมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าด้วยความยำเกรง... เขาค่อนข้างมั่นว่าลูซี่น่าจะใช้มาตราฐานของมังกรมาวัดความแข็งแกร่งของตน...


    “เจ้ทำงานร้านตัดผมค่ะ คนสวย”ลูซี่เฉลย”ร้านเจ้เปิดอยู่เมื่องท่าเกต(gate)น่ะตัวเล็ก ว่างๆมาตัดผมร้านเจ้ได้นะ”


    มีโฆษนาแฝงด้วย...


    “อ่าวหลุดทะเลอีกแล้ว กลับมานะลูก กลับมา อะทีนี้มาพูดถึงของทีเราจะได้ดีกว่า...ขออนุญาติเปิดหน้าต่างระบบของเรานะตัวเล็ก”ลูซี่เผยมือขึ้น หน้าต่างสีฟ้ามากมายก็เด้งขึ้นมาจากอากาศธาตุที่ว่างเปล่า


    เดธมองภาพเหล่านั้นด้วยแววตาที่สุกสะกราว แววความเกรงกลัวถูกกลบหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็มิทราบ...


    ลูซี่เห็นท่าทางอย่างงั้นก็เดาว่าเขาอนุญาติให้เปิดได้จึงทำการตรวจสอบทันที


    และหลังจากที่ลูซี่กดนิ้วอย่างรวดเร็ว เหนือหัวเดธก็มีแสงฉายลงมาพร้อมกับเสียงแตรดังเป็นจังหวะการเฉลิมฉลอง ตรงหน้าเขามีหน้าต่างแสดงการเลือนระดับจากระดับหนึ่งเป็นระดับสอง


    ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้ลูซี่มองดูเดธอย่างแปลกใจ “น้องระดับเพิ่มเป็นระดับสองแล้วนี่น่า ก่อนมาที่นี่น้องไปล่าตัวอะไรในป่ากลีนลีฟมางั้นหรอ?”


    “กลีนลีฟ?”เดธถามกลับ นั้นทำให้ลูซี่รู้ว่าเขาไม่รู้จักป่าแห่งนั้น


    “ไม่รู้จักหรอ...ไม่เป็นไร งั้นเราไปสู้กับตัวอะไรมาหรอ”ลูซี่ถามขณะยกน้ำขึ้นดื่มเพราะคอแห้งจากการพูดไม่หยุด


    “หมาป่าจันทราค่ะ”


    แคก!! ลูซี่สำลัก


    “เราว่าอะไรนะ เจ้อาจจะหูเพี้ยนไปนิด”ลูซี่ยิ้มถามอีกที เธอมั่นใจว่าเมื่อครู่นี้เป็นการฝังผิด


    “หมาป่าจันทราค่ะ”


    “...” ลูซี่เอามือป้องปาก เธอมองร่างบอบบางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง


    คนเราดูแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ



    ลูซี่กลับเข้าเรื่องอีกครั้ง เธอเอ่ยพูดถึงระบบต่างๆของเกมที่มีมากมายจนเดธต้องหยิบบันทึกออกมาจนบางอัน


    ระบบส่วนใหญ่ของเกมนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ จนเดธเอ่ยปากชมผู้พัฒนาเกมในใจด้วยซ้ำ


    หลังจากอธิบายข้อมูลยิบย่อยจนจบ ลูซี่ก็ขอตรวจสอบหน้าต่างระบบเดธอีกที ซึ่งคราวนี้ลูซี่ถึงกลับตกใจจนตกเก้าอี้


    “พี่ลูซี่?” เดธอุทานพลางวิ่งไปดูลูซี่ที่ยันตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก


    “กะ..กล่องสุ่มระดับทอง”ลูซี่ปากสั่นอยากควบคุมไม่อยู่ ทำให้เดธมองดูเธออย่างงงงัน “ในหน้าตางเรามีกล่องสุ่มระดับทองอยู่!”


    “หือ”เดธขมวดคิ้วพลางมองดูหน้าต่างระบบของตนเองอย่างมึนงง จากนั้นจึงหยิบกล่องลูกบาศก์สีทองออกมาดู


    ลูกบากศ์สีทองส่องแสงจางๆออกมา คือสิ่งที่ทั้งสองเห็นเต็มๆตา


    ลูซี่อ้าปากค้างกับสิ่งๆนั้น 


    มันเป็นสิ่งที่เธอได้ยินเพียงแค่ข่าวลือถึงตลอดสี่ปีที่อยู่ในนี้


    มันคือตำนานที่เคยถูกค้นพบเพียงหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นมันก็ไม่ปรากฏออกมาอีกเลยตลอดสี่ปี


    สีหน้าที่มิอาจเก็บความตกใจของลูซี่ที่เผยให้เดธดูยิ่งทำให้เขาอยากรู้ว่ามันคืออะไร


    เขาจึงจงใจเปิดมันออกเพื่อคลายความสงสัย


    กี้ซซซซ!


    ทันทีที่เปิดลูกบาศก์ออก เสียงกรีดร้องเล็กแหลมก็ดังกังวาล พร้อมควันเงาที่พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง!


    ความตกใจทำให้เดธปามันไปที่มุมห้องอย่างลนลาน


    ดวงไฟบนเพดานกลับติดๆดับๆอย่างหวาดผวา เช่นเดียวกลับผืนเงาที่แผ่ขยายออกมาราวกลับจะกลืนกินทุกสิ่งให้จมอยู่กับความมืด


    "กลุ่มเงาโบราญแห่งนิมิตหมายแห่งความสิ้นหวัง จงเริ่งระบำและโห่ร้องอย่างสุขสันในคืนวันแห่งอิสรภาพ! ทั้วภูมิภาคจะเป็นสถานของเรา! ทั่วทวีปจะต้องร่ำให้กับการกลับมาของเรา! ทั้วโลกจะต้องเกรงกลัวการคงอยู่ของพวกเรา!"


    วิญญาณตายโหงมากมายแผ่กระจากออกมาอย่างโหยหาแสงตะวันพวกมันพึมพำอย่างไร้สติด้วยคำหลากหลายถ้อยคำ


    พรึบ!


    ปรากฏดวงตานับพันเบิกโพลงออกมาจนเห็นเส็นเลือด ทุกดวงเหลือกมองมาที่เดธอย่างฉับพลัน


    "พวกเจ้าจงเกรงกลัวไว้ พวกเราคืออสูรเงามายา จะไม่มีใครมาผนึกพวกเราได้เป็นครังที่สอง!"



    เพล้ง!


    เสียงมิติแตกกระจากออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนเสียงแก้วนับพันใบแตกละเอียดพร้อมกันข้างหูทั้งสอง ผืนเงา วิญญาณ ดวงตา ล้วนอันตธารหายไปอย่างไร้ร่องรอย


    หลงเหลือต้นเหตุแห่งหายนะที่เป็นแค่ตราอันน้อยบนมือของเดธ


    ตราพิเศษที่มีชื่อว่าตราแห่งเงา



    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×