ตอนที่ 24 : ความลับพิเศษ : SEXCRET BIRTHDAY
สวัสดีค่ะ เนื่องจาก 12 มีนาคม วันนี้เป็นวันเกิดเรา
เลยอยากมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
ถือว่าเป็นของขวัญจากเราในการที่ได้กลับมาสนุกด้วยกันต่อนะคะ!
HAPPY BIRTHDAY TO ME!! HAPPY THURSDAY TO YOU!!
หวังว่าจะชอบกันนะคะ!!
By Shining Aun
[ทวิตเตอร์ @Shining_Aun]
[Facebook Fanpage @ShiningAun]
[ตอนพิเศษตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหลักในเรื่อง]
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาปลุกในวันนี้เรียกแทฮยองให้ขยับตัวลุกขึ้นเร็วกว่าทุกๆ วัน แววตาเป็นประกายเต็มไปด้วยความหวังว่าทั้งห้องจะแปลกตาไปกว่าทุกครั้งที่ลืมตาตื่น แต่เมื่อขยับตัวลุกขึ้นแล้วยังเห็นคนตัวเล็กนอนซุกอยู่กับหมอน ในห้องที่มีแสงแดดเล็ดลอดเข้ามาก็ยังไม่ดูเปลี่ยนไปเลยทำให้หัวใจของเจ้าของร่างสูงใหญ่อดแปลกใจไม่ได้
“ปิดนาฬิกาปลุกให้หน่อย กูง่วง...”
คนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงียย แถมยังยกหมอนขึ้นมานอนปิดหูดูรำคาญเต็มที่ ทำให้แทฮยองทำอะไรไม่ได้นอกจากเอื้อมไปกดปิดนาฬิกาปลุก
ร่างสูงยังคงนั่งแช่อยู่อย่างนั้นพลางเหลือบมองจีมิน
พยายามนับเลขช้าๆ ในใจเผื่อว่าเลขต่อไปที่เขานับถึงจะเป็นจังหวะเดียวกับที่คนรักของเขาลุกขึ้นมาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ใหญ่ แต่นับไปจนถึงเกือบร้อยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจีมินจะตื่นเลย
“จีมิน”
เอื้อมมือไปเขย่าร่างเล็กเบาๆ หวังเรียกอีกฝ่ายให้ตื่นมาคุยกัน แต่จีมินกลับปัดมือเขาออกแล้วทำน้ำเสียงฟึดฟัดใส่ราวกับกำลังไล่เขาอย่างไรอย่างนั้น
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เอื้อมมือไปชักปลั๊กโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาและวันที่
30 ธันวาคม 2020 เวลา 08.16 นาที
วันที่ก็ถูกนี่ แต่ทำไมจีมินทำเหมือนไม่มีอะไรล่ะ
หรือว่า...ลืม?
คิดได้ดังนั้นก็ส่งเสียงถอนหายใจออกมาเบาๆ ล้มตัวลงนอนไปใหม่พร้อมกับดึงร่างน้อยๆ นั่นเข้ามากอด พยายามข่มตานอนต่อพลางบอกตัวเองว่าไม่มีเซอร์ไพรซ์วันเกิดก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างไรทุกๆ วันที่ได้อยู่ด้วยกันมันก็ดีพอแล้ว
แต่ถึงจะปลอบตัวเองอย่างนั้นในใจก็ยังร้อนรุ่มไม่หาย
ทำไมจีมินถึงลืมวันเกิดของเขาได้
จะว่าไปปีนี้ก็ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายถามไถ่เขาเลยด้วยว่าอยากได้อะไร
หรือจะเรียนหนักเกินไปจนลืมจริงๆ กันนะ
“เฮ้อ...” ผ่อนลมหายใจออกมาอีกครั้งพลางพลิกตัวหันหลังให้คนรักวัยละอ่อน แต่ก็ไม่วายโดนคนข้างกายพลิกตัวกลับนอนมากอดเขาเอาไว้จากด้านหลังด้วย
“เป็นอะไร ถอนหายใจอยู่นั่น...” เสียงหวานดังขึ้นอู้อี้ ฟังดูก็รู้ว่ายังง่วงอยู่
“เปล่า” หลังจากตอบไปเสียงแข็งก็หันกลับมาหาคนตัวเล็ก ผลักหมอนที่บดบังใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักนั่นออกแล้วขยับไปจุมพิตยังริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“อื้อ...ยังไม่ได้แปรงฟัน...” จีมินว่าทั้งที่ยังหลับตาสนิท
“มึง...ลืมเหรอ”
“...ลืมอะไร” คนอายุน้อยกว่ายอมลืมตาขึ้นมามองเขาแล้ว
“....”
“ลืมอะไรแทฮยอง” พอเขาเงียบจีมินก็ขมวดคิ้วบ้าง แทฮยองเลยได้แต่ถอนหายใจพลางคิดในใจว่าไม่เป็นอะไร
“เปล่า ง่วงก็นอนต่อเถอะ กูไปอาบน้ำละ” ว่าพลางขยับตัวลุกขึ้น เดินเข้ามาในห้องน้ำด้วยสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยว คบกันมาตั้งกี่ปีจีมินยังไม่เคยลืมวันเกิดของเขาเลยสักครั้ง แล้วมาลืมกันปีนี้จริงๆ เหรอ
เขาอุตส่าห์รีบตื่นมาเตรียมรับเซอร์ไพรซ์จากอีกฝ่ายแท้ๆ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง มองหน้าตัวเองในกระจกขณะที่หยิบแปรงสีฟันขึ้นมาแปรงก็เห็นเลยว่าตัวเองเซ็งแค่ไหน
“อาบด้วย” อยู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก กายเล็กเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ เขา เจ้าตัวยังคงสวมชุดนอนลายตารางแบบเดียวกันกับเขาเป๊ะ เอื้อมไปหยิบแปรงสีฟันของตัวเองขึ้นมาแปรงโชว์ฟันขาวอยู่ข้างๆ
แทฮยองเหลือบมองจีมินอยู่ตลอด อดคาดหวังไม่ได้ว่าปีนี้เซอร์ไพรซ์อาจจะแปลกไปจากทุกปี แต่จนกระทั่งอาบน้ำด้วยกันเสร็จก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเซอร์ไพรซ์อะไรใส่กันเลย
พอแต่งตัวเสร็จคนโตกว่าก็เตรียมไปทำอาหารเช้า มีหลอกถามจีมินไปแล้วด้วยว่าจะทำอาหารเช้าให้เขาไหม อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับมาว่าขี้เกียจ เดินสะบัดตูดงอนๆ ไปนั่งบนโซฟา เปิดทีวี หยิบซีเรียลที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะกลางขึ้นมากินเล่นระหว่างรอเขาอีก
คนตัวสูงได้แต่ถอนหายใจ น้อยใจฉิบหายแต่ก็ทำได้แค่ช่างมันเถอะ
มื้อเช้าผ่านไปแล้ว แต่จีมินก็ยังใช้ให้เขาล้างจานอีก
เออ เป็นผัวที่ดีจริงๆ ทำแม่งทุกอย่างเลย
เช็ดจานอยู่ดีๆ หางตาก็เห็นคนตัวเล็กเดินหายเข้าไปในห้อง แทฮยองรีบเก็บจานแล้วเดินไปแง้มประตู ตั้งใจจะแอบดูคนในห้องเผื่อว่ากำลังเตรียมของขวัญให้เขา แต่ก็เห็นแค่ว่าจีมินกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า
“จะไปไหน” สิ้นเสียงของเขา คนตัวเล็กก็หันมามอง ไม่มีทีท่าตกใจเหมือนคนมีพิรุธ จึงเป็นอีกครั้งที่คนโตกว่าพยายามบอกตัวเองว่าให้เลิกคาดหวังสักที
“ไปซื้อของ”
หัวใจของคนเป็นพี่เต้นตึกตัก เพิ่งบอกตัวเองให้เลิกคาดหวัง แต่ตอนนี้เขารู้สึกคาดหวังขึ้นมาอีกแล้ว คาดหวังว่าของที่อีกคนว่านี่ต้องเป็นของขวัญของเขาแน่ๆ
“ยิ้มทำไมอะ มึงก็มาแต่งตัวดิ จะให้กูไปคนเดียวเหรอ”
คนฟังเลิกคิ้ว นึกสงสัยว่าถ้าให้เขาไปด้วยแล้วอีกฝ่ายจะซื้อของขวัญมาเซอร์ไพรซ์เขาได้ยังไง
“ให้กูไปด้วยเหรอ” เอ่ยถามออกไปเสียงเบา เผื่อว่าคนรักแค่แกล้งชวน
“ไปสิ จะให้กูซื้อของคนเดียวเหรอ เดี๋ยวซื้อมาผิดมึงก็บ่นกูอีก” คราวนี้แทฮยองขมวดคิ้ว ไม่ได้เข้าใจสักนิดว่าจีมินพูดถึงอะไร
“ซื้ออะไรผิด”
“ก็ของสดในตู้เย็นไง เมื่อกี้ในข่าวบอกว่ามีของลดเยอะมาก” คนตัวเล็กตอบกลับมาพลางสวมผ้าพันคอ ก่อนจะหันไปคว้าหมวกไหมพรมสีเดียวกับเสื้อโค้ทมาสวมเอาไว้ ตากลมจ้องมองตัวเองในกระจก จัดแจงการแต่งกายให้เรียบร้อยก่อนจะหันมาหาเขาอีกรอบ
“แทฮยอง มาแต่งตัวดิ”
คนที่ได้แต่นิ่งเงียบไปเพราะหัวใจเหมือนกำลังผุกร่อนพยักหน้าเบาๆ เดินสวนกับคนรักเข้าไปแต่งตัวในห้องด้วยสีหน้าทุกข์ระทม แววตาเศร้าหมองราวกับคนโดนของไม่มีผิด
พอแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง เห็นคนตัวเล็กปิดโทรทัศน์ ปิดไฟเรียบร้อยก็ได้แต่ถอนหายใจ เดินตามเมียลงมาจากคอนโด ขับรถพาพวกเขาทั้งคู่ออกไปของซื้อสดตามซูปเปอร์มาร์เก็ตในขณะที่อากาศติดลบเป็นสิบๆ องศา
“ต้องซื้ออะไรอีกไหมอะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากที่เอาของไปไว้ท้ายรถหมดแล้ว
“ไม่มีแล้ว”
“งั้นกลับเลยไหม”
“อืม” แทฮยองพยักหน้าตอบรับ เดินขึ้นไปนั่งบนเบาะคนขับโดยไม่รอให้คนรักตอบอะไรกลับมาอีก
ประตูรถปิดลง เสียงเพลงในรถบรรเลงขึ้น ทว่าความอึดอัดในชั้นบรรยากาศที่ไม่ได้เบาบางลงไปก็ทำให้จีมินเอ่ยถามขึ้นมา
“แทฮยอง”
“....” คนถูกเรียกไม่ได้ขานรับ ทำเพียงแค่หันไปมองคนเรียกโดยที่สองมือยังคงจับพวงมาลัยเพื่อหักเลี้ยวรถออกจากลานจอด
“มึงโกรธอะไรกูไหมอะ” พอได้ยินน้องถามเสียงเบา คนโตกว่าก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาก็รู้นั่นแหละว่าพฤติกรรมของตัวเองคงทำให้น้องไม่สบายใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เปล่า”
“เป็นอะไรก็บอกดิ”
“บอกว่าเปล่าไง”
“เออ เปล่าก็เปล่า” คนน้องตอบกลับกระแทกเสียง ทั้งรถเลยเงียบเชียบขึ้นอีกครั้ง เสียงเพลงในช่วงเทศกาลคริสต์มาสไม่ได้ช่วยให้ความอึดอัดในรถลดน้อยลงเลย
เมื่อกลับมาถึงคอนโด ต่างฝ่ายก็ต่างช่วยกันขนของเดินไปขึ้นลิฟต์ ยังไม่มีใครยอมเอ่ยอะไรออกมาอีกจนกระทั่งจีมินวางของไว้บนเคาน์เตอร์ครัวแล้วเดินหนีเข้าไปในห้อง ทิ้งให้แทฮยองเป็นฝ่ายเก็บของที่ซื้อมาเข้าตู้เย็นคนเดียว แล้วพอจะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างก็เห็นว่าคนตัวเล็กนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
คนโตกว่าถอนหายใจอีกครั้ง ถอดหมวกกับผ้าพันคอทิ้งไว้บนราวแขวนแล้วเดินไปนั่งข้างๆ คนรักของตัวเอง
“ขอโทษ...” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นดังขึ้นตอบรับเขาหัวใจของแทฮยองก็วูบไหวไปมา
ในที่สุดเขาก็ทำจีมินร้องไห้ทั้งที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้ว
ในที่สุดเขาก็ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำตาอีกจนได้
“จีมิน...” แขนเอื้อมไปโอบกายน้องไว้ให้ขยับเข้ามาแนบชิด จับศีรษะคนตัวเล็กกว่าให้เอนซบลงบนไหล่แกร่งเอาไว้พลางลูบปลอบไปมาเบาๆ
“ฮึก ไหนบอกว่ามีอะไรต้องคุยกันไง แล้วมึงโกรธอะไรกูทำไมไม่พูดอะ...”
“ขอโทษ...ไม่มีอะไร กูแค่อารมณ์ไม่ค่อยดี...” แทฮยองพยายามแก้ตัว ไม่อยากเอ่ยปากบอกว่าที่อารมณ์ไม่ดีมันเป็นเพราะว่าจีมินจำวันเกิดของเขาไม่ได้
“แน่นะ...”
“อืม ไปเปลี่ยนเสื้อแล้วไปหาหนังดูกัน” ว่าพลางผละกอดออกจากร่างเล็ก เอื้อมไปเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใส โน้มใบหน้าไปจุมพิตริมฝีปากอิ่มย้ำๆ อย่างเย้าแหย่หวังให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้น จีมินจึงยอมลุกไปเปลี่ยนเสื้อก่อนจะออกมานั่งเปิดเน็ตฟลิกส์ดูกับเขาบนโซฟากลางบ้าน
นั่งเลือกหนังกันสักพัก เสียงหวานก็ดังขึ้น
“แท...ในตู้เย็นยังมีไอศกรีมอยู่ไหมอะ”
“มีมั้ง ไม่แน่ใจ”
สิ้นเสียงตอบรับของเขา จีมินก็ลุกไปหยิบไอศกรีมถ้วยมาวางบนโต๊ะกลาง ยื่นช้อนให้เขาหนึ่งคันก่อนจะเปิดฝาไอศกรีมถ้วย กลิ่นวนิลลาลอยอบอวลอยู่ในอากาศ นัยน์ตาคมมองตามมือบางที่ตักไอศกรีมเข้าปากของตัวเองก่อนจะเอ่ยถาม
“หนาวขนาดนี้ยังจะกินไอศกรีมอีกเหรอ”
“ก็อยากกินอะ”
คนตัวเล็กว่าก่อนจะยู่ปากน่ามันเขี้ยว มือใหญ่จึงเอื้อมไปหยิกแก้มอวบอ้วนนั่นเบาๆ ก่อนจะหันกลับมากดเล่นหนัง ในหัวยังไม่ได้ลืมเรื่องวันเกิดไปหรอก แต่ก็ทำใจแล้ว ถ้าเขาทำจีมินร้องไห้ขนาดนั้นก็แสดงว่าเจ้าตัวคงลืมจริงๆ นั่นแหละ
“มึงกินดิ” คนตัวเล็กว่าพลางเอาช้อนพร้อมกับไอศกรีมก้อนโตมาจ่อที่ปาก แทฮยองอ้าปากรับอย่างว่าง่ายทั้งที่ในมือก็ถือช้อนของตัวเองไว้
นั่งดูหนังด้วยกันไปเรื่อย จีมินก็คอยตักไอศกรีมป้อนเขาไปเรื่อย ผ่านไปสักพักคนที่รับความเย็นของไอศกรีมไม่ไหวแล้วก็เริ่มไม่อยากทาน พอมือบางเอาช้อนมาจ่อที่ปาก คนโตกว่าก็พยายามจะหลบหนี แต่มือหนาดันเผลอเอื้อมไปปัดแขนเรียวตรงหน้าออกจนไอศรีมคำใหญ่หล่นแหมะลงอยู่แถวเป้ากางเกงของเขา
“ขอทิชชู่หน่อย” คนโตกว่าพลางชี้นิ้วไปยังกล่องใส่ทิชชู่ มืออีกข้างก็ทำท่าจะใช้ช้อนตัวเองตักไอศกรีมออกจากตัก แต่แทนที่จีมินจะหยิบทิชชู่ให้ตามคำขอของเขาก็กลับเอื้มมือมายื้อแขนเขาเอาไว้ แทฮยองหันไปมองอีกฝ่ายพลางเลิกคิ้ว ตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ คนตัวเล็กกว่าก็ขยับลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตรงหน้า
“เช็ดทำไม เสียดายออก”
คนฟังขมวดคิ้วพลางมองร่างเล็กที่เอื้อมมาจับสองขาของเขาให้แยกออก กายบางคลานเข้ามานั่งแทรกกลางอยู่ตรงหว่างขาของเขา เงยหน้าขึ้นมองมาพลางส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ก่อนจะเอ่ยว่า
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
แทฮยองชะงักไปเล็กน้อยอย่างคนที่ตั้งตัวไปทัน ในหัวก็ขบคิดไปต่างๆ นานาว่าแล้วทั้งวันที่ผ่านมามันคืออะไร
“มึง...ไม่ได้ลืมเหรอ...” คนที่เข้าใจผิด คิดมาตลอดว่าตัวเองถูกลืมวันเกิดเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอึกอัก ทำหน้าทำตาเหลอหลาจนเด็กตรงหน้าหัวเราะออกมาเบาๆ
“ใครจะไปลืมวันเกิดมึง”
“ล...แล้วทำไมไม่เห็นมีเซอร์ไพรซ์กับของขวัญ”
สิ้นเสียงของเขา จีมินก็เลิกคิ้วขึ้น ก้มลงมองช่วงล่างของเขาที่ยังติดหนึบอยู่กับโซฟา
“ก็นี่ไงเซอร์ไพรซ์”
แทฮยองเลิกคิ้วขึ้นบ้าง มองไปยังไอศกรีมที่ตกอยู่บนเป้ากางเกงของตัวเองก่อนที่หัวใจจะเริ่มเต้นตึกตัก ไม่แน่ใจนักว่าไอ้คำว่านี่ไงมันหมายถึงไอศกรีมบนตักหรือหมายถึงการที่อยู่ๆ เจ้าตัวก็มาบอกแฮปปี้เบิร์ดเดย์เขาแบบนี้
“ส่วนของขวัญ...”
พอเสียงหวานดังขึ้น สติของแทฮยองก็กลับมาอีกรอบ เงยหน้าขึ้นมองจีมินที่เว้นจังหวะคำพูดไปเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวขึ้นเพื่อถอดเสื้อออก คนมองเบิกตากว้างอย่างคนตกใจ ไล่มองร่างกายนวลเนียนที่ถูกพันไปด้วยโบว์สีแดงราวกับว่าตัวเองเป็นของขวัญที่ถูกห่อ
“...ก็กูไง...”
และด้วยความที่โบว์เส้นใหญ่ถูกเสื้อผ้ารัดเอาไว้ ตอนนี้มันเลยแนบลู่เข้ากับลำตัวเพรียวบางจนเห็นทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นอกแบนราบที่ยอดอกตั้งชูชัน ไม่ว่าจะเป็นเอวคอดที่โค้งเว้าสวยดูน่าจะจับถนัดมือเขาก็เห็นมันชัดเจนทั้งหมด
“งั้นเมื่อกี้มึงแกล้งร้องไห้เหรอ” แม้แทบจะละสายตาไปจากเรือนร่างเซ็กซี่ตรงหน้าไม่ได้แต่ก็ยังเลือกที่จะเอ่ยถาม
“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย...” คราวนี้จีมินตอบกลับมาเสียงขุ่น แทฮยองเลยยิ่งทำท่าอึกอักใหญ่เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำเสียบรรยากาศ
“อ...อืม”
“ตกลงมึงไม่โกรธอะไรใช่ไหม”
“เปล่า...กูแค่คิดว่ามึงลืมวันเกิดกู...”
“ไม่ได้ลืมสักหน่อย” จีมินขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนลูกแมวขู่ฟ่อส่งมาให้
“ก็ไม่เห็นมึงแต่งห้องหรือทำอะไรให้เหมือนทุกปี”
“ก็ทุกทีมึงก็บอกเองว่าไม่อยากได้อะไร...”
คราวนี้คนตัวเล็กกระตุกยิ้มขึ้น แม้จะตอบกลับมาเสียงเบา แต่แววตาเจ้าเล่ห์ที่ช้อนขึ้นมองเขาไม่ได้ดูเบาลงไปด้วย
“ไม่มีของขวัญชิ้นไหนที่มึงอยากได้มากไปกว่ากูไม่ใช่เหรอ...แทฮยอง”
สิ้นเสียงเล็ก ของขวัญที่เขาต้องการมากที่สุดก็ทำท่าเอียงคอถาม
แทฮยองกระตุกยิ้มขึ้นบ้าง ความเย็นชื้นของไอศกรีมก้อนใหญ่เริ่มซึมแทรกลงไปยังจุดอ่อนไหวกลางร่างกายของเขาแล้ว คนตัวหนาเอนหลังพิงกับโซฟา ถดช่วงล่างให้ขยับไปอ้าขาให้กว้างออกได้มากขึ้นอีก
“ตั้งใจให้เป็นแบบนี้เหรอ” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถามพลางพยักเพยิดไปยังเป้ากางเกง
จีมินเลยยืดตัวขึ้นมาประชิดใบหน้าของเขาก่อนจะถามกลับ
“แล้วชอบไหม” ปากอิ่มขยับกระซิบเสียงเบา สบตากับเขาด้วยแววตาเป็นประกายพราวระยับไม่ต่างกัน
“ชอบ” ตอบอย่างไม่จำเป็นต้องคิด ก่อนจะโน้มหน้าไปจุมพิตบนริมฝีปากอวบอิ่ม
“อยากให้กูกินอะไรก่อน ระหว่างปากมึง...กับไอศกรีม...” พอผละออกไปได้เจ้าของร่างบอบบางก็กระซิบถามอีกครั้ง
ทั้งน้ำเสียง ทั้งสายตาของอีกฝ่าย ช่างดูยั่วยวนจนความเย็นชื้นบนเป้ากางเกงของเขาไม่ได้ทำให้ตัณหาหยุดแผดเผาลงได้เลย
แทฮยองตัดสินใจขยับริมฝีปากไปอยู่ข้างๆ ใบหูนิ่ม
ก่อนจะกระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงแห้งแหบเบาๆ ว่า
“ไอศกรีม”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งืออออออออ บ้าที่สุด กินไอติมวันเกิดดดดอ
ปล. สุจสันต์วันเกิดนะคะคุณไรท์ ขอให้มีความสุขมาก ๆ เเล้วก็มีกำลังใจเเต่งฟิคเยอะๆนะคะ ตอนนี้น่ารักมากเลย ขอบคุณมากค่ะ
ไรท์คะ...อย่าคิดว่าตัวเองแต่งไม่ดี ไรท์แต่งได้ดีมาก มากกว่าเราเยอะเลย ไรท์ทำได้ดีมากเลยค่ะ เรายังนำการแต่งของไรท์มาเป็นแนวทางเลย!!! และไม่ใช่ไรท์ไม่ดีพอ แต่ทุกคนต่างมีความชอบต่างกัน ไรท์อย่าโทษตัวเองน้าาาาา เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล.นิยายเรื่องนี้เปนนิยาย y เรื่องแรกที่เราเข้ามาอ่าน ทั้งๆที่เนาไม่ชอบ y เลยย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 กันยายน 2562 / 23:50
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 25 กันยายน 2562 / 23:54