ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คาสิโนเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #2 : โชคชะตานำพาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 58


                   อิงปวัณมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะไม้ขัดมันที่เต็มไปด้วยแฟ้มเอกสาร หนังสืออ่านเล่น เครื่องเขียนและอุปกรณ์สื่อสาร
    เธอมองเลยไปยังหลังโต๊ะเห็นเป็นร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งยืนไขว้หลังให้ พอได้ยินเสียงฝีเท้าสองสาวมาหยุดเดิน เจ้าของร่างนั้นก็หันกลับมา
                    “อุ้ย หล่อ” ธาราเผลอหลุดปาก อิงปวัณหันมามองค้อนเพื่อน หน้าสิ่งหน้าขวานแบบนี้เพื่อนรักเธอกลับมีอารมณ์มาชมหนุ่ม ว่าแต่เขาก็หล่อลากจริงให้ตายสิ
                    เขาสูงสักร้อยแปดสิบได้ รูปร่างเหมือนนักกีฬา ไม่เก้งก้างจนน่าเกลียด รูปหน้าเรียวหล่อเข้มตั้งแต่คิ้วโค้งจนถึงดวงตาคมโต จมูกโด่งได้รูปจรดริมฝีปากหนาอมชมพู ผมหยักศกถูกจัดทรงปัดไปทางหนึ่ง ดูแตกต่างจากผู้ชายในมาเก๊าซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายจีน  เขายืนกอดอกพิจารณาหญิงสาวทั้งอยู่นานกว่าจะเอ่ยปากทักทายเป็นภาษาอังกฤษ

                    “ยินดีต้อนรับพวกคุณ หวังว่าการต้อนรับของเราคงไม่ขาดตกบกพร่องนะ”
                    “ทุกอย่างโอเคค่ะ แต่วิธีการต้อนรับของคุณไม่ดูรุนแรงไปหน่อยหรือคะ”
                    “ขอโทษนะครับที่คนของผมออกจะเสียมารยาทกับสุภาพสตรี ทั้งนี้เขาต้องทำตามคำสั่งของผมโดยเคร่งครัด”
    ผมชื่อแมทธิว ส่วนคุณอิงปวัณใช่ไหม คนนี้ก็ธารา”
                    สองสาวหันมามองหน้ากันเป็นเชิงถาม
                    “นี่คงรื้อค้นกระเป๋าฉันกับเพื่อนทุกตารางนิ้วโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของก่อนหมดแล้วใช่ไหมคะ”
                    “ผมจำเป็นนะ ไม่ใช่แค่ค้นกระเป๋าอย่างเดียวนะ ผมให้คนค้นตัวพวกคุณด้วย”
                    “หา
    !“  ทั้งอิงปวัณและสายน้ำอุทานตกใจเป็นเสียงเดียวกัน ก้มมองตัวเองแล้วอดใจหายวาบไม่ได้
                    “เดี๋ยวๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิดนะ”  แมทธิวคิดไว้แล้วว่าพวกหล่อนต้องเข้าใจผิด “ผมไม่ได้ค้นตัวคุณด้วยตัวเอง และไม่ได้ให้ลูกน้องผมที่เป็นผู้ชายค้นด้วย ผมให้แม่บ้านกับสาวรับใช้ช่วยสำรวจร่างกายคุณ”
                    “แน่นะ ไม่ใช่มาโกหกเพื่อให้สบายใจ” อิงปวัณยังไม่เชื่อคำพูดของชายหนุ่ม
                    “ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ถ้าบอกว่าทำ ผมก็บอกว่าทำ ถ้าไม่ได้ทำก็บอกไม่ได้ทำ”
                    ธาราถอนใจโล่งอกเป็นคนแรก “เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะมีใครมาเห็นรูปร่างน่าเกลียดๆ ของฉันซะละ”
                    “แล้วคุณทำแบบนี้เพื่ออะไร จับตัวพวกเรา ค้นรื้อข้าวของส่วนตัวแล้วยังค้นตัวฉันด้วย เป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ทางการคะ แต่จะเป็นใครก็แล้วแต่ กรุณาให้เกียรติกันบ้าง”
                   
    ผมขอโทษที่ทำให้พวกคุณไม่พอใจ แต่มันเป็นกฎของเรา
                    “กฎบ้าๆของเมืองนี้หรือ ไม่อยากจะเชื่อเลย”
                    “กฎของคาสิโน ผมเป็นของเจ้าของคาสิโนที่พวกคุณสองคนเข้าไปเล่นได้เงินมา”
                    “เจ้าของคาสิโน
    !” สองสาทวนย้ำประโยคเดิมของชายหนุ่มพร้อมๆ กัน สีหน้าทั้งอิงปวัณและธารากระอักกระอ่วนราวกับเพิ่งไปทานอาหารเป็นพิษมา
                    “พวกคุณเล่นได้เงินเป็นจำนวนมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเล่นเกมไหนก็ชนะไปเสียหมด หรือถ้าหากรู้ตัวว่าจะแพ้ก็เปลี่ยนเดิมพันใหม่ ราวกับรู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ลูกน้องผมดูพวกคุณผ่านกล้องวงจรปิด เห็นผิดสังเกตจึงรายงานให้ผมรับรู้ ทีแรกคิดจะจับตัวคุณตั้งแต่อยู่ในคาสิโน แต่ผมบอกให้ดูไปก่อนเผื่อมีคนอื่นร่วมมือด้วยมากกว่านี้ จนกระทั่งเห็นพวกคุณออกไปจากคาสิโน จึงแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอีก ผมให้ลูกน้องไปจับตัวคุณมาเพื่อหาว่าคุณใช้วิธีใดในการโกงการพนัน”
                    “แล้วพบไหมล่ะ”
                    “ไม่พบอะไร ไม่มีชิปอิเล็กทรอนิกส์ฝังตามร่างกาย หรือมีการซ่อนอุปกรณ์พิเศษในตัวแม้แต่ชิ้นเดียว”
                    “ถ้างั้นก็รู้แล้วว่าเราไม่ได้โกง”
                    แมทธิวส่ายหน้า “ผมไม่แน่ใจนัก เอาเป็นว่าถ้าพวกคุณยอมสารภาพมาแต่โดยดีๆ ผมอาจปล่อยพวกคุณไป ไม่งั้นเราจำเป็นต้องกักตัวไว้ก่อน สอบสวนจนแน่ใจ”
                    “จะบ้าหรือไงกัน คนเล่นได้ก็บอกเขาโกง ถามจริงไอ้เงินที่พวกคุณได้มาจากนักพนันคนอื่นตั้งเท่าไรแล้ว ไม่เห็นมีใครไปโวยวายเลยว่าพวกคุณโกง”
                    “ถ้าการเล่นได้เงินมาแบบปกติเหมือนทั่วไปก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่พวกคุณยังกับรู้ไพ่ ถามจริงเหอะ พวกคุณใช้วิธีไหนกันแน่”
                    “ไม่มีวิธีพิเศษอะไรทั้งนั้น ฉันเล่นได้เอง ฉันฟลุก โอเคไหม ฟลุกหมายถึงโชคช่วย เข้าใจยัง”
                    “โชคช่วยเสมอไปหรือ น่าคิดนะ” แมทธิวย่นคิ้ว โชคช่วยตั้งแต่รูเล็ตจนถึงไพ่ยี่สิบเอ็ด แล้วยังสลอตแมชชีนอีก บังเอิญเกินไป”
                    “ไม่บังเอิญหรอกค่ะ คุณอะไรนะคะ ชื่อเรียกย๊าก ยาก แมทธิวใช่ไหม” กว่าจะเข้าเรื่องได้ก็ถามเองตอบเองเสียหลายประโยค  “เพื่อนฉันเขาเป็นคนมีเซนส์เรื่องนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนแรกฉันไม่เชื่อที่ใครๆพูดกันว่าเธอเป็นตัวนำโชค บอกหวยงวดไหนก็ออกตรงหมด จนมาวันนี้ เล่นเสียอยู่ดีๆ พอยายอิงตามมาช่วยเท่านั้น ฉันเล่นได้ตลอดเลย”
                    ดูจากสีหน้าชายหนุ่มเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของธาราเท่าไร  เธอจึงขออนุญาตอธิบายต่อ ไม่สนใจสายตาของเพื่อน
                    “ฉันหมายถึง เพื่อนฉันมีประสาทสัมผัสที่หกด้านการพนันมาตั้งแต่เด็กค่ะ จะรู้เฉพาะคนสนิทเท่านั้น เหมือนเธออ่านไพ่ออก หรืออ่านเกมออก เก่งด้านการเดาด้วยแม่นยำตลอด อย่าสงสัยเลยค่ะว่าทำไมพวกเราถึงเล่นชนะตลอด”
                    “เธอกำลังจะทำอะไรสายน้ำ” อิงปวัณแอบกระซิบถาม
                    “ฉันกำลังช่วยให้พวกเขาปล่อยตัวเราไปไง”
                    กว่าธาราจะรู้ว่าเธอคิดผิด ทุกอย่างก็หลุดออกไปจากปากหมดแล้ว แมทธิวล้วงกระเป๋าเดินกลับไปกลับมาสีหน้าครุ่นคิด
                    “ถ้างั้นพวกคุณต้องพิสูจน์ให้ผมเห็น”
                    “พิสูจน์ยังไงคะ อย่าบอกนะให้ไปเล่นที่คาสิโนอีก ฉันไม่เอาด้วยแล้ว”
                    “ไม่ได้ให้คุณไปเล่นการพนันหรอก ไม่ยาก อาทิตย์หน้าผมมีนัดกับเจ้าของคาสิโนจากลาสเวกัส มาเก๊า ฮ่องกงและไต้หวัน เราจะมีการเล่นไพ่สเตจกันเพื่อกระชับสัมพันธ์ไมตรีและครบรอบเปิดคาสิโนมาสิบสองปี ผมอยากให้คุณไปอยู่ข้างๆผม จนเกมเลิก ถ้าผมชนะ แปลว่าสิ่งที่ธาราบอกมาเป็นเรื่องจริง”
                    “ว่าไงนะ ให้ฉันไปยืนช้างคุณตอนเล่นไพ่ และถ้าคุณแพ้ ฉันก็ต้องถูกกล่าวหาว่าโกงทั้งที่ไม่ใช่นะสิ การพนันนะคุณ มีสองอย่างถ้าไม่ได้ก็เสีย โชคไม่ได้ช่วยทุกครั้งไป จะเอาวิธีนี้มาเป็นข้อพิสูจน์ไม่ได้“
                    “แต่ผมไม่มีทางอื่นแล้ว ถ้าขืนปล่อยพวกคุณไป ลูกน้องหรือลูกค้าของผมจะหมดความนับถือเพราะเจ้านายของเขาไม่เด็ดขาด เอาเป็นว่า ถ้าคุณทำให้ผมชนะได้ผมจะปล่อยตัวคุณ แต่ถ้าแพ้ อาจจำเป็นต้องเค้นคำตอบเอาจากคุณอีกครั้ง”
                    “โธ่โว้ย บ้าอะไรนี่ พิลึกและเพี้ยนที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ฉันไม่ตกลง ฉันไม่ใช่เซียนพนันอย่างในหนังนะจะได้เล่นกลหรือเป่ามนตร์ให้เล่นได้ทุกครั้งไป”
                    “แต่คุณมองออกว่าเมื่อไรที่ควรรุกต่อหรือเมื่อไรควรยอมแพ้ ดูแล้วคุณนี่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ ผมแค่ไม่รู้ว่าไอ้ไม่ธรรมดาของคุณมาจากไหนเท่านั้น พิสูจน์ให้ผมเห็นหน่อยสิว่าคุณเป็นตัวนำโชคหรือเพราะคุณอ่านเกมทะลุปรุโปร่งหมด
                    “ฉันไม่ทำ ให้ตายอย่างไรก็ไม่ทำ ปล่อยฉันกับเพื่อนไปได้แล้ว ถึงกักตัวฉันไว้ก็ไม่มีประโยชน์”
                    แมทธิวเริ่มจะหมดความอดทนและเบื่อที่จะเถียงกับผู้หญิงหัวดื้อคนนี้ การบังคับกันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
                    “ผมปล่อยคุณกับเพื่อนไปก็ได้  แต่มีข้อแม้ คุณต้องหาทางออกไปจากมาเก๊าภายในวันนี้ให้ได้ ถ้าทำไม่ได้คุณต้องกลับมาอยู่กับผมจนกว่าจะถึงวันงาน  อ้อ สัมภาระของคุณอยู่บนห้องนอน  แต่หนังสือเดินทางของพวกคุณ ลูกน้องผมยึดเอาไว้ ไปหาทางขอคืนเอาเอง ผมไม่เกี่ยวเพราะไม่ได้สั่งให้ยึดหนังสือเดินทางของพวกคุณ”
                    “หึหึ คิดอยู่แล้วต้องเล่นไม้นี้ นักพนันก็เหมือนกันหมด จะทำอะไรต้องมีเดิมพัน มีเงื่อนไข มีการท้าทาย ตกลงฉันรับคำท้าของคุณ แม้ว่าคุณจะยึดพาสปอร์ตของฉันกับเพื่อนไปก็ตาม แต่ฉันก็มีวิธีของฉัน ไปเหอะสายน้ำ เขาปล่อยตัวเราแล้ว ไปเอาของแล้วกลับบ้านกัน”
                    ธาราฟังสองคนเถียงกันแล้วยังงุนงงไม่เข้าใจ สมองเธอคงจะช้าเกินไปแล้วมั้ง มารู้ตัวอีกที อิงปวัณกับเธอก็ออกมาเดินอยู่บนถนนแล้ว
                    “อิงเรากำลังจะไปไหนกันบอกได้ไหม”
                    “ไปสถานีตำรวจไง ไปแจ้งความว่าพาสสปอร์ตหาย แล้วเราจะได้เอาใบแจ้งความไปสถานทูตกัน เขาจะทำใบชั่วคราวให้เรากลับไทยก่อน ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย อีกอย่างก่อนเดินทางมา ฉันถ่ายพาสสปอร์ตตัวเองกับของสายน้ำไว้แล้ว มีหลักฐานแสดงตัวตนชัดขนาดนี้  ไม่เกินชั่วโมงเราก็จะได้บินออกจากมาเก๊าแล้ว”
                    “โห อิงเธอนี่รอบคอบเอามากๆ ถ้าฉันไม่ได้เธอมาเป็นเพื่อน มีหวังหมดตัวตั้งแต่ในบ่อนแล้ว”
                    “เราเป็นเพื่อนกันนี่ เวลามีปัญหาเราต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน จริงไหม”
                    อิงปวัณสอบถามทางไปสถานีตำรวจกับคนในละแวกนั้น โชคดีที่ภาษาอังกฤษเธอแม่น สองสาวจูงมือกันเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ก็แจ้งจุดประสงค์ตัวเอง
                    นายตำรวจหนุ่มหน้าตี๋คิ้วยาวเข้มขยับแว่นหนาของตนมองสองสาวไทยอยู่นานราวกับกำลังพิจารณา ก่อนจะพยักหน้ารับทราบ
                    “เดี๋ยวพวกคุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ขอผมไปรายงานผู้บังคับบัญชาให้เซ็นรับทราบ”
                    “ได้ค่ะ ฉันกับเพื่อนจะรออยู่ตรงนี้ หวังว่าจะไม่ใช้เวลาเกินชั่วโมงนะคะ”
                    นายตำรวจหนุ่มผงกศีรษะอีกครั้ง ก่อนคว้าเอาเอกสารที่ออกมาจากเครื่องพิมพ์เดินกลับเข้าไปข้างใน  อิงปวัณโล่งใจไปเปาะหนึ่ง อีกนิดเดียวเท่านั้นเธอกับธาราจะได้กลับบ้านเสียที นึกอยากเห็นหน้าอีตารูปหล่อหน้าเก๊กคนนั้นเสียจริงว่าจะมีสีหน้าอย่างไรเวลารู้ว่าเธอกับเพื่อนรอดพ้นเงื้อมมือเขาไปอย่างง่ายดาย
                    นายตำรวจหนุ่มกลับออกมาอีกครั้ง พร้อมนายตำรวจหนุ่มอีกคน และตำรวจหญิงอีกคน มีการชี้มือมาที่พวกเขา พูดจาเสียงดังโหวกเหวกเป็นภาษาจีนพร้อมทั้งยกไม้ยกมือพัลวัน อิงปวัณรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ รีบดึงมือเพื่อนจะขอออกไปจากสถานีตำรวจ แต่ตัดสินใจช้าไป
                    “คนของคาสิโนแจ้งความเอาไว้ว่า มีคนขโมยเครื่องเพชรของลูกค้าในบ่อน กล้องวรจรปิดจับได้ว่าเป็นพวกคุณ ถ้ายังไงขอเชิญเข้าไปอยู่ในคุกก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เจ้าทุกข์จะมาชี้ตัว” ตำรวจหญิงแจ้งข้อหาเธอเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วแปร่งๆ
                    “เอ้ย ไม่ใช่นะ เข้าใจผิดกันไปใหญ่ พวกเราไม่ได้ไปขโมยของใครมานะ จำผิดคนแล้ว”
                    ไม่ว่าจะตะโกนแก้ตัวดังแสบหูแค่ไหนก็ไม่มีใครฟัง พวกเธอถูกจับเข้าคุกด้วยข้อหาลักทรัพย์จากคาสิโน หลักฐานก็อยู่ในกระเป๋าทั้งของธาราและของเธอ อิงปวัณนึกเจ็บใจที่เสียรู้อีตาเจ้าของคาสิโนจนได้เพราะไม่เฉลียวใจตรวจสอบกระเป๋าก่อน

                    “ไง อยู่ในนั้นสบายดีไหม”
                    อิงปวัณเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนยามวิกาล เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ไอ้คนที่ทำให้เธอกับเพื่อนต้องมานอนหนาวอยู่ในคุกนี่ไง
                    “ถ้าจะมาเยาะเย้ยกันก็ไปเลย คุณนี่มันเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา มีอย่างที่ไหนวางแผนสกปรกใส่ร้ายคนอื่นหน้าตาเฉย ออกไปเลยนะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” เธอออกปากไล่ ชายหนุ่มกลับไม่รู้โกรธเธอแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับอมยิ้มหัวเราะราวกับเห็นสิ่งสนุก
                    “ผมไม่ได้เยาะเย้ย ผมมาทวงสัญญาของผมต่างหาก”
                    “สัญญาอะไร ใครไปสัญญากับคุณ”
                    “อ้าว ยังไม่ทันข้ามวันลืมเสียแล้ว เอาล่ะผมจะทบทวนความจำให้ ผมบอกคุณว่าถ้าคุณไม่สามารถออกไปจากมาเก๊าได้ในวันนี้ คุณต้องทำตามข้อตกลงของผมคือตามผมไปเล่นไพ่สเตจกลางงานเลี้ยงอาทิตย์หน้าที่ฮ่องกงเพื่อพิสูจน์ว่าคุณคือตัวนำโชคจริงๆ ไม่ใช่เพราะใช้เล่ห์เพทุบาย”
                    “ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาเอาตัวฉันกับเพื่อนจากในคุกตอนนี้เลยสิ คุณทำได้ไหมล่ะ”
                    แมทธิวกอดอกยืนยิ้มๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากหน้าห้องขัง
                    “โธ่เอ้ยนึกว่าจะแน่จริง  โอ้ย
    ! นี่ยายสายน้ำมาหยิกฉันทำไมนี่”
                    “เธอมันน่าหยิกจริงๆ นี่ แทนที่จะขอร้องให้เขาช่วยเหลือพวกเรา ดันไปไล่เขาอีก มันน่านัก” ธาราบิดแขนเพื่อนแรงจนเนื้อแทบหลุดติดมือมา
                    “ฉันเจ็บสายน้ำ เลิกหยิกฉันได้แล้ว
    !” ธารายอมปล่อยมือ อิงปวัณลูบต้นแขน เล็บของเพื่อนรักคมมาก ถึงตอนนี้ยังรู้สึกเหมือนถูกหยิกอยู่เลย “อย่าคิดอะไรตื้นๆ สิ เขาจะมาช่วยเราทำไม ในเมื่อเขาเป็นคนทำให้พวกเรามาอยู่ในนี้” 
                    “ถ้าเราพูดจาดีๆ กับเขา เขาต้องช่วยเราอยู่แล้วล่ะ แต่นี่เธอเล่นไปต่อว่าเขาเสียๆ หายๆ เขาก็เลยไม่ช่วยพวกเราแล้วล่ะ เฮ้อนี่จะต้องอยู่ในนี้อีกนานแค่ไหนนะ ไม่อยากจะคิด”   
                    สีหน้าอิงปวัณตึงเครียดมากขึ้นเมื่อนึกถึงอนาคตข้างหน้า ถ้าเธอต้องถูกตัดสินให้จำคุกอยู่ที่มาเก๊า ป้าที่เลี้ยงเธอมาแต่เล็กแต่น้อยจะทำอย่างไรเล่า ใครจะช่วยป้าทำงานหาเงินเพื่อรักษาตัวจากอาการป่วยที่ป้าเป็นอยู่ นึกแล้วก็ไม่น่าหาเรื่องมาที่นี่เลย
                    เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน นายตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาไขกุญแจห้องขัง และทำสัญลักษณ์มือ            
    เรียกสองสาวให้เดินตามออกมา
                    พวกเขาได้รับการปล่อยตัวเพราะเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง แม้แปลกใจแต่ก็ดีใจที่พ้นคุกมาได้ ทันทีที่สองสาวเดินออกมาจากสถานีตำรวจ รถลิมูซีนสีดำสนิทคันหนึ่งก็มาจอดข้างหน้าพร้อมชายชุดดำเดินลงมาจากรถ
                    “เชิญขึ้นรถได้แล้วครับ คุณทั้งสอง”

                    “เจ้านายของคุณส่งคุณมารับพวกเราหรือ”
                    “ใช่ครับ คุณแมทธิวสั่งให้ผมมารับคุณผู้หญิงทั้งสอง กำชับนักหนาว่าให้ดูแลพวกคุณเป็นอย่างดี”

                    มีเสียงถอนใจฮึดฮัดไม่พอใจตามตามมา อิงปวัณไม่มีทางเลือกเมื่อเธอมีกันแค่สองคนและเป็นผู้หญิง  จำต้องทำตามเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเอง


                    พวกเขาทั้งสองต้องกลับมาที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้งหลังจากลากกระเป๋าเดินออกไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน และเผชิญหน้ากับคนที่ไม่อยากพบ
                    “ยินดีต้อนรับพวกคุณอีกครั้ง หวังว่าครั้งนี้ลูกน้องผมคงไม่ทำอะไรให้คุณไม่พอใจ”
                    “ฉันไม่พอใจใครคุณน่าจะรู้ดี” อิงปวัณกอดอกเบะปาก น้ำเสียงประชดประชัน
                    “คุณจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่คุณต้องทำตามสัญญา เอาล่ะ มากันเหนื่อยๆ คงอยากพักผ่อนแล้ว” แมทธิวตบมือสองครั้ง แม่บ้านคนเดิมและเด็กรับใช้อีกสองคนพากันเข้ามาช่วยอิงปวัณกับธาราถือสัมภาระ
                    “เดี๋ยวสิ เอ๊ะ ทำไมไปคนละทางกัน ฉันกับเพื่อนฉันไม่มีวันแยกกันนะ” อิงปวัณแข็งขืนทำท่าไม่ยอม
                    “อยู่คนละห้องดีแล้ว จะได้ไม่อึดอัด คนของผมจะดูแลเพื่อนคุณให้ ส่วนคุณ” เขาเว้นคำพูดไว้แค่นั้น ใช้เพียงสายตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับเธอเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว อิงปวัณจำต้องก้าวถอยหลังจับตามองทุกการกระทำของเขา 
                    “ผมจะเป็นคนดูแลคุณเอง”
                    หล่อนไม่แน่ใจนักว่าเขาแกล้งกวนประสาทเธอเล่น หรือเอาจริงแต่ก็ตอกกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
                    “ไม่จำเป็น ฉันดูแลตัวเองได้”
                    “แต่คุณก็ยังเป็นผู้หญิง และอยู่ในความคุ้มครองของผม เพราะฉะนั้นอย่ารั้นเป็นดีที่สุด”
                    อิงปวัณเชิดหน้าใส่ หงุดหงิดที่ถูกขัดใจ ทางที่ดีควรออกไปจากที่นี่ดีกว่า ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ เกรงว่าจะอดใจไม่ไหวเผลอซัดกำปั้นกลางใบหน้าหล่อเหลาเข้าเรื่องจะไปกันใหญ่ เธอรีบสาวเท้าเดินตามแม่บ้านไปให้เร็วที่สุด ให้ไกลจากผู้ชายที่กวนประสาทเธอที่สุด
                    สองสาวชาวไทยอยู่ในความดูแลของเจ้าของคาสิโนใหญ่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งที่ไม่จำเป็นเท่าไรนักเพราะแมทธิวแน่ใจว่า อิงปวัณไม่ได้ใช่กลโกงแม้แต่น้อย เธอมีความสามารถพิเศษทางด้านนี้จริง จากสายเลือดแท้ๆ ทำไมเขาจะไม่รู้เล่าในเมื่อสาวน้อยอิงปวัณคนนี้เป็นคนที่เขาคุ้นเคยสนิทชิดเชื้อมาก่อนเป็นอย่างดี
                    ความบังเอิญช่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์น่าเหลือเชื่อ ตอนที่จับตัวพวกหล่อนมาสอบสวนครั้งแรก แมทธิวได้ให้คนสืบประวัติผู้หญิงทั้งสองจึงได้รู้ว่า หนึ่งในนั้นคืออดีตเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เคยช่วยชีวิตเขามาก่อน
                    แมทธิวทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาว นั่งไขว้ขาจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะข้างหน้า  แหงนใบหน้าให้ต้นคอหนุนพนักพิง หลับตาลงพร้อมปล่อยลมหายใจออกมาอย่างช้า ภาพเก่าเริ่มผุดขึ้นมาในความทรงจำ
                    สิบปีที่เขาไม่เคยลืม....
                    แมทธิววัยสิบขวบตามพ่อและแม่ไปยังคาสิโนแห่งหนึ่งในประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดว่าเป็นสถานที่อโคจรสำหรับเด็กอย่างเขา  เขารอพ่ออยู่ในโรงแรมที่พักกับแม่เพียงแค่สองคน ส่วนพ่อลงไปเล่นการพนันด้านล่าง เขายังเด็กจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป
                    วันนั้นเป็นวันที่สี่ที่เขาพักโรงแรม พ่อกลับเข้ามาเกือบครึ่งคืน ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกว่าทุกวัน บอกด้วยว่าพรุ่งนี้เตรียมตัวกลับฮ่องกงได้เพราะพ่อเล่นการพนันได้เงินมามากโขทีเดียว
                    “มีคนไทยคนหนึ่งมาขอร่วมทุนด้วย แต่ไม่มีเงินมากนัก ทีแรกพ่อไม่เชื่อใจเขาเท่าไร แต่เขาให้คำมั่นว่าจะทำให้พ่อได้เงินเพิ่มมาอีกสิบเท่าตัวถ้าพ่อเชื่อเขา พ่อลองเสี่ยงดวงดู ไม่คิดเลยว่าจะเป็นอย่างที่เขาว่าจริง ดูสิเงินทั้งนั้น”
                    พ่อของแมทธิวหยิบเงินมากรีดเล่นให้ดู แม่ได้แต่ยิ้มน้อยๆ ผิดกับเขาที่ยิ้มกว้าง            อย่างดีใจ นึกถึงของเล่นราคาแสนแพงที่ปรารถนาอยากได้มานาน  
                    แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ตอนนั่งรถรับจ้างกลับมายังสนามบิน เจ้าของคาสิโนส่งคนมาตามล่าครอบครัวเขา พ่อถูกยิงเสียชีวิตทันทีที่เกิดเหตุ ส่วนเขากับแม่เกือบถูกฆ่าปิดปาก โชคดีที่มีคนมาช่วย
                    “ผมชื่ออนิรุธ เป็นคนที่ร่วมทุนกับคุณไมเคิลเมื่อคืนนี้ และเป็นคนชี้แนะจนคุณไมเคิลได้เงินมามากมาย ผมสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเขา ผมพยายามมาเตือนให้เขารีบกลับประเทศไปเสีย แต่มาช้าไป”
                    แมทธิวเจ็บปวดเมื่อได้นึกถึง เพราะเขานอนตื่นสายจึงออกมาจากโรงแรมช้าและเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก   ผู้ชายคนนั้นพาเขาไปยังสถานที่ปลอดภัยก่อนจะติดต่อญาติที่ฮ่องกงมารับ
                    ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า ปวดร้าวเพราะเสียพ่อ เขาได้พบกับอิงปวัณ ลูกสาวของผู้ช่วยชีวิตเขาไว้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เขาลงความเห็นในตอนแรกว่าพูดมาหนวกหูน่ารำคาญ แต่ความสดใสมีน้ำใจและคำปลอบโยนที่อ่อนโยนทำให้คลายความรู้สึกเศร้าหมองลงไปได้บ้าง เด็กสาวช่างเจรจา มีแต่คำว่าให้ ที่สำคัญเธอไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้เมื่อถูกเขาปฏิเสธไมตรีทุกอย่าง  เขาจำได้ว่า เคยมือปัดผลแอปเปิ้ลกระเด็นโดนหน้าเธอก่อนตกลงพื้นเพราะรำคาญเสียง แต่เธอยังอุตส่าห์ตามเก็บมาล้างใหม่ ปลอกเปลือกหั่นให้และแอบเอามาวางในห้องนอนก เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอทำแบบนั้น แต่เขารู้สึกว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอีกคนเท่าที่เคยเจอมา
                    แมทธิวไม่ได้ข่าวครอบครัวเธออีกเลยตั้งแต่กลับมายังฮ่องกง แม่เขาแต่งงานใหม่กับพี่ชายแท้ๆของพ่อ ชีวิตที่จะต้องพบกับความลำบากจึงพลิกผัน เขากลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าของคาสิโนชื่อดังต่อจากลุง มีชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยอิทธิพลและลูกน้องมากมาย
                    ฟ้าลิขิตให้เขาพบเธออีกครั้ง เธอจะจำเขาได้ไหมนะ แต่เขาจำเธอได้แม่น ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องหาทางตอบแทนบุญคุณเธอให้ได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×