ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในรอยภพ (พีเรียดไทย) | มี E-book

    ลำดับตอนที่ #23 : แก้วไม่เหมือนเดิม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.36K
      12
      13 เม.ย. 67

    แผ่นฟ้ามืดมิดสนิทลงพร้อมกับมื้อค่ำที่หมด เมื่อนั้นสิงถึงออกมานั่งก่อไฟไล่ยุงกับพ่อดั่งทุกค่ำ โดยมีกลิ่นแก้วลอยมาให้นึกถึงหญิงผู้จากไปร่วมยี่สิบปีที่ทุกวันนี้เขาได้แต่นึกภาพตามคำบอกของพ่อ ว่าแม่เป็นหญิงงามและมีฝีมือเย็บปักถักร้อย

    สไบผืนนั้นที่ให้ว่าที่แม่เรือนไปก็เป็นของแม่

    ต้นแก้วก็ยังเป็นเสมือนตัวแทนแม่ที่ชอบดอกแก้ว

    “ข้าน่ะเจอแม่เอ็งอยู่แถวท่าสิบเบี้ย”

    พ่อเล่าเรื่องแม่รอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ แต่เขาฟังได้ไม่เคยคิดเบื่อ

    “เอ็งน่ะได้แม่มาเยอะนะไอ้สิง รู้หรือไม่วะ”

    พ่อเคยบอกแล้วว่าเขาหน้าตาคล้ายแม่ โดยเฉพาะนัยน์ตา…จนเขาเติบใหญ่จะมีเมียอยู่แล้ว พ่อก็ยังระลึกนึกถึงแม่ไม่คิดมีใครอื่น เขาอยากเป็นอย่างพ่อ จะรักมั่นแต่หญิงเดียวบ้าง

    “แหวนนี้แม่เอ็งใส่ติดตัวมิเคยถอด เก็บไว้ให้ลูกให้เมียเอ็งเสีย แก้วมันไม่คิดรังเกียจดอกกระมังของคนตาย”

    “ไม่ดอกจ้ะ เมื่อวานแก้วยังเอาสไบแม่ที่ฉันให้มาห่มอยู่เลย” สิงบอกเล่าพ่อให้ได้รู้ ก่อนจะเพ่งมองพินิจพิจารณาแหวนทองเกลี้ยงที่พ่อให้และเขาเพิ่งรับมาเก็บไว้

    จากที่ฟังมาหลายครา ก็ชักอยากจะรู้ว่าแม่มีที่มาที่ไปอย่างไรถึงมีของมีค่าคือ ‘ทอง’ ติดตัว หนำซ้ำยังมีฝีมือประหนึ่งคนถูกฝึกฝนอย่างดีด้วย พ่อเคยเล่าแล้วว่าแม่เหมือนหนีกระไรมา ที่พอวิ่งชนกับพ่อเข้าก็เป็นลมล้มพับ ไม่รู้มีกระไรเกิดหลังจากนั้น เพราะพ่อไม่ได้เล่า บอกแต่ว่ามีจิตสมัครรักใคร่กันจึงอยู่กินจนมีลูก

    แต่วันที่เขาเกิดมา กลับเป็นวันเดียวกันกับที่แม่จากไป…

    หมดลมทันทีที่คลอดเขา หมอตำแยบอกพ่อว่าอย่างนั้น ร่วมเรือนกันได้ไม่นานก็ทิ้งให้พ่ออยู่เลี้ยงลูกลำพัง ที่สิงไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนและไม่รู้กระทั่งตายายคือผู้ใด มีลมหายใจอยู่หรือไม่

    เขาไม่เคยรู้กระไรเกี่ยวกับตนเองเลย และคงไม่อาจถามจากใครได้แล้วเพราะมีเพียงแม่ที่มีคำตอบ

    “ถ้ารู้ว่าเอ็งกำลังจะมีเหย้าเรือน แม่เอ็งคงดีใจ ทิพย์มันคงบุญเยอะถึงมิต้องมาอยู่ใช้เวรใช้กรรมอย่างเราๆ” พ่อบอกแล้วมองไปทางต้นแก้วอย่างรำลึกนึกถึงแม่ จนสิงเองพลอยนึกถึงหญิงอีกคนไปด้วย เห็นดอกไม้สีขาวทีไรนึกถึงทุกทีเพราะเจ้าตัวชื่อเหมือนดอกไม้ชนิดนี้

    “พ่อว่าแก้วเปลี่ยนไปหรือไม่ ตั้งแต่ฟื้นคืนจากจมน้ำเมื่อวาน ฉันว่าแก้วมิใคร่จะเหมือนเดิมเลยจ้ะ”

    “มิใช่ว่ามันยังขวัญหายที่จมน้ำอยู่หรือไร”

    “…”

    สิงไม่รู้จะบอกอย่างไร ก็อาจเป็นไปได้ แต่ไม่รู้ซี เขาสัมผัสได้ว่าแก้วไม่เหมือนเก่าเลยสักนิด ทั้งพูดจาแปร่งหู กิริยาท่าทางก็ผิดแผก โดยเฉพาะที่พูดกับพริ้มเมื่อเช้าซึ่งฟังอย่างไรก็ไม่ใช่แก้วคนเก่าที่เขาเคยรู้จักมาตั้งแต่เล็ก พอดีก่อนไปค่าย เขาแวะไปตลาด กะว่าจะไปหา แต่กลับต้องปลีกตัวออกมาอย่างเงียบเชียบ

    ทันไปเห็นและได้ยินอะไรบางอย่างจนมิอยากเชื่อหูตนเองที่ขนาดมุกว่าแก่นนัก ยังตกใจกับคำพูดคำจาของแก้วว่า

    ‘ไม่ต้องห่วงดอกนะจ๊ะ เดี๋ยวค้าขายเสร็จ ฉันจะบีบนวดให้พี่สิงเอง จะทั้งนวดทั้งคลึง ทั้งคลายเส้นให้ด้วยเลยเสร็จสรรพ'

    เหตุใดช่างหน้าตาเฉยกับการพูดจาสองแง่สองง่ามอย่างนั้น หรือหึงหวงกันจึงเป็นอย่างนี้ แววตาก็มิเหมือนเก่า มองแล้วมีรอยตระหนกตั้งแต่เมื่อวาน หรือจะยังขวัญหายจากจมน้ำจมท่ามาจริงๆ

    “พ่อครูว่าอย่างไรเรื่องออกเรือน”

    “ไม่ได้ว่ากระไรจ้ะ ดีใจกันนัก แม่แนบยิ่งดีใจ”

    “อยากอุ้มหลานกันเต็มแก่แล้วกระมัง”

    “คงเป็นดังนั้นกระมังจ๊ะพ่อ”

    พ่อครูกับแม่แนบแก่มากแล้ว คงอยากมีหลานอุ้มเป็นธรรมดา

    “แล้วพี่ชายเอ็งล่ะ เขาว่าอย่างไร” พ่อมองตาคล้ายระแคะระคายบางเรื่อง แต่ไม่พูดกับเขาตามตรง…

    “พี่กล้าก็…ยินดีกับฉันจ้ะ” สิงตอบตามจริง เมื่อเช้านี้เขาไม่ได้เล่าพี่ชายบุญธรรมเรื่องแก้วพลัดตกน้ำท้ายวัดเมื่อวาน

    เพราะพี่กล้าเป็นคนหุนหันพลันแล่น ถ้ารู้ว่าพริ้มคือคนแรกที่พบแก้ว ชะรอยคงจะคิดไม่ต่างจากเขา และคงไปไถ่ถามความถึงเรือนคุณพระเป็นแน่ แล้วถ้าหากแก้วเป็นกระไรไป พี่กล้าก็คงเป็นอีกคนที่เสียใจ เมื่อวานพอรู้ว่าเขากับแก้วจะออกเรือนกันถึงหน้าเสียไปถนัดและวันนี้ก็เพิ่งจะพูดว่า ‘ดูแลดวงใจเอ็งดีๆ นะไอ้สิง หากแก้วน้ำตาตกเพราะเอ็งวันใด คงรู้ใช่หรือไม่ว่าพี่จักทำกรไร…’

    ‘ฉันมิมีวันทำแก้วเสียใจ พี่อย่าได้ห่วงไปเลยจ้ะ'

    ขุนสรไกรหรือที่สิงเรียก 'พ่อครู’ ขอเขามาเป็นลูกบุญธรรมจนสิงเติบโตมาพร้อมชายที่เขารักนับถือเสมือนพี่แท้ๆ

    แผลบนอกที่รอยยังไม่ทันจางก็เกิดจากการที่เขาช่วยพี่กล้าไว้ นั่นเองจนเป็นเหตุให้เชื่อหมดใจว่าที่ิ 'พี่’ เลือกจะเก็บความรู้สึกที่มีต่อแก้วเอาไว้ก็เพราะรักเขาดั่งน้องเช่นกัน

    ใช่ เมื่อฝ่ายหญิงมีใจให้เขา พี่กล้าก็ยอมรับ

    เขารู้มาตลอดแต่มิอยากพูดไป รู้ว่าพี่กล้าเข้มแข็งนัก วันนี้ถึงยังยิ้มหนักแน่นให้เขาได้ หากว่าสิงต้องเป็นฝ่ายแบกรับความรู้สึกนี้บ้างเขาจะทำได้ดีเท่าพี่ชายหรือไม่ยังมิรู้ เพราะพี่กล้าช่างกล้าสมชื่อ กล้ารักและกล้าเจ็บจนน่านับถือน้ำใจ

    แก้วจะรู้ตัวบ้างหรือไม่ว่าพี่กล้าแอบรัก…

    “ถ้าจะทำให้ถูก เอ็งก็ต้องย้ายไปอยู่เรือนฝ่ายหญิง แต่เรือนนั้นมุกมันอยู่ก็จะมิเหมาะ พ่อตาเอ็งมันก็หวงหลาน คงไม่ให้ร่วมเรือนดอกมิต้องบอก ข้าก็รู้ ใช้หลังนี้ไปก็แล้วกัน ข้าจักได้ย้ายไปกระท่อม” พ่อเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรู้ถึงความกังวลที่เขามีต่อพี่ชายจึงดึงออกจากความคิดมาเป็นหัวข้อออกเรือน

    “อยู่ด้วยกันนี่ละพ่อ จักย้ายไปทำกระไร” สิงท้วงทันทีเพราะไม่อยากให้พ่อที่อายุมากแล้วและเคยนอนสบายๆ ในเรือน ต้องย้ายไปอยู่กระท่อมที่จะยากแก่การดูแล แต่คนแก่ก็แสนเอาแต่ใจ

    “ออกเรือนก็ต้องมีเรือนซีวะไอ้นี่”

    “แล้วอย่างไรเล่า ห้องหับพ่อเองก็มีอยู่ จะย้ายไปทำกระไร”

    พ่อมองหน้าอย่างจะบอกว่าเขาไม่ได้ดั่งใจเสียเลย

    “เอ็งดูนะไอ้สิง ห้องติดกันเพียงนี้ ข้าคงจะมิมีวาสนาได้อุ้มลูกอุ้มหลานเสียทีดอก เมียคงจะไม่มีลูกให้เอ็งง่ายๆ”

    พูดกระไรของพ่อ เขาไม่เห็นเข้าใจ

    “เกี่ยวกระไรกับมีหลานเล่า”

    “เอ๊ะไอ้นี่ เอ็งนี่มันโตแต่ตัว หาได้รู้ความเลยไอ้สิง!” พ่อบอกแล้วคราวนี่ถึงกับลุกหนีไป ปล่อยให้สิงนั่งงงที่กว่าจะตีความได้ก็เมื่อมองพ่อก้าวขึ้นเรือนไปเดินตึงๆ ให้เสียงกระดานดัง

    ดังเสียจนกระเทือนเมื่อพ่อเดินย่ำไปย่ำมาแล้วทำให้คนหนุ่มอย่างเขาเพิ่งเข้าใจความแฝงก็คราวนี้

    โธ่เอ๊ย พ่อหนาพ่อ ห่วงว่าที่ลูกสะใภ้จะอายหรือไร

    คิดได้ดังนั้นสิงจึงส่ายหน้ายิ้ม กลับขึ้นเรือนแล้วเปิดประตูเข้ามายืนมองห้องที่อีกไม่นานจะไม่ได้อยู่ผู้เดียวแล้ว ถึงเพลา ‘ร่วมเรียง’ กันเสียที ถ้าปีก่อนมิไปทัพ ป่านนี้เขาคงจะทำหลานให้พ่อได้อุ้มแล้ว คิดพลางนึกถึงตากลมที่มองกันราวไม่เคยเห็นไปเสียได้ อยากบอกเสียจริงว่าออกเรือนก่อนเถิด เขาจะขอมองบ้าง จะมองให้ถ้วนทั่ว หาใช่เพียงหน้าอย่างที่แก้วทำเมื่อคืน มองจนมีคนอายทีเดียวเชียว เมื่อใดจะออกเรือนหนอ รอจวนมิไหวแล้ว เคยรับรู้บ้างหรือไม่

    ว่าแต่ป่านนี้หลับใหลไปหรือยังเล่า หรือจะมัวออกมานั่งมองจันทร์เหมือนกันอยู่ ไว้เข้าหอก่อนเถิด เขาจะพาขี่ม้าชมจันทร์ ขี่กันอยู่ภายในห้อง ไม่ต้องไปไกลถึงไหน อยากลองขี่หรือไม่

    หวิวใจเหลือเกิน เป็นอย่างนี้อีกแล้ว ช่วยมารักษาให้กันทีเถิด อาการหนักเข้าทุกวันๆ แก้วคนเดียวเท่านั้นจะรักษาได้

    “ทำพี่นอนมิหลับอีกเสียแล้ว แก้วเอ๋ย อยากหอมแก้มนัก…”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×