ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : intro
-intro-
" เงินสามารถซื้อทุกอย่างได้ หมายใช่ความสุขทางใจที่ถูกบีบบังคับ "
ประตูไม้สักบานใหญ่สลักลายสวยหรูภายในโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถูกเปิดออกเพื่อตอนรับผู้เข้าร่วมการประชุมของนักประมูลแนวหน้าของเอเชีย
" เชิญครับคุณอิสริยะ คุณจิรวิชญ์ " คำเชื่อเชิญของเจ้าของโรงแรมถูกกล่าวขึ้นเพื่อตอนรับนักประมูล
" ทางโรงแรมของเราถือเป็นเกียรติ์อย่างยิ่งที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่การประชุมให้พวกท่านครับ "
" คุณดนัย เหลยฟง มารึยัง " จิรวิชญ์ผู้เป็นน้องถามถึงแก่นนำการประชุมในครั้งนี้
" มาแล้วครับ ทุกท่านรออยู่ที่ห้องประชุมครับ คุณจิรวิชญ์ " ประตูห้องการประชุมถูกเปิดขึ้นอย่างเบามือ เผยโฉมหน้านักประมูลสองพี่น้องที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย
" ขอโทษทุกท่านที่ทำให้รอ " อิสริยะผู้เป็นพี่กล่าวขึ้นตามมารยาท
" ไม่เป็นไรครับคุณอิสริยะ พวกผมก็พึ่งมาถึงครับไม่ได้รีบร้อนอะไร " เหลยฟงแก่นนำการประชุมพูดขึ้นอย่างเกรงใจ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า อิสริยะ คือหนึ่งในสิบนักประมูลที่มีชื่อเสียงแนวหน้าของโลก ซึ่งนักประมูลแนวหน้าในห้องแห่งนี้เทียบไม่ได้เลยในทุกๆด้าน แม้กระทั่งเหลยฟง
อิสริยะ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ พันธัต นักประมูลชื่อดังระดับโลก หลักการป่วยอันยืดเยื้อ อิสริยะจึงจำเป็นต้องรับสืบทอดการเป็นนักประมูลต่อจากคุณพ่อ ของประมูลที่ได้มาเมื่อถูกนำกลับไปประมูลอีกครั้งจึงมีมูลค่าที่มหาศาล และแน่นอน พันธัต รู้ดีว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาเป็นคนเช่นไร ทั้งเย็นชา อารมณ์ร้อน ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่หากปล่อยให้อิสริยะจัดการงานเพียงคนเดียว แน่นอนว่าบอดี้การ์ดอีกหลายชีวิตไม่สามารถมีอำนาจหาเหตุผลให้อิสริยะได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเหตุผลที่ดีก็ตามแต่ หากอิสริยะไม่ต้องการ
จิรวิชญ์ ลูกชายของ พิมมาลา ผู้เป็นน้องสาวของ พันธัต ที่ถูกขอร้องโดยพันธัตเพื่อให้มาช่วยงานอิสริยะ
เพราะพันธัตรู้ว่าหลานชายคนนี้เป็นคนมีเหตุผลมากกว่าอิสริยะหลายเท่า ถึงแม้ว่าอายุนั้นจะอ่อนกว่าอิสริยะสองปี อารมณ์ร้อนนั้นมีบ้างเป็นครั้งคาและเหมือนว่าจะควบคุมได้เสมอมา สองพี่น้องสนิทกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิมยิ่งได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อทำการประมูลสองพี่น้องก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
บริกรหนุ่มสองคนที่แต่งตัวดูดี ลากเก้าอี้ออกอย่างแผ่วเบาให้แก่สองพี่น้องนั่งก่อนจะออกจากห้องอย่างหมดความกังวล เมื่อหน้าที่มีเพียงลากเก้าอี้ให้แขกเพียงเท่านั้น สายตาคมของอิสริยะมองแก้วไวน์ที่วางตรงหน้าอย่างหงุดหงิด เมื่อไม่มีน้ำสีสวยอยู่ภายใน
" คุณดนัย ภายในห้านาทีหากไม่มีไวน์อยู่ในแก้ว โรงแรมคุณระเบิดเป็นจุลแน่ "
" ครับๆ คุณอิสริยะ ผม.......ผมขอโทษครับ ........" ความเร่งรีบของดนัยเจ้าของโรงแรมทำเอาพนักงานดูรนรานกันไม่น้อย
" ธนทัต...........ธนทัตอยู่ไหน..."
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เริ่มเรื่องแรกครับ ยังงัยฝากติดตามกันด้วยนะคร๊าบบบบบ
(ติชมด้วยนะ จะได้ปรับปรุงครับ) HKSFC ^^
" เชิญครับคุณอิสริยะ คุณจิรวิชญ์ " คำเชื่อเชิญของเจ้าของโรงแรมถูกกล่าวขึ้นเพื่อตอนรับนักประมูล
" ทางโรงแรมของเราถือเป็นเกียรติ์อย่างยิ่งที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่การประชุมให้พวกท่านครับ "
" คุณดนัย เหลยฟง มารึยัง " จิรวิชญ์ผู้เป็นน้องถามถึงแก่นนำการประชุมในครั้งนี้
" มาแล้วครับ ทุกท่านรออยู่ที่ห้องประชุมครับ คุณจิรวิชญ์ " ประตูห้องการประชุมถูกเปิดขึ้นอย่างเบามือ เผยโฉมหน้านักประมูลสองพี่น้องที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย
" ขอโทษทุกท่านที่ทำให้รอ " อิสริยะผู้เป็นพี่กล่าวขึ้นตามมารยาท
" ไม่เป็นไรครับคุณอิสริยะ พวกผมก็พึ่งมาถึงครับไม่ได้รีบร้อนอะไร " เหลยฟงแก่นนำการประชุมพูดขึ้นอย่างเกรงใจ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า อิสริยะ คือหนึ่งในสิบนักประมูลที่มีชื่อเสียงแนวหน้าของโลก ซึ่งนักประมูลแนวหน้าในห้องแห่งนี้เทียบไม่ได้เลยในทุกๆด้าน แม้กระทั่งเหลยฟง
อิสริยะ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ พันธัต นักประมูลชื่อดังระดับโลก หลักการป่วยอันยืดเยื้อ อิสริยะจึงจำเป็นต้องรับสืบทอดการเป็นนักประมูลต่อจากคุณพ่อ ของประมูลที่ได้มาเมื่อถูกนำกลับไปประมูลอีกครั้งจึงมีมูลค่าที่มหาศาล และแน่นอน พันธัต รู้ดีว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาเป็นคนเช่นไร ทั้งเย็นชา อารมณ์ร้อน ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่หากปล่อยให้อิสริยะจัดการงานเพียงคนเดียว แน่นอนว่าบอดี้การ์ดอีกหลายชีวิตไม่สามารถมีอำนาจหาเหตุผลให้อิสริยะได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเหตุผลที่ดีก็ตามแต่ หากอิสริยะไม่ต้องการ
จิรวิชญ์ ลูกชายของ พิมมาลา ผู้เป็นน้องสาวของ พันธัต ที่ถูกขอร้องโดยพันธัตเพื่อให้มาช่วยงานอิสริยะ
เพราะพันธัตรู้ว่าหลานชายคนนี้เป็นคนมีเหตุผลมากกว่าอิสริยะหลายเท่า ถึงแม้ว่าอายุนั้นจะอ่อนกว่าอิสริยะสองปี อารมณ์ร้อนนั้นมีบ้างเป็นครั้งคาและเหมือนว่าจะควบคุมได้เสมอมา สองพี่น้องสนิทกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิมยิ่งได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อทำการประมูลสองพี่น้องก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
บริกรหนุ่มสองคนที่แต่งตัวดูดี ลากเก้าอี้ออกอย่างแผ่วเบาให้แก่สองพี่น้องนั่งก่อนจะออกจากห้องอย่างหมดความกังวล เมื่อหน้าที่มีเพียงลากเก้าอี้ให้แขกเพียงเท่านั้น สายตาคมของอิสริยะมองแก้วไวน์ที่วางตรงหน้าอย่างหงุดหงิด เมื่อไม่มีน้ำสีสวยอยู่ภายใน
" คุณดนัย ภายในห้านาทีหากไม่มีไวน์อยู่ในแก้ว โรงแรมคุณระเบิดเป็นจุลแน่ "
" ครับๆ คุณอิสริยะ ผม.......ผมขอโทษครับ ........" ความเร่งรีบของดนัยเจ้าของโรงแรมทำเอาพนักงานดูรนรานกันไม่น้อย
" ธนทัต...........ธนทัตอยู่ไหน..."
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เริ่มเรื่องแรกครับ ยังงัยฝากติดตามกันด้วยนะคร๊าบบบบบ
(ติชมด้วยนะ จะได้ปรับปรุงครับ) HKSFC ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น