ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารอน-เอลันดา (ฟิคชั่น แฮรี่ พอตเตอร์ภาคอนาคต)

    ลำดับตอนที่ #14 : วินาทีหนีตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 152
      0
      5 มี.ค. 50

    เอลันดา เอลันดา เธอเป็นไรหรือเปล่า  ลุงเคิร์กเขย่าแขนเขาเบา  

     

                  เปล่าๆ ไม่เป็นไรครับ ผ.. ผม สบายดี แค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นครับ เอลันดาพยายามสูดอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด  เขาเกือบจะเป็นลมไปแล้วถ้าลุงเคิรก์ไม่มาเรียกชื่อเขา

     

                  ทำไมหน้าซีดๆ ลุงว่า เธอไปพักผ่อนก่อน งานวันนี้ไม่มาก พวกลุงๆ ทำเองได้หมด

     

            ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับเอลันดายันกายลุกขึ้นมาท่าคุกเข่า แล้วตั้งต้นวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เตือนทุกคนที่บ้านโพรงกระต่ายให้รู้ตัวว่าภัยกำลังจะมาถึงตัวพวกเขา

     

                  เซลิลีน  เซลิลีน  อารอน  อยู่ไหม ตอบฉันหน่อยเอลันดาร้องเรียกชื่อเพื่อนทั้งสองผ่านกระจกสะท้อนภาพ  เงียบไม่มีใครตอบเขากลับมา

     

                  นี่ใครก็ได้ ช่วยตอบฉันที    มีเรื่องคอขาดบาดตายเชียวนะ มัวทำให้อะไรกันอยู่  ใบหน้าในกระจกก็ยังเป็นหน้าของเอลันดาเช่นเดิม ไม่มีเสียงใดๆ  เล็ดลอดออกมากจากกระจกแม้แต่น้อย

                 

            โธ่ อยากจะบ้าตาย ไปไหนกันหมดเนี่ยเอลันดาสบถอย่างหัวเสีย  เขาหยิบกระจกยัดใส่กระเป๋ากางเกงหลัง ก่อนวิ่งลงไปข้างล่าง

     

                  ลุงเคิร์ก ครับ ลุงเคิร์ก ผมขอความช่วยเหลือหน่อยฮะ

     

                     

                  …………………………………………………………….

     

     

                  ทั้งอารอนและเซลิลีนอยู่บนไม้กวาด ร่อนทะยานจากยอดไม้สู่พื้นดิน   เด็กชายหญิงชักชวนกันมาซ้อมควิชดิด

     

                  ฉันไม่ได้เล่นแบบนี้มานานแล้ว    มันเป็นบ้าเลย   อารอนพูดไปพลางยิ้มกว้างอย่างเริงร่า

     

                  ก็ไม่เลวนัก สำหรับพ่อมดอ่อนหัดอย่างเธอ   แต่พวกเรามานานแล้ว และนี่ก็ใกล้เวลาอาหารเที่ยงแล้วด้วย แม่ฉันทำสเต็กเนื้อสันของโปรดนาย เตรียมไว้ให้  เป็นบุญของฉันนะเนี่ย  ปกติแม่ไม่ค่อยทำอาหารดีๆ  จนกระทั่งเธอมาอยู่ที่นี่   เซลิลีนชวนอารอนกลับไปบ้าน แต่ยังไม่วายที่จะพูดแขวะเขาอยู่  อารอนได้แต่ส่ายหน้าระอา  นี่น่า นิสัยผู้หญิง

                   

                  นั่น ใครนะ เลนนอลนี่ ทำไมวิ่งหน้าตาตื่นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น   อารอนตกใจที่เห็นพี่เลี้ยงคนสนิทวิ่งหน้าตั้งตรงมาหาพวกเขา ในมือกำไม้กายสิทธิ์ ละล่ำละลักบอกเด็กทั้งสอง

     

                  เจ้าชายทรงรีบหนีไปพะยะคะ พวกกบฏมันหาพวกเราพบแล้ว กระหม่อมจัดการไปแล้วคนหนึ่ง อีกสองคนกำลังตามมาพะยะคะ กระหม่อมจะหลอกมันไปอีกทางหนึ่งแล้ว ทรงหนีเถอะพะยะคะ

     

                  ว่าไงนะ พวกกบฏ แล้วแม่ฉันละ แม่ฉันอยู่ไหน เซลิลีนเป็นห่วงแม่มาก เธอไม่รอช้า  รีบวิ่งกลับไปที่บ้านทันที  อารอนวิ่งตามเธอ

     

                  เซลิลีน  อย่าไปทางนั้น ระวัง อารอนกระโดดเข้าคว้าตัวเธอไว้ได้ หลบแสงสีแดงจากไม้กายสิทธิ์ที่พุ่งเข้ามาเฉี่ยวไปเพียงนิดเดียว                 พ่อมดหนุ่มหน้าไหล่กว้าง  หน้ากว้างเหมือนไหล่ ย่างสามขุม ตรงมาที่พวกเขา

     

                  ในที่สุด เราก็หาจนเจอ เจ้าชาย อารอน  เตรียมตัว  พ่อมดหนุ่มกำลังจะร่ายคาถาใส่เซลิลีนกับอารอนที่พยายามเถิบหนีต่างตกใจจนตั้งตัวไม่ทัน             

                 

                  อ๊าก.. พ่อมดหนุ่มร้องลั่น ก่อนล้มหงายหลังดังตึง เลนนอลเข้ามาช่วยทันท่วงที

     

                  เจ้าชาย อย่ามัวรอช้า รีบกลับไปที่บ้านก่อนพะยะคะ   ที่นั่นมีมือปราบมารอยู่  ถ้าไม่พบใคร ทรงรีบใช้พรมวิเศษบินหนีไปก่อนพะยะคะ

     

                  เห็นจะไม่ทันแล้วมั้ง  พ่อมดอีกคน  โผล่มาจากไหนไม่มีใครทันเห็น  เขาใช้ไม้กายสิทธิ์เตรียมพร้อมที่จะทำอันตรายต่อผู้ที่ขวางทาง

     

                  ทรงหนีไป เดี๋ยวทางนี้ กระหม่อมจัดการเอง เลนนอลหันไปประจันหน้ากับศัตรู

     

                  ระวังตัวด้วยนะ ฉันจะพาเซลิลีนหนีไปก่อน  เด็กทั้งสองพากันวิ่งหนีไป   อารอนได้ยินเสียงแตกของลำต้นไม้ใหญ่ยามเมื่อคาถากระเด็นไปโดน    เขาเป็นห่วงพี่เลี้ยงคนสนิท หวังว่าคงรับมือพวกนั้นได้   และแล้วก็ถึงกับตกใจผงะหน้าซีด พ่อมดร่างใหญ่สองคนยืนขวางหน้าพวกเขาอยู่

     

     

                  พวกแก  เลิกจองเวรกับฉันสักทีได้ไหม อารอนพูดกัดฟันดังกรอด

     

                  ยังไง ถ้าทรงไปกับเราดีๆ ก็จะไม่มีใครต้องเป็นอะไรไป

     

                  อย่าหวังเลย  เซลิลีน หลบไปอยู่ข้างๆ ก่อน มีทางอื่นหนีไปได้ก็ไป  อารอนหน้าตาขึงขัง ดึงไม้กายสิทธิ์จากด้านในเสื้อตั้งท่าสู้ เอาไงก็เอากัน  

     

                  เธอจะให้ ฉันปล่อยเธอไว้อยู่คนเดียวได้ไง  

     

                  แต่เธอไม่มีไม้กายสิทธิ์นะ ยืนอยู่ฉันก็ต้องมาพะวงเธอด้วย ไม่ต้องห่วงฉันมีทักษะพอตัว  ไป หลบไปข้างๆก่อน เซลิลีนจำใจต้องทำตาม ไปหลบอยู่หลังหินก้อนใหญ่   ชะเง้อคอมองด้วยความวิตกกังวล

     

                  ดี เด็ดเดี่ยวดีมาก สมเป็นรัชทายาท แต่ทรงคิดผิดถนัด   เด็กหนึ่งคนกับไม้กายสิทธิ์หนึ่งอันหรือจะต่อกรกับผู้ใหญ่สองคนสองกำลัง  อารอนถูกแรงคาถาผลักจนกระเด็นกลิ้งไปที่พื้น

     

                  บอกดีๆ ไม่เชื่อนี่พะยะคะ  พ่อมดสองคนสาวเท้าเข้ามาประชิดตัว เซลิลีนปิดปากไว้ไม่ให้ร้องกรี๊ดออกมา รู้สึกเสียใจที่ได้แต่มองดูเพื่อนถูกทำร้ายโดยตนเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย พลันตาข่ายขนาดกว้างใหญ่ถูกเหวี่ยงมาคลุมร่างพ่อมดทั้งสอง 

     

                  โอ้ย อะไรเนี่ย พวกนั้นพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากตาข่าย  แต่ยิ่งดิ้นเท่าไร ตาข่ายก็ยิ่งรัดแน่น  ถึงพยายามใช้คาถาก็ไม่ได้เรื่อง  ไม่ทำให้ตาข่ายนี้สะเทือนแม้แต่น้อย

     

                  อารอน เซลิลีน พวกเธอปลอดภัยใช่ไหม   เอลันดาถามเพื่อนทั้งสอง เซลิลีนออกมาจากที่ซ่อน กระโดดกอดคอดีใจ

     

                  ถ้าไม่ได้นายมาช่วย พวกเราก็แย่เหมือนกัน  จริงสิ  เธอเอาตาข่ายนี่มาจากไหน อารอนสงสัย ตาข่ายแสนร้ายกาจ

     

                  ฉันย่องไปที่บ้านเธอทั้งสอง ไม่เห็นใครอยู่เลย ฉันสังหรณ์ใจยังไม่รู้   หันไปเห็นตาข่ายนี่แขวนอยู่หน้าบ้านคุณปู่อาเธอร์  ครั้งหนึ่งท่านเคยบอกฉันว่ามันเป็นตาข่ายดักโจรได้ทั้งโจรที่เป็นพ่อมดหรือคนธรรมดา ฉันเลยเอามันมาด้วยเผื่อมีประโยชน์   เจ๋งแฮะของเล่นพ่อมดเนี่ย

     

                  มันไม่ใช่ของเล่นยะ มันใช้งานได้จริง ว่าแต่ เธอไม่เห็นใครที่บ้านฉันจริงหรือ เซลิลีนร้อนใจ   ถ้าไม่มีใครอยู่เลย  แล้วแม่เธอไปไหน มือปราบมารที่ส่งคุ้มกันช่วยอะไรไม่ได้หรืออย่างไร

     

                  ฉันไม่รู้ บ้านเงียบมาก เหมือนทุกคนออกจากบ้านไปหมด แต่ฉันว่า  ไม่น่าเกิดเรื่องอะไรกับแม่เธอนะ   คุณน้าเป็นแม่มดที่เก่งมากๆ  ไม่น่าเสียทีใครง่ายๆ อีกอย่าง ฉันไม่พบร่องรอยการต่อสู้กันเลย  เอลันดาพยายามพูดให้สถานการณ์ดีขึ้น

     

                  งั้นเรารอช้าอยู่ทำไม รีบไปที่บ้านก่อนเถอะ   นั่นใครนะ เด็กทั้งสามหันหลังกลับทันที่ที่ได้ยินเสียงฝีเท้าคนมาจากด้านหลัง  ถอนใจโล่งเมื่อคนที่วิ่งมาเป็นเลนนอล

     

                  ยังไม่ทรงไปอีกหรือพะยะคะ  เลนนอลร้องถาม

     

                  ฉันกำลังจะกลับไปถึงบ้านอยู่แล้ว พวกกบฏสองคนนี้เข้ามาทำร้ายฉันกับเซลิลีน ดีที่เอลันดามาช่วยได้ทัน อารอนอธิบายชี้มือไปที่พ่อมดร่างใหญ่ที่สิ้นฤทธิ์หมดสติอยู่ในตาข่าย เลนนอลถึงกับหน้าซีดสลด  เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าเอลันดายืนอยู่ แล้วมีพ่อมด๔ถูกจับได้นอนกองกับพื้น

     

                  เป็นไปไม่ได้  ในเมื่อ…” เลนนอลหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เมื่อเห็นสายตาของเจ้าชายจ้องมองเขาอย่างสงสัยเคลือบแคลง 

     

     

                  ไม่มีอะไรพะยะคะ  พวกเรารีบไปตั้งหลักที่บ้านก่อน   คนทั้งหมดพากันค่อยเดินกลับบ้านอย่างระแวดระวังด้วยเกรงว่าจะมีบุคคลไม่ได้รับเชิญเข้ามาอีก และเมื่อใกล้ถึงบ้าน  พวกเขาต้องรับหาที่หลบให้พ้นสายตาของพ่อมดชุดขาวสามคนที่ยืนคุมเชิงทางเข้าบ้าน

     

                  เราจะทำยังไงดีละ ทีนี้ พวกนั้นอยู่กันเป็นโขยงเลย พรมก็อยู่ข้างใน

     

                  เดี๋ยวกระหม่อมจะเข้าไปล่อพวกมัน  พวกเธอรีบแอบเข้าไปในบ้าน หาพรมวิเศษให้เจอแล้วบินหนีออกไป เลนนอลรับอาสา

     

                  แล้วใครจะคุ้มกันอารอน  เอางี้ เดี๋ยวฉันไปเอง ฉันเป็นเด็ก และก็วิ่งเร็วด้วย พวกมันคิดว่าฉันคงเป็นเจ้าชาย จะล่อได้ง่ายกว่า แล้วฉันจะหาวิธีย้อนกลับมาเจอกันภายในสิบห้านาที ถ้าฉันยังไม่ไปถึง พวกเธอก็ไปก่อนได้เลย เอลันดาค้าน พร้อมทั้งรับที่จะเป็นเป้าล่อเสือออกจากถ้ำเอง

     

                  แต่นายไม่มีคาถานะ  พวกนั้นเป็นพ่อมด นายเพี้ยนไปแล้วหรือไง   อารอนไม่ยอมให้เพื่อนเสี่ยงกับเขา

     

                  แต่ฉันมีเกราะคุ้มกัน นายก็รู้   ตกลงตามนี้ ขืนชักช้า พวกเราต้องถูกจับได้หมดนี่ แน่ เอลันดารีบออกจากที่ซ่อนก่อนที่อารอนจะฉุดรั้งเขาไว้ ได้ผล พอพวกพ่อมดที่ยืนเกราะกลุ่มกันอยู่เห็นหลังไวๆ ของเขาวิ่งพรวดหายไปในป่าอีกด้าน พวกมันก็วิ่งตามเป็นพรวน

     

                  ไปเถอะ พวกเราไปได้แล้ว  เลนนอลพาเด็กอีกสองคนค่อยเดินๆเข้าในบ้าน ค้นหาของพรมวิเศษจนพบ

     

                 

            ส่วนเอลันดา วิ่งล่อพวกพ่อมดชุดขาวที่ตามมาติดๆ  เลี้ยวหลบทางนั้นทีหนึ่ง ทางนี้ทีหนึ่ง  เขาซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่  ดูเวลาที่ข้อมือมันผ่านได้สิบนาที เขาต้องย้อนกลับทางเดิมให้เร็วที่สุด   ขณะกำลังวิ่งออกจากดงไม้มุ่งไปทางเดิน พ่อมดอีกสองคนเห็นเข้าร่ายคาถาใส่เขา

     

                                  ครูซิโอ   แสงสีแดงสดพวยพุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์พร้อมกัน   เอลันดาหันหลังกลับมามอง คาถาย้อนกลับไปใส่ร่างพ่อมดทั้งสอง  ชักดิ้นชักงอ  นอนคอพับอยู่กับต้นไม้   เขารีบวิ่งต่อไป ไม่รู้ว่าจะมีพ่อมดอีกกี่คนไล่ตามเขาอยู่    และจะโชคช่วยทุกครั้งไปหรือไม่

     

                  โอ้ย   เอลันดาล้มลง  ของแข็งบางอย่างถูกขว้างมาที่ข้อพับขา  

     

                  ฉันรู้ ไม่ว่าคาถาดีแค่ไหนทำอะไร เธอไม่ได้ แต่เกราะคุ้มกันป้องกันได้แค่คาถานี่ ฉันไม่น่าเซ่อเรื่องง่ายๆ พ่อมดร่างใหญ่ที่เขาพบเมื่อเช้า กับพ่อมดอีกสี่ห้าคน เดินมาล้อมรอบตัวเขา เสร็จกัน เขาคงหาทางหนีต่อไปไม่ได้แล้ว

     

                  เจ้าชายอยู่ไหน บอกมา พ่อมดขู่ถาม   ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นพุ่งเข้ามาใส่ร่างเขาที่  เอลันดาพยายามหลบก้อนหินเหล่านั้นแต่ก็ไม่พ้น   เขาได้กลิ่นเลือดสดๆ พร้อมน้ำเหนียวไหลจากหน้าศีรษะ 

     

                  ฉันไม่บอก แกฆ่าฉันให้ตายไปเลยสิ เอลันดาท้าพวกมัน ทั้งๆที่ใจเต้นตุ๊บๆ

     

                  ใจเด็ดเหมือนใครนะนึกไม่ออก   ในเมื่อเรียกร้องก็เอาก้อนหินขนาดใหญ่เท่าสองมืออุ้มถูกยกลอยขึ้นมาจากพื้น เอลันดามองมัน ความกลัวตายแล่นขึ้นมาในสมอง ไม่เขาต้องไม่ยอมบอกเด็ดขาด เขายอมตายดีกว่าขายเพื่อน   ก้อนหินลอยหยุดกลางอากาศ พ่อมดใจโหดแสยะยิ้มออกมาก่อนจะสะบัดปลายไม้กายสิทธิ์ แล้วมันลอยพุ่งเข้าหาเด็กชาย  ชั่วไม่กี่คืบก็จะกระแทกกะโหลกเอลันดายุบแน่นอน  แต่แล้วมันก็กลับระเบิดออกเป็นผุยผงต่อหน้าทุกคน พ่อมดต่างขยับตัวมองหาต้นตอของสิ่งที่ทำลายก้อนหิน แล้วโลกทั้งโลกมืดสนิทลงทันที ราวกับมีใครเอาอะไรมาบดบังดวงอาทิตย์

    "เฮ้ย   เกิดอะไรขึ้น" เสียงอื้ออึงของเหล่าบรรดาพ่อมดที่กำลังตกใจกับความมืดที่ปกคลุมอย่างกระทันหัน     
    เอลันดารู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาพยุงร่างเขาออกไป

     

                  จุ๊ จุ๊ นี่ฉันเอง อย่าเพิ่งพูดอะไร รีบออกไปจากที่นี่ก่อน   เสียงอารอนนี่  เอลันดาค่อยใจชื้นขึ้นมา  เมื่อผ่านบริเวณที่มืดจนถึงทางเดิน เลนนอลกับอารอนช่วยพยุงเขาเดินไปจนถึงเกือบถึงบ้านโพรงกระต่ายที่เซลิลีนกำลังยืนรอพวกเขาอย่างร้อนรน

     

                  เร็วเข้าไปที่พรมนั่น พวกเราต้องรีบหนี พวกมันตามมาแล้ว เลนนอลรีบพาเด็กชายสองคนไปที่พรมเช็ดเท้าเก่าซีดที่วางอยู่บนพื้นดิน พ่อมดชุดขาวสามสี่คนไล่ตามมา   พวกนั้นพยายามร่ายคาถาใส่พวกเขา แต่ไม่ทันแล้วเมื่อ เลนนอลตะโกนเรียกชื่อสถานที่ปลายทาง ที่ทำให้อารอนถึงกับอ้าปากค้าง

     

                  ปราสาทพอร์โลเทีย  ราชอาณาจักรนาดิเวีย  

     

                  ทั้งคนและพรมเช็ดเท้าบินขึ้นจากพื้นแล้วหายวับไปทันที เอลันดามีความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะตีลังหา ท้องไส้เกือบพุ่งออกมาจากปาก

     

     

    ..
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×