คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ONE
ร้านอินเตอร์เน็ตเล็กๆ ใน ตึกแถวสามชั้นหนึ่งคูหา ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักสายหนึ่งใจกลางกรุงเทพอันอุดมด้วยความวุ่นวายและรีบเร่ง ข้างหน้าจะเหมือนกับร้านที่เปิดเกร่อกันอยู่ทั่วไป นั่นคือเป็นบานกระจกสีชา ที่เต็มไปด้วยโปสเตอร์โฆษณาเกมส์ออนไลน์หลากหลายประเภท พร้อมตัวอักษรบอกราคาแลกเปลี่ยนสำหรับการซื้อหาความบันเทิง ภายในร้านเครื่องนับสิบตัวได้ ถูกตั้งอยู่บนโต๊ะติดกำแพง และเด็กชายวัยรุ่นหลายคนหลายวัยนั่งอยู่แต่ละเครื่อง ต่างหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอของตัวเอง มีทั้งเสียงดังมาจากลำโพงผสมกับเสียงเคาะแป้น เสียงตลกโปกฮา ที่บางครั้งก็ขุดเอาภาษาสมัยสุโขทัยมาใช้กัน ดังลั่นไปทั้งร้าน
หน้าจอตัวหนึ่งที่ตั้งใกล้กับประตูเข้าออกของร้านแยกออกมาจากเครื่องอื่นๆ
เด็กสาววัยรุ่นย่างเข้าสิบเก้า กำลังจดจ่อจ้องมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ของเธอเหมือนคนอื่นๆ คิ้วเข้มขมวดเป็นโบเข้าหากัน มือขวาจดอะไรขยุกขยิกลงบนสมุดเล่มเล็กของเธอ
“วุ้น! วุ้น!” เสียงเรียกชื่อเธอดังมาจากข้างในร้าน เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวร่างระหง ทั้งเสื้อผ้าและทรงผมทันสมัยแบบที่ใครๆมักบอกว่าเธอเปรี้ยวปรี๊ด แม้วัยจะล่วงเลยสามสิบมาหลายปีแล้ว เธอก็ยังดูยังสวยและสาวกว่าอีกหลายคนในวัยเดียวกัน หล่อนหอบข้าวของพะรุงพะรัง เดินมาที่โต๊ะที่เด็กสาวนั่งอยู่
“วันนี้พี่กลับก่อนนะ วุ้นไม่ต้องอยู่ดึกนะ ถ้าคนไม่มีแล้วปิดร้านได้เลย พี่ต้องรีบไปดูแม่พี่ วุ้นอย่าลืมปิดไฟ ปิดแอร์นะจ๊ะ แล้วล๊อกประตูดีๆละ โจรยิ่งชุมอยู่” หญิงสาวสั่งกำชับ
วุ้นละสายตาจากหน้าจอ ดวงตาเรียวสบตาคนพูดพร้อมส่งรอยยิ้มจางๆ “ค่ะ พี่เหมียว รับรอง วุ้นจะจัดการเรียบร้อยเลย” เด็กสาวรับคำ พี่เหมียวยกแขนมาดูนาฬิกาข้อมือ
“พี่ต้องรีบไปแล้วนะ เจอกันเย็นพรุ่งนี้นะจ๊ะ” เธอพูดจบหันไปผลักบานประตูกระจกออกไป เด็กสาวมองเธอเดินก้าวขึ้นรถเก๋งคันงามจนรถขับออกไปแล้วจึงหันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเธอต่อ วุ้นกำลังหาข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์อยู่
วุ้นใช้เวลาหลังเลิกเรียน เป็นเด็กเฝ้าร้านของพี่เหมียวมาเป็นเวลาเกือบสามเดือน บ้านวุ้นอยู่ในซอยข้างหลังถัดจากตึกแถวออกไป บ้านกึ่งปูนกึ่งไม้สองชั้นปลูกติดกับหลายๆหลังที่อัดกันอยู่ในบริเวณเนื้อที่จำกัด หลังคาสูงต่ำสลับไปมา ตัวบ้านคละสีตามแต่วัสดุที่เจ้าของมีปัญญาหามาได้ เป็นที่ๆพวกตึกสูงด้านนอกมักเรียกว่าพวกสลัมโน้น และขณะเดียวกันคนแถวบ้านวุ้นก็มักเรียกคนที่อยู่ตึกด้านหน้าว่าพวกตึกนู้ นเช่นกัน พี่เหมียวไม่ใช่คนพื้นเพของที่นี่มาก่อน เธอเพิ่งย้ายมาอยู่ได้เพียงหกเดือน ไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมแบ่งแยกตึกนู่นกับสลัมโน้นสักเท่าไร รู้แต่ว่าเธอเป็นติดใจรสชาติกับข้าวที่แม่วุ้นขายอาหารตามสั่ง วุ้นมักคอยเทียวมาส่งข้าวให้พี่เหมียวกับอีกห้องสองห้องข้างๆที่ถัดไปซึ่งเป็นบ่อนไพ่ขนาดกลางๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงหรือสลัมต่ำเตี้ย การพนันก็สามารถเซตอัพตัวเองเข้าไปได้ทุกที่
วุ้นสนิทกับพี่เหมียวจนเธอไว้เนื้อเชื่อใจจึงได้ชักชวนวุ้นมาช่วยทำงานคอยดูแลร้านและคอยเก็บเงินให้ พี่เหมียวไม่ค่อยมีเวลามากนักเพราะต้องคอยไปดูแลแม่ของเธอที่ป่วยเป็นอัมพาต ทีแรกแม่ของวุ้นเกือบจะไม่อนุญาต ให้วุ้นมาทำงาน
“นะ แม่ ให้วุ้นมาทำงานนะ วุ้นอยากหาเงินช่วยแม่ ” เด็กสาว อ้อนวอนแม่ของเธอ
“จะไปทำไม ช่วยแม่ขายอาหารก็พอแล้ว ไปทำงานข้างนอกเดี๋ยว ก็ไปเหมือนพี่เรา ”
“เอก เขาอยู่ช่วยแม่อยู่แล้วนี่จ๊ะ วุ้นสัญญาจะไม่ทำตัวเหลวไหล “
“โธ่พี่เพ็ญ ร้านนี้เป็นของเหมียวใครจะกล้า วุ้นมันเป็นเด็กดี รับรองว่าไม่มีปัญหาอย่างว่าหรอก เด็กมันอยากทำงานหาเงิน อีกอย่างมันไม่ได้ไกลจากบ้านพี่เลย” พี่เหมียว ช่วยพูดรับรองให้อีกแรง
ป้าเพ็ญทำหน้าลังเลอยู่พักหนึ่ง ด้วยรู้เรื่องหนาหูในทางไม่ดีเกี่ยวกับพี่เหมียว ชาวบ้านมักนินทาว่าเธอเป็นเมียน้อยเสี่ยคนหนึ่ง แต่เสียงนินทาเหมือนน้ำที่สาดลงพื้นแล้วมลายหายไป จึงอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ แต่ป้าเพ็ญรู้จักลูกสาวตัวเองดีพอ
“เอ้า อยากทำก็ทำ แต่ วุ้น ลูกต้องกลับมาบ้านตรงเวลานะ”
วุ้นกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ พ่อของวุ้นทำงานเป็นคนขับรถประจำทางสายหนึ่ง ส่วนแม่ของเธอขายอาหารตามสั่งที่บ้าน วุ้นมีพี่น้องสามคน เอก น้องชายคนเดียว กำลังเรียนอยู่มัธยมปลาย พี่แหวนพี่สาวคนโตออกจากบ้านไปมีครอบครัวตั้งแต่ยังเรียนไปจบ เพราะเหตุนี้แม่ของวุ้นจึงห่วงเธอนักหนา เพราะ อยากให้วุ้นเรียนหนังสือให้สูงที่สุด เหลืออีกปีวุ้นก็จบอนุปริญญาแล้ว
วันนี้ลูกค้ามากันไม่กี่คน ผลัดกันเข้าออกที่ร้าน วุ้นใช้เวลาจนเกือบหัวค่ำทำรายงานและอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ
“ตื้ด
. ตือ
” สัญญาณเตือนดังมาจากลำโพงของคอมพิวเตอร์ตัวที่เธอใช้อยู่” วุ้นเหลือบสายไปมองด้านล่างของจอ โปรแกรมสนทนาที่ได้รับความนิยมกระพริบสีเงิน พร้อมชื่อบางคนปรากฎอยู่
“ลีโอ วิล” วุ้นยิ้มดีใจ คนที่รอมาตรงตามเวลาเกือบทุกวัน
วิล : หวัดดี วันนี้วุ้นเป็นไงบ้าง
วิลพิมพ์ข้อความทักทายวุ่นเหมือนเคย วิลเป็นเพื่อนทาง อินเตอร์เน็ตของวุ้น ที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา วุ้นพิมพ์กลับไปว่า
วุ้น : สบายดีแล้ว คุณละ ทานข้าวหรือยัง
วิล : เรียบร้อยแล้ว กินกับเจ้า นิคกี้ แล้วคุณละ ไม่หิวหรือ
วุ้น : แม่ห่อข้าวมาให้กินรองท้อง แต่เราจะรอทานข้าวกับพ่อ
วิล : ดีจังคุณยังได้กินข้าวกับพ่อแม่ แต่ผมกินข้าวกับ สุนัขพันธ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์
มีน้ำเสียงน้อยใจในถ้อยคำที่อีกฝ่ายพิมพ์กลับมา
วุ้น : วิล ฉันบอกคุณแล้ว ท่านคงยุ่งอยู่ คุณน่าจะเข้าใจท่านบ้าง ท่านทำทุกอย่างเพื่อลูกชายคนเดียวของท่าน
วิล : โอเค โอเค ยัยจุ้น ผมจะพยายามเข้าใจ นับแต่พ่อผมตายไป แม่ต้องทำทุกอย่างให้ผมว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ ว่าแต่คุณกำลังทำอะไรอยู่
วุ้น : วิล วันนี้วุ้นคุยกับนาคุณได้ไม่นานนัก เพราะ วุ้นต้องเตรียมตัวสอบแล้วหาข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์ด้วย
วิล : ให้ผมช่วยนะ หาข้อมูลอะไร ผมพอทำได้
วุ้น : คุณว่างหรือ อืม ได้สิ แต่จะดีเหรอ เผื่อคุณเสียเวลาคุยกับสาวๆอยู่
วิล : ถ้าสาวๆคงมีแต่ยัยจุ้นอย่างวุ้นคนเดียวแหละ จริงไหม ตกลงคุณหาเรื่องอะไรอยู่
วุ้นยิ้มเล็กยิ้มน้อยบนหน้าจอเพียงคนเดียว จนลูกค้าวัยรุ่นข้างๆอดชำเลืองมองไม่ได้ จริงอยู่แม้วุ้นไม่ค่อยแต่งเนื้อแต่งตัว แต่เธอก็ดูสดใสร่าเริงชวนมอง วุ้นพิมพ์ข้อความบอกชื่อเรื่องที่เธอต้องการ ทั้งสองคุยกันอยู่นานจนเวลาเกือบจะสามทุ่ม
วุ้น : เดี๋ยวก่อนนะ ลูกค้า กำลังจะไปนะ
เด็กชายคนหนึ่ง กำลังลุกออกจากหน้าจอตรงมาที่วุ้น เพื่อจ่ายค่าชั่วโมง วุ้นละสายตาจากหน้าจอ เพื่อทำหน้าที่ของตน เธอมองไปนาฬิกาที่แขวนอยู่
วุ้น : วิลฉันต้องกลับแล้ว ได้เวลาปิดร้านแล้ว
วิล : เราเจอกันพรุ่งนี้นะ บายๆ หลับฝันดีนะ
วุ้น : เช่นกัน วิล อย่าคิดมากนะ บาย บาย คะ
วุ้นปิดเครื่อง แล้วตรวจดูความเรียบร้อย ก่อน ปิดไฟ และ แอร์ ตามคำสั่งของพี่เหมียว วุ้นเลื่อนประตูเหล็กด้านหน้าร้าน ลัดเลาะไปตามริมฟุตบาท เข้าซอยกลับไปยังบ้านของเธอ
คืนนี้ เป็นอีกคืนหนึ่งที่เธอรู้สึกสบายใจ และเป็นแบบนี้มาได้เกือบเดือนนับตั้งแต่เธอได้รู้จักกับ วิล เมื่อครั้งแรกที่เธอหัดใช้โปรแกรมสนทนา หรือภาษาที่ชาวเนตเรียกว่า chat พี่เหมียวคอยเตือนวุ้นนักหนาว่าโลกไซเบอร์บางอย่างเป็นเสมือนโลกจำลองที่ปราศจากความจริงใจ ให้เล่นเพื่อความสนุกก็พอ แต่วุ้นมีความรู้สึกว่าวิล ไม่เหมือนคนอื่น วิลไม่เคยพูดจาจีบเธอทำนองชายจีบหญิง ไม่เคยขอรูปวุ้นไปสะสมไว้อวดใคร วิลแค่อยากให้ใครคนหนึ่งรับฟังเรื่องในใจของเขาเรื่องที่เขาไม่รู้จะระบายกับใคร วุ้นนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอน เธอหลับตาลงนึกถึง วันแรกที่ ได้คุยกับวิลเมื่อปลายเดือนก่อน
.
วิล : Hi เราขอคุยด้วยคนได้ไหม แบบว่าไม่มีเพื่อนแล้วเหงามาก
วุ้น : ไง เหงาก็มาหาสาวไว้จีบแก้เซ็ง หรือไงคะ
วิล : จีบ ! ผมไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่ในสมองเลย ให้ตายเถอะ และผมก็ไม่เคยเล่นมาก่อนด้วย
เสียด้วย จริงๆนะ ถ้าผมไม่ถูกปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ ผมคงไม่ได้มาหาเพื่อนคุยหรอก
วุ้น : ฉันจะพยายามเชื่อนะ ว่าแต่ดูเหมือนคุณไม่สบายใจ อยากระบายอะไรออกมาบ้างหรือเปล่า
วิล เริ่มบทสนทนาแรกเรื่องครอบครัวของเขา เขารู้สึกว่า ราวกับว่าภูเขาที่จุกอยู่ในอก ถูกนำออกไป วุ้นก็รู้สึกภูมิใจว่าตนเองกำลังทำตัวเป็นจิตแพทย์ รับฟังปัญหาจากผู้ป่วย วิลไม่มีความสุขนัก เขาบอกกับวุ้นเสมอว่าเขาเบื่อกฎเกณฑ์ที่แม่กำหนดไว้ และบางครั้งอดขำไม่ได้เมื่อวิลอิจฉาเธอที่มีอิสระ ทำอะไรก็ได้
ความคิดเห็น