ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก ตอนที่ 9
*****9*****
ในที่สุดก็ถึงวันเปิดเทอม เสียงจอแจของเด็กๆ ที่กลับมาจากปิดเทอมดังกระหึ่มทั่วห้องโถง สำหรับเฮอร์ไมโอนี่แล้ว นี่เป็นสิ่งวิเศษที่สุด เพราะเธอจะได้เรียนหนังสือได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เธอยังไม่ค่อยสบายใจคือการช่วยเหลือบัคบีค และการที่แฮร์รี่ไม่ค่อยพูดกับเธอ ซ้ำอีกไม่นานจะเริ่มการแข่งขันควิดดิชกันอีก ซึ่งเป็นเหตุให้แฮร์รี่ดูหงุดหงิดมากขึ้น แม้ว่าโอลิเวอร์ วู้ด กัปตันทีมของเขาจะพยายามอย่างมากที่จะได้ไฟร์โบลต์คืนกลับมาให้แฮร์รี่ แต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เขาต้องเสนอให้แฮร์รี่หาไม้กวาดอื่นแทน
“นิมบัส 2001 ก็ได้” เขาพูด แฮร์รี่เม้มปาก
“ฉันไม่ใช้อะไรก็ตามที่มัลฟอยเห็นว่าดีหรอก” เขาพูดเรียบๆ
เฮอร์ไมโอนี่หอบหนังสือหอบใหญ่วิ่งไปตามระเบียงทางเดิน เธอต้องรีบเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุดก่อนจะเข้าเรียนวิชาอักษรรูนโบราณ ระหว่างทาง เธอเจอกับกลุ่มนักเรียนบ้านสลิธีรินกลุ่มหนึ่ง เสียงแสบแก้วหูของแพนซี่ พาร์กินสันดังขึ้น
“จะรีบไปไหนยายเลือดสีโคลน” เธอชะงักมองแพนซี่และไล่ใบหน้าเด็กสลิธีรินอย่างน้อย 5-6 คน ถ้ามีเรื่องกันตอนนี้เธอเสียเปรียบแน่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ทำเป็นไม่สนใจ เดินผ่านกลุ่มแพนซี่ไปเฉยๆ แต่แพนซี่กลับปราดเข้ามาขวางหน้า
“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน แม่เลือดสีโคลน” เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยสายตาเยือกเย็น
“นั่นมันเรื่องของฉัน แล้วอีกอย่างนะพาร์กินสัน ฉันไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาจับกลุ่มยืนคุยหรือทำอะไรที่มันไร้สาระแบบเธอ” พูดจบเธอตั้งท่าจะเดินต่อ แต่แพนซี่ยังคงขวางไว้อยู่ ซ้ำคนอื่นๆ ก็เริ่มตีวงล้อมเธอเข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอมองรอบๆ ตัว แพนซี่แยกเขี้ยวอย่างผู้ชนะ
“เธอคงไม่คิดจะสู้กับคนทั้งกลุ่มหรอกนะ แม่เลือดสีโคลน”
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว คนแบบนี้ต้องจัดการหัวหน้ากลุ่มก่อน เธอคิดอย่างรวดเร็ว แพนซี่ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา แต่ช้ากว่าเฮอร์ไมโอนี่
“ทารันทันเลกร้า” เธอสะบัดไม้ใส่แพนซี่และมองอย่างขำ เมื่อเห็นแพนซี่เริ่มเต้น
“ท่าเต้นของเธออัปลักษณ์เหมือนตัวเธอเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ แต่มีแววเย้ยหยันอยู่ในน้ำเสียง กลุ่มเพื่อนของแพนซี่ไม่พอใจอย่างมาก บางคนเริ่มชักไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้ตรงมาที่เธอ
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส” ไม้กายสิทธิ์ลอยวูบออกไป มือสีขาวซีดรับเอาไว้ได้อย่างชำนาญ เฮอร์ไมโอนี่มองดูมัลฟอยอย่างงงๆ
“พวกเธอทำอะไรกัน” เขาพูดเสียงดุดัน แล้วมองไปที่แพนซี่ที่ยังคงเต้นอยู่อย่างขำๆ แต่ก็ยังคงฝืนสีหน้าเฉยชาไว้ เขาโบกไม้อย่างรำคาญ แพนซี่หยุดเต้นยืนหอบหายใจ
“แก!!” หล่อนคำรามอย่างโกรธแค้น ทำท่าจะขยับตัวเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่
“หยุดเดี๋ยวนี้ แพนซี่” เสียงมัลฟอยตวาดลั่น
“เธออยากให้บ้านเราเสียคะแนนรึยังไง” แพนซี่ชะงัก มองหน้าเขา
“แต่ว่า..” หล่อนเถียง
“ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!” มัลฟอยออกคำสั่งสีหน้าดุดัน แพนซี่ทำท่ารีรอ แต่พอเห็นแววตาของมัลฟอยก็หน้าเสีย หล่อนหันไปพยักหน้ากับเพื่อนๆ แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆ เฮอร์ไมโอนี่เก็บไม้กายสิทธิ์พลางจะหันไปขอบใจมัลฟอย แต่เขาชิงพูดขึ้นก่อน
“ถ้าคิดว่านี่เป็นแผนที่จะทำให้พวกเราเสียคะแนนล่ะก็ เธอคิดผิด เกรนเจอร์” เขามองเธอชั่วขณะ ก่อนเดินจากไป เฮอร์ไมโอนี่มองตามหลังเขาไปด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ เธอเม้มปากขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสะบัดความคิดนั้นทิ้ง แล้วเดินไปห้องสมุดต่อ
............................................................................................................
ก่อนการแข่งขันควิดดิชรอบชิงชนะเลิศ แฮร์รี่แทบกระโดดตัวลอย เมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลนำไฟร์โบลต์มาคืน แล้วบอกว่ามันปลอดภัยพร้อมกับอวยพรให้เขาได้รับชัยชนะ เด็กชายประคองไฟร์โบลต์ไว้ราวกับของมีค่า เด็กๆ ทุกคนเข้ามารุมล้อมด้วยความชื่นชม แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวยิ้มด้วยความยินดี และรู้สึกดีใจมากที่แฮร์รี่ยิ้มตอบมา ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของมัลฟอย เขารีบเดินปรี่เข้ามาหาแฮร์รี่
“นายคิดว่าจะชนะด้วยไม้กวาดด้ามนี้หรือพอตเตอร์” แฮร์รี่มองด้วยสายตาเฉยชา
“ฉันคิดจะชนะในเกมด้วยฝีมือ ไม่ใช่ไม้กวาด มัลฟอย” มัลฟอยจ้องแฮร์รี่เขม็ง ตาสีซีดของเขาลุกวาวด้วยความโกรธ
“ระวังผู้คุมวิญญาณก็แล้วกัน พอตเตอร์ คงไม่หงายท้องตกลงมาก่อนล่ะ” เขากระแทกเสียงก่อนเดินกลับไปที่กลุ่มสลิธีริน รอนเบะปาก
“เด็กขี้อิจฉา” เขาพูดพลางหันไปที่แฮร์รี่
“เจ้านั่นน่ะ มันแค่อิจฉาที่นายมีไม้กวาด สุดยอด เท่านั้นแหละแฮร์รี่ พนันได้เลยว่ามันต้องไปอ้อนพ่อของมันให้ซื้อให้แน่ๆ” แฮร์รี่ยิ้ม เขากำลังอยู่ในอารมณ์เบิกบาน
“เราไปลองไม้กวาดกันเถอะรอน เฮอร์ไมโอนี่”
หลังจากลองไม้กวาดกันจนเป็นที่พอใจ เด็กทั้งสามจึงกลับมาที่หอ เพื่อนๆ ต่างเข้ามารุมล้อมไฟร์โบลต์ และแสดงความยินดีกับแฮร์รี่จนได้เวลาอาหารเย็น รอนอาสานำไฟร์โบลต์ขึ้นไปเก็บ แต่แล้วเขาก็ร้องโวยวายลงมา ในมือมีผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดติดลงมาด้วย แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่มองอย่างงงๆ
“เจ้าแมวบ้าของเธอกินสแคบเบอร์ของฉันเข้าไปแล้ว” เขาร้องตะโกนอย่างโกรธจัด
“ฉันบอกแล้วว่าให้เธอระวัง หรือไม่ก็โยนมันทิ้งทะเลสาบไป แล้วดูสิว่ามันเป็นยังไง” รอนร้องอย่างคลุ้มคลั่ง เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด
“แต่นั่นอาจไม่ใช่เลือดสแคบเบอร์ก็ได้” เธอพูดแผ่วเบา
“นี่น่ะเรอะไม่ใช่ กรงสแคบเบอร์พังไม่มีชิ้นดี เตียงฉันมีแต่รอยเล็บแมว แล้วนี่..” เขาชี้ไปที่รอยเลือดดวงใหญ่บนผ้าปูที่นอน
“จะเป็นเลือดของตัวอะไร ถ้าไม่ใช่ของสแคบเบอร์” เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่อึกอัก
“แต่เธอก็ปิดห้อง..ฉันหมายถึง..เธอปิดห้องดีหรือเปล่า” รอนหน้าแดงยิ่งกว่าผมของเขา
“ต่อให้ปิดยังไง ไอ้แมวบ้านั่นมันก็ต้องหาทางเข้าไปได้ ใครจะรู้ มันอาจจะฉลาดเหมือนเธอก็ได้” มาถึงตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโกรธบ้างแล้ว
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” รอนโยนผ้าใส่หน้าเฮอร์ไมโอนี่
“ไม่ต้องแล้ว! มันสายไปแล้ว!!” เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่น นัยน์ตาร้อนผ่าว
“งั้นก็ได้!” เธอพูดพลางเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดระคนเสียใจ
และตั้งแต่วันนั้น รอนก็ไม่พูดกับเฮอร์ไมโอนี่อีกเลย เขามักทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน ซ้ำร้ายยังพูดกระแทกแดกดันทุกครั้งที่มีโอกาส เฮอร์ไมโอนี่มีเพียงห้องสมุดกับห้องนอนเท่านั้นที่สงบสุขที่สุดในความคิด แม้แต่วันแข่งควิดดิชกับเรเวนคลอ รอนก็ยังคงทำปึ่งชากับเธอ แฮร์รี่มองเพื่อนทั้งสองอย่างอ่อนใจ
“เธอไม่เป็นไรนะ เฮอร์ไมโอนี่” เขาถามเพราะเห็นเธอดูเครียดมาก
“ไม่เป็นไรหรอกแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบยิ้มๆ
“เธอต้องชนะเลิศให้ได้นะคราวนี้” แฮร์รี่ยิ้มรับ เขามองไปทางรอนที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“เขาคงรออวยพรให้เธอ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปหารอนก่อนนะ” เขาเดินไปที่รอน
เฮอร์ไมโอนี่มองตามแล้วถอนใจ เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะเหลือบสายตาไปทางสลิธีริน เธอเห็น มาร์คัส ฟลินต์ กระซิบอะไรบางอย่างกับมัลฟอย แล้วลุกเดินออกไปด้วยกันอย่างรีบเร่ง เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย แล้ว ลี จอร์ดัน ก็ประกาศเริ่มการแข่งขัน
ทีมเรเวนคลอมีฝีมือจัดว่าดีเยี่ยมคู่คี่กับทีมกริฟฟินดอร์ ทั้งซีกเกอร์เองก็เก่งและคล่องแคล่วมาก เฮอร์ไมโอนี่นั่งเชียร์ด้วยความตื่นเต้น แต่ทันใดเธอเห็นเงาร่างสามร่างยืนอยู่ที่ขอบสนาม เด็กสาวอ้าปากค้าง ผู้คุมวิญญาณ!! เธอรีบแหงนหน้ามองแฮร์รี่อย่างกังวล แต่ดูเหมือนเขาจะเสกอะไรบางอย่างที่มีสีเงินลงมา แล้วหันไปสนใจไล่ลูกนิชต่อ
ผู้คุมวิญญาณพอเห็นเงาสีเงินก็ล้มระเนระนาด เฮอร์ไมโอนี่เอะใจ แต่ก็พอดีกับที่แฮร์รี่คว้าลูกสนิชได้ เธอจึงรีบลงไปแสดงความยินดีกับเพื่อน เสียงศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ็ดตะโร เธอเหลียวไปมองแล้วต้องตกใจ มัลฟอย แครบ และกอยล์ รวมทั้งมาร์คัส ฟลินต์ ปลอมตัวเป็นผู้คุมวิญญาณมาหลอกแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโกรธมาก เธอกัดฟันจ้องดูศาสตราจารย์มักกอนนากัลทำโทษอย่างลืมตัว
ในห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ ทุกคนกำลังฉลองชัยชนะอย่างครื้นเครง เฮอร์ไมโอนี่กลับนั่งทำรายงานอยู่อีกมุมหนึ่งอย่างเงียบหงอยจนแฮร์รี่เข้ามาชวน
“เธอคิดว่าเขาอยากให้ฉันเข้าไปร่วมด้วยงั้นหรือ” เฮอร์ไมโอนี่บุ้ยใบ้ไปทางรอน ซึ่งกำลังส่งเสียงดังอยู่กลางกลุ่ม แล้วจู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นพูดทำนองแดกดันเฮอร์ไมโอนี่เรื่องสแคบเบอร์ เด็กสาวน้ำตานองหน้า ลุกขึ้นวิ่งออกจากห้อง แฮร์รี่ส่ายหน้า
“นายน่าจะพอได้แล้วนะ” เขาพูดกับรอน
“ไม่มีทาง ตราบใดที่เขายังไม่สำนึกกับเรื่องนี้” รอนพูดอย่างขึงขัง
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปตามทางระเบียงด้วยความเสียใจ และน้อยใจในการกระทำของรอน ให้มานั่งโต้เถียงกันดีกว่ามาพูดประชดกันแบบนี้ เธอเดินใจลอยมาจนถึงหน้าห้องสมุด มาดามพินซ์เงยหน้าขึ้นมองเธอ
“สวัสดีจ้ะมิสเกรนเจอร์” เธอทักทาย
“ทำไมวันนี้มาค่ำนักล่ะจ๊ะ เดี๋ยวห้องสมุดก็จะปิดแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะมาดาม” เธอฝืนยิ้ม “หนูขอนั่งค้นคว้าอะไรบางอย่างสักครู่เดียว”
แล้วเธอก็เดินตรงเข้าไปในมุมห้อง เลือกหาหนังสือมานั่งอ่าน เพื่อพยายามลืมเรื่องของรอน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีสมาธิเลย เด็กสาวถอนใจ แล้วนอนซบกับแขนตัวเอง พลางร้องไห้เบาๆ มีเสียงเคลื่อนย้ายของหนักดังอยู่ใกล้ๆ เธอผงกศีรษะขึ้นมองอย่างสงสัย
“มีใครอยู่ตรงนั้น” เธอถามเบาๆ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นไปชะโงกดู มัลฟอยโผล่หน้าออกมาพอดี
“เกรนเจอร์” เขาร้องเบาๆ
“มัลฟอย นายมาทำอะไรที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เธอโกรธที่มัลฟอยใช้แผนสกปรกกับแฮร์รี่ในวันนี้
“แล้วคิดว่าฉันน่าจะมาทำอะไรในนี้ตอนนี้ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่มองดูสภาพของเขาที่มอมแมมไปด้วยฝุ่น แม้แต่ผมสีบลอนด์ซึ่งเรียบอยู่เสมอยังมีใยแมงมุมติดอยู่ เธอรู้ทันทีว่าเขาถูกทำโทษกักบริเวณ
“แล้วเพื่อนนายล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามพลางมองไปรอบๆ
“โดนจับแยกย้ายกันไป” เขายักไหล่
“เลยไม่มีคนช่วยเลยสิ” เฮอร์ไมโอนี่ต่อประโยคให้ มัลฟอยหันมามองเธอ
“แล้วเธอจะช่วยฉันได้ไหมล่ะ” เขาถาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
“โดนแค่นี้ยังน้อยไป ถ้าฉันเป็นอาจารย์ ฉันจะส่งนายเข้าไปในป่าต้องห้าม ตอนกลางคืน” เธอพูดด้วยอารมณ์โกรธ
“ให้มันสมกับที่นายทำในวันนี้” มัลฟอยหรี่ตามองดูเธอ
“เธอโกรธ ที่ฉันแกล้งเจ้าพอตเตอร์”
“ฉันโกรธวิธีการของนายต่างหาก มัลฟอย” เธอเน้นเสียงพูด
“วิธีการที่ขี้ขลาด และสกปรก”
มัลฟอยถลึงตาที่ลุกวาวด้วยความโกรธ เขายกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว ตะครุบที่คอของเฮอร์ไมโอนี่ ดันเธอกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง
“มันอาจจะสกปรกอย่างที่เธอพูด เกรนเจอร์ แต่...” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เด็กสาว
“มันเป็นวิธีของพวกฉัน ชาวสลิธีริน เพื่อชัยชนะ เราทำได้ทุกอย่าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว จนเธอนึกกลัว ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจ้องอยู่ที่ดวงตาสีซีด น้ำอุ่นๆ เริ่มคลอที่ดวงตา มัลฟอยจ้องดวงตานั้นด้วยจิตใจที่สับสน แววตาที่ลุกวาวอ่อนลงเล็กน้อย เขาขยับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เฮอร์ไมโอนี่ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“รวมทั้งฉันด้วยใช่ไหม” เธอพูดเสียงสั่นเครือ
“ที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นด้วย นายต้องการชนะมากถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” มัลฟอยอึ้ง เขาคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ เขาเม้มปาก ก่อนตัดสินใจพูดเสียงเรียบ
“ฉันคือ มัลฟอย และมัลฟอยทุกคนยินดีทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งที่เราต้องการ”
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้งตกตะลึงในคำตอบ เธอกัดริมฝีปากตัวเองก่อนหมุนตัวเดินจากเขาไปอย่างเงียบงัน มัลฟอยยืนนิ่ง จนมาดามพินซ์เดินมาถามอย่างสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น มิสเตอร์มัลฟอย” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ผมเพิ่งทำของสำคัญหลุดมือไปครับ” มาดามพินซ์มองเขาด้วยความงุนงง
“ให้ฉันช่วยหาไหมจ๊ะ เธอทำมันหายที่ไหนล่ะ” เขาส่ายหน้าอย่างหมดหวัง
“คงไม่มีวันได้คืนหรอกครับ..”
เขาถอนใจ ก่อนขอตัวทำงานต่อ มาดามพินซ์ขยับแว่นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอ
ในที่สุดก็ถึงวันเปิดเทอม เสียงจอแจของเด็กๆ ที่กลับมาจากปิดเทอมดังกระหึ่มทั่วห้องโถง สำหรับเฮอร์ไมโอนี่แล้ว นี่เป็นสิ่งวิเศษที่สุด เพราะเธอจะได้เรียนหนังสือได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เธอยังไม่ค่อยสบายใจคือการช่วยเหลือบัคบีค และการที่แฮร์รี่ไม่ค่อยพูดกับเธอ ซ้ำอีกไม่นานจะเริ่มการแข่งขันควิดดิชกันอีก ซึ่งเป็นเหตุให้แฮร์รี่ดูหงุดหงิดมากขึ้น แม้ว่าโอลิเวอร์ วู้ด กัปตันทีมของเขาจะพยายามอย่างมากที่จะได้ไฟร์โบลต์คืนกลับมาให้แฮร์รี่ แต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เขาต้องเสนอให้แฮร์รี่หาไม้กวาดอื่นแทน
“นิมบัส 2001 ก็ได้” เขาพูด แฮร์รี่เม้มปาก
“ฉันไม่ใช้อะไรก็ตามที่มัลฟอยเห็นว่าดีหรอก” เขาพูดเรียบๆ
เฮอร์ไมโอนี่หอบหนังสือหอบใหญ่วิ่งไปตามระเบียงทางเดิน เธอต้องรีบเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุดก่อนจะเข้าเรียนวิชาอักษรรูนโบราณ ระหว่างทาง เธอเจอกับกลุ่มนักเรียนบ้านสลิธีรินกลุ่มหนึ่ง เสียงแสบแก้วหูของแพนซี่ พาร์กินสันดังขึ้น
“จะรีบไปไหนยายเลือดสีโคลน” เธอชะงักมองแพนซี่และไล่ใบหน้าเด็กสลิธีรินอย่างน้อย 5-6 คน ถ้ามีเรื่องกันตอนนี้เธอเสียเปรียบแน่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ทำเป็นไม่สนใจ เดินผ่านกลุ่มแพนซี่ไปเฉยๆ แต่แพนซี่กลับปราดเข้ามาขวางหน้า
“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน แม่เลือดสีโคลน” เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยสายตาเยือกเย็น
“นั่นมันเรื่องของฉัน แล้วอีกอย่างนะพาร์กินสัน ฉันไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาจับกลุ่มยืนคุยหรือทำอะไรที่มันไร้สาระแบบเธอ” พูดจบเธอตั้งท่าจะเดินต่อ แต่แพนซี่ยังคงขวางไว้อยู่ ซ้ำคนอื่นๆ ก็เริ่มตีวงล้อมเธอเข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอมองรอบๆ ตัว แพนซี่แยกเขี้ยวอย่างผู้ชนะ
“เธอคงไม่คิดจะสู้กับคนทั้งกลุ่มหรอกนะ แม่เลือดสีโคลน”
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว คนแบบนี้ต้องจัดการหัวหน้ากลุ่มก่อน เธอคิดอย่างรวดเร็ว แพนซี่ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา แต่ช้ากว่าเฮอร์ไมโอนี่
“ทารันทันเลกร้า” เธอสะบัดไม้ใส่แพนซี่และมองอย่างขำ เมื่อเห็นแพนซี่เริ่มเต้น
“ท่าเต้นของเธออัปลักษณ์เหมือนตัวเธอเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ แต่มีแววเย้ยหยันอยู่ในน้ำเสียง กลุ่มเพื่อนของแพนซี่ไม่พอใจอย่างมาก บางคนเริ่มชักไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้ตรงมาที่เธอ
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส” ไม้กายสิทธิ์ลอยวูบออกไป มือสีขาวซีดรับเอาไว้ได้อย่างชำนาญ เฮอร์ไมโอนี่มองดูมัลฟอยอย่างงงๆ
“พวกเธอทำอะไรกัน” เขาพูดเสียงดุดัน แล้วมองไปที่แพนซี่ที่ยังคงเต้นอยู่อย่างขำๆ แต่ก็ยังคงฝืนสีหน้าเฉยชาไว้ เขาโบกไม้อย่างรำคาญ แพนซี่หยุดเต้นยืนหอบหายใจ
“แก!!” หล่อนคำรามอย่างโกรธแค้น ทำท่าจะขยับตัวเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่
“หยุดเดี๋ยวนี้ แพนซี่” เสียงมัลฟอยตวาดลั่น
“เธออยากให้บ้านเราเสียคะแนนรึยังไง” แพนซี่ชะงัก มองหน้าเขา
“แต่ว่า..” หล่อนเถียง
“ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!” มัลฟอยออกคำสั่งสีหน้าดุดัน แพนซี่ทำท่ารีรอ แต่พอเห็นแววตาของมัลฟอยก็หน้าเสีย หล่อนหันไปพยักหน้ากับเพื่อนๆ แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆ เฮอร์ไมโอนี่เก็บไม้กายสิทธิ์พลางจะหันไปขอบใจมัลฟอย แต่เขาชิงพูดขึ้นก่อน
“ถ้าคิดว่านี่เป็นแผนที่จะทำให้พวกเราเสียคะแนนล่ะก็ เธอคิดผิด เกรนเจอร์” เขามองเธอชั่วขณะ ก่อนเดินจากไป เฮอร์ไมโอนี่มองตามหลังเขาไปด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ เธอเม้มปากขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสะบัดความคิดนั้นทิ้ง แล้วเดินไปห้องสมุดต่อ
............................................................................................................
ก่อนการแข่งขันควิดดิชรอบชิงชนะเลิศ แฮร์รี่แทบกระโดดตัวลอย เมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลนำไฟร์โบลต์มาคืน แล้วบอกว่ามันปลอดภัยพร้อมกับอวยพรให้เขาได้รับชัยชนะ เด็กชายประคองไฟร์โบลต์ไว้ราวกับของมีค่า เด็กๆ ทุกคนเข้ามารุมล้อมด้วยความชื่นชม แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวยิ้มด้วยความยินดี และรู้สึกดีใจมากที่แฮร์รี่ยิ้มตอบมา ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของมัลฟอย เขารีบเดินปรี่เข้ามาหาแฮร์รี่
“นายคิดว่าจะชนะด้วยไม้กวาดด้ามนี้หรือพอตเตอร์” แฮร์รี่มองด้วยสายตาเฉยชา
“ฉันคิดจะชนะในเกมด้วยฝีมือ ไม่ใช่ไม้กวาด มัลฟอย” มัลฟอยจ้องแฮร์รี่เขม็ง ตาสีซีดของเขาลุกวาวด้วยความโกรธ
“ระวังผู้คุมวิญญาณก็แล้วกัน พอตเตอร์ คงไม่หงายท้องตกลงมาก่อนล่ะ” เขากระแทกเสียงก่อนเดินกลับไปที่กลุ่มสลิธีริน รอนเบะปาก
“เด็กขี้อิจฉา” เขาพูดพลางหันไปที่แฮร์รี่
“เจ้านั่นน่ะ มันแค่อิจฉาที่นายมีไม้กวาด สุดยอด เท่านั้นแหละแฮร์รี่ พนันได้เลยว่ามันต้องไปอ้อนพ่อของมันให้ซื้อให้แน่ๆ” แฮร์รี่ยิ้ม เขากำลังอยู่ในอารมณ์เบิกบาน
“เราไปลองไม้กวาดกันเถอะรอน เฮอร์ไมโอนี่”
หลังจากลองไม้กวาดกันจนเป็นที่พอใจ เด็กทั้งสามจึงกลับมาที่หอ เพื่อนๆ ต่างเข้ามารุมล้อมไฟร์โบลต์ และแสดงความยินดีกับแฮร์รี่จนได้เวลาอาหารเย็น รอนอาสานำไฟร์โบลต์ขึ้นไปเก็บ แต่แล้วเขาก็ร้องโวยวายลงมา ในมือมีผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดติดลงมาด้วย แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่มองอย่างงงๆ
“เจ้าแมวบ้าของเธอกินสแคบเบอร์ของฉันเข้าไปแล้ว” เขาร้องตะโกนอย่างโกรธจัด
“ฉันบอกแล้วว่าให้เธอระวัง หรือไม่ก็โยนมันทิ้งทะเลสาบไป แล้วดูสิว่ามันเป็นยังไง” รอนร้องอย่างคลุ้มคลั่ง เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด
“แต่นั่นอาจไม่ใช่เลือดสแคบเบอร์ก็ได้” เธอพูดแผ่วเบา
“นี่น่ะเรอะไม่ใช่ กรงสแคบเบอร์พังไม่มีชิ้นดี เตียงฉันมีแต่รอยเล็บแมว แล้วนี่..” เขาชี้ไปที่รอยเลือดดวงใหญ่บนผ้าปูที่นอน
“จะเป็นเลือดของตัวอะไร ถ้าไม่ใช่ของสแคบเบอร์” เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่อึกอัก
“แต่เธอก็ปิดห้อง..ฉันหมายถึง..เธอปิดห้องดีหรือเปล่า” รอนหน้าแดงยิ่งกว่าผมของเขา
“ต่อให้ปิดยังไง ไอ้แมวบ้านั่นมันก็ต้องหาทางเข้าไปได้ ใครจะรู้ มันอาจจะฉลาดเหมือนเธอก็ได้” มาถึงตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโกรธบ้างแล้ว
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” รอนโยนผ้าใส่หน้าเฮอร์ไมโอนี่
“ไม่ต้องแล้ว! มันสายไปแล้ว!!” เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่น นัยน์ตาร้อนผ่าว
“งั้นก็ได้!” เธอพูดพลางเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดระคนเสียใจ
และตั้งแต่วันนั้น รอนก็ไม่พูดกับเฮอร์ไมโอนี่อีกเลย เขามักทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน ซ้ำร้ายยังพูดกระแทกแดกดันทุกครั้งที่มีโอกาส เฮอร์ไมโอนี่มีเพียงห้องสมุดกับห้องนอนเท่านั้นที่สงบสุขที่สุดในความคิด แม้แต่วันแข่งควิดดิชกับเรเวนคลอ รอนก็ยังคงทำปึ่งชากับเธอ แฮร์รี่มองเพื่อนทั้งสองอย่างอ่อนใจ
“เธอไม่เป็นไรนะ เฮอร์ไมโอนี่” เขาถามเพราะเห็นเธอดูเครียดมาก
“ไม่เป็นไรหรอกแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบยิ้มๆ
“เธอต้องชนะเลิศให้ได้นะคราวนี้” แฮร์รี่ยิ้มรับ เขามองไปทางรอนที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“เขาคงรออวยพรให้เธอ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปหารอนก่อนนะ” เขาเดินไปที่รอน
เฮอร์ไมโอนี่มองตามแล้วถอนใจ เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะเหลือบสายตาไปทางสลิธีริน เธอเห็น มาร์คัส ฟลินต์ กระซิบอะไรบางอย่างกับมัลฟอย แล้วลุกเดินออกไปด้วยกันอย่างรีบเร่ง เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย แล้ว ลี จอร์ดัน ก็ประกาศเริ่มการแข่งขัน
ทีมเรเวนคลอมีฝีมือจัดว่าดีเยี่ยมคู่คี่กับทีมกริฟฟินดอร์ ทั้งซีกเกอร์เองก็เก่งและคล่องแคล่วมาก เฮอร์ไมโอนี่นั่งเชียร์ด้วยความตื่นเต้น แต่ทันใดเธอเห็นเงาร่างสามร่างยืนอยู่ที่ขอบสนาม เด็กสาวอ้าปากค้าง ผู้คุมวิญญาณ!! เธอรีบแหงนหน้ามองแฮร์รี่อย่างกังวล แต่ดูเหมือนเขาจะเสกอะไรบางอย่างที่มีสีเงินลงมา แล้วหันไปสนใจไล่ลูกนิชต่อ
ผู้คุมวิญญาณพอเห็นเงาสีเงินก็ล้มระเนระนาด เฮอร์ไมโอนี่เอะใจ แต่ก็พอดีกับที่แฮร์รี่คว้าลูกสนิชได้ เธอจึงรีบลงไปแสดงความยินดีกับเพื่อน เสียงศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ็ดตะโร เธอเหลียวไปมองแล้วต้องตกใจ มัลฟอย แครบ และกอยล์ รวมทั้งมาร์คัส ฟลินต์ ปลอมตัวเป็นผู้คุมวิญญาณมาหลอกแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโกรธมาก เธอกัดฟันจ้องดูศาสตราจารย์มักกอนนากัลทำโทษอย่างลืมตัว
ในห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ ทุกคนกำลังฉลองชัยชนะอย่างครื้นเครง เฮอร์ไมโอนี่กลับนั่งทำรายงานอยู่อีกมุมหนึ่งอย่างเงียบหงอยจนแฮร์รี่เข้ามาชวน
“เธอคิดว่าเขาอยากให้ฉันเข้าไปร่วมด้วยงั้นหรือ” เฮอร์ไมโอนี่บุ้ยใบ้ไปทางรอน ซึ่งกำลังส่งเสียงดังอยู่กลางกลุ่ม แล้วจู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นพูดทำนองแดกดันเฮอร์ไมโอนี่เรื่องสแคบเบอร์ เด็กสาวน้ำตานองหน้า ลุกขึ้นวิ่งออกจากห้อง แฮร์รี่ส่ายหน้า
“นายน่าจะพอได้แล้วนะ” เขาพูดกับรอน
“ไม่มีทาง ตราบใดที่เขายังไม่สำนึกกับเรื่องนี้” รอนพูดอย่างขึงขัง
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปตามทางระเบียงด้วยความเสียใจ และน้อยใจในการกระทำของรอน ให้มานั่งโต้เถียงกันดีกว่ามาพูดประชดกันแบบนี้ เธอเดินใจลอยมาจนถึงหน้าห้องสมุด มาดามพินซ์เงยหน้าขึ้นมองเธอ
“สวัสดีจ้ะมิสเกรนเจอร์” เธอทักทาย
“ทำไมวันนี้มาค่ำนักล่ะจ๊ะ เดี๋ยวห้องสมุดก็จะปิดแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะมาดาม” เธอฝืนยิ้ม “หนูขอนั่งค้นคว้าอะไรบางอย่างสักครู่เดียว”
แล้วเธอก็เดินตรงเข้าไปในมุมห้อง เลือกหาหนังสือมานั่งอ่าน เพื่อพยายามลืมเรื่องของรอน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีสมาธิเลย เด็กสาวถอนใจ แล้วนอนซบกับแขนตัวเอง พลางร้องไห้เบาๆ มีเสียงเคลื่อนย้ายของหนักดังอยู่ใกล้ๆ เธอผงกศีรษะขึ้นมองอย่างสงสัย
“มีใครอยู่ตรงนั้น” เธอถามเบาๆ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นไปชะโงกดู มัลฟอยโผล่หน้าออกมาพอดี
“เกรนเจอร์” เขาร้องเบาๆ
“มัลฟอย นายมาทำอะไรที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เธอโกรธที่มัลฟอยใช้แผนสกปรกกับแฮร์รี่ในวันนี้
“แล้วคิดว่าฉันน่าจะมาทำอะไรในนี้ตอนนี้ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่มองดูสภาพของเขาที่มอมแมมไปด้วยฝุ่น แม้แต่ผมสีบลอนด์ซึ่งเรียบอยู่เสมอยังมีใยแมงมุมติดอยู่ เธอรู้ทันทีว่าเขาถูกทำโทษกักบริเวณ
“แล้วเพื่อนนายล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามพลางมองไปรอบๆ
“โดนจับแยกย้ายกันไป” เขายักไหล่
“เลยไม่มีคนช่วยเลยสิ” เฮอร์ไมโอนี่ต่อประโยคให้ มัลฟอยหันมามองเธอ
“แล้วเธอจะช่วยฉันได้ไหมล่ะ” เขาถาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
“โดนแค่นี้ยังน้อยไป ถ้าฉันเป็นอาจารย์ ฉันจะส่งนายเข้าไปในป่าต้องห้าม ตอนกลางคืน” เธอพูดด้วยอารมณ์โกรธ
“ให้มันสมกับที่นายทำในวันนี้” มัลฟอยหรี่ตามองดูเธอ
“เธอโกรธ ที่ฉันแกล้งเจ้าพอตเตอร์”
“ฉันโกรธวิธีการของนายต่างหาก มัลฟอย” เธอเน้นเสียงพูด
“วิธีการที่ขี้ขลาด และสกปรก”
มัลฟอยถลึงตาที่ลุกวาวด้วยความโกรธ เขายกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว ตะครุบที่คอของเฮอร์ไมโอนี่ ดันเธอกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง
“มันอาจจะสกปรกอย่างที่เธอพูด เกรนเจอร์ แต่...” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เด็กสาว
“มันเป็นวิธีของพวกฉัน ชาวสลิธีริน เพื่อชัยชนะ เราทำได้ทุกอย่าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว จนเธอนึกกลัว ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจ้องอยู่ที่ดวงตาสีซีด น้ำอุ่นๆ เริ่มคลอที่ดวงตา มัลฟอยจ้องดวงตานั้นด้วยจิตใจที่สับสน แววตาที่ลุกวาวอ่อนลงเล็กน้อย เขาขยับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เฮอร์ไมโอนี่ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“รวมทั้งฉันด้วยใช่ไหม” เธอพูดเสียงสั่นเครือ
“ที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นด้วย นายต้องการชนะมากถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” มัลฟอยอึ้ง เขาคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ เขาเม้มปาก ก่อนตัดสินใจพูดเสียงเรียบ
“ฉันคือ มัลฟอย และมัลฟอยทุกคนยินดีทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งที่เราต้องการ”
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้งตกตะลึงในคำตอบ เธอกัดริมฝีปากตัวเองก่อนหมุนตัวเดินจากเขาไปอย่างเงียบงัน มัลฟอยยืนนิ่ง จนมาดามพินซ์เดินมาถามอย่างสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น มิสเตอร์มัลฟอย” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ผมเพิ่งทำของสำคัญหลุดมือไปครับ” มาดามพินซ์มองเขาด้วยความงุนงง
“ให้ฉันช่วยหาไหมจ๊ะ เธอทำมันหายที่ไหนล่ะ” เขาส่ายหน้าอย่างหมดหวัง
“คงไม่มีวันได้คืนหรอกครับ..”
เขาถอนใจ ก่อนขอตัวทำงานต่อ มาดามพินซ์ขยับแว่นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น