ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในรอยภพ (พีเรียดไทย) | มี E-book

    ลำดับตอนที่ #5 : กลับบ้านเก่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.61K
      25
      13 เม.ย. 67

    พ้นเขตป่าเข้าสู่ชุมชน กลิ่นแก้วก็ถูกแทนด้วยกลิ่นควันไฟจากอาหารย่างขายตามรายทาง ถนนเส้นมุ่งหน้าไปบ้านที่ดุจดาวเช่าอยู่ มีรถราแออัดพอสมควร สองข้างทางเต็มด้วยร้านค้า ร้านอาหาร แถมวันนี้มีตลาดนัดที่กรองแก้วขับไปมองวิถีชีวิตผู้คนไป นกตัวเล็กตัวน้อยทยอยบินกลับรังแล้ว คนต่างถิ่นเลยขับช้าลงเพื่อมองทิวทัศน์ที่เสาไฟสองฝั่งเพิ่งจะสว่างเมื่อแสงตะวันลดเลือน

    ขับมาอีกไม่นาน ยานพาหนะคันย่อมก็จอดอยู่หน้าบ้านเช่าชั้นเดียวที่อยู่ท้ายซอย ประตูรั้วเปิดกว้างต้อนรับในทันที คนเพิ่งเดินทางมาถึงไม่ทันจะออกมา เจ้าของร่างเพรียวก็วิ่งออกมารอท่า พอเห็นว่าประตูรถเปิด ครูสาวก็กางแขนคว้ากอดเข้าไว้

    “โอยแก เป็นไง!” กรองแก้วร้องถามขณะกอดเพื่อนกลับอย่างคิดถึงไม่ต่าง เจอกันครั้งล่าสุดคือตอนดุจดาวมาเยี่ยมช่วงเธอรักษาตัวอยู่กรุงเทพฯ และจากนั้นก็ได้แต่ติดต่อกันทางโทรศัพท์

    “ฉันเพิ่งถึงบ้านเนี่ยกำลังจะโทรหาแก”

    “อ๋อ ถ้าไม่มีใครผ่านมาช่วย ฉันคงได้รอแกจนค่ำ”

    “โทษทีขี่รถอยู่ ทำไม มาต่างจังหวัดรอบปี รถไม่ยอมวิ่งเลย?” ดุจดาวเพิ่งรู้เรื่องเมื่ออ่านข้อความ

    “รถรู้ว่าฉันมาหาแกเลยถ่วงเวลาน่ะสิ ดีนะที่เจอตายายใจดีมาช่วยไม่งั้นฉันแย่แน่ๆ บอกเลย”

    ดุจดาวงุนงงว่าเธอพูดถึงตายายที่ไหน

    “น่าจะคนแถวนั้นมั้ง ออกมาจากป่า กำผักเต็มมือ”

    “อ๋อ ที่ฟันดำเคี้ยวหมากใช่มะ”

    “ใช่” กรองแก้วขมวดคิ้วเมื่อเพื่อนพูดเหมือนรู้ ก่อนเธอจะนึกได้ว่าตายายกับดุจดาวน่าจะรู้จักกัน ไม่งั้นยายคงไม่เล่าว่าหลานของตนเองก็เป็นครูอยู่โรงเรียนเดียวกับเพื่อนของเธอ

    “ตายายครูกรินแหง่ แกเห็นบ้านไม้หลังใหญ่ๆสวยๆ ก่อนที่จะถึงทุ่งนาไหมล่ะ นั่นละ บ้านตากับยาย เห็นแต่งตัวแบบนั้น รวยเด้อ”

    คนได้รับความช่วยเหลือจากผู้สูงวัยที่ที่แท้มีฐานะร่ำรวยถึงกับนิ่งไปอย่างคิดไม่ถึง เพราะตายายติดดินกันเหลือเกิน

    “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” ดุจดาวบอกแล้วช่วยขนกระเป๋ากับของฝากมาเก็บในบ้าน คนต่างถิ่นเดินทางมาถึงตอนเย็น ก็เพราะป้ามัวแต่ทำขนมให้ดุจดาวที่เคยชมว่าอร่อย เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้ว คนมาต่างจังหวัดจึงออกมามองหน้าบ้านที่มีคนเฒ่าคนแก่นั่งเล่น นั่งคุยกันเต็มไป บ้างพาลูกหลานเดินเล่นและป้อนข้าว มีหมาแมวนั่งๆ นอนๆ ตามบ้านแต่ละหลัง บางจุดเริ่มมีแสงนีออนสาดส่องออกมาผสมกับฟ้าใกล้มืด มองแล้วเธอคิดถึงบ้านที่อุทัยธานี

    ตั้งแต่มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ กรองแก้วก็ไม่ได้กลับบ้าน ปีก่อนจะกลับก็มาประสบอุบัติเหตุก่อนจนกลายเป็นว่า พ่อต้องเดินทางมาหาลูกสาวคนเดียวอย่างเธอแทน

    วันนี้เป็นอะไรจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

    “แกเข้าใจเลือกที่อยู่นะ ใกล้เมืองแต่สงบไม่วุ่นวาย”

    “ก็ครูกรินแหละช่วยหา ค่าเช่าไม่แพง แถมอยู่ใกล้โรงเรียนอีก เดินทางสะดวก ทำไมเหรอ แกชอบ?”

    กรองแก้วพยักหน้า รู้สึกคิดถึงบ้านแปลกๆ บอกไม่ถูก จู่ๆ ก็ใจหายจนเธอต้องชวนเพื่อนคุยปรับอารมณ์ “แกสนิทกับครูกรินเหรอ เขาถึงช่วยดูบ้านเช่าให้น่ะ ใช่คนนี้รึเปล่าที่ว่ามาสมัครครูพร้อมแก?”

    เธอถามเพื่อนในเชิงว่ามีหนุ่มติดกับหรือไง

    ดุจดาวร้องโวยทันใด “หยุดคิดเลย ครูกรินไม่ใช่สเปคฉันย่ะ ไทยๆ อย่างนั้นน่ะสเปคแกมากกว่า ตายายไม่พูดให้ฟังรึไง”

    “ก็บอกว่าหลานเป็นครู”

    ดุจดาวไม่เชื่อว่ามีแค่นี้เลยรอให้พูดอีก

    “ก็เห็นว่าหลานจะสามสิบแล้ว แต่ยังไม่มีเมียเลย”

    “นั่นไง สงสัยตายายจะชอบแก ถึงเล่าให้ฟัง” ดุจดาวคุยเล่นเห็นเป็นเรื่องสนุก “ครูกรินน่ะยังโสด โสดจนตายายแกกลัวว่าจะไม่ได้อุ้มเหลนเลยชอบหาสาวให้น่ะ”

    “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน” กรองแก้วทำไม่รู้ไม่ชี้ เธอยังยืนเม้าท์มอยกับเพื่อนที่หน้าบ้านซึ่งฟ้ามืดแล้ว เมื่อนั้นถึงเพิ่งนึกได้ว่าลืมโทร.หาป้าที่เสียงเรียกเข้าดังพอดี เลยเป็นไปตามคาดคือถูกบ่นหูชา ทำเอาคนเพิ่งมาถึงจุดหมายปลายทางเหนื่อยกว่าเดิม ที่ป้าทำเหมือนเธอเป็นเด็กสี่ห้าหกขวบจะไปไหนมาไหนต้องตาม

    พอวางสายแล้ว ดุจดาวผู้ได้รับฟังอยู่ด้วยเลยยิ้มเจื่อน

    “ใจเย็นๆ แกเป็นหลานคนเดียว ป้าอรคงห่วงแหละ” ครูสาวได้ทีเปลี่ยนบรรยากาศมาคุยเรื่องตนเองเพิ่งถึงบ้านยังไม่ได้ทำกับข้าว เลยออกไปหากินข้างนอกกันน่าจะดีกว่า

    “อ้าว แกเก็บดอกไม้มาเหรอไงแก้ว”

    “อืม ก็ตรงที่รถเสียไง” กรองแก้วตอบเพื่อน

    “แกไม่รู้เหรอว่าดอกไม้พวกนี้ผีชอบอะ เก็บมาทำไมวะเนี่ย!”

    คำว่า ‘ผี’ ทำให้คนเก็บดอกแก้วมางุนงงไม่รู้จะพูดอะไรขณะที่คนทัก มองจ้องดอกไม้เหมือนจะบอกว่าเอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้

    “ป่านั่นน่ะ คนเก่าแก่ที่นี่เขาเรียกว่าป่าแก้ว มีเรื่องเล่าว่าวันดีคืนดีก็มีคนได้ยินเสียงเหมือนคนประดาบ…”

    ประ? ฟันดาบน่ะเหรอ

    “แล้วไง” กรองแก้วไม่เข้าใจจึงถาม

    “เขาว่าผีทหารโบราณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดน่ะสิ”

    “…”

    “ฉันถึงย้ำแล้วย้ำอีกให้แกรีบมา”

    ทหารโบราณ? กรองแก้วอึ้ง ได้แต่มองเพื่อนที่ดูจะกลัวดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ จนเธอต้องเอาออกมาวางที่โต๊ะหินอ่อน ไม่นำขึ้นรถมาด้วยซึ่งดุจดาวขออาสาขับเพราะชำนาญเส้นทางกว่า

    คนขับรถไกลมาจากกรุงเทพฯ เลยได้พัก นั่งเบาะข้างอยู่เฉยๆ

    “เดี๋ยวถ้าเจอครูกรินที่ตลาด ฉันแนะนำให้รู้จัก”

    “แกก็ขยันแนะนำใครให้ฉันรู้จักจังนะ พอเหอะ” คนยังโสดขอพูดตามตรงกับเพื่อนผู้ชอบทำตัวเป็นแม่สื่อ แต่ครั้งนี้เธอคงต้องขอโทษทีที่ไม่สามารถมองผู้ชายคนไหนได้อีก ในหัวมีแต่หน้าหนุ่มโบราณที่จะว่าไปการฝันเห็นมาเป็นปีๆ ก็ทำให้กรองแก้วสองจิตสองใจ ไม่อยากไปพบจิตแพทย์อย่างที่ลั่นปากไว้

    ชักกลัว ‘สิง’ จะหายไปจากฝันอย่างดุจดาวบอก

    “ฮั่นแน่ อย่าบอกนะว่าแกมีใครในใจแล้ว บอกมาเดี๋ยวนี้เลย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×