ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ... ♥ Intro ♥ ...
cinna mon
This is the real world, not a game.
ที่นี่คือโลกความจริงไม่ใช่เกม
I have two or three people live in the game.
ไม่มีใครมีสองชีวิตหรือสามชีวิตเหมือนในเกม
There is only one life.
มีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น
You do the same.
คุณเองก็เหมือนกัน
Although there are two options.
ถึงจะมีตัวเลือกถึงสอง
But you just have to choose only one.
แต่คุณก็ต้องเลือกเพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น
ฝ่ามือเรียวบางนาบทับแผ่นกระจกหนาส่งไอเย็นเยียบผ่านฝ่ามือ ในดวงตาสะท้อนภาพเม็ดฝนที่โปรยปรายอย่างหนัก ภาพใบหน้าอันคุ้นเคยของตัวเองทาบฉายบนบานกระจกใสภายในสนามบิน
มืออีกข้างยกขึ้นขยับผ้าพันคอให้แนบรั้งลำคอยิ่งขึ้นปกป้องความหนาวเย็น ริมฝีปากพ่นไอควันออกมาก่อนนัยน์เนตรใสจะไล่มองตามเครื่องบินสีขาวสะอาดลายสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของสนามบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า...
สายต่อไปก็จะได้เวลาที่เธอต้องจากที่แห่งนี้ไปแล้ว...ตลอดกาล
หยาดน้ำตาที่เอ่อเต็มทำให้ทัศนียภาพบิดเบลอไปหมด เธอก้มหน้าลง มือปาดน้ำตาทิ้งลวก ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมาใหม่...รองเท้าคู่โปรดพาร่างผันกายเข้าสู่ช่องทางแสกนกระเป๋า
จบแล้ว...ทุกอย่างมันจบแล้ว
"คุณคะ กรุณาวางกระเป๋าด้วยค่ะ"
พนักงานสาวพูดอย่างนอบน้อมเมื่อเห็นคุณหนูคนสวยตรงหน้ายังคงเหม่อ หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนพยักหน้าแล้วปลดกระเป๋าเป้เดินทางเต็มรูปแบบออกจากบ่า มองมันไหลตามสายพานเพื่อเตรียมโหลดเข้าใต้เครื่อง
"เธอ..."
เสียงหวานอันคุ้นเคยดังขึ้นข้างกาย หญิงสาวหมุนกายกลับไปก่อนอึ้งค้าง...หญิงสาวเครื่องหน้าสวยสไตล์เปรี้ยวแต่แอบแฝงความหวานไว้อย่างลงตัว นัยน์ตาคู่ที่เธอคุ้นเคยบดบังด้วยแว่นชาอ่อนกำลังมองมาที่หญิงสาวอย่างตกตะลึง...
แล้วก็เบื้องหลังเธอ...เขา
หญิงสาวแย้มยิ้มฝืน ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงหลบสองหนุ่มสาวตรงไปที่เคาท์เตอร์ เธอรับบอร์ดิ้งพาสมาก่อนกวาดตามองผ่าน ๆ แล้วเก็บมันใส่กระเป๋าสะพายข้าง หญิงสาวเดินหลบไปข้างซ้าย เธอแอบเหลืองมองคนคุ้นเคยทั้งสองก่อนหันกลับมา
พวกเขาจะมาอีกทำไม...แค่นี้ยังไม่พอหรือไง
ตะกร้าใบเล็กบรรรจุของมีค่าของหญิงสาวเลื่อนตามสายพานผ่านเครื่องแสกน เธอก้มหน้าลงแล้วเอ่ยเร่งพนักงานเล็กน้อยอย่างมีมารยาท พนักงานสาวพยักหน้ารับ เครื่องแสกนหน้าตาคุ้นชินเลื่อนผ่านร่างเล็กบางก่อนจะปล่อยเธอออกไป หญิงสาวล้วงบอร์ดิ้งพาสขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่แล้วยื่นให้พนักงาน ชายหนุ่มรับไปตรวจดูก่อนประทับตราผ่าน หญิงสาวก้มหน้าแล้วเดินผ่านเข้าไปเพื่อนั่งรอเวลา
♪ To the right. Or better.The middle half is the emotional desolation... ♪
เสียงดนตรีคุ้น ๆ ดังขึ้น เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดปิดเครื่อง หากแต่เบอร์ที่โทรเข้ามากลับทำให้เธอชะงัก...ดวงตาสองข้างหม่นแสงลงเล็กน้อยก่อนจะกดตัดสายทิ้ง
'私が私'
(คนที่ฉันรัก)
08X-XXX-XXXX
เบอร์ขึ้นสายที่ไม่ได้รับเด่นบนหน้าจอ นัยน์ตาฉายแววเศร้าออกมาชั่วครู่ก่อนหญิงสาวจะหลับตาลง มือกดเข้าตัวเลือกลบรายชื่อทิ้งเล็กน้อยพร้อมกับเสียงประกาศให้ขึ้นเครื่อง
พอซักที...ลืมได้ซักทีเถอะ...
ดวงตาทอดมองออกนอกหน้าต่างบานเล็กโดยไม่สนใจคนที่จะมานั่งข้างกาย เสียงพูดของแอร์โฮสเตสเหมือนเสียงว่าง ๆ แว่วผ่านหูไป เธอกดปิดโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กในขณะที่หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา
เสียงประกาศว่าเครื่องบินกำลังจะขึ้นทำให้หญิงสาวดึงกล้องลงจากการถ่ายภาพ เสียงครือคราดทำให้หูอื้อไปชั่วขณะ หญิงสาวเอนหลังพิงเบาะแล้วหลับตาลง
แวบหนึ่ง...เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่หางตาเหลือบเห็นบางสิ่งที่ทำให้หัวใจกระตุกวูบ เธอหันข้าง มือสองข้างแนบข้างกระจกก่อนเพ่งมอง
ภาพของคนที่เธอรู้จักคนหนึ่งวิ่งมาทางเครื่องบินอย่างอาจหาญพร้อมป้องปาก เสียงตะโกนที่หากไม่ถูกเสียงเครื่องบินกลบก็คงจะได้ยินที่เขาเอ่ยออกมาสามารถอ่านปากได้เป็น...
ชื่อของเธอ
เธอเลื่อนปิดหน้าต่างลงก่อนหันใบหน้าออกมา...แต่ก็ไม่อาจกลบหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอได้อยู่ดี หญิงสาวก้มหน้าต่ำลง ผ้าพันคอถูกยกขึ้นซับน้ำตาเบา ๆ ก่อนเมื่อเครื่องบินบินไปได้สักพักเธอจะเปิดหน้าต่างออก
ภาพที่สะท้อนเข้ามาคือที่ ๆ เธออยู่มานับสิบปี นิ้วเรียวยาวลูบกระจกใสราวกับจะสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้ มือสองข้างวางไว้ข้าง ๆ ขอบหน้าต่างก่อนหญิงสาวจะยิ้มขมขื่น
ลาก่อน...นามิโมริ
ลาก่อน...ทุกคน...
มืออีกข้างยกขึ้นขยับผ้าพันคอให้แนบรั้งลำคอยิ่งขึ้นปกป้องความหนาวเย็น ริมฝีปากพ่นไอควันออกมาก่อนนัยน์เนตรใสจะไล่มองตามเครื่องบินสีขาวสะอาดลายสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของสนามบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า...
สายต่อไปก็จะได้เวลาที่เธอต้องจากที่แห่งนี้ไปแล้ว...ตลอดกาล
หยาดน้ำตาที่เอ่อเต็มทำให้ทัศนียภาพบิดเบลอไปหมด เธอก้มหน้าลง มือปาดน้ำตาทิ้งลวก ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมาใหม่...รองเท้าคู่โปรดพาร่างผันกายเข้าสู่ช่องทางแสกนกระเป๋า
จบแล้ว...ทุกอย่างมันจบแล้ว
"คุณคะ กรุณาวางกระเป๋าด้วยค่ะ"
พนักงานสาวพูดอย่างนอบน้อมเมื่อเห็นคุณหนูคนสวยตรงหน้ายังคงเหม่อ หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนพยักหน้าแล้วปลดกระเป๋าเป้เดินทางเต็มรูปแบบออกจากบ่า มองมันไหลตามสายพานเพื่อเตรียมโหลดเข้าใต้เครื่อง
"เธอ..."
เสียงหวานอันคุ้นเคยดังขึ้นข้างกาย หญิงสาวหมุนกายกลับไปก่อนอึ้งค้าง...หญิงสาวเครื่องหน้าสวยสไตล์เปรี้ยวแต่แอบแฝงความหวานไว้อย่างลงตัว นัยน์ตาคู่ที่เธอคุ้นเคยบดบังด้วยแว่นชาอ่อนกำลังมองมาที่หญิงสาวอย่างตกตะลึง...
แล้วก็เบื้องหลังเธอ...เขา
หญิงสาวแย้มยิ้มฝืน ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงหลบสองหนุ่มสาวตรงไปที่เคาท์เตอร์ เธอรับบอร์ดิ้งพาสมาก่อนกวาดตามองผ่าน ๆ แล้วเก็บมันใส่กระเป๋าสะพายข้าง หญิงสาวเดินหลบไปข้างซ้าย เธอแอบเหลืองมองคนคุ้นเคยทั้งสองก่อนหันกลับมา
พวกเขาจะมาอีกทำไม...แค่นี้ยังไม่พอหรือไง
ตะกร้าใบเล็กบรรรจุของมีค่าของหญิงสาวเลื่อนตามสายพานผ่านเครื่องแสกน เธอก้มหน้าลงแล้วเอ่ยเร่งพนักงานเล็กน้อยอย่างมีมารยาท พนักงานสาวพยักหน้ารับ เครื่องแสกนหน้าตาคุ้นชินเลื่อนผ่านร่างเล็กบางก่อนจะปล่อยเธอออกไป หญิงสาวล้วงบอร์ดิ้งพาสขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่แล้วยื่นให้พนักงาน ชายหนุ่มรับไปตรวจดูก่อนประทับตราผ่าน หญิงสาวก้มหน้าแล้วเดินผ่านเข้าไปเพื่อนั่งรอเวลา
♪ To the right. Or better.The middle half is the emotional desolation... ♪
เสียงดนตรีคุ้น ๆ ดังขึ้น เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดปิดเครื่อง หากแต่เบอร์ที่โทรเข้ามากลับทำให้เธอชะงัก...ดวงตาสองข้างหม่นแสงลงเล็กน้อยก่อนจะกดตัดสายทิ้ง
'私が私'
(คนที่ฉันรัก)
08X-XXX-XXXX
เบอร์ขึ้นสายที่ไม่ได้รับเด่นบนหน้าจอ นัยน์ตาฉายแววเศร้าออกมาชั่วครู่ก่อนหญิงสาวจะหลับตาลง มือกดเข้าตัวเลือกลบรายชื่อทิ้งเล็กน้อยพร้อมกับเสียงประกาศให้ขึ้นเครื่อง
พอซักที...ลืมได้ซักทีเถอะ...
ดวงตาทอดมองออกนอกหน้าต่างบานเล็กโดยไม่สนใจคนที่จะมานั่งข้างกาย เสียงพูดของแอร์โฮสเตสเหมือนเสียงว่าง ๆ แว่วผ่านหูไป เธอกดปิดโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กในขณะที่หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา
เสียงประกาศว่าเครื่องบินกำลังจะขึ้นทำให้หญิงสาวดึงกล้องลงจากการถ่ายภาพ เสียงครือคราดทำให้หูอื้อไปชั่วขณะ หญิงสาวเอนหลังพิงเบาะแล้วหลับตาลง
แวบหนึ่ง...เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่หางตาเหลือบเห็นบางสิ่งที่ทำให้หัวใจกระตุกวูบ เธอหันข้าง มือสองข้างแนบข้างกระจกก่อนเพ่งมอง
ภาพของคนที่เธอรู้จักคนหนึ่งวิ่งมาทางเครื่องบินอย่างอาจหาญพร้อมป้องปาก เสียงตะโกนที่หากไม่ถูกเสียงเครื่องบินกลบก็คงจะได้ยินที่เขาเอ่ยออกมาสามารถอ่านปากได้เป็น...
ชื่อของเธอ
เธอเลื่อนปิดหน้าต่างลงก่อนหันใบหน้าออกมา...แต่ก็ไม่อาจกลบหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอได้อยู่ดี หญิงสาวก้มหน้าต่ำลง ผ้าพันคอถูกยกขึ้นซับน้ำตาเบา ๆ ก่อนเมื่อเครื่องบินบินไปได้สักพักเธอจะเปิดหน้าต่างออก
ภาพที่สะท้อนเข้ามาคือที่ ๆ เธออยู่มานับสิบปี นิ้วเรียวยาวลูบกระจกใสราวกับจะสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้ มือสองข้างวางไว้ข้าง ๆ ขอบหน้าต่างก่อนหญิงสาวจะยิ้มขมขื่น
ลาก่อน...นามิโมริ
ลาก่อน...ทุกคน...
คนทุกคนล้วนแต่มีความทรงจำให้นึกถึง
ทั้งงดงามให้หวนคำนึงและเลวร้ายให้หวนคิดถึง
เป็นเหมือนบทละคร ที่ต้องมีครบทุกฉากทุกตัวละคร
ขึ้นอยู่กับว่าฉากจบจะเป็นอย่างไรที่ทุกคนจับตามอง
ละครที่เคยดูคงจบได้อย่างงดงามทุกเรื่อง ๆ
หากแต่ในชีวิตจริงของมนุษย์เรานั้นน่ะ...บางครั้ง
สิ่งที่หวังก็ไม่ได้งดงามอย่างที่วาดฝันไว้หรอกนะ..
เพราะ 'ความจริง' ก็คือความจริง ไม่ใช่ 'นิยาย'
ที่อะไรมันจะเรียบง่ายหรือพลิกผันได้อย่างเหลือเชื่อ
หรือว่ามีปาฏิหาริย์ที่ทำให้ทั้งสองคนมาพบเจอ
เจอเหตุการณ์เลวร้ายร่วมกันแล้วก็รักกัน
เพราะ 'รัก' ไม่ใช่การทิ้งทุกสิ่งเพื่อคนที่รักอย่างแท้จริง...
ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่หวั่นไหวไปกับ 'ตัวเลือก'
ทุกสิ่งมีเส้นทางเพียงหนึ่ง...เพียงแค่จะเลือก 'เดิน' หรือ 'หลีกหนี'
ถ้าเป็นคุณ...คุณจะเลือกอะไรล่ะ?
ทั้งงดงามให้หวนคำนึงและเลวร้ายให้หวนคิดถึง
เป็นเหมือนบทละคร ที่ต้องมีครบทุกฉากทุกตัวละคร
ขึ้นอยู่กับว่าฉากจบจะเป็นอย่างไรที่ทุกคนจับตามอง
ละครที่เคยดูคงจบได้อย่างงดงามทุกเรื่อง ๆ
หากแต่ในชีวิตจริงของมนุษย์เรานั้นน่ะ...บางครั้ง
สิ่งที่หวังก็ไม่ได้งดงามอย่างที่วาดฝันไว้หรอกนะ..
เพราะ 'ความจริง' ก็คือความจริง ไม่ใช่ 'นิยาย'
ที่อะไรมันจะเรียบง่ายหรือพลิกผันได้อย่างเหลือเชื่อ
หรือว่ามีปาฏิหาริย์ที่ทำให้ทั้งสองคนมาพบเจอ
เจอเหตุการณ์เลวร้ายร่วมกันแล้วก็รักกัน
เพราะ 'รัก' ไม่ใช่การทิ้งทุกสิ่งเพื่อคนที่รักอย่างแท้จริง...
ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่หวั่นไหวไปกับ 'ตัวเลือก'
ทุกสิ่งมีเส้นทางเพียงหนึ่ง...เพียงแค่จะเลือก 'เดิน' หรือ 'หลีกหนี'
ถ้าเป็นคุณ...คุณจะเลือกอะไรล่ะ?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น