ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารอน-เอลันดา (ฟิคชั่น แฮรี่ พอตเตอร์ภาคอนาคต)

    ลำดับตอนที่ #2 : เด็กชายมักเกิ้ล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 243
      0
      25 ธ.ค. 49

     

    ตอนสายของอีกวันต่อมา  ท้องฟ้าดูแจ่มใส อากาศอบอุ่นสบาย  หลังอาหารมื้อแรกของพ่อมดทั้งสองคนในโรงแรมที่พัก    แม้มันจะหารสชาติชวนรับประทานแทบไม่ได้ แต่อารอนก็ทานมันจนเกลี้ยง เขาและพี่เลี้ยงเลนนอล เดินทางออกจากที่พัก  เตร็ดเตร่ไปตามถนนหนทางของหมู่บ้าน  เลนนอลเที่ยวด้อมๆมองไปตามบ้านแต่ละหลัง สอดส่ายสายตาหาบ้านที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นบ้านของพ่อมดเพื่อนเกลอ   ส่วนอารอนได้นำรูปถ่ายของแม่ของเขา   สอบถามผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นหรือที่เดินผ่านไปมาเผื่อว่าอาจมีใครรู้จักหรือเคยเห็นบ้าง เขาต้องทำให้คนในรูปถ่ายหยุดนิ่งเสียก่อนที่จะไปถามพวกมักเกิ้ล 

    พวกเขาใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนวัน  ไม่มีวี่แววว่าอะไรมันจะสำเร็จเสร็จสิ้นไปสักอย่าง เลนนอลบ่นอุบถึงบ้านแต่ละหลังเหมือนกับถูกเสกด้วยคาถาเพิ่มจำนวน เพราะมันคล้ายๆกันไปหมด อารอนก็ไม่ได้เบาะแสเกี่ยวกับแม่และพี่ชายของเขาเลย   ไม่มีใครเคยเห็นผู้หญิงในภาพ บางคนก็เพียงแต่มองคุ้นๆเท่านั้น    แล้วความพยายามที่จะเดินเตร่ต่อไปก็มาสิ้นสุดลงที่ม้านั่งในสวนสาธารณะของหมู่บ้าน     

    อารอนใช้มือทุบต้นขาเบา  ในขณะที่เลนนอลนอนพิงม้านั่งตัวเหยียดยาว  หายใจหอบๆ  

                    อารอนรู้สึกคอแห้งผาก เขาหยิบกระติกน้ำออกมาจากเป้สะพายหลัง ดื่มไปอึกใหญ่แล้วส่งต่อให้เลนนอล   เลนนอลรับมาดื่มอย่างกระหาย     

     

                        ไอศกรีมช็อกโกแล็ค ของโปรดฉันเลยละ  อารอน พูดขึ้นมาเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กเดินถือมันผ่านหน้า เขามองไปเห็นซุ้มขายไอศกรีมตั้งอยู่ถัดไปทางขวาของม้านั่ง

                   

                    แต่ ท่านอารอน.  เลนนอลกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง แต่สายไปแล้ว เขาเดินไปถึงหน้าตู้ไอศกรีม และสั่ง ไอศกรีมช็อกโกแล็คถึงสองถ้วย   อารอนหยิบเหรียญคนุตในกระเป๋ายื่นให้พ่อค้าไอศครีม  และเริ่มกัดไปที่โคนมันอย่างเอร็ดอร่อย

     

                    นี่มันอะไรกันพ่อหนู    อารอนหันกลับไปมองพ่อค้าไอศกรีมที่กำลัง แบมือที่มีเหรียญคนุตของเขาวางอยู่เมื่อสักครู่ อารอนรู้สึกจุกที่คอทันที  เขาลืมไปสนิทว่าเงินในโลกผู้วิเศษไม่สามารถนำมาใช้ที่นี่ได้ 

     

    ฉันไม่รู้ว่านี่มันคืออะไร แต่มันไม่สามารถนำมาจ่ายค่าไอศกรีมทั้งสองถ้วยนั้นได้ ถ้าเธอเป็นคนต่างชาติ  ฉันขอบอกเลยว่าฉันคงรับมันไม่ได้ และไม่มีเวลาเอามันไปแลกเปลี่ยนที่ธนาคาร

     

     

     

    ผมขอโทษครับ ผมลืมไป แต่ตอนนี้   ผมไม่มีเงินเลยครับ อารอนพูดเสียงอ่อยๆ

     

    งั้นฉันคงต้องให้ตำรวจเขาจัดการ ว่าไงแบบนี้พอจะหาเงินมาจ่ายได้ไหม พ่อค้าไอศครีมทำเสียงขึงขังเอาจริง อารอนรู้สึกกังวลใจ เขาอาจจำเป็นต้องใช้ไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง  ก่อนที่จะคิดจะหยิบมันออกมาจากหลังกระเป๋า เสียงเล็กๆดังขึ้นมาใกล้ๆ กัน 

     

    เอาของผมไปก็ได้ฮะ

     

    เขาเห็นเด็กตัวเล็กๆ  สองคนยืนอยู่ข้างๆ กำลังยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีสันแปลกตา

    ให้กับพ่อค้าไอศครีม 

     

    แต่นั่น ฟรอนท์  เงินนั่น นายต้อง…”

     

    ช่างมันเถอะลิสลี่  ฉันไม่เห็นจำเป็นต้องให้กับคนพวกนั้นเลย รับไปสิฮะ ผมเมื่อยแล้ว  เด็กน้อยยื่นมาไปให้ยาวอีกหน่อย

     

    แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย เธอนี่โชคดีจังนะ พ่อค้าไอศกรีมรับเงินมาจากเด็กคนนั้น  ปรายตามองอารอนแวบหนึ่ง

     

    เอ่อ ขอบคุณมากๆเลย  ฉันจะนำรีบนำเงินมาคืนให้ แล้ว ฉันจะคืนเงินให้พวกเธอได้ยังไง

     

    ไม่เป็นไรฮะ ผมชื่อฟรอนท์ ส่วนเพื่อนผม ลิสลี่ฮะ พวกเราไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย คงไม่ได้อยู่แถวนี้ใช่ไหมฮะ  ถ้าคุณอยากจะใช้หนี้พวกเราไปเจอได้ฮะที่สนามเด็กเล่นใจกลางหมู่บ้านฮะ  พวกเรามักจะอยู่ที่นั่นประจำ ตอนนี้พวกเราต้องรีบไปก่อนนะฮะ  ถ้าไงโชคดีฮะ  

     

    เด็กตัวเล็กสองคนยิ้มแป้นให้เขาก่อนที่จะเดินหันหลังกลับไป อารอนกำลังจะเอ่ยปากเรียก แต่เลนนอลเดินมาสะกิดข้างเบาๆ

     

    เลนนอลกำลังจะบอกพอดี แต่..

     

    ช่างมันเถอะ อารอนเอี้ยวคอมองตามเด็กสองคนที่เดินจากไป พวกเขาเลี้ยวอ้อมมุมสวนไปอีกทาง อารอนรีบก้าวขาจะเดินตาม

     

    อารอน  ท่านจะไปไหนขอรับ   

     

    ฉันคิดว่า พวกเขาน่าจะเดือดร้อนที่มาช่วยพวกเรา ฉันจะว่าลองตามไปดูหน่อย

     

    แต่นี่มันไม่ใช่……”

     

    เถอะน่าตามมา อารอนก้าวขาพรวดๆ โดยมีเลนนอลวิ่งตามมาติดๆ เพราะขาที่สั้นกว่า

     

    ฟรอนท์และลิสลี่เป็นเพื่อนกัน พวกเขาเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถม โรงเรียนสตีเวน ซึ่งโรงเรียนประถมเพียงแห่งเดียวในหมู่บ้าน อัตเทอรี่  เซนต์ แคทซ์โพล   เด็กทั้งสองเดินออกมาจากสวนสาธารณะ เลี้ยวไปทางขวา พร้อมกับพูดคุยกันเล่นอย่างสนุกสนาน และเมื่อเลี้ยวขวาอีกครั้งที่หัวมุมซอยที่จะออกถนนเลนใหญ่ ก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่หนา   

     

    ว่าไงไอ้เด็กตัวกระเปี๊ยก อะไรที่ว่าหนาๆกำลังเอามือที่เป็นกำปั้นดึงคอเสื้อของ

    ฟรอนท์จนขาแทบไม่ติดพื้น   

                   

    ปล่อยฉันนะ ปล่อย ฟรอนท์ดิ้นรนให้ตัวเองเป็นอิสระ  เด็กชายตัวใหญ่ปล่อยมือ ฟรอนท์ลงไปนอนกองกับพื้น เขารีบลุกมาปัดฝุ่นกางเกงทันที

     

    วันนี้ ว่ามา เท่าไร เด็กชายตัวใหญ่กับเพื่อนตัวเล็กกว่าเขาเล็กน้อยอีกสองคนข้างหลังทำหน้าตาหาเรื่อง   พร้อมกับแบมืออันหนาเตอะกระดกไปมา

     

    ทำไมฉันต้องให้พวกแกด้วย พวกแกมีสิทธิ์อะไรเที่ยวมาขู่รีดไถคนอื่น ฟรอนท์จ้องมองกลับอย่างไม่เกรงกลัวเด็กเกเรอันธพาลประจำหมู่บ้าน  ลิสลี่ แอบอยู่ข้างหลังท่าทางหวาดกลัว

     

     

     

    อ้อ เดี๋ยวนี้แกกล้าอวดดีกับฉัน อย่าคิดว่าแกมีไอ้เด็กลูกตาแก่ผู้ดีจอมปลอมนั่นเป็นพวก  แล้วไม่เห็นพวกฉันอยู่ในสายตารึ

     

    ใครที่สันดานเสีย  พูดถึงพ่อคนอื่นในทางไม่ดี เสียงอีกเสียง นุ่มแต่กร้าวดังมาจากข้างหลังเด็กอันธพาลสามคน

     

    พี่เอลันดา ลิสลี่ร้องเรียกยิ้มดีใจ ที่เห็นเด็กชายผมหยิกเป็นรอนสีน้ำตาลแดง  ร่างสูงโปร่งเกือบเท่าๆกับเด็กชายตัวใหญ่สามคน เดินถือกระเป๋าสะพายข้าง  มาอยู่ข้างหน้า ฟรอนท์และลิสลี่   ใช้สายตาที่คมเข้มจ้องตากับคู่ต่อสู้

     

    ฉันถามว่า ใครกล้าเอาพ่อแม่คนอื่นมานินทา ทำยังกับว่าพ่อแม่ตัวเองดีเหลือเกิน ใช่สิ นักการเมืองที่มีข่าวคาวฉาวไปทั่ว  คงจะดังไม่ใช่น้อย

     

    แก.. แกกล้าใช้ปากโสมมพูดถึงพ่อของฉันแบบนี้  แก  อบาคัสโกรธจัด  กัดฟันกรอด   สักพักเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น  เด็กชายสองคนหลบไปข้างๆ ส่งเสียงร้องเชียร์ลั่น สามต่อหนึ่งช่างเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรมเหลือเกิน แต่ดูเหมือนว่าความคล่องแคล่วว่องไวของเอลันดาจะได้เปรียบกว่ามากเมื่อเด็กอีกสองคนพยายามจะจับตัวให้อบาคัสได้ชกอย่างเต็มที่แต่การเป็นว่าพวกเขาพลาดไปชกกันเอง      

     

    อัลเฟรด  โรบัส จับมันไว้ให้แน่นทีนี้แหละ  เอลันดาพยายามเหวี่ยงตัวไปมาให้หลุดจากการถูกจับมือไขว้หลัง หมัดใหญ่ๆอีกหมัดกำลังพุ่งลงมาบนหน้าเขา แล้วมันหยุดค้างกลางอากาศ อบาคัสเอามือกุมหน้าตัวเอง

     

    โอ้ยอะไรนี่ ทำไมมันปวดแสบปวดร้อนแบบนี้   อัลเฟรดกับโรบัสปล่อยมือที่จับ

    เอลันดา มองลูกพี่พวกเขาอย่างสงสัย เมื่อ อบาคัสเอาหน้าออกมาจากหลังมือ มันมีตุ่มหนองขึ้นพาดไปกลางหน้า เต็มไปหมด  ทั้งหมดมองอย่างตะลึงไปที่หน้าตาที่มีตุ่มฝีพุพองน่าเกลียดอยู่

     

     

     

     

                    พวกแกสองคนจะยืนมองหาอะไร รีบพาฉันไปเร็วเข้า ฉันต้องรีบไปหาหมอ  พวกแกทั้งหมดฝากไว้ก่อน ฮึ่ม  อัลเฟรดกับโรบัสหามลูกพี่ของเขาออกไปจากบริเวณนั้น เอลันดา ฟรอนท์และลิสลี่มองตามหลังอย่างงงงัน

     

                    เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา  ลิสลี่ตั้งคำถามขึ้นมาลอยๆ

     

                    ไม่รู้สิ เชื้อโรคเกเรกำเริบมั้ง ฟรอนท์ให้คำตอบด้วยน้ำเสียงสะใจ

     

                    พวกเธอกำลังจะไปไหนกัน เอลันดาหันกลับมาเข้าเรื่องของพวกเขา 

     

                    พวกเราสองคนจะไปเล่นเบสบอลที่สนามฮะ ฟรอนท์ยิ้มร่าเริงพลางยกมือถุงมือเบสบอลขึ้นมา

     

                    ดีจริง งั้นฉันไปด้วย  เมื่อกี้ออกกำลังไปแล้วยังไม่เหนื่อยเลย พวกเราไปกันเถอะ  เด็กสามคนเดินมุ่งหน้าไปยังสนามเด็กเล่น  คุยกันอย่างออกรสไปตามทาง  ลับหลังพวกเขา อารอนกับเลนนอลชะโงกหน้าออกมาจากเสาไฟฟ้าหนึ่ง   ในมือของอารอนกำไม้กายสิทธิ์ประจำตัวไว้อยู่   ยิ้มกว้างอย่างมีชัย  แต่เลนนอลกลับมีสีหน้าตึง

     

                    เจ้าชาย เอ่อ ท่านอารอน ไม่สมควรใช้เวทมนตร์ขอรับ

     

                    ฉันไม่ชอบเห็นคนถูกรุมนี่ เราไปจากตรงนี้ดีกว่า  เผื่อกองตรวจสอบเวทมนตร์อาจกำลังตรวจสอบพบ

     

                      อารอน เก็บไม้กายสิทธิ์ไว้กระเป๋าหลัง เดินย้อนกลับไปทางเดิม พวกเขาทั้งสองเดินผ่านบ้านหลังต่างๆไปได้สามถึงสี่หลัง เมื่อกำลังจะเดินมาถึงหลังสุดท้าย เลนนอลหยุดเดินทันที และเดินถอยหลังกลับไปที่บ้านก่อนรองหลังสุดท้าย และ แสดงความลิงโลดออกมา

     

                    ใช่แล้ว เลนนอลพบแล้ว  บ้านหลังนี่เอง กระผมจำได้ มันมีรูปปั้นประหลาดสองตัวเป็นยามเฝ้าหน้าประตู

     

                   

    แต่เมื่อกี้พวกเราเดินผ่านมาหลายหนทำไมเราไม่เจอ อารอนรู้สึกสงสัยทันที

     

    เลนนอลคิดว่า พ่อมดมักจะอำพรางที่พักที่พวกเขาอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้ใครแอบเข้า ไป  เราเข้าไปกันเถอะ

     

    เลนนอลเดินนำเข้าไปตามทางเดินที่มีสวนหย่อมเล็กๆด้านข้าง   รูปปั้นประหลาดรูปร่างเหมือนสิงโตยืนแต่อยู่บนขาสองขาตั้งอยู่สองข้างประตูบ้าน  อารอนรู้สึกว่ามันราวกับมีชีวิตและกำลังจ้องมองพวกเขาตลอดเวลา เลนนอลกดกริ่งหน้าประตู เงียบไม่มีใครออกมาเปิด

     

    รู้สึกแปลก เลนนอลพึมพำ

     

    ท่านอารอนยืนอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน  เดี๋ยวกระผมจะไปดูรอบๆก่อน เลนนอลเดินไปทางด้านซ้ายของตัวบ้าน ทิ้งให้ อารอนยืนรออยู่  สักพักใหญ่ เสียงอะไรบางอย่างดังเหมือนของแตก

     

    เพล้ง

    อารอนรีบเดินไปตามทางที่ได้ยินเสียง ด้านขวาของบ้าน สิ่งที่พบเป็นหน้าต่างบานหนึ่งมีรอยแตกเป็นรูใหญ่ เศษกระจกหล่นลงมาเกลื่อนพื้นหญ้า   เมื่อมองเข้าไปในหน้าต่างบานที่แตก  ลูกบอลลูกหนึ่งมันกระดอนกลิ้งไปมา  เขาหันไปมองยังทิศทางที่คาดว่าลูกบอลอาจจะลอยมา  คนสามคนกำลังวิ่งกระจายไปคนละทิศคนละทาง

     

                    ฮ้า ฮ้า ในที่สุด ฉันก็จับแก แกนี่เอง ที่ทำให้ฉันต้องคอยเปลี่ยนกระจกมาเกือบเดือน  

     

    อารอนหันไปข้างหลัง เห็นชายแก่พุงพลุ้ย  หัวเกือบล้าน มีผมเป็นขาวๆหย่อม มือสองข้างจับอยู่ที่ไม้เท้าอันหนึ่ง   มองมาที่เขาด้วยสายตาวาวเหมือนคนที่จับของรางวัลชิ้นใหญ่ได้ 

     

    ไม่นะครับ ผมเปล่า…” ยังไม่ทันที่อารอนจะพูดแก้ตัวให้กับตัวเองจบ ไม้เท้าอันที่อยู่ในมือของชายแก่ ก็ฟาดกลางอากาศมาที่หัวของเขา โชคดีที่หลบได้ทัน  ไม่งั้นหัวของอารอนคงแตกแน่

     

     

    แกอย่ามาแก้ตัว ตลอดเวลา เด็กอย่างพวกแกชอบแกล้งฉัน เห็นฉันเป็นตัวประหลาด อย่าหนีนะ แล้วไม้เท้าอันเดิมก็ฟาดไปมาอีก  อารอนใช้ข้อศอกกันหัวตัวเอง วิ่งหลบวุ่นวาย ไม้เท้าโดนหลังมือจนเขารู้สึกเจ็บหลายที

     

    มันดังกัส   เลนนอลเรียกชายแก่ร่างกลมที่กำลังใกล้จะตีหัวของอารอนพอดี  

     

    เลนนอล โอ้ เพื่อนรักของฉัน  เลนนอลกระโดดเข้ากอด มันดังกัสเพื่อนเกลออย่างดีอกดีใจ

    เป็นไงมาไง แกถึงมาหาฉันได้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย มันเหมือนฉันคิดว่าฉันกำลังมีโอกาสเดินทางไปนาดิเนียซะอีก แต่เดี๋ยวก่อนขอฉันจัดการกับไอ้เด็กเหลือขออีกที  

     

    มันดังกัสหันหน้ามาประจันกับอารอน   แต่ก่อนที่จะทำอะไรกับเขาต่อไป เลน

    นอลกระซิบกระซาบข้างหูเขา มันดังกัสมองอย่างหวาดหวั่นมาที่อารอน มือที่ถือไม้เท้าสั่นระริก  เขาเดินตรงเข้ามา   อารอนกำลังกลัวๆว่าจะมีอะไรมาฟาดเปรี้ยงตรงหน้าเขาอีก  แต่เปล่า มันดังกัสคุกเข่าตรงหน้าเขาแทบทันที

     

                    เจ้าชาย ได้โปรด อภัยโทษให้กระหม่อม กระหม่อมมันโง่มันงี่เง่า ได้โปรด มันดังกัสพูดแล้วเอามือตบหน้าตัวเองแรงๆ  อารอนรีบเข้าไปปราม และมองอย่างตำหนิ ไปที่พี่เลี้ยงของเขา  

     

                    เอาละพอแล้ว พอๆ  เลิกเรียกเราแบบนี้  ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้เราเป็นอารอน สามัญชนธรรมดา

     

              มันดังกัสค่อยๆยืนขึ้นช้าๆ    ยังคงมองเจ้าชายอารอนอย่างเกรงๆ กลัวๆ

     

                    เอ่อ ฉันว่า เราเข้าไปในบ้านกันก่อน มีอาหารว่างและน้ำชาตอนรับ มันดังกัสเชิญชวนแขกผู้มาเยือน   เดี๋ยวก่อน เรปาโร’ ”

     

     

     

    หน้าต่างที่กระจกแตกร้าวกลับมาซ่อมแซมตัวเองใหม่อีกครั้ง 

     

                    เอลันดา ลิสลี่และฟรอนท์  วิ่งหอบออกมาจากสนามเด็กเล่นเมื่อสักครู่ใหญ่  หลังจากความแม่นยำในการตีลูกเบสบอลของฟรอนท์ทำให้มันลอยไปชนเข้าอย่างจังกับกระจกหน้าต่างพอเหมาะพอดี  

     

                    มีใครรู้บ้าง ว่า.. ว่าบ้านนั้นบ้านใคร เอลันดาถามเด็กสองคนนั้น ในสภาพก้มหน้าหายใจหอบเหนื่อย

     

                    บ้านของตาแก่มันดังกัส ตาแก่ที่ทำตัวแปลกประหลาด ไม่ค่อยสุงสิงกับใครฮะ

    ลิสลี่ละล่ำละลักตอบ    

     

              แต่ผมว่า ผมเห็นใครบางคนมองทางพวกเราด้วย ไม่รู้จะเห็นพวกเราไหม 

     

                    งั้นเอางี้  ตอนนี้ก็เกือบเย็นมากแล้ว  พรุ่งนี้เราค่อยไปขอโทษเขา แล้วไปชดใช้ค่าเสียหายดีไหม

     

                    พรุ่งนี้ผมต้องไปรับพี่เซลิลีน  ฟรอนท์รีบหาข้ออ้าง  ดีกว่าจะไปเจอกับตาแก่หน้าโหดเช่นเดียวกับลิสลี่ที่บอกว่าตนต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม   เอลันดายอมจำนนกับเด็กทั้งสองและยินดีที่จะขอโทษขอโพยมันดังกัสเพียงคนเดียว  เด็กทั้งสามต่างแยกย้ายกลับบ้านของตนเอง

     

                      เอลันดา เด็กชายวัยสิบสามปี   กำลังเดินทางกลับบ้าน ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากบ้านคนอื่นๆจนเกือบออกนอกหมู่บ้านทีเดียว นายและนางเวสเทอร์ผู้เป็นพ่อแม่บุญธรรมของเขาเป็นผู้เลี้ยงดูเขามาเกือบสิบปี พ่อแม่ที่แท้จริงของเขาตายจากไปตั้งแต่เอลันดาอายุได้สามขวบ  เอลันดามีเพียงล็อคเก็ตที่มีภาพถ่ายของแม่เพียงสิ่งเดียวที่เขามีอยู่ให้ดูต่างหน้า  แม้ภาพนั้นจะมองแทบไม่เห็นรูปหน้าเลยด้วยซ้ำเพราะมันเหมือนถูกราดด้วยน้ำกรดหรือสารอะไรบางอย่างจนล๊อคเก็ตนั้นเสียหายไปบางส่วน   แต่เขาก็ยังเก็บมันเอาไว้ติดตัวตลอดเวลา  ถึงอย่างไรเขาก็สามารถจำใบหน้าแม่ของตนเองได้แม้จะจำได้ลางเลือนก็ตาม แต่อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เขาเคยได้สัมผัสเมื่อยังเล็กมันยังตราตรึงอยู่ในใจ

     

     

     

     

                    ปู่พอลกับย่าเมอร์รี่  เลี้ยงดูเอลันดาอย่างดีให้มีความสุขสบาย   เท่ากับที่เด็กชายมีฐานะคนหนึ่ง   บ้านตระกูลเวสเทอร์ เป็นเจ้าของไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน  ถึงแม้ว่าปู่และย่าจะไม่ได้เลี้ยงดูเขาอย่างประคบประหงม แต่เอลันดาไม่เคยขาดแคลนอะไรเลย   มีสิ่งหนึ่งที่เอลันดาคลางแคลงใจมาตลอดเวลา สิ่งที่ปู่และย่าเกลียดชังมันมากที่สุด   ไม่มีอะไรในโลกที่ปู่และย่าจะเกลียดอย่างถึงขั้วหัวใจเท่านี้มาก่อน นั่นคือ เรื่องราวของพวกพ่อมด แม่มดหรือหมอผี หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องเวทมนตร์คาถา  ถึงขนาดที่ว่าไม่อยากได้ยินเลยสักนิด  อย่างเมื่อวันก่อนปู่พอลเกือบจะพังทีวีไปเครื่องหนึ่งเมื่อมีโฆษณาที่มีคนออกมาแต่งกายเลียนแบบแม่มด บินบนไม้กวาดร่อนไปมา   หรือเรื่องของขวัญวันเกิดเมื่อปีก่อน ลิสลี่ให้ชุดหนังสือการ์ตูนแม่มดจอมขมังเวทย์กับเขา   ท้ายที่สุดย่าก็เอามันไปเผาไฟทิ้งหมด  ย่าบอกว่าไร้สาระสิ้นดี ใช่เอลันดาคิด มันไร้สาระเสียจนคิดว่าปู่และย่าออกจะวิตกเกินเหตุ  มันก็แค่เรื่องเล่า สนุกๆเท่านั้น

     

                    เอลันดามีอะไรบางอย่างที่ปู่และย่า หรือคนอื่นไม่เคยทราบเลย แม้แต่ตัวเขาเอง ก็ไม่เข้าใจตัวเอง บางครั้งเอลันดาสามารถล่วงรู้ถึงอดีตของคนๆนั้นจากความทรงจำของเขาเพียงแค่ได้สัมผัสผิวกาย ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า แต่มันก็ตรงกันทุกครั้งไป ใหม่ๆเขารู้สึกสนุกสนานกับการเห็นภาพความทรงจำในอดีตของคนที่เขาถูกตัวอยู่หรอก   แต่นานๆไปเขาพบว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยและน่ารำคาญที่เห็นภาพอะไรต่อมิอะไรสับสนไปหมด    เขาเก็บงำความลับเรื่องนี้ไว้กับตัวเองคนเดียว      มันเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนธรรมดาทั่วไปแน่นอน    บ่อยครั้งที่เขาหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่ใกล้ชิดกับใคร  ดูเหมือนการรับรู้เรื่องคนอื่นเป็นมารยาทที่ยอดแย่แม้เจ้าของเรื่องไม่รู้ตัวเลยก็ตาม

     

    กลับมาแล้วหรือหลาน ย่าเมอร์รี่ถามเมื่อเห็นเขากำลังเดินเข้าไปในบ้าน

     

    ครับ คุณย่า  เขาตอบกลับ

     

    ทานอะไรหรือยังละ เสียงแหบพร่าของย่าของเขาถามต่อ

     

    ไม่ครับ ผมไม่หิว เอลันดาเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ที่ห้องนอนเขา ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ    นึกถึงเรื่องราววันนี้ เขาไปมีเรื่องกับอบาคัสลูกชายนักการเมือง จอมอันธพาลและอวดชอบเบ่ง ขู่กรรโชกเด็กๆคนอื่น   จริงๆ ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมาตั้งแต่ครั้งที่เรียนอยู่โรงเรียนประถม  จนเมื่อเขาแยกไปเรียนมัธยมต่างที่กัน ถึงกระนั้นเวลาเจอกันมักจะมีเรื่องเป็นประจำ อยู่แล้ว   และพรุ่งนี้เขาต้องเดินไปในบ้านของมันดังกัส เพื่อไปขอโทษเรื่องไปทำกระจกบานหนึ่งแตก   เอลันดาม่อยหลับไปทั้งเสื้อผ้าชุดเดิม

        

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×