ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทาสหัวใจเชลยทราย

    ลำดับตอนที่ #2 : ความหลังของดาเลียส

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 53


    ดาเลียสยกมือดูเวลาจากนาฬิกาเรืองแสง ปรับเข็มนาฬิกาเดินหน้าเพื่อรอนับถอยหลังไปสองชั่วโมง ปฏิบัติการแรกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือดังลั่นขึ้นมา เขาดูเบอร์ที่ปรากฏตรงหน้าจอ ถอนใจเฮือกหนึ่งก่อนจะทำใจรับสายที่ไม่ต้องการ
    "ครับผม ผมดาเลียสพูดครับ"  
    เสียงปลายสายสำเนียงภาษาอังกฤษค่อนข้างแปร่งเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยนัก แต่เขาก็พอจับใจความได้ "ตกลงครับ ผมจะไปในอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง" เขารับปาก และเมื่อสัญญาณตัดขาดหายไป ชายหนุ่มก็สั่งให้คนขับรถของตนเปลี่ยนทิศทางไปยังจุดหมายใหม่ก่อนที่กลับไปยังโรงแรมที่พัก
    "มีอะไรกันอีกนะ" ดาเลียสไม่เต็มใจอยากไปเท่าไรนัก แต่ด้วยหน้าที่ทำให้ตนไม่อาจปฏิเสธได้ คนของสำนักราชวังอเลสติเนียโทรมาเชิญให้เขาร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ มันน่าจะเป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มยินดีกับเกียรติที่ได้รับครั้งนี้แต่ว่า
    เขากลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย
     
                    เหยี่ยวทะเลทรายปีกขนเป็นแผงหนา ลำตัวแข็งแกร่ง กำลังใช้จะงอยปากงองุ้มราวตะขอไซร้ขนตัวเอง ขณะที่ห้านิ้วคมกริบของมันเกาะเหนี่ยวอยู่บนท่อนแขนของเจ้าของที่พันผ้าเอาไว้ สัตว์ทะเลทรายตัวนี้เชื่องมากทีเดียวและหายากที่จะมาใกล้ชิดกับมนุษย์แต่เพราะรู้คุณคนที่ช่วยเหลือมันไม่ไห้ต้องตายจากกระสุนปืน มันจึงภักดีต่อเจ้าของไม่เคยเปลี่ยน ไม่คิดแม้แต่จะทำให้เกิดแผลข่วนกับผู้มีพระคุณของมัน
                    "ว่าไง เจ้าราฟา วันนี้มาแต่วันเชียวนะ"
                    บุรุษชราสูงวัยทักทายเจ้านกตัวโปรดด้วยอารมณ์ดีกว่าทุกวัน องค์ราซีมโปรดนกตัวนี้เป็นพิเศษเสมือนว่ามันเป็นเพื่อนสนิทที่ตนสามารถถ่ายทอดความในใจได้ทุกอย่าง ดีกว่าคนที่อยู่รอบตัวเขาเสียอีก 
                    "ไง วันนี้ฉันหล่อพอจะพบลูกชายไหม' องค์ราซีมก้มมองชุดกรอมยาวสีมุกคลุมชั้นนอกสีทองวาวของตนเองอย่างจะจับผิดว่าตรงไหนดูไม่ดีบ้าง โปรดที่จะโพกผ้าสีเข้มขลิบทองคนละสีกับชุดมากกว่า เสียงทหารองค์รักษ์ดังผ่านมาจากประตูด้านนอกทูลรายงานเข้ามา ทำให้ทรงหยุดมองตัวเองไปพัก
                    "ทูล ฝ่าบาท นายตำรวจดาเลียสมาถึงแล้ว พะย่ะค่ะ"
                    "รีบเชิญเขามา"
                    สิ้นเสียงรับสั่ง ทวารสองบานก็ถูกเปิดเข้ามาโดยทหารที่เฝ้าข้างหน้า ร่างสูงสง่าในชุดสูทเข้มก้าวเข้ามาในห้อง ดาเลียสโค้งตัวถวายความเคารพ องค์กษัตริย์ส่งสายพระเนตรให้กับราชองค์รักษ์เป็นสัญญาณให้ออกไปได้แล้ว เมื่อประตูปิดลง เจ้านกตัวโปรดก็บินออกไปจากท่อนแขนทันที
                    "นกมันสัตย์ซื่อกับฉันดีจริง ไม่ว่าอยู่ไกลแค่ไหนมันก็กลับมาหาฉัน ไม่เหมือนคน บางคนก็พอจะไว้ใจได้ แต่กับบางคนก็ยากจะหยั่งใจถึง" องค์ราซีมพูดลอยๆ อย่างไม่ตั้งใจว่าจะให้ใครได้ยิน   วรกายสูงใหญ่ดูแข็งแรงแม้วัยจะล่วงเลยมามากแล้ว เดินมาตรงหน้าชายหนุ่ม แย้มพระโอษฐ์ด้วยยินดีที่ได้เห็นเขา
                    "ลูกพ่อ" สองพระหัตถ์ยกขึ้นมาจับต้นแขนสองข้างของชายหนุ่มบีบเบาๆ พระเนตรคมมองใบหน้าของดาเลียสเต็มสองตา "ไม่เห็นนาน โตขึ้นมากเลยนะลูก'
                    ดาเลียสก้มหน้าก้มตา รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ "กระหม่อม ไม่บังอาจหรอกพะย่ะค่ะ ขอให้ตรัสเรียกชื่อกระหม่อมจะดีกว่า หากใครมาได้ยินเข้าคงไม่ดีเท่าไรนัก" น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยจะนุ่มนวล เอาเสียเลยบวกกับคำพูดที่ตัดรอนน้ำใจ ทำ
    ให้สีพระพักตร์ขององค์ราซีมดูสลดลง 
                    "พ่อรู้ว่า ลูกไม่เคยให้อภัยพ่อเลยแต่เอาเถอะนะ แค่ลูกมาพ่อก็ดีใจแล้ว เราไปห้องเสวยกันดีกว่านะ คงหิวแล้วใช่ไหม"
                    "ไม่พะย่ะค่ะ กระหม่อมยังไม่หิว ถ้ายังไงเราคุยงานกันก่อนคงจะดีกว่า' เขาพยายามบ่ายเบี่ยง
                    "งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนพ่อแล้วกันนะ ได้ไหม พ่อหิวมาก คงหิ้วท้องฟังลูกรายงานไม่ไหวแน่"
     
    เครื่องเสวยมื้อค่ำถูกยกมาเต็มโต๊ะมากมายทั้งที่มีคนแค่สองคน องค์ราซีมรับสั่งให้ทางวังจัดอาหารชั้นเลิศจากพ่อครัวชื่อดังในอเลสติเนียซึ่งล้วนแล้วเป็นของโปรดของดาเลียสเสียด้วยมาเอาใจเขา แต่ดาเลียสไม่แตะต้องสิ่งใดเลยนอกจากน้ำ
    แก้วเดียว
    "อีกสองชั่วโมง กระหม่อมก็จะเริ่มทำงานแล้วพะย่ะค่ะ ลูกสาวของเป้าหมายเรากำลังเข้ามาติดกับ  ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างเป็นไปตามแผน " ดาเลียสทูลรายงานเรื่องความคืบหน้าของงานตนเอง  องค์ราซีมเหมือนไม่ได้ฟังเท่าไรนัก เอาแต่ตักอาหารมาให้ชายหนุ่มจนพูนจาน
    "หอยเชลล์ราดซอสรสชาติดีนะ ดาเลียส ลองก่อนสิ"
    "ฝ่าบาท คือกระหม่อมไม่หิวจริงๆพะย่ะค่ะ"  ดาเลียสก้มหน้าลอบถอนใจ การปฏิเสธองค์กษัตริย์ไม่ใช่สิ่งสมควร ยิ่งต่อหน้าคนอื่นแล้วยิ่งต้องระวังวาจา องค์ราซีมรวบช้อนลง มองหน้าชายหนุ่มอย่างผิดหวังเล็กน้อย
    "พ่อรู้ลูกไม่อยากมา พ่อเข้าใจ พ่อไม่ดีเองที่บังคับให้ลูกกับแม่ต้องไป ดาเลียส'
    "มันเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว อย่าได้ฟื้นอีกเลยพะย่ะค่ะ เวลานี้กระหม่อมมาทำตามหน้าที่เท่านั้น ขอให้ทรงปฏิบัติกับกระหม่อมเหมือนคนอื่นด้วยพะยะค่ะ เราสองแม่ลูกไม่ใช่คนของที่นี่แล้ว นับจากวันที่เดินออกไป"
    "แต่พ่อไม่เคยลืมแม่ของลูกเลยนะ แม้ว่ารอบกายพ่อจะมีสนมนางในมากมาย แต่พ่อก็ไม่รักใครเท่าแม่ของลูกและลูก พ่อไม่คิดจะมีลูกกับสนมนางไหนให้มาแทนที่ลูกเลย"
    ดาเลียสเมินหน้าไปทางอื่น เกือบจะเผลอให้เห็นรอยน้ำตา เมื่อได้นึกถึงก็เจ็บลึกในใจ ภาพในอดีตที่จำได้ก็คือเขาได้เห็นสนมของพ่อคนหนึ่งที่คิดว่าตนเองเป็นคนโปรดขององค์ราซีม คอยแต่รังแกและทำร้ายน้ำใจของแม่ตลอดมา ซ้ำไม่พอยังจะสร้างเรื่องใส่ร้ายว่าแม่ของเขาแอบมีชายชู้  จนแม่ทนอับอายไม่ได้ต้องหนีหน้าออกไปตั้งหลักที่ฝรั่งเศสเลี้ยงเขาจนโต
                    "ฝ่าบาท งานกำลังจะเริ่มแล้ว กระหม่อมคิดว่าควรจะได้กลับไปเตรียมตัวเสียที" เขาตัดสินใจหนีหน้าไปก่อนดีกว่า
                    "ดาเลียส" พระสุรเสียงขององค์ราซีมที่ตรัสเรียกโอรสของตน ราวกับจะอ้อนวอน
                    "ขอประทานอภัย กระหม่อมขอตัว" ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ถวายความเคารพอีกครั้ง ทูลลาเบาๆ  เขาอยากจะรีบไปจากที่นี่เสียที ก่อนจะแสดงความอ่อนแอให้องค์ประมุขแห่งอเลสติเนียทอดพระเนตรเห็น เขาต้องเข้มแข็งให้รู้ว่า ในเมื่อขาดพ่อไปก็จริง แต่ตนก็อยู่มาได้และไม่ต้องการอะไรจากเขาอีก แม้ว่าสิ่งนั้นคือบัลลังก์ของอเลสติเนียที่ทรงตั้งพระทัยจะมอบให้เขาก็ตาม ดาเลียสเดินกลับหลังมุ่งตรงไปยังประตูทางออก
                    "ดาเลียส มาพบพ่ออีกนะ"
                    "พะย่ะค่ะ" เขารับปากแต่ไม่ยอมหันกลับมา 
                    "พ่อเตรียมทุกอย่างให้ลูกแล้ว ทั้งคนทั้งสถานที่ ต้องการอะไรเพิ่ม ก็บอกมาได้นะ พ่อจะให้คนหาให้ทันที'
                    "ขอบพระทัยฝ่าบาท กระหม่อมจะรีบนำเอา แซนฮาร์ทไดมอล กลับมาคืนสู่อเลสติเนียโดยเร็วที่สุด เชื่อมือกระหม่อมได้"
                    "พ่อเชื่อมือลูกเสมอ ไม่เช่นนั้นพ่อคงไม่เรียกลูกมาช่วยพ่อ ดาเลียส เดี๋ยวพ่อเดินไปส่งให้นะ"
                    "ไม่เป็นไรกระหม่อมไปได้ ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ" ดาเลียสหันมาโค้งตัวอีกครั้ง แล้วเดินจากไปที่รถ พระพักตร์ขององค์กษัตริย์ดูเศร้าสร้อยผิดหวัง   กว่าจะสำนึกได้ก็สายไปแล้ว ตลอดเวลาที่ คาย่าแอบพาดาเลียสหนีไปจากที่นี่เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ไม่เคยบรรทมสนิทสักวัน ก่อนหน้านั้นเคยส่งคนไปรับเธอกับลูกกลับมา แต่คาย่ายืนกรานไม่กลับ แถมยังขู่ด้วยว่าหากพรากลูกไปจากเธอ เธอจะฆ่าตัวตายเสีย องค์ราซีมไม่อยากเสียคาย่าไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงยอมเงียบเหงาจมอยู่กับความผิดนี้ตลอดไป
                    ดาเลียสเดินลงบันไดมาที่รถ เขาเองก็สู้ไม่สบายใจนักที่ต้องทำแบบนี้เหมือนไม่รักษาความรู้สึกของผู้เป็นพ่อ แต่ในเมื่อเขาก็ไม่ใช่เจ้าชายแห่งอเลสติเนียมานานเกือบจะลืมไปแล้วว่าเคยเป็นคนของที่นี่ ดังนั้นเขาจึงอยากลืมเรื่องทุกอย่างไปให้หมดสิ้นลืมว่าเคยเป็นสายเลือดของใคร
                    ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าเมื่อเดินสวนสตรีสามนาง หญิงสาวที่เดินนำมาคนแรกปรายตามองเขา เธอมีดวงหน้ารีคมสวย ริมฝีปากแดงอวบอิ่มเม้มหากัน  สังเกตจากการแต่งตัวเหมือนไม่ใช่แค่นางในวังธรรมดา เสื้อผ้าแพรพรรณเนื้อดีสวมเครื่องประดับมีราคามากกว่าอีกสองคนที่ตามหลังมาซึ่งเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ดาเลียสไม่แน่ใจว่าเธอกำลังมองเขาด้วยความสงสัยหรือสนใจในตัวเขากัน แต่ชายหนุ่มก็โค้งตัวให้หนึ่งครั้งตามมารยาทก่อนเดินจากไป
                     "คนผู้นี้คือใครกัน"  ชากีร่าหันไปถามนางข้าหลวง นางผู้นั้นทูลตอบกลับ
                    "เป็นราชอาคันตุกะขององค์ราซีมเพคะ องค์หญิง หม่อมฉันได้ยินพวกทหารบอกว่า เป็นแขกคนสำคัญทีเดียวชื่อ ดาเลียสเพคะ"
                    "'งั้นหรือ" ชากีร่าแปลกใจระคนยินดีที่ได้พบกับหนุ่มหล่อเหลา
                    "น่าสนใจดีนะ ว่าแต่เขาพักอยู่ที่ไหนกัน ฮึ " 
                    "ไม่ทราบเพคะ"
                    "งั้นไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ฉันหาคนอื่นมาสืบให้ก็ได้" ชากีร่ายิ้มที่มุมปาก ไม่มีอะไรที่ เธออยากรู้แล้วจะไม่มีใครหาคำตอบให้ไม่ได้"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×