ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คาสิโนเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #8 : ตกกระไดพลอยโจน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 58


                      แมทธิวอุ้มร่างบางของอิงปวัณไว้ในอ้อมกอด เฝ้าประคองดูแลตลอดระยะทางที่พาเธอกลับออกมาจากรังของแอนดี้ ส่วนโจซัวขอแยกตัวพาธาราไปพักที่คอนโดส่วนตัวใจกลางจิมซาจุ่ย  แมทธิวแลกตัวพวกเธอด้วยเงินถึงยี่สิบล้านเหรียญดอลล่าห์  เงินจำนวนนี้สำหรับหลายคนแล้วมองว่ามีมูลค่ามหาศาล แต่สำหรับเขาต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม
                    “ป้าครับ ช่วยหาเสื้อผ้าเปลี่ยนให้เธอทีนะ” แมทธิวหันไปสั่งแม่บ้านประจำบ้านให้ช่วยจัดการร่างกายหญิงสาว ฤทธิ์ยาสลบทำให้อิงปวัณหลับนานหลายชั่วโมง ตื่นอีกทีก็น่าจะเกือบรุ่งเช้า
                    อิงปวัณหลับสนิทอยู่บนเตียง โดยมีแมทธิวช่วยดูแลไม่ห่าง ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าหลับสนิทด้วยสายตารักใคร่ห่วงใย วินาทีที่เขารับรู้ว่าเธอตกอยู่ในอันตราย ใจเขาร้อนรนจนทนไม่ไหว เกือบฆ่าคนที่ทำร้ายเธอ
                    เขาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อนเลย หรือว่านี่เรียกว่าความรัก
                    แมทธิวไม่รู้ว่าความรักหน้าตาเป็นแบบไหน รู้แต่ว่าเวลาเขาอยู่กับเธอมีความสุขมาก ว้าวุ่นหัวใจเมื่อไม่เห็นหรือไม่ได้ยินข่าว
                    “ฉันจะทำไงดีนะ เธอถึงจะอยู่กับฉันไม่จากไปไหน”         
                    ชายหนุ่มกุมขมับใช้ความคิด แค่ไม่ได้ข่าวเธอไม่กี่ชั่วโมงก็แทบคลั่ง และถ้าเธอตั้งใจหนีหน้าเขากลับไทย เขาจะตามหาเธออย่างไรดี หรือถ้าตามพบเธอจะพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมหรือไม่
                     แมทธิวมองไปที่หญิงสาวอีกครั้ง เอื้อมมือไปแตะข้างแก้มเนียนนุ่ม หล่อนสวยน่ารักไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี
                    “ขอโทษนะอิง ผมรักคุณมากเกินกว่าจะเสียคุณไป วิธีการของผมอาจจะเลวในสายตาของคุณ แต่ผมไม่มีทางเลือก ผมยอมเห็นแก่ตัวดีกว่าปล่อยให้คุณจากผมไป”
                    ชายหนุ่มขยับตัวเข้ามาใกล้หญิงสาว ก้มตัวลงหอมแก้มซ้ายขวา เขายอมรับว่าอดใจไม่อยู่จริงๆ 
                    “ขนาดหลับสนิทคุณยังสวยเลย อิงปวัณ”
                    กายเธอหอม เนื้อแก้มเธอนุ่ม ทุกสัมผัสที่ได้แตะต้องช่างละมุนละไม เขาล้มตัวไปนอนข้างกาย โอบกอดร่าง
    อรชรของหญิงสาวทั้งยังหลับสนิท ริมฝีปากบางได้รูปขยับนิดๆเหมือนเด็กน้อยละเมอ  แมทธิวปัดไรผมหญิงสาวที่มาปรกหน้าเบาๆ ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปทั่วใบหน้า
                    “ไม่ผิดใช่ไหมถ้าผมจะรักคุณ”
                    แสงไฟหัวเตียงค่อยๆ หรี่ลง พร้อมเงาร่างของคนสองคนผสานรวมเป็นร่างเดียวกัน พร้อมที่จะแนบชิดสนิทเป็นคนๆ เดียวในอีกไม่ช้านาน

                    ยามเช้าเมื่อแสงแรกแห่งวันลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาทักทาย อิงปวัณจึงเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากนอนหลับสบายทั้งคืน หญิงสาวงุนงงเมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในอาคารร้างสีขาวริมทะเล เธอจำได้ว่าก่อนจะหมดสติ ได้ยินแอนดี้บอกว่าจะพาเธอกับเพื่อนไม่ถ่วงน้ำ ถ้าเช่นนั้นแล้วเธอน่าจะตายไปแล้วใช่หรือไม่ แล้วสถานทีนี้คือสวรรค์เช่นนั้นใช่หรือไม่
                    อิงปวัณเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าร่างกายเธอภายใต้ผ้าห่มหนานั้นเปลือยเปล่า เธอตกใจมากรีบลุกขึ้นมา และตกใจเป็นซ้ำสองแทบช็อกเมื่อพบว่าใครนอนไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างกาย
                    “กรี๊ดดดด คุณแมทธิว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
                    อิงปวัณไม่อยากจะคิดเป็นอย่างอื่นเลย หญิงชายอยู่ในห้องกันสองต่อสองในสภาพเปลือยร่างอยู่บนเตียงคงไม่ได้แค่นอนเล่นกันธรรมดาแน่นอนเมื่อคืนนี้เธอถูกข่มขืนโดยที่ตัวเองไม่รู้สึกตัว
                    “ตื่นไวจัง หิวไหมจ๊ะที่รัก”
                    แมทธิวลืมตาขึ้นมาพอดีตอนที่อิงปวัณลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า เขาลุกตามไปแต่งตัวบ้าง อิงปวัณรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นทันที รอให้เขาแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยจึงหันกลับมามองด้วยสายตาเจ็บปวดชิงชัง
                    “เป็นอะไรไป ยังมึนหัวอยู่ใช่ไหม” เขาเดินมาใกล้เธอ จะยกมือขึ้นแตะหน้าผากแต่หญิงสาวปัดออกไปด้วยความรังเกียจ
                    “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน
    !
                    “ทำไมล่ะอิง ถึงอย่างไรเราก็เป็นของกันและกันแล้วนะเมื่อคืน”
                    เขาพูดหน้าตาเฉย เหมือนไม่รู้สึกผิดที่ทำลายความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่ง อิงปวัณกัดริมฝีปาก เจ็บปวดที่ต้องเสียรู้ผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยแม้แต่น้อย
                    “เผียะ
    !
                     เสียงตบตามมาฉาดใหญ่ อิงปวัณไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก เสียใจที่ไม่สามารถรักษาพรหมจรรย์ไว้ได้ถึงวันแต่งงานตามที่เคยรับปากป้าเอาไว้
                    “เลวที่สุด ไม่คิดมาก่อนคุณจะเลวถึงขนาดนี้ กล้าย่ำยีศักดิ์ศรีของฉันได้ลงคอ”
                    แมทธิวยกมือลูบข้างแก้มที่ชาวาบพร้อมหันกลับมามองหญิงสาว
                    ”ถ้าหมายถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ผมว่าไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ในประเทศผมถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา สนุกด้วยกันแล้วก็จากไปแค่นั้นเอง”
                    “แต่ประเทศฉันไม่ใช่ ผู้ชายที่ทำแบบนี้ถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ เห็นแก่ตัว และเลวมาก”
                    “เอ้า ผมยอมรับคำด่าก็ได้ จะด่าว่าผมเจ็บแสบแค่ไหนก็เชิญเลย แต่เรื่องก็เกิดขึ้นมาแล้ว ผมอดใจไม่ไหวนี่ก็คุณมันน่ากอด น่าจูบไปทั้งตัว เอ้ เคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นกรณีนี้ ผู้หญิงเสียหาย ผมต้องทำอย่างไรนะ อ้อ ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอแต่งงานใช่ไหม”
                    อิงปวัณโมโหตรงเข้าไปทุบตีชายหนุ่ม ตีโพยตีพายร้องห่มร้องไห้
                    “ไม่มีวันเด็ดขาด เพราะฉันเกลียดคุณ ฉันไม่แต่งงานกับคุณ อย่าฝันไปเลย สิ่งที่ฉันเสียไปวันนี้ ถือซะว่าทำทานแล้วกัน”
                    “นี่คุณฟังก่อนสิ” แมทธิวจับสองมือหญิงสาวไว้แน่น หล่อนก็ยังโวยวายไม่เลิก จนเขาต้องเปลี่ยนไปโอบร่างเธอแทน พร้อมประกบริมฝีปากจูบเธอทันทีไม่ให้เธอตั้งตัวได้
                    อิงปวัณตกใจพยายามดิ้นรนหนี วงแขนเขาก็ช่างแน่นหนาเสียจริง  ยิ่งออกแรงมากเท่าไรก็ยิ่งกอดรัดเธอเท่านั้น
    แมทธิวค่อยคลายมือออกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มอ่อนลง
                    ริมฝีปากหญิงสาวร้อนฉ่าจากรสจูบของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากหนาแต่อ่อนนุ่ม ความอุ่นร้อนจากริมฝีปากเขาช่วยละลายหัวใจด้านชาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังให้ต้องหวั่นไหว อิงปวัณรู้สึกราวกับเท้าไม่อยู่ติดพื้น จิตใจล่องลอยวาบหวิวไม่อยู่กับเนื้อตัว เมื่อคืนนี้เขาอาจจูบเธอหลายครั้ง แต่เธอไม่รู้สึกตัวจึงไม่รับรู้รสชาติจูบครั้งแรกของชีวิต
                    เขาถอนริมฝีปากออก สบตามองหญิงสาว หล่อนเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ต้องเรียนรู้ความรักอีกมาก อิงปวัณก้มหน้าน้ำตาหยดแหมะ เสียดายความสาวไม่เท่าไร แต่เสียใจที่ไม่รู้จักระวังรักษาเนื้อตัวให้ดีกว่านี้ ปล่อยตัวรุ่มร่ามให้เขาย่ำยีดูถูก
                    “ฉันจะกลับไทย เรื่องของเราสองคนขอให้จบลงแค่นี้ ฉันจะพยายามลืมฝันร้ายเมื่อคืนไปซะ” เธอเงยหน้าน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาสบตาเขา
                    “อย่าเพิ่งกลับเลย รอป้าคุณมาก่อนนะ”
                    “หมายความว่าไง”
                    “ก่อนคุณตื่นผมได้โทรไปคุยกับป้าคุณที่เมืองไทย  ผมบอกป้าคุณว่าผมยินดีรับผิดชอบคุณทุกอย่าง จะจัดการแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณี”
                    อิงปวัณสะบัดแขนตัวเองออกพร้อมเดินถอยห่าง ริมฝีปากบางที่เม้นเป็นเส้นตรงสั่นระริก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใช้วิธีรวบหัวรวบหางบังคับเธอ
                    “ฉันไม่วันแต่งานกับคุณ”
                    “คงไม่ได้ เพราะป้าของคุณบอกเลยว่าคุณต้องแต่งงานกับผม เพราะเสียตัวให้ผมแล้ว คุณควรเห็นแก่หน้าป้าคุณนะ”
                    “ไม่
    ! ฉันจะกลับบ้าน”
                    “ผมให้คุณกลับแน่แต่ไม่ใช่เวลานี้ อิงปวัณ คุณต้องแต่งงานกับผมเท่านั้นและอย่าหวังจะหนีไปไหนเพราะผมให้คนคุมคุณทุกฝีก้าว ”
                    หากทำได้หล่อนอยากจะกรีดร้อง ดิ้นไปกองกับพื้นเป็นการระบายอารมณ์ แต่ตอนนี้รู้สึกหมดแรงหมดกำลังใจ ร่างบางทรุดร่างลงนั่งบนเตียง ปล่อยน้ำตาไหลพรั่งพรูพร้อมเสียงสะอื้น แมทธิวได้แต่มองเธอด้วยหัวใจที่ปวดร้าว  เธอไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลยสักนิด หัวใจเธอไม่เอนเอียงมาทางเขาบ้างสักหน่อยหรือ เขาต้องเป็นฝ่ายรักเธอข้างเดียวใช่ไหม เขาหลอกเธอว่าเธอเป็นของเขาแล้ว แต่ที่จริงเขาไม่เคยได้ทั้งตัวและหัวใจเธอเลย
                    ไอ้แมทธิวเอ้ย ทำไมไม่ตัดใจซะ ยังจะเห็นแก่ตัวกักขังเธอไว้อีก
                    ป่วยการที่จะคิดแก้ไข ไหนๆ เรื่องก็เลยตามเลย เขาได้ติดต่อกับทางป้าของอิงปวัณจริง และผู้ใหญ่ฝ่ายเธอกำลังจะบินมาฮ่องกงภายในอาทิตย์โดยมีคนของเขาช่วยพามาให้ จากนั้นงานแต่งงานแบบเรียบง่ายที่มีแขกไม่กี่คนจะเกิดขึ้นถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆมาอีก เวลานี้เขาต้องรีบเคลียร์งานให้มากที่สุดเพื่อจะได้มีเวลาว่าง
                    ก่อนอื่นเขาต้องจัดการกับแพทริเซียให้เด็ดขาด เห็นทีเขาต้องโทรไปตกลงกับเธอ เลือกเจรจาผ่านเครืองมือสื่อสารมากกว่าประจันหน้ากันเพราะกลัวอารมณ์โกรธตัวเองจะทำลายมิตรภาพระหว่างตระกูลเธอกับตระกูลเขาที่ติดต่อกันมาตั้งแต่รุ่นก่อน
                    แมทธิวสั่งให้เลขาต่อสายถึงอดีตคนรัก ก็ดีเหมือนกัน เรื่องระหว่างเธอกับเขาจะได้จบลงเสียทีแม้จะไม่สวยนัก

                     ร่างบางของแพทริเซียก้าวฉับลงจากรถตรงเข้าในผับที่แอนดี้ชอบแวะเวียนมาประจำ เธอกำลังโกรธจัดจึงรีบรุดออกมาลำพังโดยไม่ให้ใครตามมาด้วย อีกอย่างเธอไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องที่เธอกำลังจะคุยกับเขา
                    พอผ่านประตูเข้ามาได้ หญิงสาวก็พุ่งตรงไปยังโต๊ะของแอนดี้ เห็นเขากำลังเริงร่าอยู่ในกลุ่มเด็กสาววัยขบเผาะที่พากันมารุมล้อมออดอ้อนออเซาะ
                    “มีความสุขกันมากใช่ไหม” ยิ่งเห็นยิ่งโมโหแพทริเซียคว้าแก้วเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะสาดเข้ากลางใบหน้าแอนดี้ก่อนที่เขาจะอ้าปากทักเธอท่ามกลางสาวๆที่พากันส่งเสียงร้องตกใจ         
                    แอนดี้ลูบน้ำเหล้าที่เต็มหน้าออก มองหญิงสาวด้วยแววตาขึ้งโกรธอยู่ชั่วเวลาหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มกว้าง
                    “ใจเย็นๆสิแพท ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้”
                    “แกหักหลังฉัน จะให้ฉันใจเย็นอยู่ได้หรือแอนดี้”
                    “โวยวายไปเลยคุณ ถ้าอยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้อีก หรืออยากให้เรื่องนี้รู้ถึงหูพ่อคุณ”
                    แพทริเซียมองไปทางซ้ายทีขวาที ตอนนี้เธอกลายเป็นเป้าสายตาของคนเกือบทั้งผับ
                    “ฉันจะไปรออยู่ที่ลานจอดรถ อีกห้านาทีไม่ตามมา ได้มีเรื่องกันแน่” เธอพูดขู่เขาก่อนเดินจากไป แอนดี้หยิบเอากระดาษชำระทำความสะอาดเนื้อตัวก่อนจะเดินตามเธอไปบ้าง
                    “ทำกันได้แสบสันมาก แพท ฮึ คอยดูทีฉันบ้าง” โอกาสมาถึงแล้วจะช้าอยู่ทำไม คืนนี้ต้องให้บทเรียนกันเสียหน่อย
                    แพทริเซียเลือกมุมตรงลานจอดรถบริเวณที่แทบไม่มีคนผ่าน เรื่องที่เธอจะคุยกับแอนดี้ต้องเป็นความลับให้ใครรู้มากไม่ได้
                    “ว่าไงคนสวย อยากถามอะไรก็ว่ามา”
                    หล่อนไม่ได้ตอบเขาด้วยวาจา แต่ใช้ฝ่ามือนุ่มตบเข้าที่ข้างแก้มเขาสลับซ้ายขวาเต็มแรงแทน แอนดี้อดใจไม่โต้ตอบกลับ แต่สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความแค้น
                    ผู้หญิงคนนี้จะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสมในฐานะที่อวดดีเกิน
    !
                    “เพราะอะไรแกถึงหักหลังฉัน  เงินที่ฉันจ้างแกไปไม่พอหรือไง”
                    “พอใช้สิ เหลือเฟือเลยล่ะ แต่ในเมื่อแมทธิวให้มากกว่า ผมก็ต้องเลือกทางเขา”
                    “แกมันเลว
    ! เลี้ยงไม่เชื่อง ! อย่าอยู่เลย” แพทริเซียหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าจ่อยิงระยะเผาขน ก่อนที่เธอจะขึ้นลำแอนดี้รีบคว้าไว้ได้ก่อน มีการยื้อแย่งกันจนปืนหลุดจากมือ โชคดีที่กระสุนไม่ลั่นออกมาเสียก่อน
                    “คิดจะฆ่าแกงกันเชียวหรือ
    !” แอนดี้โกรธเลือดขึ้นหน้า ตบหญิงสาวด้วยหลังมือเสียจนร่างบางเซล้มกับพื้น
                    “ฉันจะบอกให้พ่อฉันฆ่าแก
    !” แพทริเซียยังไม่วายทำปากดีทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แอนดี้เดินตรงเข้ามาคร่อมร่างหญิงสาวก่อนที่เธอจะทันลุกขึ้น บีบเข้าที่ลำคอได้ก่อนที่หล่อนจะแหกปากร้องเรียกใครมาช่วย
                    แพทริเซียพยายามดึงมือเขาออกจากคอ ดิ้นรนทุรนทุรายอย่างทรมานเพราะหายใจไม่ออก ดวงตาเธอพร่าเลือนเริ่มมองเห็นหน้าอีกฝ่ายไม่ชัด สมองสับสนมืดมนไปหมด จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

                    เสียงเครื่องปรับอากาศดังก้อง ความเย็นเยือกที่ออกมาจากช่องลมปลุกหญิงสาวที่นอนเปลือยร่างอยู่ให้รู้สึกตัว
    แพทริเซียลืมตาขึ้นมองเห็นเพดานสีขาว ตกใจเมื่อก้มมองเห็นร่างกายเธอไม่มีเสื้อผ้าใส่สักชิ้น จำได้ลางเลือนว่าก่อนหมดสติเธอโดนอะไรมา
                    “กรี๊ดด เกิดอะไรขึ้นกับฉัน”
                    แพทริเซียตกใจอีกครั้งเมื่อรู้ว่ามือทั้งสองข้างของเธอไม่สามารถขยับได้อย่างอิสระเพราะถูกมัดไว้กับหัวเตียง เธอพยายามจะดึงให้หลุดแต่เชือกที่มัดทั้งหนาและใหญ่ ยิ่งกระชากแขนข้อมือยิ่งระบมมากขึ้น
                    “อย่าคิดหนีเลย ไม่พ้นผมหรอก”
                     แอนดี้เดินเปลือยกายท่อนบนนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวถือแก้วไวน์เข้ามาทางปลายเท้า
                    “ไอ้สารเลว แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะให้พ่อจัดการกับแก” แพทริเซียด่าทอเขาด้วยถ้อยคำหยาบคาย เธอกำลังโกรธจนลืมนึกถึงความปลอดภัยตัวเอง
                    “ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ก่อนที่จะได้ฟ้องพ่อ เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่ามั้งคุณหนูคนสวย”
                    “แก
    !” แพทริเซียลองกระตุกแขนแรงๆ หลายครั้ง แต่ทำอย่างไรเชือกก็ไม่ยอมขาดออกจากกัน หล่อนรู้สึกทั้งอายและโกรธจัดที่ต้องเผยเรือนร่างให้ผู้ชายที่เธอเกลียดเห็น แอนดี้สมเพชแกมสงสารหล่อน หันไปวางแก้วไวน์ก่อนจะเดินไปนั่งบนข้างเธอ
                    “แกทำอะไรฉัน”  ถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่เต็มอก แพทริเซียคับแค้นใจที่เสียความสาวให้กับไอ้ผู้ชายคนนี้ คนที่เป็นได้แค่เศษสวะในสายตาเธอ
                    “ผมยังไม่ได้แตะต้องคุณเลยแพท ผมไม่ชอบทำผู้หญิงตอนไม่รู้สึกตัว ไม่สนุก”
                    “ฉันไม่ใช่เด็กอมมือที่จะเชื่อคำพูดแก แกมันสารเลว อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะฆ่าแก”
                    “ถ้าผมทำจริง ผมก็ต้องรับสิ ผมเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็กล้ารับ ผมแค่..” แอนดี้ใช้สายตาโลมเลียไปทั่วเรือนร่างหญิงสาว “สำรวจคุณด้วยการมองไปก่อน”
                    “ไอ้บ้า ไอ้..” แพทริเซียไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาต่อว่าให้สมกับความชั่วของเขา แต่อันที่จริงเธอเองก็ไม่ได้ดีกว่าเขาเท่าไร
                    “ก่อนหน้านั้นผมยังไม่ได้ลงมือ ไม่ได้แปลว่าผมจะปล่อยเหยื่อของผมให้หลุดมือไปได้ง่ายๆ”
                    แอนดี้ยิ้มเจ้าเล่ห์ ขยับตัวเข้ามาคร่อมอยู่เหนือร่างหญิงสาว แพทริเซียหัวใจกระตุกวูบ ในเมื่อมือไม่ว่างแต่เท้ายังว่างจึงคิดจะใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่กลับเป็นจุดอ่อนให้เขาเข้ามารุกล้ำเธอง่ายมากขึ้น
                    ขาเรียวถูกสองมือหนาจับเบาๆ พร้อมทั้งแยกออกเล็กน้อย กดด้วยสองเข่าของเขาไม่ให้เธอดิ้นหนี
                    “ขอร้องอย่าทำอะไรฉันเลย” แพทริเซียน้ำเสียงอ่อนลง 
                    “ผมจะเบามือกับคุณให้มากที่สุด ผมสัญญา”
                    “อย่า
    !
                    คราวนี้เธอร้องเสียงหลงแตไม่รอดมือแอนดี้ เอวบางถูกจับยกขึ้นลอยจากที่นอนนุ่ม แพทริเซียสะบัดหน้าไปมาพร้อมกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดใจ เขาเริ่มลงมือปลิดพรหมจรรย์เธออย่างเป็นขั้นตอน ซุกหน้าจมลงไปที่หน้าท้องแบนราบ แพทริเซียเกร็งหน้าท้อง หายใจติดขัดอย่างบอกไม่ถูก มีเสียงจ๊วบเบาๆ ตามมา
                    “อืม คุณนี่น่ากินไปทั้งตัวเลยนะ”  ลิ้นสากหนาของเขาลากผ่านสะดือไปจนถึงเนินขาวผ่องฐานที่มั่นของปลาย
    เสน่หาอมชมพู เขาทดลองชิมความหวานทีละข้างอย่างใจเย็น แต่เจ้าของปทุมถันกลับไม่อยู่นิ่ง ร่างบางบิดกายเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ยอดอมชมพูถูกขบกัดเบาๆ

                    “โอ้ย  หยุดได้ไหม ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ” แพทริเซียทั้งดิ้นทั้งร้องลั่น แต่อีกฝ่ายยังคงละเลงลิ้นไปทั่วร่างไม่หยุดหย่อน  กดปลายจมูกไปตรงไหนก็ลิ้มรสไปหมด
                    ให้ตายสิ หล่อนช่างเร้าใจเขาเหลือเกิน เลือดในกายเขาไหลพล่านจนแทบจะพุ่งออกมา แอนดี้ใช้มือรุกเร้าทรวงอกอวบอัดของหญิงสาวอย่างบ้าคลั่งข้างหนึ่ง อีกข้างเล็มเลาะจากยอดอมพูไปจนถึงซอกคอนุ่ม ปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนผ่านติ่งหูนิ่มๆ แพทริเซียหยุดร้องโวยวาย ได้แต่กัดฟันด้วยความเสียวสะท้านไปถึงหัวใจ
                    หญิงสาวสะดุ้งตัวตกใจสุดขีดเมื่อเป้าหมายของแอนดี้เปลี่ยนอย่างรวดเร็วจากซอกคอเลื่อนลงต่ำกว่าแผ่นท้องราบเรียบ เขากดจมูกลงสูดหอมความหวานจากสิ่งที่สวยงามที่สุดของผู้หญิง ใช้ปลายลิ้นอย่างช่ำชอง แพทริเซียร้องครางไม่เป็นศัพท์ เธอยอมรับว่าลีลารักที่เขาป้อนให้ช่างเต็มไปด้วยความสุขล้นอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน เห็นว่าเธอเป็นสาวเปรี้ยว ใจกล้ากับผู้ชาย แต่ไม่เคยมีใครได้แตะต้องเธอมาก่อน
                    เมื่อปลุกเร้าอารมณ์ร้อนรุ่มให้หญิงสาวจนจุใจ แอนดี้ลุกขึ้นนั่งตามปกติ แต่ยังคงอยู่เหนือร่างเปลือยเปล่า เปลี่ยนจากปลายลิ้นพริ้วไหวเป็นปลายนิ้วแทน แล้วเฝ้าดูเธอส่ายหน้าทรมาน
                    แพทริเซียหลับตาพริ้มปล่อยลมหายใจพร่างพรูออกมาเมื่อเขาหยุดมือไปชั่วขณะ เว้นจังหวะให้เธอได้หายใจหายคอบ้าง แต่เมื่อเขารุกเธออีกครั้งในอีกไม่กี่นาทีต่อมา หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือก
                    “ออกไป อย่า
    !
                    แอนดี้กระตุกยิ้มมุมปาก แพทริเซียกำลังต่อสู้กับเขาอย่างสุดฤทธิ์เพราะไม่ต้องการตกเป็นของเขา แต่เธอไม่สามารถเก็บอาการไว้ได้ว่าเธอนั้นมีความต้องการมากเช่นกัน ผู้หญิงคนไหนลองได้เปลื้องผ้าต่อหน้ามีหรือจะรอดพ้น
                    แอนดี้ไซ้ซอกคอสลับกับการจูบปาก เบียดแผงอกหนาให้เสียดสีกับเนินอกอวบอูมที่แทบล้นทะลักเสื้อผ้าทุกครั้งที่เขาสังเกตเห็น  แพทริเซียร้อนรุ่มไปหมดทั้งตัว เอวบางโยกย้ายส่ายไปมาอยู่ไม่สุข ปากบอกปฏิเสธแต่กลับตอบสนองชายหนุ่มด้วยการโอบรอบต้นคอเมื่อตอนที่เขาเอื้อมมือไปปลดเชือกปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ  
                     “อ่า พร้อมแล้วสินะ คุณหนูคนสวย”
                    เขาหยุดเล้าโลมหญิงสาว  แพทริเซียหายใจปนหอบเหนื่อยส่งท้ายก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นว่าเขาลุกออกจากตัวเธอ
                    “แกจะทำอะไรฉัน อย่านะ
    !” เหมือนเพิ่งนึกได้ว่ากำลังจะเสียอะไรไปแต่ก็สายไปเสียแล้ว แอนดี้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ สอดมือเข้าใต้สะโพกงามซึ่งเจ้าของพยายามจะเถิบหนีแต่ก็ไม่พ้น           
                      แพทริเซียกรีดร้องลั่น สะบัดหน้าไปมา หล่อนรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกแยกเป็นสองส่วน เนินสวยสล้างชุ่มฉ่ำ ถูกความเป็นชายของเขารุกเข้ามาทีละนิด
                    “โอ้ว ไม่อยากเชื่อว่าคุณไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน เป็นไปได้อย่างไรกัน”
                    แอนดี้ภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้เป็นคนแรกของเธอ ถ้ารู้มาก่อนหน้านี้เขาคงจัดการเผด็จศึกหล่อนไปตั้งนานแล้ว แต่ไม่เป็นไรเวลานี้เธอก็กลายเป็นภรรยาเขาไปโดยปริยาย ชายหนุ่มใช้แรงทั้งหมดกระแทกเบียดร่างกายหญิงสาวอีกครั้งอย่างเร็ว ฝ่าแนวปราการบางเบาที่ขวางทางเขา แพทริเซียจิกเล็บกลางแผ่นหลังชายหนุ่ม เงยหน้าอ้าปากค้างไปชั่วหลายนาทีก่อนปล่อยลมหายใจดังเฮ้อออกมา
                    “ขอบคุณที่มอบสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของคุณให้ผม เอาเถอะ ผมให้สัญญาว่าต่อแต่นี้จะทำแบบนี้กับคุณเป็นคนสุดท้ายและคนเดียวตลอดไป”
                    แอนดี้คิดว่าตัวเองเริ่มหลงความสดใหม่ของเธอ แพทริเซียเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบแทบไม่มีที่ติ เขานึกสมน้ำหน้า
    แมทธิวที่ไปเลือกผู้หญิงจืดชืดคนนั้นแทนเธอ
                    ร่างบางโยกไหวไปตามจังหวะที่ร่างกำยำขยับขึ้นลงอย่างมีชั้นเชิง แอนดี้รับรู้อารมณ์หญิงสาวดี รู้ว่าความต้องการของเธอเพิ่มปริมาณมากขึ้นเหมือนเขา เขาก้มตัวไปโอบกอดพร้อมยกตัวเธอขึ้นแล้วพลิกตัวสลับให้เธอเป็นฝ่ายอยู่เหนือเขาบ้าง
                    “ผมจะให้คุณได้ลองเล่นบทนี้เองบ้าง บางทีคุณอาจจะชอบ”
                    แพทริเซียสบตามองเขาแล้วเมินหนีด้วยความอับอายที่สุด เขาย้ายมือไปที่สะโพกงอนคว้าหมับพร้อมทั้งดันขึ้นเบาๆ เธอจึงเข้าใจแล้วว่าเขาต้องการให้เธอทำสิ่งใด ส่วนลึกในจิตใจของเธอสั่งให้ขัดขืน แต่ทว่าไม่อาจฝืนความต้องการส่วนลึกกว่านั้นได้เลย
                     เธอโยกย้ายสะโพกงอนได้เองโดยไม่ต้องมีเขามาช่วย เงยหน้าขึ้นพร้อมสะบัดศีรษะเป็นการระบายความเสียวสะท้านออกมา เสียงครางของหล่อนยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้กับแอนดี้มากขึ้น เขาจำต้องช่วยเธอเร่งให้ถึงที่สุดโดยเร็ว วินาทีสุดท้ายแพทริเซียรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว เหมือนร่างกายเธอไม่อยู่ติดตัวเขา แล้วความอุ่นวาบแทรกผ่านเข้ามาในร่างกาย
                    สองกายเปลือยเปล่านอนกอดกันกลม เ เสียงเครื่องปรับอากาศดังกระหึ่มผสมกับเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของสองหนุ่มสาว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×