ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก ตอนที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 48


    *****7*****



    แฮร์รี่และรอนเดินลงมาเจอกับเฮอร์ไมโอนี่ระหว่างทางไปห้องอาหารในตอนเช้า เขาสังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินอย่างไม่ค่อยถนัด

    “ขาเธอเป็นอะไรไป” รอนถาม

    “หกล้มเมื่อวานนี้น่ะ” เธอตอบ นึกแปลกใจที่รอนพูดดีกับเธอ

    “มาดามพอมฟรีย์ให้ฉันนอนห้องพยาบาลเมื่อคืน เพิ่งออกมาเมื่อตอนเช้า” รอนจุ๊ปาก

    “เธอกับแฮร์รี่นี่ขยันแข่งกันทำสถิติการนอนห้องพยาบาลรึไงกัน” แฮร์รี่มีสีหน้ายุ่งๆ เล็กน้อย

    “นายก็รู้ รอน” เขาพูด “ถ้าลองได้ถึงมือมาดามพอมฟรีย์ล่ะก็ หลุดออกมาง่ายๆ ยาก”

    “แต่ก็มีบางคนนะที่ชอบนอนห้องพยาบาลทั้งที่ไม่จำเป็น” รอนพูดดังๆ พลางบุ้ยใบ้ไปทางกลุ่มนักเรียนสลิธีรินที่มีมัลฟอยรวมอยู่ด้วย เฮอร์ไมโอนี่มองดูเขาแล้วรีบหลบตา มัลฟอยยิ้มพลางทำท่าล้อเลียนแฮร์รี่เช่นเคย

    “ไง พอตเตอร์” เขาตะโกนข้ามมา

    “ผู้คุมวิญญาณรออยู่ที่ห้องอาหารแน่ะ” เสียงหัวเราะดังขึ้น รอนทนไม่ได้ เขาตะโกนตอบ

    “เฮ้ มัลฟอย ฮิปโปกริฟรอนายอยู่ในหอนอนน่ะ” มัลฟอยชะงัก

    “นายยุ่งอะไรด้วย วิสลีย์ ว่าแต่นายขอเศษไม้กวาดของพอตเตอร์มาประกอบเป็นไม้กวาดใช้รึยังล่ะ มันคงยังพอใช้ได้สำหรับนายละมั้ง”

    รอนโกรธจนหน้าแดงเหมือนสีผม เขาเตรียมกระโดดใส่มัลฟอย แต่แฮร์รี่คว้าเสื้อคลุมเขาไว้ทัน มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่แว่บนึงก่อนจะเดินไป แฮร์รี่แปลกใจที่วันนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ถูกมัลฟอยดูถูกเหมือนทุกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติอันนี้ เธอรีบชวนแฮร์รี่

    “ไปทานอาหารกันเถอะ ฉันหิวแล้ว ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อวาน” รอนฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนพูดว่า

    “ดีเหมือนกัน ฉันก็หิวจะแย่อยู่แล้ว”

    วิชาของแฮกริดกลับกลายเป็นวิชาที่น่าเบื่อที่สุด รอนยัดผักกาดเขียวลงไปในปากหนอนฟลอบเบอร์อย่างเบื่อหน่าย

    “ฉันต้องไปที่กระทรวงพรุ่งนี้อ้ะ” แฮกริดบอกแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่

    “พวกเขานัดตัดสินบัคบีควันพรุ่งนี้” เขาพูดอย่างกังวล

    “อาจไม่เป็นอะไรก็ได้นี่ครับ อย่าเพิ่งวิตกไปเลย” แฮร์รี่ปลอบ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเห็นด้วย

    “คุณพูดตามที่หนูบอกนะคะแฮกริด อย่าตกใจจนลืมคำพูดล่ะ” เด็กสาวย้ำ แฮกริดทำสีหน้ายุ่งยากที่สุด

    “ฉันกลัวคนพวกนั้นทำร้ายบัคบีคอ้ะ เฮอร์ไมโอนี่ บัคบีคยังไร้เดียงสาเกินกว่าที่จะไปถูกขังแบบนั้น” เขาพูดเหมือนร้องไห้ รอนคอย่นทำสีหน้าสยอง เมื่อได้ยินแฮกริดพูดราวกับบัคบีคเป็นลูกแมวตัวเล็กๆ จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องถลึงตาดุ

    แม้ระฆังบอกเลิกคาบเรียนจะดังขึ้น แต่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ยังคงนั่งคุยกับแฮกริดอีกพักใหญ่ จนแฮกริดต้องบอกให้เด็กทั้งสามกลับเข้าปราสาทได้แล้ว ทั้งสามคนจึงเดินกลับมาด้วยกันจนถึงห้องนั่งเล่นรวม พวกเขาเห็นเด็กมุงดูอะไรเป็นกลุ่มอยู่

    “อะไรน่ะ” รอนถาม

    “ประกาศวันไปฮอกส์มี้ด” เฟร็ดบอก

    “ที่นั่นเจ๋งมากเลยล่ะ” จอร์จเสริม

    “เราต้องไปร้านซองโก้ หาซื้อระเบิดเหม็นเพิ่มอีกแล้ว” แล้วทั้งคู่ก็หายเข้าไปในห้อง

    “คงไปวางแผนกันอีก” รอนว่า แฮร์รี่หน้าเจื่อนไปเล็กน้อย รอนสังเกตุเห็นเลยรีบแก้ว่า

    “มันก็แค่ร้านขายของพ่อมดธรรมดาแหละแฮร์รี่ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก” แล้วก็เริ่มอธิบาย

    “อย่างร้านซองโก้ก็ขายแค่ของเล่นสุดยอด เอ๊ย..ประหลาดเท่าที่เราอยากให้เป็น หรือร้านฮันนี่ดุกส์ที่มีแต่ขนมหวานเยี่ยมๆ” เฮอร์ไมโอนี่กระทุ้งศอกรอนเบาๆ เขามองหน้าแฮร์รี่ยิ้มแห้งๆ

    “มันไม่มีอะไรจริงๆ นะแฮร์รี่” เขารีบแก้ แฮร์รี่ยิ้ม

    “ช่างเถอะ ไม่เป็นไรหรอกรอน”

    ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจของแฮร์รี่กลับคิดจะลองไปขอศาสตราจารย์มักกอนนากัลดู



    ประกาศกำหนดวันไปฮอกส์มี้ด ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับเด็กๆ บ้านกริฟฟินดอร์ แม้แต่เด็กๆ บ้านสลิธีรินก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เสียงคุยกันดังเซ็งแซ่ บางคนก็นัดหมายที่จะไปด้วยกัน รวมทั้งแพนซี่ พาร์กินสัน เด็กสาวหน้างอที่ตามตื๊อขอไปกับมัลฟอยตั้งแต่บ่าย จนเขารู้สึกรำคาญ

    “ฉันจะไปกับแครบและกอยล์” เขาตัดบท “แล้วอย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก”

    แพนซี่สะบัดหน้าลุกหนีไปรวมกลุ่มกับเพื่อนของเธอ มัลฟอยมองดูอย่างเบื่อหน่าย เขาลุกขึ้น

    “จะไปไหนน่ะ มัลฟอย” แครบถามเสียงง่วงๆ

    “เรื่องของฉัน ไม่ต้องตามมา” เขาตวาดเมื่อเห็นทั้งสองคนทำท่าจะลุกตาม

    มัลฟอยเดินกระแทกเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ออกจากห้อง เขาเดินผ่านช่องประตูหอรูปงูตัวใหญ่ ยัยเลือดสีโคลนนั่นจะไปกับใครกัน เขาคิดแล้วนึกโกรธตัวเอง นี่จะไปคิดถึงเขาทำไมกัน อีกใจหนึ่งค้าน ยัยนั่นต้องไปกับพอตเตอร์และวิสลีย์อยู่แล้วนี่ พอคิดถึงตรงนี้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา พลางเดินกระแทกเท้าอย่างแรง เขาเดินออกนอกปราสาทตรงไปยังทะเลสาบ ถ้าเจอยัยหัวฟูก็ดี เขานึก ยัยนั่นก็ชอบมานั่งเล่นแถวทะเลสาบ แต่อากาศหนาวแบบนี้เธอจะออกมาเรอะ ป่านนี้คงนั่งผิงไฟอุ่นๆ กับเจ้าพอตเตอร์กับเจ้าวิสลีย์อยู่แน่ๆ เขานึกประชด

    เมื่อมาถึงริมทะเลสาบ เขามองไปรอบๆ อย่างผิดหวัง พลางถอนใจหนักๆ นี่เราหวังอะไรกัน เขานึก ยัยนั่นน่ะเป็นศัตรู เป็นพวกเลือดสีโคลนที่เราแสนจะรังเกียจไม่ใช่รึ มัลฟอยสะบัดหน้าแรงๆ เหมือนจะไล่ความคิดสับสนนี้ออกไปจากหัวของเขา แล้วหมุนตัวจะกลับเข้าปราสาท แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงแมวร้องดังมาจากพุ่มไม้อีกด้าน ไม่ไกลจากตรงนั้นนัก

    “อย่าน่าครุกแชงก์” เสียงคุ้นหูดังแว่วออกมา

    “ฉันจะอ่านหนังสือ อย่ามากวนซิ”

    มัลฟอยรู้สึกใจเต้นแรง เขาอยากจะเดินหนีห่างออกไป แต่ดูเหมือนขาของเขาจะไม่ยอมฟังคำสั่ง พอรู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนอยู่ข้างหลังเฮอร์ไมโอนี่แล้ว เธอลูบหัวครุกแชงก์เบาๆ พลางก้มหน้าอ่านหนังสือต่อเงียบๆ มัลฟอยยืนมองเธออย่างลืมตัว ผมฟูฟ่องของเด็กสาวสะบัดพลิ้วตามสายลม อากาศที่หนาวเย็นทำให้แก้มเธอเป็นสีแดงระเรื่อรับกับปากเล็กๆ สีชมพู ครุกแชงก์ครางในลำคอเบาๆ จ้องมัลฟอยเขม็ง แล้วเริ่มขู่ขนตั้งชัน เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย

    “อะไรเหรอ ครุกแชงก์” เมื่อเห็นมัลฟอยยืนอยู่ เธอก็คอแข็งขึ้นมาทันที

    “มีอะไร” เธอถามห้วนๆ มัลฟอยล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม หยิบไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ออกมาแกว่ง เธอมองอย่างตกใจ เมื่อวานนี้เขาเอาไม้กายสิทธิ์ของเธอไป

    “เอาคืนมานะ” เธอพูดเสียงแข็ง มัลฟอยเก็บไม้กายสิทธิ์ไว้ในเสื้อคลุมตามเดิม

    “ไม่” เขาพูดสั้นๆ

    “ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอีกล่ะซิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง มัลฟอยมองเธอแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวหนีทันที

    “ฉันไม่กินเธอหรอกน่า” เขาพูดออกรำคาญ แล้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเหมือนเรียบเรียงคำพูด

    “เธอจะไปฮอกส์มี้ดกับใคร” แล้วเขาก็เสียใจที่ถามคำถามนี้ออกไปทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างงงๆ

    “แล้วมันเรื่องอะไรของนาย” เด็กสาวย้อนถาม

    “ก็แค่อยากรู้ว่าคนอย่างเธอจะมีใครชวน” เขาพูดหยิ่งๆ

    “ถ้าเผื่อไม่มีฉันจะช่วยสงเคราะห์ไปเป็นเพื่อนให้” ถึงตอนนี้ใบหน้าสีซีดเซียวของเขาเริ่มเป็นสีชมพู แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันสังเกตุ

    “ฉันไปกับรอน” เธอพูด เขาทำหน้าแปลกใจ

    “แล้วเจ้าพอตเตอร์ล่ะ ไม่ไปด้วยเรอะ หรือว่ากลัวผู้คุมวิญญาณจนไม่กล้าออกไปไหน” เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยนิ่ง เธอพูดเสียงเข้ม

    “แฮร์รี่ไม่ได้กลัวผู้คุมวิญญาณ เขาแค่ทนพวกมันไม่ได้เท่านั้น”

    มัลฟอยรู้สึกโกรธที่เฮอร์ไมโอนี่ออกรับแทนแฮร์รี่ เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา แล้วโยนลงไปในทะเลสาบ พลางลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว

    “งั้นก็ให้เจ้าพอตเตอร์ของเธอลงไปงมไม้กายสิทธิ์ให้ก็แล้วกัน” เขาพูดจบก็หันหลังเดินกระแทกเท้าเข้าปราสาท ทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่มองออกไปทางทะเลสาบอย่างอึ้ง

    “มัลฟอย” เธอตะโกนออกมาในที่สุด “นายทำแบบนี้ได้ยังไง”

    เธอตะโกนไล่หลังมัลฟอยอย่างโกรธจัด มองหลังของมัลฟอยที่หายเข้าไปในปราสาท เฮอร์ไมโอนี่ดูวุ่นวายใจมาก

    “แล้วจะทำยังไงดีล่ะ คงต้องใช้ไม้กายสิทธิ์อีกด้ามเรียกมันขึ้นมา” แล้วเธอก็กังวลขึ้นมาอีก

    “แล้วจะบอกแฮร์รี่ว่ายังไงดีล่ะ” เธอคิดอย่างอ่อนใจ พลางก้มลงเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า เธอเปิดกรงเล็กๆ เพื่อให้ครุกแชงก์เข้าไป แต่มันมองหน้า ส่งเสียงร้องเป็นเชิงถาม

    “ไม่ได้ เดี๋ยวเธอไปไล่เจ้าสแคบเบอร์ของรอนเขาอีก ต้องเข้ากรง ไม่อย่างนั้นเธอต้องนอนข้างนอก” เธอขู่ ครุกแชงก์ร้องเมี๊ยวอย่างไม่พอใจ ก่อนกระโดดผลุงลงไปในกรงของมัน

    เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินกลับเข้าหอ ตอนแรกเธอตั้งใจจะให้แฮร์รี่ออกไปที่ริมทะเลสาบอีกครั้ง แต่รอนคอยพูดประชดประชันเธอเรื่องครุกแชงก์ตลอดเวลา จนเธอไม่มีโอกาสพูดคุยกับแฮร์รี่ เด็กสาวได้แต่กลัดกลุ้มใจอยู่คนเดียว เธอนั่งมองออกไปยังทะเลสาบอย่างครุ่นคิด จนปาราวตี เพื่อนร่วมห้องนึกสงสัย

    “มีอะไรเหรอ เฮอร์ไมโอนี่ เห็นมองออกไปข้างนอกเรื่อย” เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อย

    “ไม่มีอะไรหรอก ปาราวตี ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ปาราวตียิ้มอย่างมีเลศนัย ถามเบาๆ

    “ไม่ใช่ว่าคิดถึงใครนะ” เฮอร์ไมโอนี่งงเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

    “ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่ะ ฉันง่วงแล้ว ขอตัวนะ” แล้วเธอก็รีบปิดม่านที่เตียงของเธอ เป็นการตัดบทสนทนา

    .........................................................................

    นับเป็นความโชคดีของเฮอร์ไมโอนี่ ที่วิชาที่เรียนทั้งวันนี้ไม่ต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ และเธอเองก็ไม่มีเวลาที่จะบอกเรื่องนี้กับใคร เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบ ประกอบกับแฮกริดส่งข่าวเรื่องการพิจารณาคดีของบัคบีคมาว่า ลูเซียส มัลฟอย พ่อของเดรโก มัลฟอย ได้เข้าไปบังคับคนในคณะตัดสินคดี ทำให้ความหวังที่จะชนะคดีน้อยลง เธอจึงยิ่งหมกมุ่นกับการอ่านหนังสือมากขึ้น จนลืมเรื่องไม้กายสิทธิ์ไป เธอลืมกระทั่งเรื่องวันไปฮอกส์มี้ด จนแฮร์รี่ต้องเตือน

    “เธอลืมได้ยังไงน่ะ เฮอร์ไมโอนี่ มันวันพรุ่งนี้แล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งเหมือนลำดับไล่วัน

    “ตายจริง แฮร์รี่ ฉันลืมไปจริงๆ” แม้เธอจะดีใจที่จะได้พักสมองบ้างในวันไปฮอกส์มี้ด แต่เธอก็รู้สึกเกรงใจแฮร์รี่ เพราะเขาไม่ได้ไป เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตจากผู้ปกครอง

    “แล้วนายขอศาสตราจารย์มักกอนนากัลแล้วรึยัง” รอนถามเบาๆ

    “ถามแล้ว อาจารย์ปฏิเสธ” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

    “ไม่ต้องเสียใจน่าแฮร์รี่” รอนปลอบ

    “พรุ่งนี้ฉันจะซื้อขนมมาฝากกองท่วมตัวเลย” เขาพูดอย่างร่าเริง แฮร์รี่จึงพลอยหัวเราะเบาๆ ไปด้วย

    ………………………………………………………………

    แล้ววันที่เด็กๆ ทุกคนรอคอยก็มาถึง เสียงจ้อกแจ้กดังลั่นไปทั่วปราสาท แฮร์รี่เดินออกมาส่งรอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่สงบสงครามชั่วคราวเพื่อเขาจะได้สบายใจ

    “แล้วเราจะซื้อขนมมาฝาก” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ใช่ ฉันจะเอาลูกอมฟิซซิ่ง วิซปี้มาฝากนายแยะๆ ของเล่นแปลกๆ จากร้านซองโก้ด้วย”

    เขาคงจะบรรยายอีกยาวเหยียด ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่กระแทกศอกใส่ รอนยิ้มแหยๆ แฮร์รี่หัวเราะเบาๆ แม้เขาจะรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ไปกับเพื่อน แต่เขาก็ไม่อยากทำให้เพื่อนรักทั้งสองต้องมากังวลใจกับตัวเขา เด็กทั้งสามเดินออกมาจนถึงประตูปราสาท ฟิลช์ซึ่งคอยตรวจรายชื่อปรี่เข้ามาหา

    “พวกเธอจะไปไหนกัน”

    “ผมมาส่งเพื่อนไปฮอกส์มี้ดครับ” แฮร์รี่รีบบอก ฟิลช์รีบตรวจรายชื่อ เขาคำรามอย่างผิดหวัง เมื่อพบชื่อของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่

    “เธอสองคนไปได้แล้ว” เขาตะคอก “ส่วนเธอกลับเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้”

    “แล้วเจอกันนะ” เฮอร์ไมโอนี่โบกมือให้แฮร์รี่ เขาโบกมือตอบ



    เฮอร์ไมโอนี่เคยนึกภาพฮอกส์มี้ดไว้ว่าคงจะวุ่นวายเหมือนตรอกไดแอกอน เมื่อมาถึงจริงๆ กลับพบว่ามันวุ่นวายกว่ากันมาก โดยเฉพาะร้านขายขนม และร้านขายของเล่น เสียงบรรดาพ่อมดที่บรรยายสรรพคุณสินค้าแข่งกันดังระงม แข่งกับเสียงของเด็กๆ

    รอนพาเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ร้านขนมฮันนี่ดุกส์ เลือกซื้อขนมสีสวยที่ลอยได้อย่างฟิซซิ่ง วิซปี้ หรือ เยลลี่เม็ดทุกรสเบอร์ตี้บอตถังใหญ่ หมากฝรั่งที่เป่าไม่แตก หรือลูกอมไข่มังกรที่อมแล้วพ่นไฟได้ เด็กทั้งสองเลือกซื้อขนมอย่างละชิ้นสองชิ้น จนเต็มกระเป๋าเสื้อคลุม แล้วทั้งคู่ก็ออกไปที่ร้านซองโก้ ที่มีเด็กๆ เบียดเสียดกันแน่นเพื่อแย่งกันดูของเล่นวิเศษ

    “ดูนี่ซิเฮอร์ไมโอนี่” รอนตะโกนอย่างตื่นเต้น

    “หนังสือระเบิดเหมือนจริง” เขาหยิบขึ้นมาดูพลางอ่านวิธีเล่น

    “วางไว้บนโต๊ะเพื่อน พอเปิดอ่านจะระเบิดออกเป็นสัตว์แต่ละชนิด ว้าว! เจ๋งเป็นบ้า” เขาร้อง และดันเด็กคนอื่นเพื่อจะเข้าไปดูของชั้นด้านในอีก เฮอร์ไมโอนี่นิ่วหน้าเมื่อถูกดันไปดันมา

    “ถ้าไม่ซื้ออะไรก็อย่ามายืนเกะกะน่ะ” เด็กในเสื้อคลุมบ้านสลิธีรินคนหนึ่งตะคอกเธอ พลางผลักเธอออกอย่างแรง เฮอร์ไมโอนี่กระเด็นไปกระแทกกับเด็กอีกคน

    “โอ๊ย ระวังหน่อยซิ”

    “ขอโทษ” เฮอร์ไมโอนี่พูดโดยไม่มองหน้า เธอกำลังโกรธที่ถูกผลักแบบนี้

    “มาทำอะไรที่นี่ ยัยหัวฟู” เสียงยานคางคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมอง

    “มัลฟอย”

    แล้วนึกเรื่องที่เขาขว้างไม้กายสิทธ์ของเธอขึ้นมาได้ เธอชักสีหน้าโกรธ ดันตัวเขาออก

    “ไม่ต้องมาทำใกล้ชิดฉันแบบนี้”

    เขาแบะปากอย่างขัดใจ

    “นึกว่าฉันอยากโดนตัวเธอนักรึไง เกรนเจอร์” เขาขยับตัวออก แต่เด็กๆ ที่ตามเข้ามาทีหลัง ดันทั้งสองคนจนเบียดชิดกันเข้าไปอีก เฮอร์ไมโอนี่ถูกดันจนเซจะล้มลง แต่มัลฟอยคว้าไหล่เธอไว้ทัน เขาหันไปมองหน้าเด็กที่ชนเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่พอใจ

    “เราออกไปข้างนอกดีกว่า” เขาพูดเบาๆ

    แม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่เธอเห็นด้วยกับความคิดนี้ ทั้งสองคนค่อยๆ เดินออกจากร้านซองโก้อย่างลำบาก โดยมัลฟอยเดินนำหน้าเฮอร์ไมโอนี่ เขาผลักทุกคนที่เข้ามาใกล้ๆ จนทั้งคู่หลุดออกมาอยู่ข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ถึงรู้สึกตัวว่าถูกมัลฟอยจับมือเธอไว้

    “ปล่อยได้แล้วน่ะ มัลฟอย” เด็กสาวร้องบอก ใบหน้าเป็นสีชมพู พลางดึงมือ แต่มัลฟอยกลับกระชับมือเขาแน่นขึ้น

    “อายรึไงที่มาอยู่กับฉัน” เขาพูดพลางจ้องหน้า “หรือกลัวเจ้าวิสลีย์หัวแดงนั่นมาเห็น”

    “ไม่เกี่ยวกับรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางออกแรงดึงมือขึ้นอีก

    “แล้วนายไม่อายหรือไงที่มาจับมือ ‘สีโคลน’ อย่างฉัน” เธอประชด มัลฟอยทำสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

    “ฉันก็ไม่อยากจะถูกตัวเธอนักหรอก ยัยหัวฟู” เขาล้วงมือลงไปในเสื้อคลุม ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา

    “นั่นไม้ของฉันนี่” เธอร้องพลางจ้องหน้ามัลฟอย

    “ที่เธอเห็นฉันโยนวันนั้นน่ะ มันเศษไม้” เขาพูดขึ้นมาลอยๆ เฮอร์ไมโอนี่เอื้อมมือคว้า แต่เขากลับเก็บมันลงไปในเสื้อคลุมก่อน

    “เอาไม้ของฉันคืนมานะ มัลฟอย” เธอร้องอย่างโกรธๆ มัลฟอยอมยิ้ม

    “วิธีขอของคืนของเธอนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ เกรนเจอร์”

    “วิธีการคืนของของนายก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกัน มัลฟอย คราวนี้จะแลกกับอะไรอีกล่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น จ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง มัลฟอยยักไหล่

    “เที่ยวกับฉัน” เขาพูดสั้นๆ ด้วยใบหน้าสีชมพู ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้งด้วยความงง

    “ว่าไงนะ” เธอพูดเสียงเบาๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง มัลฟอยทำสีหน้ารำคาญ

    “เดินเที่ยวเป็นเพื่อนฉัน ถ้ารังเกียจก็ไม่ต้อง” เขาลงท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พลางปล่อยมือเฮอร์ไมโอนี่แล้วกลับหลังหัน

    “ได้ซิ”

    เขาหันมามองเธอเป็นเชิงถามว่าจริงหรือ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก ใบหน้าสีเข้มขึ้น

    “แต่ต้องเร็วหน่อยนะ เดี๋ยวเพื่อนฉันจะหาฉันไม่เจอ”

    มัลฟอยยิ้มในหน้า เขารู้ว่าเพื่อนของเธอคือรอน และเธอก็เลี่ยงที่จะไม่พูดชื่อนั้นออกมา

    “จะไปไหนก่อนล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “ร้านฮันนี่ดุกส์ก็แล้วกัน ฉันยังไม่ได้ไปดูเลย” มัลฟอยตอบอย่างอารมณ์ดี เขาออกเดินโดยมีเฮอร์ไมโอนี่เดินตามห่างๆ

    “ฉันมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ” มัลฟอยถามอย่างอดรนทนไม่ได้ ยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะตอบอะไร เขาก็คว้าข้อมือเธอมาดึงให้เดินคู่กัน

    “แบบนี้ค่อยเรียกว่าเดินเที่ยวกันหน่อย”

    เมื่อไปถึงร้านฮันนี่ดุกส์ ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาเดินไปหยิบขนมดู 2-3 ชิ้น พลางถามว่า

    “เธอชอบอะไรล่ะ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก เธอไม่กล้าบอกว่า เธอมาซื้อขนมกับรอนแล้ว พอดีกับที่เจ้าของร้านเปิดกล่องขนมที่ดูเหมือนว่าจะมาใหม่ เขาส่งขนมที่มีสีขาวเป็นก้อนกลมเท่าลูกสนิชมาให้เด็กทั้งสองคนละลูก

    “ขนมออกใหม่ครับ” เขาพูดอย่างภูมิใจ

    “มาร์ชเมลโล่ บ็อกการ์ต..ถ้าเราถือไว้ก่อนกินสักพักแล้วนึกถึงสิ่งหรืออะไรก็ได้ที่เราชอบที่สุด มันจะกลายเป็นสิ่งนั้น แต่มันจะคงอยู่ได้ประมาณ 5 นาที ก็จะกลายเป็นก้อนกลมๆ เหมือนเดิม”

    เฮอร์ไมโอนี่มองลูกกลมๆ สีขาวนุ่มนิ่มเหมือนมาร์ชเมลโล่อย่างทึ่งๆ เธอชอบความแปลกของมัน แต่ก็ไม่รู้จะซื้อไปทำไม เพราะในกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอมีขนมเต็มไปหมดแล้วตอนนี้ มัลฟอยส่งขนมคืนให้เจ้าของร้าน

    “อย่างเกรนเจอร์คงเปลี่ยนขนมเป็นห้องสมุดกระมัง” เขาพูดพลางเหลือบสายตาดูเฮอร์ไมโอนี่ เธอรีบวาง หน้าเป็นสีชมพู

    “อย่างนายคงเปลี่ยนมันเป็นหน้ายัยแพนซี่ พาร์กินสันล่ะมั้ง” เธอนึกแปลกใจตัวเองว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น มัลฟอยมองเธออย่างไม่พอใจ

    “ไม่เกี่ยวกับยายนั่นสักหน่อย” เขาพูดกระแทกเสียง พลางหมุนตัวเดินออกจากร้าน เฮอร์ไมโอนี่งงกับท่าทีของเขา เธอรีบเดินตามเขาออกมาจากร้านทันที

    “นายจะรีบไปไหนกันมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้เริ่มก้าวเท้าเร็วขึ้นแทบจะวิ่งแล้วร้องถาม แต่เด็กชายยังเดินนำหน้าไปอย่างเร็ว แล้วอยู่ๆ เขาก็หยุดชะงัก เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งวิ่งตามมาหยุดยืนหอบหายใจ

    “นายจะรีบไปไหนกันน่ะมัลฟอย” เธอมองไปรอบๆ ดูเหมือนทั้งสองจะเดินออกมาไกลจากกลางฮอกส์มี้ดพอควร เพราะรอบๆ ตัวแทบไม่มีร้านค้าเลย มีเพียงบ้านที่ปิดเงียบอยู่สามสี่หลัง มัลฟอยหมุนตัวกลับมาทางเฮอร์ไมโอนี่ เขาส่งไม้กายสิทธิ์ให้เธอโดยไม่พูดอะไร เฮอร์ไมโอนี่มองอย่างงงๆ

    “เอาคืนไปซิ” เขาพูดสั้นๆ

    เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมือออกไปรับไม้กายสิทธิ์ของเธอ แต่มัลฟอยยังไม่ยอมปล่อยมือ เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างสงสัย โดยไม่ทันรู้ตัว มัลฟอยก็รวบร่างเธอเข้ามากอด พลางแนบริมฝีปากขาวซีดของเขากับปากของเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวยืนตัวแข็งอย่างตกใจ เขาถอนริมฝีปากออกมามองหน้าเธอ แต่ยังไม่ยอมปล่อยเธอจากอ้อมแขน

    “เคยคิดขอบใจโดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยปากขอบ้างไหม เกรนเจอร์” เขาพูดเบาๆ พลางคลายวงแขนที่กอดเธอออก เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้ง หน้าเป็นสีชมพูเข้ม

    “แต่ฉันก็ขอบใจเธอที่มาเดินเที่ยวกับฉันวันนี้” เขาพูดต่อด้วยใบหน้าเป็นสีเข้มไม่แพ้เด็กสาว เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ เธอก้มหน้าหลบสายตามัลฟอยด้วยความรู้สึกสับสน

    “กลับเถอะ เดี๋ยวเจ้าวิสลีย์หัวแดงจะหาเธอไม่เจอ” เขาพูดแล้วเดินกลับเข้าไปในฮอกส์มี้ดอย่างเร็ว เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเขามาอย่างเงียบๆ จนถึงร้านซองโก้

    “เธอหายไปไหนมาน่ะ เฮอร์ไมโอนี่” เสียงรอนตะโกนพลางวิ่งออกมาจากร้าน “ฉันหาเธอจนทั่วเลยนะ”

    เฮอร์ไมโอนี่มองหามัลฟอย เขาเดินเข้าไปในร้านรวมอยู่กับกลุ่มเด็กบ้านสลิธีรินแล้ว

    “คนมันแน่น ฉันเบียดสู้ไม่ไหว เลยเดินไปเรื่อยๆ” เธอแก้ตัวกับรอน เขาชูถุงของเล่นแปลกๆ 2-3 อย่างให้เฮอร์ไมโอนี่ดู

    “เธอเลยอดดูเจ้าของร้านสาธิตวิธีเล่นเจ้าพวกนี้เลย” เขาพูดอย่างตื่นเต้น เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางที่เหมือนเด็กๆ ของรอน

    “ไปร้านไม้กวาดสามอันเถอะ ฉันคอแห้งแล้ว” เธอชวน

    .......................................................................................

    แฮร์รี่มองดูกองขนมที่เพื่อนๆ เอามาฝากอย่างทึ่งๆ ไม่นับที่เฟร็ดกับจอร์จเอาขนมหน้าตาแปลกๆ มาฝากเขาอีก แต่เขายังไม่กล้าแตะต้องมันเท่าไหร่

    “ลองกินซิ แฮร์รี่” รอนพูดพลางเริ่มแกะกล่องกบช็อคโกแลต แฮร์รี่มองดูลูกอมที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศอย่างทึ่ง

    “ฟิซซิ่ง วิซปี้ที่ฉันเคยพูดให้ฟังไง” รอนพูดทั้งช็อคโกแลตเต็มปาก พลางส่งหมากฝรั่งสีสดให้แฮร์รี่

    “ลองนี่ซิ” เขาแกะห่อหมากฝรั่งส่งเข้าปากเคี้ยว มีเสียงป๊อบเบาๆ ลูกโป่งสีฟ้าใสลอยนับสิบใบ

    “ว้าว!!”

    แฮร์รี่ร้องอย่างทึ่งอีกครั้ง แล้วเด็กทั้งสามก็สนุกสนานกับการกินขนมที่ซื้อมา จนเพอร์ซี่ซึ่งเป็นพรีเฟ็คของบ้านออกมาเตือน ทั้งสามจึงแยกย้ายกันขึ้นนอนอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอ่านหนังสืออีกรอบก่อนนอน เธอแปลกใจที่เห็นกล่องใบเล็กๆ ตั้งอยู่บนเตียง

    “มีนกฮูกส่งมาให้เธอน่ะ” ลาเวนเดอร์ บราวน์ บอก พลางส่งสายตาอยากรู้ออกมา

    “รู้สึกจะเป็นนกฮูกเหยี่ยวนะ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหน แต่นึกไม่ออก” เธอพูดต่อแต่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่กล่องใบนั้น

    เฮอร์ไมโอนี่แกะกล่องออกดู ข้างในเป็นขนมมาร์ชเมลโล่ บ็อกการ์ต 3 ลูกอยู่ในห่อกระดาษสีสวย เธอรู้ทันทีว่าใครเป็นคนส่งมา ใบหน้าเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูเล็กน้อย เธอเหลือบตาขึ้น เห็นลาเวนเดอร์จ้องอย่างอยากรู้ จึงรีบเก็บกล่องไว้บนหัวเตียง

    “ฉันสั่งเจ้าของร้านฮันนี่ดุกส์ให้ส่งตามมาน่ะ” เธออธิบาย พลางปลดม่านคลุมเตียง

    “ราตรีสวัสดิ์นะ ลาเวนเดอร์”

    เธอรีบพูดแล้วมุดตัวขึ้นไปบนเตียง พลางเอื้อมมือไปหยิบกล่องขนมขึ้นมาดูอีกรอบ แต่ไม่กล้าหยิบขนมขึ้นมาตรงๆ เธอกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น เด็กสาวขมวดคิ้วเม้มปาก พลางถอนใจ วางกล่องขนมไว้หัวนอนตามเดิม

    อีกด้านทางหอนอนสลิธีริน มัลฟอยมองกล่องขนมอย่างชั่งใจ จนแครบมองอย่างแปลกใจ

    “ถ้านายไม่กินล่ะก็นะ มัลฟอย....”

    เขาหันมาถลึงตาใส่แครบ

    “พวกแกจะกินขนมอะไรในห้องนี้ก็ตามใจ แต่อย่ามาแตะต้องขนมในกล่องนี้เป็นอันขาด จำไว้!”

    เขาขู่เสียงดังด้วยใบหน้าเอาเรื่อง จนแครบกับกอยล์หัวหดไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×