ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โพยมยอดรัก

    ลำดับตอนที่ #14 : ความสัมพันธ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 114
      0
      29 ก.ย. 56

                    เซเลโน่พาฟริกกาหลบหนียังอีกด้านของชายหาด  ด้วยความช่วยเหลือของรอส ทั้งคู่จึงหนีออกมาได้ก่อนที่คนของพ่อบุญธรรมจะไปถึง

                    “เราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เอานี่คุณ” เขาโยนชุดใหม่ให้เธอ พวกเขาแวะพักรับประทานอาหารที่โฮเต็ลกลางทางก่อนจะออกเดินทางต่อ โชคดีที่รอสเตรียมรถไว้ให้

                    “นี่มันชุดไร ทำไมดูเชยจัง ยังกับคนแก่” ฟริกกาว่าเมื่อคลี่เสื้อออกดู เหมือนเสื้อผ้าที่ผลิตมาก่อนเธอเกิดสักสิบปีได้

                    “ใส่ไปเถอะน่า เราไม่มีเวลาไปเดินช้อปปิ้งกันนะ ถึงได้มีชุดใหม่  คุณกับผมต้องปลอมตัวเป็นสองสามีภรรยาวัยเกษียณ จะได้ไม่มีใครสงสัยไง พ่อผมกว้างขวางทั่วอเมริกา ถ้ามีใครสักคนเห็นเราเดินเตร่อยู่ ไม่ช้าจะโดนจับได้”

                    “เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ แต่น่าจะบอกก่อน ฉันจะได้จัดการตัวเองถูก”

                    สองสามีกำมะลอมุ่งสู่ทางใต้ของประเทศด้วยรถยนต์ที่รอสจัดหามาให้ ขอเพียงพ้นจากเขตอเมริกาได้ พวกเขาจะปลอดภัยมากขึ้นแม้จะไม่ปลอดภัยเสียทีเดียวก็ตาม ตลอดการเดินทางมีแต่ความเงียบชวนเบื่อ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ถนนและรถราวิ่งสวนทางผ่าน อาหารการกินก็มีแต่ขนมปังกับแฮมเบอร์เกอร์เท่านั้น  รสชาติเย็นชืดฝืดขมคอไปหมด

                    “เราพักที่นี่กันนะ” เซเลโน่เลือกที่พักริมทางเล็กๆ  ซึ่งแทบจะไม่มีใครสนใจอยากจะมาพัก ยิ่งคนน้อยเท่าไร ฟริกกาก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้น


                    เขากำลังหักหลังผู้มีพระคุณ เซเลโน่รู้ข้อนี้ดี แต่ให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อหลวมตัวเข้ามาช่วยเหลือเธอ แต่พ่อบุญธรรมเขาไม่ได้คนเลวร้ายน่ากลัวเสียหน่อย ทำไมเขาต้องห่วงเธอด้วยเล่า

                    หรือเพราะความหวงกันแน่ ถ้าเขาหวงแปลว่าเขารักหล่อนใช่ไหม  ไม่ใช่  ไม่จริง

                    เซเลโน่ไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง เขาไม่มีทางรักผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอเป็นผู้หญิงต้องห้ามสำหรับเขามาตั้งแต่ยังไม่พบหน้ากันด้วยซ้ำไป

                    “อิ่มแล้วหรือคะ” ฟริกกาถามเมื่อเห็นชายหนุ่มรวบช้อน

                    “ผมไม่ค่อยหิว ขอตัวก่อนนะ”

                    “เดี๋ยวก่อน เซโลโน่ เราไม่มีเวลาพูดคุยกันสักครั้งตั้งแต่ออกจากบ้านมา ฉันอยากรู้หลายอย่าง คุณพอจะตอบคำถามฉันให้กระจ่างได้ไหม

                    เซเลโน่หายใจทิ้งแบบเหนื่อยระอา จำต้องนั่งฟังและรออธิบายสิ่งที่เธออยากรู้ “อยากคุยเรื่องไหนก็ว่ามา”

                    “พวกเรากำลังจะไปไหนกัน แล้วจะหนีรอดไหม”

                    ชายหนุ่มก้มหน้าลอบถอนใจอย่างเสียไม่ได้ “ผมจะพาคุณไปหลบภัยที่ปานามาชั่วคราว ส่วนเรื่องจะไปถึงที่นั่นได้ไหม แล้วแต่โชคชะตา”

                    “แปลว่าเราต้องหนีแบบนี้ไปตลอดหรือคะ ถึงเมื่อไรกัน”

                    เซเลโน่ชะงักมือไปชั่วขณะ ก่อนจะก้มลงจัดการกับอาหารตรงหน้าโดยไม่ตอบคำถามเธอ

                    “ฉันไม่อยากหนีอีกต่อไปแล้ว”

                    คราวนี้ชายหนุ่มรวบช้อน ทำสีหน้าเบื่อหน่าย “แปลว่าคุณอยากกลับไปหาพ่อผมงั้นหรือ”

                    ฟริกกาส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ค่ะ ใครจะอยากขายศักดิ์ศรีตัวเอง แต่ฉันไม่อยากให้คุณลำบาก ถ้ายังไงส่งฉันที่สนามบินสักแห่ง ฉันจะบินกลับประเทศไทย”

                    “คุณไปไม่รอดหรอกฟริกกา พ่อผมไม่ใช่มาเฟียตามห้องแถวจะได้หนีได้ง่ายๆ แค่คุณเดินออกจากไปผมในตอนนี้ ไม่เกินชั่วโมงคุณจะถูกจับตัวไปให้พ่อผม อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหม”

                    “แต่ฉันอยู่กับคุณแบบนี้ จะทำให้คุณพลอยลำบากเดือดร้อนไปด้วย คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

                    มีเสียงเคร้งของมีดและส้อมกระทบจานกระเบื้องดังตาม

                    “คุณจะทำให้ผมลำบากตรงที่เราพูดจากันไม่รู้เรื่อง ขอร้องอยู่เฉยๆ ที่เหลือเป็นหน้าที่ผมเอง ถ้าไม่อยากให้ผมมีปัญหา คุณควรจะทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง เข้าใจไหมฟริกกา”


                    เซเลโน่ถอดผ้ากันเปื้อนโยนวางบนโต๊ะ เดินกลับขึ้นไปข้างบนอย่างหัวเสีย ผู้หญิงนะผู้หญิง จะเซ้าซี้ถามไปทำไมกันให้มากความ ความจริงในหัวใจหล่อนไม่รู้น่าจะดีกว่า

                     แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่า ฟริกกาไม่ใช่แค่เซ้าซี้เก่งอย่างเดียว เธอไม่ยอมแพ้ด้วยถ้าไม่ได้คำตอบ เพราะฉะนั้นก่อนจะเข้านอนหญิงสาวจึงไปเคาะประตูเรียกชายหนุ่ม

                    “มีอะไร มาปลุกผมดึกๆ ”

                    ฟริกกาอุดจมูกตัวเอง ทำหน้าเบ้ใส่ “ทีแรกฉันกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเวลานอนของคุณเสียเพราะเห็นดึกแล้ว แต่ฉันนอนไม่หลับถ้ายังไม่ได้พูดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าฉันไม่ได้รบกวนคุณเพราะคุณก็ยังไม่นอนเหมือนกัน”

                    “แล้วรู้ได้ไงว่าผมยังไม่นอน”

                    “รู้สิ กลิ่นเหล้าคุณหึ่งเลย ดื่มเหล้าอยู่ใช่ไหม” ฟริกกามองลอดช่องว่างของประตูไปข้างใน เห็นแก้วใส่เครื่องดื่มสีอำพัน

                    “นิดหน่อยเป็นธรรมดาของผู้ชาย ว่าแต่คุณมีเรื่องอะไรจะพูดกับผม”

                    “ก็เรื่องที่เราพูดกันเมื่อตอนเย็นนั่นแหละ”

                    เขาทำท่าจะปิดประตูหนี ฟริกการีบดันประตูได้ก่อน “ฟังความเห็นฉันก่อนได้ไหม แล้วค่อยปฏิเสธ” หล่อนได้ยินเหมือนเสียงถอนใจของชายหนุ่ม สุดท้ายเขาก็ยอมเปิดประตูให้เธอเข้าข้างใน

                    “เข้ามา ยืนคุยหน้าห้องคนจะสงสัย”

                    เซเลโน่เก็บเครื่องดื่มไปซ่อน ลากเก้าอี้มาให้นั่งใกล้เธอ “ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือ จะพาคุณไปหลบแถมอเมริกาใต้”

                    “แต่ระยะทางที่นั่นอีกไกล ถ้าพ่อคุณจับพวกเราได้ คุณจะเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนฉันพ่อคุณคงไม่ทำร้ายฉันถึงตาย ท่านคงเข้าใจว่าคุณลักพาตัวฉันไป”

                    “แปลว่าคุณอยากขอแยกตัวกับผมงั้นสิ ต่างคนต่างไป”

                    “ไม่ใช่แบบนั้น ทำไมไม่ฟังฉันพูดก่อนให้จบก่อนเล่า อย่างที่ฉันบอกไว้พาฉันไปสนามบินสักแห่ง ฉันจะบินกลับไทยค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกใจหรือกลัวคนของพ่อคุณมาดักเรา ฉันจะไปพักบ้านเพื่อนก่อน รอจนกว่าเรื่องจะเงียบ แล้วค่อยออกนอกประเทศ คุณว่าแบบนี้ดีไหม”

                    “ไม่ได้!

                    บอกปัดเสียงดังจนเกือบตวาด ไม่ได้ทำให้เธอตกใจแต่กลับรู้สึกแปลกใจ

                    “ทำไมล่ะคะ ฉันเป็นภาระของคุณนะ เซเลโน่”

                    “ถ้าผมคิดแบบนี้จะช่วยคุณแต่ต้นทำไม”

                    “นั่นสิ ฉันเองก็อยากรู้ คุณจะช่วยฉันทำไม จะบอกว่าอยากรับผิดชอบที่ซื้อตัวฉันมาจากพอล แต่คุณทำไปเพราะเหตุ

    สุดวิสัย และคุณช่วยฉันต่างหาก ไม่ให้ตกไปเป็นของโอมาร์ เพราะฉะนั้นเราไม่มีอะไรค้างกัน”

                    “แต่ผมก็ให้คุณห่างสายตาผมไม่ได้ เข้าใจไหม”

                    “คุณไม่บอกเหตุผลกับฉัน แล้วเราจะเข้าใจกันได้ไง เอาเป็นว่าเราต่างคนต่างหนีดีกว่านะ อย่าน้อยคุณถูกจับได้ แต่ฉันไม่อยู่กับคุณ พ่อคุณคงไม่เอาถึงชีวิตแต่ถ้าฉันยังอยู่กับคุณ ฉันอาจทำให้คุณตายได้”

                    “ผมไม่สน หน้าที่ผมต้องปกป้องคุณ”

                    “ด้วยการเป็นศัตรูกับพ่อตัวเองเช่นนั้นหรือเซเลโน่ เพราะอะไรคะคุณถึงเสี่ยงช่วยฉัน เราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยสักนิด”

                    “คำว่าบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน สองคำก็ว่าไม่เกี่ยวข้องกัน คุณไม่รู้หรือไงว่าผมคิดยังกับคุณ คุณไม่รู้หรือว่าผมรักคุณ”

                    ฟริกกายืนอึ้งราวกับโลกหยุดหมุน สายตาที่จับจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า เต็มไปด้วยความสงสัยระคนตื้นตันยินดี เขาบอกรักเธอ เป็นการบอกรักที่มาแบบฟ้าผ่า ตั้งรับแทบไม่ทัน

                    “คุณบอกรักฉัน ยังงั้นหรือคะ” หล่อนถามย้ำอีกครั้งให้ เธอคงฝันไปแล้วใช่ไหม

                    “ใช่ รักมานานแล้ว รักตั้งแต่พบกันครั้งแรก อยากจะเข้าไปหา ทำความรู้จักแต่ไม่กล้า”

                    สองสายตาประสานมองกันและกัน ถ่ายทอดความจริงในใจให้ได้รับรู้ผ่านดวงตาคู่งาม ฟริกกาเผยยิ้มหวานละมุนพร้อมกับหยาดน้ำตาคลอเบ้า คำๆนี้เธอรอมาแสนนาน เป็นคำที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้ยินจากปากผู้ชายที่เธอมีใจให้
                    “ผมรักคุณฟริกกา” มือหนายกมาเชยคางหญิงสาวสูงขึ้นเล็กน้อยๆ  ปลายนิ้วเลื่อนไปสัมผัสข้างแก้ม ลูบเบาๆ  ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ แตะริมฝีปากอย่างแผ่วเบา พร้อมสบตามองอย่างหวานซึ้ง หล่อนก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย สะดุ้งตัวอีกครั้งเมื่อใบหน้าคมคายซุกไซ้ลงซอกคอ

                    “เซเลโน่ ฉัน” หล่อนอยากปฏิเสธ แต่คำพูดไม่เล็ดรอดออกมาปาก ปล่อยให้เขาได้จูบไปทั่วซอกคอ โลมเลียปลายติ่งหูราวกับขนมหวาน และเขายอมเป็นมดที่ไม่มีวันจะปล่อยขนมหวานให้หลุดมือเช่นกัน

                      “รู้ไหมผมต้องอดทนมากแค่ไหน เก็บความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ให้ใครจับได้ แต่ตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้ว” ความเมาทำให้ขาดการยับยั้งชั่งใจ เซเลโน่โอบร่างบางเข้ามาแนบกาย กอดเนื้อนุ่มไม่ให้ขยับหนีห่างไปไหน ค่อยๆเลาะเล็มจูบปากหอมหวาน ไม่ว่าจะแตะตรงไหนก็หอมกรุ่นไปหมดกระตุ้นเลือดหนุ่มให้พลุกพล่าน

                    “อย่าค่ะ ! คุณเมามากไปแล้ว” ฟริกกาออกแรงดิ้นเบาๆอยู่ในวงแขนที่โอบรัดรอบกายเธอ

                    “ขอผมเถอะนะ ผมอยากทำตามหัวใจตัวเองแล้ว”

                    เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าเธอ มือไม้ก็ป่ายสะเปะสะปะไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะหันตัวหญิงสาวไปอีกทาง ล้มตัวเธอและเขาลงบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน

                    ฟริกกาใจสั่นไปหมด เธออยู่ในกรอบที่ดีงามมาแต่เล็กไม่เคยต้องมือชายมาก่อนจึงจัดการกับความรู้สึกวาบหวิวของตนไม่ถูก ครั้นจะขัดขืนก็ไม่มีแรง จะยอมเสียทีเดียวก็เหมือนผู้หญิงใจง่ายเกินไป แต่ทำอย่างไรได้เมื่อความต้องการในส่วนลึกของหัวใจร้องเรียกหาสิ่งนั้นเช่นกัน

                    “ผมอยากแต่งงานกับคุณ ใช้ชีวิตกับคุณไปตลอดชีวิต สิ่งที่ผมทำลงไปให้อภัยผมนะ”
                     
                    “เซเลโน่คะ ฉันยังไม่พร้อม
    .. น้ำเสียงเธอขาดหายไปเมื่อชายหนุ่มรุกไล่เธอหนักเข้า ไม่ว่าจะพยายามเบี่ยงหน้าหนีไปทางไหนก็ตามไปจูบจนได้ ใช้ปลายลิ้นอย่างชำนาญการสะกดได้อยู่หมัด ไม่นานร่างบางก็นอนนิ่งให้เขาได้โลมเล้าไปทั่วร่าง

                    “ได้โปรด ” หล่อนครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อรู้สึกถึงมืออุ่นร้อนกุมเนินอกเต็มๆ บีบเค้นเบาๆให้หัวใจได้เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ  

                    “ฟริกกา” ฤทธิ์ของมึนเมาทำให้เซเลโน่ลืมหมดสิ้นทุกอย่างกระทั่งความเป็นสุภาพบุรุษ ความปรารถนาในใจมีอำนาจเหนือกว่ามาก  ชายหนุ่มเริ่มใช้ทุกอย่างในร่างกายล่วงล้ำเรือนร่างอรชรที่ถูกซ่อนอยู่ใต้อาภรณ์ ปลายนิ้วหนาเกี่ยวตวัดเอาชุดบางเบาออกจากตัว เห็นทุกส่วนสัดโค้งเว้าขาวเนียน

                    “อุ้ย ไม่นะ” หล่อนร้องตกใจ ยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกที่มีบราเซียน้อยๆปกปิดเอาไว้ เซเลโน่ลุกขึ้นนั่ง มองเอวบางร่างน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยแววตาเชื่อมหวานอย่างภมรเจ้าชู้กำลังจะได้ลิ้มลองบุปผางดงาม

                    หล่อนหลับตาเมื่อเขาลงมือถอดเสื้อตัวเองออก ไม่อยากเห็นภาพแผ่นอกเปลือยเปล่าเพราะกลัวตนจะตื่นตระหนกจนอาจเผลอทำร้ายเขา มาถึงตอนนี้แล้วฟริกกายอมรับว่าเธอกำลังใจตามใจเขาทุกอย่าง

                    เพราะอะไรเธอถึงยอมเขา เธอรักเขาเข้าแล้วใช่ไหม ถามใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ชิดว่า เธอคิดอย่างไรกับเขากันแน่ แต่คำตอบเพิ่งมาปรากฏตรงหน้าในตอนนี้เอง

                    เขาปลดมือสองข้างออกลงข้างตัวในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลิน ดึงเอาสิ่งปกปิดส่วนบนเพียงชิ้นเดียวออกจากร่างกาย ฟริกกาตกใจจะยกมือขึ้นมาบังเนินขาวอีกครั้ง แต่เขาจับสองมือเธอกดลงกับที่นอนนุ่ม จุ๊ปากเบาๆ

                    “คุณสวยเหลือเกิน”

                    “ฉันอยากเปลี่ยนใจแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ” ฟริกกาเริ่มกลัวแววตาหื่นกระหายที่จ้องมองสองเต้างามของเธอ เขายิ้มๆ ไม่ได้ว่าอะไร ก้มตัวลง ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายอมชมพูถูกจู่โจมด้วยปลายลิ้นและริมฝีปากหนา ยิ่งตกใจตาเหลือกกรีดร้อง ยิ่งสร้างอารมณ์ใคร่ให้กับชายหนุ่มมากขึ้น

                    “ผมรักคุณ” คำว่ารักพร่ำออกจากปากเป็นรอบที่ร้อย ร่างที่อยู่ใต้แผ่นอกหนากำลังขยับเขยื้อนเบียดแนบกายเขามากขึ้น  ได้ยินเสียงลมหายใจของเธอถี่รัว เซเลโน่ช้อนเอวหญิงสาวขึ้นมา คลุกใบหน้าลงหน้าท้อง มีเสียงร้องครางออกมาไม่ขาดปาก ก่อนที่เขาจะไล่ริมฝีปากลงต่ำ เลื่อนเอาสิ่งปกปิดอีกสองชิ้นออกจากร่างกายเธอ

                    “คุณจะทำอะไรฉัน ไม่นะ ฉันกลัว”  เธอพยายามดิ้นหนีราวกับรู้ชะตาตัวเอง เซเลโน่ไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดไปเป็นของคนอื่นอีกต่อไป เขาได้ใช้ลีลาทุกอย่างสยบเธอเพื่อให้กลายแมวเชื่องที่ว่าง่ายแต่ยังตอบสนองเขาได้ดีตลอดเวลา และไม่ว่าเธอจะกรีดร้องเสียงดัง ร่างกระตุกเป็นรอบที่เท่าไรเขาก็ยังคงตั้งใจเชยชมสิ่งสวยงามเพียงสิ่งเดียวของเธอด้วยปลายชิวหาของเขา จนเธอทนไม่ได้ต้องอ้อนวอนเขาด้วยตัวเอง

                    “พอเหอะ เซเลโน่ ฉันยอมคุณหมดแล้ว”

                    เซเลโน่ยิ้มๆ ปล่อยเอวบางและเปลี่ยนไปหอมแก้มหญิงสาวแทน กระซิบข้างหูเบาๆ  “ผมสัญญาว่าจะถนอมคุณไว้ ไม่ทำรุนแรง”

                    คำว่ารุนแรงของเขาฟริกกายังไม่เข้าใจนัก หล่อนเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ยังต้องเรียนรู้ฉากรักบนเตียงอีกหลายบท  หญิงสาวสะดุ้งนิดเมื่อเขาขยับร่างกายเข้าแนบเธอมากขึ้น

                    “ฉันกลัว ถอยให้ฉันตั้งหลักก่อนได้ไหมคะ”

                    ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไร เดี๋ยวคุณจะมีความสุขไปเอง” นิ้วทั้งห้าลูบไล้เรือนผมสลวยที่แผ่ขยายเต็มที่นอน สบมองแววตาตื่นๆของหล่อน คงกลัวมากสินะ เพราะเขาเห็นมีน้ำตาคลออยู่ด้วย

                    หญิงสาวปล่อยเสียงร้องออกมาอย่างลืมตัวทันทีที่ร่างหนาเบียดตัวเองเข้าหามากขึ้น รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังจะหลุดลอยออกจากร่างกาย เป็นสิ่งที่แม่เธอพร่ำสอนตลอดมาให้รักษาเอาไว้ให้ดีจนกว่าจะถึงวันเข้าหอ แต่เธอกลับผิดคำพูดที่ได้รับปากมารดาเอาไว้ด้วยการยอมให้เขามาพรากไป

                    หล่อนเงยหน้าขึ้นพร้อมสูดปาก  จากนั้นถอนลมหายใจออกมาเมื่อเวลาที่รอคอยครั้งแรกสิ้นสุดลง ในที่สุดเธอก็กลายเป็นของเขาไปแล้ว

                    “ผมภูมิใจที่รู้ว่าเป็นคนแรกของคุณ แต่ที่จริงไม่ว่าคุณจะเป็นของใครมาก่อนผมก็ไม่สน เพราะผมรักที่คุณเป็นคุณนะ ฟริกกา เราจะมีลูกด้วยกัน ผมอยากได้ลูกชาย”

                    เซเลโน่จูบเธออีกครั้งด้วยความรัก ในขณะที่ร่างกำยำยังคงทำหน้าที่มอบความสุขให้เธอต่อ ฟริกกาหลับตาพริ้ม ยอมรับว่าเธอแพ้ใจเขาทุกอย่าง ยอมมอบให้หมดกระทั่งร่างกาย

                    เวลาที่รอคอยได้มาถึงอีกครั้ง มือเรียวเผลอเกาะไปที่เอวหนาซึ่งกำลังเคลื่อนเข้าออกเป็นจังหวะและเพิ่มความถี่มากขึ้นพร้อมๆกับความรู้สึกวาบหวิวราวกับล่องลอยกลางอากาศที่เต็มไปด้วยหมอกแห่งรักและไอปรารถนา

                    “เซเลโน่ ฉันไม่ไหวแล้วนะคะ”

                    หล่อนครางเสียงดังอย่างลืมอาย กุลสตรีที่แสนเรียบร้อยยังไม่อาจอยู่นิ่งได้เมื่อเจอบทรักเร่าร้อนจากชายผู้มีอาวุธประจำกายอันแสนร้ายกาจ  ร่างบางส่ายมากขึ้น แผ่นหลังเนียนสวยลอยขึ้นมาจากที่นอนนุ่ม และสุดท้ายสองมือก็โอบกอดรัดรอบคอชายหนุ่ม พร้อมลมหายใจที่ขาดช่วงไปชั่ววินาทีและปลดปล่อยออกมาเมื่อความอุ่นวาบแผ่ซ่านไปทั่วร่าง

                    เซเลโน่กอดเธอแน่น สมใจเขาเสียจริง เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขานอนด้วยแล้วมีความสุขที่สุด ร่างสูงผละออกจากร่างบางไปนอนข้างกาย ยกมือมาก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มหลังเพิ่งสำนึกได้ว่าทำอะไรลงไป

                    เสียงกระซิกสะอื้นดังอยู่ข้างตัว เธอกำลังร้องไห้และเขาก็รู้ว่าเธอมีน้ำตาเพราะใคร

                    “ผมขอโทษฟริกกา” วงแขนกว้างโอบเอวคอดกิ่ว  เธอตกใจหันมาปัดแขนเขาออกไป

                    “ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณออกไปให้พ้น”  เธอลุกออกจากที่นอน คว้าเสื้อผ้าที่วางอยู่ข้างเตียงมาสวมใส่

                    “ฟริกกา ผมเสียใจ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคืนผมยอมรับว่าตัวเองเมามากจน

                    “จนทำเรื่องเลวทรามต่ำช้า” เธอต่อท้ายคำพูดให้เขาพร้อมกัดริมฝีปากบางไปด้วย ดวงตาคมสวยร้อนผ่าวด้วยม่านน้ำตากำลังเริ่มก่อตัว

                    “ผมยอมรับผมไม่ใช่ลูกผู้ชายพอ เพราะข่มเหงรังแกคุณ แต่ผมสัญญานะว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ”

                    “ฮึ ฉันไม่มีวันเชื่อน้ำคำผู้ชายคนไหนอีก เห็นแก่ตัวมักมากเหมือนกันหมด”

                    “โธ่ ฟริกกา” เซเลโน่ลุกจากที่นอนมายืนตรงหน้าเธอ มือข้างหนึ่งคว้าข้อมือเธอไว้ได้ “ผมไม่มีใครอีกแล้วจริงๆ นอกจากคุณ และคุณจะเป็นคนสุดท้ายของผม”

                    “แล้วทำไมคุณถึงไม่ถนอมฉันไว้จนถึงวันแต่งงาน”

                    เซเลโน่สีหน้าสลดลง สำนึกผิด “ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ กลัวว่าจะเสียคุณให้กับพ่อผมหรือคนอื่น ผมก็เลย”

                    “ฝืนใจฉันใช่ไหม” ฟริกกามองค้อนชายหนุ่มตาโกรธๆ “คุณทำให้ฉันเหมือนผู้หญิงใจง่ายยอมพลีร่างกายให้ผู้ชายได้เชยชมก่อนวันแต่งงาน ฉันยังเป็นสาวไทยที่รักนวลสงวนตัวตลอดเวลา ต่อให้ต้องใช้ชีวิตต่างแดน ฉันก็ยังยึดคำสอนของผู้ใหญ่อย่างเคร่งครัด แต่นี่คุณมาทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่ารังเกียจ สกปรก”

                    “คุณคิดมากไปนะครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้นนะ คุณเป็นผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์ สะอาดไปทั้งกายและใจ และคุณเป็นผู้หญิงที่สวยไปทั้งตัวด้วย เมื่อคืนนี้ผมจำได้คร่าวๆว่า เราสองคนยินยอมพร้อมใจจะเป็นของกันและกันไม่ใช่หรือครับ”

                    “เอ๊ะ ” พอเขาเริ่มใช้คำพูดยียวนกวนประสาท เธอก็เริ่มจะคุมอารมณ์ไม่อยู่

                    “ถ้างั้นเรามาพิสูจน์กันใหม่” เซเลโน่ดึงมือหญิงสาวไปที่เตียง แปลกที่คราวนี้หล่อนยอมตามเขามาอย่างง่ายดาย

                    “คุณจะทำอะไรฉันอีก”

                    “ไร้เดียงสาจริงนะสาวน้อย” เซเลโน่ดึงเอาเสื้อผ้าที่เธอถือบังเรือนร่างตัวเองอยู่ เธอตกใจรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างกายรีบลุกขึ้นพรวด

                    “ฉันจะออกไปสั่งอาหารเช้าให้”

                    “ผมยังไม่หิวข้าว แต่ผมหิวคุณมากกว่า”

                    “หยุดรุ่มร่ามเสียที ที่ฉันต่อว่าคุณไป ไม่มีผลบ้างหรือไ เซเลโน่ โอ้ยนี่ฉันรำคาญจะแย่แล้วรู้ไหมเอามือออกจากเอวฉัน”

                    ฟริกกาดิ้นหนีไม่ให้เขาได้แตะต้องตัวเธออีก เซเลโน่รู้ทันโอบเอวบางแน่นดึงเข้าหาตัว ปลายนิ้วเรียวยาวลุกไล่ไปทั่วองค์เอว เลยไปถึงเรียวขาเนียนขาว ชายหนุ่มประกบปากจูบเพื่อให้หล่อนหยุดบ่น รสจูบของเขาเสมือนยาแก้อาการพยศได้เป็นอย่างดี ไม่นานหล่อนก็อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขา

                    “เซเลโน่ ฉัน ..” ฟริกกาครางอื้อในลำคอเมื่อใบหน้าคมคายจมลงไปที่เนินอกข้างหนึ่ง ในขณะอีกข้างถูกรุกรานด้วยมือหนาไม่หยุด เขาจะทำให้เธอหายใจหายคอแทบไม่ทันแล้ว

                    “ครั้งนี้ผมขอลูกแฝดได้ไหมที่รัก” เขากระซิบที่ข้างหู ฟริกกาอายหน้าชาจนต้องเมินหน้าหนีไปทางอื่น สักพักหล่อนก็เบ้หน้าเล็กน้อยด้วยอาการเสียวสะท้านจากการที่ชายหนุ่มใช้ปลายลิ้นหาลากเลื้อยไปตามเรือนร่างขาวนวลเนียนตามแต่ใจเจ้าของต้องการ    

                    เซเลโน่กุมมือหญิงสาวไว้แน่น และเธอก็สนองตอบเขาด้วยการประสานนิ้วไปตามร่องมือ ออกแรงเกร็งโดยธรรมชาติเมื่อตอนที่ชายหนุ่มกำลังมอบความสุขที่สุดของการมีชีวิตคู่ให้ หล่อนผู้ไม่ประสาเรื่องบนเตียงเริ่มจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีก กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้ร้อนแรงมากขึ้น  หนุ่มสาวทั้งสองจบบทรักไปหลายครั้งในคืนนี้ และนอนกอดกันแน่นจนกระทั่งตะวันเริ่มเคลื่อนเข้าตรงศีรษะในอีกวัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×